Announcement

Collapse
No announcement yet.

ทฤษฎี ดิจิตอล (01) ไม่มีความแตกต่าง ..ด้านเสียง...ชัวร์หรือมั่วนิ่ม

Collapse
X
 
  • Filter
  • Time
  • Show
Clear All
new posts

  • เถียงกันไม่จบอยู่แล้วครับ และยืนยันได้เลยว่าไม่มีข้อสรุปแน่ๆ เพราะเสียงมันเป็นนามธรรมเหลือเกินครับ เพราะถ้าตัดสินกันที่การได้ยิน มันไม่จบหรอกครับ

    ต่อให้เอาคนมาทดสอบซักพันคน มันก็ไม่ได้ข้อสรุป เพราะบางคนบอกว่าต่าง และบางคนบอกว่าไม่ต่าง หรือต่อให้ 900 คน บอกว่าไม่ต่าง มันก็ยังสรุปไม่ได้

    เพราะแต่ละคนมีประสาท การได้ยินที่ไม่เท่ากัน หรือ ให้คนเดียว ฟังเพลงซักพันรอบ มันก็สรุปไม่ได้อยู่ดี เพราะคนที่มาฟัง ประสาทรับรู้ดีพอรึเปล่า หรือฟังมากๆ

    แล้วหูล้าหรือเปล่า (จริงๆ ผมก็ไม่รู้หรอกครับหูล้าเป็นอย่างไร เดาว่าประสาทในการได้ยินคงผิดเพี้ยนไป แต่น่าจะเกี่ยวกับสมองมากกว่าหูนะ) เพราะฉะนั้นผมว่า

    มันเป็นปัญหาโลกแตก ที่จะหาคำตอบเรื่องนี้ โดยตัดสินจากการได้ยิน เพราะเหมือนกับว่าการทดลองนี้มีตัวแปรที่เราควบคุมไม่ได้ นั่นก็คือการได้ยินของคนนั่นเอง

    แต่ถ้าเรื่องภาพนี่ผมว่าดีขึ้นมาหน่อย จริงๆ บริษัทผู้ผลิตหลายรายเค้าก็ออกมายอมรับแล้วว่า สายแพงๆ ที่เค้าขายนั้นไม่ได้ส่งผลต่อภาพแต่อย่างไร

    ยกมาบางประโยคคงไม่ว่ากัน higher bandwidth has no effect on audio or video performance ... but it?s not criminal for others to believe differently

    จริงๆ ประโยคนี้จะเป็นจริงก็เฉพาะสภาวะการใช้งานทั่วๆไป แต่ถ้าสภาวะแย่จริงๆ สายแพงๆ มันมีผลแน่ๆครับ นี่ผู้ผลิตเค้าพูดอย่างนี้แล้วเราๆ ท่านๆ หละครับคิดยังไง

    ปล. จริงๆ ผมก็ซื้อสายสัญญาณเป็นพันใช้เหมือนกันครับ แต่สำหรับผมมันมีคุณค่าทางจิตใจ ความสวยงาม ความคงทน เอาไว้คุยกับเพื่อนๆได้ อื่นๆ เพราะผมเคยลองดูผมก็ฟังไม่ออกครับ

    Comment


    • Originally posted by attapony View Post
      เถียงกันไม่จบอยู่แล้วครับ และยืนยันได้เลยว่าไม่มีข้อสรุปแน่ๆ เพราะเสียงมันเป็นนามธรรมเหลือเกินครับ เพราะถ้าตัดสินกันที่การได้ยิน มันไม่จบหรอกครับ

      ต่อให้เอาคนมาทดสอบซักพันคน มันก็ไม่ได้ข้อสรุป เพราะบางคนบอกว่าต่าง และบางคนบอกว่าไม่ต่าง หรือต่อให้ 900 คน บอกว่าไม่ต่าง มันก็ยังสรุปไม่ได้

      เพราะแต่ละคนมีประสาท การได้ยินที่ไม่เท่ากัน หรือ ให้คนเดียว ฟังเพลงซักพันรอบ มันก็สรุปไม่ได้อยู่ดี เพราะคนที่มาฟัง ประสาทรับรู้ดีพอรึเปล่า หรือฟังมากๆ

      แล้วหูล้าหรือเปล่า (จริงๆ ผมก็ไม่รู้หรอกครับหูล้าเป็นอย่างไร เดาว่าประสาทในการได้ยินคงผิดเพี้ยนไป แต่น่าจะเกี่ยวกับสมองมากกว่าหูนะ) เพราะฉะนั้นผมว่า

      มันเป็นปัญหาโลกแตก ที่จะหาคำตอบเรื่องนี้ โดยตัดสินจากการได้ยิน เพราะเหมือนกับว่าการทดลองนี้มีตัวแปรที่เราควบคุมไม่ได้ นั่นก็คือการได้ยินของคนนั่นเอง

      แต่ถ้าเรื่องภาพนี่ผมว่าดีขึ้นมาหน่อย จริงๆ บริษัทผู้ผลิตหลายรายเค้าก็ออกมายอมรับแล้วว่า สายแพงๆ ที่เค้าขายนั้นไม่ได้ส่งผลต่อภาพแต่อย่างไร

      ยกมาบางประโยคคงไม่ว่ากัน higher bandwidth has no effect on audio or video performance ... but it?s not criminal for others to believe differently

      จริงๆ ประโยคนี้จะเป็นจริงก็เฉพาะสภาวะการใช้งานทั่วๆไป แต่ถ้าสภาวะแย่จริงๆ สายแพงๆ มันมีผลแน่ๆครับ นี่ผู้ผลิตเค้าพูดอย่างนี้แล้วเราๆ ท่านๆ หละครับคิดยังไง

      ปล. จริงๆ ผมก็ซื้อสายสัญญาณเป็นพันใช้เหมือนกันครับ แต่สำหรับผมมันมีคุณค่าทางจิตใจ ความสวยงาม ความคงทน เอาไว้คุยกับเพื่อนๆได้ อื่นๆ เพราะผมเคยลองดูผมก็ฟังไม่ออกครับ
      ผมว่าทดสอบได้คับ ให้คนที่คิดว่าฟังออกมานั่งฟัง blind test ดูโดยไม่ให้รู้ว่าตอนที่ฟังนั้นใช้สายอะไรอยู่ ฟังแล้วให้ตอบว่าที่ฟังนี่เป็นสายแพงหรือสายแถม แล้วก็สลับสายแพงกับสายแถมไปมาฟังแล้วถามใหม่อีกรอบซัก 10 รอบถ้าตอบถูกหมดก็น่าจะสรุปได้แล้วล่ะคับ (แต่ถ้าตอบถูกน้อยกว่าครึ่งก็สรุปได้เหมือนกัน -"-)

      Comment


      • Originally posted by ssk View Post
        ถ้าเรากลับสายถ้าไม่มีการต่อแก้ไฟมันจะลงกราวน์ดก็จะช๊อตอุปกรณ์เสียหายได้ เพราะในเครื่องอีกตัวนึงมันก็มีกราวน์ดนะครับ และกราวนด์ในโลกนี้มันต่อถึงกัน ไม่เว้นแม้แต่แบตเตอรี่ เพราะมันมีศักด์ไฟลบรออยู่แล้วมากบ้างน้อยบ้างตามระดับความจุ พวกชิปรับส่งสัญญาณมันจะต่อแก้ไว้แล้วครับ DIODE ใน IC มันนิดเดียวเองใส่ไว้ก็ไม่กระเทือนต้นทุนหรอกครับ แต่ถ้าไม่ใส่อาจถึงต้องปิดบริษัทเลยก็ได้ ถ้าไฟไม่เกินค่าปรกติของมันๆจะ BYPASS ไป ถ้าเกินก็ใหม้แค่นั้นเอง ไม่เชื่อก็ต่อสายชนกันเองก็ได้ มันก็เหมือนสับสายนั่นแหละ เดี๋ยวก็รู้ว่าจะต้องเสียอะไรไปบ้าง SPDIF การส่งข้อมูลทางเดียวแก้ง่ายเพราะสัญญาณเป็น+เทียบ 0 ส่วน BIPAHSE MARK มันทำงานสัมพันธ์กับค่า CLOCK และ ความยาวชุดข้อมูล เพื่อแก้ปัญหาสัญญาณหายและความถี่แตกต่างของอุปกรณ์ มันจึงทำให้อุปกรณ์ต่างชนิดทำงานร่วมกันได้และข้อมูลไม่สูญหาย
        ส่วนเรื่องอัตราความเร็วในการส่งข้อมูลนั้นสายที่ดีมีความต้านทานน้อยมันจะส่งข้อมูลได้มากเพราะยิ่งส่งข้อมูลมากๆความถี่มันจะสุูง มันต้องลดไฟ +VCC หรือ AMPLITUDE ลงไม่งั้นมันจะต้องใช้พลังงานสูงขึ้นอุปกรณ์อาจทนไม่ใหว ถ้าสายความต้านทานสูงมันจะ DROP ลงจน MISS ตามกฏแรงดันตกคร่อมของ OHM ครับ ง่ายๆ ส่วนความเร็วสัญญาณนั้นเท่ากันหมดครับคือเกือบๆเท่าแสงอยู่แล้วไม่ว่าจะสายอะไรบนตัวกลางใหนๆ ทองแดง หรือเงิน ทั้งหมดมีเท่านี้

        ส่วนอื่นๆคือความรู้สึกของแต่ละท่านว่าชอบหรือไม่ขอบเป็นเรื่องส่วนบุคคลล้วนๆ แต่ถ้าภาคอณาล็อคนี่ผมใช้สายดีๆเท่าที่พอซื้อหาใหวเลยล่ะเพราะเปลี่ยนสายโลกก็เปลี่ยน บางทีต่อชีลลงดินถ้าทำได้ ส่วน DIGITAL นี่สายอะไรก็ได้ เพราะจากงานผม ส่งข้อมูลไกลๆนับร้อยๆเมตรบนสาย LAN ผ่าน HUB 3-4 ตัว ในสภาพอุดมฝุ่น ร้อน ชื้น ไกล้สายไฟแรงๆ มันก็ตรงเป๊ะ ไม่ตรงตกงานนานแล้ว
        เห็นด้วยคับสายโทรศัพท์บ้านผม10กว่าปีไม่เคยเปลี่ยนมีตัดต่อเทปพันสายไฟสั่วๆไว้ด้วยคับยังเปิดเว็บโหลดบิดได้ไม่เพิ้ยนเลยคับโลโก้OVZก็ไม่เบี้ยวด้วย

        Originally posted by attapony View Post
        เถียงกันไม่จบอยู่แล้วครับ และยืนยันได้เลยว่าไม่มีข้อสรุปแน่ๆ เพราะเสียงมันเป็นนามธรรมเหลือเกินครับ เพราะถ้าตัดสินกันที่การได้ยิน มันไม่จบหรอกครับ

        ต่อให้เอาคนมาทดสอบซักพันคน มันก็ไม่ได้ข้อสรุป เพราะบางคนบอกว่าต่าง และบางคนบอกว่าไม่ต่าง หรือต่อให้ 900 คน บอกว่าไม่ต่าง มันก็ยังสรุปไม่ได้

        เพราะแต่ละคนมีประสาท การได้ยินที่ไม่เท่ากัน หรือ ให้คนเดียว ฟังเพลงซักพันรอบ มันก็สรุปไม่ได้อยู่ดี เพราะคนที่มาฟัง ประสาทรับรู้ดีพอรึเปล่า หรือฟังมากๆ

        แล้วหูล้าหรือเปล่า (จริงๆ ผมก็ไม่รู้หรอกครับหูล้าเป็นอย่างไร เดาว่าประสาทในการได้ยินคงผิดเพี้ยนไป แต่น่าจะเกี่ยวกับสมองมากกว่าหูนะ) เพราะฉะนั้นผมว่า

        มันเป็นปัญหาโลกแตก ที่จะหาคำตอบเรื่องนี้ โดยตัดสินจากการได้ยิน เพราะเหมือนกับว่าการทดลองนี้มีตัวแปรที่เราควบคุมไม่ได้ นั่นก็คือการได้ยินของคนนั่นเอง

        แต่ถ้าเรื่องภาพนี่ผมว่าดีขึ้นมาหน่อย จริงๆ บริษัทผู้ผลิตหลายรายเค้าก็ออกมายอมรับแล้วว่า สายแพงๆ ที่เค้าขายนั้นไม่ได้ส่งผลต่อภาพแต่อย่างไร

        ยกมาบางประโยคคงไม่ว่ากัน higher bandwidth has no effect on audio or video performance ... but it?s not criminal for others to believe differently

        จริงๆ ประโยคนี้จะเป็นจริงก็เฉพาะสภาวะการใช้งานทั่วๆไป แต่ถ้าสภาวะแย่จริงๆ สายแพงๆ มันมีผลแน่ๆครับ นี่ผู้ผลิตเค้าพูดอย่างนี้แล้วเราๆ ท่านๆ หละครับคิดยังไง

        ปล. จริงๆ ผมก็ซื้อสายสัญญาณเป็นพันใช้เหมือนกันครับ แต่สำหรับผมมันมีคุณค่าทางจิตใจ ความสวยงาม ความคงทน เอาไว้คุยกับเพื่อนๆได้ อื่นๆ เพราะผมเคยลองดูผมก็ฟังไม่ออกครับ
        เค้าว่ากันว่าให้เอาไอน์สไตน์มายืนยัน กลุ่มที่เค้าไม่เชื่อก็ไม่เชื่ออยู่ดีคับ ภาษาอะไรกับผู้ผลิตยืนยันคับ ไม่เชื่อผู้ผลิต หูผู้ผลิตไม่ใช่หูคนที่ไม่เชื่อ

        Originally posted by Catwater View Post
        ผมว่าทดสอบได้คับ ให้คนที่คิดว่าฟังออกมานั่งฟัง blind test ดูโดยไม่ให้รู้ว่าตอนที่ฟังนั้นใช้สายอะไรอยู่ ฟังแล้วให้ตอบว่าที่ฟังนี่เป็นสายแพงหรือสายแถม แล้วก็สลับสายแพงกับสายแถมไปมาฟังแล้วถามใหม่อีกรอบซัก 10 รอบถ้าตอบถูกหมดก็น่าจะสรุปได้แล้วล่ะคับ (แต่ถ้าตอบถูกน้อยกว่าครึ่งก็สรุปได้เหมือนกัน -"-)
        ปัจจุบันไม่มีหูเทพหูทองคนไหนกล้าBlindtestหลอกคับ ขนาดสายลำโพงที่ว่าต่างกันแน่นอน กลุ่มหูเทพหูทองยังยืนยันว่าไม้แขวนเสื้อก็เทพไม่แพ้สายMonsterเลยคับ

        Comment


        • นึกทะลึ่งมาได้ ถ้าสมมติมีคนส่งเมลไปถามที่ mark levinson / linn
          พวกนี้วิศวะกรเข้าจะตอบให้เรากันหรือเปล่า ???
          เค้าตอบครับเพื่อนเคยเมลล์ไปถาม

          ส่งข้อมูลไกลๆนับร้อยๆเมตรบนสาย LAN ผ่าน HUB 3-4 ตัว ในสภาพอุดมฝุ่น ร้อน ชื้น ไกล้สายไฟแรงๆ มันก็ตรงเป๊ะ ไม่ตรงตกงานนานแล้ว
          ผมเคยเห็น switch ของ cisco จับ error ได้นะครับ

          Comment


          • Originally posted by aprillavin View Post
            ปัจจุบันไม่มีหูเทพหูทองคนไหนกล้าBlindtestหลอกคับ ขนาดสายลำโพงที่ว่าต่างกันแน่นอน กลุ่มหูเทพหูทองยังยืนยันว่าไม้แขวนเสื้อก็เทพไม่แพ้สายMonsterเลยคับ
            คุณอย่าไปท้าให้เขาไปฟังในร้านหรือใช้ชุดอะไรที่เขาไม่คุ้นสิคับ โจทย์คือต่างหรือไม่ต่างถ้าต่างแล้วมีคนฟังออกก็ใช้ชุดที่เขาใช้ทุกวันที่เขาฟังออกนั่นแหล่ะลองทดสอบดูน่ะคับ...

            Comment


            • Originally posted by Catwater View Post
              สายอื่นไม่รู้รู้แต่สาย coax อมรเส้น 200 บาทกับสาย supra trico เส้นพ้นกว่าๆอายุ 10 ปีเสียงต่างกันแน่นอน system 3x,xxx ฟังออกชัดเจนคับ ตอนแรกผมก็เชื่อทฤษฏีดิจิตอลเนี่ยแหล่ะเลยซื้อ coax อมรมาใช้แต่เสียงไม่เอาอ่าวอย่างแรงเลยหาเส้นดีๆหน่อยในเวปนี้มาลองพอดีเจอคนขาย supra trico โทรมๆอายุซัก 10 ปีราคาไม่แพงมากเลยซื้อมาลองปรากฏว่าเสียง***งกันฟ้ากับเหวเป็นอันว่าทฤษฏีดิจิตอลของผมพังทลาย5555 แต่ไม่เคยลองกับ AVR นะคับถ้าลองกับ AVR เสียงอาจจะไม่ต่างก็ได้เพราะเป็นที่ยอมรับกันว่า AVR ทั่วไปห่วยกว่าชุดฟังเพลง... ^0^
              ถ้าลองกับ AVR ผลที่ได้ไม่น่าจะแตกต่างเท่าไรครับ เพราะว่ามันเป็น Bitperfect สายจะมีผลมากกว่า
              ในการส่งสัญญาณ ถ้าเปลี่ยนสาย coax จะมีผลมากกว่าเปลี่ยนแหล่งส่งครับ เหมือนที่คุณบอกว่าเสียงมันดีขึ้นแหละครับ เพราะปกติ Coax ฟังเพลงดีกว่า Optic อยู่แล้วครับ ดังนั้นต่อให้แหล่งส่งสัญญาณ
              เทพแค่ไหนสุดท้ายมันก็ไปถอดที่ AVR ครับ Omega Claro Halro + BB2107AP ส่งไป AVR แบบ
              Optic ยังสู้ Onboard ส่ง Coax ไม่ได้ Confirm ครับ แต่ถ้าเอามาต่อกับ amp ธรรมดาแล้วหละก็
              Omega Claro ดีกว่าแบบเห็นได้ชัดครับ

              Comment


              • เท่าที่ผมอ่านมานะครับ พวกมั่วนิ่มไม่รู้หลักการอะไร ใช้แต่หลักกูมาตอบ บางทีก็ชอบแถ
                ในนี้มีเยอะครับ บางทีคนตอบเขาเอาหลักการและเหตุผล และสิ่งที่เกิดขึ้นจริงมายันยังไง
                ผมมั่นใจว่า การส่งข้อมูลแบบ Passthrough Digital เรื่องนี้มีคำตอบแน่นอนครับ
                เพราะว่ามันเป็นทฤษฏีอย่างหนึ่งครับ มันต้องจบแน่นอนครับ ถ้าคนที่อย่างรู้ยอมที่จะรับรู้ตาม
                ที่ผมตอบเขาตอบมา ไม่ใช่กรูอยากจะคิดแบบนี้ก็ตอบแบบนี้ ไม่มีทางจบแน่นอนครับ เหอ ๆ
                ไม่งัั้นคงไม่ดราม่าขนาดนี้หรอก
                ผมเองก็เคยมั่วเหมือนกันยอมรับครับ แต่นั่นมาจากการลองผิด
                ลองถูกครับ พอมีคนเขาแย้งมาผมก็ลองไปทำตามที่เขาแนะนำ

                Comment


                • บอกตั้งแต่ความเห็นแรกแล้วว่าผมนี่หละ ผู้ผลิต
                  แล้วก็สอนมหาลัยวิชา Physical chemistry มาหลายปี แต่ไม่ยักมีใครเชื่อ

                  พอๆกับ เอา C กับ R ไปเปลี่ยนที่ร้านแล้วโดนช่างไฟบอกว่ามันก็เหมือนกันนั่นละ เปลี่ยนทำไม
                  ผมทำมา 10 กว่าปีแล้วผมรู้ ผมเก่ง อารมณ์ก็ระมาณนั้น

                  ขอเถอะครับ ถ้าไม่คิดจะรับฟังความเห็นกันก็ปิดกระทู้นี้ได้แล้ว

                  คุณเสือ ถ้าเห็นแก่หน้าผมช่วยแจ้งลบกระทู้นี้ด้วยครับ เพราะมันเริ่มไร้สาระแล้ว มีแต่อีโก้ เห็นแล้วเซ็งครับ

                  Comment


                  • .........ความจริง...มีหลายสิ่ง...........

                    .........สัจจะธรรม...มีสิ่งเดียว..........

                    Comment


                    • Originally posted by attapony
                      แต่ถ้าเรื่องภาพนี่ผมว่าดีขึ้นมาหน่อย จริงๆ บริษัทผู้ผลิตหลายรายเค้าก็ออกมายอมรับแล้วว่า สายแพงๆ ที่เค้าขายนั้นไม่ได้ส่งผลต่อภาพแต่อย่างไร

                      ยกมาบางประโยคคงไม่ว่ากัน higher bandwidth has no effect on audio or video performance ... but it?s not criminal for others to believe differently

                      จริงๆ ประโยคนี้จะเป็นจริงก็เฉพาะสภาวะการใช้งานทั่วๆไป แต่ถ้าสภาวะแย่จริงๆ สายแพงๆ มันมีผลแน่ๆครับ นี่ผู้ผลิตเค้าพูดอย่างนี้แล้วเราๆ ท่านๆ หละครับคิดยังไง

                      ปล. จริงๆ ผมก็ซื้อสายสัญญาณเป็นพันใช้เหมือนกันครับ แต่สำหรับผมมันมีคุณค่าทางจิตใจ ความสวยงาม ความคงทน เอาไว้คุยกับเพื่อนๆได้ อื่นๆ เพราะผมเคยลองดูผมก็ฟังไม่ออกครับ
                      ขอบคุณครับ ที่มาเล่าให้เพื่อนๆฟังว่า เคยลองแล้ว แต่ไม่พบความแตกต่าง

                      แลกเปลี่ยนมุมมอง แลกเปลี่ยนทัศนคติ กันน่ะครับ

                      higher bandwidth has no effect on audio or video performance ... but it?s not criminal for others to believe differently

                      ประโยคตัวอย่างที่ยกมาให้ดู ดูแล้วน่าจะสื่อได้หลายความหมาย ผมลองแปลมั่วๆงูๆปลาๆ ไม่รู้ว่าผิดหรือถูกเหมือนกัน
                      ( ถ้ามีไรคลาดเคลื่อนก็ช่วยแนะนำด้วยน่ะครับ และ จริงๆแล้วการยกประโยคคำตอบมานั้น ควรยกประโยคคำถามด้วย เพราะ ข้อมูลมันจะสัมพันธ์กัน )

                      ถ้าคุณเอาสายที่โอเว่อสเปคมีแบนวิดธ์20กิ๊ก/วินาที มาต่อกับระบบที่รับส่งข้อมูลด้วยแบนวิดธ์5กิ๊ก/วินาที คุณจะไม่พบความแตกต่างในเรื่องแบนวิดธ์การรับส่งข้อมูล

                      ( คุณเอาแฟลชไดรฟ์USB1.1ไปเสียบที่ช่องUSB2.0 แบนวิดธ์สูงสุดก็ยังได้เท่ากับUSB1.1เท่านั้น )


                      ประโยคคำถามที่น่าจะตรงประเด็นจริงๆ ควรถามว่า
                      " สายยี่ห้อที่คุณผลิตขาย ต่างจากสายแถมหรือเปล่า สีต่างกันหรือเปล่า เสียงต่างกันหรือเปล่า "
                      ผมก็รู้สึกแปลกใจเหมือนกัน ในเมื่อคนถามมีเจตนาอยากรู้ในจุดนี้อยู่แล้ว ทำไมไม่ถามไปตรงๆ



                      -----------------------------------------------


                      Originally posted by aprillavin
                      ปัจจุบันไม่มีหูเทพหูทองคนไหนกล้าBlindtestหลอกคับ ขนาดสายลำโพงที่ว่าต่างกันแน่นอน กลุ่มหูเทพหูทองยังยืนยันว่าไม้แขวนเสื้อก็เทพไม่แพ้สายMonsterเลยคับ
                      Blindtest ใช้สำหรับทดสอบตัวเอง เพื่อให้แน่ใจมากขึ้น

                      ดูจากประโยคและข้อความที่คุณพูดเรื่องBlindtest
                      ดูแล้วเหมือนคุณเจตนาใช้Blindtestเป็นเครื่องมือเพื่อตัดสินแพ้ชนะ
                      ถ้าทำได้ เออ...เอ็งเก่ง / ถ้าทำไม่ได้ เออ...เอ็งโม้
                      มีแค่นี้เอง

                      อ่านเวปที่มีเรื่องท้าทายBlindtestกัน ก็เห็นแต่มีลักษณะแบบนี้ตลอด
                      ไม่เคยเห้นการใช้Blindtestเพื่อให้เกิดประโยชน์, เพื่อให้เกิดความรู้ในมุมมองใหม่มากขึ้น, เพื่อให้ผู้ร่วมBlindtestทั้ง2ฝ่ายเกิดการพัฒนาตัวเองมากขึ้น


                      ผมยังไม่เคยเห็นว่าใช้Blindtestเพื่อสร้างแรงกระตุ้นแรงจูงใจ ให้อีกฝ่ายยอมรับอะไรที่ต่างจากเดิมได้เลย
                      ส่วนใหญ่เมื่ออ่านกระทู้Blindtestพวกนี้จบแล้ว ผมจะอดหัวเราะไม่ได้ จะอดรู้สึกขบขันไม่ได้


                      เห็นคุณสนใจเรื่องBlindtest คุณลองเปลี่ยนใหม่มุมมองใหม่ เปิดใจใหม่สิครับ

                      คุณลองเล่นสนุกแบบนี้ก็ได้ ลองใช้เนื้อหาจากประเด็นในกระทู้นี้ก็ได้
                      1. CD-RW Drive, DVD-RW Drive ที่มีช่องDIGITAL OUT + ซัพพลายคอมแบบของแถมติดเคส
                      2. CD PlayerแบบTransport งบไม่อั้น พวกนี้มีช่องDIGITAL OUT
                      - ใช้ DAC External + ซิสเตมฟังเพลง
                      - สถานที่ทดสอบก็เป็นบ้านคนฟังหรือที่ที่เค้าคิดว่า จะช่วยให้รับรู้ความแตกต่างได้ง่ายสำหรับเค้า
                      อุปกรณ์นอกนั้นจะเป็นไรก็ไม่ต้องไปสนใจ คนฟังจะมีเครื่องมีของไสยศาสตร์อะไร ก็ไม่ต้องไปสนใจ เพราะไม่เกี่ยวกับประเด็นนี้



                      เงื่อนไขก็ไม่มีไรมาก
                      ถ้าคนฟังทำได้
                      ทดสอบ10ครั้ง ถ้าคนฟังสามารถบอกได้ว่า ต่อกับเครื่อง#1หรือ#2 ได้เกิน7ครั้ง
                      ตัวคุณจะมีหน้าที่3อย่างก็พอ
                      - เมื่อคนฟังสามารถบอกความแตกต่างได้ "ตัวคุณยอมรับว่ามีความแตกต่างเกิดขึ้นจริง" ไม่ใช่เป็นเพราะเรื่องคนฟังเก่ง
                      - คุณเป็นคนไปหาคำตอบมาว่า อะไรคือสาเหตุที่ทำให้เกิดความแตกต่างมาเล่าสู่กันฟัง โดยคุณใช้เวลาไม่เกิน1เดือน
                      - คุณจะเป็นคนไปโพสข้อมูลเรื่องความแตกต่างที่คุณไปค้นคว้ามา ในเวปหลักๆสัก5เวปก็พอ
                      " แต่ปัญหามันอยู่ที่ว่า ถ้าครบ1เดือนแล้ว คุณหาคำตอบไม่ได้ละ คุณจะทำยังงัย "

                      ถ้าคนฟังทำไม่ได้
                      ผมเชื่อว่า ยังงัยคุณก็เหยียบเค้าจมดิน เหมือนที่คุณโพสไว้ข้างบนอยู่แล้ว


                      ถ้าเงื่อนไข คือ คุณสามารถหาข้อสรุปได้จริง ผมว่ามีคนสนใจน่ะ




                      editเพิ่ม
                      เท่าที่เห็นมาหลายกระทู้ รวมทั้งกระทู้นี้ก็มีคนชื่นชอบพูดถึงผลการการBlindtestหลายคน
                      จะลงชื่อร่วมกับคุณaprillavinก็ดีเหมือนกัน มีหลายๆคนคุณaprillavinจะได้ไม่เหงา
                      เพราะเท่าที่อ่านๆดู ก็เห็นเชื่อกันว่า ยังงัยคนฟังก็ไม่ผ่านอยู่แล้ว

                      หรือในมุมกลับกัน คุณaprillavinจะได้มีเพื่อนช่วยกันหาข้อมูล จะได้เสร็จก่อน1เดือน จะได้มีเพื่อนร่วมโพลงลงเวป


                      ข้อความจากอีกกระทู้นึง ที่เป็นต้นเรื่องของกระทู้นี้ แล้วบังเอิญผมก็อปมาโพสในกระทู้นี้ ที่หน้าแรกด้วย
                      HTPC ดูหนัง ต่อเข้า YAMAHA RX-V2067 หน้า1 โพส#18
                      Originally posted by veza
                      แล้วประสาทสัมผัส ของมนุษย์ ผมว่าห่วยแตกที่สุดแล้วครับ อย่าให้ได้มี bllind test เกิดขึ้นครับ หน้าหงายหน้าแหกกันมา ไม่รู้ต่อกี่รอบครับ
                      Last edited by keang; 5 Apr 2011, 11:24:59.

                      Comment


                      • กระทู้ตรงใจจริงๆ กำลังสงสัยเหมือนกันครับ
                        Last edited by saensak; 5 Apr 2011, 14:19:20. Reason: แก้ไขข้อความ เลขท้าย 2 ตัว 01 ครับ ฮาไม่เข้าบรรยากาศครับ

                        Comment


                        • เรื่องนี้ผมสรุปให้ตั้งแต่ความเห็นแรกๆแล้วล่ะครับ ว่ามันต่างกันที่
                          1. ความสมบุณณ์ของอุปกรณ์
                          2. คือการปรุงแต่งก่อนส่งเป็น DIGITAL ของอุปกรณ์
                          และเรื่องนี้มันมีภาค ANALOG เป็น OUTPUT ซึ่งมันไม่เที่ยง มันเปลี่ยนได้ตลอดเวลา เหมือนที่ท่านบอกว่าเปลี่ยน R-C แล้วแตกต่างนั้นถูกต้อง เพราะแม้แต่ไม่เปลี่ยน มันก็เพี้ยนนิดหน่อยตลอดเวลา
                          เปิดนาน ร้อน อายุ วัสดุ ค่าความผิดเพี้ยนของตัวมันเอง สภาพแวดล้อมภายนอก ชื้น ฝุ่น มันก็ทำให้เพี้ยนจนรู้สึกได้ ในงานของผม สายยาวจาก DA 3 เมตร แต่วัดค่าได้เพี้ยน 5% ก็มี ( งานเข้า ) ซึ่งถ้าผมเลือกได้ผมขอ OPTICAL แบบมี LOOPBACK แบบที่ใช้กับระบบส่ง INTERNETดีกว่า สายทองแดงกวนง่าย
                          การใช้คนวัดเป็นเรื่องไม่เที่่ยง คือต่างคนต่างกะกันไป และมันเกี่ยวกับความชอบไม่ชอบ คนล้านคนก็ชอบไม่เหมือนกันเถียงกันจนโลกแตกแหละ
                          เรื่องเครื่องเสียงมันเป็นเรื่องของภาค ANALOG และ DIGITAL รวมกัน ที่เราเถียงกันนี่เพราะเราเอาความรู้สึกจากภาคอนาลอคไปใช้กับเรื่อง DIGITAL หรือเปล่านั่นคือสิ่งที่เราต้องถามกันมากกว่า
                          เพราะ OUTPUT คือ AMP และ โดยเฉพาะลำโพงเสียงดีๆมันต้อง ANALOG และจะเป็นยังงี้ไปจนมนุษย์คนสุดท้ายละครับ ในขณะที่สือมันจะเป็น DiGITAL ต่อไปเรื่อยๆ
                          เพราะตัวเสียงที่เราฟังมันเป็นเรื่องสัมพันธ์กับเวลาจริงและเป็นการส่งต่อเนื่อง DIGITAL ทำไม่ได้ แต่ข้อมูลมันเป็น DIGITAL ที่เที่ยงตรงเสมอไม่ว่าจะเมื่อไร ซึ่ง ANALOG ทำไม่ได้เพราะทุกครั้งที่เราเล่นแผ่นมันจะสึกหรอและเพี้ยนไปทีละนิดๆ ไม่งั้นเราคงไม่โยนแผ่นที่สะดุดจนฟังไม่ได้ลงถังขยะกันหรอกจริงมั้ย
                          แค่ผมหักล้างความเชื่อผิดๆเรื่อง JITER และ อื่นๆว่าการส่ง DIGITAL เที่ยงตรงถ้าอุปกรณ์ทำงานได้ถูกต้อง ถ้าผิดก็บอกให้ส่งใหม่ ไม่สัมพันธ์กับเวลา
                          คือเราส่งข้อมูลเพลงทั้งเพลงไปรอประมวลผลเลยก็ได้ถ้า BUFFER มันพอ และสายมันส่งข้อมูลได้เพียงพอ แต่เสียงมันต้องส่งสัมพันธ์กับเวลาไม่งั้นเราคงฟังนักร้องร้องเสียงหนูหริ่งกันจนเคยแล้วล่ะ
                          และอยากจะบอกว่า DIGITAL ไม่ได้เกิดมาเพื่อความอบอุ่นหรือเวทีกว้างกว่าทั้งที่เป็นไฟล์เดียวกัน นั่นมันเรื่องของ AMP และลำโพง
                          แต่มันเกิดมาเพื่อลบเสียงรบกวนและข้อผิดพลาดจากอุปกรณ์ส่งข้อมูล และ เที่ยงตรงท้ากาลเวลา จากนี้อีก 10000 ปีหากไฟล์นี้มันยังอยู่ และเราอ่านข้อมูลได้ครบถ้วน และถอดรหัสอย่างถูกต้อง เราก็ยังได้ฟังเพลง A WHITER SHADE OF PALE ของ PROCUL HARUM เหมือนเดิม

                          ผมอยากบอกว่าคุณรู้มั้ยว่าเมื่อเราฟัง CD บนอุปกณณ์ที่เราฟังทุกวัน มันไม่ตรงเป๊ะ 100% นะ เพราะการ SAMPLING คือการเทียบค่า GRAPH เสียง ซึ่งมันจะเพีัยนนิดๆ หน่อย ประมาณ 1 ใน 40000 ตามการสุ่ม ยิ่งไฟล์ละเอียดการเทียบกราฟก็ยิ่งไกล้เคียง ANALOG เพราะย่านที่ต้องประมาณมันแคบลง เหมือนเอากระดูกงูทาบแล้วชีดเส้น ว่าแต่มีไครฟังมันออกบ้างใหมครับ
                          ไฟบนหัวเราจะมืดลงวันละนิดเทียบกับ CONTRAST 1 ใน 2000 ทุก 1 สัปดาห์แบบสุ่มตามค่าสีรุ้ง ไครเคยสังเกตุใหมครับ
                          ผมตอบคนแรกว่าไม่เคยสังเกตุเห็นเพราะหูตาไม่ดีนักหรอกครับ
                          Last edited by ssk; 5 Apr 2011, 10:21:53.

                          Comment


                          • รู้แล้วได้อะไร ดูหนังฟังเพลงใช้วิทยาศาสตร์ หรือ ศิลปะ มากกว่ากัน?

                            ดูหนังฟังเพลง นี่ต้องเป๊ะๆ แบบว่า เครื่องฉันภาพละเอียดกว่าเครื่องนาย เสียงชัดมีคุณภาพกกว่าเครื่องนาย แบบนั้นหรือ

                            ภาพชัดที่สุดในโลก เสียงดีคุณภาพมากที่สุดในโลก แล้วไง? - (ร้านยิ้ม)

                            จะดูแค่ภาพ ฟังแค่เสียง หรือ ดูหนัง ฟังเพลง

                            เอาแค่พอประมาณดีกว่าไม๊ คำว่า balance น่ะ ไม่ใช่หมกมุ่นจนหนีคำว่าธรรมชาติ

                            คนส่วนใหญ่เขา ดูภาพ และ เสียง แบบธรรมดาก็มีความสุขได้

                            ภาพชัด เสียงเทพ - จินตนาการมันไม่เกิด

                            หนังบางเรื่อง จงใจให้ภาพไม่ชัด หรือมืดสลัว นั่นคืออารมณ์ ไม่ใช่ทุกเรื่องต้องชัดเป๊ะๆ เพลงบางเพลงก็ไม่ชัด บ้างก็ฟังเทป หรือ แผ่นเสียง ที่ไม่มีความชัดมากนัก ให้ใช้จินตนาการเอาบ้าง

                            ลองดูอย่างคนที่เขาเทพๆแล้ว เขาเลยคำว่าที่สุดไปแล้ว มีแต่คำว่าเหมาะสม

                            เขาได้ขึ้นไปถึงบนยอดเขา เมื่อไปถึงยอดได้เขาก็รู้เลยว่ามันก็ไม่มีอะไร และได้ลงมาเรียบร้อย

                            นึกถึงคำว่าสูงสุดคืนสู่สามัญ เมื่อเจงกิสข่านได้บุกยึดเมืองต่างๆได้จนหมดแล้ว เขาจึงกล่าวว่าชีวิตที่เป็นสามัญชนธรรมดาน่ะดีที่สุดแล้ว

                            แต่ถึงอย่างไรผมคิดว่ามันก็ได้ประสบการณ์นะ เหมือนขับรถวนเป็นวงกลมกลับมาที่จุดเริ่มต้น ยังดีกว่าอยู่ที่จุดเริ่มต้นเฉยๆ
                            Last edited by naraklive; 5 Apr 2011, 12:27:35.

                            Comment


                            • สำหรับผม ผมตอบว่า ไม่ได้ใช้อะไรเลยทั้งวิทยาศาสตร์และศิลป์ แต่ใช้เพียงอารมณ์และความรู้สึก รับรู้และเข้าใจได้ทันทีโดยไม่ต้องคิดสักนิดให้ปวดหัว มีเพียงรู้สึกชอบไม่ชอบ มีความสุขที่จะเสพหรือไม่น่ะครับ
                              Last edited by ssk; 5 Apr 2011, 11:32:11.

                              Comment


                              • ไม่เข้ามานาน
                                ไปใหญ่โต เสียแล้ว
                                เสียงดีฟังไม่ออก คงไม่มีคนซื้อของแพงๆ
                                เสียงดีฟังไม่ออก ซื้อของแพงๆ โดนเขาหลอก โง่แล้วยังอวดรวย
                                มองได้ 2 แง่

                                บอกตรงๆครับ เรื่องนี้ผมเคยอธิบายไปใน audio teams ครับ เนื่องจากเรื่องนี้มันเป็น ปัจจัดตัง หรือรับรู้ได้แต่เพียงตัว อธิบายได้ แต่ไม่เท่าทดลองและรับรู้ได้แก่ตัวเอง
                                เป็นเรื่องของความจริง วิทยาศาสตร์
                                บอกตรงๆวิทยาศาสตร์เพิ่งจะบันญัติมาเป็นศาสตร์ไม่กี่ร้อยปีเอง ก่อนหน้านั้น เป็นไสยศาสตร์อยู่เลย เหมือนว่า พิสูจน์ไม่ได้ว่าไม่มีผี แต่ไม่ได้หมายความว่ามันไม่มีอยู่
                                เราเห็นเราก็รู้ได้ พอไม่เห็นบางคนก็กลัว บางคนก็ไม่เชื่อ
                                ต่างวาระ ต่างกรรม ต่างการเรียนรู้ เราไม่มีทางที่จะทำให้เขาเข้าใจเท่าเราได้หรอกครับ


                                มหาสงครามแห่งกะลา เป็นสงครามที่ผมขอดู แต่ไม่ขอเข้าร่วมนะครับพี่เสีอ 1 เสียงโหวด ฟังออกครับ !!!
                                Last edited by HiddenDragon; 5 Apr 2011, 11:37:20.

                                Comment

                                Working...
                                X