Announcement

Collapse
No announcement yet.

ทฤษฎี ดิจิตอล (01) ไม่มีความแตกต่าง ..ด้านเสียง...ชัวร์หรือมั่วนิ่ม

Collapse
X
 
  • Filter
  • Time
  • Show
Clear All
new posts

  • แต่ในเมื่อ มาโยงเข้ากับเรื่องของเสียง ผมคิดว่าต่าง เช่น เรามีไฟลล์ MP3 อยู่1ไฟลล์ ไปเปิดคนละเครื่องเล่น เช่น ไอโฟน ไอพอด มืถือ ก็ว่ากันไป ทำไมเสียงจึงต่าง
    สมมติถ้า ไอโฟน มันถอดรหัส ได้ 0000001 แล้ว มือถือทั่วไป มัน ก็ต้องถอด ได้ 0000001 อยู่แล้ว แต่ใหงเสียงจึงต่างกัน จะบอกว่ามันใช้ DAC คนละตัวกัน แล้ว DAC มันก็ถอดรหัส จาก 0 กับ 1 มาเป็นอนาล็อกอยู่ดี
    DAC บางตัว มีอัตราการสุ่มที่สูง จาก 24bit เป็น 32 bit เพราะมีการแต่งเติมรูปคลื่นให้โค้งขึ้นด้วยสัญญาณพัลล์ เพราะฉนั้น DAC เทพ มันก็เป็นตัวแต่งแต้มเสียงเพลงไม่ใช่หรือ

    นิปา~
    อันนี้อธิบายได้ครับว่าเราฟังเสียง คลื่นเสียงเป็น ANLOG เสมอ แต่ข้อมูลของเสียงเป็น DIGITAL หรือ ANALOG ก็ได้งงมั้ย
    คือแหล่งข้อมูลไม่ว่าเทป CD หรืออะไรก็ตามมันเก็บและแปลค่าด้วยสัญญาณไฟฟ้า
    ถ้าเอามาต่อเข้าหูก้โดนไฟดูดสิครับ มันถึงต้องมีลำโพงที่แปลงค่าสัญานไฟฟ้าเป็นการขยับตัวก่อให้เกิดคลื่นเสียง
    สัญาณออกจาก DAC มันจะเบามากๆเพราะค่าไฟฟ้ามันต่ำระดับ mW เราจึงเอามันมาขยาย ด้วย OPAMP ซึ่งมันฝังมาแต่ไม่บอกเรา
    และวงจรขยายซึ่งทำให้มันเพี้ยนไปตามใจนึกแล้วแต่ว่าผู้ผลิตจะตั่งค่ามาให้เหมาะกับไครอยากให้เป็นอย่างไรคนถึงจะซื้อ
    เสียงอุปกรณ์จึงต่าง ไม่งั้นจะมี IPOD มาทำไม เครื่องจีนถูกๆก็เทพได้ อีกอย่างข้อมูลเสียงมันไม่ได้ส่งไป DAC ตรงๆนะครับ มันต้องผ่านตัวแปลงค่าก่อนเสมอแม้แต่ CD
    การส่งข้อมูลในแต่ละส่วนจะมี CONTROLER และ PROTOCAL กำกับอยู่แม้แต่เครื่องเล่น CD ในเครื่องพวกนั้นมันมี CPU เล็กๆที่ทำหน้าที่ถอด MP 3 หรืออื่นๆก่อนแล้วแปลงเป็นค่าที่ DAC อ่านได้ คือ PCM ที่แทนค่า AMPLITUDE ของแต่ละช่วงคลื่นด้วยค่า DIGITAL ที่ DAC มันรู้จัก และส่งไปเป็นก้อนๆพร้อมใบส่งของซึ่งคือ ERROR CHECK ถ้าไม่ถูกแก้ใขไม่ได้ ก็ขอให้ส่งใหม่

    ส่วนเรื่อง DAC นั้น มันจะทำงานตามชนิดของข้อมูล ก่อนส่งข้อมูลมันจะต้องคุยกันก่อนว่าส่งอะไรมาจะแปรได้อย่างไร ส่ง 16 BIT ก็ถอด 16 BIT ถ้าอยากได้ 16 --->24 BIT PROCESS ก่อนส่งให้ DAC ซึ่งที่ DAC บอกว่า 24 BIT คือมันบอกว่าฉันเก่งฉลาด ถอดข้อมูล 24 BIT ได้นะจ๊ะ
    แล้ว DAC มันจะเอาก้อนข้อมูลนี้มาปะติดปะต่อ แต่ มันไม่ต่อเนื่อง มันจึงต้องเทียบกราฟที่เรียกว่า SAMPLING ไงครับ แล้วจึงออกมายัง ภาคขยาย หรือ หูฟังลำโพงถ้ามันขับใหวนะ

    Comment


    • ถ้าให้ตรงประเด็นกันจริง ๆ เลยเรื่องการส่งข้อมูลด้วย Digital ถ้าเป็น Optical ซึ่งเป็นสัญญาณ Digital ส่งแบบ passthrough

      แทบจะไม่มีทางสูญเสียสัญญาณกลางทางแน่ครับ(ผมขอใช้คำว่าแทบจะน่าจะยืดหยุ่นกว่าครับ) ผมให้โอกาส

      สูญเสียกลางทางจากสาย Optical = 0.001 Percent คิดแบบง่าย ๆ นะครับ ขอข้ามพวกอุปกรณ์อื่น ๆ ในการสร้าง

      สัญญาณ Optical ขึ้นมา ซึ่งเป็นประเด็นหลักในการคุยกันในครั้งนี้ เพราะว่าอุปกรณ์ดีหรือไม่ดีแค่ไหนก็ตาม สัญญาณ Digital

      ที่สร้างขึ้นมาได้ค่าแทบบบจะเท่ากันเพราะว่าอาจจะเรียกได้ว่า ผิดพลาดได้ใกล้เคียงศูนย์ ส่วนนอกจากนั้นอาจจะสูญเสียระหว่างแจ็คต่อสายเล็กน้อยมาากกกก

      ดังนั้นถ้าส่งสัญญาณ optical เข้่า AVR เพือ่ให้ AVR เป็นตัวถอดรหัส แหล่งต้นฉบับเป็นอะไรก็ตาม ปลายทางสัญญาณ

      จากสื่อข้อมูลจากต้นฉบับ ต้่องได้แทบบบบจะเหมือนเดิม ขอใช้ตัวเลือกที่เป็น Optical นะครับ เพราะว่าเจ้าตัวนี้มันเป็น

      Digital จ๋าเลยครับ เพียว ๆ เลยไม่มีพวกสัญญาณไฟฟ้ามาเกี่ยวข้อง เหมือน Coax-HDMI เพราะ 2 ตัวหลังถึงส่งเป็น

      Digital มาก็ตาม แต่ว่าการสูญเสียสัญาณกลางทางจากสายและขั้วต่อแจ็ค มีได้เยอะกว่า Optical เยอะมากกกครับ

      คิดง่าย ๆ การเดินสาย Network ข้ามประเทศไม่มีใครใช้สายสัญญาณพวกหัว RJ45 หรอกครับ มีแต่สาย Fiber Optic

      ทั้งงั้นเพราะการสูญเสียสัญญาณกลางทางนั้นน้อยมากครับ

      ส่วนข้อมูลของ Digital จากต้นฉบันก่อนส่งไม่มีคำว่าเพี้ยนครับ

      จะเพี้ยนก็ระหว่างส่งครับ

      Comment


      • Originally posted by keang View Post
        ประโยคคำถามที่น่าจะตรงประเด็นจริงๆ ควรถามว่า
        " สายยี่ห้อที่คุณผลิตขาย ต่างจากสายแถมหรือเปล่า สีต่างกันหรือเปล่า เสียงต่างกันหรือเปล่า "
        ผมก็รู้สึกแปลกใจเหมือนกัน ในเมื่อคนถามมีเจตนาอยากรู้ในจุดนี้อยู่แล้ว ทำไมไม่ถามไปตรงๆ
        คือ ที่ยกมามันไม่ใช่ การถามการตอบนะสิครับ แต่มันเป็นบทความที่ลงเกี่ยวกับการโฆษณาขายสาย HDMI

        แล้ว William E. Low ซึ่งเป็น CEO/Designer ของ AudioQuest เค้าก็เข้ามาคอมเมนต์ ลองอ่านเต็มๆ ได้ที่

        http://www.cepro.com/article/hd_guru...20_hz_labeling

        ถ้าอ่านแล้วก็ลองพิจารณาเอาแล้วกันครับ ผมคงไม่เข้ามาตอบเรื่องคำพูดแล้ว เพราะที่อ้างอิงถึงก็เป็นแบบเต็มแล้ว ขึ้นอยู่กับการตีความของแต่ละคน

        เพราะนี่ขนาดเป็นลายลักษณ์อักษร เป็นคำพูดแล้ว แต่ละคนก็ยังเข้าใจคนละทางได้ แล้วประสาอะไรกับเรื่องเสียงเล่าครับ

        ส่วนกระทู้นี้ จขกท ก็ออกมาบอกแล้วว่าอยากได้ความเห็นจากการทดสอบ เพราะเป็นประโยชน์มากกว่า ซึ่งผมก็ให้คำตอบไปแล้ว

        จากการลองที่เปลี่ยนเฉพาะสาย ดิจิตัล ส่วนเรื่องทฤษฏี ไม่อยากคุยครับ เพราะคนที่จะเข้าใจทั้งหมด เค้าเรียนกันหลายๆปี

        ทั้งความรู้พื้นฐาน ทั้งความรู้เฉพาะทาง และยังจากประสบการณ์อีก เพราะจากที่เห็นประเด็นมันแตกมั่วไปหมด

        Comment


        • Originally posted by attapony View Post
          คือ ที่ยกมามันไม่ใช่ การถามการตอบนะสิครับ แต่มันเป็นบทความที่ลงเกี่ยวกับการโฆษณาขายสาย HDMI

          แล้ว William E. Low ซึ่งเป็น CEO/Designer ของ AudioQuest เค้าก็เข้ามาคอมเมนต์ ลองอ่านเต็มๆ ได้ที่

          http://www.cepro.com/article/hd_guru...20_hz_labeling

          ถ้าอ่านแล้วก็ลองพิจารณาเอาแล้วกันครับ ผมคงไม่เข้ามาตอบเรื่องคำพูดแล้ว เพราะที่อ้างอิงถึงก็เป็นแบบเต็มแล้ว ขึ้นอยู่กับการตีความของแต่ละคน

          เพราะนี่ขนาดเป็นลายลักษณ์อักษร เป็นคำพูดแล้ว แต่ละคนก็ยังเข้าใจคนละทางได้ แล้วประสาอะไรกับเรื่องเสียงเล่าครับ

          ส่วนกระทู้นี้ จขกท ก็ออกมาบอกแล้วว่าอยากได้ความเห็นจากการทดสอบ เพราะเป็นประโยชน์มากกว่า ซึ่งผมก็ให้คำตอบไปแล้ว

          จากการลองที่เปลี่ยนเฉพาะสาย ดิจิตัล ส่วนเรื่องทฤษฏี ไม่อยากคุยครับ เพราะคนที่จะเข้าใจทั้งหมด เค้าเรียนกันหลายๆปี

          ทั้งความรู้พื้นฐาน ทั้งความรู้เฉพาะทาง และยังจากประสบการณ์อีก เพราะจากที่เห็นประเด็นมันแตกมั่วไปหมด
          ผมเรียนเรื่องนี้มา 6 ปีครับ
          ที่สำคัญ ใครทำงานบริษัทจะรู้ CEO 90% แทบไม่มีความรู้อะไรเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์เลย
          รู้แค่ว่ามันใช้กับอะไรแค่นั้นเองครับ
          William E. Low เป็นคนออกแบบรูปลักษณ์ ไม่ได้เกี่ยวอะไรกับด้านเทคโนโลยีเลย

          เอาล่ะ ผมตอบแล้วว่าเรียนทฤษฎีและการออกแบบผลิตภัณฑ์ด้านนี้มากี่ปี ส่วนคนอื่นที่คอมเมนท์

          เรียนอะไรกันมา ทำงานอะไรกันบ้างครับ เห็นรู้ดีกันจัง ?

          ปล.ไม่เข้ามาอ่านแล้วนะครับ อ่านแล้วไม่ได้ความรู้อะไรเพิ่มเลย
          Last edited by milestone; 5 Apr 2011, 16:59:02.

          Comment


          • เข้ามาดูไม่มีไรพูด..1เสียงที่ฟังออก ทฤษฎีไม่มีได้จากการทดลอง

            Comment


            • ยังดีที่ออกความเห็นกันได้อิสระ อย่างเว็บ คางคก นี่ต้องตามที่คางคก กิ้งก่าและพรรคพวกว่า คอยชเลียร์เป็นลิ่วล้อรับใช้ คนได้ประโยชน์ค่าโฆษณาก็คางคก

              Comment


              • "เสน่ห์ของเครื่องเสียงอ่ะ มันขึ้นอยู่กับผู้ฟัง" ฟังแล้วพอใจ มันแค่นั้นเอง

                Comment


                • Originally posted by milestone View Post
                  ผมเรียนเรื่องนี้มา 6 ปีครับ
                  ที่สำคัญ ใครทำงานบริษัทจะรู้ CEO 90% แทบไม่มีความรู้อะไรเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์เลย
                  รู้แค่ว่ามันใช้กับอะไรแค่นั้นเองครับ
                  William E. Low เป็นคนออกแบบรูปลักษณ์ ไม่ได้เกี่ยวอะไรกับด้านเทคโนโลยีเลย

                  เอาล่ะ ผมตอบแล้วว่าเรียนทฤษฎีและการออกแบบผลิตภัณฑ์ด้านนี้มากี่ปี ส่วนคนอื่นที่คอมเมนท์

                  เรียนอะไรกันมา ทำงานอะไรกันบ้างครับ เห็นรู้ดีกันจัง ?

                  ปล.ไม่เข้ามาอ่านแล้วนะครับ อ่านแล้วไม่ได้ความรู้อะไรเพิ่มเลย
                  งั้น CEO ไมโครซอฟท์ CEO apple ก็ไม่มีความรู้เรื่องคอมเลยซิครับ ฮ่าๆๆๆ แซวเล่นอย่าถือสา

                  มันแล้วแต่บริษัทครับไปเหมารวมไม่ได้ครับ

                  Comment


                  • ขออนุญาต จขกท ตอบหน่อยนะครับ เพราะมันไม่เกี่ยวกับกระทู้ ผมเห็นด้วยครับ CEO ส่วนใหญ่คงไม่มีความรู้ทางเทคนิคเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์

                    แต่ถ้าระดับ CEO จะออกมาให้ข้อมูลทางเทคนิค ในที่สาธารณะ และคำพูดนั้นก็ไม่ได้เป็นประโยชน์ต่อบริษัทเค้าเอง ผมเดาว่าเค้าน่าจะปรึกษา

                    กับคนที่รู้ก่อนนะครับ (เฮ้อ กลายเป็นคุยกันเรื่องที่ไม่เกี่ยวกับกระทู้จนได้) ส่วนวุฒิการศึกษา หรือเรื่องการทำงาน ผมคงไม่ตอบในกระทู้นะครับ

                    ทำใจให้ล่มๆ ครับ อย่าซีเรียส ว่าแล้วก็ไปหาเพลงเพราะๆ ฟังให้สบายใจกันดีกว่าครับ

                    Comment


                    • เข้ามาขอโทษสำหรับทุกความเห็นครับ _/|\_

                      Comment


                      • อยากให้พวกหูทอง ตาทิพย์พวกนี้ ไปเรียนเบื้องต้นอิเล็กทรอนิกส์จัง

                        จะได้ฉลาด ๆ เกี่ยวกับเรื่องนี้ขึ้นมาหน่อย ไม่ใช่คิดแต่จะอวดรวย 555

                        Comment


                        • เครื่องเล่น CD แต่ละเครื่องของถูกของแพงอาจจะอ่าน ข้อมูลได้ไม่เหมือนกันก็ได้ ใครจะไปรู้
                          เหมือนหนังสือ เล่มเดียวกัน เด็ก อ่าน 2 คนยังไม่เหมือนกันเลย

                          55+

                          Comment


                          • ขอความกรุณาครับ
                            ที่โรงเรียนสอนพูดจาแบบนี้หรือครับ หรือที่บ้านสอนคนเราคิดต่างกันได้ ไม่ไช่เหตุให้มาดูถูกกัน

                            อันนี้ ผมด่าตรงๆ ครับ คนไม่เกรงใจใครให้ ก็ไม่มีใครจะเกรงใจคุณ


                            Originally posted by thanadov View Post
                            อยากให้พวกหูทอง ตาทิพย์พวกนี้ ไปเรียนเบื้องต้นอิเล็กทรอนิกส์จัง

                            จะได้ฉลาด ๆ เกี่ยวกับเรื่องนี้ขึ้นมาหน่อย ไม่ใช่คิดแต่จะอวดรวย 555

                            Comment


                            • คิดแบบดีๆ เป็นไหมครับ

                              Originally posted by oukkrit View Post
                              เครื่องเล่น CD แต่ละเครื่องของถูกของแพงอาจจะอ่าน ข้อมูลได้ไม่เหมือนกันก็ได้ ใครจะไปรู้
                              เหมือนหนังสือ เล่มเดียวกัน เด็ก อ่าน 2 คนยังไม่เหมือนกันเลย

                              55+

                              Comment


                              • Originally posted by thanadov View Post
                                อยากให้พวกหูทอง ตาทิพย์พวกนี้ ไปเรียนเบื้องต้นอิเล็กทรอนิกส์จัง

                                จะได้ฉลาด ๆ เกี่ยวกับเรื่องนี้ขึ้นมาหน่อย ไม่ใช่คิดแต่จะอวดรวย 555
                                นายคิดว่าเรียนอิเล็กทรอนิกส์ให้เก่งแล้วมันจะได้คำตอบตรงเสมอไปหรอ ทฤษฏีกับปฏิบัติมันไม่ได้เหมือนกันหมดซะทุกอย่าง ทฤษฏีอีกอย่าง ปฏิบัติก็อีกอย่างแล้ว

                                ยกตัวอย่าง
                                อย่างเวลาเราคำนวณไฟ ผ่าน diode filter จากสูตรกับทำจริง ยังต่างกันนิดๆเลย ไม่ได้เปะๆอย่างที่คำนวณไว้เลย

                                อีกอย่างต่างคนต่างความคิด เขาก็ต่างก็มาแสดงความคิดเห็น นายจะไปว่าเขาไม่ได้ เพราะความคิดเขาต่างจากนาย

                                อย่างที่เขาว่ากันมันต่าง เรื่อง digital 0101 มันต่าง ผมขอแสดงความคิดเห็น ผมก็เคยคิดว่าเสียงมันก็น่าจะต่างได้หลายปัจจัยอาจจะเป็นสสารในตัวอุปกรณ์ก็ดี ชิปก็ดี ระยะการเดินลายวงจร ความเรียบของระบบไฟ การกวนต่างๆ ก็ทำให้เสียงอาจต่างกัน เหมือนระยะทางเดินของเสียงเวลาต่างกัน เลยทำให้แนวเสียงต่างกัน (ความคิดเห็นส่วนตัวนะครับ)
                                Last edited by carbon_za; 5 Apr 2011, 20:54:52.

                                Comment

                                Working...
                                X