Announcement

Collapse
No announcement yet.

ทฤษฎี ดิจิตอล (01) ไม่มีความแตกต่าง ..ด้านเสียง...ชัวร์หรือมั่วนิ่ม

Collapse
X
 
  • Filter
  • Time
  • Show
Clear All
new posts

  • ทฤษฎี ดิจิตอล (01) ไม่มีความแตกต่าง ..ด้านเสียง...ชัวร์หรือมั่วนิ่ม

    เนื่องด้วยกระทู้นี้http://www.overclockzone.com/forums/...AMAHA-RX-V2067
    ไม่มีคำตอบ...ข้อสงสัย

    พูดถึงเรื่อง ทฤษฎี 01 ไม่มีความแตกต่าง ...อันนี้ก็อยากได้ความรู้เหมือน
    ถ้า 01 ไม่มีความแตกต่าง กรณีแผ่นเดียวกัน ข้อมูลเดียวกัน AVR+ลำโพง ตัวเดียวกัน
    เครื่องเล่น DVD ทุกเครื่อง ต่อสาย coax เข้า AVR เสียงเหมือนกันหมดทุกเครื่ิอง
    เครื่องเล่น BD ทุกเครื่อง ต่อสาย HDMI เข้า AVR เสียงเหมือนกันหมดทุกเครื่ิอง
    เครื่องเล่น HD Player ทุกเครื่อง ต่อสาย HDMI เข้า AVR เสียงเหมือนกันหมดทุกเครื่ิอง
    เพราะเสียงสุดท้ายก็อยู่ที่ AVR เป็นตัวแปลงมาอยู่ดี
    ตามหลักการควรเป็นเช่นนี้....แล้วในความเป็นจริงนี้เป็นอย่างไรครับ
    หรือว่าเรากำลังโดนหลอก..โดยเฉพาะ เครื่องเล่น BD ที่ต่างยี่ห้อต่างรุ่น ช่องว่างของราคาต่างกันเป็นหมื่น

    Originally posted by TroRuwA View Post
    ผมสงสัยเหมือนพี่เสือเลย
    เพราะพวก CDT (CD Transport) ก็มีหลายราคาและให้เสียงต่างกันออกไป
    แต่เท็จจริงประการใดตรงนี้ผมไม่เคยลอง เลยอยากให้ผู้รู้จริงช่วยให้ความรู้ด้วยเหมือนกัน
    CDT ต่อสาย coax เข้า dacตัวเดียวกัน ออกแอมป์ตัวเดียวกัน เสียงเหมือนกันหมดทุกเครื่ิอง

    ------------

    กระทู้นี้ไม่ได้มาเพื่อข้อโต้แย้ง(เพื่อทะเลาะ) แต่เพื่อประโยชน์ของผู้บริโภค
    ถ้าจริง ได้เป็นประโยชน์แก่ผู้บริโภคในการเลือกซื้อ เครื่องเล่น CDT DVD BD HD Player(ไม่จำเป็นต้องใช้ของแพง)
    ถ้าไม่จริง...ได้ล้างความเชื่อเก่าๆที่ผิดพลาด
    ---------------

    ขั้น ทษฤี หลักการ วิชาการ เชิงเปรียบเทียบ (ได้ข้อสรุปแล้วไม่แตกต่าง สรุปมามาตั่งแต่หน้า4)
    ขั้นตอนใช้งานจริง ของผู้บริโภค เน้นตรงนี้มากกว่าครับ ที่ยังไม่ได้ข้อสรุป

    ข้อความนี้เริ่มปรากฏตั่งแต่หน้า8 ส่วนของตัวแปรผมเพิ่มขึ้นมา เพราะขาดพวกนี้เสียงเกิดขึ้นไม่ได้
    Originally posted by tiger X-fi View Post
    ก่อนที่จะออกทะเล
    ตรงนี้ผมอยากได้ เชิงความรู้สึก-ทดลองฟังจริงๆ ประสบการณ์จริงมากกว่าครับ
    เพราะ..เราเป็นระดับ ผู้บริโภค สิ่งที่ได้ประโยชน์ คือ เอามาใช้งานจริงได้
    ข้อมูลดิบ แผ่น CD DVD BD
    ตัวแปร เครื่องเล่น CD DVD BD HD PC สายสัญญาณ
    หัวอ่าน ลายวงจร อุปกรณ์ในวงจร ชิบประมวลผลเสียง อื่นๆ(ขาดพวกนี้เสียงเกิดขึ้นไม่ได้)

    ภาคแปลงสัญญาณ DAC AVR
    --------------
    ทฤษฎี ดิจิตอล (01) ไม่มีความแตกต่าง ..ด้านเสียง...ชัวร์หรือมั่วนิ่ม

    แยกให้ชัดเจนอีกหน่อย

    ทฤษฎี ดิจิตอล (01) ไม่มีความแตกต่าง ..ด้านเสียง
    ในทษฤี หลักการ วิชาการ ดิจิตอล เป็น 01 เท่านั้น ไม่มีการเปลี่ยน
    ยิ่งหาข้อมูลเท่าไหร่ คำตอบเดียวเดียวก็คือ มันไม่มีทางเปลี่ยนแปลงจาก 01 ไปได้ ...เป็นที่ยอมรับทั่วไป

    ชัวร์หรือมั่วนิ่ม
    แต่ในส่วน ที่ใช้งานจริง
    จากข้อมูลดิบตัวเดียวกัน
    ตัวแปรที่ต่างกัน
    ภาคแปลงสัญญาณตัวเดียวกัน
    เสียงมีความแตกต่างกันหรือไม่ ....ตรงนี้ครับ..ที่อยากได้คำตอบ
    และเห็นว่าน่าจะเป็นประโยชน์ครับ
    -----------
    คำว่า ดิจิตอล กับระบบเสียงในตอนนี้เป็นอะไรที่หนีไม่พ้นแน่ๆครับ
    mp3 CD DVD BD ดิจิตอลทั้งนั้น
    เรื่องการฟังมันก็เหมือน เราเลือกชื้อ ลำโพง หูฟัง ทั่วไปครับ
    ถ้าเป็น หูฟังรุ่นไกล้เคียง แล้วถามว่าเสียงต่างมั๊ย
    คำตอบก็คือ
    ผมฟังไม่ต่างกัน ...ลองหลายรอบแล้ว (อะไรก็ว่ากันไป)
    หรือ
    เสียงต่างกัน เบสดีกว่า แหลมดีกว่า (อะไรก็ว่ากันไป)
    อยากได้อะไรประมาณนี้มากกว่าครับ


    ระดับผู้บริโภค..ใครมีแบบไหนก็ใช้แบบนั้นทดสอบ
    ต่างก็คือต่าง...ประสบการณ์จริง
    ไม่ต่างก็คือไม่ต่าง....ประสบการณ์จริง
    เรื่องผลลัพย์เดี๋ยวออกมาเองครับ...
    อาจจะต้องใช้เวลาหน่อยเท่านั้น...ครับ
    --------------------------

    จับผี...อะไรคือความแตกต่างด้านเสียง.. ส่วนของระบบดิจิตอล
    http://www.overclockzone.com/forums/...B8%AD%E0%B8%A5
    83
    ลองแล้ว....แตกต่าง
    53.01%
    44
    ลองแล้ว....ไม่แตกต่าง
    46.99%
    39
    Last edited by tiger X-fi; 13 Apr 2011, 11:18:29.

  • #2
    รอคำตอบ 0.0

    Comment


    • #3
      รอด้วย

      Comment


      • #4
        ปูเสื่อรอ ^^

        Comment


        • #5
          เอาทีละประเด็นก่อนนะครับ
          1.เรื่องราคา ถ้าของราคาแพงผมว่าเค้าน่าจะทำวงจร DAC ชั้นดีมาให้ด้วย
          เช่นเดียวกับยุค CD ครองเมือง CD แพงไม่แพงดูกันที่ DAC
          แต่ทุกวันนี้ เราสร้าง DAC แยกออกมาแล้ว ผมอยากจะถามว่า "มันสร้างมาเพื่ออะไรล่ะกันครับ"
          ที่ผมตอบเช่นนี้ไม่ได้เอียนเอนไปด้านใดนะ ตามทฤษฏีแล้วต่างแน่นอน ดังที่หลายๆท่าน
          ได้นำหลักฐานมาอ้าง แต่ในความต่างนั้น เป็นความต่างในระดับที่ "คอมพิวเตอร์รู้สึก"
          ไม่ใช่มนุษย์ทั่วๆไปจะแยกความต่างนั้นได้ ถ้ามันต่างเราก็ต้องเข้าใจว่ามันต่างแต่ไม่ใช่ว่า
          คิดไปเองว่าต่าง ถ้าเราฟังแล้วมันต่างจริงๆ ก็เป็นไปได้หลายประเด็นอย่างเช่น
          1.มีทักษะการฟังที่ดี
          2.มีพรสวรรค์ ด้านประสาทการได้ยินที่ดีเยี่ยม
          3.มีจุดสังเกตุในการฟัง
          4.ก็ตามทฤษฏีว่าต่างนี่ ผมก็ต้องฟังให้ต่างสิ
          ปล.ผมก็ไม่ใช่เซียนอะไร แค่คนชอบฟังเพลงในระดับ ทั่วๆไปเท่านั้นเอง
          Last edited by fenderfree; 3 Apr 2011, 08:54:06.

          Comment


          • #6
            ผมเคยไช้ Coax ออนบอร์ด เทียบกับซาวการ์ดแล้ว แยกความแตกต่างใด้ชัดเจนนะ

            การ์ดกินเห็นๆ ทุกอย่าง ทั้งความดัง , ความชัด , ปริมาณ noise , มิติ , รายละเอียด

            ทฤษฏีแค่เดาใว้เฉยๆ ยังไม่มีอะไรวัดเป็นบรรทัดฐาน ไม่กล้าพูดมาก คอยเซียนคุยกันดีกว่า

            Comment


            • #7
              Originally posted by veza View Post
              ถ้า Analog ผมไม่เถียงหรอกครับ

              แต่ถ้า Digital คอเป็นเอ็นครับ ถ้าไม่มีเหตุผลที่น่าเชื่อถือมาอ้างอิง ยังไงก็ไม่เชื่อครับ เพราะวิทยาศาสตร์มันก็พิสูจน์อยู่แล้วเรื่อง ข้อมูลทาง Digital

              ซึ่งผมเชื่อในวิทยาศาสตร์ มากกว่าความรู้สึก

              ปล. แต่ทั้งนี้ผมก็ไม่ยัดเยียดความเห็นตรงนี้ให้ใครนะครับ ใครที่ฟังแล้วต่างก็หูของแต่ละคนครับ เรื่องนี้ให้เถียงจนโลกแตกไปก็ไม่จบครับ หูใครหูมัน ความรู้สึกใครความรู้สึกมันจะดีกว่า
              หมายถึงอันนี้หรือเปล่า

              ถ้ามันเหมือนกันทำไมต้องทำ spdif 2 ช่อง ?
              -ความเร็วกับค่าการ loss รวมถึงปริมาณสัญญาณไม่เท่ากัน

              มันต้องถอดรหัสเมือนกันถ้าไม่เหมือนอ่านไม่ได้
              -ทีม R&D ต้องคิดถึงการชดเชยค่าความผิดพลาดเสมอ เหมือนกับการถ่ายเอกสารนั่นละ ถ่ายมาเยอะๆยังไม่เหมือนกันเลย
              ถ้าปล่อยโดยการที่ถอดรหัสผิดแล้วไม่มีค่าอะไรเลย สินค้าจะถูกตีกลับได้ง่าย มีหวังคงโดนไล่ออกทั้งทีม การที่มันเกิดการบิดเบือนเล็กน้อย
              ย่อมดีกว่าไม่แสดงผลอะไรเลย เพราะคนย่อมรู้สึกได้น้อยกว่า และทำให้สินค้ามีความเสถียรกว่าด้วย
              passthrough เป็นแค่คำโฆษณาเท่านั้นละ แปลจริงๆก็คือ ทำให้ใกล้เคียงที่สุดเท่าที่ทำได้

              กูรูด้านคอมหลายคนยืนยันกว่าไม่ต่าง
              - ผมเคยเป็นหนึ่งในทีมคิดค้นอยู่ฝ่ายตรวจสอบของR&D ระหว่าง userผู้ชำนาญ กับ ผู้สร้างผลิตภัณฑ์ เลือกเองได้เลยครับว่าจะเชื่อใคร

              ปล.ในเกือบทุกผลิตภัณฑ์ มีคำโกหกแฝงไว้เสมอ อยู่ที่ว่ามันเป็นเรื่องเล็กหรือใหญ่ เค้ารู้ตัวหรือไม่ ใครจะถูกจับได้ก่อนกันแค่นั้นเอง

              จำได้ว่า Foobar เป็นโปรแกรม passthrough ที่น่าเชื่อถือนี่ทำไมต้องมารีวิวแนวเสียงกันหว่า ?

              ปล.2 หัวข้อนี้ผมจะมีแค่คอมเมนท์เดียว ไม่อยากคุยยาวครับ แค่รบในที่ทำงานก็เหนื่อยแล้ว ไม่อยากมารบในเว็บบอร์ดอีก
              Last edited by milestone; 3 Apr 2011, 08:54:33.

              Comment


              • #8
                แล้วสายDigitalที่ว่าทำจากทองแดงที่มาจากสายAnalagอ๊ัะป่าวอะ หุหุ

                Comment


                • #9
                  ^^

                  Comment


                  • #10
                    Originally posted by XsoeIIsJ View Post
                    ผมเคยไช้ Coax ออนบอร์ด เทียบกับซาวการ์ดแล้ว แยกความแตกต่างใด้ชัดเจนนะ

                    การ์ดกินเห็นๆ ทุกอย่าง ทั้งความดัง , ความชัด , ปริมาณ noise , มิติ , รายละเอียด
                    ผมชอบออนบอร์ดมากกว่าหง่ะ ถ้าหรอยใช้การ์ดตัวไหนทำดิจิตอลเอาท์

                    Comment


                    • #11
                      ก็อปมาจากลิ้งค์ที่คุณเสือโพสไว้ เนื้อหาน่าจะเรื่องเดียวกันใกล้เคียงกัน

                      HTPC ดูหนัง ต่อเข้า YAMAHA RX-V2067 หน้า2 โพส#39

                      Originally posted by veza
                      ถ้า pass through ออกทาง Digital Out ไม่ต่างครับ เพราะ ไม่ว่าจะ Onboard หรือ แยก มันก็ทำหน้าที่เป็นแค่ตัวกลางส่งต่อสัญญาณ Digital เท่านั้นครับ

                      ปล. ตอบตามหลักวิทยาศาสตร์นะครับ ซึ่งวงการนี้บางทีวิทยาศาสตร์ก็พิสูจน์อะไรหลายๆอย่างไม่ได้ 555+ อย่างเช่น รีโมทหงายคว่ำแล้วเสียงแตกต่าง เปิดเครื่องด้วยรีโมท กับเดินไปกดปุ่ม Play แล้วเสียงไม่เหมือนกัน 555+
                      Originally posted by veza
                      ถ้า Analog ผมไม่เถียงหรอกครับ

                      แต่ถ้า Digital คอเป็นเอ็นครับ ถ้าไม่มีเหตุผลที่น่าเชื่อถือมาอ้างอิง ยังไงก็ไม่เชื่อครับ เพราะวิทยาศาสตร์มันก็พิสูจน์อยู่แล้วเรื่อง ข้อมูลทาง Digital

                      ซึ่งผมเชื่อในวิทยาศาสตร์ มากกว่าความรู้สึก

                      ปล. แต่ทั้งนี้ผมก็ไม่ยัดเยียดความเห็นตรงนี้ให้ใครนะครับ ใครที่ฟังแล้วต่างก็หูของแต่ละคนครับ เรื่องนี้ให้เถียงจนโลกแตกไปก็ไม่จบครับ หูใครหูมัน ความรู้สึกใครความรู้สึกมันจะดีกว่า
                      Originally posted by veza
                      ผมก็คงเป็นหนึ่งในคนส่วนน้อย เช่นกัน

                      บางคนที่มาตอบผมว่าไปศึกษาให้ลึกซึ้งก่อนดีกว่า ผมว่าผมอ่อนด้อยแล้ว ไม่คิดจะมีที่... -*-

                      มาเกี่ยวอะไรกับ DAC ครับ DAC แต่ละตัวเสียงไม่เหมือนกันอยู่แล้ว แล้ว ชิป DAC แต่ละตัว แต่ละค่ายแบ่งเป็นกี่ร้อยเกรดครับ ระดับ SNR , THD ก็ไม่เท่ากัน ตัว C ตัว R ที่ใช้ต่างๆก็ไม่เหมือนกัน แล้วเสียงที่ออกจาก DAC มันคือ เสียงที่มีการถอดรหัสแปลงเป็น Analog ให้หูได้ยินแล้ว ซึ่งไอ้การที่มันแปลงแล้ว ตับไตเซี่ยงจี๊ต่างมันมีส่วนร่วมแล้ว นี่แหละครับ ทำให้มันต่างแน่ๆ

                      แต่ประเด็นที่ว่ากันอยู่คือเรื่อง passthrough สัญญาณ Digital ครับ ต้นฉบับส่งไปเป็น 001
                      ผ่าน Sound On Board : มันก็ยังเป็น 001
                      กับผ่าน Sound แยก : มันก็ยังเป็น 001

                      Sound มันมีหน้าที่เป็นแค่ตัวกลางส่งต่อ ประมาณว่ากรูส่งต่อเฉยๆ กรูไม่ได้เอาตับไตเซี่ยงจี๊ไปแปลงอะไรใดๆกับสัญญาณ Digital และสัญญาณ Digital นะครับ ไม่ใช่ Analog ที่จะได้มีการถูกรบกวนเปลี่ยนแปลงได้ระหว่างทาง
                      0กับ1 , ดิจิตอล , 0กับ1 , ดิจิตอล , 0กับ1 , ดิจิตอล

                      อ่านความเห็นแล้ว น่าจะเข้าใจได้ว่า น่าจะศึกษามาอย่างลึ้กซึ้งแล้ว ถึงมีความมั่นใจมากแบบนี้
                      ทั้งใน เรื่องวิทยาศาสตร์ เรื่องการ์ดเสียง เรื่องซาวน์เรื่องเสียง

                      คุณveza น่าจะสามารถแยกแยะความแตกต่างทางเสียงได้ดีด้วย เพราะขายหูฟังขั้นเทพ มีรีวิวหูฟังขั้นเทพด้วย

                      มีข้อความช่วงหนึ่งบอกว่า คุณvezaเคยลองแล้ว ได้ผลไม่ต่างกัน เพราะ ลองยังงัย ฟังยังงัยก็ไม่สามารถแยกความแตกต่างได้

                      อ่านแล้ว ผมก็เชื่อว่า ได้ลองแล้วจริงๆ และ ฟังไม่ออกจริงๆ


                      แต่ก็มีข้อความช่วงหนึ่ง คุณvezaบอกว่า
                      " ชิบDACให้เสียงต่างกัน เพราะว่ามีส่วนของอนาลอคเข้ามาเกี่ยวข้อง ตัวCตัวRที่ใช้ต่างๆก็ไม่เหมือนกัน "
                      ซึ่งเป็นตัวแปรทำให้เกิดผลต่างทางเสียง


                      อ่านมาถึงตรงนี้ ผมมีความรู้สึกสงสัยเล็กน้อยแบบพองาม

                      อะหลั่ย ตัวR ตัวC
                      ตัวอะหลั่ยตัวRตัวCตัวL การทำงานของมันเป็นแบบแบบดิจิตอลหรือแบบอนาลอค

                      เส้นทางของสัญญาณดิจิตอล01
                      เส้นทางของสัญญาณดิจิตอลในซาวน์การ์ดในซาวน์ออนบอร์ด มันเป็นแบบไหน
                      1. สัญญาณจากBus Interface > แจ็คเอ้าท์พุท
                      2. สัญญาณจากBus Interface > ต่อผ่านเข้าชิบไอซีDSP > แจ็คเอ้าท์พุท
                      3. สัญญาณจากBus Interface > ผ่านชิบไอซีต่างๆ + ผ่านตัวอะหลั่ยตัวRตัวCตัวL > แจ็คเอ้าท์พุท

                      ถ้าเป็นแบบข้อ2กับข้อ3
                      เส้นทางของสัญญาณดิจิตอล ต้องผ่านชิบไอซี ต้องผ่านตัวอะหลั่ย
                      การที่ต้องผ่านตัวแปรเหล่านั้น จะก่อให้เกิดผลอะไรตามมาบ้างหรือไม่??? หรือว่า ไม่เกิดผลใดๆทั้งสิ้น???

                      ผมว่า คำตอบหรือผลลัพท์ที่ได้ อยู่บนเหตุผลทางวิทยาศาสตร์น่ะ


                      Originally posted by veza
                      แล้วประสาทสัมผัส ของมนุษย์ ผมว่าห่วยแตกที่สุดแล้วครับ อย่าให้ได้มี bllind test เกิดขึ้นครับ หน้าหงายหน้าแหกกันมา ไม่รู้ต่อกี่รอบครับ
                      ผมว่าน่าจะมี "bllind test" ทางสายตาด้วยน่ะ จะได้ครบถ้วน

                      "bllind test" ทางสายตา ต้องลงทุนมากมายแค่ไหน ต้องเป็นผู้เชี่ยวชาญแค่ไหน
                      - ใครก็ได้ที่ตาไม่บอด
                      - แว่นขยาย
                      - ซาวน์การ์ด
                      - เมนบอร์ด ที่มีซาวน์ออนบอร์ด

                      วิธีทดสอบก็ง่ายๆไม่มีพิธีรีตรองไรมาก เอาแว่นขยายส่องไปที่แจ็คเอ้าท์พุท แล้วใช้สายตามองให้ทั่วๆ ง่ายๆเพียงแค่นี้เอง
                      1. ดูสิว่าที่ขาเอ้าท์พุทมันมีอะไรต่อร่วมอยู่บ้าง
                      2. ไล่วงจรต่อไป ไล่ย้อนกลับไปตามลายทองแดงของPCB ดูสิว่ามันต้องผ่านอะไรบ้าง

                      ถ้าจะเอาให้ละเอียดกว่านี้ก็เปิดดาต้าชีทของตัวอะหลั่ยชิบไอซีต่างๆว่า เส้นทางของสัญญาณที่ผ่านนั้น มันผ่านอะไรภายในตัวชิบไอซีบ้าง

                      Comment


                      • #12
                        Originally posted by ManiacMaew View Post
                        ผมชอบออนบอร์ดมากกว่าหง่ะ ถ้าหรอยใช้การ์ดตัวไหนทำดิจิตอลเอาท์
                        ตระกูล CT4xxx เนี่ยเหละครับ นานมากแล้ว ชักลืมไปล่ะ

                        Comment


                        • #13
                          ผมคิดว่า ถ้าเรื่องระบบเสียง ตัวแปรมันเยอะมาก อย่างเมนบอร์ดคนละรุ่น ไหนจะชิพส่งที่ไม่เหมือนกัน ๆลๆ และคําว่าไม่แตกต่างก็อาจจะแยกไปอีกว่า ไม่แตกต่างเพราะเหตุผลที่ว่า ไม่คุ้มที่จะใช้การ์ดแยก หรือ มันแตกต่างกันน้อยมาก
                          ผมว่าต้องทําตารางมาเทียบกันจะดีกว่า ว่าใครลองแบบไหนมา จะชัดเจนและแน่นอนกว่า

                          Comment


                          • #14
                            ก็เป็นกรณีคล้าย ๆ กับถามว่า การส่งสัญญาณดิจิตอลผ่านซาวน์การ์ดแยก กับส่งผ่านซาวน์ออนบอร์ดนั้น ให้ผลที่แตกต่างหรือไม่ ส่วนตัวผมเคยไปลองฟังบ้านเพื่อนมา โดยต่อเข้า AVR รู้สึกว่าแยกไม่ออกครับ ไม่รู้สึกว่าแตกต่างแบบชัดเจนจริง ๆ

                            อีกกรณี หลายคนก็บอกว่า หากใช้ซาวน์การ์ดดี ๆ แต่ใช้เพียงช่องส่งสัญญาณดิจิตอลไปก็เป็นการเสียของ เพราะเท่ากับไม่ได้ใช้ความสามารถประมวลผลด้านเสียงของการ์ดอย่างเต็มที่ แต่ใช้เป็นแค่ตัวผ่านส่งสัญญาณดิจิตอลไป ซึ่งออนบอร์ดก็สามารถทำได้ ถ้าอิงตามข้างบนที่ผมตอบเมื่อกี้ ข้อนี้ก็อาจจะถูกครับ

                            Comment


                            • #15
                              แวะมาอ่าน
                              Last edited by TroRuwA; 3 Apr 2011, 12:26:52.

                              Comment

                              Working...
                              X