Tweet
ที่คีบชาร์ตแบตมือถืออันละไม่กี่บาท มันก็กลับขั้วชาร์ตได้อัตโนมัติเหมือนกันนะ มันน่าจะอยู่ที่ภาคแปลงสัญญาณมากกว่า
-
-
โหว่าจะไม่เข้ามาอ่านล่ะ เห็นแปปเดียว ไล่กันยาวเลย หลายเวป มีคนเปิดประเด็นแบบนี้ มันไม่จบเหรอครับ ผมเลยไม่ค่อยอยากอ่าน วันนี้ลองอ่านดู โหเหมือนเดิมๆที่หลายเวปเถียงกัน
เอาเป็นว่า ผมเนี้ยว่า digital ส่ง 0 1 จริงๆๆๆ อย่างที่ ท่าน veza ว่านะครับ อยากให้ลองแบบนี้ครับ ใช้ชุดทดสอบเดิมๆ ไม่ต้องเปลื่ยน แต่ สลับสาย hdmi เลยอย่างเดียว ผมลองแล้ว เสียงไม่เปลื่ยนจริงๆ
แต่ถ้าภาพ เนี้ยผมงง ว่ามันเปลื่ยน คับ ผมเลยมาดูสเปก ที่เปลื่ยนเล่น มันต่างกันที่การให้ความเร็วสัญญาณคับ เส้นที่ให้ความเร็วมากกว่าและค่า hz มากกว่า ภาพคมกว่าสว่างกว่าเห็นๆ ทีวีที่เล่นเป็น 240 hz นะครับ
ผมกับเพื่อน ถ่ายรูปเทียบเลย ต่างจริงๆ ลองเล่นดูครับ แต่เสียงผมเห็นด้วยกับ ท่าน veza ครับ เพราะมันผ่านมางัยออกงันไอ้เจ้า digital คับ ลองฟังแล้วฟังไม่ออก จริงๆครับ เลยสรุปกับตัวเองว่า สาย hdmi ที่แพง
ให้ภาพที่ดีกว่าจริง แต่เสียงผมว่าเหมือนกันครับ ลองทั้งฟังเพลง และดูหนัง ฟังไม่ออกจริงๆ จนยอมมาจับผิด analog เหมือนเดิมดีกว่า 5555 ( เสียง digital จะเปลื่ยนแปลง ขึ้นอยู่กับ dacของเครื่องเล่น จริงๆ )Comment
-
เหมือนผมจะเข้าใจว่า กระทู้นี้เขาถามถึง
เรื่อง เครื่องเล่น ไม่ว่าจะหลักพัน หลักหมื่น หรือหลักแสน ที่มันมีแนวเสียงทั้ง แบบ A ,B,C,หรือD
จะต่อผ่านไม่ว่าจะเป็น coax หรือ HDMI ไปยังโดยรหัส 0,1 ไปยัง AVR ที่มีแนวเสียง E
และถ้าอุปกรณ์ต่อพ่วงต่างๆอย่างอื่นเหมือนกันหมด เสียงที่ได้จะออกมาเป็น แนวเสียง E ของ AVR ทั้งหมดรึปล่าวใช่ไหมครับ
ผมคนด้อยความรู้ความสามารถ เข้าใจผิดขออภัยด้วยครับ.....Comment
-
ผมม่ายรู้ ผมงง
USB DAC ของผมใช้สาย USB ทองแดงที่แถมมา VS สาย USB silver HGA ฟังแล้วเสียงใสโปร่งกว่า สายทองแดงที่แถมมา ผมฟัง A-B สลับกันไปมาหลายเที่ยว
โดยให้น้องๆที่มาฟังที่บ้านหลานคนฟังแล้วเหมือนกัน สงสัยอุปทานหมู่เปล่าครับComment
-
ขอบคุณครับที่มาเล่าประสบการณ์ให้ฟังกันOriginally posted by kpmac
แต่อ่านๆแล้วเหมือนขัดแย้งกันเองงัยก็ไม่รู้ ภาพก็รับส่งข้อมูลดิจิตอล01 เสียงก็รับส่งข้อมูลดิจิตอล01
รับรู้ส่วนต่างของภาพได้ แต่เสียงไม่รู้สึกต่างกัน ทั้งๆที่เป็นดิจิตอลเหมือนๆกัน
ใครฟังออกไม่ออก ใครเห็นภาพต่างไม่ต่าง ใครเทพไม่เทพ ไม่ใช่เรื่องสำคัญ
เพียงแค่อยากรู้ มีใครเคยลองด้วยตัวเอง เมื่อลองแล้วรู้สึกแบบไหนมากกว่าLast edited by keang; 4 Apr 2011, 20:26:01.Comment
-
เข้ามา confirm ครับ ผมเองตอนนี้ก็เล่นพวกนี้อยู่เช่นกันOriginally posted by veza View Post
output จาก spdif optic กับ coax onboard ฟังเพลงสู้ onboard ไม่ได้ครับComment
-
สายอื่นไม่รู้รู้แต่สาย coax อมรเส้น 200 บาทกับสาย supra trico เส้นพ้นกว่าๆอายุ 10 ปีเสียงต่างกันแน่นอน system 3x,xxx ฟังออกชัดเจนคับ ตอนแรกผมก็เชื่อทฤษฏีดิจิตอลเนี่ยแหล่ะเลยซื้อ coax อมรมาใช้แต่เสียงไม่เอาอ่าวอย่างแรงเลยหาเส้นดีๆหน่อยในเวปนี้มาลองพอดีเจอคนขาย supra trico โทรมๆอายุซัก 10 ปีราคาไม่แพงมากเลยซื้อมาลองปรากฏว่าเสียง***งกันฟ้ากับเหวเป็นอันว่าทฤษฏีดิจิตอลของผมพังทลาย5555 แต่ไม่เคยลองกับ AVR นะคับถ้าลองกับ AVR เสียงอาจจะไม่ต่างก็ได้เพราะเป็นที่ยอมรับกันว่า AVR ทั่วไปห่วยกว่าชุดฟังเพลง... ^0^Comment
-
อ่านๆไปก็ได้ทราบว่า เว็บนี้มีกูรูด้านนี้เยอะจริงๆ แต่ไม่ค่อยออกมาตอบ อ่านแล้วได้อะไรดีๆครับ ถึงจะพาออกทะเลไปบ้าง
ที่ จขกท.ถามผมไม่ทราบว่าถามเชิงวิชาการ หรือ เชิงความรู้สึก-ทดลองฟังจริงๆ เอาเป็นว่าผมตอบแบบอย่างหลังดีกว่า
วันนี้ลองฟังสาย RCA ทั้งวัน สายทำเอง สายแถม สายถูกๆ ผมฟังแล้วมันไม่ต่างกันครับ (COAX/RCA)
แต่ย้ำก่อนนะว่า ไม่ได้บอกว่ามันไม่ต่างกัน แต่บอกว่าผมฟังไม่ต่างกันเท่านั้นเอง
โดยส่วนตัวแล้วเชื่อว่าต่างกันครับ แต่ผมฟังไม่ออก เพราะเคยอ่านกระทู้ ดิจิตอลมหากาพย์ ก่อนหน้านี้
แล้วช่างน้ำหนัก+พิจารณาหาข้อมูล แล้วฟันธงว่าต่าง(แต่ผมก็ยังฟังไม่ออกเท่านั้นเอง)Comment
-
ผมก็ได้ยินเช่นเดียวกันอะครับ อุปทานด้วยคน usbผมก็AudioQอะครับ YYOriginally posted by mujaarm View Post
ผมมิกล้าใช้สายusbแถมหรือมรกะDACอันละเป็นหมื่นintampตัวละ20kอะครับ เกรงใจอุปกรณ์เดี๋ยวมันงอลเอาComment
-
ใช่ท่าน ผมก็เลยงงงัย เลยเอามาแชร์กันว่า ตกลงแล้วถ้าความไวในการส่งสัญญาณ digital และค่า hz มากกว่า และค่า smooth bit มากกว่ามันมีผลต่อภาพอย่างเดียวหรือเปล่า คือเข้าใจว่าOriginally posted by keang View Post
สายที่แพง กับ ถูกลงมา มันเน้นภาพมากกว่า เสียงรึเปล่า หรือว่าค่าที่มันไวขึ้น smooth ขึ้นมันมีผล ที่ avr ที่มีวงจร Upscaleภาพ อย่างเดียวรึเปล่า เสียงถึงได้เหมือนเดิม อะท่านเป็นไปได้มัย
แต่ให้ตายเหอะ ผมฟังไม่ต่างจริงๆ หรือว่าต่างผมว่าไม่เกิน 5% อะ ถ้าเป็นไปได้นะครับ สายที่ผมลอง m2000 แท้ครับชัวร์ของเพื่อน ของผมที่เอามาลองของอมร 900 บาท v1.3 ทั้งคู่ครับComment
-
ของยี่ห้อเดียวกัน รุ่นเดียวกัน คิดว่ามันยังไม่เหมือนกัน100% ทั้ง เครื่อง สาย
อย่างที่ว่าแรมผลิตมาคนละล็อตกัน ไม่เหมือนกันอีกComment
-
อย่าไปกังวลเรื่องลองด้วยตัวเองแล้ว ฟังแล้วได้เสียงไม่ต่างกัน ไม่มีไรผิดไรถูกหรอกครับ
บางทีบางคนลองแล้วเสียงต่างแต่ภาพไม่ต่างก็มี หรือ บางคนลองแล้วทั้งภาพทั้งเสียงไม่ต่างกันเลยก็มี
ประเด็นสำคัญอยู่ที่ เราได้ลอง เราได้พิสูจน์ด้วยตัวเองแล้วมากกว่า
ถ้ามันมีผลต่างจริง ก็มีความเป็นไปได้ว่า มันมีตัวแปร(ผมชอบใช้คำนี้กับสิ่งที่ยังไม่มีคำตอบแน่ชัด)ที่เรายังไม่รู้ ที่เรายังคิดไม่ถึง
แต่ผู้ผลิตเครื่องผลิตชิบไอซีทั้งภาพหรือเสียง เค้าก็รับรู้ว่าระบบมันมีช่องโหว่อยู่ เค้าเลยสร้างระบบrecoveryเข้ามาช่วย มีทั้งclockทั้งdata bit
ลองดูภาพนี้ บางทีอาจมีคำตอบอะไรบางอย่างเกิดขึ้นก็ได้
คนส่วนมากคิดว่า เครื่องแต่ละเครื่องมันจบที่แจ็คเอ้าทพุทของเครื่องต้นทาง / สายเชื่อมต่อระหว่างเครื่องไม่เกี่ยว
แต่จะมีใครคิดว่า สัญญาณที่ส่งออกไป จะไปเข้าอินพุทของเครื่องปลายทาง แล้วส่งสัญญาณย้อนกลับมาหาเครื่องต้นทางอีกครั้ง
--- สัญญาณมี2เส้น "เส้น+"กับ"เส้นกราวน์" สัญญาณข้อมูลออกจากต้นทางไปให้เครื่องปลายทาง ด้วย"เส้น+" ---
--- สัญญาณข้อมูลเข้าเครื่องรับปลายทาง ผ่านวงจรอินพุทภายในเครื่องปลายทาง ---
--- เสร็จแล้วส่งสัญญาณกลับมาหาเครื่องต้นทาง เพื่อให้ครบวงจรการรับส่งข้อมูล ด้วย"เส้นกราวน์" ---
--- ถ้ามันทำงานแบบนี้ เอ้าท์พุทเครื่องต้นทาง , สายเชื่อมต่อ , อินพุทของเครื่องปลายทาง มันจะมีผลถึงกันหมด ---
ซึ่งตัวแปรอันนี้คือส่วนหนึ่งที่ส่วนใหญ่ไม่รู้ หรือ รู้แต่มองข้าม หรือ รู้แต่ไม่ยอมเอามาพูดกันLast edited by keang; 4 Apr 2011, 21:34:03.Comment
-
+1 เลยท่านตามนั่น เห็นด้วยครับ ผมว่ากลับมาเล่นเสียง analog เดิมๆของผมมันส์กว่าเยอะ เหอๆๆOriginally posted by keang View Postอย่าไปกังวลเรื่องลองด้วยตัวเองแล้ว ฟังแล้วได้เสียงไม่ต่างกัน ไม่มีไรผิดไรถูกหรอกครับ
บางทีบางคนลองแล้วเสียงต่างแต่ภาพไม่ต่างก็มี หรือ บางคนลองแล้วทั้งภาพทั้งเสียงไม่ต่างกันเลยก็มี
ประเด็นสำคัญอยู่ที่ เราได้ลอง เราได้พิสูจน์ด้วยตัวเองแล้วมากกว่า
ถ้ามันมีผลต่างจริง ก็มีความเป็นไปได้ว่า มันมีตัวแปร(ผมชอบใช้คำนี้กับสิ่งที่ยังไม่มีคำตอบแน่ชัด)ที่เรายังไม่รู้ ที่เรายังคิดไม่ถึง
แต่ผู้ผลิตเครื่องผลิตชิบไอซีทั้งภาพหรือเสียง เค้าก็รับรู้ว่าระบบมันมีช่องโหว่อยู่ เค้าเลยสร้างระบบrecoveryเข้ามาช่วย มีทั้งclockทั้งdata bit
ลองดูภาพนี้ บางทีอาจมีคำตอบอะไรบางอย่างเกิดขึ้นก็ได้
คนส่วนมากคิดว่า เครื่องแต่ละเครื่องมันจบที่แจ็คเอ้าทพุท แต่จะมีใครที่รู้ว่า สัญญาณที่ส่งออกไปมันจะถูกส่งย้อนกลับมาหาเครื่องต้นทางด้วย
ซึ่งตัวแปรอันนี้คือส่วนหนึ่งที่ส่วนใหญ่ไม่รู้ หรือ รู้แต่มองข้าม หรือ รู้แต่ไม่ยอมเอามาพูดกัน
Comment
-
ถ้าเรากลับสายถ้าไม่มีการต่อแก้ไฟมันจะลงกราวน์ดก็จะช๊อตอุปกรณ์เสียหายได้ เพราะในเครื่องอีกตัวนึงมันก็มีกราวน์ดนะครับ และกราวนด์ในโลกนี้มันต่อถึงกัน ไม่เว้นแม้แต่แบตเตอรี่ เพราะมันมีศักด์ไฟลบรออยู่แล้วมากบ้างน้อยบ้างตามระดับความจุ พวกชิปรับส่งสัญญาณมันจะต่อแก้ไว้แล้วครับ DIODE ใน IC มันนิดเดียวเองใส่ไว้ก็ไม่กระเทือนต้นทุนหรอกครับ แต่ถ้าไม่ใส่อาจถึงต้องปิดบริษัทเลยก็ได้ ถ้าไฟไม่เกินค่าปรกติของมันๆจะ BYPASS ไป ถ้าเกินก็ใหม้แค่นั้นเอง ไม่เชื่อก็ต่อสายชนกันเองก็ได้ มันก็เหมือนสับสายนั่นแหละ เดี๋ยวก็รู้ว่าจะต้องเสียอะไรไปบ้าง SPDIF การส่งข้อมูลทางเดียวแก้ง่ายเพราะสัญญาณเป็น+เทียบ 0 ส่วน BIPAHSE MARK มันทำงานสัมพันธ์กับค่า CLOCK และ ความยาวชุดข้อมูล เพื่อแก้ปัญหาสัญญาณหายและความถี่แตกต่างของอุปกรณ์ มันจึงทำให้อุปกรณ์ต่างชนิดทำงานร่วมกันได้และข้อมูลไม่สูญหาย
ส่วนเรื่องอัตราความเร็วในการส่งข้อมูลนั้นสายที่ดีมีความต้านทานน้อยมันจะส่งข้อมูลได้มากเพราะยิ่งส่งข้อมูลมากๆความถี่มันจะสุูง มันต้องลดไฟ +VCC หรือ AMPLITUDE ลงไม่งั้นมันจะต้องใช้พลังงานสูงขึ้นอุปกรณ์อาจทนไม่ใหว ถ้าสายความต้านทานสูงมันจะ DROP ลงจน MISS ตามกฏแรงดันตกคร่อมของ OHM ครับ ง่ายๆ ส่วนความเร็วสัญญาณนั้นเท่ากันหมดครับคือเกือบๆเท่าแสงอยู่แล้วไม่ว่าจะสายอะไรบนตัวกลางใหนๆ ทองแดง หรือเงิน ทั้งหมดมีเท่านี้
ส่วนอื่นๆคือความรู้สึกของแต่ละท่านว่าชอบหรือไม่ขอบเป็นเรื่องส่วนบุคคลล้วนๆ แต่ถ้าภาคอณาล็อคนี่ผมใช้สายดีๆเท่าที่พอซื้อหาใหวเลยล่ะเพราะเปลี่ยนสายโลกก็เปลี่ยน บางทีต่อชีลลงดินถ้าทำได้ ส่วน DIGITAL นี่สายอะไรก็ได้ เพราะจากงานผม ส่งข้อมูลไกลๆนับร้อยๆเมตรบนสาย LAN ผ่าน HUB 3-4 ตัว ในสภาพอุดมฝุ่น ร้อน ชื้น ไกล้สายไฟแรงๆ มันก็ตรงเป๊ะ ไม่ตรงตกงานนานแล้วLast edited by ssk; 4 Apr 2011, 21:35:11.Comment
-
ตรงนี้ผมอยาก เชิงความรู้สึก-ทดลองฟังจริงๆ ประสบการณ์จริงมากกว่าครับOriginally posted by fenderfree View Post
เพราะ..เราเป็นระดับ ผู้บริโภค สิ่งที่ได้ประโยชน์ คือ เอามาใช้งานจริงได้
ข้อมูลดิบ แผ่น CD DVD BD
ตัวแปร เครื่องเล่น CD DVD BD HD PC สายสัญญาณ
ภาคแปลงสัญญาณ DAC AVR
--------------
ทฤษฎี ดิจิตอล (01) ไม่มีความแตกต่าง ..ด้านเสียง...ชัวร์หรือมั่วนิ่ม
แยกให้ชัดเจนหนอีกหน่อย
ทฤษฎี ดิจิตอล (01) ไม่มีความแตกต่าง ..ด้านเสียง
ในทษฤี หลักการ วิชาการ ดิจิตอล เป็น 01 เท่านั้น ไม่มีการเปลี่ยน
ยิ่งหาข้อมูลเท่าไหร่ คำตอบเดียวเดียวก็คือ มันไม่มีทางเปลี่ยนแปลงจาก 01 ไปได้ ...เป็นที่ยอมรับทั่วไป
ชัวร์หรือมั่วนิ่ม
แต่ในส่วน ที่ใช้งานจริง
จากข้อมูลดิบตัวเดียวกัน
ตัวแปรที่ต่างกัน
ภาคแปลงสัญญาณตัวเดียวกัน
เสียงมีความแตกต่างกันหรือไม่ ....ตรงนี้ครับ..ที่อยากได้คำตอบ
และเห็นว่าน่าจะเป็นประโยชน์ครับ
-----------
คำว่า ดิจิตอล กับระบบเสียงในตอนนี้เป็นอะไรที่หนีไม่พ้นแน่ๆครับLast edited by tiger X-fi; 4 Apr 2011, 22:08:04.Comment
Comment