Announcement

Collapse
No announcement yet.

[D.I.Y. + Project Log] ลองทำ DAC + Amplifier เล่นเองดีกว่า(?) ผมเรียกมันว่า FuWa :)

Collapse
X
 
  • Filter
  • Time
  • Show
Clear All
new posts

  • ผมว่า ออกแบบให้ใช้ Dual OP-AMP จะสะดวกกว่านะครับ เวลาหา OP-AMP เปลี่ยนในส่วนนี้
    ครับเพราะ Dual OP-AMP มันมีให้เลือกเยอะกว่าถ้าเป็น Single ก็ยังใช้ อะแดปเตอร์แปลงได้
    ปัจจุบัน ผมก็ใช้ AN6552 เป็น Differential และใช้ AD8620 เป็น LPF ครับวงจร Ref จาก Ti เลย
    แต่ปรับแก้นิดหน่อยเพราะไม่ถูกใจที่เสียงที่มันออกจะทือๆกระด้างไปซักนิดผมชอบสดๆนิดหน่อย
    เรื่องขับหูฟังถ้าไม่ได้เป็นหูฟังขับยากวงจรนี้ถือว่าขับได้สบายครับถ้าฟังแบบ
    ไม่เร่งเสียงมากจนปวดหูนะเท่าที่การรับฟังปรกติถือว่าเพียงพอเลยครับ
    เท่าที่ทดสอบฟังกับ
    AKG K520
    YUIN PK1
    Philips SHP2700
    ในการรับฟังเสียงระดับปรกติยังไม่พบอาการขับไม่พอแต่ยังไรครับ
    ไดนามิกเรนจ์ทำได้ค่อนข้างดีทีเดียว

    Comment


    • ^^ ขอบคุณ คุณMONOLABครับ คุณManiacMaewด้วย อย่างนี้ดีครับ ได้ พูดคุย/มีข้อแนะนำ/แลกเปลี่ยนความรู้ กัน
      ได้ประโยชน์หลากหลายขึ้น

      โดยส่วนตัว สำหรับการเริ่มต้น ในส่วนของภาค I->V stage ยังไม่แนะนำให้ลองเปลี่ยเล่นน่ะครับ
      เพราะส่วนนี้ค่อนข้างขึ้นกับ spec ของ op-amp มาก จะเน้นยึดตามที่ผู้ผลิตแนะนำ (op-amp เบอร์5534)
      เพราะผ่านการทดสอบตาม spec เรียบร้อยว่าทำงานถูกต้อง
      (แต่ท่านใดที่มีประสพการณ์และเข้าใจในส่วนนี้ดี ก็เล่นได้อยู่แล้วน่ะนะ )

      เข้าใจง่ายๆคือ ส่วนนี้คือการเปลี่ยนกระแสเป็นโวลท์ จะเป็นทางไฟฟ้ามากกว่าทางสัญญาณ น่ะครับ
      คุณสมบัติของ op-amp เช่น gain bandwidth, settling time, and slew rate จะมีผลกับ Dynamic และความถูกต้องของสัญญาณ
      อื่นๆที่ค่อนข้างจำเป็น
      - Input noise ต่ำ
      - Line Impedance ต่ำ
      - PSRR สูง
      - High degree of separation
      - etc.
      ซึ่งพวกนี้ Op-amp แบบ single จะทำได้ดีกว่าแบบ Dual มาก
      และตามทฤษฎี ส่วนนี้จะไม่มีผลกับลักษณะสัญญาณ (ในที่นี้ก็คือลักษณะที่มีผลกับเสียง เช่น colorization )
      คือต้องการความถูกต้องของการทำงานที่สัมพันกับ IC DAC มากกว่าน่ะครับ

      แต่... ส่วนที่เล่นได้และ(น่าจะ)มีผลกับสัญญาณเสียงมากกว่า ก็คือในส่วน Differential -> Single end น่ะ
      ตอนนี้ที่ออกแบบก็ยึดตาม PCM1794 Datasheet ไว้ก่อนง่ายดี ส่วนนี้เขาใช้ op-amp LT1028 ซึ่งเป็น Single op-amp
      ถ้าหาไม่ได้(หรือแพงไป) ก็ใช้ 5534 ได้เหมือนกัน ก็ซื้อทีเดียวง่ายดี จะว่าไป 5534นี่ เสียงก็ไม่ด้อยเลยนะ เป็นเล่นไป

      อันนี้ส่วนตัว อิอิอิ คือผมมี op-amp แบบ single ที่เก็บไว้อยากลองเล่นอยู่หลายเบอร์น่ะ
      และว่าจะลอง discrete op-amp ด้วย เช่น API 2520, 1731 Melcor, Jensen JH-990 พวกนี้น่ะครับ

      แต่ก็เดี๋ยวลองดูอีกที ในส่วน Diff.->SE นี่ เดี่ยวอาจจะออกแบบ บอร์ดแปลงไว้ให้ครับ วางlayput ของ PCB ไว้ทำได้
      ขนาดก็คงประมาณ DIP-18 ครับ
      Last edited by dracoV; 18 Dec 2011, 08:45:55.

      Comment


      • @dracoV
        - โหลดไฟล์มาแล้วแต่ยังไม่ได้ดูเลยครับ น่าจะเป็นหลังวันจันทร์หรืออังคารถึงจะมีเวลาครับ


        - ส่วนของI/V, LPF ถ้าเป็นไปได้ เส้นทางสัญญาณทั้งสองแชนแนลควรเหมือนกัน เช่น
        ระยะทางของเส้นทางสัญญาณในแต่ละช่วง มีระยะทางที่ใกล้เคียงกัน
        ถ้าเส้นทางในช่วงไหน จำเป็นต้องใช้จั๊มลายทองแดงบนล่าง ทั้งสองแชนแนลก็ควรมีจุดจั๊มเหมือนๆกัน


        - เรื่องไอซีออปแอมป์ จะเป็นแบบซิงเกิ้งหรือดูอัล โดยส่วนตัวเป็นแบบไหนก็ได้ครับ
        แบบซิงเกิ้ล ค่าใช้จ่ายสูงกว่า, ใช้ไอซีออปแอมป์ได้น้อยเบอร์, กินพื้นที่มากกว่า แต่ได้ประสิทธิภาพโดยรวมที่ดีกว่า
        แบบดูอัล ประหยัดกว่า, ใช้ไอซีออแอมป์ได้หลายเบอร์ กินพื้นที่น้อยกว่า แต่โดนลดประสิทธิภาพลงไปบ้าง ซึ่งถ้าใช้ไอซีออปแอมป์แบบซิงเกิ้ลผ่านอแดปเตอร์ก็ยิ่งลดประสิทธิภาพไปอีก

        จุดนี้ ถ้าพูดกันตรงๆ ไอซีออปแอมป์แบบซิงเกิ้ลยังงัยก็ดีกว่าน่ะ เช่น
        - การทำงานโดยรวมเสถียรกว่า นิ่งกว่า
        - การแยกแชนแนลสัญญาณเฟสบวกลบก็ดีกว่า ไดนามิคเร้นจ์+รายละเอียดแบคกราวน์ของเสียงไม่ตกหล่นสูญหายไปด้วย


        จริงๆต้องดูที่ ต้องการวางคอนเซปของงานชิ้นนี้ไว้เป็นแบบไหน
        ประสิทธิภาพเต็มที่ที่สุดเท่าที่ตัวมันจะให้ได้ หรือ ใช้งานได้ดีในระดับหนึ่งโดยงบประมาณไม่บานปลาย หรือ ชิ้นแรกของการเริ่มต้นสำหรับคนที่ยังไม่คุ้นเคยงานอิเลค


        --- ใครพอรู้ที่ซื้อ+ราคา TE7022L บ้าง ---
        Last edited by keang; 18 Dec 2011, 12:10:37.

        Comment


        • -ที่เสนอเรื่อง pin out เฉพาะ ภาคI/V นี้ก็ไม่ได้ซีเรียสมาก เพื่อไว้้เยอะเกิน อาจจะเกะกะ+เพิ่มทางเดินสัญญาณ
          จากบอร์ดdac มันมีpin สัญญาณv+v- ของทั้ง2 ch อยู่แล้ว ถ้าแบบต่อออกมาง่ายหน่อย แล้วเปลี่ยนบอร์ดoutputสะดวก ก็พอ

          -เปลี่ยนจาก5534 เป็น5532 มันก็น่าจะใกล้เคียงกัน ได้สะดวกเปลี่ยนop-ampเบอร์อื่นมากกว่า หรือว่ายังไง

          Comment


          • PCM2707

            - ขา24 Vbus
            Vbus : Connect to USB power (VBUS) for bus-powered operation. Connect to VDD for self-powered operation.


            โหมด Bus Powered :
            Vbus รับไฟเข้า5-6v > วงจรเรกกูเลเตอร์ภายใน > จ่ายไฟเอ้าท์พุท3.3v (สำหรับวงจรภายใน วงจรdigital, วงจรanalog, วงจรline out ซ้าย-ขวา)
            3.3v สำหรับ เลี้ยงวงจรdigital, เลี้ยงวงจรanalog, เลี้ยงวงจรline out ซ้าย-ขวา ที่อยู่ภายในตัวชิบ
            โดยชุดไฟเอ้าท์พุทนั้นได้ต่อขาภายนอก(Vccp, Vdd, Vccl, Vccr) เพื่อใส่ตัวเก็บประจุทำหน้าที่De-Coupling, Filter

            โหมด Self-Powered :
            ขา24(Vbus) ต่อกับ ขา21(Vdd) : ใช้ไฟร่วมกัน3.3v
            ลูปไฟเลี้ยงอินพุทเอ้าท์พุท มันทำงานแบบไหน เชื่อมโยงแบบไหน ??? ช่วยอธิบายหน่อยครับ




            วงจรแบบSelf-Powered เห็นวงจรมา2แบบ
            - ขา24(Vbus) ต่อลง กราวน์
            - ขา24(Vbus) ต่อกับ ขา21(Vdd) รับไฟเลี้ยงจากภายนอก3.3v
            ไม่รู้ว่าทั้ง2แบบ ให้ผลต่างกันด้านไหน
            Last edited by keang; 18 Dec 2011, 14:34:30.

            Comment


            • เท่าที่ลองมา เปลี่ยน 5534 เป็น 5532 เสียงไม่แตกต่างเลยครับ พวก ASUS XONAR เค้าก็ใช้วงจรนี้แหละแต่เค้าใช้ JRC 2114D
              ผมก็อยากได้มาลองแต่มันหาซื้อยากจังไม่มีขายในบ้านเรา
              เท่าที่ลองมาส่วน Differential นี้มีผลกับเสียงโดยรวมอยู่พอสมควรครับ
              อันนี้ไม่ได้ยึดจาก spec ผู้ผลิตอะไรหรอกครับปรับเอาตามที่ฟังแล้วชอบนะ
              Differential เท่าที่ทดลองฟังมานะครับ ถ้าเป็น OP-AMP Bipolar Translator
              จะให้ความโปร่งของเสียงและนุ่นนวลกว่าถ้าเป็น J-Fet inPut จะให้เสียงนิ่งกว่าจังหวะเน้นย่ำดีกว่าแต่จะขาดความนุมนวลไป
              NE5532,5534 JRC เสียงจะออกโปร่งแต่ยังขาดในเรื่องของน้ำหนักเสียงกลางและเสียงสูงไปนิด
              NE5532 Philips เสียงจะโปร่ง โฟกัส เสียงกลางดีครับ เสียงแหลมสดใสกลมกล่อมกำลังดี รวมๆดีกว่าของ JRC เยอะครับ
              AN6552 Matsushita โปร่งๆรายละเอียดเสียงโดยรวมดีขึ้น เสียงแหลมอาจจะสดไปบ้างแต่ได้ซาวด์สเตทที่กว้างขวาง
              SE แนะนำพวก J-Fet input ครับเพื่อชดเชยอะไรที่ขาดหายไปจาก Bipolar Translator
              ถ้าเอาง่ายๆไม่คิดอะไรมากก็ NE5534/TL081 สำหรับ Single OP-AMP
              หรือ NE5532/TL082 สำหรับ Dual OP-AMP ครับ
              แต่ผมก็เห็นด้วยกับคุณ dracoV ครับคือถ้ายังไม่เคยลองฟังให้ทดลองฟังก่อนครับ ยังไม่แนะนำให้ลองเปลี่ยเล่นครับ
              เพราะส่วนนี้ละเอียดอ่อนมาก เบิร์น ทิ้งไว้ซักอาทิตย์ก่อนถ้าเสียงถูกใจไม่ถูกใจยังไงค่อยปรับแก้ที่หลังครับ
              เพราะผมก็ฟังจากวงจร Reference ของ Ti มาเป็นอาทิตย์เหมือนกันครับแล้วจึงค่อยปรับจูน R/C รอบๆ วงจรบางส่วนครับ

              Comment


              • -------------------------------
                @ManiacMaew



                PCM1798/1794A เป็น current output ครับ จำเป็นต้องมีส่วน I/V stage ไม่งั้นเอาไปใช้งานไม่ได้ครับ
                Output จากบอร์ด DAC จะเป็น I ครับขั้วต่อมีอย่างในรูป IL-, IL+, IR-, IR+, GND น่ะครับ
                ก็ถ้าจะลองเล่น I/V แบบอื่นๆก็เอาจากขั้วออกตรงนี้ของบอร์ด DAC ไปเล่นได้ ไม่ต้องทำบอร์ด I/V แบบในรูป
                ผมเองก็ทำตรงนี้ไว้ก็เพราะเผื่อไว้เล่น I/V output แบบ discrete(ไม่ใช้ op-amp) น่ะครับ
                อืม... แต่ถ้าเป็นท่านที่ยังไม่ชำนาญงาน DIY หรืองาน DAC ผมคิดว่าแบบของ I/Vบอร์ดอันนี้ก็น่าจะดี
                พอทำกันได้ไม่ยากและไม่แพงเกินไป โดยที่ยังได้คุณภาพการทำงานที่ดีอยู่พอมากควร
                และมีส่วนที่เล่นได้ก็คือส่วน Diff.->SE น่ะครับ

                ------------------------------

                @keang
                ไม่เป็นไรครับ ว่างๆมีเวลาค่อยๆดูกันได้ครับ ไม่รีบร้อน ทำแบบสบายๆเป็นงานอดิเรกครับ สนุกดี
                ไม่ซีเรียสครับ

                - ส่วนของI/V, LPF ถ้าเป็นไปได้ เส้นทางสัญญาณทั้งสองแชนแนลควรเหมือนกัน เช่น
                ระยะทางของเส้นทางสัญญาณในแต่ละช่วง มีระยะทางที่ใกล้เคียงกัน
                ถ้าเส้นทางในช่วงไหน จำเป็นต้องใช้จั๊มลายทองแดงบนล่าง ทั้งสองแชนแนลก็ควรเป็นแบบกัน
                อันนี้แหละครับที่ผมคิดไว้ทีแรกเลย ตอนจะออกแบบ PCB ของส่วน I/V Output
                กะdesign 1 ข้างแล้ว Mirror เอา ก็จะได้2ข้างเหมือนกัน
                แต่...ไปๆมาๆ ดูแล้วติดปัญหาเล็กน้อย เรื่องกล่องใส่และขนาดของ PCB
                ก็เลย Compromise เอาเองว่า ดีสุดเท่าที่น่าจะทำใช้ได้ก็โอเคเหมือนกันนะ ก็ได้อย่างในรูปน่ะครับ

                - คอนเซปของงานชิ้นนี้ ผมตั้งใจว่าเป็นแบบรวมๆที่คุณkeang กล่าวมา
                คือ ดีสุดเท่าที่น่าจะพอทำเล่นกันได้ไม่ยาก และไม่แพงเกินไป
                + ความต้องการเล่น(และอุปกรณ์ที่มีอยู่)ของตัวเองลงไปด้วย อิอิ

                ตอนนี้ก็คงจะยังเป็นแบบในรูปก่อน เพราะผมยังว่า op-amp Single ยังน่าจะทำงานได้ดีกว่าในภาค I->V
                ตัว 5534 ก็ไม่แพง ทำงานได้ดี และก็ยังทำกันได้ไม่ยาก ก็น่าจะได้ "ดีสุดเท่าที่น่าจะพอทำเล่นกันได้ไม่ยาก" นะผมว่า
                ส่วนที่เล่นกันได้/ปรับเปลี่ยนได้ ก็คือส่วน Diff.->SE น่ะครับ หรือว่าไงกันดี

                ... เดี๋ยวคงเอามาลองเล่นดูก่อนน่ะครับสำหรับผม
                แต่ยังไงก็ ท่านใดมีความเห็นข้อเสนออย่างไร ก็มาแนะนำกัน พูดคุยแลกเปลี่ยนความเห็นกันได้
                หรือบอกความต้องการกันได้เรื่อยๆครับ เพราะแบบมันยังไม่ Final น่ะครับยังคงปรับเปลี่ยนได้
                ก็เลย

                ---------------------------
                @MONOLAB
                อิอิ ผมถึงแอบใส่ไว้ว่า"ตามทฤษฎี" ไงครับ
                เดี๋ยวผมว่าจะลองทำแบบ Full discrete เล่นดูอีกอัน2อัน
                คุณ Wizarmans ให้ IC มาลองหลายตัวเลย

                Comment


                • pcm2706/2707

                  - BUS-power คือใช้ไฟ 5V จาก USB port ครับ เอามา regulate ด้วย regulator ในตัวชิพ
                  - Self-power คือใช้ไฟ 3.3v ที่ regulate เองจาก power supply แยก จ่ายให้ขา Vต่างๆ
                  (ไม่ใช้ Regulator ภายใน)

                  เลือกโหมดโดย PSEL ขา 16 ครับ HIGH-> BUS-power, LOW->Self-power
                  ในโหมด Self-power จะใช้ HOST(ขา3) ต่อกับ VBUS (5V USB) เพื่อ Detect ว่าเสียบ USB

                  ตัวนี้ที่ออกแบบไว้ใช้แบบ Self-power ครับ ไม่ใช้ 5V จาก USB port (noise มันเยอะ)
                  เนื่องจากจำเป็นต้องใช้ power supply แยกอยู่แล้วสำหรับ ภาค I/V Output
                  และใช้แค่ S/PDIF output จาก PCM2706 เพราะงั้นในส่วนของ Analog out (ขา25-32) เลยไม่ต้องสนใจ
                  สนใจเฉพาะ ground ขา25, 31 ต่อลงกราวด์ไว้ครับ

                  คุณkeang ทักมาเลยไปดู ลืมอีกแล้ว 555+ ลืมต่อวงจร pull-up สำหรับ D+
                  เฟอะฟะอีกแล้วผม ดีนะนี่ที่คุณkeang ทักมา เดี๋ยวต้องไปไล่ดูอีกหน่อย ลืมอะไรไปอีกป่าว
                  Last edited by dracoV; 18 Dec 2011, 14:47:15. Reason: พิมพ์ตก 1

                  Comment


                  • จะเป็น I ครับขั้วต่อมีอย่างในรูป IL-, IL+, IR-, IR+, GND น่ะครับ
                    ก็ถ้าจะลองเล่น I/V แบบอื่นๆก็เอาจากขั้วออกตรงนี้ของบอร์ด DAC ไปเล่นได้ ไม่ต้องทำบอร์ด I/V แบบในรูป
                    -แหะๆ มึนเรียกผิด ขั้วนี้แหล่ะที่ผมต้องการอีกอัน(มันต้องมีอยู่แล้วล่ะแต่ผมมองไม่ออกว่าอันไหน) เอาไว้เพื่อภายหลังดัดแปลง
                    แรกๆ ก็ประกอบเดิมๆอยู่แล้ว

                    -เหมือนจะพยายามให้เล็ก ขนาดใหญ่น่าจะดัดแปลงทดลองในภายหลังได้ง่ายกว่า มือใหม่ทำสะดวกหน่อย หากล่องใหญ่หน่อยเอา
                    แต่รอฟังท่านอื่นด้วยล่ะกัน

                    Comment


                    • pcm2706/2707 ผมก็ใช้ Self-power เหมือนกันครับ เพราะเอามาใช้แค่ I2S/SPDIF
                      BUS-power 5V ส่วนใหญ่ผมจะใช้เวลาทำเป็น DAC หูฟังเฉยๆ
                      2707.gif

                      Regulator ก็ใช้พวก
                      KEC 78D33 เป็น low drop voltage จ่ายได้ 500mA ไฟออกมา 3.31V พอดี
                      ถ้าจะเอาคุณภาพสูงหน่อยก็ BA033 ของ ROHM เป็น Low saturation voltage
                      สัญญาณรบกวนต่ำและจ่ายไฟนิ่งมาก แต่ราคาอาจจะสูงไปนิดครับ ตัวถังแบบ SMD ก็มี
                      Self-power ถ้าไม่ใช้ภาค Analog กินไฟน้อยมากครับไม่น่าจะเกิน 100mA

                      Comment


                      • อืม... ก็ไม่เล็กนะ จะว่าไป ส่วนที่คิดว่าน่าจะพอเล่นสนุกกันได้ก็เตรียมๆที่ไว้แล้ว
                        เช่น ตัวชิพ DAC ก็ใส่ Adapter ได้หรือจะแปะติดบอร์ดไปเลยก็ได้ อุปกรณ์เกือบทั้งหมดก็ through hole
                        ขนาดก็กะไว้สำหรับอุปกรณ์มาตรฐาน(ราคาไม่แพง) คุณภาพดี เช่น C ก็ใส่ C Film ได้
                        หรือจะเอาแค่ Multilayer ceramic ก็ได้ตามสะดวกน่ะครับ อืม... แต่คงไม่ได้เผื่อไว้สำหรับอุปกรณ์ Boutique น่ะครับ
                        พวกนี้ตัวมักจะใหญ่และแพงงงง คิดว่าคงยังไม่เหมาะสำหรับโปรเจคนี้น่ะครับ

                        อยากให้ท่านที่พึ่งเริ่มต้น ทำกันได้ เดี๋ยวเผื่อนู่นนี่ไว้เล่นมากไป เดี๋ยวจะงงกัน(???) 555+

                        ส่วน I/V board ก็อย่างที่บอกว่าเตรียมขา Output จากบอร์ด DAC ไว้ เปลี่ยนได้ทั้งบอร์ดเลย
                        หรือในส่วน I/V board ตัวนี้เอง ก็อย่างที่บอกไว้ข้างต้นแล้วน่ะครับ

                        ผมก็ไม่แน่ใจน่ะครับ ว่ายังอยากลองเล่นอย่างอื่นอีกไหม บอกๆ แนะนำกันได้นะว่าอยากเล่นตรงไหนไหม
                        แต่ก็จะลองดูอีก ก่อนนะ คือคิดว่าน่าจะ ออกแบบทำให้ทำได้ง่าย/ใช้งานได้คุณภาพดีพอสมควร/ราคาไม่แพง
                        สำหรับท่านที่ไม่ได้ต้องการเอาไปโมฯส่วนของวงจรเล่น และ/หรือท่านที่ยังไม่ชำนาญงาน DIY ก็ทำใช้งานได้เลยน่ะครับ

                        อันนี้เป็นตัวแรกด้วยน่ะครับ ยังไม่อยากให้เล่นอะไรมากเกินไป ไว้อยากเล่นอะไร มีประสพการณ์แล้วก็มาพูดคุย/สอบถามกันได้
                        เผื่อProject ถัดไปไง

                        --------------------
                        Originally posted by keang View Post
                        วงจรแบบSelf-Powered เห็นวงจรมา2แบบ
                        - ขา24(Vbus) ต่อลง กราวน์
                        - ขา24(Vbus) ต่อกับ ขา21(Vdd) รับไฟเลี้ยงจากภายนอก3.3v
                        ไม่รู้ว่าทั้ง2แบบ ให้ผลต่างกันด้านไหน
                        อืม... ไม่เคยลองนะ พอมีรูปวงจรให้ดูไหมครับ ตัวที่ต่อ VBUS ลงกราวด์
                        เพราะตาม Datasheet ระบุว่าให้ต่อ Vdd ใน Self-power mode
                        V BUS 24 ? Connect to USB power (V BUS ) for bus-powered operation. Connect to V DD for self-powered operation.
                        Last edited by dracoV; 18 Dec 2011, 15:13:33.

                        Comment


                        • Originally posted by dracoV
                          อืม... ไม่เคยลองนะ พอมีรูปวงจรให้ดูไหมครับ ตัวที่ต่อ VBUS ลงกราวด์
                          รูปวงจรตัวอย่างในไฟล์ดาต้าชีทก็ต่อแบบนี้ครับ


                          Originally posted by dracoV
                          เพราะตาม Datasheet ระบุว่าให้ต่อ Vdd ใน Self-power mode
                          VBUS Connect to USB power (VBUS) for bus-powered operation. Connect to VDD for self-powered operation.
                          Text Descriptions กับ Sample Circuit มันบอกต่างกัน ผมดูแล้วก็เลย"งงๆ"
                          ไม่รู้ว่ามันมีเงื่อนไขหรือตัวแปรอะไรเพิ่มอีกหรือเปล่า

                          แต่ที่เห็นวงจรที่ทำๆกัน ทั้งแบรนด์ทั้งโลคอลทั้งdiy ถ้าเป็นself-poweredจะต่อกับ3.3vซะเป็นส่วนใหญ่
                          Last edited by keang; 18 Dec 2011, 15:47:39.

                          Comment


                          • อ๋อ... File datasheet ของ Texas มันใช้สัญลักษณ์แทนไฟ 3.3V หน้าตาประหลาดน่ะครับ
                            ลองดูที่ legend ตรงมุมล่างขวา

                            ตอนผมทำPCM2706 ทีแรก อ่าน datasheet ครั้งแรกก็งงๆเหมือนกัน ว่าทำไมหลายตัว มันเอาต่อลงกราวด์

                            Comment


                            • ขอบคุณครับ
                              เข้าใจละ เค้าใช้สัญลักษณ์ไฟ+3.3v คล้ายกับสัญลักษณ์ของกราวน์
                              ( กราวน์=ปลายชี้ลงล่าง , แต่ของเค้าชี้ขึ้นบน กลายเป็นจุดไฟเลี้ยง )


                              แต่ยังมีข้อสงสัยเพิ่ม
                              ถ้าดูบลอคไดอะแกรมภายใน ขาvbusจะเหมือนเป็นขาไฟเข้าของวงจรโวลท์เตจเรกกูเลเตอร์ที่อยู่ภายในตัวมัน
                              ภายในน่าจะมีโวลท์เตจเรกกูเลเตอร์แบบโลว์ดรอปเอ้าท์4ชุด(โวลท์อิน-เอ้าท์ต่างกัน1โวลท์กว่า) โดยดูจากตามจำนวนขาไฟออก



                              self-powered = ไม่ใช้วงจรโวลท์เตจเรกกูเลเตอร์ภายในตัว โดยเปลี่ยนไปใช้แหล่งจ่ายไฟเลี้ยงภายนอกแทน

                              - การเอาvbusกับvddมาต่อถึงกัน ไม่มีปัญหาเรื่องลูปไฟขาอินพุทกับเอ้าท์พุทเหรอครับ ??


                              ในมุมมองผม ถ้าขาvbusมันทำหน้าที่เป็นเพียงขาไฟเข้าของชุดโวลท์เตจเรกกูเลเตอร์ (ตามที่เค้าเขียนมาในบลอคไดอะแกรมภายใน)
                              ถ้าเราต่อแบบself-powered ขาvbusไม่จำเป็นต้องต่อใช้งานก็ได้
                              ซึ่งถ้ามันจำเป็นต้องต่อใช้งานจริง แสดงว่ามีการเชื่อมโยงภายในตัวชิบ มากกว่าที่เค้าเขียนแสดงในไดอะแกรมภายในแบบคร่าวๆ
                              Last edited by keang; 18 Dec 2011, 16:31:01.

                              Comment


                              • DIR9001













                                Last edited by keang; 19 Dec 2011, 13:38:24.

                                Comment

                                Working...
                                X