Announcement

Collapse
No announcement yet.

[D.I.Y. + Project Log] ลองทำ DAC + Amplifier เล่นเองดีกว่า(?) ผมเรียกมันว่า FuWa :)

Collapse
X
 
  • Filter
  • Time
  • Show
Clear All
new posts

  • PCM2706/7
    ผมก็ไม่แน่ใจนะครับ สำหรับ Vbus แต่คากว่า น่าจะเป็นที่ block diagram ไม่ครบ
    หรือ เป็นdiagram ของฟังก์ชั่นแบบหนึ่งของ IC
    เนื่องจาก PCM2706/7 นี่ยังมีอีกหลายฟังก์ชั่นครับ

    เดาเอาว่า internal regulator คงใช้พวก fet เป็นswitch+protection ไปด้วย
    สำหรับรับไฟจากขา Vbus เนื่องจาก ใช้ PSEL HIGH, LOW เป็นคัวเลือก ก็คงใช้ PSEL ไป bias มังนะ

    ส่วนตัว Vbus เองหน้าจะมีหน้าที่อื่นอีกแต่ไม่ได้ระบุใน datasheet
    พวกfunctionและหน้าที่ ที่ไม่ระบุก็มักจะเป็นพวก Internal function หรือ Power-on reset น่ะครับ
    PCM2706/7 ก็มี automatic power-on reset ด้วย

    Comment



    • By dracov at 2011-12-18

      จัดให้ครับ I/V board ใช้ op-amp แบบ dual

      กับใช้ op-amp แบบ Single

      <<รายละเอียดนิดหน่อย>> ว่าทำไมถึงใช้ op-amp แบบ single
      ลองเลือกๆกันดูครับ อยากได้แบบไหน พูดคุยกันได้ครับ
      Last edited by dracoV; 23 Dec 2011, 14:34:42.

      Comment


      • เพิ่มเติมข้อมูลการเลือก/ใช้ Clock สำหรับตัวนี้ที่ออกแบบไว้ ครับ
        - DIR9001 สูงสุดได้ที่ 24/96 (output)
        - PCM1798 สูงสุดได้ที่ 24/192

        เลยเลือกใช้ที่ สูงสุดได้ที่ 24/96


        DIR9001 มี jitter ต่ำสุด ที่ 512fs
        ที่ออกแบบไว้ ไม่มี(ไม่ได้ใช้) external clock source ใช้เฉพาะ PLL-source (Built-in PLL)

        Comment


        • ดีเลยครับมีภาคโมดูลให้เลือกใช้หลายแบบ
          Single OP-AMP แนะนำให้แยกภาคจ่ายไฟของแชนแนลซ้ายและขวาให้ออกจาก
          กันอย่างอิสระด้วยนะครับเพื่อจะได้ใช้ประโยชน์จากระบบ Single OP-AMP สูงสุด

          Comment


          • ข้อมูลประกอบ





            ---------------------------------------------


            วงจรDIR9001 จากหลายๆเวป
            - cuircuit1


            - circuit2



            - วงจรDACตัวที่คุณManiacMaewซื้อจากเวปHiFiDIY.net
            ( ถ้าdacตัวนี้ยังใช้งานได้อยู่ สามารถเอามาเทียบกับวงจรอื่น อันไหนถูกใจก็เอาไปดัดแปลงเพิ่มได้น่ะ )



            - วงจรที่คุณdracoVออกแบบ (18 ธค 54)

            1. ใช้ทรานซิสเตอร์สำหรับทำหน้าที่ปิด-เปิดไฟLED (T2, T3, T4)
            2. สังเกตุที่ขา PSCK0, PSCK1, FMT0, FMT1 ปรกติถ้าเซ็ทให้เป็นโลจิคHigh ส่วนใหญ่จะใช้วิธีต่อตรงกับไฟเลี้ยง3.3v
            ถ้าดูจากรูปวงจร จะเห็นว่าคุณdracoVใส่ตัวต้านทานค่า1K5คั่นเอาไว้ด้วย (R5, R8, R10, R11)
            เป็นเทคนิคส่วนตัวที่เค้าใส่เพิ่มเข้าไป
            Originally posted by dracoV
            Originally posted by keang
            ปรกติทั่วไปจะใช้วิธีต่อตรงกับไฟ3.3v
            PSCK0, PSCK1, FMT0, FMT1 เซ็ทเป็นโลจิคHigh > 3.3v

            แต่ในวงจรเห็นใช้ตัวต้านทาน 1K5ต่อไว้ด้วย
            PSCK0, PSCK1, FMT0, FMT1 เซ็ทเป็นโลจิคHigh > ต่อผ่านตัวต้านทาน 1K5 > 3.3v
            เอาแค่ดีเทคเป็นHighได้ก็พอ เป็นเทคนิคลดการดึงไฟโดยตรงเหรอครับ ?
            ใช่ครับ Logic HIGH ของ 9001 >2V ใช้ได้ แต่กระแส Input current ต้อง < 10mA
            ก็เป็นการลดการดึงกระแส+protection ด้วยครับ

            - วงจรของผู้ผลิตDIR9001 ในชุดEVM

            1. ใช้ทรานซิสเตอร์(Q51)สำหรับทำหน้าที่ปิด-เปิดไฟLED
            2. มีการตัวต้านทาน(R64) สำหรับแยกกราวน์ชุดanalog"ออกจาก"กราวน์ชุดdigital"
            3. ใช้ตัวต้านทาน(R66, R67)ต่อคั่นขาไฟเลี้ยง เพื่อลดการดึงไฟโดยตรงจากแหล่งจ่ายไฟ (บางคนก็ใช้Ferrite Bead, Inductorแทนตัวต้านทาน)
            Last edited by keang; 21 Dec 2011, 18:19:15.

            Comment


            • Originally posted by dracoV
              ถ้าเป็นออปแอมป์ซิงเกิ้ล แล้วได้เลยเอ้าท์แบบนี้ เปลี่ยนอะหลั่ยในชุดI/V, LPFสบายเลย

              จะว่าไป ผมว่า "ราคาชิบดิจิตอล+อะหลั่ย" ถูกกว่า "ราคาชิบอนาลอค+อะหลั่ยในส่วนI/V, LPF" พอสมควรเลยน่ะ
              ส่วนใหญ่ทำแล้วงบบานปลาย มันเป็นส่วนของอนาลอคทั้งนั้น

              Comment


              • เท่าที่ทดลองเล่น DIR9001 มา
                ขา 1 ที่ Audio Stats ใครทราบว่ามันเอาไว้ทำอะไรครับเพราะเท่าที่ลองมาทั้งปล่อยข้อมูลผิดๆเข้าไป
                ทั้งไม่ปล่อยสัญญาณเข้า หรือไม่ปล่อยเข้ามันก็ active-low = low อยู่ตลอดเวลา - -'' ไม่เข้าใจจริงๆ
                เพราะเห็นหลายวงจรที่เค้าออกแบบกันก็ไม่ได้ใช้ขา 1 ครับ สงสัยเค้าไม่รู้จะเอาไปใช้ทำอะไร

                ขา 27 ปรกติถ้าสัญญาณถูกต้องมันจะ active = low หรือ GND แต่ถ้าไม่มีอะไรเข้าไปหรือสัญญาณมีปัญหา เช่นสายหลวม
                มันจะ active = hight จริงๆกระแสตรงจุดนี้เหลือเฟือที่จะขับ LED หลอดเดียวอยู่แล้วครับเอา R ค่าซัก 150 Ohm
                ต่อขา 27 ใช้งานได้เลย ถ้าต้องการเช็ค Error ก็ต่อ 27 A ต่อ K ไปหา GND ถ้าจะเช็ค OK ก็ต่อ 27 K ต่อ A ไปหา 3.3V ครับ
                หรือจะใช้ไฟ 2 ดวงหรือ LED 2 สีแสดงไฟแดงกับ เขียวก็แล้วแต่จะประยุคใช้งานครับ
                เพราะตอนผมออกแบบแรกๆก็หลงใช้ TR 2SA733 มาขยายตรงจุดนี้เหมือนกัน
                แต่ถ้าใช้อะไรที่กินกระแสะมากๆก็ควรต้องใช้ครับ

                Comment


                • ช่วงนี้กำลังย่อส่วนอะแดปเตอร์ USB to SPDIF อยู่เหมือนกันครับว่าจะเอาไปไว้ทดลองในโปรเจคอื่นๆ
                  ใช้ PCM2706 ใช้ BUS Power เอาครับ เพิ่มภาค analog ไปด้วยไว้ต่อหูฟัง ฟังเพลงขำๆ


                  ต้นแบบครับ
                  PCM2706_SPDIF.jpg

                  กล่องที่จะยัดลงไปน่าจะพอยัดๆลงไปได้ - -''
                  box1.jpg

                  Comment


                  • ผมมองแบบนี้น่ะ

                    - เรื่องทรานซิสเตอร์
                    ทรานซิสเตอร์ที่ใส่เพิ่มเข้าไป จริงๆคงไม่ได้หวังให้ไดรฟ์หลอดled
                    สิ่งที่จะเป็นผลพลอยได้ จะเป็นเรื่องการตัดตอนของการใช้ไฟร่วมภายในตัวdir9001

                    ไฟจากตัวdir9001ใช้เพียงแค่ไบอัสขาb เสมือนเป็นสวิทช์ปิดเปิดหลอดไฟ ส่วนไฟเลี้ยงหลอดledจริงๆจะเป็นไฟจากขาcของทรานซิสเตอร์
                    ฉะนั้นระบบไฟและกระแสภายในตัวdir9001 จะเกิดการกระเพื่อมหรือแกว่งต่ำกว่า การเอามาใช้ไดรฟ์หลอดledโดยตรง

                    - เรื่องpcm2706
                    จริงๆ ถ้าเราต้องการทดสอบเพื่อนปรับปรุงวงจรเฉพาะส่วนของusb เฉพาะส่วนของpcm2706
                    ถ้าเราใช้ชุดอนาลอคเอ้าท์พุทของตัวมันเพื่อฟังผลต่างที่เกิดขึ้น ผลที่ได้จะทำให้เรารับรู้จะเป็นผลมาจากวงจรส่วนนี้โดยตรง
                    ไม่ว่าจะปรับปรุงจุดไหนๆในวงจรของpcm2706

                    ถ้าเราไปต่อผ่านเอ้าท์พุทชุดดิจิตอล(I2S, S/PDIF) แล้วไปฟังหลังdac มันจะมีเรื่องผลจากการเชื่อมโยงกันของวงจร2ส่วน คือ usb+dac
                    ซึ่งมีโอกาสเจอเรื่องแมทช์หรือมิสแมทช์ในบางประเด็นของจุดเชื่อมต่อจากusbไปdac

                    แต่ไม่ว่าจะฟังเสียงเอ้าท์พุทจากแบบไหน ยังงัยก็มีผลต่างให้เรารับรู้เหมือนกัน แล้วแต่ความถนัดความชอบของแต่ละคน


                    คุณMONOLABมีความสามารถด้านการไวร์ริ่ง น่าลองไวร์ริ่งจากขาตัวชิบไอซี(ไม่ผ่านอแดปเตอร์)
                    ดูแล้วน่าจะได้ผลในเรื่องลดตัวแปรภายนอกได้เยอะเลย
                    pcm2706 dir9001 ขาใช้งานจริงๆมีเพียงไม่กี่ขา อะหลั่ยรอบๆก็ไม่เยอะด้วย
                    ผมก็ว่าจะลองเหมือนกัน รอวันไหนมือนิ่งๆ รมณ์สงบๆ จะลองแบบไวร์ริ่งขาpcm2706เล่นดูเหมือนกัน



                    ปริ๊นเอนกประสงค์แบบนี้ก็น่าสนใจเหมือนกัน
                    Last edited by keang; 20 Dec 2011, 12:27:17.

                    Comment


                    • @keang
                      เดี่ยวคงเอาแบบเดิมมาลองการทำงานก่อนน่ะครับ ลองขนาดด้วย ว่าอะไรๆมันทำงานถูกต้อง
                      พรุ่งนี้ถ้าว่าง(ถ้าไม่ติดปาชงปลาชุมอะไร) ก็ว่าจะไปบ้านหม้อซะหน่อย จะเอาไปให้ซีเกทกัดมาลองเล่นดูก่อน
                      ก็ว่าจะไปลองเดินดูกล่องใหม่ด้วย ที่ซื้อมาออกจะเตี้ยไปสักนิด
                      ก็อาจได้จัด layout ใหม่ได้ สำหรับแบบใช้ single op-amp ไม่ยากๆ

                      เห็นด้วยครับว่าส่วนอนาล็อคนี่บานง่ายมาก 555+
                      ส่วนดิจิตอลนี่อะไรๆมันค่อนข้างfix รวมไปถึงค่าของอุปกรณ์ต่างๆด้วย(เล่นอะไรไม่ได้เท่าไหร่)
                      แต่ส่วนอนาล็อคนี่ค่อนข้างยืดหยุ่นนะ ใช้ได้หลากหลายมาก
                      ตัวอย่างแค่ op-amp ก็มีตั้งกะหลัก 5บาท ไปหลักพัน+ ไหนจะ C ไหนจะ R อีก บานนน 555+

                      -------------------------------------------------------
                      คุณkeang พูดถูกแล้วครับ เรื่องการใช้ Transistor drive LED
                      แล้วก็อีกอย่างคือfunction การทำงานก็จำเป็นต้องใช้transistor ด้วย

                      ก็ถือโอกาศอธิบายวงจรส่วนนี้ซะเลย คร่าวๆ
                      - AUDIO (1) OUT CMOS Channel-status data information of non-audio sample word, active-low
                      - ERROR (27) OUT CMOS Indication of internal PLL or data parity error
                      ถ้าการทำงานเป็นปกติ
                      AUDIO -> LOW, ERROR -> LOW
                      มีสิ่งผิดปกติ AUDIO และ/หรือ ERROR จะเป็น HIGH
                      เพราะงั้นถ้าจะให้ LED แสดงสถานะ การทำงาน ปกติ->เขียว, ผิดปกติ->แดง
                      ก็ต้องออกแบบวงจรให้ Green LED ติดเมื่อ AUDIO เป็น LOW
                      Red LED ติดเมื่อ AUDIO และ/หรือ ERROR เป็น HIGH และ Green LED ดับ

                      - เอาในส่วน Red LED ก่อน "AUDIO และ/หรือ ERROR" ง่ายๆก็คือใช้ OR Gate IC เช่น พวก 7432
                      แต่พวกนี้มักจะมาแบบหลายชุด เช่น แบบ DIP-14 ก็มี 4 ชุด จริงๆแบบชุดเดียวก็มีแต่ ขีเกียจหา(หายากหน่อย)
                      ต้องการแค่ชุดเดียว และพอดีต้องใช้ Transistor อยู่แล้วก็ทำ OR Gate ด้วย Transistor ซะ
                      ก็ได้วงจรทางซ้ายเพื่อ drive Red LED

                      - ในส่วน Green LED จะให้ติดเมื่อ AUDIO->LOW ก็ต้อง Drive ด้วย PNP ก็ได้วงจรทางขวา
                      และเพื่อกัน AUDIO กับ ERROR ต่อถึงกัน ก็ต้องหาตัวคั่น ก็ได้ Transistor ทำหน้าที่เป็น diode คั่นไปด้วยเลยในตัว

                      AUDIO จะสัมพันกับ COUT จริงๆก็คล้ายๆเป็นส่วนหนึ่งของ COUT น่ะแหละ
                      แต่ไม่ได้เอาส่วนของ COUT มาใช้งาน ก็ไม่พูดถึงมากละกัน ถ้าสนใจก็ลองไปอ่านรายละเอียดส่วนนี้ใน Datasheet
                      ส่วนของ COUT ได้

                      นอกเหนือจากการที่ต้องใช้Transistor ใน function การทำงาน(ง่ายกว่า)
                      และข้อดีของการใช้ Transistor ในการ drive LED ที่คุณkeang บอกไว้แล้ว
                      ก็จะขยายความเพิ่มนิดนึง
                      วงจร digital จะต้องการความแม่นยำสูง(tolerance ต่ำ) ไม่ชอบกระแส และหรือโวลท์ สูง, ไม่คงที่
                      ไม่เหมือนวงจรAnalog ที่ทนกระแส ทนโวลท์ บางทีจะชอบ กระแสสูง โวลท์สูงด้วยซ้ำ
                      เช่น พวกชิพแอมป์ เป็นต้น หรือ พวก Op-amp ก็รับโวลท์ได้กว้างมาก เช่น +-3V-+-18V เป็นต้น
                      แต่พวก IC digital จะแคบมาก เช่นถ้า Vcc 3.3V ก็varies ได้ไม่เกิน +-0.2V เป็นต้น

                      ดังนั้น การจะเน้นคุณภาพของวงจร Digital คือ จำกัดกระแสที่ผ่านเข้า/ออก IC ให้น้อยเข้าไว้
                      ให้พอที่มันทำงานได้ถูกต้องก็พอ และพยายามรักษาโวลท์ของ IC ไม่ให้กระเพื่อมมากนัก
                      เพราะงั้น การจะDrive LED จาก output ของ IC แม้จะทำได้และไม่ทำให้การทำงานของวงจรผิดพลาดไปนัก
                      แต่ทางที่ดีคือ drive จากกระแสและโวลท์ภายนอก จะดีกว่า เพราะกระแสที่ผ่าน LED ถ้าDriveจากLED โดยตรง
                      ก็คือจะถูกดึงมาจากวงจรภายใน IC นั่นเอง

                      LED ถึงแม้จะกินกระแสไม่มาก จำกัดโดย R คุมกระแส แต่ก็กินขนาด ~2,3mA ขึ้นไปแล้วแต่จะจำกัดที่เท่าไหร่
                      แต่ถ้าเทียบกับตัว IC เองซึ่งกินกระแสต่ำอยู่แล้ว ก็มากอยู่ เช่น IC DIR9001 Icc (supply current) ก็จะอยู่ที่~6mA เท่านั้นเอง

                      จากข้างต้นก็ขยายความอีกนิด จากวงจรที่ทำและคุณkeang พูดถึงไปบ้าง
                      คือ ที่ผมใส่ R ไว้สำหรับ logic HIGH ส่วนหนึ่งก็คือจากเหตุผลข้างต้น และ เป็น Protection + Fault tolerance ไปในตัว

                      IC DIR9001 logic HIGH คือโวลท์มากกว่า 2V ก็ใช้ได้ แต่กระแสต้องต่ำกว่า 10mA
                      เป็น IC พวก CMOS ต้องการแค่กระแสต่ำๆ(หลักuA)ก็พอในการทำงาน เพราะงั้นใส่ R ไว้ก็ไม่มีปัญหา และช่วยจำกัดกระแสไปด้วย

                      ในส่วนของ Volt ก็แล้วแต่ลักษณะของgate ที่ต่อถ้าเป็นแบบ open drain Rที่ต่อก็ไม่มีผลให้ volt drop มากนัก
                      หรือถ้าเป็นแบบ internal pull-down ซึ่งส่วนใหญ่ก็คือใช้ R ภายใน IC ลงกราวด์
                      ส่วนใหญ่ R พวกนี้จะมีค่าสูง ~50k ขึ้นไป เพราะงั้นใช้ R 1.5k ก็ทำให้ Volt drop ไม่เกิน 0.2V
                      สำหรับไฟ 3.3V drop เหลือ 3.1V (>2V)สำหรับค่า Input logic ก็ยังถูกต้อง ไม่มีปัญหาอะไร

                      R ตัวนี้จริงๆจะใส่หรือไม่ใส่ก็ได้ แต่ผมดูแล้วว่าใส่ไว้ดีกว่า มีที่พอใส่และไม่ได้เปลืองอะไรมากนัก
                      เพราะไม่ได้ต้องการ R ระดับแพงมากมายอะไร แค่ R Royal 1/8W ตัวละ 10ตังค์ก็ใช้งานได้พอเพียงแล้วละ
                      ประมาณนี้ละกัน ชักยาว 555+

                      Comment


                      • ช่วงนี้ผมขออ่านอย่างเดียวนะครับ งานเข้าเยอะเหลือเกิน

                        Comment


                        • ผมก็อ่านไปมึนไปมีหลายคำถามแต่เดี๋ยวว่างๆจะมาถามรวบยอดอีกที ขอบคุณนะครับที่เอามาแบ่งปันกัน ^^

                          Comment


                          • เรื่อง TR Driver ต่อหรือไม่ต่อน่าจะแล้วแต่การออกแบบด้วยครับเพราะ CS8412 ไม่ต่อ TR ผมก็ยังเอา TR ไปต่อ
                            ที่บางเจ้าต่อไม่ต่อน่าจะเป็นเรื่องของ ต้นทุนด้วยครับเพราะผลิตปริมาณมากมากมันเซฟได้
                            แต่ถ้าใส่แล้วช่วยในเรื่องกระชากกระแสะได้ก็เป็นเรื่องดี่ที่ควรจะใส่ลงไปครับ พอดีผมชอบลองก่อนแล้วค่อยตามแก้ที่หลัง
                            ขอบคุณ คุณ dracoV นะครับสำหรับข้อมูลดีๆครับ

                            เรื่องขา 1 ต้องทดลองดูนะครับเพราะผมก็อยากรู้ว่าจะให้ขา 1 ทำงานยังไงได้เหมือนกันครับจนปัญญาจริงๆ
                            เพราะลองมาสารพัดอย่างทั้ง Logic driver ทั้ง TR Driver ก็ยังไม่เคยเห็นมันทำงานได้

                            คุณ keang ครับเรื่องปริ๊นเอนกประสงค์ TQFP-32 แบบดาวกระจายไม่ทราบว่าบ้านเรามีขายหรือเปล่าครับ
                            เพราะผมก็หาได้แต่ TQFP-32 แบบ DIP ของ ETT ครับ

                            ส่วนแบบดาวกระจายมันก็มีแต่ TQFP-64 ไปเลยผมมีอยู่ 2 อันครับจะเอาไปใช้โปรเจค TAS3204
                            Last edited by MONOLAB; 20 Dec 2011, 10:48:59.

                            Comment


                            • ในรูปนั้นเป็นปริ๊นของJPยี่ห้อนี้ ราคาสูงสูงพอสมควร


                              บ้านเราเห็นร้านwarfก็มีคล้ายๆแบบนี้ เป็นแบบอแดปเตอร์แปลงTQFP 32 to SIP8x4
                              > P LCC28-50mill/TQFP 32-0.5mm to SIP8x4 : ราคา45บาท

                              P LCC28-50mill/TQFP 32-0.5mm to SIP8x4 - Plated Through Holes

                              - Easy to Replace On-Board
                              - Top layer : LCC28-50mill to SIP
                              - Bottom layer : TQFP32-0.5mm to SIP
                              - Material : FR4
                              - Thickness : 1.6 mm.
                              - Dimensions: 33x38 mm.


                              ที่จริง ถ้าไม่สนเรื่องแปลงฟอรแมท เอาแค่เฉพาะTQFP32อย่างเดียว
                              ฝากคุณdracoVช่วยทำเป็นไฟล์ แล้วใครสนใจก็รวมออเดอร์กัน ส่งให้ร้านซีเกททำpcb น่าจะได้อยู่น่ะ


                              อันนี้เผื่อใครอยากเล่นกับปริ๊นเอนกประสงค์แบบสลอทPCI
                              > PTH FR-4 ขนาด 6.9" X 4.5" with PCI Slot : W Series 10 : ราคา299บาท


                              > PTH FR-4 ขนาด 6.0" X 4.0" : W Series 06 : ราคา199บาท
                              Last edited by keang; 20 Dec 2011, 11:12:11.

                              Comment


                              • อันนี้เผื่อใครอยากเล่นกับปริ๊นเอนกประสงค์แบบสลอทPCI
                                > PTH FR-4 ขนาด 6.9" X 4.5" with PCI Slot : W Series 10 : ราคา299บาท


                                น่าสนใจอ่ะ แต่ไม่รู้ขามันทำอะไรบ้าง อย่างงี้เราก็ทำ soundcard เองได้นะสิ แต่ปัญหาคือจะทำ software Device ให้มันยังไงอ่ะ

                                Comment

                                Working...
                                X