Announcement

Collapse
No announcement yet.

โมให้ดีกันเยอะแล้ว มาม๊ะ....มาโมให้"เจ๊ง"กันดีกว่า

Collapse
X
 
  • Filter
  • Time
  • Show
Clear All
new posts

  • Originally posted by cleaning
    ไม่ต้องการเปลี่ยนแนวเสียงจากเดิมครับ
    ชนิดเดียวกัน แต่คนละยี่ห้อ แนวเสียงก็เปลี่ยนแล้วครับ
    จากinfinityเป็นสไตล์jblยังทำได้เลย

    C ค่า1.5กับ3.3uF แบบnon-polar บ้านเราไม่มียี่ห้อให้เลือก หาอันไหนได้ก็ใส่ไปเถอะครับ


    Originally posted by cleaning
    เรื่องสายผมก็ไม่อยากจะเปลียนไม่อยากจะรื้อครับ สายมันนิ่มแล้วครับตรงเปลื่อกสายครับ เปลือกหุ้มคงหมดอายุครับ
    ฉนวนหุ้มสายหมดอายุ ตัวฉนวนจะแข็งกว่าเดิม ความยืดหยุ่นค่อยๆหมดไป


    Originally posted by ManiacMaew
    มีเทคนิคห่อผ้าด้วย เห็นแล้วนึกถึงซาวน์การ์ดออนเกี่ยว
    เค้าใส่เพื่อกันลวดคลายตัว + ลวดสั่น(ตอนมีไฟไหลผ่านตัวมัน)



    เปลี่ยนCเปลี่ยนสายไฟ ยังงัยเสียงก็เปลี่ยนจากเดิมแน่
    ถ้ายึดหลักไม่อยากเปลี่ยนแนวเสียง เป็นผมคงไม่ยุ่งกะมัน รอให้มันเจ๊งซะก่อน ค่อยไปยุ่งกะมัน
    Last edited by keang; 13 Mar 2012, 16:21:13.

    Comment


    • ไม่อยากเปลื่ยนแนวเสียงก็ไม่ต้องเปลื่ยนอะไรเลยไม่เสียตังด้วย ตามที่พี่ Keang. ว่าละครับ แต่อยากให้มันกลับมาใกล้เคียงกับของใหม่เดิมๆ ท่านจะหาอะไหล่แบบเดิมยาก. และก่อนจะเปลื่ยนอะไหล่แนะนําให้ท่านถ่ายรูปหลายด้านเก็บไว้ครับ เวลาใส่ตัวใหม่จะได้ไม่กลับด้าน

      Comment


      • Originally posted by LoveHifi View Post
        ไม่อยากเปลื่ยนแนวเสียงก็ไม่ต้องเปลื่ยนอะไรเลยไม่เสียตังด้วย ตามที่พี่ Keang. ว่าละครับ แต่อยากให้มันกลับมาใกล้เคียงกับของใหม่เดิมๆ ท่านจะหาอะไหล่แบบเดิมยาก. และก่อนจะเปลื่ยนอะไหล่แนะนําให้ท่านถ่ายรูปหลายด้านเก็บไว้ครับ เวลาใส่ตัวใหม่จะได้ไม่กลับด้าน
        20ปีนี่ C อีเล็กโทไลท์ไม่เสื่อมหรือครับ ถ้าไม่เสื่อมผมไม่เปลี่ยนหรอกครับ
        ที่ผมไม่อยากให้แนวเสียงเปลี่ยนคือไม่ว่าผมจะถามที่ไหน ทุกคนจะบอกว่า C เสียงไม่เหมือนกันนี่แหละประเด็นครับ จะลองผมก็เบื่อที่จะลองแล้วครับ เอาเงินไปจมทิ้งเปล่าๆครับ สุดท้ายอาจจะฟังไม่ออกอีก บ้างครั้งผมก็คิดว่า ปัจจัยการเปลี่ยนของเสียงมันขึ้นอยู่กับเพลงฯลฯ
        ผมพยายามหาข้อมูลทุกๆเว็ปก็บอกว่า อีเล็กโทไลท์ 5-6 ปีมันก็เริ่มเสื่อมแล้วแต่นี่ของผม20ปีแล้วครับ มันไม่แห้งไปแล้วหรือมันเลยเป็นที่มาของการที่จะเปลี่ยนครับ
        และ C ที่จะเปลี่ยนน่าจะเป็นแบบไม่มีขั่วครับ

        ผมขอตอบแบบรวมเลยครับ
        ที่ไม่อยากให้แนวเสียงเปลี่ยนคือ จากนุ่มกล้ายเป็นสดไปเลยแบบนี้คงรับไม่ได้ แต่ก็คงจะเป็นไปได้ยากเหมือนกันถ้าเปลี่ยนแค่ C แล้วใช้ค่าเดิม มันอาจจะเปลี่ยนไปนิดหน่อย บางที่ผมก็คงจะฟังไม่ออก มาคิดอีกที่ก็ไม่น่าจะไปกังวลแล้ว ลำโพงตัวนี้มันเปลี่ยนขอบมาแล้ว ยังไงมันก็ไม่เหมือนเดิมอยู่แล้ว อายุมัน20ปี ตัวแม่เหล็กฯลฯ ก็คงไม่เหมือนเดิม
        แบบนี้ผมคงไม่ต้องห่วงกังวลไปเปล่าๆ อีกอย่างผมเองประสบกราณ์มากครับ เปลี่ยนไปผมก็คงฟังไม่ออก ขนานเปลี่ยน R 5% ไปเป็นตัวละ150 บาทผมนอนฟังตะแคงฟังยังฟังไม่ออกเลย 555

        บางที่ผมก็ลืมไปครับ และก็ไม่รู้ด้วยว่าเสียงเดิมลำโพงตัวนี้เป็นอย่างไร และปัจจุบันเสียงทุกวันนี้เป็นเสียงเดิมของมันหรือไม่ เพราะมันผ่านมา20ปี ผมเองก็พึ่งได้มาและเอาไปซ่อมขอบลำโพง
        ถ้าเปลี่ยนแล้วดีขึ้นเพราะของใหม่ลงไปผมก็โชดดีไป แต่คิดว่ามันไม่น่าจะแย่และเปลียนเสียงไป ก็หวังว่าจะเป็นอย่างนั้นครับ

        แก้ไขคุณ keang หน่อยครับ C ค่า 15uf กับ 3.3uf ครับ ผมหาดูแบบไม่มีขั่วก็เห็นมีแต่ของ BENNIC แดง ครับ ที่คล้ายของเดิม ผมดูจากเว็ปนัฐพงษ์ครับ
        Last edited by cleaning; 13 Mar 2012, 18:17:16.

        Comment


        • อะหลั่ยใช้มา20ปี มันเสื่อมแล้ว และยืนยันว่าเสื่อมแน่นอน
          แต่โจทย์ที่คุณตั้ง คือ ไม่อยากให้แนวเสียงเปลี่ยนไป อันนี้แหล่ะที่มันหินมาก

          ตอบง่ายแต่ทำยาก คือ ไปหาอะหลั่ยยี่ห้อเดิมและรุ่นเดิมมาเปลี่ยน ก็จะได้ใกล้เคียงของเดิมมากที่สุด
          ( อย่าลืมว่า 20ปีผ่านไป มันคงไม่ผลิตโรงงานเดิม มันคงไม่ใช่วัสดุส่วนประกอบภายในที่เป็นของเดิมที่ใช้ผลิตเมื่อ20ปีก่อนแน่นอน )

          จากเหตุผลด้านบน ผมก็เลยทักไปว่า ถ้าคิดจะเปลี่ยน คุณก็ต้องทำใจกับเสียงที่เปลี่ยนไปด้วย เว้นเสียแต่ว่าคุณจะฟังไม่ออก


          ---------------------------------------


          Originally posted by cleaning
          แก้ไขคุณ keang หน่อยครับ C ค่า 15uf กับ 3.3uf ครับ ผมหาดูแบบไม่มีขั่วก็เห็นมีแต่ของ BENNIC แดง ครับ ที่คล้ายของเดิม ผมดูจากเว็ปนัฐพงษ์ครับ
          บอกตามตรง ผมมีข้อมูลเรื่องร้านขายCชนิดอิเลคทรอไลติคแบบnon-polarในบ้านเราน้อยมากครับ
          เพราะที่เคยๆเดินดู ยังไม่เห็นตัวที่มันให้เสียงแนวที่ผมชอบได้เลย

          Cยี่ห้อที่ติดมากับตัวลำโพง เสื่อก่อนเค้าก็ไม่ได้ใช้ยี่ห้อนี้ด้วย ผมก็เลยไม่รู้จะช่วยเดาแนวเสียงCตัวนี้ยังงัยเหมือนกัน
          สรุปก็เลยไม่รู้ว่า Cที่มีขายในบ้านเรา มีตัวไหนที่มันให้เสียงใกล้เคียงกับCตัวนั้นได้บ้าง

          - ก่อนหน้านี้ ผมเห็นคุณdracoVกับคุณเสือ โพสรูปCของRubyconแบบNon-polar เป็นแบบCตัวนอน สีเทาอ่อน
          - Bennic ก็เป็นของดีมีคุณภาพน่ะ มีลำโพงแบรนด์หลายยี่ห้อเอาไปใช้ แต่มันคนละรุ่นกับที่มีขายบ้านเรา


          ---------------------------------------


          Originally posted by cleaning
          เปลี่ยนไปผมก็คงฟังไม่ออก ขนาดเปลี่ยน R 5% ไปเป็นตัวละ150 บาทผมนอนฟังตะแคงฟังยังฟังไม่ออกเลย 555
          ถ้าจำไม่ผิด เวปนู้นเค้าก็แนะนำคุณ ถ้าคุณอยากฟังออกให้ไปบ้านเค้า แล้วเค้าจะชี้จุดสังเกตุให้คุณลองฟัง
          เหมือนเหตุการณ์ก่อนหน้านั้น ที่คุณฟังแล้วแยกไม่ออก แต่พอเค้าชี้จุดสังเกตุให้คุณ คุณก็สามารถบอกความแตกต่างได้

          หากเราไม่มีจุดสังเกตุ ยังงัยก็ฟังยากครับ และ เมื่อไม่หัดสังเกตุ ก็จะขาดการพัฒนาการฟังไปโดยปริยาย
          Last edited by keang; 13 Mar 2012, 18:32:52.

          Comment


          • Originally posted by keang View Post
            อะหลั่ยใช้มา20ปี มันเสื่อมแล้ว แล้วเสื่อมแน่นอน แต่โจทย์ที่คุณตั้ง คือ ไม่อยากให้แนวเสียงเปลี่ยนไป

            ตอบง่ายแต่ทำยาก คือ ไปหาอะหลั่ยยี่ห้อเดิมและรุ่นเดิมมาเปลี่ยน ก็จะได้ใกล้เคียงของเดิมมากที่สุด
            ( อย่าลืมว่า 20ปีผ่านไป มันคงไม่ผลิตโรงงานเดิม มันคงไม่ใช่วัสดุส่วนประกอบภายในที่เป็นของเดิมที่ใช้ผลิตเมื่อ20ปีก่อนแน่นอน )

            จากเหตุผลด้านบน ผมก็เลยทักไปว่า ถ้าคิดจะเปลี่ยน คุณก็ต้องทำใจกับเสียงที่เปลี่ยนไปด้วย เว้นเสียแต่ว่าคุณจะฟังไม่ออก
            ขอบคุณมากครับ ผมคงจะสื่อสารผิดครับ ไม่อยากให้แนวเสียงเปลียนคือว่า จากโปร่งนุ่ม กล้ายเป็นสดแสบจัด ประมาณนี้ครับ
            ถ้ามันต่างกว่าเดิมนิดสัก10% ผมไม่มีปัญหาครับ และผมก็คงจะฟังไม่ออกครับ เพราะฟังแต่ละวันผมก็เปลียนเพลงไปเรื่อยปรับโวลุ่มไม่เท่ากันสักวันฯลฯอีกครบ

            ผมคงจะใช้ BENNIC แดง ครับ คุณkeang คิดว่าอย่างไรครับกับ C ตัวนี้ครับ มันเป็น BP น่าจะเหมือนกับที่อยู่ในลำโพงมาครับ
            ผมได้แต่หวังว่าเป็นของใหม่มันน่าจะดีกว่าเดิมที่น่าจะเสื่อมไปครับ
            จะใช้พวก C ฟิมล์ตัวมันก็ใหญ่ครับ ผมมีของ Clarity Cap ค่า3.3 อยุ่คู่ครับ แต่ตัวมันใหญ่มากครับ ถ้าวัดกันตามเกรดมันน่าจะดีกว่าอีเล็คโทไลท์มากนะครับ
            และแนวเสียงของ Clarity ไม่น่าจะสดจัดแสบนะครับ

            และการที่เราใช้ C ERO(สีเขียว) 10uf ขนานด้วยอีกยี่ห้อ 4.7uf(ยีห้อMKP2000 สีขาว) และbicap ด้วย silver mica 0.7 รวมๆกันแล้วมันจะเกือบ 15uf แบบนี้แนวเสียงมันจะไปทางตัวไหนครับ

            ที่ผมไม่อยากไปฟังบ้านคนอื่นเพราะว่าชุดฟังไม่เหมือนกันครับ ฟังของเขาเพาะดีมาฟังของผมไม่ได้เรื่องจะพลานไม่ฟังของตัวเองไปอีกครับ ผมคงต้องทดลองเองครับ ผมก็แค่มาถามแนวเสียงของ Bennic ครับ เพราะว่ามันมีค่าที่ตรงกับของผมครับ
            คือผมจะปรับแนวเสียงจากแอมป์ หรือปรี เอาครับผมจะไม่ปรับจากลำโพงครับ ผมแค่ว่าเปลี่ยนแล้วจบเลยครับ ไม่โมไม่เปลี่ยนอีกต่อไปครับ ผมจะไปปรับเสียงตรงแอมป์เข้าหาลำโพงครับ

            และที่ผมแปลกใจครับว่าลำโพงราคา เป็นแสน ยังใช้ Rกระเบื้องเลยครับ ทั้งที่เขาสามารถใช้R ราคา100 ได้ผมว่าไม่น่าจะใช่เรื่องค่าใช้จ่ายอย่างเดียวมันคงต้องมีเหตุผล เขาอาจจะไม่เน้นไม่สนเรื่อง C R เพราะว่าเขาเน้นไปที่ตัวดอกลำโพง ตู้ลำโพงของ ลำโพงราคาเป็น10000หลายหมื่น แต่ใช้ชุด C R ไม่ถึง100 ถ้ามันมีผลต่อเสียงจริงๆทำไมเขาไม่เล่นกันตรงจุดนี้ ไม่น่าจะเกี่ยวกับค่าใช้จ่าย ค่าโฆษณายังมากกว่าค่า C R เลยครับ ผมเห็นเปิดลำโพงมา R กระเบื้องกันทั้งนั้นเลย C ก็ใช้อีเล็กโทไลท์ซึ่งหลายท่านบอกว่าไม่ค่อยดี ก็แปลกในแอมป์ราคาหลายแสนก็ใช้อีเล็คโทไลท์ ลำโพง onkyo ผมก็ใช้อีเล็คโทไลท์ ค่า1.5 ทั้งๆที่ใช้ฟิลม์ก็ได้ทำไมเขาไม่ใช่ หรือว่าเขาไม่สนเรื่องตรงนี้เขาแข่งกันตรงการออกแบบตู้ การออกแบบตัวดอก
            ตรงจุดนี้ผมแค่สงสัยครับ
            Last edited by cleaning; 13 Mar 2012, 18:36:20.

            Comment


            • Originally posted by cleaning
              ผมมีของ Clarity Cap ค่า3.3 อยุ่คู่ครับ แต่ตัวมันใหญ่มากครับ ถ้าวัดกันตามเกรดมันน่าจะดีกว่าอีเล็คโทไลท์มากนะครับ
              Cฟิลม์หลายๆยี่ห้อ ดีกว่าบางส่วน ดีกว่าหลายๆส่วน แต่ไม่ใช่ดีกว่าทุกส่วน ไม่ใช่ดีกว่าทั้งหมด
              เพราะ เรื่องเสียงทุ้ม ยังงัยCฟิลม์ก็ให้น้ำหนักเสียงทุ้มสู้Cแบบอิเลคทรอไลติคไม่ได้


              ถ้าสังเกตุดีๆ ผมจะเลี่ยงการใช้คำว่า อะไรดีกว่าอะไร
              เพราะ มันไม่มีอะไรที่ดีกว่าทุกอย่าง เมื่อพิจารณาในรายละเอียดแบบมีเงื่อนไขที่ต้องนำมาคิดเปรียบเทียบกันด้วย


              -------------------------------------------------------


              Originally posted by cleaning
              การที่เราใช้ C ERO(สีเขียว) 10uf ขนานด้วยอีกยี่ห้อ 4.7uf(ยีห้อMKP2000 สีขาว) และbicap ด้วย silver mica 0.7 รวมๆกันแล้วมันจะเกือบ 15uf แบบนี้แนวเสียงมันจะไปทางตัวไหนครับ
              "แบบนี้แนวเสียงมันจะไปทางตัวไหนครับ"
              จะให้ผมตอบเสียงช่วงไหนละครับ ทุ้ม, กลาง, แหลม


              เอางี้ดีกว่า ผมบอกแนวให้คุณไปคิดขยายผลต่อด้วยตัวเอง เพื่ออนาคตคุณจะได้รู้ได้ด้วยตัวเอง
              "Cค่ามาก ให้เสียงช่วงไหนได้ดีกว่า Cค่าน้อย" , "Cค่าน้อย ให้เสียงช่วงไหนได้ดีกว่า Cค่ามาก"
              คำตอบมันจะตอบคำถามที่คุณถามได้หมดเลย

              Cแต่ละช่วงค่าความจุ มันตอบสนองความถี่ได้ไม่เท่ากัน
              เค้าเลยต้องเอาCหลายๆค่ามาต่อขนานไบแคปกันเข้าไป เพื่อหวังชดเชยเสียง เผื่อว่ามันจะฟลุ๊คได้อย่างจินตนาการ

              ถ้าจะไบแคปจริงๆ คุณต้องไปเลือกด้วยว่า จะเอายี่ห้อไรรุ่นไรมาทำCตัวหลัก ยี่ห้อไรรุ่นไรมาทำตัวไบแคป
              แล้วก็ต้องดูในรายละเอียดปลีกย่อยด้วย ว่า Cแต่ละตัวที่เอามาต่อขนานไบแคปเข้าไป มันมีเสียงช่วงไหนที่มันมีตรงกัน เพราะพอมันเอามาต่อรวมกันมันจะไปเพิ่มปริมาณเสียงช่วงนั้นขึ้นมามากกว่าปรกติด้วย

              และที่สำคัญ คุณต้องรู้ด้วยว่า เสียงของตัววงจรในจุดนั้น จริงๆมันเป็นแบบไหน
              เพราะ ถ้าไม่รู้ แต่พยายามจะดัดแปลงเสียงนู่นนี่ไปเรื่อย มันจะกลายเป็นการมั่วเสียงไปโดยปริยาย



              เรื่องไบแคปหรือขนานCกันหลายๆตัว ส่วนใหญ่จะพรรณาใช้คำสวยหรูเฉพาะแต่ส่วนดี
              แต่เลือกที่จะหลีกเลี่ยงพูดถึงผลกระทบด้านลบ ที่ต้องเกิดตามมาด้วยแน่นอน


              -------------------------------------------------------


              Originally posted by cleaning
              และที่ผมแปลกใจครับว่าลำโพงราคา เป็นแสน ยังใช้ Rกระเบื้องเลยครับ ทั้งที่เขาสามารถใช้R ราคา100 ได้ผมว่าไม่น่าจะใช่เรื่องค่าใช้จ่ายอย่างเดียวมันคงต้องมีเหตุผล เขาอาจจะไม่เน้นไม่สนเรื่อง C R เพราะว่าเขาเน้นไปที่ตัวดอกลำโพง ตู้ลำโพงของ ลำโพงราคาเป็น10000หลายหมื่น แต่ใช้ชุด C R ไม่ถึง100 ถ้ามันมีผลต่อเสียงจริงๆทำไมเขาไม่เล่นกันตรงจุดนี้ ไม่น่าจะเกี่ยวกับค่าใช้จ่าย ค่าโฆษณายังมากกว่าค่า C R เลยครับ ผมเห็นเปิดลำโพงมา R กระเบื้องกันทั้งนั้นเลย C ก็ใช้อีเล็กโทไลท์ซึ่งหลายท่านบอกว่าไม่ค่อยดี ก็แปลกในแอมป์ราคาหลายแสนก็ใช้อีเล็คโทไลท์ ลำโพง onkyo ผมก็ใช้อีเล็คโทไลท์ ค่า1.5 ทั้งๆที่ใช้ฟิลม์ก็ได้ทำไมเขาไม่ใช่ หรือว่าเขาไม่สนเรื่องตรงนี้เขาแข่งกันตรงการออกแบบตู้ การออกแบบตัวดอก
              ตรงจุดนี้ผมแค่สงสัยครับ
              มันมีทั้งแบบ ยี่ห้อที่ใช้อะหลั่ยธรรมดา มีทั้งแบบยี่ห้อที่ใช้การอะหลั่ยเกรดพิเศษ
              อยู่ที่ผู้ผลิตจะทำแบบไหนมาขาย อยู่ที่จุดยืนของเค้าว่าจะเอาไรเป็นจุดขาย

              เรื่องอะหลั่ย ผมเคยบอกเสมอว่า อะหลั่ยห่วยๆทุกตัว มีเสียงบางเสียงที่อะหลั่ยแสนแพงมันให้ไม่ได้ มันไม่มีในจุดนั้น
              มันก็ขึ้นอยู่กับผู้ผลิตว่า ถ้าเค้าต้องการเสียงที่จุดนั้น เค้าจะเอาอะไรมายำรวมกันให้มันได้จุดนั้น

              Cเซอรามิคหรือที่บางคนเรียกCอีแปะ ที่บางคนพอเห็นอยู่ในเครื่องไหนแล้วใจสะท้าน ต้องรีบถอดทิ้งทันที
              Cตัวนี้มีเสียงบางช่วงที่ดีกว่าพวกซิลเวอร์ไมก้าซะอีก

              Cไมล่าร์ตัวเขียวๆ ที่บางคนพอเห็นอยู่ในเครื่องไหนแล้วใจสะท้าน ต้องรีบถอดทิ้งทันที
              Cตัวนี้มีเสียงบางช่วงที่ดีกว่าพวกโพรลี่โพรไพรีนซะอีก

              CเซรามิคแบบSMD ที่บางคนพอเห็นอยู่ในเครื่องไหนแล้วใจสะท้าน ต้องรีบถอดทิ้งทันที
              Cตัวนี้มีเสียงบางช่วงที่ดีกว่าพวกมีขาแถมตัวใหญ่ๆซะอีก

              Cแบบโซลิดจะเป็นแบบSMDหรือแบบมีขา ที่บางคนพอเห็นอยู่ในเครื่องไหนแล้วใจสะท้าน ต้องรีบถอดทิ้งทันที
              Cตัวนี้มีเสียงบางช่วงที่ดีกว่าพวกตัวใหญ่ๆซะอีก

              Cอิเลคทรอไลติครุ่นโบราณดึกดำบรรพเป็นHIGH-ESR ที่บางคนพอเห็นอยู่ในเครื่องไหนแล้วใจสะท้าน ต้องรีบถอดทิ้งทันที
              Cตัวนี้มีเสียงบางช่วงที่ดีกว่าพวกLOW-ESRหรือULTRA LOW-ESRซะอีก

              ไม่รู้หมดทุกประเภทยัง เริ่มมึนละ



              ตัวอย่างง่ายๆ
              ตราบใดที่คุณสามารถวิเคราะได้ว่า Rยี่ห้อRoyal(ราคาไม่เกินตัวละ1บาท) มีจุดเด่นทางเสียงตรงไหน มีจุด้ดอยทางเสียงตรงไหน
              เมื่อคุณต้องการใช้จุดเด่นนี้ คุณสามารถเอาจุดเด่นของRoyalไปใช้งานได้มากแค่ไหน โดยไม่เอาเสียงจุดด้อยของRoyalเป็นของแถมติดไปด้วย
              อันนี้ คือ " KNOW HOW "
              Last edited by keang; 13 Mar 2012, 19:44:05.

              Comment


              • คุณ keang ตอบผมชอบครับตรงประเด็นครับได้ความรู้ครับ
                ผมก็สังเกตุว่าฟิลม์มันจะใสโปร่งกว่าครับ มันน่าจะเกิดจากคุณภาพที่ดี การผลิตใช้อุปกรณ์ด้านในดีกว่าอีเล็กทำให้สัญญานเดินได้สะดวกทำให้ได้สัญญานที่ดีชัดเจนแต่ที่ไม่เหมาะกับบางลำโพงน่าจะมีเหตุผลตรงที่ว่า ลำโพงตัวนั้นมีแนวเสียงโปร่งสดจะแจ้ง พอเราเสริมฟิลม์ก็เท่ากับเพิ่มความโปร่งความใส ซึ่งบางคนก็ไม่ชอบเช่นผมเป็นต้นผมชอบนุ่มนวล ผมก็เคยลองมาหลาย C ฟิลม์เหมือนแบบที่คุณkeang ว่ามาเลยครับ
                แบบนี้ผมคงต้องเล่นอีเล็คเพราะผมเน้นทุ้มนุ่ม
                ก็อย่างว่าครับการจัดชุดให้เข้ากันมันยากมากเลยครับกว่าจะลงตัว พอเปลี่ยนอะไรหน่อยมันก็เปลี่ยนแปลงไปแล้ว เพราะชุดที่มันลงตัวอยู่แล้ว

                การผสมC คงต้องคนที่ชำนาญนะครับที่จะทำได้ มือใหม่อย่างผมคงจะมั่วจริงๆผมไม่อยากผสมครับ เพราะหาจุดลงตัวยาก แต่มันติดกับเรื่อง ฟิลม์ดีกว่าอีเล็กนี่แหละครับราคาก็ต่างกันลิปๆมันก็ต้องมีเหตุผลบ้าง

                ที่ผมคิดไว้คือ ไปหา เบนนิค แดง ถ้ามีค่าตรง
                ถ้าไม่มีผมก็จะลอง เบนนิค ดำ
                แต่ยังไงก็คงต้องเปลี่ยนครับเพราะว่า 20ปีนี่ยังไงมันก็ต้องเสื่อม และทุกวันนี้ที่ผมฟังๆอยู่ๆมันอาจจะเสื่อมและไม่ใช่ตัวตนที่แท้จริงของมันก็ได้ครับ ถ้า C มันมีผลต่อเสียงจริงๆ มันย่อมเพื้ยนกว่าเดิมอยู่แล้วถูกต้องนะครับตรงนี้
                Last edited by cleaning; 13 Mar 2012, 19:16:29.

                Comment


                • หาแบบnon-polarไม่ได้ ก็ใช้แบบมีขั้วมาทำเป็นแบบbi=polarก็ได้
                  จากของเดิม1ตัว กลายเป็น2ตัวก็เปลืองที่หน่อย แต่ยังพอหาCเพื่อเลือกแนวเสียงได้บ้าง

                  ดูจากแนวเสียงของอินฟินิตี้ บ้านเราที่พอหาได้หน่อยน่าจะเป็นCของPhilipsหรือBC เน้นว่าต้องเป็นตัวสีฟ้าน่ะครับ สีอื่นเสียงมันคนละแนว



                  ส่วนCฟิลม์ ถ้ายังคิดจะลอง ให้ลองHovland MusiCaps
                  เสียงทุ้มกลางแหลมจะหนานุ่มแต่มีรายละเอียด กลางกับแหลมไม่สดไม่คม









                  Hovland จะแยกCสำหรับงาน2ประเภท ทางผ่านสัญญาณเสียงในเครื่อง กับ ในลำโพง
                  - ใช้กับตัวเครื่อง จะเป็นขาสายไฟฉนวน สีแดง, สีเขียว
                  - ใช้กับลำโพง จะเป็นขาสายไฟฉนวน ขาวใส (ราคาถูกกว่า)


                  > Hovland high end speaker crossover capacitors: 8uF 100V
                  Price: US $39.99

                  > Musicap Film & Foil Capacitor .047uf 600V +/- 5%
                  Price: US $14.95
                  Last edited by keang; 13 Mar 2012, 20:15:47.

                  Comment


                  • Originally posted by cleaning View Post
                    คุณ keang ตอบผมชอบครับตรงประเด็นครับได้ความรู้ครับ
                    ผมก็สังเกตุว่าฟิลม์มันจะใสโปร่งกว่าครับ มันน่าจะเกิดจากคุณภาพที่ดี การผลิตใช้อุปกรณ์ด้านในดีกว่าอีเล็กทำให้สัญญานเดินได้สะดวกทำให้ได้สัญญานที่ดีชัดเจนแต่ที่ไม่เหมาะกับบางลำโพงน่าจะมีเหตุผลตรงที่ว่า ลำโพงตัวนั้นมีแนวเสียงโปร่งสดจะแจ้ง พอเราเสริมฟิลม์ก็เท่ากับเพิ่มความโปร่งความใส ซึ่งบางคนก็ไม่ชอบเช่นผมเป็นต้นผมชอบนุ่มนวล ผมก็เคยลองมาหลาย C ฟิลม์เหมือนแบบที่คุณkeang ว่ามาเลยครับ
                    แบบนี้ผมคงต้องเล่นอีเล็คเพราะผมเน้นทุ้มนุ่ม
                    ก็อย่างว่าครับการจัดชุดให้เข้ากันมันยากมากเลยครับกว่าจะลงตัว พอเปลี่ยนอะไรหน่อยมันก็เปลี่ยนแปลงไปแล้ว เพราะชุดที่มันลงตัวอยู่แล้ว

                    การผสมC คงต้องคนที่ชำนาญนะครับที่จะทำได้ มือใหม่อย่างผมคงจะมั่วจริงๆผมไม่อยากผสมครับ เพราะหาจุดลงตัวยาก แต่มันติดกับเรื่อง ฟิลม์ดีกว่าอีเล็กนี่แหละครับราคาก็ต่างกันลิปๆมันก็ต้องมีเหตุผลบ้าง

                    ที่ผมคิดไว้คือ ไปหา เบนนิค แดง ถ้ามีค่าตรง
                    ถ้าไม่มีผมก็จะลอง เบนนิค ดำ
                    แต่ยังไงก็คงต้องเปลี่ยนครับเพราะว่า 20ปีนี่ยังไงมันก็ต้องเสื่อม และทุกวันนี้ที่ผมฟังๆอยู่ๆมันอาจจะเสื่อมและไม่ใช่ตัวตนที่แท้จริงของมันก็ได้ครับ ถ้า C มันมีผลต่อเสียงจริงๆ มันย่อมเพื้ยนกว่าเดิมอยู่แล้วถูกต้องนะครับตรงนี้
                    ไม่ลองก็ไม่รู้ ไม่มั่วก็ไม่มีถูก ไม่ทำก็ไม่เป็น
                    ผมละมั่วประจำ ผสม C


                    Originally posted by dracoV View Post
                    ภาษาปะกิดเขาว่า "Learning by Doing"

                    Comment


                    • พี่เสือผสมได้แต่น่าผสมในแอมป์ครับและในแอมป์ผสมกันไม่รู้กี่ชนิดแต่ในลำโพงผมว่าไม่น่าผสมครับ

                      หาแบบnon-polarไม่ได้ ก็ใช้แบบมีขั้วมาทำเป็นแบบbi=polarก็ได้
                      วิธีทำอย่างไรครับ ผมกลัวว่านัฐพงษ์เซียร์จะไม่มีของครับ ของไม่ค่อยจะมีเลยสาขานี้ครับ
                      ทำแบบที่คุณ keang ว่าทำอย่างไรครับ เพราะพวกมีขั่วมันมีเยอะดีครับสามารถเลือกเกรดได้เยอะกว่าครับ
                      เรื่อง C ฟิมล์ผมไม่กล้าลงทุนแล้วครับ ลำโพงผมราคาไม่แพงผมไม่อยากจะลงกับมันมากครับ เข็ดตั้งแต่ตอนทำ psb b1 ครับหมดค่า C R ไป3พันกว่าๆครับ
                      สุดท้ายแทบไม่ได้อะไรเลยครับ ครั้งนี้ผมถึงอยากจะเปลี่ยนแล้วจบ ไม่เน้นแนวเสียงจาก C ไปผสมจริงๆผมอยากจะได้ C ที่มีค่ากลางๆ ผมไปอ่านเจอเว็ปไหนจำไม่ได้แล้วครับ เขาเอาเครื่องวัดๆ C ปรากฏว่า wima bennic เท่านั้นวัดออกมาได้เป็น0 นอกนั้นยี้ห้ออื่นๆจะมีเลขครับมีตารางให้ดูด้วยครับ ตัวที่เป็นกลางที่สุดคือไม่มีผลเปลีย่นกับเป็น C ราคาถูกๆครับ
                      Last edited by cleaning; 13 Mar 2012, 20:37:27.

                      Comment


                      • น้าคลีน ...เรียกผมพี่เลย...555+
                        ผมอ่อนกว่าน้าเยอะครับ ...เรียกชื่อเฉย...ครับ
                        เดี๋ยวขี้กลากจะกินกะบาลผม
                        -------
                        C มันก็แค่ ทางผ่าน ไฟฟ้า จะในลำโพง ในแอมป์มันก็เหมือนกัน
                        อยู่ที่เราเอามาใช้มากกว่า
                        c ฟาร์ม ใช้ได้แต่ ชุดไฟเท่านั้นหรือครับ
                        เอามาทำ C Coupling บ้าง หรือ ครอส บ้าง จะผิดมั๊ยนี่
                        อย่าให้ข้อกำหนด มาบีบแนวคิดและจินตนาการ
                        แบบนั้นจะไม่มีการพลิกแพลง หรือพัฒนา ได้เพียงทำตามๆกันไปเท่านั้นครับ
                        บางอย่างอาจจะดีหรือไม่ดีก็ได้....ไม่ลองไม่มีทางรู้ครับ
                        ------------
                        อย่าง คลอสใน ลำโพง เค้าใช้อุปกรณ์น้อยที่สุด
                        เพราะมีแรงอักอากาศในตัวลำโพง
                        มันเรื่องมากนัก ก็ถอดเอาไว้ข้างนอก
                        ลำโพง 2 ทางก็เพิ่ม เบ้ารับสายเป็นชุด
                        เอาคลอสมาไว้ข้างนอก เหลือแต่ลำโพงเพียวๆ
                        จั๊มให้ถูกชุดก็ได้เหมือนกัน
                        ----------
                        อันนี้เห็นว่าแน่นหนาดี
                        http://www.youtube.com/watch?v=oGXQC...eature=related

                        เห็นแล้วน่าทำจริงๆเลย
                        Last edited by tiger X-fi; 13 Mar 2012, 21:55:38.

                        Comment


                        • ถามดักไว้ก่อน
                          ดูจากแนวเสียงของอินฟินิตี้ บ้านเราที่พอหาได้หน่อยน่าจะเป็นCของPhilipsหรือBC เน้นว่าต้องเป็นตัวสีฟ้าน่ะครับ สีอื่นเสียงมันคนละแนว
                          ตัวแบบนี้

                          หรือตัวแบบนี้

                          Comment


                          • Originally posted by LoveHifi View Post
                            ไม่อยากเปลื่ยนแนวเสียงก็ไม่ต้องเปลื่ยนอะไรเลยไม่เสียตังด้วย ตามที่พี่ Keang. ว่าละครับ แต่อยากให้มันกลับมาใกล้เคียงกับของใหม่เดิมๆ ท่านจะหาอะไหล่แบบเดิมยาก. และก่อนจะเปลื่ยนอะไหล่แนะนําให้ท่านถ่ายรูปหลายด้านเก็บไว้ครับ เวลาใส่ตัวใหม่จะได้ไม่กลับด้าน
                            Originally posted by cleaning View Post
                            20ปีนี่ C อีเล็กโทไลท์ไม่เสื่อมหรือครับ ถ้าไม่เสื่อมผมไม่เปลี่ยนหรอกครับ
                            ที่ผมไม่อยากให้แนวเสียงเปลี่ยนคือไม่ว่าผมจะถามที่ไหน ทุกคนจะบอกว่า C เสียงไม่เหมือนกันนี่แหละประเด็นครับ จะลองผมก็เบื่อที่จะลองแล้วครับ เอาเงินไปจมทิ้งเปล่าๆครับ สุดท้ายอาจจะฟังไม่ออกอีก บ้างครั้งผมก็คิดว่า ปัจจัยการเปลี่ยนของเสียงมันขึ้นอยู่กับเพลงฯลฯ
                            ผมพยายามหาข้อมูลทุกๆเว็ปก็บอกว่า อีเล็กโทไลท์ 5-6 ปีมันก็เริ่มเสื่อมแล้วแต่นี่ของผม20ปีแล้วครับ มันไม่แห้งไปแล้วหรือมันเลยเป็นที่มาของการที่จะเปลี่ยนครับ
                            และ C ที่จะเปลี่ยนน่าจะเป็นแบบไม่มีขั่วครับ

                            ผมขอตอบแบบรวมเลยครับ
                            ที่ไม่อยากให้แนวเสียงเปลี่ยนคือ จากนุ่มกล้ายเป็นสดไปเลยแบบนี้คงรับไม่ได้ แต่ก็คงจะเป็นไปได้ยากเหมือนกันถ้าเปลี่ยนแค่ C แล้วใช้ค่าเดิม มันอาจจะเปลี่ยนไปนิดหน่อย บางที่ผมก็คงจะฟังไม่ออก มาคิดอีกที่ก็ไม่น่าจะไปกังวลแล้ว ลำโพงตัวนี้มันเปลี่ยนขอบมาแล้ว ยังไงมันก็ไม่เหมือนเดิมอยู่แล้ว อายุมัน20ปี ตัวแม่เหล็กฯลฯ ก็คงไม่เหมือนเดิม
                            แบบนี้ผมคงไม่ต้องห่วงกังวลไปเปล่าๆ อีกอย่างผมเองประสบกราณ์มากครับ เปลี่ยนไปผมก็คงฟังไม่ออก ขนานเปลี่ยน R 5% ไปเป็นตัวละ150 บาทผมนอนฟังตะแคงฟังยังฟังไม่ออกเลย 555

                            บางที่ผมก็ลืมไปครับ และก็ไม่รู้ด้วยว่าเสียงเดิมลำโพงตัวนี้เป็นอย่างไร และปัจจุบันเสียงทุกวันนี้เป็นเสียงเดิมของมันหรือไม่ เพราะมันผ่านมา20ปี ผมเองก็พึ่งได้มาและเอาไปซ่อมขอบลำโพง
                            ถ้าเปลี่ยนแล้วดีขึ้นเพราะของใหม่ลงไปผมก็โชดดีไป แต่คิดว่ามันไม่น่าจะแย่และเปลียนเสียงไป ก็หวังว่าจะเป็นอย่างนั้นครับ

                            แก้ไขคุณ keang หน่อยครับ C ค่า 15uf กับ 3.3uf ครับ ผมหาดูแบบไม่มีขั่วก็เห็นมีแต่ของ BENNIC แดง ครับ ที่คล้ายของเดิม ผมดูจากเว็ปนัฐพงษ์ครับ
                            อ่านแล้วแปลกๆ ผมบอกว่า C มันไม่เสื่อมด้วยหรอครับแค่แนะนำไปว่าถ้าอยากได้แบบเดิมๆก็หา C แบบเดิมเท่านั้นเองครับ แต่ท่านจะหาได้รึเปล่า เพราะดูแล้วถ้าเปลื่ยนไม่ใช่แบบเดิมท่านจะได้เสียงไม่ถูกใจและไม่จบ เสียตังต่อไปเรื่อยๆ ด้วยความหวังดีแต่ถ้าแนะนำไปแล้วไม่เกิดประโยชน์ก็ขออภัยด้วยครับ

                            Comment


                            • Originally posted by ManiacMaew
                              ถามดักไว้ก่อน
                              หรือตัวแบบนี้
                              ตามนี้ครับ

                              Comment


                              • Originally posted by keang View Post
                                ตามนี้ครับ
                                แต่คงจะหาค่าตามที่ผมต้องการมีหรอเปล่าเท่านั้นครับบ้านหม้อมีไหมครับ ถ้ามีจะได้ลงทุนนั่งรถยอมเสียเวลาไปสักวันครับ แต่ก็ท้อรถติดจังเลยครับและถ้าไปบ้านหม้อทั้งที่ต้องช๊อปกระจายถึงจะคุ้มครับ

                                คุณ Lovehifi มีประโยชน์ครับคำแนะนำทุกท่าน แต่บางที่ความคิดเห็นมันก็แตกต่างครับ และผมคงจะสื่อความหมายผิดพลาดไปครับ
                                จริงๆก็ไม่รู้เลยว่าแนวเสียงเดิมมันเป็นอย่างไร แต่ตอนที่ทำมาใหม่ๆเมื่อสัก 1 เดือนที่ผ่านมาผมว่าเสียงมันดีกว่านี้คับ หรือว่าผมฟังมันจนชินไปแล้ว เลยฟังไม่แตกต่าง ครั้งแรกที่เปิดผมว่ามันนุ่มกว่าตอนนี้ ตอนนี้มันชักหายนุ่มก็แปลกจังยังไม่เคยทำอะไรกับมันเลยครับ
                                ใจผมๆอยากจะเปลี่ยนครับแต่เปลี่ยนเพื่อปรับปรุงครับ เพราะจะใช้ค่าเดิมๆเลยครับ
                                ผมมี R ไม้ที่เขาให้มาที่เขาบอกว่าใช้ในลำโพงดีเป็นของเดนมารค์ ค่ามัน 6.5 ซึ่งต่ำกว่าของผมไป 0.5 ผมเองก็ยังไม่อยากจะใช้เลยครับ เพราะคิดว่า R ยิ่งลดเสียงยิ่งจะแหลมขึ้นครับ ซึ่ง R ไม้เกรดน่าจะดีกว่ากระเบื้องครับ

                                ผมขออภัยด้วยครับถ้าความคิดเห็นของผมไม่ถกต้องครับ ขัดแย้งทางความคิดกันได้ครับ

                                c อีเล็กค่า 15uf นี่ผมไม่ค่อยจะเคยเห็นเลยครับ ที่เป็นแบบไม่มีขั่วครับ

                                Comment

                                Working...
                                X