โมให้ดีกันเยอะแล้ว มาม๊ะ....มาโมให้"เจ๊ง"กันดีกว่า

[tiger X-fi]

regulator เปราะขนาดไหนครับ
วัดไฟเผลอ inไปโดนกับกราวน์ นิดเดียว
ตอนนี้วัดไฟเข้า-ออกเท่ากันเลย...

[ManiacMaew]

รบกวนช่วยแนะนำร้านซื้อหม้อแปลงที่บ้านหม้อด้วยได้มั้ยครับ ?

ขอสงสัยอีกนิดนะครับ แล้วพวกอะแดปเตอร์ที่ชาร์จของพวกมือถือ ที่มันเบาๆ มันเป็นยังไงหรอครับ ?

-ผมเดินเจอร้านไหนก็ซื้อร้านนั้นแหล่ะ ไม่ค่อยได้เลือกหรอก จะเอาคุณภาพก็ทำเอง(แผ่นpcb ชุดrectifier แบบสำเร็จที่บ้านหม้อมี มีแบบใช้regulatorให้เลือกด้วย)
ถ้าทำเองก็เลือกตั้งแต่สายไฟยันหม้อแปลง
ซื้อแบบสำเร็จมากก็อาจจะเอาโมแก้ c -ไดโอด- สายไฟได้ (แต่ยังไงก็ติดขนาดตัวถังเดิมมันอยู่ดี)

-ที่เบาๆมันเป็นแบบswitching วงจรซับซ้อนหน่อย
จะเอามาใช้ก็ได้ เสี่ยงความถี่switchingรบกวน เห็นน้องpohที่เคยต่อcmoy เคยบ่นน่ะ
แต่มันก็ขึ้นกับหลายอย่าง+ว่าเราจะแก้ปัญหาที่ปลายทางชดเชยเอาได้มั้ย
(แอมป์ลำโพงบางเจ้าเขาก็ใช้ switching power supply)

ช่วยตอบได้เท่าที่รู้ ที่เหลือรอคนอื่นมาตอบล่ะกัน

[keang]

ผมงงว่าทำไมมันถึงจะไม่ใช้ Virtual Ground แล้วหรอครับ ? รบกวนช่วยอธิบายอีกนิดให้หน่อยได้มั้ยครับ

ถามแบบนี้ แสดงว่า ไม่รู้ว่าวงจรVirtual Ground มันคืออะไร ทำหน้าที่อะไร

>> Virtual Ground คือ จำลองไฟที่มี2เฟส "บวก","กราวน์" ให้เป็นไฟ3เฟส(แบบปลอมๆ) "บวก","กราวน์","ลบ" <<

ในเมื่อคุณใช้ถ่าน2ก้อนต่อแบบอนุกรม เท่ากับว่า คุณมีไฟที่เป็น3เฟสของแท้อยู่แล้ว
แล้วเหตุไฉนคุณจะใส่วงจรVirtual Groundให้มันกินไฟจากถ่านของคุณทิ้งไปฟรีๆ (อะหลั่ยหรืออุปกรณ์ทุกตัวมันกินไฟทั้งนั้น)

ระหว่าง ถ่านชาร์ท 9V สองก้อน กับ แบตแห้ง 12V แบบไหนจะดีกว่ากันครับ ?

ถ่าน2ก้อน ต่ออนุกรมกัน = ไฟ+-9v
แบตก้อนเดียว12v = ต้องใช้วงจรVirtual Groundเพื่อแปลงให้เป็น ไฟ+-6v

คุณว่า "ไฟเลี้ยงวงจรสูงกว่า" กับ "ไฟเลี้ยงวงจรต่ำกว่า" อันไหนน่าจะดีกว่ากัน
( ไม่นับเรื่องแบตแห้งใช้ได้นานกว่าถ่านธรรมดาหรือถ่านชาร์ท )

ที่แน่ๆ ถ้าคุณใช้ไฟเลี้ยงสูงกว่า จะทำให้คุณมีโอกาสเลือกใช้ออปแอมป์ได้หลากหลายเบอร์มากขึ้น

อันที่จริง ผมกะเอาไว้ว่าตอนพกก็ใช้แบต

ตอนพก ใช้ "แบตแห้ง" หรือ "ถ่าน" ครับ / ถ้าเป็นถ่านใช้ถ่านกี่ก้อน
ถ้าแบตแห้งหรือถ่านก้อนเดียว ก็ปล่อยอะหลั่ยในส่วนของVirtual Groundทิ้งไว้แบบเดิม ไม่ต้องไปยุ่งไรกับมัน
แต่ถ้าใช้แบตแห้งหรือถ่าน2ก้อน ก็ชั่งใจเอาครับ ว่า จะใส่Virtual Groundไว้แบบเดิม หรือ จะถอดมันทิ้งไป


---------------------------------------

regulator เปราะขนาดไหนครับ
วัดไฟเผลอ inไปโดนกับกราวน์ นิดเดียว
ตอนนี้วัดไฟเข้า-ออกเท่ากันเลย...

ไอซีเรกกูเลเตอร์ส่วนใหญ่จะมีระบบป้องกันเอ้าท์พุทชอร์ทแล้วดึงไฟเกิน
และไม่มีไอซีเรกกูเตอร์ตัวไหนใส่ระบบป้องกันไฟอินพุทชอร์ท

ฉะนั้น ที่คุณเสือเจอ ถือเป็นเรื่องปรกติครับ

[ManiacMaew]

คิดว่า เข้าใจไม่ตรงกันอยู่
ผมว่าคุณ iPol2n คงนึกถึงแบบ เอาแบตมาอนุกรมเฉยๆ เพื่อให้ได้voltมากขึ้น

แต่แบบถึงคุณkeang พูดถึง คือ ดึงตรงกลางมาทำกราวน์แบบนี้

มีจุดดีจุดด้อยของมัน
ไปอ่านต่อที่
http://tangentsoft.net/elec/vgrounds.html

ทำแบบนี้ นอกจากจะเอาแถวtle2426ออกแล้ว จะต้องจั้ม เส้นกลางระหว่างแบตสองตัวไป จุดที่เป็นเส้นVgด้วย(จั้มไปกราวน์out putตรงแจ็คเลยก็ได้)

-------

รีวิว แบบบ่นๆ กับ buf 634
ไม่ได้เทียบละเอียดน่ะ อาศัยยฟังคร่าวแต่ฟังนานๆหน่อย

หัวเสียงมันเยอะมาก เสียงออกแนวกระชับหน่อย(เพราะslew rate สูงรึเปล่าไม่รู้) แต่หางเสียงสั้น จะว่าสั้นสนิทก็ไม่เชิง
เสียงมันแบบ

ถ้าปรกติฟังกับอันอื่นจะเป็นแบบนี้

แซ่ก...ก...ก....
แต่พี่แก
แซ่ก..ก..ก.

ถ้าเทียบเป็นคลืนก็ประมาณหัวคลื่นลูกที่ตามมันไม่ค่อยจะลดลงเลย จังหวะที่เสียงมันจะfadeลงไปมันไม่เรียบเนียนยังไม่รู้

อันนี้เฉพาะบุคคลิคจุดเดียวก่อน (คือฟังแล้วมันรำคาญชอบกล)

[keang]

ลืมนึกไปเลย น่าจะเป็นแบบที่คุณManiacMaewบอกไว้

ขอบคุณครับที่ช่วยๆกันขยายความ จะได้เข้าใจได้ตรงกันมากขึ้น

[iPol2n]

ขอบคุณทั้งคุณ keang และคุณ ManiacMaew เลยครับ
ผมเพิ่งเริ่มเล่นอ่าครับ ก็เลยยังไม่ค่อยรู้เรื่องอะไร

ขออภัยนะครับ ไม่ต้องสนใจรูปนะครับ ผมเพิ่งไปอ่านใหม่ คุณ ManiacMaew บอกเอาไว้ตั้งแต่แรกแล้ว

[milestone]

เอามาฝาก

http://www.htg2.net/index.php?topic=...een#msg1003011

[tiger X-fi]

DC step up-step dow


รูปด้านบน นี่ บริดจ์ไดโอด 2ชุด กับหม้อแปลงขดเดียว 1ลูก ใช่มั๊ยครับ

[dracoV]

regulator เปราะขนาดไหนครับ
วัดไฟเผลอ inไปโดนกับกราวน์ นิดเดียว
ตอนนี้วัดไฟเข้า-ออกเท่ากันเลย...

ใช้ regulator ของยี่ห้ออะไรอยู่ครับนี่ ถ้าของ ST ก็หลีกๆไว้หน่อย น่าจะดี
regulator ของ ST นี่ผมซื้อมาใช้ 10ตัว พังเกลี้ยงไปแล้ว ใจเสาะจิงๆ 555+
ของ ON(Moto) พวกรหัส MC---- กับ JRC รหัส NJM---- นี่ใช้ดีกว่ามากเลย
ทำพังน้อยกว่ามากๆๆเลย ค่อนข้างอึดดีน่ะ

เหมือนๆว่าคุณเสืออยากได้ DC step up ไม่รูว่าต้องการแบบไหน ไฟจาก DC เท่าไหร่เป็นเท่าไหร่
กระแสสักกีแอมป์ครับ เผื่อพอแนะนำได้

[tiger X-fi]

^
MC7812 วื้อที่ ES ครับ
DC step up ผมอยากเข้าใจมากกว่าน่ะครับ
งงๆ...อยู่เยอะ
มีทั้ง regulator DC step up
ทั้ง ใช้IC opamp
ทั้งใช้ IC amp
ทั้งใช้ ทรานซิสเตอร์
และหม้อแปลง
(เพื่อคิดจะดัดแปลง เช่น Inverter ไฟรถเป็นไฟบ้าน แปลงไฟจากPSU
ไฟสูงแอมป์-ฟัพหลอด)
เลยอยากได้ความเข้าใจพื้นฐานคร่าวๆน่ะครับ
-----------
อย่าง step Dow พอเข้าใจอยู่บ้างครับ
regulator step Dow หรือ R ตัดไฟเอา

--------------

[cleaning]

Infinity รุ่น Reference 30 ครับ

RODUCT SPECIFICATIONS
General
Frequency Response 47Hz - 25kHz (+/-2.5dB)
Crossover Frequency(ies) 3kHz
Sensitivity 90dB (2.8V/1 meter)
Nominal Impedance 6 ohms
Power Handling, RMS 15 -100 watts
Woofer 20.3cm IMG
Tweeter 2.5cm polycell


อายุลำโพง20 ปี มันเสื่อมหรือยังครับ แล้วจะหา C ค่าแบบเดิมๆได้ที่ไหนครับ
ส่วนใหญ่ถ้าได้ลำโพงเก่าๆกันมาจะเปลี่ยนกันหรือไม่ครับ หรือว่าปล่อยมันไปจนกว่ามันจะแสดงอาการออกมาครับ
ถ้าเปลี่ยนก็อยากได้ C แบบเดิมเพราะตัวมันไม่ใหญ่ครับไม่ล้นออกมาครับ
รบกวนขอคำแนะนำด้วยครับ

ขอบคุณมากครับ



ผมว่าจะใช้แค่ C 15MFD 100V BP BENNIC แดง
C 3.3MFD 100V BP BENNIC แดง

ถ้าไม่มีก็

C 3.30 MFD 100VDC PMT (MPT) BENNIC ดำ
C 15MFD 250VDC PMT (MPT) BENNIC ดำ

สายภายในว่าจะใช้ของ Canare หาชื้อของตามนัฐพงษ์เซียร์ครับ
มีตัวไหนจะแนะนำเพิ่มเติมไหมครับ
ไม่ต้องการเปลี่ยนแนวเสียงจากเดิมครับ และไม่อยากจะใช้ของแพงแล้วครับ


เพื่อนๆเห็นว่าอย่างไรครับ ผมเคยถามที่อื่นครับ แต่อยากทราบความคิดเห็นเพื่อนๆในเว็ปนี้บ้างครับ
ไม่ต้องการโมดิฟายครับ แค่เปลียนของเดิมเท่านั้นครับอายุมันมากครับ

[ManiacMaew]

มีเทคนิคห่อผ้าด้วย เห็นแล้วนึกถึงซาวน์การ์ดออนเกี่ยว

-------

@ cleaning ไม่อยากให้เปลี่ยนเลยคือไม่ต้องไปเปลี่ยนครับ

ลองวัดค่า c ก่อนครับ ถ้าไม่ตกจากที่ระบุไว้มากก็ไม่ต้องเปลี่ยน
ถ้าตกมากค่อยเปลี่ยน หาชนิดเดิมมาแทนน่าจะดีกว่า ข้ามไป c film คนละชนิดกัน เสียงมันจะเปลี่ยนเยอะ
เอาซีเรียสมากๆ ถอดของเก่าออกมาลอง หาวงจรทดลองสักอันมาเทียบเสียง แล้วดูว่าเสียงใกล้เคียงกับยี่ห้อไหนที่มีขาย

ตัวสายไม่ต้องเปลี่ยน ดีกว่ามั้ง? เปลี่ยนแล้วเสียงเปลี่ยนอีก ของเดิมผมว่ามันก็ยังไม่มีคราบออกไซด์น่ะ
(ส่วนมากตรงปลายจะเป็นก่อน แต่ปลายก็ยังดูไม่น่าเกลียด คิดว่าปลอกไปก็คงยังสวยอยู่)

[cleaning]

มีเทคนิคห่อผ้าด้วย เห็นแล้วนึกถึงซาวน์การ์ดออนเกี่ยว

-------

@ cleaning ไม่อยากให้เปลี่ยนเลยคือไม่ต้องไปเปลี่ยนครับ

ลองวัดค่า c ก่อนครับ ถ้าไม่ตกจากที่ระบุไว้มากก็ไม่ต้องเปลี่ยน
ถ้าตกมากค่อยเปลี่ยน หาชนิดเดิมมาแทนน่าจะดีกว่า ข้ามไป c film คนละชนิดกัน เสียงมันจะเปลี่ยนเยอะ
เอาซีเรียสมากๆ ถอดของเก่าออกมาลอง หาวงจรทดลองสักอันมาเทียบเสียง แล้วดูว่าเสียงใกล้เคียงกับยี่ห้อไหนที่มีขาย

ตัวสายไม่ต้องเปลี่ยน ดีกว่ามั้ง? เปลี่ยนแล้วเสียงเปลี่ยนอีก ของเดิมผมว่ามันก็ยังไม่มีคราบออกไซด์น่ะ
(ส่วนมากตรงปลายจะเป็นก่อน แต่ปลายก็ยังดูไม่น่าเกลียด คิดว่าปลอกไปก็คงยังสวยอยู่)

ขอบคุณมากครับ เรื่องสายผมก็ไม่อยากจะเปลียนไม่อยากจะรื้อครับ สายมันนิ่มแล้วครับตรงเปลื่อกสายครับ เปลือกหุ้มคงหมดอายุครับ
ผมคงต้องถอดไปให้ที่ร้านวัดให้ครับมิเตอร์ผมวัด c ไม่ได้ครับ 20 ปีมันน่าจะมีผลเปลี่ยนแปลงบ้างนะครับ
ผมว่าจะใช้แบบเดิมครับอีเล็คโทไลท์เพราะมันเล็กครับ เบนนิค สีแดงเห็นมีท่านอื่นแนะนำบอกว่าดีเหมือนกันครับ
พวกฟิลม์ดีกว่าแต่เสียงผมว่ามันจะออกโปร่งๆใสๆนะครับถ้าใส่ในลำโพงพอพ้นเบิรน์ครับ
ถ้าใส่ฟิลม์ก็ต้องห้อยไว้ข้างนอกครับ มันใหญ่
เรื่องเปลี่ยนผมคิดว่าโอากาศเปลี่ยนมีสูงครับเพราะว่าอายุมัน20ปีมันน่าจะเสื่อมครับ แต่คงจะเปลี่ยนแต่ C ครับ R คิดว่าคงไม่เสื่อมครับ
เปลี่ยน C ผมว่าน่าจะไม่ยากครับเปลี่ยนสายก็ต้องลำบากขึ้นอีก ต้องดูสายอีกทีว่ายังไหวหรือไม่ครับ

[ManiacMaew]

ไหนๆ แล้ว ก็ลองวัดค่าr ดูด้วยเลย

[cleaning]

ไหนๆ แล้ว ก็ลองวัดค่าr ดูด้วยเลย

ครับถ้าเปลี่ยนR ผมก็จะใช้แบบกระเบื้องแบบเดิมนี่แหละครับถูกดีครับเคยใช้แบบ100กว่าบาทฟังไม่ออกครับ ตอนโม psb b1 ครับ ครั้งนี้ไม่โมครับแต่จะปรับปรุงให้เป็นของใหม่เท่านั้นครับเพราะคิดว่ามันน่าจะเสื่อมตามกาลเวลาครับ หาค่าตรงๆยากเหมือนกันนะครับทั้ง C R นัฐพงษ์เซียร์ของชอบไม่มีไปบ้านหม้อก็ไกลครับเบื่อรถติดมากเลย