ทฤษฎี ดิจิตอล (01) ไม่มีความแตกต่าง ..ด้านเสียง...ชัวร์หรือมั่วนิ่ม

[tiger X-fi]

ถ้าระดับผู้บริโภคนะครับ ตัดเรื่องทฤษฎีออก

บอกตรงๆว่าไม่ต่างครับ หูผมมันไม่เทพ

สิ่งที่จะทำให้ต่างอย่างรู้สึกได้ของผมก็คือ เปลี่ยนลำโพงใหม่ หรือปรับ Equalizer เท่านั้นครับ

ได้ลองกับตัวไหนครับ....ได้เป็นประโยชน์สำหรับคนหาข้อมูล
ยิ่งถ้ามีรูปการทดลองด้วย...จะเป็นความกรุณาอย่างสูงเลยครับ

[gunnyfreed]

เป็นพี่เสือนี่ต้องใจเย็นจริงๆ 55+

[clayzizer]

ได้ข้อมูลเพียบเลย ส่วนตัวผมว่าไม่น่าต่างนะครับ ถ้าพูดถึงการรับส่งข้อมูลอย่างเดียว แต่ถ้าเอามาบวกับเรื่องเสียงอันนี้ผมว่า AVR นั่นแหละที่เป็นตัวแปร

[chattmv]

ไม่ว่า Analog หรือ Digital ก็ต้องการการนำสัญญาณที่ดี เพราะฉะนั้นสายคุณภาพจะดีจะต้องนำสัญญาณได้ดีกว่าสายสายคุณภาพต่ำแน่นอน ตัดเรื่อง Digital 0 หรือ 1 ออกไป..... มันเป็นแค่รูปแบบการใช้งานเฉยๆๆ แต่มันเป็นเรื่อง ของตัวนำล้วนๆเลย


ต้องดูชุดเครื่องเสียงของตัวเราด้วย ถ้าชุดไม่แพง บางที่ชื้อสายสัญญาณดีๆมาใส่ ก็อาจจะไม่เห็นผล. แต่ว่าถ้าเราจบที่สายแถมได้จะดีมากเลย เอาตามที่เราพอใจเถอะครับ มีเงินเหลือมากก็ชื้อไม่เดือดร้อน ...แต่ไปชื้อของแพงมาต้องมาต้มมาม่า อันนี้ก็ไม่ไหว..


รองต่อ HDMI จาก คอมพิวเตอร์ ไป มอนิเตอร์ แล้วมาดูตัวหนังสือ เปรียบเที่ยบกันดูครับ ว่าต่างกันไหม ต้อนแรกชือเส้นละ 250 อ่านตัวหนังสือไม่รู้เรื่อง ก็เลยจบที่ เส้นละพัน ..

[ssk]

'''''''

ที่จริงผมว่ากระทู้นี้ไปถามอาจารย์ด้านฟิสิก หรือคอมพิวเตอร์ที่มีความรู้เรื่องเสียงมาตอบก็น่าจะเคลียแล้วนะครับ

อีกอย่างมนุษย์ยิ่งเป็นพวกชอบปรุงแต่งความรู้สึกตัวเองอยู่ด้วย

คนที่สร้างอุปกรณ์ขึ้นมานั่นแหละครับเค้ารู้แน่นอนว่ามันจริงหรือไม่จริง หลอกหรือไม่หลอกครับ

ท่าน milestone เป็นอาจารย์ที่และด้านพวกนี้และเป็นนักวิจัยด้านพวกนี้ครับ
ถ้าถามอาจารย์ฟืสืกส์หรือวิวะที่รู้ด้านเดียวคำตอบตือไม่ต่าง แต่ถ้าถามท่านที่รู้หลายๆด้านที่มีองค์ประกอบที่เกี่ยวข้องจะได้คำตอบว่าต่าง

ได้ข้อมูลเพียบเลย ส่วนตัวผมว่าไม่น่าต่างนะครับ ถ้าพูดถึงการรับส่งข้อมูลอย่างเดียว แต่ถ้าเอามาบวกับเรื่องเสียงอันนี้ผมว่า AVR นั่นแหละที่เป็นตัวแปร

สงสัยต้องตั้งคำถามใหม่
01 ให้เสียงที่ต่างกันหรือไม่พร้อมทั้งชี้แจง system ที่ใช้

อย่างเช่นตัวผมเองลองใช้แค่
onborad กับ HDAV ใช้ wasapi ผ่าน coax ไปที่ DAC19MKIII
ปลายทางเป็นชุดลำโพง S530D รับรู้ถึงความต่างได้ค่อนข้างชัดเจน (ถ้าต่อชุดเต็มคงชัดมากกว่านี้)

มาลองกันอีกที HDAV ใช้ wasapi เล่นผ่าน usb และ coax 2เส้น ที่ตัวนำเป็นทองแดงชุบเงิน และเป็นทองแดงล้วน
DAC19MKIII เช่นเดิมและแอมป์เป็น เจ้า Jolida302 ปลายทางเป็น Usher s520
ผมที่ได้คือ USB และ Coax ทั้งสองเส้นเสียงต่างกันทั้งหมด สรุปคือเสียงต่างกันทั้งสามเส้น
ผู้่ร่วมทดลอง ท่าน RIM แห่งบอร์ดมั่นคง

ต้องแบบนี้ เพราะบางคนบอกไม่ต่างก็ไม่รู้ว่า system อะไร
และก้อีกอย่างเรื่องหูครับ ไม่ได้มีจุดประสงค์จะดูถูท่นอื่นแต่อย่างใด
ที่ฟังไม่ออกอาจจะเป็นเพราะประสาทการรับฟังยังไม่ได้ถูกฝึกฝนก็เป็นได

ผมเคยเล่าไปแล้วว่า ตอนเด็กๆ ตัวโน๊ต Eb กับ E ผมฟังแล้วเป็นตัวเดียวกันเป๊ะๆ
แต่พอผ่านไปสองเดือน ผมถึงค่อยแยกความต่างออกได้ และหลังจากนั้นอีก 5-6เดือน
โน๊ตตัวเดียวกัน ถ้าเป่าแล้วเสียงมันเพี้ยนต่ำหรือเพี้ยนสูงไปนิดนึง ก็ฟังออกในทันใด
ถึงสมัยนี้หูผมจะไม่ได้แยกแยะออกได้ดีเท่าเก่า(เพราะไม่ได้ฝึกฝนและไม่ได้เล่นดนตรีมานาน)
แต่หลังจากเลิกเล่นก็หัดฟังมาตลอด ฟังเพลงจากเครื่องเล่นนี่แหละครับ เมื่อก่อนเปลี่ยนหูฟังก้ไม่รู้ว่าเสียงมันต่าง
เมื่อก่อนฟังจาก player2ตัว ก็ไม่รู้ว่ามันต่าง แต่พอมาวันนี้ถึงรับรู้ได้ว่ามันต่างกันอย่างไร
ผมไม่ได้โทษตัวท่านๆที่ฟังไม่ออก แต่บางทีที่ท่านๆฟังไม่ออกอาจจะมีตัวแปรอื่นเข้ามาเกี่ยวโดยที่ท่านยังไม่ทราบก็ได้
ไม่ว่าจะเป็นด้วยตัวท่านเอง หรือเป็นด้วยชุดฟังของท่าน
บางท่านกล่าวถึงคลื่น sine wave แต่เรื่อง sine wave ยังมีเรื่อง clock อีก
มีเรื่องอื่นอีกจริงๆ DAC ตัวที่ผมใช้มันก็ยังทำงานได้ไม่เต็มมที่ เพราะ cock มันยังไม่ตรงกับคอมที่ผมใช้ (อ่านเขามา)
การจะทำให้ clock ตรงกันต้องเขียน software มาเอง
หรือไม่ก็ใช้ DAC ราคาแพงกว่าที่มีเทคโนโลยีที่ช่วยในเรื่องนี้
มาถึงในประเด็นนี้ความต่างของ 01
กับเรื่องเสียงของชุดผมที่มันทำให้เสียงต่างก็อาจจะเป็นเพราะ clock มันไม่ตรงกันก็เป็นได้
ต่อไปถ้าอุปกรณ์สมบูรณ์มากขึ้น เสียงอาจจะไม่ต่างกันก็ได้
แต่มันก็เป็นแค่สมมติฐาน เพราะข้อมูลเราก็รุ้ลึกไม่สุด
กรทดลองก็ยังไม่ได้ทำ พูดสั้นๆว่า ยังไม่สามารถสรุปได้

แล้วท่านๆที่สรุปกันเองล่ะครับว่าเสียงไม่ต่างกัน ท่านลองกับ system ใด
ท่านมีความรู้ลึกถึงการอธิบายการทำงานทุกๆส่วนที่เกี่ยวข้องของระบบได้หรือไม่
ท่านถึงได้สรุปกันอย่างรวดเร็วเพียงนี้ว่ามันไม่ต่าง

ปล.แก้ไขคำผิด
ผมลองฝากให้คิดเล่นๆกันละกันครับสำหรับท่านที่เปิดใจรับ นอนไปตื่นนึงตื่นมายาวเหยียดเลย

[keang]

ถ้าท่านเสืออยากได้ข้อสรุปจากการใช้งาน น่าจะต้องใช้ลำโพงที่ให้รายละเอียดแบบสุด ๆ เลยครับ เอาแบบใครฟังก็บอกได้เลยว่าต่างหรือไม่ต่าง เหมือนจอภาพอ่ะครับ ถ้าจอเล็ก ๆ เปิด vcd ก็ยังชัดดี แต่พอเอาไปเปิดกับจอใหญ่ ๆ ดูแทบไม่ได้เลย

ผมลองคิดในอีกแบบนึง ผมเห็นอะไรบางอย่างแฝงในเจตนารมณ์ของกระทู้นี้
( ผมไม่รู้ว่าจะเดาใจคุณเสือถูกหรือเปล่าน่ะ แต่เมื่อรู้สึกว่าอาจมีในส่วนนี้ด้วย ก็อยากเล่าสู่กันฟัง )


เกริ่นนำ
ช่วงเวลาที่ผ่านมา บ่อยครั้งที่เห็นคนใช้ชุดต่างๆไม่ว่าจะดูหนังฟังเพลง ในงบเริ่มต้นหรือไม่สูงมาก
ใครบอกว่ามีอุปกรณ์ตัวไหนน่าใช้ในวงเงินที่ตั้งไว้ ก็จัดหามาใช้งาน แล้วก็ใช้งานแบบนั้นมาตลอด

ส่วนใหญ่จะคิดกันว่า ชุดพวกนี้คงไม่สามารถใช้ทดสอบอะไรได้หรอก ใช้เพลินๆเสียงถูกใจก็พอแล้ว
ด้วยมุมมองแบบนี้ก็เลยทำให้ตอนใช้ลืมสังเกตุความแตกต่างควบคู่ไปด้วย ลืมการเป็นคนช่างสังเกตุ

ส่วนใหญ่จะรอถูกหวยมีเงินเยอะ ค่อยหาซื้อชุดแพงๆที่ราคาสูงมาใช้ แล้วค่อยหัดสังเกตุหัดฟังในตอนนั้น

ซึ่งในความเป็นจริง ชุดที่ใช้ๆกันอยู่ทุกวันนี้ แม้กระทั่งลำโพงคอม ก็สามารถบอกความแตกต่างได้ในระดับหนึ่งแล้ว
จะพบเห็นความแตกต่างมากน้อยแค่ไหน ก็อยู่ที่ทักษะและประสบการณ์ที่ผ่านมา


สรุป
คุณเสืออาจคิดว่า คนส่วนใหญ่มีเครื่องกันอยู่แล้ว บางคนอาจไม่เคยลองด้วยตัวเอง
น่าจะใช้โอกาสนี้ ปล่อยวางทฤษฏีต่างๆที่เรียนมา ปล่อยวางเรื่องราวต่างๆที่มีคนเล่าให้ฟัง ปล่อยวางในเรื่องที่คิดว่าถูกว่าผิด ปล่อยวางในทุกๆเรื่อง

เครื่องทุกเครื่องที่ซื้อมาปรกติจะมีสายแถมมาให้อยู่แล้ว ลองเอาสายแถมมาต่อใช้งานเทียบกับสายที่ซื้อมาใช้งานจริง
(สายอนาลอคขาวแดง, สายภาพ+เสียงขาวแดงเหลือง)

พูดง่ายๆว่า ขอแค่ให้มีสายที่ใช้งานได้(ไม่ขาดใน) สามารถเอามาใช้เป็นสายดิจิตอลได้หมด แม้กระทั่งลวดตากผ้าก็ทำได้
เพราะ ทฤษฏีพื้นฐานเรื่องดิจิตอลมีแค่โลจิค0กับ1 ให้ตัวรับดีเทคได้ว่าเป็นโลจิค0หรือ1ได้ตรงตามตัวส่งต้นทางก็พอแล้ว

ลองสังเกตุสิว่า มันมีความแตกต่างกันบ้างหรือเปล่า โดยไม่ต้องไปสนใจเรื่องเสียงดีหรือไม่ดี ชอบไม่ชอบ

ใครเคยลองมาก่อนแล้ว หรือ เพิ่งได้ลองในตอนนี้ ก็ลองเอามาโพสแลกเปลี่ยนประสบการณ์กัน
หากใครที่ได้ลองได้อ่านความเห็นต่างๆแล้ว จะหยุดไว้เพียงตรงนี้ก็หยุดไป หากใครรู้สึกมีอะไรที่น่าสนใจอยากเอาไปต่อยอดก็ทำไป


--- ขอบอกก่อน รู้ว่าที่โพสนี้ไม่ตรงกับกรอบที่คุณเสือตั้งไว้ แต่ใจมันอยากเกรียน เลยห้ามใจไม่อยู่ ---


--------------------------------------------------------------------


เพิ่งเห็นว่ากระทู้นี้มีโหวตด้วย
ดูผลการโหวต: * ทฤษฎี ดิจิตอล (01) ไม่มีความแตกต่าง ..ด้านเสียง...ชัวร์หรือมั่วนิ่ม
ผู้โหวต 30.
ลองแล้ว....แตกต่าง - 13 - 43.33%
ลองแล้ว....ไม่แตกต่าง - 17 - 56.67%

[ghmhm]

ตรง DAC นี่มันเกี่ยวเนื่องด้วยภาคอนาล็อคครับ
------------
ที่อยากให้ช่วยเทสคือ ประมาณ ว่า
ข้อมูลดิบ แผ่น CD DVD BD(แผ่นเดียวกัน) ดิจิตอลแท้
ตัวแปร เครื่องเล่น CD DVD BD HD PC สายสัญญาณ (ต่างกัน)ดิจิตอลแท้
ภาคแปลงสัญญาณ DAC AVR (ตัวเดียวกัน) ถูกแปลงเป็นอนาล็อค
ว่าต่างกันหรือไม่น่ะครับ

จากตรงนี้ไม่ทดลองง่ายๆโดยใช้คอมฯดูละครับ
ใช้คอมฯชุดเดียวกันเล่นแผ่นซีดีอันเดียวกันแล้วเปลี่ยนแค่ตัว optical drive เอา
แบบ ซีดีไดร์ฟ เหมือนกันแต่ต่างยี่ห้อ หรือเทีียบระหว่างซีดีกับดีวีดีไปเลยหัวอ่านจะได้ต่างกันไปแน่ๆ
เพราะพวกนี้ไม่น่าจะมีการปรุงแต่งสัญญาณอะไรเพราะมันทำหน้าที่อ่านอย่างเดียวอยู่แล้ว

@ด้านบน
ที่ไม่ควรเทียบเพราะช่วงราคาใกล้เคียงกัน ประมาณนั้นมั้งครับ
แต่อาจให้ความต่างก็ได้ครับ ปล.ผมลองไม่ได้คอมไม่มี drive dvd
ใช้ USB ล้วนๆ

[125R]

ติดตามอ่านทุกหน้า รู้สึกมึนเลยครับ
ได้เห็น comment ดีๆ หลายๆท่าน ที่เชี่ยวชาญด้านนี้แม้มีข้อโต้แย้งกันบ้าง แต่ก็ด้วยเหตุและผล
ก็ขอเป็นกำลังใจให้ทุกๆท่าน สำหรับสังคมห้อง sound ที่ดี
ด้วยจิตคารวะ
(วิชาดิจิตอลผมไม่ชอบ ผมชอบแต่เสียงเพลง ^_^")

[naraklive]

อย่างของแพง ใช้อุปกรณ์ทุกอย่างที่ดี ประสิทธิภาพสูง, มีความเสถียร, ใช้งานได้นาน, ความผิดพลาดน้อย, มีสัญญาณรบกวนน้อย
อย่างของถูก ใช้อุปกรณ์ทุกอย่างแบบประหยัด ประสิทธิภาพต่ำ, ไม่ค่อยเสถียร, ใช้งานได้สั้น, ความผิดพลาดเกิดขึ้น, มีสัญญาณรบกวนมาก
แบบนี้ไหม

[HiddenDragon]

Van Den Hul VDO Link-75 เมตรละ 750.-


Van Den Hul The Intregration เมตรละ 9800.-


Kimber Select 1021 เมตรละ 39,000.-



Transpoet Pioneer


DAC + PRE Mark Levinson no.38+no.39


Power Mark Levinson no.333


Speaker B&W 804S



Software Eagle Track-6 Hotel California



Software Eagle Track-6 Hotel California



ผลการทดสอบ (โปรดอ่านโดยใช้วิจารณะญาน เพราะว่าเป็นความเห็นส่วนบุคคล)
จากการทดลองฟัง สายทั้ง 3 โดยใช้เพลงเอกคือ Hotel california เนื่องด้วย มีเสียงครบทั้ง 3 ย่านและให้ความเป็นอคูสติก และ พี่น้องหลายๆท่านก็คุ้นเคยกับเพลงนี้
การเชื่อมต่อ เชื่อมต่อโดยใช้ Pioneer DVD DV-655A เป็น Transport ผ่านทางCDP Mark no.39 ซึ่งเป็น DAC ในตัว ต่อผ่าน Pre No.38 และเชื่อมกับ Power333 โดยสายสัญญานของ system ทั้งหมด คือ Van Den Hul The Secound สายลำโพง PAD Museaus Presto Revision สายไฟ Cardas Golden reference เส้นเดียวที่ CDP
ฟิวส์ภายใน เครื่อง ใช้ Hifituning ที่ cdp 2 ตัว ที่ Pre 2 ตัวเป็น Power house Platinum
ผลการฟัง ไม่อิงเทคนิคใดๆทั้งสิ้น ผมจับแต่ character ของสายแต่ละเส้นและนำมาขยายให้ท่านรับทราบอีกที
ย้ำอีกครั้ง โปรดใช้วิจารญานในการอ่าน เพราะเป็นข้อคิดเห็นส่วนบุคคลของผมเอง
เส้นแรกใช้ VDH 75
ที่สัมผัสได้แรกเลยคือ เบสดี อิ่มมาก ให้เสียงออกมาตรงๆ ซื่อๆ ไม่มีลีลาอ่อนช้อย รายละเอียดดี จะแจ้ง เสียต่ปลายหางเสียงสุง ห้วน และรูปวงแคบเมื่อเทียบกับเส้นอื่น
VDH The Intregeation
เบสดี และมี layer มากกว่า 75 เสียงออกมาเป็นธรรมชาติและมีลีลากว่า โดยฟังยากเสียง solo guitar ช่วงแรก ให้ความพริ้วหวานมากกว่า ติดเรื่องปลายเสียงสูงเช่นกันที่ไม่เปิดโปรง และอัดอั้นในบางครั้ง
Kimber Select 1021
เบสออกโปรง ไม่อิมแพคมากเท่า 2ตัวบน แต่ เสียงกลางแหลมมีความดปรงใสมากกว่า หางเสียงทอดยาวมากกว่า guitar มีลีลาพริ้วและอ่อนหวานมากกว่า ผมชอบอันนี้ที่สุด
บดสรุปของผมเอง ผมว่ามันมีความต่าง เพราะถ้าไม่ต่าง ก็ไม่มีคนทำออกมาขาย ไม่มี studio grade ไม่มี audio grade ความเชื่อก็เรื่องนึง ความจริงก็อีกเรื่อง ส่วนความจริงที่มีแล้ว ท่านจะพอใจหรือไม่ หรือเชื่อหรือไม่ ต้องอยู่ที่ท่านใส่ใจมันไหม และสนใจที่จะทดลองเพื่อให้เห็นจริงมากแค่ไหน
ตามที่พระพุทธเจ้าได้ทรงแสดงธรรมไว้แล้ว ขอยกประดับไว้ในบทความนี้ด้วยครับ
1. อย่าเพิ่งเชื่อตามที่ฟังๆ กันมา
2. อย่าเพิ่งเชื่อตามที่ทำต่อๆ กันมา
3. อย่าเพิ่งเชื่อตามคำเล่าลือ
4. อย่าเพิ่งเชื่อโดยอ้างตำรา
5. อย่าเพิ่งเชื่อโดยนึกเดา
6. อย่าเพิ่งเชื่อโดยคาดคะเนเอา
7. อย่าเพิ่งเชื่อโดยนึกคิดตามแนวเหตุผล
8. อย่าเพิ่งเชื่อเพราะถูกกับทฤษฎีของตน
9. อย่าเพิ่งเชื่อเพราะมีรูปลักษณ์ที่ควรเชื่อได้
10. อย่าเพิ่งเชื่อเพราะผู้พูดเป็นครูบาอาจารย์ของตน

ด้วยจิตคารวะ
มังกรซ่อนกาย

[keang]

เห็นแล้วอดใจไม่อยู่ ขอเกรียนรอบ2

ไพโอเนียหน้าดำตัวกลาง รุ่นPDไรครับ
รุ่นนี้ยังวางแผ่นบนแพลตเตอร์แบบเครื่องเล่นแผ่นเสียง ตัวแผ่นต้องเอาด้านข้อมูลขึ้นด้านบนหรือเปล่าครับ



editเพิ่มในโพส (จะได้ไม่เปลืองหน้ากระทู้)
ขอบคุณท่านมังกรที่ให้ข้อมูลครับ
หัวอ่านเดิมที่มากับตัวเครื่องของผมไปแล้ว ส่งไปเปลี่ยนหัวใหม่ที่ไพโอเนียไทย
เสียงเปลี่ยนไปบ้างนิดหน่อย แต่โดยรวมยังเป็นยังเหมือนเดิม

ถ้าจำไม่ผิดน่าจะรุ่นเดียวกับของเพื่อน ผมเล่นตัวที่เป็นone-bitที่ออกหลังจากนั้น

[HiddenDragon]

pd-s801 ครับ
ไช่ครับพี่ เป็นแบบ transport แบบเก่า หัวอ่านด้านบน อ่านดีมั่กๆ

[tugy]

นอนไม่หลับครับ มาตอบดีกว่า เผื่อว่าจะง่วงบ้าง 555

จริง ๆ แล้วการส่งสัญญาณจาก Sound card หรือว่า Sound Onboard

แบบ Passthrough (พาสทรู)

Pass through = เดินทางผ่าน ทำให้เคลื่อนผ่าน

http://th.w3dictionary.org/index.php?q=pass%20through

ซึ่งจากคำแปลก็น่าจะทราบพอจะเดา ๆ ได้ว่าสัญญาณจะเปลี่ยนหรือไม่ ซึ่งเขามักจะตั้งชื่อวิธีการ

ส่งสัญญาณ ตามรูปแบบของสัญญาณที่ส่งอยู่แล้ว อันนี้เป็นเพียงแค่ข้อสังเกตุง่าย ๆ เฉย ๆ ครับ

ซึ่งจริง ๆ แล้วการส่งแบบ Pass through สัญญาณ เป็นเพียงแค่การผ่านสัญญาณมาตรง ๆ

โดยไม่มีการแก้ไขข้อมูลของสัญญาณเท่านั้น แต่ว่าการส่งข้อมูลไม่จำเป็นต้อง Pass through

เสมอไปครับ สามารถ Decode จาก Soundcard ก่อนแล้วส่งเข้ามาให้ AVR ถอดได้ซึ่งเสียง

ก็จะไปอ้างอิงตาม Soundcard-Onboard นั้น ๆ ที่ทำการส่งไป

เมื่อมาถึงตรงนี้ผมอยากถามท่านเสือนะครับว่า คำถามเหล่านี้

พูดถึงเรื่อง ทฤษฎี 01 ไม่มีความแตกต่าง ...อันนี้ก็อยากได้ความรู้เหมือน
ถ้า 01 ไม่มีความแตกต่าง กรณีแผ่นเดียวกัน ข้อมูลเดียวกัน AVR+ลำโพง ตัวเดียวกัน
เครื่องเล่น DVD ทุกเครื่อง ต่อสาย coax เข้า AVR เสียงเหมือนกันหมดทุกเครื่ิอง
เครื่องเล่น BD ทุกเครื่อง ต่อสาย HDMI เข้า AVR เสียงเหมือนกันหมดทุกเครื่ิอง
เครื่องเล่น HD Player ทุกเครื่อง ต่อสาย HDMI เข้า AVR เสียงเหมือนกันหมดทุกเครื่ิอง
เพราะเสียงสุดท้ายก็อยู่ที่ AVR เป็นตัวแปลงมาอยู่ดี
ตามหลักการควรเป็นเช่นนี้....แล้วในความเป็นจริงนี้เป็นอย่างไรครับ
หรือว่าเรากำลังโดนหลอก..โดยเฉพาะ เครื่องเล่น BD ที่ต่างยี่ห้อต่างรุ่น ช่องว่างของราคาต่างกันเป็นหมื่น
CDT ต่อสาย coax เข้า dacตัวเดียวกัน ออกแอมป์ตัวเดียวกัน เสียงเหมือนกันหมดทุกเครื่ิอง

------------

กระทู้นี้ไม่ได้มาเพื่อข้อโต้แย้ง(เพื่อทะเลาะ) แต่เพื่อประโยชน์ของผู้บริโภค
ถ้าจริง ได้เป็นประโยชน์แก่ผู้บริโภคในการเลือกซื้อ เครื่องเล่น CDT DVD BD HD Player(ไม่จำเป็นต้องใช้ของแพง)
ถ้าไม่จริง...ได้ล้างความเชื่อเก่าๆที่ผิดพลาด


ที่ท่านได้ตั้งขึ้นมาผมลองมาคิด ๆ ดู เข้าใจเจตนาท่านดีครับ

ว่าต้องการให้เกิดประโยชน์กับผู้บริโภคอย่างเรา ๆ ให้ได้ประโยชน์สูงสุด


เครื่องเล่น DVD ทุกเครื่อง ต่อสาย coax เข้า AVR เสียงเหมือนกันหมดทุกเครื่ิอง

เครื่องเล่น BD ทุกเครื่อง ต่อสาย HDMI เข้า AVR เสียงเหมือนกันหมดทุกเครื่ิอง

ท่านทราบได้อย่างไรว่าสัญญาณที่มาจาก DVD-BD ไม่ว่าจะมาทาง HDMI หรือว่า Coax

เป็นสัญญาณที่มาเพียงแค่การ Pass through เท่านั้นไม่ผ่านการ Decode หรือว่าเปลี่ยนแปลง

สัญญาณที่ได้จาก Source โดยผ่าน DAC ของ DVD-BD แล้วส่งสัญญาณที่ได้ แบบ Digital มายัง

AVR ดังนั้นผมจึงอยากจะบอกท่านว่า คำถามนี้อาจจะไม่มีคำตอบครับ เพราะว่าคำถามกว้างเกินไปครับ

สัญญาณ Digital มันมีหลายแบบครับ ทั้งส่งแบบ Pass through ที่จะไม่มีการเปลี่ยนแปลงข้อมูลจากต้นฉบับ

และแบบผ่าน DAC ของตัวอ่านสัญญาณ ซึ่งน่าแปลกที่ตอบกันมา 10 กว่าหน้า ไม่มีใครแย้งหัวข้อคำถามนี้

จนทำให้เกิดดราม่าแบบนี้ได้

สรุปทุกคนเคลียร์กับคำถามกันหรือยังครับ

ถ้ามาเถียงกันเรื่อง digital เปลี่ยนไม่เปลี่ยน

โดยเทียบกับอุปกรณ์ที่ส่งมา โดยไม่คำนึงถึงวิธีการส่ง

ผมว่ากำลังหลงทางกันอยู่ครับ สำหรับหลาย ๆ คนที่ร่วมดราม่ากัน

ในตอนนี้ ถ้าเคลียร์กันแล้วผมจะได้นิ่ง ๆ อิอิ