ทฤษฎี ดิจิตอล (01) ไม่มีความแตกต่าง ..ด้านเสียง...ชัวร์หรือมั่วนิ่ม

[tugy]

แต่ว่าคำถามน่าจะเป็บแบบนี้ครับ

พูดถึงเรื่อง ทฤษฎี 01 ไม่มีความแตกต่าง ...อันนี้ก็อยากได้ความรู้เหมือน

ถ้า 01 ไม่มีความแตกต่าง กรณีแผ่นเดียวกัน ข้อมูลเดียวกัน AVR+ลำโพง ตัวเดียวกัน
เครื่องเล่น DVD ทุกเครื่อง ต่อสาย coax เข้า AVR ในโหมด Function ของ DVD
เครื่องเล่น BD ทุกเครื่อง ต่อสาย HDMI เข้า AVR ในโหมด Function ของ BD
เครื่องเล่น HD Player ทุกเครื่อง ต่อสาย HDMI เข้า AVR ในโหมด Function HD Player
เพราะเสียงสุดท้ายก็อยู่ที่ AVR เป็นตัวแปลงมาอยู่ดี
ตามหลักการควรเป็นเช่นนี้....แล้วในความเป็นจริงนี้เป็นอย่างไรครับ
หรือว่าเรากำลังโดนหลอก..โดยเฉพาะ เครื่องเล่น BD ที่ต่างยี่ห้อต่างรุ่น ช่องว่างของราคาต่างกันเป็นหมื่น
CDT ต่อสาย coax เข้า dacตัวเดียวกัน ออกแอมป์ตัวเดียวกัน เสียงเหมือนกันหมดทุกเครื่ิอง

อันนี้คำตอบคือ ต่างกันตาม DAC และอุปกรณ์ของเครื่องเล่นนั้น ๆ ครับ

[leahlover]

แต่ว่าคำถามน่าจะเป็บแบบนี้ครับ

พูดถึงเรื่อง ทฤษฎี 01 ไม่มีความแตกต่าง ...อันนี้ก็อยากได้ความรู้เหมือน

ถ้า 01 ไม่มีความแตกต่าง กรณีแผ่นเดียวกัน ข้อมูลเดียวกัน AVR+ลำโพง ตัวเดียวกัน
เครื่องเล่น DVD ทุกเครื่อง ต่อสาย coax เข้า AVR ในโหมด Function ของ DVD
เครื่องเล่น BD ทุกเครื่อง ต่อสาย HDMI เข้า AVR ในโหมด Function ของ BD
เครื่องเล่น HD Player ทุกเครื่อง ต่อสาย HDMI เข้า AVR ในโหมด Function HD Player
เพราะเสียงสุดท้ายก็อยู่ที่ AVR เป็นตัวแปลงมาอยู่ดี
ตามหลักการควรเป็นเช่นนี้....แล้วในความเป็นจริงนี้เป็นอย่างไรครับ
หรือว่าเรากำลังโดนหลอก..โดยเฉพาะ เครื่องเล่น BD ที่ต่างยี่ห้อต่างรุ่น ช่องว่างของราคาต่างกันเป็นหมื่น
CDT ต่อสาย coax เข้า dacตัวเดียวกัน ออกแอมป์ตัวเดียวกัน เสียงเหมือนกันหมดทุกเครื่ิอง

อันนี้คำตอบคือ ต่างกันตาม DAC และอุปกรณ์ของเครื่องเล่นนั้น ๆ ครับ

+1 ตามนั้น

[tiger X-fi]

ผมสมควรอยู่ในฐานะผู้เป็นกลางครับ...ไม่สมควรตอบคำถาม
----------
มีของฝากอะไรนิดๆมาให้ดูครับ




ผมยังย้ำข้อความเดิมครับ

ก่อนที่จะออกทะเล
ตรงนี้ผมอยากได้ เชิงความรู้สึก-ทดลองฟังจริงๆ ประสบการณ์จริงมากกว่าครับ
เพราะ..เราเป็นระดับ ผู้บริโภค สิ่งที่ได้ประโยชน์ คือ เอามาใช้งานจริงได้
ข้อมูลดิบ แผ่น CD DVD BD
ตัวแปร เครื่องเล่น CD DVD BD HD PC สายสัญญาณ
ภาคแปลงสัญญาณ DAC AVR
--------------
ทฤษฎี ดิจิตอล (01) ไม่มีความแตกต่าง ..ด้านเสียง...ชัวร์หรือมั่วนิ่ม

แยกให้ชัดเจนอีกหน่อย

ทฤษฎี ดิจิตอล (01) ไม่มีความแตกต่าง ..ด้านเสียง
ในทษฤี หลักการ วิชาการ ดิจิตอล เป็น 01 เท่านั้น ไม่มีการเปลี่ยน
ยิ่งหาข้อมูลเท่าไหร่ คำตอบเดียวเดียวก็คือ มันไม่มีทางเปลี่ยนแปลงจาก 01 ไปได้ ...เป็นที่ยอมรับทั่วไป

ชัวร์หรือมั่วนิ่ม
แต่ในส่วน ที่ใช้งานจริง
จากข้อมูลดิบตัวเดียวกัน
ตัวแปรที่ต่างกัน
ภาคแปลงสัญญาณตัวเดียวกัน
เสียงมีความแตกต่างกันหรือไม่ ....ตรงนี้ครับ..ที่อยากได้คำตอบ
และเห็นว่าน่าจะเป็นประโยชน์ครับ
-----------
คำว่า ดิจิตอล กับระบบเสียงในตอนนี้เป็นอะไรที่หนีไม่พ้นแน่ๆครับ
mp3 CD DVD BD ดิจิตอลทั้งนั้น
เรื่องการฟังมันก็เหมือน เราเลือกชื้อ ลำโพง หูฟัง ทั่วไปครับ

[leahlover]

speed ในการโอนถ่ายข้อมูล มีขึ้นมีลงตาม คุณภาพของ HDD ผมเข้าใจอย่างงั้นนะครับ

อีกอย่าง เพลง , หนัง Full rip , bluray bitrate มันน้อยกว่านั้นครับ ข้อมูลมัน ต่อวินาทีมันไม่เท่าไรเองครับ

[sneakama]

อะไรที่เป็น digital แล้วทำงานตามมาตรฐานสากล มันจะไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลงครับ

แต่อะไรที่เป็น analog เปลี่ยนแปลงแน่ และเสียงที่ดีที่สุดคือ analog ไม่ใช่ digital ครับ

analog คือธรรมชาติ ส่วน digital คือการปรุงแต่ง analog ให้มันมาทำงานในรูปแบบ 0 กับ 1 ได้

analog มันเป็นกราฟ sin curve แต่ digital สัญญาณมันเป็นขึ้น ลง ถ้าจะทำให้ digital ใกล้เคียง analog

ก็ต้องแทรกสัญญาณ digital ให้มีจำนวนใกล้เคียงกับทางลาดขึ้นหรือลาดลงของกราฟ sin curve

ที่เค้าทำ digital ก็เพื่อที่จะนำค่านั้นไปใช้ต่อในคอมพิวเตอร์ได้ง่ายครับ คิดง่ายๆ ต้นฉบับส่งมา 001 แล้วถ้ามันแปลงเป็น 011 เสียงมันก็ไม่เหมือนกันแล้วครับ

สิ่งที่ดีที่สุดของการฟังก็คือ ทำให้มันใกล้เคียงธรรมชาติมากที่สุด

อาจจะเป็นการเพิ่ม bit rate เข้าไป ปรุงแต่งจากสมการต่างๆนาๆให้มันใกล้เคียงต้นฉบับที่เป็น analog

ดังนั้นขอฟันธงว่าถ้าอยากได้เสียงเปลี่ยนจริงๆ ซื้อลำโพงดีๆครับต่างแน่นอน ส่วนอะไรที่มันเป็น 0 กับ 1 ปล่อยไว้ครับ

ถ้าอยากรู้ว่าเครื่องไหนดีที่สุด ก็ลองอัดเสียงตัวเองดูครับ ใช้อุปกรณ์อัดเสียงที่ดีมากๆ แล้วให้มันเล่นเสียงของเรา

แล้วให้เพื่อนเราฟังว่าเครื่องไหนให้เสียงเหมือนที่เราพูดมากที่สุด เครื่องนั้นดีที่สุดครับ

ปล.ไม่มีใครรู้ว่าเสียงต้นฉบับที่อัดมาเป็นยังไง ดังนั้นที่เราฟังแล้วรู้สึกว่าดีกว่า เพราะว่าเราชอบมันครับ

ใครจะไปรู้ว่าผู้ผลิตอาจจะวิเคราะห์มาแล้วว่าคนฟังส่วนใหญ่ชอบเสียงแนวไหน ก็เพิ่มเสียงตรงส่วนนั้นให้เด่น

พอมันเพราะ คนชอบ ก็ว่าเสียงมันดีครับ ทุกอย่างมันก็คือชอบหรือไม่ชอบนั่นแหละ

ขอฝากรูปนี้

[Catwater]

ผมว่าไม่ต้องยกทฤษฏีอะไรมาอ้างกันดีกว่าคับ จัดทดสอบไปเลยว่าคนที่ว่าอุปกรณ์ดิจิตอลเสียงต่างกันฟังออกนั้นจะฟังออกจิงมั้ย ทฏษดงทฤษฏีอะไรไม่สำคัญหรอกคับมันเปลี่ยนแปลงได้ทั้งนั้น กฏอนุรักษ์มวลอนุรักษ์พลังงานอะไรก็แก้กันมาเพราะว่าผลการทดลองมันไม่ตรงกับทฤษฏีเนี่ยแหล่ะ...

[leahlover]

ทฤษฎี เกิดจาก ?

แต่ทฤษฎี อ้างอิงไม่ได้ 100%

ทฤษฎี ที่ผิดก็มี โลกแบน ดวงอาทิตย์หมุนรอบโลก เมื่อก่อนโลกกลม ก็ว่าแบน

ทุกอย่างล้วนมีเหตุและผล จึงทำให้เกิดความเชื่อ

[sneakama]

ผมว่าไม่ต้องยกทฤษฏีอะไรมาอ้างกันดีกว่าคับ จัดทดสอบไปเลยว่าคนที่ว่าอุปกรณ์ดิจิตอลเสียงต่างกันฟังออกนั้นจะฟังออกจิงมั้ย ทฏษดงทฤษฏีอะไรไม่สำคัญหรอกคับมันเปลี่ยนแปลงได้ทั้งนั้น กฏอนุรักษ์มวลอนุรักษ์พลังงานอะไรก็แก้กันมาเพราะว่าผลการทดลองมันไม่ตรงกับทฤษฏีเนี่ยแหล่ะ...

ไม่ทราบว่ากฎอนุรักษ์พลังงานเค้าแก้เป็นอะไรแล้วหรอครับ

เท่าที่ผมทราบคือ พลังงานจะไม่สูญหาย เพียงแต่เปลี่ยนรูปไปเป็นอย่างอื่นเท่านั้น ยังใช้อันนี้อยู่รึเปล่าครับ

[sneakama]

ทฤษฎี เกิดจาก ?

แต่ทฤษฎี อ้างอิงไม่ได้ 100%

ทฤษฎี ที่ผิดก็มี โลกแบน ดวงอาทิตย์หมุนรอบโลก เมื่อก่อนโลกกลม ก็ว่าแบน

ทุกอย่างล้วนมีเหตุและผล จึงทำให้เกิดความเชื่อ

ทฤษฎีที่ผิด และอ้างอิงไม่ได้คือทฤษฎีที่ยังไม่ถูกนำมาสร้างเป็นสิ่งของครับ จับต้องไม่ได้ ก็แค่รู้ แต่ผลิตไม่ได้ นั่นคือความเชื่อครับ

อย่างเช่นพวกทฤษฎี Big Bang หรือกำเนิดโลกต่างๆนาๆ เพราะเรายังสร้างโลกไม่ได้ มันจึงเป็นทฤษฎีที่รอมาแก้ไขได้ตลอดเวลา

ต่างจากทฤษฎีอย่างเช่นนิวเคลีย E=mc^2 หรือทฤษฎีทางด้านเสียง หรือคอมพิวเตอร์ซึ่งนำมาสร้างเป็นสิ่งของได้แล้ว จึงสามารถอ้างอิงได้สูงครับ

สิ่งเหล่านี้เค้าจึงเรียกว่ากฎเพื่อที่จะนำกฎไปพัฒนาต่อครับ ต่างจากความเชื่อซึ่งเอาไปพัฒนาเป็นอะไรยังไม่ได้

[Catwater]

ไม่ทราบว่ากฎอนุรักษ์พลังงานเค้าแก้เป็นอะไรแล้วหรอครับ

เท่าที่ผมทราบคือ พลังงานจะไม่สูญหาย เพียงแต่เปลี่ยนรูปไปเป็นอย่างอื่นเท่านั้น ยังใช้อันนี้อยู่รึเปล่าครับ

ไม่ได้เกี่ยวกับกระทู้แต่ก็น่าจะยังใช่อยู่นะคับ555 ที่เปลี่ยนคือนิยามของความร้อนที่เขาเคยคิดว่าเป็นมวลที่มีขนาดเล็กมากสามารถถ่ายเทไปจากที่มีความร้อนมากไปที่ความร้อนน้อยได้ แต่ภายหลังมีการทดลองว่างานจากแรงเสียดทานสามารถเปลี่ยนเป็นความร้อนได้ นิยามความร้อนที่ว่าเป็นมวลก็เลยเปลี่ยนเป็นพลังงานน่ะคับ

ทฤษฎีที่ผิด และอ้างอิงไม่ได้คือทฤษฎีที่ยังไม่ถูกนำมาสร้างเป็นสิ่งของครับ จับต้องไม่ได้ ก็แค่รู้ แต่ผลิตไม่ได้ นั่นคือความเชื่อครับ

อย่างเช่นพวกทฤษฎี Big Bang หรือกำเนิดโลกต่างๆนาๆ เพราะเรายังสร้างโลกไม่ได้ มันจึงเป็นทฤษฎีที่รอมาแก้ไขได้ตลอดเวลา

ต่างจากทฤษฎีอย่างเช่นนิวเคลีย E=mc^2 หรือทฤษฎีทางด้านเสียง หรือคอมพิวเตอร์ซึ่งนำมาสร้างเป็นสิ่งของได้แล้ว จึงสามารถอ้างอิงได้สูงครับ

สิ่งเหล่านี้เค้าจึงเรียกว่ากฎเพื่อที่จะนำกฎไปพัฒนาต่อครับ ต่างจากความเชื่อซึ่งเอาไปพัฒนาเป็นอะไรยังไม่ได้

แต่เรื่องเสียงนี่เมื่อเอาไปผลิตเป็น product ออกมาใครๆเขาก็ว่าเสียงมันต่างเสียงมันดีขึ้นทั้งนั้นนิคับ แล้วอย่างนี้มันไม่ได้หมายความว่าทฤษฏี (ของคุณ) ผิดเหรอ???... -"-

[sneakama]

ที่จริงผมว่ากระทู้นี้ไปถามอาจารย์ด้านฟิสิก หรือคอมพิวเตอร์ที่มีความรู้เรื่องเสียงมาตอบก็น่าจะเคลียแล้วนะครับ

อีกอย่างมนุษย์ยิ่งเป็นพวกชอบปรุงแต่งความรู้สึกตัวเองอยู่ด้วย

คนที่สร้างอุปกรณ์ขึ้นมานั่นแหละครับเค้ารู้แน่นอนว่ามันจริงหรือไม่จริง หลอกหรือไม่หลอกครับ

[tiger X-fi]

ผมว่าข้ามขั้น ทษฤี หลักการ การวิชาการ ไปแล้วนะครับ
เข้าสู่ขั้นทดลอง ใช้งานแล้ว ครับ
-------
ด้านบน อยู่ขั้น ทษฤี หลักการ วิชาการ เชิงเปรียบเทียบ (ได้ข้อสรุปแล้วไม่แตกต่าง)
ด้านล่าง ขั้นตอนใช้งานจริง ของผู้บริโภค เน้นตรงนี้มากกว่าครับ ที่ยังไม่ได้สรุป

ก่อนที่จะออกทะเล
ตรงนี้ผมอยากได้ เชิงความรู้สึก-ทดลองฟังจริงๆ ประสบการณ์จริงมากกว่าครับ
เพราะ..เราเป็นระดับ ผู้บริโภค สิ่งที่ได้ประโยชน์ คือ เอามาใช้งานจริงได้
ข้อมูลดิบ แผ่น CD DVD BD
ตัวแปร เครื่องเล่น CD DVD BD HD PC สายสัญญาณ
ภาคแปลงสัญญาณ DAC AVR
--------------
ทฤษฎี ดิจิตอล (01) ไม่มีความแตกต่าง ..ด้านเสียง...ชัวร์หรือมั่วนิ่ม

แยกให้ชัดเจนอีกหน่อย

ทฤษฎี ดิจิตอล (01) ไม่มีความแตกต่าง ..ด้านเสียง
ในทษฤี หลักการ วิชาการ ดิจิตอล เป็น 01 เท่านั้น ไม่มีการเปลี่ยน
ยิ่งหาข้อมูลเท่าไหร่ คำตอบเดียวเดียวก็คือ มันไม่มีทางเปลี่ยนแปลงจาก 01 ไปได้ ...เป็นที่ยอมรับทั่วไป

ชัวร์หรือมั่วนิ่ม
แต่ในส่วน ที่ใช้งานจริง
จากข้อมูลดิบตัวเดียวกัน
ตัวแปรที่ต่างกัน
ภาคแปลงสัญญาณตัวเดียวกัน
เสียงมีความแตกต่างกันหรือไม่ ....ตรงนี้ครับ..ที่อยากได้คำตอบ
และเห็นว่าน่าจะเป็นประโยชน์ครับ
-----------
คำว่า ดิจิตอล กับระบบเสียงในตอนนี้เป็นอะไรที่หนีไม่พ้นแน่ๆครับ
mp3 CD DVD BD ดิจิตอลทั้งนั้น
เรื่องการฟังมันก็เหมือน เราเลือกชื้อ ลำโพง หูฟัง ทั่วไปครับ

ถ้าเป็น หูฟังรุ่นไกล้เคียง แล้วถามว่าเสียงต่างมั๊ย
คำตอบก็คือ
ผมฟังไม่ต่างกัน ...ลองหลายรอบแล้ว (อะไรก็ว่ากันไป)
หรือ
เสียงต่างกัน เบสดีกว่า แหลมดีกว่า (อะไรก็ว่ากันไป)
อยากได้อะไรประมาณนี้มากกว่าครับ


ระดับผู้บริโภค..ใครมีแบบไหนก็ใช้แบบนั้นทดสอบ
ต่างก็คือต่าง...ประสบการณ์จริง
ไม่ต่างก็คือไม่ต่าง....ประสบการณ์จริง
เรื่องผลลัพย์เดี๋ยวออกมาเองครับ...
อาจจะต้องใช้เวลาหน่อยเท่านั้น...ครับ

[sneakama]

ไม่ได้เกี่ยวกับกระทู้แต่ก็น่าจะยังใช่อยู่นะคับ555 ที่เปลี่ยนคือนิยามของความร้อนที่เขาเคยคิดว่าเป็นมวลที่มีขนาดเล็กมากสามารถถ่ายเทไปจากที่มีความร้อนมากไปที่ความร้อนน้อยได้ แต่ภายหลังมีการทดลองว่างานจากแรงเสียดทานสามารถเปลี่ยนเป็นความร้อนได้ นิยามความร้อนที่ว่าเป็นมวลก็เลยเปลี่ยนเป็นพลังงานน่ะคับ



แต่เรื่องเสียงนี่เมื่อเอาไปผลิตเป็น product ออกมาใครๆเขาก็ว่าเสียงมันต่างเสียงมันดีขึ้นทั้งนั้นนิคับ แล้วอย่างนี้มันไม่ได้หมายความว่าทฤษฏี (ของคุณ) ผิดเหรอ???... -"-

มันต่างเพราะเค้าปรุงแต่ง bit rate มากกว่าหนะซิครับผมเดาเอานะ เพราะใช้ทฤษฎี Pass through ยังไงก็เสียงเหมือนกันครับ

เหมือนที่เค้าชอบโฆษณาว่า Yamaha ดูหนังเทพ Marantz ฟังเพลงเทพ ออนเกียวพอดีๆ อะไรแบบนี้ คือต้องถามว่าเสียงเครื่องไหนเหมือนต้นฉบับมากที่สุด

ซึ่งตอบไม่ได้ เพราะมันกลายเป็นความชอบส่วนบุคคลไปแล้ว ฟังเครื่องไหนเพราะ ก็ว่าเครื่องนั้นเสียงดี

ผมเลยคิดว่า ที่เสียงมันต่างกันเพราะแต่ละค่ายแทรก bit rate เข้าไปในช่วงความถี่ที่ไม่เหมือนกัน เหมือนเวลาเราเลือกEqualizer หนะครับ

เพราะถ้าไม่แทรก ขั้นตอนเดียวที่จะเสียงเปลี่ยนคือแปลง digital เป็น analog เพื่อให้ลำโพงขับเสียงออกมา อันนี้ตามทฤษฎีที่ผมรู้นะครับ

[tiger X-fi]

มันต่างเพราะเค้าปรุงแต่ง bit rate มากกว่าหนะซิครับผมเดาเอานะ เพราะใช้ทฤษฎี Pass through ยังไงก็เสียงเหมือนกันครับ

เหมือนที่เค้าชอบโฆษณาว่า Yamaha ดูหนังเทพ Marantz ฟังเพลงเทพ ออนเกียวพอดีๆ อะไรแบบนี้ คือต้องถามว่าเสียงเครื่องไหนเหมือนต้นฉบับมากที่สุด

ซึ่งตอบไม่ได้ เพราะมันกลายเป็นความชอบส่วนบุคคลไปแล้ว ฟังเครื่องไหนเพราะ ก็ว่าเครื่องนั้นเสียงดี

ผมเลยคิดว่า ที่เสียงมันต่างกันเพราะแต่ละค่ายแทรก bit rate เข้าไปในช่วงความถี่ที่ไม่เหมือนกัน เหมือนเวลาเราเลือกEqualizer หนะครับ

เพราะถ้าไม่แทรก ขั้นตอนเดียวที่จะเสียงเปลี่ยนคือแปลง digital เป็น analog เพื่อให้ลำโพงขับเสียงออกมา อันนี้ตามทฤษฎีที่ผมรู้นะครับ

หลักการนี้...ใช้ไม่ได้
กับคนที่เปลี่ยนสาย USB COAX ฟังแล้วเสียงแตกต่าง
ส่วนคนที่เชื่อในหลักการ หรือฟังแล้วไม่แตกต่าง
ก็จะว่า...คนที่ฟังแล้วแตกต่าง ว่า.....อุปทาน
ไม่มีข้อยุติ...(จะกลายเป็นกระทู้ทะเลาะกันน่ะครับ)
ใครลองมายังไงก็บอกไปอย่างนั้น....จะได้ประโยชน์กว่าครับ
----------------------

ผมว่าข้ามขั้น ทษฤี หลักการ การวิชาการ ไปแล้วนะครับ
เข้าสู่ขั้นทดลอง ใช้งานแล้ว ครับ
-------
ด้านบน อยู่ขั้น ทษฤี หลักการ วิชาการ เชิงเปรียบเทียบ (ได้ข้อสรุปแล้วไม่แตกต่าง)
ด้านล่าง ขั้นตอนใช้งานจริง ของผู้บริโภค เน้นตรงนี้มากกว่าครับ ที่ยังไม่ได้สรุป

ก่อนที่จะออกทะเล
ตรงนี้ผมอยากได้ เชิงความรู้สึก-ทดลองฟังจริงๆ ประสบการณ์จริงมากกว่าครับ
เพราะ..เราเป็นระดับ ผู้บริโภค สิ่งที่ได้ประโยชน์ คือ เอามาใช้งานจริงได้
ข้อมูลดิบ แผ่น CD DVD BD
ตัวแปร เครื่องเล่น CD DVD BD HD PC สายสัญญาณ
ภาคแปลงสัญญาณ DAC AVR
--------------
ทฤษฎี ดิจิตอล (01) ไม่มีความแตกต่าง ..ด้านเสียง...ชัวร์หรือมั่วนิ่ม

แยกให้ชัดเจนอีกหน่อย

ทฤษฎี ดิจิตอล (01) ไม่มีความแตกต่าง ..ด้านเสียง
ในทษฤี หลักการ วิชาการ ดิจิตอล เป็น 01 เท่านั้น ไม่มีการเปลี่ยน
ยิ่งหาข้อมูลเท่าไหร่ คำตอบเดียวเดียวก็คือ มันไม่มีทางเปลี่ยนแปลงจาก 01 ไปได้ ...เป็นที่ยอมรับทั่วไป

ชัวร์หรือมั่วนิ่ม
แต่ในส่วน ที่ใช้งานจริง
จากข้อมูลดิบตัวเดียวกัน
ตัวแปรที่ต่างกัน
ภาคแปลงสัญญาณตัวเดียวกัน
เสียงมีความแตกต่างกันหรือไม่ ....ตรงนี้ครับ..ที่อยากได้คำตอบ
และเห็นว่าน่าจะเป็นประโยชน์ครับ
-----------
คำว่า ดิจิตอล กับระบบเสียงในตอนนี้เป็นอะไรที่หนีไม่พ้นแน่ๆครับ
mp3 CD DVD BD ดิจิตอลทั้งนั้น
เรื่องการฟังมันก็เหมือน เราเลือกชื้อ ลำโพง หูฟัง ทั่วไปครับ

ถ้าเป็น หูฟังรุ่นไกล้เคียง แล้วถามว่าเสียงต่างมั๊ย
คำตอบก็คือ
ผมฟังไม่ต่างกัน ...ลองหลายรอบแล้ว (อะไรก็ว่ากันไป)
หรือ
เสียงต่างกัน เบสดีกว่า แหลมดีกว่า (อะไรก็ว่ากันไป)
อยากได้อะไรประมาณนี้มากกว่าครับ


ระดับผู้บริโภค..ใครมีแบบไหนก็ใช้แบบนั้นทดสอบ
ต่างก็คือต่าง...ประสบการณ์จริง
ไม่ต่างก็คือไม่ต่าง....ประสบการณ์จริง
เรื่องผลลัพย์เดี๋ยวออกมาเองครับ...
อาจจะต้องใช้เวลาหน่อยเท่านั้น...ครับ

[sneakama]

ถ้าระดับผู้บริโภคนะครับ ตัดเรื่องทฤษฎีออก

บอกตรงๆว่าไม่ต่างครับ หูผมมันไม่เทพ

สิ่งที่จะทำให้ต่างอย่างรู้สึกได้ของผมก็คือ เปลี่ยนลำโพงใหม่ หรือปรับ Equalizer เท่านั้นครับ