Announcement

Collapse
No announcement yet.

ทฤษฎี ดิจิตอล (01) ไม่มีความแตกต่าง ..ด้านเสียง...ชัวร์หรือมั่วนิ่ม

Collapse
X
 
  • Filter
  • Time
  • Show
Clear All
new posts

  • Originally posted by ssk View Post
    วันนี้งานยุ่งๆเอา เรื่องกระแส กับความถี่ก่อนนะครับ และเรื่อง RESAMPLING ก่อนนะครับ เรื่องอื่นยาวขอพักหน่อยแล้วจะอธิบายให้ฟังซ้ำอีกครั้งอย่างละเอียด และช่วยรบกวนตอบคำถามเดิมคำถามนึงสำหรับคนที่แยกความแตกต่างของสาย HDMI ได้นะครับ
    1 เรื่องกระแส กับความถี่นะครับ ที่บอกว่ากระแสไม่เกี่ยวเพราะการใหลของไฟฟ้าจะมีแรงดันและกระแสเหมือนน้ำ คือมีทั้งแรงดันและปริมาณ ทีนี้การส่ง DIGITAL มันส่งด้วยการเปิดและปิด ถ้าเปิดถึงจะมีกระแสใหลถูกใหม ทีนี้ถ้าบางบล็อคของข้อมูลมันมี Bit 1 มากกระแสมันจะใหลมาก กว่าตัวที่มี BIT 1 น้อยกว่า ถ้าเอากระแสเป็นที่ตั้ง มันจะแกว่งไปมาตลอดเวลา ผู้คิดค้นถึงใช้การจับความแตกต่างของแรงดันแทนเพราะแรงดันมันคงที่หรือเปลี่ยนแปลงไม่มากจนทำให้การส่งข้อมูลมีปัญหา ผมถึงบอกว่ากระแสไม่เกี่ยว แต่ความถี่เกียว เพราะยิ่งความถี่สูง การเปิดปิดเร็ว มันทำให้ TRASISTER ทำงานหนักมันถึงต้องลดแรงดันและกระแสลงมา และการส่งข้อมูล DIGITAL มันต้องใช้ความถี่ในการแบ่งช่องข้อมูล ความถี่สูงช่องข้อมูลจะมากมันก็ส่งข้อมูลได้มากตาม หลักการส่งข้อมูล DIGITAL มันประบุกต์มาจากการส่งรหัสมอส ที่ได้รับการยอมรับแล้วว่าแม่นยำที่สุดทั้งที่มีวิทยุแล้วก็ตามเพราะคำพูดมันเพี้ยนได้แต่รหัสมันไม่เพี้ยน เพราะฉนั้น คนส่งคนรับก็จะคอยส่งรหัส จุด และ ขีดที่แสดงแทนข้อมูล ทั้ง 2 คนต้องดูนาฬิกาว่าจะเคาะทุกๆ 1 วินาที หรือ 1 นาที ถ้าเคาะ 1 วิ มันเร็วกว่า 1 นาทีใช่ใหม แต่นาฬิกาคนรับมันไม่มเข็มวิ มีแต่เข็มนาที มันก้ต้องตั้งตามคนรับ ไม่งั้นมันจะส่งข้อมูลรู้เรื่องได้ไง ถูกใหม อันนี้จบ
    2 การ SAMPLING และ RESAMPLING คือการเข้าและถอดรหัสข้อมูล ที่ไม่เป็นเชิงเส้น กล่าวคือ ถ้าข้อมูลเป็นเชิงเส้นก็ขิฃีดค่าตรงๆก็จบแบบ AD ของเครื่องมือวัด แต่สัญญาณเสียงมันไม่เป็นเชิงเส้น มันถึงต้องประมาณค่า ความโค้งแบบที่ผมอธิบายถึงกระดูกงูนั่นแหละ คือข้อมูลมันแทนค่าความแรงและความถี่ แต่มันบอดจุดของมันว่าอยุ่จุดนี้ จึงต้องสุ่มค่าเพื่อประมาณกราฟ ค่า SAMPLING มันคือค่าประมาณ ของ SEGMENT CURVE ซึ่ง AD และ DA จะใช้ตำราเล่มเดียวกัน เมื่ออัดเสียงในห้องอัดมันจะบันถึกมาพร้อมกัน ทีนี้เวลาฟังมันต้องถอดรหัส SAMPLING นี้ออกมาถึงบอกว่า RESAMPLING เพราะมันเป็นของ DA ไงครับ ชื่อมันก็บอกอยุ่แล้วว่าสุ่ม มันก็จะสุ้มค่าความเป็นเชิงเส้นออกมาให้ผ่านจุดข้อมูลทั้งหมด แต่มันไม่เป๊ะ 100% เพราะมันเป็นการประมาณค่า ซึ่ง CD ใช้ 44.1 หรือ 44100 แต่ผมให้กลมๆที่ 1 ใน 40000 จะได้จำง่ายๆ ผมถึงบอกว่าฟังครั้งที่ 1 กับ 2 จะไม่เหมือนกัน แต่คล้ายกัน เพราะมันสุ่ม มันจะแกว่งไปเรื่อยนั่นแหละ แต่มันสั้นมากจนคนแยกไม่ออก ถึงมันจะสุ่มครั้งแรกกับหลังต่างกัน 20000-30000 ระดับ เราก็ฟังไม่ค่อยรู้เรื่อง ผมก็ถึงถามว่าฟังออกใหม ซึ่งก็เหมือนกับ AMP ที่มีความเพี้ยนเล็กๆ ถ้าเปิดเพียวๆจะพบว่ามันแกว่ง AMP ดีมันจะแกว่งค่อนไปทาง สูงหรือ ต่ำ มากกว่าจะแกว่งเละเทะและผมใช้วิธีนี้ทดสอบ AMP ที่ผมยกกลับมาบ้านก่อนเพื่อทำใจเสมอน่ะครับ ผมถึงบอกว่ามันจริงครึ่งเชื่อครึ่งเถียงกันยาก

    และคนที่ยกสาย HDMI มา คุณเคยทักบ้างมั้ยว่า เอะวันนี้หนังสือพิมพ์สีมันจืดใหมหว่า ก่อนถึงวันนี้นะครับ ถ้ายกสาย HDMI มาอ้างจากภาพใน LCD ต้องแยกเรื่องแบบนี้ได้ก่อน เพราะหลอดไฟบนหัวน่ะ มันมีอายุ 2000 ชั่วโมงโดยประมาณ มันจะมืดลงไปที่ 40 % ในช่วงนั้น และแสงที่ได้มันผสมมา มันจะลดไปแบบสุ่มเหมือน Contrass ของ LCD ทุกวันถ้าเราเปิด 4 ชั่วโมง โดยฉลี่ย มันจะลด CONTRAS ลง 2 ใน 2000 ทีนี้ 1 สัปดาห์เท่าไหร่ 1 เดือนเท่าไหร่ แต่เคยทัก หรือรู้สึกใหม ก่อนจะพูดถึงเรื่อง CONTRAS ของ LCD และ HDMI น่ะนะครับ
    Ohhhhh ปึ้กมากครับ ^___^ จด ๆๆ ผมว่าถ้าจะทดสอบ Digital ส่งแบบ Optical

    จะเหมาะสมในการทดสอบที่สุดครับ

    Comment


    • อีกนิดนึงครับ ขนาดเปลี่ยนสาย AC เสียงยังเปลี่ยนเลยครับ ถ้าท่านจะนำเรื่องที่เสียงเปลี่ยนในระบบ Digital

      หลังเปลี่ยนสายสัญญาณเป็นตัววัด ในระบบเป็นหลักผมเลยมองว่ามันไม่ตรงประเด็นครับ ส่วนเรื่องสาย AC หลังจากเปลี่ยน

      แล้วเห็นผลมากกว่าการเปลี่ยนสายสัญญาณด้วยนะครับ สาย AC HIFI Hut ราคาประมาณ 3500

      กับสาย AC แถม ถ้าฟังธรรมดาแยกไม่ค่อยออกเท่าไร แต่ว่าถ้าถอดสับไปสับมาเพื่อจับผิดหละก็

      เห็นว่าเสียงดีขึ้น ในทุกย่าน ครับแต่ถ้าให้ตีเป็นเปอร์เซ็นต์ผมให้สัก 10-15 เปอร์เซ็นต์ของระบบครับ

      ดังนั้นสำหรับเรื่องสายสัญญาณ-สาย AC ผมมองว่ามันเป็นแค่น้ำจิ้มครับ เพิ่มสีสันให้กับระบบ แต่ว่าก็ขาดไม่ได้

      สำหรับนักเล่น เพราะฉะนั้นไม่ควรซื้อจนแพงเวอร์เกินไปครับ เอาแค่เกรดดีขึ้นมานิด และเทียบกับอุปกรณ์

      ที่เราใช้ราคาไม่กระโดดจนเกินไปนัก ถ้าอยากทราบว่าจริง หรือไม่จริง ข้อมูล มีอยู่เพียบครับลอง Search ดูครับ

      รับรองต้องเจอบ้างอย่างแน่นอน

      Comment


      • ขอแซวนิด อย่าไปซื้อสายสัญญาณ-AC ตามท่าน Hidden Dragon นะครับ

        เพราะระบบของท่านนี้เทพเกินบรรยาย อิอิ

        ปล. ไม่ได้ต้องการมาโพสเพื่อให้คนขายสายสัญญาณ-AC รายได้เพิ่มขึ้นนะครับ

        เข้ามาบอกกล่าวกันให้เกิดความเข้าใจ เจ๋ย ๆ

        Comment


        • อ่านแล้วก็ยังสับสนเหมือนเดิม

          - กระแสทำให้ความถี่เปลี่ยน
          เรื่องความต่างศักย์ทำให้เกิดกระแสไหล อันนี้มันเบสิคของอิเลคทรอนิคส์นา ใครเรียนพื้นฐานอิเลคทรอนิคส์มาบ้างก็รู้อยู่แล้ว
          แต่เรื่องกระแสไฟ5mAได้ความถี่1K พอกระแสเปลี่ยนเป็น20mA ความถี่กลายเป็น100K แบบนี้ยังไม่เคยเจอ

          - DAC ทำให้สายกับPlayerเสียงเปลี่ยน
          ประเด็นนี้ พยายามอ่านกี่หนก็ยังไม่เคยรู้สึกเคลียสักที
          เปลี่ยนPlayerซึ่งเป้นตัวหน้าสุด แล้วเสียงเปลี่ยน ได้รับคำตอบว่า Playerไม่เกี่ยว แต่เป็นเพราะDACซึ่งต่ออยู่ข้างหลังนู้น


          เรื่องแสงสีหลอดไฟ
          ถ้าสังเกตุสเปคของหลอดไฟแต่ละยี่ห้อแต่ละรุ่น
          เค้าจะมีระบุไว้ นอกจากเรื่องแสงdaylight warmlight ยังมีระบุอุณหภูมิแสงด้วย ซึ่งแต่ละยี่ห้อก็มีแตกต่างกันไปบ้าง
          ผมว่า หลายคนที่ได้ลองหลอดไฟหลายๆยี่ห้อหลายๆรุ่น ตอนลองน่าจะรู้สึกหลอดไหนแสงขาวกว่ากัน สว่างกว่ากัน

          ฝุ่นไปจับที่ตัวหลอด เขม่าไปจับที่ตัวหลอด คราบไขมันไปจับที่ตัวหลอด ทั้งความสว่างทั้งอุณหภูมิแสงมันก็เปลี่ยนไปจากเดิม
          พวกนี้ผมว่าคนใช้ทั่วไปตามบ้านเค้าก็รู้กันอยู่แล้ว เพียงแต่เค้าใช้คำแบบทั่วไป หลอดมันมืดกว่าเดิม ไม่สว่างเหมือนตอนแรก

          เหมือนไฟหน้ารถ โคมเหลืองขึ้นทุกวัน ผ่านไป4-5เดือนเจ้าของเค้าก็รู้ ที่เค้าไม่ได้บอกไม่ได้ทักเพราะคิดว่าใครๆก็รู้อยู่แล้วะมั้ง

          ในห้องมีหลอดไฟอยู่9หลอด อายุใช้งานแต่ละหลอดก็ไม่เท่ากัน ปัจจุบันยังเหลือหลอดไฟอายุใช้งาน4ปีกว่าอยู่2หลอด
          ลูกค้าบางคนที่ไม่ชอบสว่างมาก เค้าก็ชอบเลือกที่นั่งในจุดที่เป็นหลอดไฟเก่าอายุ4ปีกว่า ไม่ต้องไปบอกเค้าก็รู้เอง

          ยิ่งถ้าเป็นกลุ่มที่เล่นเรื่องกล้องเรื่องภาพ ผมว่ากลุ่มนี้เค้ายิ่งรู้ลึกเรื่องแสงเรื่องสีกว่าผมอีกเยอะ พวกเล่นกล้องนี่มีมากี่ปีแล้วหว่า

          ผมเป็นพวกแปลกคนละมั้ง ที่ไม่กล้าบอกคนอื่นว่าแสงไม่เท่ากัน เพราะ เชื่อว่าคนอื่นก็รู้อยู่แล้ว


          สายhdmi
          ผมว่า เค้าไม่ได้ทดสอบเปรียบเทียบภาพ เมื่อ6เดือนที่แล้ว กับ วันนี้
          ที่เห็นเค้าลองกัน คือ แสงและภาพที่อยู่ในช่วงเวลาขณะลองเปลี่ยนสายกัน ใช้เวลลองทั้งหมด20-30นาที เต็มที่ก็ไม่เกิน2ชั่วโมง

          ดูภาพจากสายเส้นเดิม ถอดสายเก่าออก เปลี่ยนสายเส้นใหม่เข้าไป แล้วก็เปิดดู ถ้าเห็นว่าต่างก็บอกว่าต่าง ไม่ต่างก็บอกไม่ต่าง

          ยังไม่เคยเห็นใครลองแบบมาราธอน
          เปิดดูเส้นเดิมวันนี้ แล้วก็ปิดยาว รอข้ามวัน รอข้ามสัปดาห์ แล้วค่อยเปิดเพื่อเอาเส้นใหม่มาต่อแล้วดูเทียบย้อนอดีต ข้ามวัน ข้ามสัปดาห์

          Comment


          • ทฤษฏีผมไม่แม่นครับ ไม่ขอแสดงความคิดเห็นครับ ^^

            Comment


            • อาจจะคนพูดไปละ

              แต่ 0 1 มันไม่แตกต่างก็จริง แต่คุณภาพสายทำให้มันlossได้นะครับ

              ระบบส่งสัญญาณดิจิตอลความเร็วสูง โดยเฉพาะHDMIเนี่ย พอมันerrorมันไม่ได้ lost ไปเลยนะ แต่มันจะผิดเพี้ยน

              สมมุติ ส่งไปเป็นชุด ชุดละ8ตัว(มีบิทนำ1ตัวเป็น9) 1 1 0 1 0 1 1 0 1

              แต่ฝ่ายรับรับได้เป็น 1 1 0 0 0 1 1 0 1 เงี้ย คุณคิดว่าข้อมูลที่outputออกมาจะเพี้ยนมั้ยล่ะ

              ลองหาtextbook วิชา data comunication ดูมีสอนเรื่องนี้ด้วย เพิ่งเรียนมาเทอมที่แล้ว ถึงบางอ้อเรื่องHDMIเลย

              Comment


              • ^__^ ต่างไม่ต่าง ใครถูกใครผิด ผมว่าไม่ใช่ประเด็นครับ สำคัญก็คือ

                เราเข้าใจตรงกันหรือเปล่า ที่คุณ ๆ ทั้งหลายที่ตอบมา คุณกำลังตอบถึงเรื่องอะไร

                และเรื่องที่คุณ ๆ ถามมาคุณต้องการถามอะไร เพราะเรื่องนี้เป็นเรื่องที่ละเอียดอ่อนและมีหลายตัวแปร

                เข้ามาเกี่ยวข้องมากครับ ดังนั้นถ้าจะถามให้เคลียร์เลย

                จะต้องตั้งคำถามให้รัดกุมที่สุดและตอบคำถามให้ตรงจุดที่ถามที่สุด

                โดยให้เหลือตัวแปรแค่ตัวเดียวในการตอบ หลังจากนั้นเราก็มาหา

                เจ้าตัวแปรที่เราสงสัยกัน ไม่เช่นนั้นเราก็จะจับแพะมาชนกับแกะกันมันส์เลย

                อย่างไรก็ตามอยากให้ พึงตอบคำถามด้วยอารมณ์นี้นะครับ

                ต้องการรู้ความจริงโดยไม่สนใจว่าเราจะถูกหรือผิด และไม่ใช้อารมณ์ในการตอบ

                ยอมรับความเห็นของคนอื่น ถ้าไม่ยอมรับก็ต้องบอกเหตุผลที่ชัดเจน และอ้างอิงได้
                Last edited by tugy; 10 Apr 2011, 19:30:43.

                Comment


                • ถ้ายังข้องใจกันเรื่องสายสัญญาณอีก ผมจะสรุปตามนี้นะครับ ลองอ่าน ๆ ดูนะครับ ไม่รู้ว่าใช่หรือเปล่า ^__^

                  ถ้าคิดว่าไม่ใช่ตรงไหนก็แย้งได้นะครับ


                  1. Sound Card ต่างกัน ส่งสัญญาณ Optic-HDMI-Coax โดยใช้สายสัญาณเส้นเดียวกันใน Mode Pass-Through

                  ไปยัง AVR ตัวเดียวกัน ลำโพง system ตัวเดียวกัน เสียงไม่ต่างกัน


                  2. Sound Card ต่างกัน ส่งสัญญาณ Optic-HDMI-Coax โดยใช้สายสัญญาณคนละเส้นกันใน Mode Pass-Through

                  จากตัวการ์ดก่อนส่ง ไปยัง AVR ตัวเดียวกัน ลำโพง system ตัวเดียวกัน เสียงต่างกัน(แต่ว่าต่างกันน้อยครับไม่เยอะมาก)

                  3. Sound Card ต่างกัน ส่งสัญญาณ Optic-HDMI-Coax โดยใช้สายสัญาณเส้นเดียวกันแล้วมีการ Decode-Resampling

                  จากตัวการ์ดก่อนส่ง ไปยัง AVR ตัวเดียวกัน ลำโพง system ตัวเดียวกัน เสียงต่างกัน อันนี้ต่างกันตามคุณภาพของ

                  Sound Card นั้น ๆ เลยครับ


                  4. Sound Card ต่างกัน ส่งสัญญาณ Optic-HDMI-Coax โดยใช้สายสันดาน เอ้ยสายสัญญาณ ต่างเส้นกันแล้วมีการ Decode-Resampling

                  จากตัวการ์ดก่อนส่ง ไปยัง AVR ตัวเดียวกัน ลำโพง system ตัวเดียวกัน ถ้าเป็นอันนี้หละก็ บอกได้คำเดียวครับว่า เสียต่ากาชิหา 5555
                  Last edited by tugy; 10 Apr 2011, 19:56:41.

                  Comment


                  • ไม่จบ อีก จัดแข่งเลยดีมั้ย เอามันระดับประเทศไปเลย

                    Comment


                    • ว้าว อย่าไปคิดมากกับสัญญาณ 0 1 เพราะสัญญาณต้นทางแท้ๆมันก็คือanalog แต่ที่มันจะทำให้เกิดความแตกต่างกันคือ

                      การcomparator analog to digitel จากห้องอัดเสียจากเครื่องบันทึกงลงแผ่นบันทึกต่างๆหลายประเภท
                      การcomparator digitel to analog จากแผ่นผ่านเครื่องเล่นออกลำโพง

                      ไอสีแดงที่ผมเน้นคือตัวหลักๆที่ทำเกิดความต่าง แล้วถ้าพูดให้ลึกกว่านี้ยาวครับ สรุปในความคิดส่วนตัวของผมแล้วความรู้ที่พอมีบ้าง สัญญาณดิจิตอล 01 (เสียง) เกิดความแตกต่างกันขึ้นแล้ว เพราะมีการแปลงสัญญาณ A(เสียงร้องของคนร้อง) TO D เรียบร้อยแล้ว สเปคตัมเปลี่ยนแปลงไปจากต้นฉบับ(analog)

                      Comment


                      • Originally posted by xexalskyline View Post
                        อาจจะคนพูดไปละ

                        แต่ 0 1 มันไม่แตกต่างก็จริง แต่คุณภาพสายทำให้มันlossได้นะครับ

                        ระบบส่งสัญญาณดิจิตอลความเร็วสูง โดยเฉพาะHDMIเนี่ย พอมันerrorมันไม่ได้ lost ไปเลยนะ แต่มันจะผิดเพี้ยน

                        สมมุติ ส่งไปเป็นชุด ชุดละ8ตัว(มีบิทนำ1ตัวเป็น9) 1 1 0 1 0 1 1 0 1

                        แต่ฝ่ายรับรับได้เป็น 1 1 0 0 0 1 1 0 1 เงี้ย คุณคิดว่าข้อมูลที่outputออกมาจะเพี้ยนมั้ยล่

                        ลองหาtextbook วิชา data comunication ดูมีสอนเรื่องนี้ด้วย เพิ่งเรียนมาเทอมที่แล้ว ถึงบางอ้อเรื่องHDMIเลย
                        การทวนสัญญาญ
                        Last edited by im; 10 Apr 2011, 21:06:14.

                        Comment


                        • ข้อ3กับ4 เป็นที่ยอมรับและรับรู้กันอยู่แล้ว เพราะ อินพุทกับเอ้าท์พุท มีค่าแซมปลิ้งและบิทที่ต่างกัน ทำให้เกิดเสียงต่างกัน

                          แต่ข้อ1กับ2 ยังเป็นปัญหาขบคิดอยู่
                          เพราะ แค่การ์ดต่างกัน แต่ใช้สายเส้นเดียวกัน(พูดง่ายตัดเรื่องสายออกไปก่อนได้เลย) ก็มีคนทดลองแล้ว ได้ผลที่ต่างกันอยู่

                          มีคนอุตริกว่านั้นอีก คุณManiacMaew เค้าเคยโพสลงกระทู้นี้แล้วในหน้าต้นๆ
                          เค้าลองแบบพิสดาร ลองกลับขั้วสายดิจิตอลS/PDIF เฉพาะด้านเมนบอร์ดด้านเดียว
                          - เอาขั้วบวกไปต่อเป็นขั้วกราวน์
                          - เอาขั้วกราวน์ไปต่อเป็นขั้วบวก
                          ต่อสายDigitalแบบCoaxial และต่อกับDAC external เหมือนปรกติทั่วไป

                          ผลลัพท์ คือ มีเสียงออกปรกติ เพลงก็ยังเป็นเพลง แต่เสียงต่างจากแบบต่อถูกขั้วด้วย
                          ซึ่งเรื่องนี้ก็เคยโพสมาก่อนตั้งแต่กระทู้HDMIแล้วด้วย จนถึงวันนี้ก็ยังไม่มีคนให้คำตอบได้ว่า ทำไม? เหตุใด?


                          แต่ในกระทู้นี้ (หน้า6 โพส#119) คุณsskได้แนะนำคุณManiacMaewว่า ต่อแบบนั้นเครื่องจะเสีย และไม่มีเสียง
                          และยังบอกคุณManiacMaewด้วยว่า ถ้าไม่เชื่อก็ไปลองทำดูได้

                          หลังจากอ่านคำตอบเรื่องนี้แล้ว ตัวคุณManiacMaewและตัวผมก็ถึงกับมึนตึ๊บจนถึงเวลานี้เหมือนกัน
                          เพราะ คุณManiacMaewก็บอกชัดเจนว่า ทำไปนานแล้ว และ รู้ผลลัพท์เรียบร้อยแล้ว เครื่องไม่เสีย และ มันมีเสียงออกปรกติ
                          แต่เสียงระหว่าง ต่อแบบถูกขั้ว กับ ไม่ถูกขั้ว มันมีความแตกต่างกัน

                          ถ้าอ่านกันดีๆแบบละเอียด ผลการทดลองของคุณManiacMaewนั้น มีหลายอย่างที่ขัดแย้งกับทฤษฏีฝ่ายดิจิตอลในหลายๆเรื่องเลย
                          - เรื่องระบบตรวจสอบความถูกต้องของข้อมูล01
                          - เรื่องถ้าอ่านข้อมูลแล้วพบว่าข้อมูลไม่ตรง เครื่องจะต้องทำงานต่อไม่ได้ ทำให้ไม่มีเสียง
                          - ข้อมูล01จากแผ่นCDจนถึงอินพุทของชิบDACจะต้องตรงกัน ถ้าไม่ตรงกัน..ระบบตรวจสอบ01จะมีการรีเควสขอให้ส่งข้อมูล01ใหม่



                          รูปตัวอย่าง แบบที่คุณManiacMaewทดลอง และ เคยโพสไว้
                          ก็อปมาจากบทความ DIY S/PDIF Coaxial Bracket ของคุณtor_Za > คลิก
                          ใครสนใจ หรือ อยากสนุก ก็ทดลองได้ด้วยตัวเองครับ

                          เมนบอร์ดยุคใหม่ ในรุ่นประหยัด จะมีพอร์ทS/PDIFให้แล้ว


                          จากเมนบอร์ดก็ต่อสายเข้าแจ็คRCAตัวเมีย สำหรับต่อกับสายDigitalแบบCoaxial

                          รูปข้างบนเป็นการต่อสายที่แจ็คRCAแบบถูกขั้ว
                          แต่คุณManiacMaewตั้งใจทดลองต่อให้ผิดขั้ว โดยกลับที่ขั้วเสียบในเมนบอร์ด (ทำจุดเดียว) เพื่อดูผลลัพท์
                          Last edited by keang; 10 Apr 2011, 21:58:30.

                          Comment


                          • Originally posted by keang View Post
                            ข้อ3กับ4 เป็นที่ยอมรับและรับรู้กันอยู่แล้ว เพราะ อินพุทกับเอ้าท์พุท มีค่าแซมปลิ้งและบิทที่ต่างกัน ทำให้เกิดเสียงต่างกัน

                            แต่ข้อ1กับ2 ยังเป็นปัญหาขบคิดอยู่
                            เพราะ แค่การ์ดต่างกัน แต่ใช้สายเส้นเดียวกัน(พูดง่ายตัดเรื่องสายออกไปก่อนได้เลย) ก็มีคนทดลองแล้ว ได้ผลที่ต่างกันอยู่

                            มีคนอุตริกว่านั้นอีก คุณManiacMaew เค้าเคยโพสลงกระทู้นี้แล้วในหน้าต้นๆ
                            เค้าลองแบบพิสดาร ลองกลับขั้วสายดิจิตอลS/PDIF เฉพาะด้านเมนบอร์ดด้านเดียว
                            - เอาขั้วบวกไปต่อเป็นขั้วกราวน์
                            - เอาขั้วกราวน์ไปต่อเป็นขั้วบวก
                            ต่อสายDigitalแบบCoaxial และต่อกับDAC external เหมือนปรกติทั่วไป

                            ผลลัพท์ คือ มีเสียงออกปรกติ เพลงก็ยังเป็นเพลง แต่เสียงต่างจากแบบต่อถูกขั้วด้วย
                            ซึ่งเรื่องนี้ก็เคยโพสมาก่อนตั้งแต่กระทู้HDMIแล้วด้วย จนถึงวันนี้ก็ยังไม่มีคนให้คำตอบได้ว่า ทำไม? เหตุใด?


                            แต่ในกระทู้นี้ (หน้า6 โพส#119) คุณsskได้แนะนำคุณManiacMaewว่า ต่อแบบนั้นเครื่องจะเสีย และไม่มีเสียง
                            และยังบอกคุณManiacMaewด้วยว่า ถ้าไม่เชื่อก็ไปลองทำดูได้

                            หลังจากอ่านคำตอบเรื่องนี้แล้ว ตัวคุณManiacMaewและตัวผมก็ถึงกับมึนตึ๊บจนถึงเวลานี้เหมือนกัน
                            เพราะ คุณManiacMaewก็บอกชัดเจนว่า ทำไปนานแล้ว และ รู้ผลลัพท์เรียบร้อยแล้ว เครื่องไม่เสีย และ มันมีเสียงออกปรกติ
                            แต่เสียงระหว่าง ต่อแบบถูกขั้ว กับ ไม่ถูกขั้ว มันมีความแตกต่างกัน

                            ถ้าอ่านกันดีๆแบบละเอียด ผลการทดลองของคุณManiacMaewนั้น มีหลายอย่างที่ขัดแย้งกับทฤษฏีฝ่ายดิจิตอลในหลายๆเรื่องเลย
                            - เรื่องระบบตรวจสอบความถูกต้องของข้อมูล01
                            - เรื่องถ้าอ่านข้อมูลแล้วพบว่าข้อมูลไม่ตรง เครื่องจะต้องทำงานต่อไม่ได้ ทำให้ไม่มีเสียง
                            - ข้อมูล01จากแผ่นCDจนถึงอินพุทของชิบDACจะต้องตรงกัน ถ้าไม่ตรงกัน..ระบบตรวจสอบ01จะมีการรีเควสขอให้ส่งข้อมูล01ใหม่



                            รูปตัวอย่าง แบบที่คุณManiacMaewทดลอง และ เคยโพสไว้
                            ก็อปมาจากบทความ DIY S/PDIF Coaxial Bracket ของคุณtor_Za > คลิก
                            ใครสนใจ หรือ อยากสนุก ก็ทดลองได้ด้วยตัวเองครับ

                            เมนบอร์ดยุคใหม่ ในรุ่นประหยัด จะมีพอร์ทS/PDIFให้แล้ว


                            จากเมนบอร์ดก็ต่อสายเข้าแจ็คRCAตัวเมีย สำหรับต่อกับสายDigitalแบบCoaxial

                            รูปข้างบนเป็นการต่อสายที่แจ็คRCAแบบถูกขั้ว
                            แต่คุณManiacMaewตั้งใจทดลองต่อให้ผิดขั้ว โดยกลับที่ขั้วเสียบในเมนบอร์ด (ทำจุดเดียว) เพื่อดูผลลัพท์
                            อิอิ สงสัยหูผมคงไม่เทพมั้งครับ ฟัง sound card ตัว top กับ onboard แยกกันไม่ออก ใครที่เขาบอกว่าแตกต่างครับ

                            ลอง เอามาคุย เอามายืนยันกับผมหน่อยสิครับ อยากคุยกับเขาเหมือนกันว่าทำยังถึงจะแตกต่างได้

                            ปล.ไม่ได้กวนนะครับ อยากรู้จริง ๆ

                            Comment


                            • ในกระทู้ก็มีคนบอกไว้หลายคน บางคนก็ไม่มีโอกาสกลับมาคุยในกระทู้ได้เหมือนเดิม
                              เพราะเงื่อนไขใหม่ของบางคนครับ

                              Comment


                              • ของพี่ ManiacMeawผม ยังไม่มีโอกาสได้ลองเลยครับ
                                ขี้เกียจยก DAC มาลอง T^T

                                Comment

                                Working...
                                X