โมให้ดีกันเยอะแล้ว มาม๊ะ....มาโมให้"เจ๊ง"กันดีกว่า

[ManiacMaew]

Q4 ค่า0.1ราคาไม่เท่าไร
แต่ Nichicon HE ตัวแพงเลย

---------
อ่านของคุณkeangแล้ว นึกถึงบางอย่าง
อันนี้ฝากถึงคนอื่นด้วย ระวังเจอเคสที่เป็นนายหน้าน่ะครับ
เห็นเว็บอื่นมีคนเจอ เป็นเรื่องยาวเลย

ถ้าจะทำให้คนอื่นเช็คด้วยว่าคนที่จะให้ทำเป็นเจ้าของ
หรือไม่ก็คุยโดยตรงเจ้าของก่อนทำอีกที

--------
กรรม ลืมไป db211 เสร็จแล้ว ลืมรีวิว = ="

[pluanant]

อยากมี ร้านอะไหล่ ไว้ข้างบ้านจัง T w T
อยากชุดแอมมาฟัด แต่มันยังคงเจ็บ แผลเลยไปซื้อชุด คิดที่ se-ed มาต่อเล่น เดียวจะลองโม
ผมเน้นของถูกครับ ตราบใดที่ยังหาเงินไม่ได้ก็เล่นถูกๆไปก่อน เอาแนวคิดพี่ๆ มา (ลอกซะ)

-------------
อันนี้สงสัยครับ ทำไหมc ความจุน้อย แล้ว เสียงสูงจะไปได้ดี แล้ว c ความจุมาก เสียงความถี่ต่ำ จะไปได้ดี
ถ้างั้นเวลาเราทำ bi-cap มันก็เป้นการเพิ่มความจุ แต่ทำไหมเสียงแหลม มันยังคงอยุ่ได้
หรือเพราะว่าจากการที่ไฟฟ้าแต่ละความถี่มันเลือก c ที่มันไป ง่ายหรือครับ งั้นเราก็ ใส่ c ไปหลายค่าเลยสิ มันจะได้ ไปได้เกือบทุกค่า?

[milestone]

คำตอบของน้อง pluanant พอมีคำตอบในใจแล้วแต่หาข้อมูลสักนิดเพื่อยืนยันก่อน
กลัวตอบผิดไปแล้ว จะจำอะไรผิดๆไป ขอเวลาซักนิดแล้วกัน

[ManiacMaew]

bicap ทำให้ ความจุที่ร่วมกันเยอะขึ้น ไม่ได้บอกว่าความถี่ไหนผ่านได้ดีขึ้นน่ะ
ยังไม่เคยลองเทียบแบบ
ตย. 1000u VS 500u bicapด้วย 500u
ไม่กล้าฟันธงว่าเป็นยังไง

bicapมันมีผลกระทบเรื่องอื่นด้วย
เรื่องมิติ คุณkeangเคยบอกว่ามีผลต่อด้านสูง
เคยลองฟังเทียบจริงเองตอนbicap silver mica ที่ภาคจ่ายไฟลำโพงคอม
เท่าที่รู้สึก คือเสีย สูงไปนิด แต่ได้ลึกมาแทนหน่อย
ไม่นับเรื่องทุ้มกลางแหลมน่ะ

แต่จริงๆ ผมยังสรุปอะไรเองไม่ได้หรอก c แต่ล่ะตัว ค่าเท่ากัน คนล่ะรุ่น-ยี่ห้อ เอามาต่อจุดเดียวกันยังให้ผลเรื่องมิติต่างกันเลย
ผลที่ได้ไม่รู้จะเป็นside effect จากชนิดc รึเปล่า

---------

พอทำเรื่อง c bypass ลงกราวน์กับfrontแล้ว
เหมือนทำที่แอมป์ลำโพงส่วนซับผิดไว้ ใช้ต่า wima mks ค่า 2.2 bypass ลงกราวน์
เลยลองดูเว็บนี้อีกที
http://www.hs8jyx.com/html/filter_circuit.html
เทียบกับวงจรกรองความถี่ตามdata sheet กับของจริงsonyดู
เหมือนsony มันจะทำอะไรแปลกๆ อีกแหล่ะ ดูไปดูมา c ที่ต่อbypassลงกราวน์ดมี3ชุด
2ชุดแรกตามดาต้าชีทที่เคยให้ดูใช้ค่า+วิธีการต่อต่างจากที่โคยโพสต์ไว้
(เพิ่มค่าc แล้วใช้ Rต่อขนานแทน)
1ชุด สุดท้ายอยู่ตรงก่อนออกไปสาย
ตอนแรกไม่รู้เรื่องเลยตัดc ceramicของเก่าออกใส่ Mksไป

ดูใหม่อีกที มันมี2ชุดแรกอยู่แล้ว(มีferritebeadต่ออนุกรมอีกด้วยน่ะ ไม่รู้ทำไมพี่แกชอบใช้จัง)
wimaที่ต่อไว้เลยถอนออกซะเลยไม่รู้จะใส่ไปทำไมอีก ค่าที่ใช้ก็มากเกิน

เสียงที่ได้ไม่ได้เทสละเอียด แต่เหมือนจะโปร่งใสขึ้น

------------

update วันนี้ลองเล่น 2แบบ
กับเรื่องกรองความถี่ ต่อได้2อย่าง
ต่อหลังตำแหน่งinputลำโพง
1อนุกรม ลองเอาelna bipolar เฉพาะขาสัญญาณ ขา GND ไม่ได้ต่อ
ค่า47/50 (เท่าที่อ่านมาคือ ค่ายิ่งน้อย ยิ่งตัดความถี่ต่ำมากเลยใช้ค่ามาก)
ปรากฎ เสียงซับไม่ได้สักเอ๊ะเลย เอานิ้วไปแแตะดูก็ไม่สั่น สงสัย ตัดความถี่ต่ำออกมากเกิน ไม่เหลือเลย
โดยรว่มเสียงเบาลงมากมาย
2ขนาน ขาข้างหนึ่งอยู่ที่สัญญาณอีกขาต่อเข้ากราวน์(เท่าที่เข้าใจคือ ควรใช้ค่าน้อยๆ)
ใช้film ตัวใส ค่า0.012uF (12nF) เสียงก็เบาลงเยอะมาก ต้องบิดvolume กันแทบเต็มถึงจะออก
ลองใหม่ ค่า0.00012uF(1200pF) อาการเหมือนเดิม เสียงเบามากมาย

หมายเหตุ เวลาลอง ลองทีละอย่างน่ะ ถอดของเก่าออกแล้วใใส่ของใหม่
อันที่เป็นอนุกรมนี้ต้องถอดลวดจั้มออกแล้วใส่cค่นไปแทน
(ของเดิมdb211 มันมีc ค่า 4.7 คั่น เราถอดอออกแล้วใส่ลวดจั้มป์ทิ้งไว้นานแล้ว)

สรุปถอดออกหมดดีกว่า เสียงเบาเกิน

ทำไมทำกับหูฟังแล้วมันดังขึ้นน่ะ - -???
วิธีสังเกตผิดพลาดรึเปล่าไม่รู้

แต่ก็เป็นไปได้อีกหลายอย่าง ที่ทำกับแจ็คหูฟังคือมันอยู่ปลายทางแล้ว
ที่ทำตรงนี้มันอยู่กลางทางก่อนเข้าแอมป์

จะว่าไปเดี๊ยวลองเอาลำโพงไปต่อfrontดีกว่า เทียบเสียงดู

------------------------

ลองกับแจ็คfrontที่ทำไว้แหล่ะ เสียงดังดี แต่ = =" ติดเสียงก้องๆ ของelna crerafine ไปเต็มๆเลย

[pluanant]

ใช้ค่า c น้อยไปเปล่าครับ

อ้างอิงจากเว็บนี้ http://www.bcae1.com/passxovr.htm ประมานคอลัมที่5
ที่เป็นกราฟ สรุปว่า ยิ่ง c ค่าน้อยมากเท่าไร ช่วงความถี่ ที่ถูกตัดจะต่ำลงมากเท่านั้น

ผมทำนี้ c 4ตัว รวมๆกัน นี้ เกือบ 1000 uF ครับ

[keang]

สุดยอดมาก สามารถพลิกแพลงต่อยอดขยายผลไปในหลายทิศทาง
- เมื่อก่อนต้องคอยช่วยป้อนข้อมูลให้ เดี๋ยวนี้สามารถสืบค้นขยายหาข้อมูลอ้างอิงที่หลากหลายมากขึ้น
- จากเดิมที่กลัวๆกล้าๆกัน ไม่ค่อยกล้าแสดงความเห็นกัน เดี๋ยวนี้กล้าคิดกล้าลองในรูปแบบที่ต่างจากปรกติกัน
- ค้นพบแนวทางของตัวเอง และ มีแนวทางในการปรับปรุงประสิทธิภาพของตัวเองมากขึ้น
- หลายคนมีความพร้อมมีความสามารถ เมื่อมีโอกาสก็มีน้ำใจให้ความช่วยเหลือคนอื่นด้วย

อยากบอกว่า ขอบคุณที่ช่วยให้วันนี้ผมมีความสุข วันนี้เป็นวันที่รู้สึกดีกับกระทู้นี้จริงๆ


--------------------------------------------------------


เจ้าของการ์ดSTX ท่าทางจะลืมโพสแสดงตัว
การ์ดของคุณยังเก็บอยู่ในกล่องในสภาพเดิม รอการแสดงตัวของคุณอยู่น่ะครับ

ถ้าไม่รู้จะพูดคุยไร ลองเล่าเรื่องที่คุณมีโอกาสลองออปแอมป์หลายๆเบอร์กับการ์ดSTXก็ได้
คุณจะได้มีโอกาสแชร์ประสบการณ์ของคุณให้กับคนอื่น และ คนอื่นจะได้มีข้อมูลจากหลายๆแหล่งมากขึ้น

ไม่ต้องกลัวไม่ต้องกังวลว่า จะพูดไรผิดหรือจะใช้คำไรผิด เพราะ สิ่งที่คุณบอกเล่าเป็นประสบการณ์ส่วนตัวของคุณเอง สื่อสารด้วยความเห็น ด้วยความรู้สึก ของตัวคุณเอง

ออปแอมป์ที่คุณเคยลอง
Audio GD Earth
burr-brown OPA637BP
Linear Technology LT1028ACN
Analog Device AD797B (หน้าดำ)
National Semiconductor LME49990MA

เชื่อผมสิ ..... การเป็นคนอ่านอย่างเดียว มันเหงา ไม่สนุก ไม่มีไรตื่นเต้นหรอก ขาดสีสันของชีวิตไปเยอะ

[fenderfree]

ผมก็ติดตามอ่านกระทู้นี้มานานละครับ แต่ไม่กล้าแสดงตัว เพราะความรู้ในการโมยังน้อยได้แต่อ่านๆ อิอิ^^

[ManiacMaew]

ยังมีการดัดแปลงภาคพิสดารกว่านี้อีก
ไม่มีขดลวดL เลยลองแบบอื่นแทน ขอลองเพิ่มก่อน
ค่อยว่ากัน

-----------------

National Semiconductor LME49990MA

เบอร์ ประหลาด
อยากรู้เสียงเหมือนกัน

------------------------
อ่านอันนี้

http://en.wikipedia.org/wiki/Coil
+
http://en.wikipedia.org/wiki/Ferrite_bead

เจอข้อความนี้

Ferrite beads are one of the simplest and least expensive types of interference filters to install on preexisting electronic cabling. For a simple ferrite ring, the wire is simply wrapped around the core through the center typically 5 or 7 times. Clamp-on cores are also available, which can be attached without wrapping the wire at all. Although the wire is not coiled around the core for this type of ferrite beads, the introduction of the ferrite core around the wire increases the self-inductance of the wire thus still has the effect of absorbing energy from the noise traveling in the wire. If the fit isn't snug enough, the core can be secured with cable ties, or if the center is large enough, have the cabling looped through one or more times.

มีferrite อยู่ พอดี แบบที่เอาไว้ครอบสายสัญญาณ

เลยทดลอง กับสายสัญญาณ จากคอมไปcontroller
1ตรงๆ ธรรมดา
2ม้วนแล้วเอาferrite ครอบไว้2ตัว ก็ได้ขดลวด L แบบ ferrite core แต่ค่าน้อยมาก
(ตามที่อ่านมายิ่งได้รอบมากยิ่งhenriesมาก แต่สายใหญ่พันได้2-3รอบเอง)

(จริงมีอีกแบบม้วนธรมมดา ก็จะได้ขดลวดแบบaircoreยังไม่ได้ลองละเอียด)

ผลที่ได้ ตอนแรกงงๆ ไม่ค่อยต่าง
แบบที่2 ต้องสลับไปมาสักพัก ถึงget
ว่าครองเสร็จแล้วมันต้องใช้สักพักก่อน
(ทฤษเดาว่าต้องให้เวลามันสะสมคลื่นแม่เหล็กได้มากพอก่อนที่จะปล่อยกลับ)

ผลที่ได้คือเหมือนเรื่องc คือเสียงเบาลง แต่ เป็นเบาลงคนละขั้ว เสียงที่เบาลงคือด้านแหลม
มั้ง ไม่ชัวร์
แต่ชัวร์ๆคือเบาลง+เสียงต่างแน่นอน

[pluanant]

มี PUS เก่าๆ พังๆ ไหมครับ L เยอะอยู๋ผมเพิ่งแงะมาเมื่อวาน

[milestone]

เอาเรื่อง Bypass มาฝาก อ่านแล้วเข้าใจง่ายดี

http://www.seattlerobotics.org/encod...97/basics.html

[keang]

อันนี้สงสัยครับ ทำไหมC ความจุน้อย แล้ว เสียงสูงจะไปได้ดี แล้ว C ความจุมาก เสียงความถี่ต่ำ จะไปได้ดี

ถ้างั้นเวลาเราทำ BI-CAP มันก็เป้นการเพิ่มความจุ แต่ทำไหมเสียงแหลม มันยังคงอยู่ได้
หรือเพราะว่าจากการที่ไฟฟ้าแต่ละความถี่มันเลือก C ที่มันไป ง่ายหรือครับ
งั้นเราก็ ใส่ C ไปหลายค่าเลยสิ มันจะได้ ไปได้เกือบทุกค่า?

อันนี้แนะนำให้หาข้อมูลเรื่องหลักการทำงานของตัวเก็บประจุ

ตัวเก็บประจุ ไฟหรือสัญญาณไม่ได้ผ่านตัวมันแบบจากขาหนึ่งไปสู่อีกขาหนึ่ง เหมือนRหรือL
แต่มันใช้หลักการเทียบค่าศักย์ไฟระหว่างขาทั้ง2 จนเกิดค่าความต่างศักย์ไฟขึ้น ส่งผลให้ขาปลายทางอีกด้านมีการเปลี่ยนแปลงของประจุบวกประจุลบ และเอาผลจากเปลี่ยนแปลงที่ได้นั้นไปใช้งานอีกที

ตัวเก็บประจุ จริงๆไม่ได้ออกแบบมาสำหรับความถี่ต่ำ เพราะ มันทำงานเป็นทางผ่านของความถี่ต่ำด้อยกว่าRหรือL
แต่ตัวมันสามารถใช้ร่วมกับอะหลั่ยชนิดอื่น เช่น R, L ฯลฯ เพื่อใช้งานร่วมกันเป็นวงจรที่เกี่ยวข้องกับความถี่
- เพื่อกรองความถี่ช่วงนั้นทิ้ง (Bypass Filter)
- เพื่อกรองให้ผ่านได้เฉพาะช่วงความถี่ช่วงนั้น (Bandpass Filter)
- เพื่อแยกการทำงานของวงจรแต่ละส่วนออกจากกัน (Coupling (เป็นDC Blockไปในตัวด้วย))

อุปกรณ์แต่ละชนิดแต่ละประเภทเมื่อทำงานงานร่วมกับความถี่ จะมีคุณสมบัติตอบสนองต่อความถี่ต่างกัน โดยมีตัวแปรอื่นๆเข้ามาเสริมด้วย

update วันนี้ลองเล่น 2แบบ กับเรื่องกรองความถี่ ต่อได้2อย่าง ต่อหลังตำแหน่งinputลำโพง

1. อนุกรม ลองเอาelna bipolar เฉพาะขาสัญญาณ ขา GND ไม่ได้ต่อ
ค่า47/50 (เท่าที่อ่านมาคือ ค่ายิ่งน้อย ยิ่งตัดความถี่ต่ำมากเลยใช้ค่ามาก)
ปรากฎ เสียงซับไม่ได้สักเอ๊ะเลย เอานิ้วไปแแตะดูก็ไม่สั่น สงสัย ตัดความถี่ต่ำออกมากเกิน ไม่เหลือเลย
โดยรว่มเสียงเบาลงมากมาย

2. ขนาน ขาข้างหนึ่งอยู่ที่สัญญาณอีกขาต่อเข้ากราวน์(เท่าที่เข้าใจคือ ควรใช้ค่าน้อยๆ)
ใช้film ตัวใส ค่า0.012uF (12nF) เสียงก็เบาลงเยอะมาก ต้องบิดvolume กันแทบเต็มถึงจะออก
ลองใหม่ ค่า0.00012uF(1200pF) อาการเหมือนเดิม เสียงเบามากมาย

สรุปถอดออกหมดดีกว่า เสียงเบาเกิน

ทำไมทำกับหูฟังแล้วมันดังขึ้นน่ะ - -???
วิธีสังเกตผิดพลาดรึเปล่าไม่รู้

แต่ก็เป็นไปได้อีกหลายอย่าง ที่ทำกับแจ็คหูฟังคือมันอยู่ปลายทางแล้ว
ที่ทำตรงนี้มันอยู่กลางทางก่อนเข้าแอมป์

แบบ1. แบบ2. แต่ละแบบนั้นการทำงานของมันคืออะไร และ เพื่ออะไร
ลองแค่เปลี่ยน แต่ไม่ได้มองไปที่รูปแบบการทำงานของตัววงจรที่ตัวมันต่อร่วมอยู่ อาจจะสับสนได้ง่าย แนะนำให้ลองเขียนเป็นรูปวงจรขึ้นมา จะได้เข้าใจมันมากขึ้น

ถ้าเข้าใจหลักการและการทำงานของเรื่องCoupling เรื่องBypass เรื่องBandpass ก็จะได้คำตอบแล้ว ซึ่งตรงกับผลที่ได้ทดลองนั่นแหล่ะ

ใช้ค่า c น้อยไปเปล่าครับ

อ้างอิงจากเว็บนี้ http://www.bcae1.com/passxovr.htm ประมานคอลัมที่5
ที่เป็นกราฟ สรุปว่า ยิ่ง c ค่าน้อยมากเท่าไร ช่วงความถี่ ที่ถูกตัดจะต่ำลงมากเท่านั้น

ผมทำนี้ c 4ตัว รวมๆกัน นี้ เกือบ 1000 uF ครับ

เรื่องค่าความจุกับการตอบสนองต่อความถี่ เป็นส่วนหนึ่งของทฤษฎี
แต่ในทางปฏิบัติในการใช้งานจริง จะมีเรื่องสเปคเรื่องคุณภาพของตัวเก็บประจุในแต่ละยี่ห้อแต่ละรุ่นด้วย

ส่วนที่มีผลทำให้เกิดความแตกต่างนั้น ส่วนหนึ่งก็มาจากการเลือกใช้วัสดุและโครงสร้างในขั้นตอนการผลิตตัวเก็บประจุของบริษัทต่างๆ

เราจึงได้เห็น ตัวเก็บประจุที่มี ค่าความจุเท่ากัน ค่าทนไฟเท่ากัน เป็นชนิดเดียวกันแต่ต่างยี่ห้อ ยี่ห้อเดียวกันแต่ต่างรุ่น
แต่ให้ผลด้านเสียงได้ไม่เหมือนกัน

ผมก็ติดตามอ่านกระทู้นี้มานานละครับ แต่ไม่กล้าแสดงตัว เพราะความรู้ในการโมยังน้อยได้แต่อ่านๆ อิอิ^^

สามารถประกอบเครื่องได้ นี่ข้ามขั้นเลยคนโมไปแล้ว เป็นDIYerเต็มตัวไปแล้วครับ
คนโม คือ คนที่คัดเลือกอะหลั่ยมาใส่ + แก้ไขวงจรบางส่วนที่ยังไม่สมบูรณ์ ซึ่งเป็นเพียงส่วนหนึ่งของDIYerเท่านั้นเอง

[pluanant]

เอาเรื่อง Bypass มาฝาก อ่านแล้วเข้าใจง่ายดี

http://www.seattlerobotics.org/encod...97/basics.html

โอ้dictionary อยู่ไสหว่าาาาาา เยี่ยมครับ อ่านแล้วกระจ่างพอควรเลย

[ManiacMaew]

แบบ1. แบบ2. แต่ละแบบนั้นการทำงานของมันคืออะไร และ เพื่ออะไร
ลองแค่เปลี่ยน แต่ไม่ได้มองไปที่รูปแบบการทำงานของตัววงจรที่ตัวมันต่อร่วมอยู่ อาจจะสับสนได้ง่าย แนะนำให้ลองเขียนเป็นรูปวงจรขึ้นมา จะได้เข้าใจมันมากขึ้น

เท่าที่เข้าใจตอนนี้
แบบต่ออนุเกรม คือ ไม่ให้ความถี่ต่ำผ่าน
แบบต่อขนาน คือ ดึงความถี่ต่ำผ่านลงกราวน์

รายละเอียด กับ schematic นี้พอมีในใจบ้างแล้ว แต่ รอทำความเข้าใจเพิ่มก่อน ยังไม่อยากเดามั่วมาก

---------

ที่ทำกับfront แล้วเสียงไม่เบาลง อาจจะเพราะ ด้านหน้ามันผ่าน headamp ของตัวชิพ แต่ด้านหลังมันไม่ได้ผ่าน

[keang]

ที่บอกว่าลองCต่ออนุกรมต่อขนาน หมายถึง เปลี่ยนอะหลั่ยลองกับวงจรส่วนนี้หรือเปล่า


C26 R27 / C29 R28 เป็นวงจรโซเบล
วงจรขยายเสียงที่ใช้ไอซี จำเป็นต้องมี เหมือนเป็นไฟท์บังคับเลย ไม่มีไม่ได้ เพราะ ป้องกันการเกิดออสซิเลท
เป็นการป้องกันการเกิดLOOP FEEDBACK กระแสย้อนกลับจากดอกลำโพงมาสู่วงจรขยายเสียง

[ManiacMaew]

ไม่ใช่ครับๆ มันอยู่ ตรง inputของ controller ครับ