โมให้ดีกันเยอะแล้ว มาม๊ะ....มาโมให้"เจ๊ง"กันดีกว่า

[ManiacMaew]

dummy load สำหรับ แอมป์หูฟัง กำลังน้อยๆ ก็ใช้ R watt สูงไม่มาก ~5-10W up ได้
R คล้ายๆแบบนี้ก็ใช้ได้ (มีอยู่หลายตัวหลายค่าเหมือนกัน ยังหาที่ใช้อยู่เหมือนกัน )


--------
ต่อ dummy load ก็ต่อคร่อม Output +- นั่นแหละครับ

dummy load หูฟัง ไม่ต้องถึง5wattก็ได้มั้งครับ เห็นหูฟังโหดๆยังรับmax input 1-1.5wattเองน่ะ

[dracoV]

สำหรับแอมป์หูฟังดีๆ( มักต้องการการburn ) กระแสโหลดในบางจังหวะอาจสูงได้ถึง 0.5Aหรือมากกว่า เลยนะ แต่ช่วงสั้นๆน่ะ
โหลดหูฟังปกติจะอยู่ที่ 150-600โอห์ม
ลองคิด เอาง่ายๆเฉพาะกำลังจาก volt swing ก็ได้ ~7.5Vrms
P=IV ก็ 7.5*0.5 ก็ 3.75W แล้ว ยังไม่ได้คำนวณโหลดImpedance นะ เพราะงั้นก็เผื่อเหลือไว้ดีกว่าขาดครับ

อ้อ.... แต่ถ้าทั่วๆไปจาก Soundcard ก็ไม่ต้องถึง 5W ก็ได้ครับ

---------
สำหรับใครที่อาจยังสับสน (ส่วนใครที่รู้แล้วก็เอาเป็นรู้ซ้ำละกัน อิอิอิ)
ค่า Watt ของ R คือค่าความทนกำลังได้ ของ R นะ ไม่ใช่กำลังที่มันดึงมาใช้จาก Power

[Wizardmans]

^^ รอชมเจ้าลูกเจี๊ยบ D3+รีวิว ครับ

-------------------------

ถ้าใครยังขมวดคิ้ว สงสัยว่าจริงหรือ ลองวาดวงจรต่อ LED ดูครับ
โดยทั่วๆไปก็จะต่อกับ ไฟV ผ่าน R แล้วลงground เพราะมันง่ายและสะดวกดี
แต่ถ้าดูแล้วจะเห็นว่า มันคร่อม(ขนาน)ทั้งวงจรที่ต่อกับไฟV เส้นเดียวกัน
จริงๆแล้ว LED จะใช้ Transistor drive มันอีกทอดนึง สมควรกว่าแต่มันยุ่งนิด และเปลือง
ก็เลยไม่ค่อยเห็นใช้กัน

LED ขาทอง ผมก็มีอยู่หลายตัวเหมือนกันแต่เป็นของ Lite-on ไว้ทำ CCS สำหรับ B+/Filament หลอด
กับ Bias ผมชอบสไตล์เสียงที่ได้จาก LED นะในหลายวงจร ชอบมากกว่า CCS solid state ซะอีก

เพิ่มเติมครับ ปกติวงจร Transistor ที่ออกแบบดีๆ จะใช้หลอด LED Bias เพราะค่าตายตัวอยู่ที่ปริมาณที่หลอด LED กินกระแส 15-50ma และหลอดแต่ละสี กินกระแสไม่เท่ากัน พอแล้วครับ เดี๋ยวยาว 555+

[ManiacMaew]

สำหรับแอมป์หูฟังดีๆ( มักต้องการการburn ) กระแสโหลดในบางจังหวะอาจสูงได้ถึง 0.5Aหรือมากกว่า เลยนะ แต่ช่วงสั้นๆน่ะ
โหลดหูฟังปกติจะอยู่ที่ 150-600โอห์ม
ลองคิด เอาง่ายๆเฉพาะกำลังจาก volt swing ก็ได้ ~7.5Vrms
P=IV ก็ 7.5*0.5 ก็ 3.75W แล้ว ยังไม่ได้คำนวณโหลดImpedance นะ เพราะงั้นก็เผื่อเหลือไว้ดีกว่าขาดครับ

อ้อ.... แต่ถ้าทั่วๆไปจาก Soundcard ก็ไม่ต้องถึง 5W ก็ได้ครับ

เพราะผมชินกับพวกวงจรic op amp ล่ะมั้ง ตามดาต้าชีทขนาด short ciruit icหลายเบอร์ที่ดูมายังได้ไม่เกิน100ma เลย

[tiger X-fi]

Fiio D3โมเสร็จแล้ว พรุ่งนี้ถ่ายรูปให้ชมครับ เสียงไม่ธรรมดาเลยจริงๆ

ขอละเอียดๆนะครับ ...เผื่อลอกการบ้านบ้าง....แต่ฝีมือผมจะถึงมั๊ยนี่เล็กจัดเลย...555+

[Wizardmans]

ขอละเอียดๆนะครับ ...เผื่อลอกการบ้านบ้าง....แต่ฝีมือผมจะถึงมั๊ยนี่เล็กจัดเลย...555+

ครับผม

[ManiacMaew]

ประกอบวงจรของds ส่วนที่เหลือคืน รู้สึกว่ามันแปลกๆ

เลยไปขุดภาพของเก่า แบบเดิม ไม่ได้ทำอะไรกับมัน


- - !? มันทำอะไรผิดมารึเปล่า เพราะไล่ลายทองแดงด้านล่างแล้ว input มันก็เขามาทางลบ นี้หว่า???

[dracoV]

^^ แบบบั้นถูกแล้วครับเวลาใช้ C มีขั้วเป็น C Input สำหรับเป็นDC filter/bootstrap
ดูง่ายๆ ก็เหมือนเวลาใส่ C มีขั้วกับไฟ ขั้ว(+)จะอยู่ศักย์สูง (-)ต่ำ
เวลาเอามาใช้เป็น C Input ก็ทำนองเดียวกัน ดูที่ DC เป็นหลัก (สัญญาณเสียงเป็น AC มันดื้อ ไหลผ่านไปได้หมดแหละ)
ด้านไหนศักย์สูงกว่าก็เอา+หันไปทางนั้นครับ

[dracoV]

สอบถามหน่อยครับ (ขอdouble postซะ1ที)

มีใครเคลลอง C electrolyte ของ Cornell Dubilier (CDE) บ้างไหม?
ถามความเห็นหน่อย ใช้ดีไหม ถ้าดี ว่าจะให้เพื่อนหามาให้ลองเล่นบ้าง

CDE นี่ เคยใช้แต่พวก Silver mica, Film, PIO(รุ่น vintage หน่อย) แต่ electrolyte ยังไม่เคยลองแฮ๊ะ

[ManiacMaew]

มึนๆ ขอทำความเข้าใจก่อน พูดถึงเรื่องทางอะไหล่ (ไม่ใช่ขั้วน่ะ แต่อันนี้มันเป็นแบบมีขั้วเลยพูดถึงขั้วว่าเป็นด้านไหนของทาง)
อันนี้มันช่อง line in
แจ็ค >> relay >> [ขั้ว- ขั้ว+] >>R >> wm8776

ผมว่ามันน่าจะเรียงแบบนี้
แจ็ค >> relay >> [ขั้ว+ ขั้ว-] >>R >> wm8776

ดูที่ DC เป็นหลัก (สัญญาณเสียงเป็น AC มันดื้อ ไหลผ่านไปได้หมดแหละ)
ด้านไหนศักย์สูงกว่าก็เอา+หันไปทางนั้นครับบ

- - ? งง ตรงนี้ ดูยังไงครับว่าdc ด้านไหนศักย์สูงกว่าในเมือมันทางเดินสัญญาณac
(อีกนัยหนึ่งคือ จะdc มันจะรั่วมาจากฝั่งไหน ใช่มั้ย?)

_________

นอกเรื่อง เรื่องทางc ฟิลม์ เห็นเขาคุยกันแบบมีเหตุมีผลดี
http://www.htg2.net/index.php?topic=...0877;topicseen

ให้เอา Outer Foil หรือด้านที่เป็นฟอยด์ด้านนอกสุดต่อกับด้านที่เป็น ไฟสูง (เพลทของหลอด) ครับ

บางยี่ห้อต้องต่อย้อนเอาด้านท้ายการอ่านตัวหนังสือรับสัญญาณเข้า เพราะ Outer Foil อยู่ด้านที่มีขีด อย่างเช่น Jensen ครับ

การต่อ Outer Foil เข้ากับไฟสูง หรือกราวด์ (กรณีที่ไม่ได้ใช้ Coupling) เพื่อป้องกันสัญญาณรบกวนครับ

อ่านละเอียดหน่อยก็ลิงค์นี้่ครับ http://www.sbelectronics.com/images/...illocation.pdf

แถมด้วยวิธีการหาว่าขาไหนเป็น Outer Foil กรณี C ไม่มีมาร์คครับ ให้เอาสโคปคีบขา C ทั้งสองข้าง แล้วเอา C ไปจ่อใกล้ๆแหล่งกำเนิดสัญญาณรบกวน เช่น ใกล้ๆสายไฟ AC เป็นต้น แล้วดูระดับสัญญาณรบกวนที่เหนี่ยวนำเข้ามาที่ตัว C ให้ทดลองสลับขาเพื่อเปรียบเทียบกัน ถ้าต่อแล้วพบว่าระดับสัญญาณรบกวนต่ำสุดให้ดูว่าขาไหนต่อกับกราวด์ของสโคป ขานั้นแหละครับเป็น Outer Foil

credit : analoglism

[keang]

Fiio D3โมเสร็จแล้ว พรุ่งนี้ถ่ายรูปให้ชมครับ เสียงไม่ธรรมดาเลยจริงๆ

เข้าคิวรอชมครับ

---------------------------------------

LED ขาทอง ผมก็มีอยู่หลายตัวเหมือนกันแต่เป็นของ Lite-on ไว้ทำ CCS สำหรับ B+/Filament หลอด
กับ Bias ผมชอบสไตล์เสียงที่ได้จาก LED นะในหลายวงจร ชอบมากกว่า CCS solid state ซะอีก

แห่ะ แห่ะ ผมไม่เคยเห็นของยี่ห้อLite-Onเลยครับ มีรูปให้ดูหรือเปล่าครับ เผื่อไปเจอที่ไหนจะได้ซื้อมาลองครับ

LEDขาทองที่ผมมีเป็นของเก่ามากๆ ไม่รู้ของยี่ห้อไร ไฟ1.5v ไฟนวลๆสลัวๆไม่ค่อยสว่าง คนเล่นอิเลครุ่นเก่าๆน่าจะเห็นจนคุ้นตา

ถ้าใครยังขมวดคิ้ว สงสัยว่าจริงหรือ ลองวาดวงจรต่อ LED ดูครับ
โดยทั่วๆไปก็จะต่อกับ ไฟV ผ่าน R แล้วลงground เพราะมันง่ายและสะดวกดี
แต่ถ้าดูแล้วจะเห็นว่า มันคร่อม(ขนาน)ทั้งวงจรที่ต่อกับไฟV เส้นเดียวกัน
จริงๆแล้ว LED จะใช้ Transistor drive มันอีกทอดนึง สมควรกว่าแต่มันยุ่งนิด และเปลือง
ก็เลยไม่ค่อยเห็นใช้กัน

ส่วนใหญ่ผมจะสั่งพันหม้อแปลงแยกขดเฉพาะของLEDต่างหาก จะได้ไม่มีเอฟเฟคไปกระทบกับชุดไฟของตัววงจร

เรื่องผลต่างจากLED ผมมีโอกาสได้รับรู้โดยบังเอิญ เพราะความอยากเท่ห์มีไฟหน้าปัทม์สีน้ำเงินแบบKrell

สมัยก่อนเครื่องน่าจะทุกยี่ห้อจะใช้ไฟหน้าเครื่องไม่สีเขียวก็สีแดง
จนมาวันนึง Krellมามาดใหม่ เฉพาะรุ่นMono Blockเปลี่ยนมาใช้LEDสีน้ำเงิน (รุ่นอื่นยังเป็นสีแดงเหมือนเดิม)
ด้วยความอยากเท่ห์แบบเค้าบ้าง เลยให้เพื่อนหาที่ฮ่องกงกับสิงคโปร์ให้ แต่หาไม่ได้
เพื่อนไปได้จากญี่ปุ่น มาแบบเป็นแพคกล่องๆละ1ตัว ตัวนึงเกือบ80บาท

ของเดิมLEDขาทอง(ตัวที่บอกข้างบน)ใช้ไฟ1.5v ส่วนLEDสีน้ำเงินของใหม่ใช้ไฟ5v
Rดรอปไฟใช้เหมือนเดิม Dale FP ขนาด1วัตต์(จริงๆ1/8วัตต์ยังเหลือๆ)
สาเหตุที่ใช้Daleรุ่นFPก็ไม่มีไรมาก เพราะ Rในชุดไฟเลี้ยงผมชอบเสียงของรุ่นFPกับRSมากกว่าRNหรือพวกCF

พอเปลี่ยนใส่LEDตัวใหม่ เปิดเพลงฟังเปิดหนังดู ผ่านไปสักพักเริ่มรู้สึกมันมีไรแปลกๆมีไรไม่เหมือนเดิม
ลองตั้งใจฟังลองสังเกตุมากขึ้น ถึงได้รู้ว่ามันต่างจริง

เผื่อความชัวร์ ใส่RกับLEDของเดิมกลับคืนที่แล้วลองฟังเทียบ ลองสลับRกับLED2รอบ จนมั่นใจว่าหูไม่เพี้ยน
โทรเรียกเพื่อนในกลุ่มมาลองฟัง ก็ได้ผลแบบเดียวกัน

ตอนแรกก็พยายามหาสาเหตุว่ามันต่างกันได้เพราะอะไร ตอนนั้นก็คิดได้เพียงแค่พื้นๆ น่าจะเป็นเพราะส่วนประกอบที่ใช้สร้างตัวLED ไม่ได้คิดไรมากกว่านี้เลยสักนิด
แต่พอกาลเวลาผ่านไป ผ่านการลองนู่นนี่มากขึ้น เริ่มเข้าใจอะไรมากขึ้น ถึงได้เข้าใจว่ามันย้อนกลับไปหาวงจรส่วนหน้าด้วย ซึ่งก็คือตัวขดลวดในตัวหม้อแปลง ถ้ามองให้ลึกขึ้นไปอีกมันยังไปมีผลกระทบกับขดลวดในขดอื่นของตัวหม้อแปลงด้วย

---------------------------------------

- - ? งง ตรงนี้ ดูยังไงครับว่าdc ด้านไหนศักย์สูงกว่าในเมือมันทางเดินสัญญาณac
(อีกนัยหนึ่งคือ จะdc มันจะรั่วมาจากฝั่งไหน ใช่มั้ย?)

ถ้าดูวงจรยากก็วัดจากของจริงก็ได้
หาโวลท์มิเตอร์มาตัวนึง / ถอดCออก
เอาขั้วลบมิเตอร์จับกราวน์ / ขั้วบวกจับที่ลายทองแดงของขาCทั้ง2ข้าง อันไหนมัศักย์+มากกว่าก็เป็นขั้ว+ของC


เรื่องเช็คขาไหนเป็นขานอกสุดของชั้นฟอยในตัวC วิธีที่เค้าวัดคือ ใช้หลักการให้ชั้นนอกของฟอยเป็นชีลด์
จริงๆถ้าเป็นฟอยใส สังเกตุที่ตัวมันดีๆก็จะเห็นแล้ว ว่าขาไหนชั้นในขาไหนชั้นนอก

ส่วนใหญ่จะเป็นCฟิลม์ที่มีมาตราฐานการผลิตสูงหน่อย(สำหรับใช้งานออดิโอ)+ใส่ใจเรื่องทิศทาง เค้าจะมาร์คมาให้ที่ตัวCอยู่แล้ว
ถ้าไปเจอยี่ห้อที่ขาของCแต่ละตัว มีทิศทางไม่ตรงกัน เวลาจะใช้ก็ค่อยเช็คเอา (มองอีกมุมนึงผู้ผลิตไม่ได้ใส่ใจเรื่องทิศทางเท่าไหร่)

ชั้นในหรือชั้นนอกของตัวC ก็เรื่องเดียวกับ ขั้วทางเข้า-ทางออกของขดลวด, ของหม้อแปลงนั่นแหล่ะ

ทุกวันนี้ ถ้าไม่ใช่ยี่ห้อที่ผมใช้ประจำ + ถ้ามองชั้นของฟอยด้วยตาไม่ชัวร์ ผมเช็คทิศทางด้วยการต่อฟังเสียงอย่างเดียวเลย
ช้าหน่อยแต่ชัวร์

[Wizardmans]

รอเขียนคำบรรยายครับ
ในวงกลมคือค่าอุปกรณ์ ทั้งหมดครับ คราบฟลั๊ก ยังไม่ได้ล้างออกเลย

คราบฟลั๊ก ยังไม่ได้ล้างออกเลย
ผมเอาสวิตซ์ออกแล้วเอา ขาอุปกรณ์ จั้มเลือกสัญญาณจาก Coaxเอาไว้ แต่ถ้าไม่เอาสวิตซ์ออก ก็ให้เอาC ค่า0.1 ขานึงจั้มที่ขากลางของสวิตซ์ แล้วอีกขานึงจั้มลงที่จุดกลมๆสีดำของรูปที่1
อย่าลืมถอดอะไหล่ SMD ออกด้วยนะครับ

ผมเอาสวิตซ์ออกแล้วบักกรี Uจั้มเลย เพราะผมไม่ได้ใช้ Optical



ส่วน R37 ผมเอา R10 ohm มาใส่แทนค่า R6.8 ohm

[ManiacMaew]

ลองอะไรแปลกอีกอย่าง ลองโล๊ะ c filter ของขา Hpvddออก


*เอารูปเดิมๆไปก่อน ของใหม่ยังไม่ได้ถ่าย

ดูทรงแล้วมันก็ขนานกับ 5v analog ไม่อยากใส่ขนานๆกันหลายตัว เลยถอนออกแล้วดูว่ามันทำงานมั้ย(ตัวค่าน้อยที่ใช้bypassก็เอาออก)
มันก็ทำงานปรกติ ต่อออกช่องหูฟังด้านหน้าได้

เดี๊ยวคงหาค่า0.1 (ไว้bypassความถี่รบกวน)ใส่กลับเข้าไปตัวเดียวพอ

[tiger X-fi]

รอเขียนคำบรรยายครับ
ในวงกลมคือค่าอุปกรณ์ ทั้งหมดครับ คราบฟลั๊ก ยังไม่ได้ล้างออกเลย

คราบฟลั๊ก ยังไม่ได้ล้างออกเลย
ผมเอาสวิตซ์ออกแล้วเอา ขาอุปกรณ์ จั้มเลือกสัญญาณจาก Coaxเอาไว้ แต่ถ้าไม่เอาสวิตซ์ออก ก็ให้เอาC ค่า0.1 ขานึงจั้มที่ขากลางของสวิตซ์ แล้วอีกขานึงจั้มลงที่จุดกลมๆสีดำของรูปที่1
อย่าลืมถอดอะไหล่ SMD ออกด้วยนะครับ

ผมเอาสวิตซ์ออกแล้วบักกรี Uจั้มเลย เพราะผมไม่ได้ใช้ Optical



ส่วน R37 ผมเอา R10 ohm มาใส่แทนค่า R6.8 ohm

ขอบคุณมากครับ
พวกหัว USB ชุบทองหาได้ที่ไหนครับ

[Wizardmans]

ขอบคุณมากครับ
พวกหัว USB ชุบทองหาได้ที่ไหนครับ

ตัวเดิมๆของD3มันชุบทองอยู่แล้วนิครับ