Announcement

Collapse
No announcement yet.

โมให้ดีกันเยอะแล้ว มาม๊ะ....มาโมให้"เจ๊ง"กันดีกว่า

Collapse
X
 
  • Filter
  • Time
  • Show
Clear All
new posts



  • virtual ground แบบ R รึเปล่าเนี้ย ถ้าใช่ ผมว่ามันแปลกๆน่ะ



    หรือมันทำได้หลายแบบ??

    Comment


    • Originally posted by ManiacMaew View Post


      virtual ground แบบ R รึเปล่าเนี้ย ถ้าใช่ ผมว่ามันแปลกๆน่ะ



      หรือมันทำได้หลายแบบ??
      วงจรแอมป์หูฟังปกติ(CMOY)ใช้เวอชวลกราวนด์แบบตัวล่าง เอาท์พุทจะต่อตรงเข้าออพแอมป์เลย(เทียบง่ายๆ เป็นแอมป์ OCL)
      แต่นี่ผมทำเป็นแบบแอมป์ OTL ไบอัสแรงดัน 1/2 Vcc เข้าขา Non-Inv ของออพแอมป์ให้เอาท์พุทเป็น 1/2 Vcc แล้วเอา C ไปยัดไว้ทั้งอินพุทและเอาท์พุทกันไฟตรงออก ให้สัญญาณเสียงที่เป็นไฟสลับผ่านอย่างเดียว

      อย่างที่บอกข้างต้น กราวนด์ DAC กะกราวนด์แอมป์มันคนละจุดกัน แต่ต้องใช้แหล่งจ่ายไฟร่วมกัน กราวนด์ของ DAC ก็จะกลายเป็นไฟลบของแอมป์ไปดังรูป

      ซึ่งมันจะทำให้แรงดันเอาท์พุทของแอมป์ผิดเพี้ยน อาจพาหูฟังไหม้ในพริบตา เลยต้องออกแบบวงจรใหม่ให้ใช้กราวนด์จุดเดียวกันไง
      ผลก็ออกมาดีตามคาด เสียงไม่แพ้วงจร CMOY (OCL) เลย
      ปล.ต้องไปหาหนังสือเก่าๆ อ่านถึงจะเข้าใจเรื่องแอมป์ OTL
      Last edited by Rev; 21 Jul 2011, 07:59:14.

      Comment


      • สังเกตุที่ OP1A+OP1B > OUTG กรอบสีน้ำเงิน
        Last edited by keang; 21 Jul 2011, 11:49:51.

        Comment


        • ท่อหุ้มขาอะไหล่ ซื้อที่ไหนครับ ที่เขาส่งมาที่บ้านได้ ขอบคุณครับ ppn มีก็ดีเลย -*-

          Comment


          • Bias op-amp Class-A
            -----------------------
            Quote มาจากลิ้ง reference ของ tangentsoft นั่นแหละ
            Op Amps Running Class A? ? by Jon Risch
            As has been noted, the purpose of running an op-amp output stage in Class A is to run it single ended, using only the (usually faster) NPN transistors.

            By drawing a current referenced off the negative supply, from the output stage, the op-amp will be biased to output positive current equal to it to achieve a net voltage output of 0 volts with no signal present. This forces the NPN portion of the output stage to carry the entire signal without reaching the zero current point, as long as the signal output current does not reach that of the load current amount .

            The less this current load varies, the less it will be modulated with the signal loading. Hence, a true current load is going to sound and work better. A simple resistor load, while electronically simple and fool-proof, has the least steady current loading, as it's loading varies anytime the supply voltage varies. A FET based current load will have a much steadier current under varying conditions, and therefore work and sound better.

            Some notes on implementing a current load on an op-amp:
            Figure the loading on the op-amp now, whether internal or if it is the source amp for the output of a component. What is the next stage or component input impedance?
            ใช้ R bias จะไม่ให้ผลดีสักเท่าไหร่ เพราะจะมีผลกระทบกับ Impedance มาก
            ถ้าจะใช้ R bias ควรต้องเพิ่ม buffer เข้าไปอีกชั้นนึงก่อนออก
            แนะนำให้ลองใช้ J-fet ง่ายกว่าและดีกว่า เบอร์ 2sk117 ใช้ได้ แล้วใช้ Rs 300Ohms
            ต่อตามแบบวงจรใน tangentsoft นั่นแหละครับ
            ได้ผลอย่างไรมาเล่าให้ฟังบ้างนะครับ

            (เป็นบ่าง แอบยุให้ลอง ตัวเองก็ยังไม่เคยลองจริงๆจังๆสักที เคยต่อแป๊บๆไม่ได้ลองมากมายก็แยกส่วนไปใช้งานอื่น
            ไว้ว่างๆลองต่อ CMOY มาbias เล่นมั่ง)

            Comment


            • มันไม่ใช่วงจรcmoyครับ มันเป็นวงจร a47

              มี buffer แบบic อยู่แล้ว

              ____

              jfet ถ้าหาเบอร์ที่ว่าไม่ได้ มันมีวิธีดูมั้ยว่าเอาเบอร์ไหนมาแทนได้

              Comment


              • ถ้าเป็นวงจรในรูป คุณต่อ R bias ที่จุดไหน?

                J-fet ที่ใช้ก็ดู datasheet ที่ Idss น่ะครับ 0.4-1mA ใช้ได้ อาจต้องลองเปลี่ยนค่า Rs เพิ่มหรือลดนิดหน่อย
                แต่ 100-500โอห์ม ก็น่าจะพอได้อยู่ครับ

                Comment


                • r ต่อ คร่อม ขา1กับ4 ครับ ทำถูกรึเปล่าเนี้ย??


                  ถ้าเขียนschematic ก็ประมาณนีัอ่ะครับ
                  Last edited by ManiacMaew; 21 Jul 2011, 17:49:28.

                  Comment


                  • ได้ครับ ถ้าวงจรใช้ไฟ +- ไม่ใช่ Single supply
                    อืม แต่วงจรต่อแบบในรูป ถ้าไม่ได้ใส่ C output ต้องลองวัด DC offset ที่ Output ด้วย
                    ไม่งั้นถ้าต่อกับหูฟังอาจเสียหายได้นะ
                    (ซื้อ มิเตอร์มาใช้หรือยังเนี่ย )

                    อ้อ... ดูในรูป เห็นใช้ Caron composite ไม่ค่อยเหมาะ เพราะมันไม่สเถรียร ถ้าจะใช้เป็น R bias
                    R metal 1% จะดีกว่าครับ และถ้าจะใช้ R bias อาจลองลดค่าลงอีกนิดใช้ ~15k-18k
                    แต่10k อาจจะน้อยไป ดึงกระแสมากเกิน แต่ลองเล่นได้แบบแป๊บๆ เดี๋ยว op-amp จะไปซะก่อน

                    อืม... อีกอย่างนึงจากวงจร R 47 ที่ต่อจากขา 1 ไปเชื่อมกับ Ouput ด้วยนี่ ธรรมดาจะไม่ค่อยใช้นะ
                    เพราะมันจะกลายๆ เป็น Positive feedbackซึ่งไม่ค่อยดีนัก แต่ก็ไม่รู้นะว่าคนออกแบบเขาลองมายังไง
                    ธรรมดาแล้วถ้ามีปัญหาเรื่องStable ตำแหน่ง R 47 ตัวนี้ จะใช้ C 10pF ใส่
                    Last edited by dracoV; 21 Jul 2011, 18:11:41.

                    Comment


                    • ขอบคุณครับ

                      มิเตอร์ยังไม่ได้ซื้อ ไปแล้วมึนไม่รู้จะเอาตัวไหน ได้หัวแร้งกลับมาแทน
                      ลองต่อหูฟังแล้ว ก็ปรกติดี เปิดทิ้งไว้ก็ไม่มีอาการอะไรน่ะ

                      c10pf เดี๊ยวว่างๆ ลอง จะว่าไปตำแหน่งนี้ลองถอดออกได้มั้ยหว่า ทำให้มันไม่มีpositive feedbackไปเลย

                      Comment


                      • ดูแล้วท่าทางจะไม่มีคนถามแน่ เปิดประเด็นให้คุณdracoVเหนื่อยเล่นดีกว่า

                        เห็นคนทำวงจรบัฟเฟอร์กันเยอะ ส่วนใหญ่เห็นเค้าว่ามีแล้วดีก็ทำตามๆกัน แต่บางครั้งยังขาดความเข้าใจ ขาดความรู้เรื่องเงื่อนไขตัวแปรบางอย่าง
                        นอกจากทำกันเสร็จแล้วใช้งานกันได้แล้ว ถ้าเข้าใจการทำงานด้วย น่าจะดีไม่น้อย
                        เผื่อใครมีเวลาอยากนำไปต่อยอดจะได้สนุกมากขึ้น



                        รูปวงจรของคุณManiacMaew IC1aทำหน้าที่ขยายสัญญาณ , IC1b ทำหน้าที่บัฟเฟอร์เอ้าท์พุท
                        ส่วนใหญ่ที่ทำๆกันจะใช้แบบDualตัวเดียวทำทั้ง2หน้าที่
                        - การใช้ไอซีDualตัวเดียว กับ การใช้แยกตัว แต่ละแบบได้อะไร เสียอะไร
                        - เฉพาะIC1b ไอซีส่วนนี้ควรคำนึงถึงสเปคอะไรเป็นพิเศษบ้างหรือเปล่า
                        - ไอซีบัฟเฟอร์โดยเฉพาะ เช่นเบอร์BUF634 มีอะไรที่ดีกว่าใช้ไอซีออปแอมป์ทั่วไปมาทำหรือเปล่า

                        Comment


                        • Originally posted by keang View Post


                          รูปวงจรของคุณManiacMaew IC1aทำหน้าที่ขยายสัญญาณ , IC1b ทำหน้าที่บัฟเฟอร์เอ้าท์พุท
                          ส่วนใหญ่ที่ทำๆกันจะใช้แบบDualตัวเดียวทำทั้ง2หน้าที่
                          - การใช้ไอซีDualตัวเดียว กับ การใช้แยกตัว แต่ละแบบได้อะไร เสียอะไร
                          - เฉพาะIC1b ไอซีส่วนนี้ควรคำนึงถึงสเปคอะไรเป็นพิเศษบ้างหรือเปล่า
                          - ไอซีบัฟเฟอร์โดยเฉพาะ เช่นเบอร์BUF634 มีอะไรที่ดีกว่าใช้ไอซีออปแอมป์ทั่วไปมาทำหรือเปล่า
                          ตอบตามที่คิดน่ะไม่รู้ถูกรึเปล่า

                          - ข้อนี้ไม่แน่ใจแหะ ไม่ค่อยเข้าใจคำถามด้วย หมายถึงแยก 1ตัวต่อ1ch
                          หรือ1ตัวdifferntial อีกตัวbuf
                          -กระแสที่จ่ายได้ และก็ต้องstable ที่gain = 1
                          -buf634จ่ายกระแสได้ 250ma op-amp ทั่วไปที่นิยมกันได้แค่หลักสิบma

                          Comment




                          • ----------------------------------------


                            Originally posted by dracoV
                            หลักการเดียวกันกับ virtual ground สำหรับ single supply +0
                            แต่ใช้ไฟ+-ที่สำหรับจ่ายให้ op-amp เป็นตัวสร้าง Active ground channel
                            โดยใช้ TLE2426 ซึ่งทำหน้าที่ Rail splitter ได้ค่อนข้างแม่นยำและสเถียรกว่าการใช้ R แบ่ง Volt
                            ข้อดีอีกอย่างสำหรับ TLE2426 แบบ dip8 จะมีขา Noise reduction เอา C 1uF ต่อกับขา8 ลงไฟลบก็จะลด Noise ลงได้อีก
                            ทำให้ได้กราวด์ที่ค่อนข้างเงียบมาก แต่มัน source/sink กระแสได้ไม่มาก ~30mA ก็ต่อกับ Buffer
                            ผ่าน single op-amp ที่ทำหน้าที่เป็น Servo, บัฟเฟอร์ผมใช้ Diamond buffer แบบลดรูป
                            ออกแบบไว้ให้รับกระแสได้ ~1A ซึ่งน่าจะเกินพอสำหรับวงจรที่ใช้แล้ว
                            Last edited by keang; 22 Jul 2011, 01:46:01.

                            Comment


                            • DS กลับมาร้องเพลงได้แล้วครับ T_T
                              ต้องขอบคุณkeang สำหรับคำแนะนำและข้อมูล

                              เดี๊ยวค่อยเอารูปมาลง

                              ______

                              edit:
                              เพิ่งจะมองออก ds มันเป็นวงจร invert


                              ต้องเอารูป ที่คุณ keang ถ่าย+รูปที่ถ่ายเองมาดูเทียบ ถึงจะเข้าใจ

                              ไม่สิต้องอันนี้ รูป b


                              high pass filter op-amp
                              Last edited by ManiacMaew; 24 Jul 2011, 02:44:44.

                              Comment


                              • R feedback ของ DS ค่าเท่าไหร่ครับ ผมว่าจะปรับ gain ของมันหน่อย
                                ถ้ายังไงขอรูปด้วยก็ดีครับผมจะได้ไม่ต้องแกะ card มานั่งไล่วงจร ^^

                                Comment

                                Working...
                                X