โมให้ดีกันเยอะแล้ว มาม๊ะ....มาโมให้"เจ๊ง"กันดีกว่า

[m shifu]

สองอันนี้ไม่ได้นะครับ
สมมุติ ไฟบ้านมี DC 10 V
แรงดันคร่อม C จะมี 10 V ด้วย
ไดโอดไม่ได้ทำหน้าที่ป้องกันแรงดันที่ C เลย

อีกกรณีคือ ตอนที่เกิด inrush current
แรงดันคร่อม C จะสูงเช่นกัน
เพราะไม่มีไดโอดมาคุมแรงดันครับ




อันนี้ใช้ได้

[m shifu]

ถ้าอยากลองต่อง่ายๆนะครับ
ถ้าใช้กะเครื่องเสียงบ้าน โหลดคงไม่เกิน 500 W
แนะนำใช้ C ค่ามากๆ เช่น 10000 uF 16V ตัวเดียว
กะ ไดโอดธรรมดา 3A สองตัว
รวมใช้อุปกรณ์ 3 ตัว
ทั้งสามตัวต่อขนานกัน
ไดโอดต่อกลับทิศกัน
อันนี้ จะกั้น DC ที่ไม่เกิน 0.7 V ได้ ซึ่งคิดว่าน่าจะพอ
ถ้า DC เกินกว่า 0.7 V ก็จะไม่มีอะไรเสียหายครับ

[tumd]

รวม DC Blocker แปลงจากไฟล์ pdf ที่โหลดมา 10แบบ












หมายเหตุ ไม่เคยลองสักแบบ ใครลองแล้วอันไหนใช้ได้ใช้ดีบอกด้วย

[tumd]

ช่วงหลังเห็นคนเริ่มพูดถึง Audigy RX เยอะ เลยไปหาข้อมูลดู เจออะไรก็ขอแปะฝากไว้ก่อนนะ

ผ่านไป10ปี ครีเอทีฟก็ยังคงใช้ชิพ DAC CS4382 พร้อม opamp 4558 เหมือนเดิม



ลิงค์นี้เทียบ 3รุ่นเลย Audigy 2 Value, X-Fi Xtreme Gamer Fatal1ty Pro and Audigy 5 / Rx
http://personalaudio.ru/detail/audigy_5_rx/

แบบแปล eng โดยอากู๋ http://translate.google.com/translat...%2Faudigy_5_rx

รูปหมู่ขนาดใหญ่ (กดดูรูปใหญ่ได้)

[dracoV]

วันศุกร์ไปลั่นล้ามาวันเสาร์ตื่นซะบ่ายเบย 555

ได้สิครับ วงจรที่ผมวาดทำงานได้นะ
edit เพิ่ม: คำแก้ตัว
แต่ต้องดูทิศทางต่างๆใหม่หน่อย ให้ดีๆ เอาไปใช้ตามนั้นเลยไม่ได้น่ะ

ทำงานดีด้วย ในแง่การบล๊อคDCนะ บล๊อคหมดจดเชียวละ

ก่อนอื่นเข้าใจกันไว้ก่อนว่า เรากำลังดูไฟ AC และ DC(แฝง)
- AC กับ DC มี behavior(ภาษาไทยเรียกว่าไรอ่ะ? ) ที่แตกต่างกันมากนะ
- AC เป็นลูกคลื่น การพิจารณา/คำนวณ ต่างๆจะแตกต่างกับ DC มากมายพอสมควรเชียวละ
- Capacitor จะ Block DC
- Capacitor จะปล่อย AC ผ่านได้ ในสภาวะที่เหมาะสม (ค่าความจุ, load impedance,...)
- DC ไม่สนใจ impedance สนแต่ resistance ส่วน AC สนทั้งสองอย่างโดยเฉพาะ impedance
- DCแฝง จะไม่ได้ผสมกลมกลืนเป็นเนื้อเดียวกับ AC แต่จะส่งผลกับ AC ในสายในรูปของ offset
และ DCแฝงจะปรากฎตัวออกมาก็ต่อเมื่อมันมีทางที่จะวิ่งลงไปสู่จุดที่ศักย์ต่ำกว่า
เช่น (อ่าน - ข้างบนอีกครั้ง) กรณีนี้เมื่อถึง transformer ซึ่งจะต่อถึง neutral
- ...

วงจรอื่นก็บล๊อคได้นะแต่ไม่หมด ก็ได้เท่า ประมาณforward voltage ของ diode
ผ่านกี่ตัวก็ได้สูงสุดเท่านั้น เช่นผ่าน 1 ตัวก็กันได้ ~0.6-0.7V ถ้า 2ตัวก็ 1.2-1.4V
ถ้าเกินกว่านั้นก็ผ่านDCส่วนที่เหลือไป น่าจะเรียกว่า DC filter มากกว่า Blocker

แต่ก็นะ DCแฝง มันไม่สมควรจะมีมากอยู่แล้ว ถ้ามากก็แสดงว่ามีอะไรผิดปกติละมัง
อืม จริงๆ DCแฝง ค่ามากก็เป็นได้น่ะนะ แต่มันจะมีมาไม่นานในระบบไฟ มาแป๊บๆ เป็นช่วงสั้นๆได้อยู่เหมือนกัน

กลับมาที่วงจรที่ผมวาด ใช่ครับ Diode ไม่ได้ทำหน้าที่ป้องกัน C ทุกตัว
Diode จะทำหน้าที่ป้องกันด้วยส่วนนึง ผ่านไฟด้วยส่วนนึง Charge/discharge C ด้วยส่วนนึง และ Block DCด้วย

จากรูป เอาตามที่คุณm shifuว่า DCแฝง มา 10V Diode ตัวแรกก็จะปล่อยผ่านมาได้ แต่ก็drop ลงไป V drop เหลือ~9.3V
ก็ป้องกันCตัวแรก(Vตกคร่อม~V drop)และทำหน้าที่ Clamp ไฟ สำหรับส่วนหลัง
ถูกครับตามที่คุณm shifuบอก ในส่วนหลัง DCแฝงdiode ไม่ได้ทำหน้าที่ป้องกัน C แต่จะทำหน้าที่ block DC
ก็จะทำให้มีโวลท์ต่างอยู่ที่ ~DC offset(DCแฝงที่เหลือ)

ว่าไปทำไมมี ทำงานได้ป่าวมาลอง sim กันดูดีก่า เทียบกับวงจรในโพสต์นู้นของคุณ tumd ละกัน
ตั้งไฟ AC 50Hz แต่เอาvoltแค่ 50Vละกัน ได้เห็นความต่างชัดหน่อย ส่วน DC เอา 10V ตามที่คุณm shifu ว่า ถ้วนๆดี



ซูมมาดูประสิทธิภาพการบล๊อค DC กันชัดๆ
อย่าลืมว่า

ตั้งไฟ AC 50Hz แต่เอาvoltแค่ 50V ละกัน ได้เห็นความต่างชัดหน่อย ส่วน DC เอา 10V

จริงๆเขียนสรุปไวอีก แต่ทำอีท่าไหนไม่รู้หายไปซะ ไว้เดี๋ยวขยันขึ้น(หวังว่าน่ะนะ ตอนนี้) จะเขียนมาแปะใหม่
เอาสั้นๆไปก่อน

ส่วนวงจรที่ผมลองวาดๆดู ทำงานได้(น่าจะน่ะนะ) บล๊อค DC ได้หมดจดเลยนิ
จากผลการ sim ควรวาง C แบบนี้นิ

แต่คงต้องการอุปกรณ์ที่อึดๆหน่อยน่ะ
โดยเฉพาะC ต้อง volt สูงๆหน่อย 63V++ ความจุไม่ต้องมานัก(แต่ก็น่าจะ1000uFขึ้นน่ะ) คุณภาพดีๆเน้นที่ทนกระแสริปเปิ้ลสูงๆ ทน Surge V/A ได้มากพอควร

เทียบกันแบบคร่าวๆระหว่างวงจรที่ผมวาด กับวงจรนู้นในโพสต์ของคุณtumb
- C ในวงจรผมน่าจะอายุสั้นกว่า(ทำงานหนักกรณีเจอ V surge) ต้องการ C volt สูง คุณภาพดีๆ อึดๆหน่อย = แพง 555+
ถ้าให้ดี ใช้ C แบบ BP จะแหล่ม (แพงขึ้นไปอีก) อิอิอิ
- ทำหน้าที่บล๊อค DC ได้ดี แต่มีตัวแปรอื่นๆที่ต้องพิจารณาประกอบเยอะ

ส่วนวงจรที่ผมลองวาดๆดู ถ้าเวิร์ค(น่าจะน่ะนะ)ก็ C ก็จะทำงานหนักมว๊ากก 555+
ต้องใช้ C ค่ามากหน่อยพอที่จะเป็น High-pass ส่งผ่านความถี่ตั้งแต่ 50Hz ไป และทนกระแสริปเปิ้ลได้สูงหน่อยให้พอความต้องการ
และมีเหลือๆหน่อยเป็น headroom ไว้หายใจ ตัวใหญ่หน่อยให้มันระบายความร้อนได้ดีๆ

แต่จะว่าไป DC-blocker ทุกวงจรก็น่าจะต้องการCแบบนั้นเหมือนกันนิ เพราะตัวทำงานหลักก็คือ C ด้วยเหมือนกัน ส่งผ่าน AC ที่ความถี่ 50Hz ไฟบ้าน

ถ้าไม่ได้ต้องการ Block DC ให้หมดจดอะไรนัก แค่ filter มันออกไปบ้าง วงจรในโพสต์ของคุณtumd อันนู้นก็ทำงานได้ดี กันdc ได้1.2Vc แล้วละ

DC Blocker(Filter) ไม่ว่าวงจรใดๆ ควรพิจารณาเมื่อใช้ต่ออุปกรณ์ที่ต้องการกำลังไฟ(V, A) สูง, inrush สูง
และน่าจะดีกับการใช้ต่อกับพวกอุปกรณ์เล็กๆกินไฟน้อยๆ แต่ต้องการไฟสะอาด ด้วย

Your experience may vary

[tiger X-fi]

ถ้าไม่ได้ต้องการ Block DC ให้หมดจดอะไรนัก แค่ filter มันออกไปบ้าง วงจรในโพสต์ของคุณtumd อันนู้นก็ทำงานได้ดี กันdc ได้1.2Vc แล้วละ
DC Blocker(Filter) ไม่ว่าวงจรใดๆ ไม่เหมาะสำหรับใช้ต่ออุปกรณ์ที่ต้องการกำลังไฟ(V, A) สูง, inrush สูง
น่าจะดีกับการใช้ต่อกับพวกอุปกรณ์เล็กๆกินไฟน้อยๆ แต่ต้องการไฟสะอาด

ไม่คูณ 2เหรอครับพี่ ครึ่งคลื่นลูกบน ครึ่งคลื่นลูกล่าง

[dracoV]

ไม่ครับ เพราะมันผ่านทีละ 2 ตัว ครึ่งคลื่นลูกบนก็ผ่านชุดนึง ครึ่งคลื่นลูกล่างก็ผ่านอีกชุดนึง ครับ อันนี้สำหรับ AC นะ
ส่วนDCแฝง(DC offset) มันก็ผ่าน Diode ตามทิศขั้วน่ะครับ แล้วแต่ DC offset มันเป็นบวก หรือลบ ไม่เหมือน AC

[tiger X-fi]

ขอบคุณครับพี่

[m shifu]

วงจร DC Blocker มีทริกตรงที่ ใช้ C แบบมีขั้ว แต่ให้ทำงานทั้งสองขั้ว
ซึ่งการทำแบบนี้ จะใช้ได้ที่แรงดันคร่อม C (Vc) ต่ำมาก
การจะทำให้ Vc ต่ำมาก จะต้องใช้ C ค่าสูงมากพอ
ค่า C ยิ่งมากเท่าไหร่ Vc ยิ่งน้อยเท่านั้น
ปกติ Vc ไม่ควรเกิน 0.5 Vpeak

แต่การใช้งานจริงกับไฟบ้าน มีเรื่องไฟกระชาก ซึ่งบอกไม่ได้ว่าจะรุนแรงแค่ไหน
เมื่อเกิดไฟกระชาก Vc จะสูงกว่าปกติ จนอาจทำให้ C ระเบิดได้
วงจรทั่วไปที่เห็นใช้กัน เค้าจึงใส่ไดโอดมาป้องกัน ไม่ให้ Vc เกิน 0.7V

ในการใช้งานปกติ ไดโอดควรจะไม่นำกระแสเลย (เหมือนไม่ได้ใส่ในวงจร)
ถ้าไดโอดนำกระแสในการใช้งานปกติ แปลว่าควรแก้ไขวงจรใหม่ (เช่นเพิ่มชั้นไดโอด)
หลักการของวงจรเป็นแบบนี้นะ

----------------------

อย่างที่บอกตอนต้นว่า ทริกอยู่ที่ ใช้ C แบบมีขั้ว แต่ให้ทำงานทั้งสองขั้ว
เราจึงไม่ต้องสนใจขั้วของ C
ตัวอย่าง ที่ผมแนะนำข้างบน 10000 uF 16V (มีขั้ว) ตัวเดียว ก็ใช้ได้ละ

แต่ไดโอดในวงจรสองอันข้างล่างนี้ ไม่ได้ทำหน้าที่แบบที่อธิบายข้างบน
วงจรนี้ เห็นชัดเจนว่า ไดโอดไม่ได้คุม Vc และในบางสภาวะยังประจุกระแสเข้า C แบบผิดขั้วด้วย


ถ้า Vc เกินมาก เช่น 10V แล้วกลับขั้ว ผลจะเป็นยังไง ผมก็ไม่เคยลองนะ
เพราะถึงแม้ว่าจะไม่เป็นไร ก็คงไม่มีใครรับประกันว่าใช้แบบนี้แล้วจะดีนะ

แต่ใน sim เขียนกลับขั้ว C กะวงจรข้างบน
แบบนี้ จะประจุกระแสเข้า C ถูกขั้ว
ถ้า Vc ไม่เกินเรตติ้งของ C ก็ไม่มีปัญหานะ
แต่ถ้าเกินมาก ก็มีปัญหาอีกเช่นกัน

สรุป จุดที่เป็นปัญหานะ
สมมุติ C 10000 uF 16V มีขั้ว
1. 10000 uF 16V ประจุไฟกลับขั้ว -10 V แบบนี้ ถือว่าใช้ได้หรือไม่
2. 10000 uF 16V ประจุไฟถูกขั้ว 25 V แบบนี้ ถือว่าใช้ได้หรือไม่
ลองตอบดูครับ

[dracoV]

ที่คุณm shifu ว่ามานั้นถูกต้องแล้วครับ
บางส่วนเหมือนกันในโพสต์ของคุณm shifu ผมก็เขียนๆไว้ในสรุป ที่ผมดันทำหายไปเหมือนกัน เลยขี้เกียจเขียนใหม่
ดีเลยมีของคุณm shifu มาช่วยเพิ่ม และแก้ไขให้ด้วย ขอบคุณครับ

อย่างที่ว่าละครับ ในวงจร2อันตอนแรกที่โพสต์ ผมก็ไม่ดีเอง เอาเร็วนึกๆลองวาดๆดูแล้วแปะให้ดูไม่ได้กำกับในรูปว่า "ไม่ใช่ตัวที่นำไปใช้ได้"
เรื่องขั้ว C ก็อย่างที่ผมบ่นๆไว้ในโพสต์ที่ลงรูปวงจร 2อันนั้น ว่ามันก็ยังงงงง มันต้องการการทดสอบ
อ่ะ แต่ผมก็มีรีม๊าคไว้นะ ว่าไม่รับประกันการบึ้ม 555+ แก้ตัวไปเรื่อยผม โทษที

C มีขั้วตัวใหญ่ๆหาง่ายราคาไม่แพงนัก แต่ก็ต้องมาคอยดูเรื่องขั้วนี่แหละ

เรื่อง Volt/การเลือกใช้ ของ C ก็มีสรุปไว้บ้าง ส่วนท้ายของโพสต์ที่ทำการทดสอบน่ะครับ

คำถาม 1,2 ตอบ ใช้ยังงั้นไม่ได้น่ะครับ


ปล. ดีจังมีคนคุยด้วย ช่วยแก้ไขด้วย ไม่งั้นผม หนักมากเลย

[m shifu]

ขอบคุณ ท่าน dracoV เช่นกันครับ

[ManiacMaew]

ยกมาถามหน่อยแอบอ่านมาสักพัก งงๆ

วงจร DC Blocker มีทริกตรงที่ ใช้ C แบบมีขั้ว แต่ให้ทำงานทั้งสองขั้ว
ซึ่งการทำแบบนี้ จะใช้ได้ที่แรงดันคร่อม C (Vc) ต่ำมาก
การจะทำให้ Vc ต่ำมาก จะต้องใช้ C ค่าสูงมากพอ
ค่า C ยิ่งมากเท่าไหร่ Vc ยิ่งน้อยเท่านั้น
ปกติ Vc ไม่ควรเกิน 0.5 Vpeak

อย่างที่บอกตอนต้นว่า ทริกอยู่ที่ ใช้ C แบบมีขั้ว แต่ให้ทำงานทั้งสองขั้ว
เราจึงไม่ต้องสนใจขั้วของ C
ตัวอย่าง ที่ผมแนะนำข้างบน 10000 uF 16V (มีขั้ว) ตัวเดียว ก็ใช้ได้ละ

ขยายามความที่ครับ
-แบบCตัวเดียวนี้มันทำงาน2ขั้วยังไง?
คือแบบC 2ตัว อนุกรมหรือขนานกันพอเข้าใจน่ะ แต่ถ้าแบบตัวเดียวแล้วผม
เข้าใจว่าถ้าไฟมาทางขั้วลบเกินforward voltageของdiodeมันจะไปทางdiodeแทน
ทำให้cไม่พัง แต่Cก็ไม่ได้ทำงานขนาดไฟมาทางขั้วลบ(AC) หรือ ไฟDCหลุดมาอีกทาง

-Vc peakทำไมไม่ควรเกิน0.5เหรอครับ

edit :

การจะทำให้ Vc ต่ำมาก จะต้องใช้ C ค่าสูงมากพอ

ข้อความนี้จะหมายถึง ใช้ค่าเก็บประจุสูงเพื่อให้impedanceมันต่ำลงจะได้Vcต่ำตาม ใช่มั้ย

--------

เรื่องหน้าที่diodeตรงนั้นพอเข้าใจน่ะ แต่พอดูไปดูมาเจอที่คุณtumdเอามาโพสต์ให้ดู มันตรงกับบคุณdracov ผมก็เลยงงๆ





จะตามไปอ่านที่webที่เขียนในรูป เว็บก็ดันหายไปแล้ว

[tumd]

เพิ่มอีกสัก2แบบ อัน Bryston น่าจะเป็นแอมป์ 500W
ส่วน Crown รู้สึกจะเป็นแอมป์ 780W


อันที่ลงรูปไปก่อนหน้านี้ น่าจะเซฟมาจากกระทู้นี้
http://www.diyaudio.com/forums/power...hat-right.html

[m shifu]

ตอบ ท่านเหมียว

ปกติ C แบบมีขั้ว เราใช้กะไฟ DC แล้วเราต้องต่อ +- ให้ถูกขั้วด้วย
แต่ถ้าใช้กับไฟ AC เราต้องใช้แบบไม่มีขั้ว

ถ้าถามว่า เอา C แบบมีขั้ว ไปใช้กับไฟ AC จะได้รึเปล่า
ตามทฤษฎี ต้องตอบว่าไม่ได้
แต่ทางปฎิบัติ มีใครเคยลองมั่ง? แล้วผลเป็นยังไง?

เอา C แบบมีขั้วสองตัว เอาขั้วลบมาต่อกัน จะได้ C แบบไม่มีขั้ว จริง?
ทำแล้ว แรงดันที่ทนได้ คิดยังไง?
เคยมีใครลองเอา C 2.2 uF 200V แบบมีขั้วสองตัว เอาขั้วลบมาต่อกัน เพื่อทำให้มันไม่มีขั้ว
แล้วใส่ลงไปในตำแหน่ง X2 ของวงจร EMI Filter
เสียบไฟบ้าน ผลเป็นยังไง?

หลายๆอย่าง ทฤษฎีบอกไม่ได้ sim บอกไม่ได้ ต้องทดลองจริงครับ
ซึ่งผลการทดลอง ก็แล้วแต่กรณีด้วยนะ เหมารวมไม่ได้

วงจร DC Blocker พื้นฐานมาจากวงจรนี้ครับ

C เป็นวงจร high-pass filter ให้ความถี่ไฟบ้านผ่านได้ดี
ไฟ DC จึงผ่านไม่ได้

แรงดันตกคร่อม C มากน้อย ขึ้นกับ impedance ของ C ถูกต้องครับ

ปกติ C ต้องใช้แบบไม่มีขั้ว เพราะใช้กับไฟ AC
แต่ C แบบไม่มีขั้วที่มีค่าสูงมากๆๆ เรียกว่าไม่เคยเห็นใช้ตามบ้านละกัน
ในทางปฎิบัติ เราใช้ C แบบมีขั้วกับไฟ AC ได้ ถ้าแรงดันตกคร่อม C มีค่าน้อยๆ
ที่ผมเคยลอง 2-3 V ยังทำงานได้ดีเหมือนไม่มีขั้ว
ถ้าต่ำๆ เช่น 0.5 V อันนี้ค่อนข้างชัวร์ว่าใช้ได้
จึงควรใช้ค่า C ให้มากพอที่แรงดันตกคร่อม C จะไม่มากไปกว่า 0.5 V ครับ

ไดโอด มีหน้าที่ป้องกันไม่ให้แรงดันคร่อม C เกิน 0.7 V เท่านั้น (ไม่มีหน้าที่มากไปกว่านี้)
วงจรที่มี C มากกว่า 1 ตัว ไดโอดมากกว่า 2 ตัว ปกติคือการเพิ่มสเตป ก็เพิ่มได้ตามความต้องการครับ

ส่วนวงจรสองอันนี้ ไดโอดไม่ได้ป้องกันแรงดันคร่อม C


ไดโอดที่ใส่มา ไม่มีประโยชน์อะไรเลย แถมยังประจุ C กลับขั้วด้วย (กรณีเกิดกระแสกระชาก)ตามที่อธิบายไปแล้วครับ

[dracoV]

เอาวิญาณสมัยเป็นครูอยู่บ้านนอกกลับมาสวมหน่อย

ใครว่างหรืออยากลองทำแบบฝึกหัดเล่น ลองทำดูนะครับ ทำแล้วไม่ต้องส่งก็ได้ แต่ถ้าอยากรู้ว่าทำถูกไหมก็ต้องส่งนิ 555+

อาจจะลืมหรือแค่นึกๆเอาไม่ค่อยออกนะ การทำงาน ลองวาดแล้วเขียนที่จุดต่างไปเป็นขั้นๆจะเข้าใจ
ก่อนอื่น
เรากำลังดูไฟ AC อยู่ AC มีคุณลักษณะอย่างไร กำหนดเป็นไฟบ้าน AC 220V 50Hz
1. Volt ของ AC คงที่หรือเปล่า เช่น ไฟบ้าน 220volt นี่ มันคือ Volt 220v ตลอดเวลาไหม?
2. จากข้อ 1. ถ้าได้คำตอบแล้ว ต่อไป ในเวลาที่เดินไป Volt AC จะเปลี่ยนไปอย่างไร? (ลองวาดเป็นกราฟ Volt(แกนy), time(แกนx) ดู)
3. จากข้อ 2. ถ้าได้คำตอบแล้ว จะเห็นว่า ACเป็นคลื่นใช่ไหม อ่ะ ถ้าใช่ ลักษณะของคลื่นคืออย่างไร?
4. จากข้อ 3. ถ้าได้คำตอบแล้ว ถ้าให้ 0 volt เป็นเส้นกลาง ลากแบ่งตามแกน x จะแบ่งลูกคลื่นเป็น 2 ซีก ใช่ไหม?

ทีนี้มาดูวงจร เราจะทำความเข้าใจการทำงานนี่ ก็ลืมๆเรื่องขั้วของ C ไปก่อน assume ว่าถูกหรือไม่มีขั้วไปก่อน



ลองแบ่งวงจรเป็น 2 ซีกซ้าย, ขวาตาม diode แต่2ซีกเชื่อมกันอยู่ปกตินะไม่ได้ขาดจากกัน เพียงแค่แบ่งการดู
Note: C จะให้ AC ผ่านได้และบล๊อค DC, Diode ให้ไฟผ่านได้ทางเดียว ตามทิศและขั้ว
5. จากข้อ 4. ลูกคลื่นซีกบน(ซีกบวก)จะ interact(นึกภาษาไทยไม่ออกอีกแล้วโทษที) กับวงจรซีกซ้ายอย่างไร และกับวงจรซีกขวาอย่างไร?
6. จากข้อ 4. ลูกคลื่นซีกล่าง(ซีกลบ)บ้างล่ะจะ interact กับวงจรซีกซ้ายอย่างไร และกับวงจรซีกขวาอย่างไร?

ทีนี้ลองมาพิจารณา Volt กันบ้าง ดูวงจรรวมไม่ต้องแบ่งซ้ายขวาละ ทีนี้จะได้ดูบทบาทของ Diode กัน
Note: - กำหนดให้ แหล่งจ่ายไฟ AC 220v 50Hz มาจากทางซ้ายของวงจร ด้านขวาต่อไปload(ไม่มีแหล่งจ่ายไฟ)
- C จะให้ AC ผ่านได้และบล๊อค DC, Diode ให้ไฟผ่านได้ทางเดียว ตามทิศและขั้ว
- Diode เมื่อทำงานผ่านไฟ จะมี Volt ตกคร่อม~=Forward voltage
- ให้นำเวลาเข้ามาประกอบด้วยเวลาพิจารณา
- ให้นำกราฟจากข้อ 2 มาประกอบ
7. วาดกราฟของ Volt (แกนy)โดยประมาณ ของจุด A, B, C ตามเวลา (แกนx) เป็น 3 เส้น
ช่วงเวลาให้อย่างน้อย ครบรอบ 1คลื่นของไฟ AC คือมีทั้งซีกบวกและซีกลบ

ถ้าวาดข้อ 7.ได้ก็จะเข้าใจแล้วล่ะ แต่อาจยากไป
8. ให้ลองพิจารณาโดยจ่ายไฟเข้าที่จุด A ด้วย Vขนาดต่างๆ ทั้งบวกและลบ โดยเพิ่ม/ลดเป็นขั้นๆ และพิจารณาVolt ของจุด BและC ว่าจะเป็นเท่าไหร่
ลองทำข้อ8. ได้ ก็น่าจะเห็น/เข้าใจ การ Protect ของ Diode, และการ Clamp ไฟของ diode แล้วละ ว่าประโยชน์มันอยู่ตรงไหน

9. แถม ลองทำข้อ8. โดยใช้เวลามาประกอบด้วย

ถ้าทำ/เข้าใจมาถึงตรงนี้ก็น่ากลับไปใส่ขั้วให้ C ได้แล้วละ