นาจะเป็นเฟทเบอร์ 2sj112
Announcement
Collapse
No announcement yet.
D.I.Y.ตอน เครื่องขยายเสียง
Collapse
X
-
-
@คุณเสือ
ก็คืออย่างที่อธิบายคร่าวๆน่ะครับ
ว่าต้องการวัดเทียบที่จุดไหนกับจุดไหน และจะเอาไปใช้/เทียบกับอะไร
เช่น ต้องการวัด Vplate เทียบกับ cathode ก็จัดระหว่างจุดนั้น
หรือต้องการวัดเทียบกับ output ที่เทียบกับกราวด์ ก็ต้องวัดเทียบกับกราวด์
ลองยกตัวอย่างคำถามมานิดสิครับ ว่าต้องการวัดจุดไหนเพื่อเอาไปใช้/เทียบกับอะไร เป็นต้นน่ะครับ
-----------------------------------------
@คุณแมว
-แบบ30vกับ+-15voltนี้ข้อดีข้อเสียต่างกันยังไงเหรอครับ
ทั่วๆไป การทำงานของทั้งสองวงจรก็จะใกล้เคียงกันน่ะครับ ไม่ได้ต่างอะไรมาก
เพียงแต่ต้องการวงจรเสริมต่างกันอยู่บ้าง
ข้อดี+30V,GND ก็คือดูง่าย/อ้างอิงง่าย เทียบกับdatasheet ได้
วงจรก็สามารถปรับเปลี่ยนได้(คำนวณง่ายกว่าหน่อย) เช่น ต้องการเพิ่มVolt ที่ B+ขึ้น
ก็ทำได้ ทำวงจรเพิ่ม multiply voltage เพิ่มขึ้นเติมเข้ามา แล้วก็ปรับค่าอุปกรณ์ตามได้
แต่ต้องการวงจรเสริม เช่นวงจร voltage multiplier สำหรับไฟสูง
และก็เรื่องของการ Bias ที่คำนวณต่างไปหน่อย และก็เรื่องการแยกกราวด์สัญญาณ
พูดถึงการ bias ก็คือส่วนของ C input ที่วงจรแบบ +30V,GND จะไม่ใส่ก็ได้
จริงๆแล้ว Ci ก็เป็นส่วนหนึ่งของวงจร bias ซึ่งใช้อยู่ 2 stage
ซึ่งถ้าไม่ใช้ Ci กับ R2 ก็ตัดออกไปส่วนนึง ตัดส่วน grid leak bias ออก ใช้แต่เฉพาะ R cathode bias
จริงๆจะแนะนำให้ใส่ Ci เพราะเป็นส่วนของการป้องกันด้วย และ ปกติเวลาทำงาน grid ก็จะมี negative voltอยู่หน่อยๆเทียบกับกราวด์น่ะครับ
(แต่ถ้าวงจร+-15V จะติดลบมากหน่อย)
ส่วนวงจร +-15V ก็อย่างที่คุณkeang บอก ก็คือส่วนสัญญาณกราวด์
และความง่ายของวงจร คือทั้ง 2แบบ ต้องมีส่วนของ buffer มาเสริมการทำงาน
เพื่อให้ใช้งานได้ทั่วไปกับ Load ต่างๆ รวมถึงใช้ต่อหูฟังก็ยังได้นะ
ก็ใช้ volt หลัก +-15V ทั้งวงจรได้ ไม่ต้องทำส่วนเสริม เช่น วงจร voltage multiplier หรือต้องสั่งพันขดไฟสูง
ถ้าจะใช้ไฟสูงจากหม้อแปลงซึ่งก็ต้องเอามาRegulate อีกที สำหรับใช้ในวงจรแบบ +30V,GND
สำหรับวงจร+-15 การbias, และ degree of separation ก็จะดีกว่า
แต่การเสริมเติมแต่งเปลี่ยนแปลงจะยุ่งยากกว่ามากหน่อย
หลักๆน่ะ สำหรับ 2 วงจร จริงๆก็มีส่วนปลีกย่อยอีกหน่อยแต่ก็ไม่ได้สำคัญอะไร รวมๆก็ 2 วงจรนี้ก็คล้ายๆกันน่ะครับ
* สำหรับ Q1 ก็เบอร์ J112 นี่ล่ะครับ ที่NPE มีขาย หรือถ้าหมด ก็ใช้เบอร์ 2N5458 หรือ 2N5459 ได้ ที่สหพิพัฒน์มี
หรือลองไปดูที่โชคชัยก็น่าจะมี
-ภาคจ่ายไฟจะใช้แบบไหนดี ไส้หลอดจะใช้ไฟacหรือdcจุด
อันนี้ก็ตามสะดวกน่ะครับถ้าจะเอาสะดวกก็วงจร +-15V ก็ใช้ 7815, 7915 ได้ ส่วนheater ก็ 7806 เป็น DC จุด
ส่วนถ้าอยากใช้ AC ก็สั่งพันขด 6.3V สัก 500mA เพิ่ม อันนี้ถ้าอยากใช้ DC ก็เอามา regulate ได้
ส่วนตัว ผมจะใช้ DC ตลอดเพราะคุมง่าย จัดหา/จัดการง่าย และจะสเถียรกว่า AC ที่จะมี harmonic ที่ความถี่ไฟบ้านน่ะครับ
และปกติผมก็จะใช้เป็นไฟลบในการจุดน่ะครับ เพราะจะได้แยก***งจากgrid และก็ช่วยเสริมการทำงานของ cathode ไปในตัว
แต่ทั้งนี้ก็แล้วแต่ชอบน่ะครับ ลองเล่นดู เทียบๆกันดู เป็นการศึกษา
-ถามดักไว้อีกอย่างหลอด6dj8กับหลอด 6j1นี้เสียงออกแนวไหน
แนวๆของ 6dj8 ก็คุณkeang อธิบายได้ดีกว่าผมไว้แล้ว (สบายไป อิอิ)
ส่วน 6J1 ไม่เคยใช้ ไม่เคยฟังคับ 555+
-กลัวเหลือเกิน ทำออกมาแล้วดันไม่ชอบแนวเสียงหลอด
เอากว้างๆไว้ละกัน
หลอดมันจะมีลักษณะของเสียงที่เขาเรียกว่า สไตล์หลอดน่ะครับ อธิบายให้เข้าใจเหมือนฟังเองแล้วรู้สึกก็คงไม่ได้
เอาคร่าวๆพอเข้าใจ ก็หลอดมันจะสุภาพน่ะ "มีหางเสียง" ไม่ห้วนๆ
นุ่มนวล พริ้วได้ ตรงได้ เพราะความต่อเนื่องของสัญญาณสูง และก็ค่อนข้างตอบสนองต่อสัญญาณได้ละเอียดดี
ความเป็น Analog สูงว่าง่ายๆดื้อๆงี้ละกัน
มวลเสียงจะเยอะ รายละเอียดเยอะ คนก็จะฟังแล้วว่า มันหวาน หรือ อิ่ม หรือ หนา ก็แล้วแต่
แต่ก็เพราะมันตอบสนองกับสัญญาณได้ละเอียด ความเป็น Analog สูง น่ะ 555+ ว่างั้น
และรายละเอียดในแต่ละเบอร์แต่ละรุ่นแต่ละปีผลิตแต่ละบริษัทก็ยังแตกต่างออกไปอีก
หรือแม้แต่หลอดเดียวกันเลือก curve การทำงานต่างกัน ก็ยังแตกต่างออกไปได้อีกนะเออ
ก็มีอะไรให้เล่นไม่หวาดไหวน่ะ ตามกำลังเป๋า อิอิ
เอาว่าถ้าเริ่มอยากลองเล่นหลอด ก็แนะนำให้เล่นเบอร์ที่เป็นที่นิยมกัน ก็จะหาง่าย มีอ้างอิงต่างๆ
และอย่าลืมว่าหลอดมันมีอายุ ใช้ๆแล้วก็ต้องเปลี่ยน ถ้าไปเล่นเบอร์แปลกๆ ก็อาจหายากต่อไป
และก็หามาลองเล่นยาก เพราะเล่นหลอดโดยเฉพาะเล่นใหม่ๆความสนุกก็อยู่ที่ Tube rolling นี่ละอย่างนึง
สำหรับปรีฯก็แนะนำหลอดพวก Low to Medium mu Twin Triode นี่ละเพราะเหมาะกับการใช้งาน
และพวกนี้จะมี 2 channel อยู่ในหลอดเดียว ถ้าวงจรใช้แบบ 1หลอด stereo ก็ง่ายไม่ต้องมานั่งแมชหลอด
เวลาเปลี่ยนก็เปลี่ยนหลอดเดียวเพราะปกติ ใช้กี่หลอดพวกหลอดsingle เปลี่ยนทีก็เปลี่ยนยกชุด
เพราะงั้นเวลาเล่น/ลอง ถ้าจะสนุกกับ Tube rolling แบบเป๋าหนุกด้วย ก็ลองเล่นแบบวงจรหลอดเดียวนี่ละเหมาะ อิอิอิ
Comment
-
@แมว
เพิ่มข้อมูลเรื่องปรีหลอดวงจรของุณdracoVอีกนิด
- ตัววงจรทั้ง2แบบ สามารถดัดแปลงมาใช้อีกแบบได้ เพราะ จุดต่างอยู่ที่ชุดคาโธดเท่านั้นเอง เช่น จากแบบ+/- ก็เปลี่ยนมาจับลงกราวน์แทน อะหลั่ยส่วนเกินก็ถอดออก
- หม้อแปลงให้ใช้แบบ 15-0-15 เพราะ ถ้าเริ่มทำวงจรแบบ+/-แล้วมาเปลี่ยนใจใช้แบบ+/gnd ก็ยังใช้หม้อแปลงลูกเดิมได้
- หม้อแปลงชุดไส้หลอด ถ้าใช้แบบDCผ่านไอซีเรกกูเลเตอร์7806 หม้อแปลงต้องเป็น9VAC
ถ้ายังไม่แน่ใจว่า จะชอบเสียงมันหรือเปล่า ก็เริ่มจากแบบ+/gndก่อน เพราะ อะหลั่ยน้อยกว่า
ผมมีหลอดสำหรับเอาไว้เผาเครื่องเล่น เบอร์7DJ8ของฟิลิปส์
ตอนทำเครื่องเสร็จก็ลองกับหลอดถูกๆพวกนี้แหล่ะ จนแน่ใจว่าวงจรไม่มีปัญหาแล้วค่อยเปลี่ยนไปใช้หลอดดีหน่อย
-----------------------------------
Originally posted by dracoVปกติผมก็จะใช้เป็นไฟลบในการจุดน่ะครับ เพราะจะได้แยกห่.างจากgrid และก็ช่วยเสริมการทำงานของ cathode ไปในตัว
ทริคนี้ ใช้ได้กับไฟเลี้ยงทั้งสองแบบรึเปล่าLast edited by keang; 9 Apr 2014, 23:30:57.
Comment
-
Originally posted by keang View Post"ไฟลบจุดไส้หลอด" ขยายความเพิ่มหน่อยครับ / คงไม่ใช่ไฟ -6 VDC นะ
ทริคนี้ ใช้ได้กับไฟเลี้ยงทั้งสองแบบรึเปล่า
โดยปกติผมจะใช้หม้อแปลงแบบ x-0-x ประจำ ก็จะเอา AC มา rectified ผ่านdiode แยกออกมาเฉพาะไฟลบ
แล้วเอามาให้ 337 regulated อีกทีนึงครับ
หลักการ ก็คร่าวๆ การทำงานของหลอดคือ heater จะเผา cathode ให้ electron หลุดออกมา
แล้ว electron ก็จะวิ่งผ่านgridซึ่งทำหน้าที่ควบคุม แล้วไปหา Plate (Anode)
electron มีประจุลบก็วิ่งจากศักย์ต่ำไปสูง เพราะงั้นก็จะพยายามจัดให้ Heater มีศักย์ต่ำกว่า grid
ก็จะได้ไม่ไปรบกวนการทำงานของ grid มากนักน่ะครับ
ก็ใช้ได้กับsupplyทุกแบบน่ะครับ หลักการคือพยายามจัดให้ heater มีศักย์ต่ำกว่า grid เอาไว้ก่อนครับ
Comment
-
ต่อจากเมื่อวานหน่อย
อันนี้ก็ตามสะดวกน่ะครับ ถ้าจะเอาสะดวกก็วงจร +-15V ก็ใช้ 7815, 7915 ได้ ส่วนheater ก็ 7806 เป็น DC จุด
ส่วนถ้าอยากใช้ AC ก็สั่งพันขด 6.3V สัก 500mA เพิ่ม อันนี้ถ้าอยากใช้ DC ก็เอามา regulate ได้
คุณdracovจะไม่ลองออกแบบขั้นสูงกว่านั้นหน่อยเหรอ
----------
จุดไส้หลอดนี้ LM337 ก็ดีน่ะ เพราะผมมีตัวถังเหล็กเก็บไว้อยู่ 55+
บวกกับน่าจะยังหาซื้อได้
Comment
-
Originally posted by dracoV View Postใช่ครับไฟลบ หลอด6ก็ -6.3V หลอด12 ก็ -12.6V ครับ
โดยปกติผมจะใช้หม้อแปลงแบบ x-0-x ประจำ ก็จะเอา AC มา rectified ผ่านdiode แยกออกมาเฉพาะไฟลบ
แล้วเอามาให้ 337 regulated อีกทีนึงครับ
หลักการ ก็คร่าวๆ การทำงานของหลอดคือ heater จะเผา cathode ให้ electron หลุดออกมา
แล้ว electron ก็จะวิ่งผ่านgridซึ่งทำหน้าที่ควบคุม แล้วไปหา Plate (Anode)
electron มีประจุลบก็วิ่งจากศักย์ต่ำไปสูง เพราะงั้นก็จะพยายามจัดให้ Heater มีศักย์ต่ำกว่า grid
ก็จะได้ไม่ไปรบกวนการทำงานของ grid มากนักน่ะครับ
ก็ใช้ได้กับsupplyทุกแบบน่ะครับ หลักการคือพยายามจัดให้ heater มีศักย์ต่ำกว่า grid เอาไว้ก่อนครับ
Comment
Comment