Announcement
Collapse
No announcement yet.
D.I.Y.ตอน เครื่องขยายเสียง
Collapse
X
-
Originally posted by best1147 View Postคือพมจะทำ buffer แบบใข้ op-amp แบบนี้สามารถใช้ได้ปะครับ คือ จะทำแบบไว้ลอง op-amp ลอง c
...
ที่คำตอบนี้ <<Click>>
น่าจะใช้ได้ตามที่ต้องการ เพราะคุณManiacMaew ก็ว่าเอาไว้ใช้สำหรับทดลองพวกนี้อยู่เหมือนกัน
ก็รอคุณManiacMaew มาอัพเดท เพิ่มวงจร/คำอธิบาย/ค่าอุปกรณ์ต่างๆ
ระหว่างนี้ก็อ่านศึกษาความรู้/ข้อมูลต่างๆในหน้าแรกที่คุณเสือและคุณManiacMaew นำมาโพสต์ไว้ให้
จะได้เข้าใจอะไรเป็นอะไรมากขึ้น เวลาทำครับ
Comment
-
Originally posted by dracoV View Postถ้าตามนั้นก็ คุณManiacMaew เอาลงไว้หน้าแรกแล้วครับ มีลายวงจรเป็น PDF เอาไปกัดได้
ที่คำตอบนี้ <<Click>>
น่าจะใช้ได้ตามที่ต้องการ เพราะคุณManiacMaew ก็ว่าเอาไว้ใช้สำหรับทดลองพวกนี้อยู่เหมือนกัน
ก็รอคุณManiacMaew มาอัพเดท เพิ่มวงจร/คำอธิบาย/ค่าอุปกรณ์ต่างๆ
ระหว่างนี้ก็อ่านศึกษาความรู้/ข้อมูลต่างๆในหน้าแรกที่คุณเสือและคุณManiacMaew นำมาโพสต์ไว้ให้
จะได้เข้าใจอะไรเป็นอะไรมากขึ้น เวลาทำครับ
ยังไม่ได้เขียนเพิ่มเลย ขี้เกียจวาดschematic แหะ
----------
ถามเพิ่มๆ
ตัววงจรopamp+ emitter follower เราแก้ภาคจ่ายเป็นแบบนี้จะดีกว่ามั้ย
คือC ไฟเลี้ยงตัว TR เราต่อคร่อมไฟ+-ไปเลย
อันนี้คิดว่า ตัวมันไม่ได้ต้องการ ไฟ+-12v ที่บาลานซ์กันแบบopamp ตัวมันเองน่าจะรับรู้ไฟเป็น 24-0
Comment
-
Originally posted by milestone View Postพี่เสือครับ ถ้าเป็นไปได้ หน้าแรกอยากให้ช่วย edit เพิ่มการทำ CMOY อย่างง่ายๆแล้วก็พื้นฐานเล็กๆน้อยๆไว้ด้วยครับ
คนที่เข้ามาใหม่ ไม่เคยเล่นมาก่อนจะได้อ่านรู้เรื่องและมีกำลังใจทำต่อครับ ^^
ตอนนี้รู้มานิดหน่อย...แต่ยังมั่วเหมือนเดิม...
ครับ ...เดี๋ยวมีโอกาสจะทำไข่ปลา หรือ hw แบบทีละขั้นตอนครับ
Comment
-
Originally posted by ManiacMaew View Postยังไม่ได้เขียนเพิ่มเลย ขี้เกียจวาดschematic แหะ
----------
ถามเพิ่มๆ
ตัววงจรopamp+ emitter follower เราแก้ภาคจ่ายเป็นแบบนี้จะดีกว่ามั้ย
คือC ไฟเลี้ยงตัว TR เราต่อคร่อมไฟ+-ไปเลย
อันนี้คิดว่า ตัวมันไม่ได้ต้องการ ไฟ+-12v ที่บาลานซ์กันแบบopamp ตัวมันเองน่าจะรับรู้ไฟเป็น 24-0
เรื่อง C คล่อม+- เท่าเล่นกับชุดไฟ
ลองดูชุดข้างล่างเปรียบเทียบครับ
OPA134PA Input Stage Amplifier Circuit
เครดิต http://www.schematicwiringdiagram.co...lifier-circuit
แบบที่น่าสนใจ
DIY Class-A Mosfet Headphone Amplifier
เครดิต http://diyaudioprojects.com/Solid/IR...Headphone-Amp/
--------------
Class A MOSFET Headphone Driver
เครดิต http://gilmore2.chem.northwestern.ed...szeke1_prj.htm
----------------
Class A headphone amplifier circuit op amp driven graphic
เครดิต http://www.182e.com/show.aspx?id=623&cid=13
---------------
DIY Class-A 2SK1058 MOSFET Amplifier
เครดิต http://diyaudioprojects.com/Solid/ZCA/ZCA.htmLast edited by tiger X-fi; 14 Apr 2012, 17:35:03.
Comment
-
Originally posted by tiger X-fi View PostR3 น่าจะผิดตำแหน่ง น่าจะอยู่หลัง R5
เรื่อง C คล่อม+- เท่าเล่นกับชุดไฟ
ลองดูชุดข้างล่างเปรียบเทียบครับ
r3(r feedback) ต่อได้ทั้งหน้าและหลัง r5(r out put)
ถ้าต่อหลัง เท่ากับนับR outputมันร่วมเป็นส่วนหนึ่งของfeedback loopด้วย
วงจรมันเป็นแบบinvertน่ะ
--------
เป็นหลักการ emitter follower ของแทบทุกตัวที่คุณเสือโพสท์มา
เอามาทำเป็นbuffer ช่วยจ่ายกระแส
เว้นตัวด้านล่างนี้
vvvvvv
---------------
ค่อยเข้าไปอ่านเอา แหะๆ
----------Last edited by ManiacMaew; 14 Apr 2012, 18:38:09.
Comment
-
Originally posted by ManiacMaew View Postฉลาดแหล่ะเพิ่งจะรู้ ว่ามันport เป็น pdfยังไง
วงจรทดลอง
(เวลาไปกัดบอกเขาว่าด้านบัดกรี)
pdf
http://www.tempf.com/getfile.php?id=...=4f87facb3654e
http://www.tempf.com/getfile.php?id=...=4f87facb3654e
ค่อยมาลงคำอธิบายกับค่าอะไหล่
อยากทำเอาไปต่อดักระหวาง ซาวการ์ด กับ lm3875
มีใครเคยลอง KA2904 บางครับ แนวเสียงเป็นไงLast edited by best1147; 14 Apr 2012, 21:24:25.
Comment
-
พูดถึงจานบิน LM317K-TO3 น่าเอามาลองทำเล่น ต่อกับชุด C-moy ก็ได้
http://www.electroschematics.com/668...dio-amplifier/
Last edited by tiger X-fi; 7 Apr 2014, 21:06:45.
Comment
-
ขอคำอธิบายกับค่าอะไหล่ หน่อยครับ
---------
แก้การบ้านไปหลายรอบมาก แล้วก็กลับมาส่ง ช่วยตรวจกันหน่อย
schematic เหนื่อย- -" ค่อยเขียน
เป็นคนทำอะไรตลก วาดpcbก่อนแล้วค่อยเขียนschematic
-อันนี้ยังไม่มีc outputเหมือนเดิม เพราะตัวทดลองใน4coreก็ไม่มีc out putก็ทำงานได้ปรกติ
ตัวheed canamp เองวงจรคล้ายกันก็ไม่มีc output ไม่ค่อยอยากจะใส่ด้วย
-ภาคจ่ายไฟopampแบบzener+tr trใช้2n2907กับ2n2222 ตัวเล็กดี +หาไม่ยากก็ได้ตัวถังเหล็กแล้ว
-ใช้ 2sd882 ทำ buffer (มันเหลือเยอะ จนแจกได้เลย ใครจะทำก็มาเอา จะใช้เบอร์อื่นก็ดัดแปลงเอาให้ขามันตรงกัน)
ทำbias ด้วย Lm337
-เพิ่ม ขนาดheatsinkจากเดิมจะได้bias ได้มากขึ้น แลกมากับfeed back loopที่ยาวขึ้น(ทำใช้เองคงไปบัดกรีที่ขาic)
-เพิ่มc ต่อคร่อม ขาcollectorกับ baseของ 2sd882 ลดอาการ miller
อ้างอิงคุณfatnomore
http://www.bloggang.com/viewdiary.ph...oup=1&gblog=20
ทดลองบน4coreแล้วก็ค่อนข้างได้ผลดี
-C ในชุดRที่ต่อinputลบลงกราวน์ เพื่อที่ไว้ทำbipolar และก็เพื่อที่ไว้สำหรับต่อRลงตรงๆ สำหรับคนไม่อยากใส่cLast edited by ManiacMaew; 15 Apr 2012, 12:21:00.
Comment
-
-
กระแสมันต้องผ่านR spiltter ตัวใดตัวหนึ่งก่อนกลับเข้าขั้ว- ของภาคจ่ายไฟ
ทำให้จำกัดปริมาณกระแส
Rที่ใช้กันก็มักจะค่ามากหน่อย เพราะเปิดไว้ ถ้าโหลดไม่ดึงกระแสRเองก็ยังกินไฟอยู่
http://tangentsoft.net/elec/vgrounds.html
http://nwavguy.blogspot.com/2011/05/...nnel-amps.html
Virtual Ground ? This is the most generic term for any circuit or configuration that creates or synthesizes a ground. It could be just 2 passive resistors as shown in the diagram to the right. Here a single battery is divided by two resistors forming a midpoint that can be used as a virtual ground. This is done in many low cost, low power op amp circuits and can work reasonably well where the maximum currents are less than a few milliamps. The more current you need, the lower the resistor values have to be, and the more power is wasted as heat. It?s ?good enough? for certain applications and widely used.
ในมุมมองของไฟบวก และลบสำหรับdc ผมคิดว่าเป็นแบบนี้น่ะ
---------
แบบtle2426 , discrete buffer หรือ opamp จะต่างกัน
R spillter แค่เป็นจุดเทียบศักย์+ จ่ายกระแส bias ให้tr(trด้านในic) กระแสส่วนใหญ่จะจ่ายผ่านtrด้านในมากกว่า
หรือผมเข้าใจอะไรผิด?Last edited by ManiacMaew; 15 Apr 2012, 14:48:41.
Comment
-
ในประเด็นเรื่อง "ตัวไหนจ่ายกระแสได้มากกว่ากัน" โดยไม่พูดถึงเรื่องอื่น
TLE24260ได้ไม่เกิน80mA ... Rแค่1/8วัตต์ก็ซัพพอร์ทกระแสได้มากกว่า
ขยายความเพิ่ม
- แบต10A > TLE24260 > ไม่เกิน80mA
- แบต10A > Rขนาด1/8วัตต์ ทำVoltage Divider > ได้มากกว่า1,000mA ขึ้นอยู่กับค่าRด้วย (จะให้เกือบ10Aก็ทำได้ง่ายๆเพียงแค่เพิ่มวัตต์ของตัวR)
ถ้าไม่ได้คิดจะใช้แบบพกพา เอาเงินค่าTLE24260ไปจ่ายเป็นค่าหม้อแปลงแบบมีเซนเตอร์แทปเพิ่มดีกว่า
ของแท้ยังงัยก็ดีกว่าของจำลองLast edited by keang; 15 Apr 2012, 15:11:19.
Comment
-
ตัวนั้นพูดในกรณีที่ใช้แบตสำหรับพกพาน่ะ อาจจะพูดไม่เคลียร์เท่าไรด้วย รวบเหลือสั้นๆไป
ที่เห็นทำๆ กันtle2426 มันจ่ายกระแสได้มากกว่า R spillter ในวงจรที่ทำกัน(สำหรับพกพาที่เห็นวงจรตามเน็ตอ่ะน่ะ)
จะทำR spillter ให้มันมากกว่าก็ได้ ลดค่าความต้านทาน เพิ่มค่าทนวัตต์เอา แต่มันมีside effect
กินไฟกว่าแม้ เวลาโหลดจะไม่ดึงไฟก็ตาม ถ้าใช้กับแบต แบตหมดเร็ว เลยไม่ค่อยทำกัน
ค่าความต้านทาน มันจำกัดปริมาณกระแส
อย่างcmoy ใช้R spillter 4.7k ถ้าแบต9v
สมมุติว่าโหลดดึงกระแสเต็มที่เลย Rload=0
เข้าohm lawV=I*R
V=I*(Rspllitter+Rload)
9=I*(4700+0)
I=9/4700ได้ประมาณ0.0019Aหรือ1.9mA
ค่าทนวัตต์ก็คำนวณแล้วใช้ ให้สัมพันธ์กับค่าr แต่ทนวัตต์มากตัวใหญ่ อาจจะยัดลงกล่องพกพาไม่ได้
แบต9volt เคยลองช็อตแล้ววัดค่าดู ก็จ่ายกระแสพรวดหนึ่งได้ไม่กี่ampหรอก ถ้าจำไม่ผิดน่าจะประมาณ4Aได้Last edited by ManiacMaew; 15 Apr 2012, 15:46:45.
Comment
-
Originally posted by ManiacMaew View Postยังไม่ได้เขียนเพิ่มเลย ขี้เกียจวาดschematic แหะ
----------
ถามเพิ่มๆ
ตัววงจรopamp+ emitter follower เราแก้ภาคจ่ายเป็นแบบนี้จะดีกว่ามั้ย
คือC ไฟเลี้ยงตัว TR เราต่อคร่อมไฟ+-ไปเลย
อันนี้คิดว่า ตัวมันไม่ได้ต้องการ ไฟ+-12v ที่บาลานซ์กันแบบopamp ตัวมันเองน่าจะรับรู้ไฟเป็น 24-0
ก็ทำได้นะ แต่ก็ไม่ได้มีผลดีไปกว่า ใช้ C ต่อ +12V->Gnd และ C ต่อ -12V->GND
แต่อาจจะมีผลไม่ดีเกิดขึ้นได้
โดยทั่วไป Tr ไม่ได้สนใจเท่าไหร่หรอกว่ามีโวลท์เท่าไหร่ ต่ออยู่กับมัน
ขอ แค่ Vce ไม่เกินจุด breakdown และมี headroom พอให้สัญญาณสวิงได้โดยไม่คลิปในกรณีใช้ในการขยายสัญญาณ
ยกตัวอย่างจากวงจร caanamp นี้ก็ได้ ถึงไม่ใส่ R ที่เป็น emitter load ก็ยังทำงานได้ถูกต้อง
เพราะส่วนต่อไปที่นำไปใช้ เช่นหูฟังหรือแอมป์ Impedance ของมันก็จะเป็นload ให้ emitter
เพื่อให้ tr จ่ายกระแส trถึงจะทำงาน (turn-on)
ส่วน ผลไม่ดีที่อาจจะเกิดขึ้นได้ คือ เมื่อเอา C คร่อม C-E ของ tr ในจุดนี้ ตามในรูปวงจรที่คุณ วาดมา
จะฟอร์มกันกับ Impedance และ R load เป็น Low-pass filter ก็อาจมีผลทำให้ความถี่สูง Roll-off เร็วกว่าที่ควรจะเป็น
(เสียงสูงหาย) ก็ขึ้นกับค่า C ที่เอามาคร่อมและImpedance ของส่วนถัดไปด้วยครับ
---------------------------------
Originally posted by ManiacMaew View Postอันนี้ผมเอาภาพคนอื่นมา ส่วนสัญญาณนั้นเดิมๆเลยครับไม่ได้แก้
r3(r feedback) ต่อได้ทั้งหน้าและหลัง r5(r out put)
ถ้าต่อหลัง เท่ากับนับR outputมันร่วมเป็นส่วนหนึ่งของfeedback loopด้วย
...
---------------
http://diyaudioprojects.com/Solid/ZCA/sch_ZCA.png
อันนี้ไม่เหมือนพวกข้างบนน่ะ ไม่ใช่buffer คืออะไรไม่รู้
ค่อยเข้าไปอ่านเอา แหะๆ
----------
R5(Output) ต่อหน้าหรือหลัง จะมัผลกับการเลื่อนของเฟส ต่างกันครับ เพียงแค่ R Output ค่าน้อยๆ ผลกระทบก็ไม่มากมายอะไรนักครับ
------------------
วงจรในรูปเป็น วงจรขยายโดยใช้ Mosfet ต่อแบบ Common source ครับ
-------------------------------------
Originally posted by ManiacMaew View Postแก้การบ้านไปหลายรอบมาก แล้วก็กลับมาส่ง ช่วยตรวจกันหน่อย
http://images.temppic.com/15-04-2012...0.84472900.png
schematic เหนื่อย- -" ค่อยเขียน
เป็นคนทำอะไรตลก วาดpcbก่อนแล้วค่อยเขียนschematic
-อันนี้ยังไม่มีc outputเหมือนเดิม เพราะตัวทดลองใน4coreก็ไม่มีc out putก็ทำงานได้ปรกติ
ตัวheed canamp เองวงจรคล้ายกันก็ไม่มีc output ไม่ค่อยอยากจะใส่ด้วย
-ภาคจ่ายไฟopampแบบzener+tr trใช้2n2907กับ2n2222 ตัวเล็กดี +หาไม่ยากก็ได้ตัวถังเหล็กแล้ว
-ใช้ 2sd882 ทำ buffer (มันเหลือเยอะ จนแจกได้เลย ใครจะทำก็มาเอา จะใช้เบอร์อื่นก็ดัดแปลงเอาให้ขามันตรงกัน)
ทำbias ด้วย Lm337
-เพิ่ม ขนาดheatsinkจากเดิมจะได้bias ได้มากขึ้น แลกมากับfeed back loopที่ยาวขึ้น(ทำใช้เองคงไปบัดกรีที่ขาic)
-เพิ่มc ต่อคร่อม ขาcollectorกับ baseของ 2sd882 ลดอาการ miller
อ้างอิงคุณfatnomore
http://www.bloggang.com/viewdiary.ph...oup=1&gblog=20
ทดลองบน4coreแล้วก็ค่อนข้างได้ผลดี
-C ในชุดRที่ต่อinputลบลงกราวน์ เพื่อที่ไว้ทำbipolar และก็เพื่อที่ไว้สำหรับต่อRลงตรงๆ สำหรับคนไม่อยากใส่cสายตาดีจัง ผมถ้าไม่ทำschematic ก่อน แล้วcreate board จาก schematic อีกที
ข้ามไปวาดบอร์ดเลยนี่ ไม่ไหว ตาลาย กลับหัวหลับหาง บน/ล่าง ลากสายไม่ค่อยจะถูก
- C Output ไม่ใช่ของจำเป็นครับสำหรับวงจรนี้ เพียงแต่ว่า ลักษณะของวงจรมันเกิด DC offset ได้ง่าย
ก็เลยบอกให้ ถ้ายังไงก็ลองเตรียมที่ไว้ใส่ เผื่อจัดการกับ DC offset ไม่สำเร็จ
- ดีแล้วครับที่เอา LM337 มาไว้ด้านนอก เพราะอาจต้องใช้ Heatsink ตัวโตกว่านั้นอีก เพื่อให้มันทำงานสเถียรๆ
ส่วน Tr ที่ใช้เป็นbuffer ก็จะร้อนมากนะครับ แต่ Tr ก็ต้องร้อนนิดนึงถึงจะทำงานได้ดี ก็คงต้องลองหา sweet spot
ของอุณหภูมิเอาครับ(คร่าวๆโดยประมาณๆก็เกือบครึ่งของ T junction น่ะ ส่วนใหญ่)
Last edited by dracoV; 15 Apr 2012, 15:53:13.
Comment
Comment