Tweet
สำหรับท่านที่ทดลองฟังแล้ว เห็นว่าไม่ต่าง ผมยอมรับความคิดเห็นของท่านครับ
สำหรับคนที่อ้างทฤษฎี โดยที่ไม่เคยฟัง ผมไม่เชื่อคุณครับ
สำหรับคนที่อ้างทฤษฎี โดยที่ไม่เคยฟัง ผมไม่เชื่อคุณครับ
-
-
ผมก็ไม่ได้ยินเสียงดิจิตอล
ถ้าจะให้ได้ยินเสียง สายสัญญาณก็เข้ามาเกี่ยวข้อง
ส่งสัญญาณเข้า DAC ออก loudspeakers ถึงได้ยินความแตกต่างครับComment
-
แตกต่างหรือว่าไม่แตกต่าง มันมีหลายตัวแปลครับ ถ้าคุณแยก ออกคุณก็จะเข้าใจว่าถ้าเป็นแค่สัญญาณ Digital ย้ำอีกครั้งครับว่าแค่Originally posted by nutsaint View Post
สัญญาณ Digital เท่านั้น "ทฤษฎี ดิจิตอล (01) ไม่มีความแตกต่าง ..ด้านเสียง...ชัวร์หรือมั่วนิ่ม" อันนี้เราก็ต้องคุยเรื่อง Digital ใช่ไหมครับ
ตัดตัวแปรอื่นออกให้หมด ผมถึงบอกมาว่าที่ตอบ ๆ กันมามันมีคำตอบที่ตรงแล้ว แต่ว่าคุยไปคุยมาก็เหมือนกับว่าเอาตัวแปลอื่น เ้ข้ามารวม
แล้วก็บอกว่ามันแตกต่าง ถ้าคุณจะจะคุยเรื่องสัญญาณ คุณก็ต้องตัดตัวแปลอื่นให้หมดให้เหลือแต่สัญญาณเท่านั้นไม่ใช่เหรอ ผมว่าผม
ตอบได้ตรงจุดที่สุดแล้วนะครับ
ผมว่าComment
-
รู้ได้ไงครับ สรุปเอาเอง ถ้าคิดแบบนี้จะให้โหวตทำมะเขืออะไรครับ?Originally posted by nutsaint View PostComment
-
ผมขอถอนคำพูดครับ
ลองคิดดูอีกที มีบางคนซื้อสาย Digital แพง ๆ เพราะเชื่อเพื่อน บางคนเชื่อนักเขียน บางคนเชื่อคนขาย โดยที่ไม่ได้ฟังก่อน
เพราะฉะนั้น ไม่ใช่ 100% แน่ ๆ แต่มั่นใจว่า มากกว่า 90% ได้ทำการทดลองฟัง แล้วเห็นว่าต่าง จึงตัดสินใจซื้อสายเหล่านั้น
แต่ยังยืนยันคำเดิมว่า
กี่ % หล่ะ ของคนที่ไม่เชื่อ โดยอ้างทฤษฎี ที่ได้ทดลองฟังแล้ว รับรู้ว่าไม่แตกต่าง
ปล. ขอแก้เพิ่อคำว่า สาย Digital เพราะเดี๋ยวบางคนจะเอาไปปนกันสาย AnalogLast edited by nutsaint; 7 Apr 2011, 14:51:44.Comment
-
^ ^
ผมจะรอดูว่ากระทู้นี้มันจะมีกี่หน้า
นิปา~
ปล. ท่าน veza หูฟัง มหากาฬล่องหน เหมือนไม่ใส่อะไรเลย จะเอามาชายอีกมั้ยครับ แบบชอบดีไซน์มันอ่ะComment
-
แปลกใจเล็กๆ #1
หลายคนบอกว่า ข้อมูลจากซอร์สที่เป็นแผ่นCDมีแค่0กับ1เท่านั้น รูปแบบการรับข้อมูลจากแผ่นก็มีแต่0กับ1เท่านั้น
ระบบมันฉลาดล้ำเลิศ ขอแค่ให้มันดีเทคเพียงแค่ขอบบนขอบล่างของโลจิค01ได้ มันก็รู้แล้วว่าเป็นโลจิค0หรือ1
( ข้อมูลจะผ่านอะไรบ้างก็ไม่มีความหมาย , จะโดนรบกวนยังงัยก็ไม่มีความหมาย , จะผ่านกี่ขั้นตอนก็ไม่มีความหมาย )
ระบบก็สุดแสนฉลาด มีระบบENCODEข้อมูล01 มีระบบนู่นนี่นั่นเยอะแยะ ทำให้ไม่มีโอกาสเกิดความผิดพลาดขึ้นได้
ถ้าข้อมูล01ผิดพลาด(BIT-ERROR) เพราะ มันดีเทคขอบบนล่างของโลจิค01ไม่ได้ เราจะรับรู้ได้ทันที คือ ไม่มีเสียงหรือเงียบสนิท
ไม่ใช่ว่า พอมันดีเทคไม่ได้ จะกลายเป็นเสียงเพี้ยน จากเสียงผู้หญิงเป็นเสียงผู้ชาย / จากเสียงกีตาร์เป็นเสียงกลอง ซะหน่อย
แล้วเหตุใดไปสนใจ เรื่องJITTER, เรื่องMOTOR, เรื่องBUFFER, เรื่องPLL ฯลฯ ที่มันไม่ได้เกี่ยวกับความสมบูรณ์เพอเฟคของดิจิตอล01
ประเด็นสำคัญ ห้ามลืม
ในแผ่นCD-Audioนั้น ข้อมูลภายในมีการเข้ารหัส(ENCODE)ข้อมูลไว้ด้วย และ ตัวเครื่องอ่านต้องอ่านได้ตรงกับที่ผู้ผลิตใส่มาในแผ่นCDด้วย
ถ้าหากมีการตรวจสอบข้อมูลจริง
การตรวจสอบที่ถูกต้อง จะตรวจสอบเปรียบเทียบข้อมูล01ที่อยู่ในแผ่นCD-Audio กับ ข้อมูล01ที่ส่งออกไปที่แจ็คS/PDIF
แปลกใจเล็กๆ #2
1. CD-RW , DVD-RW ยี่ห้อสู้ไม่ถอย
อ่านแผ่นCD Audio ส่งข้อมูล01 ผ่านช่องRCA Digital Audio ด้วยสายแถม(แปลงหัวเป็นRCA)
2. CD Playerจีน , DVD Playerจีน ยี่ห้อนู๋ไม่รู้
อ่านแผ่นCD Audio ส่งข้อมูล01 ผ่านช่องRCA Digital Audio ด้วยสายแถมหัวRCA
3. CD Transport ยี่ห้อนู๋หัวดี
อ่านแผ่นCD Audio ส่งข้อมูล01 ผ่านช่องRCA Digital Audio ด้วยสายไฮเอนด์
3เครื่องข้างบน ต่อกับ DAC external รับข้อมูล01 ผ่านช่องRCA 16bit 44.1KHz
มีเสียงเพลงปรกติ ไม่สะดุด ไม่มีกึ๊กๆกั๊กๆ
พวกนี้เรียกว่า ได้มาตราฐานหรือเปล่าLast edited by keang; 7 Apr 2011, 15:05:32.Comment
-
jitter มีผลต่อ เสียงที่เป้น output แต่ไม่ไช่ data output
ประเด็นที่ jitter นั้น มีผลแค่เสียง แต่ดาต้า ไม่ม่ามีผลครับ เหมือนใช้สาย usb แบบดี และแบบไม่ดี data ก็มาครบ เพียงแต่ช้าหรือเร็วต่างกันเท่านั้นเองComment
-
ผมว่าทู้นี้ไม่มีประโยชน์ลองแล้วมาบอกมันกว้างไปมันไปโยงถึงประสาทสัมผัสที่มีไม่เท่ากันรวมถึงสภาวะแวดล้อมหลายอย่าง ชุดที่ใช้งานก็ไม่เท่ากันบางคนมีว่าAVRห่วย หรือชุดที่ใช้ไม่ถึงเลยฟังไม่ออก ที่จริงก็ไม่อยากจะทดลองเพราะโดนหาว่าห่วยอยู่แล้วฟังไม่ออกก็ปกติเมื่อวานผมเองได้ลองกับAVR ONKYO 3300โดยได้ยืมสายOpticM1000จากเพื่อนมาเทียบกับสายOpticบ้านๆจากพันทิปเส้นละไม่กี่ร้อยบาทลองทั้งดูหนังฟังเพลงผมยอมรับว่าผมแยกความแตกต่างไม่ออกComment
-
ลองมองแบบมุมกว้างขึ้น แบบที่เราอาจลืมคิดลืมมอง
มีคนบอกว่า เค้าสามารถแยกความแตกต่างได้ คุณชวนเค้าblind test และผลปรากฏว่าเค้าสามารถทำได้ สามารถบอกได้ว่าAหรือB
คุณคิดว่า เพราะ เค้ามั่ว เค้าเก่ง เค้ามีระบบประสาทสัมผัสดีผิดมนุษย์
โดยลืมคิดไปว่า จริงๆแล้วที่เค้าแยกได้นั้น มันเกิดจากสาเหตุอะไร มีความแตกต่างอยู่จริง หรือ เพราะอะไร?
จริงๆการBlind Testเพื่อเอาชนะกัน มันไม่มีประโยชน์อะไรเลย
เพราะ ถึงเค้าคนนั้นจะฟังออกหรือไม่ออก ก็ไม่ได้ช่วยให้คุณซึ่งฟังไม่ออกจะสามารถฟังออกในทันที
บางทีอาจจะเกิดจากพรสวรรค์ของคนนั้น บางทีอาจจะเกิดจากการเรียนรู้การฟัง ความช่างสังเกตุในการฟัง ก็ได้
ถ้าไม่ใช่เรื่องพรสรรค์ส่วนตัว แต่เป้นอย่างอื่น ผมเชื่อว่า เราสามารถเรียนรู้และพัฒนาตัวเราเองได้ ไม่มากก็น้อย
ประโยชน์ที่แท้จริงจะเกิดก็ต่อ ถ้ามีความเป็นไปได้ที่มันมีอยู่จริง และ มีการนำไปขยายผล
เพื่อหากรรมวิธีที่จะเปิดเผยออกมาว่า อะไรคือสาเหตุที่ทำให้เกิดความแตกต่างขึ้น
อาจจะได้เห็นในวันนี้ วันหน้า ปีหน้า 10ปีหน้า 20ปีหน้า 100ปีหน้า ก็ไม่ใช่เรื่องเสียหายใดๆ
การฟังออก การฟังไม่ออก การใช้เครื่องถูก การใช้เครื่องแพง
ไม่ได้เป็นสาระอะไรสักนิด ไม่ใช่เรื่องที่จะนำมาพูดพาดพิงให้เกิดความรู้สึกไม่ดีต่อกัน
ประโยชน์ของกระทู้นี้ ผมว่าผมเห็นน่ะ เห็นจากบางโพส เพราะ ผมได้เห็นคนที่ทดลองพิสูจน์ด้วยตัวเอง
หลังจากที่บางคนได้ลองด้วยตัวเองแล้ว ก็มีทั้ง ฟังออก และ ไม่ออก
กระทู้จะมีประโยชน์มากน้อยแค่ไหน หรือ จะให้เป็นกระทู้ขยะ ก็อยู่ที่คนเข้ามาพูดคุย ต้องการจะผลักดันให้มันไปทางไหนLast edited by keang; 7 Apr 2011, 16:36:20.Comment
-
จริงๆ ผมก็ยอมรับครับ ที่ผมบอกว่าฟังแล้วไม่ต่าง ไม่ได้มีประโยชน์อะไรเลย เพราะไม่ได้ทดลองซ้ำ และไม่ได้ปิดตา จึงขาดไปซึ่งความน่าเชื่อถือ
ไว้มีโอกาส จะลองทำดูครับ แต่ตอนนี้ไม่สะดวก จึงฝากเพื่อนๆ ที่ทำได้ลองดูเล่นๆ ก็ได้ครับ (เอาแค่สายดิจิตัลก็พอครับ) แล้วมาเล่าสู่กันฟังหน่อย เอาแค่สิบหนก็พอ
ไม่ได้ต้องการที่จะเอาชนะกัน ถ้าส่วนใหญ่ฟังแล้วต่างจริง ก็จะได้เดินหน้าต่อไป โดยขบคิดหาเหตุผลว่าทำไมมันถึงต่าง
Comment
-
-
เห็นนอกเรื่องเรื่องBlindtestขอนอกเรื่องด้วย ส่วนตัวผมว่าการBlindtest AB-test มีประโยชน์คับอย่างน้อยก็ได้รู้ว่าสิ่งที่เราสัมผัสเกิดจากอุปทานหรือเราสัมผัสได้จริงและที่ผ่านมาเท่าที่ผมติดตามบทความหลายๆอย่างพอทำการBlindtest AB-Testแล้วจบข่าวทุกทีคับไม่เฉพาะวงการเสียงจะGT200หรือPowerMindCampก็จบข่าวมาชัดเจน ประโยชน์ที่เกิดขึ้นรัฐบาลหูตาสว่างไม่ต้องเสียงบประมาณอีกกี่พันล้านพ่อแม่ผู้ปกครองไม่ต้องเสียเงินส่งลูกไปเรียนวันละ2หมื่นมันมีประโยชน์คับComment
-
แปลกที่โยงเรื่อง GT200 กับ PMC เข้ามาเกี่ยวComment
-
Originally posted by veza View Postต่อไปท่านขายหูฟัง ...ก็บอกลูกค้านะครับOriginally posted by veza View Post
ให้ดูฉลากข้างกล่อง....หรือข้อมูลจากผู้ผลิต
ไม่ต้องลองฟังหรอกหูคนเรา...เชื่อไม่ได้
--------------------------
หลักการนี้...ใช้ไม่ได้
กับคนที่เปลี่ยนสาย USB COAX ฟังแล้วเสียงแตกต่าง
ส่วนคนที่เชื่อในหลักการ หรือฟังแล้วไม่แตกต่าง
ก็จะว่า...คนที่ฟังแล้วแตกต่าง ว่า.....อุปทาน
ไม่มีข้อยุติ...(จะกลายเป็นกระทู้ทะเลาะกันน่ะครับ)
ใครลองมายังไงก็บอกไปอย่างนั้น....จะได้ประโยชน์กว่าครับ
----------------------
ผมว่าข้ามขั้น ทษฤี หลักการ การวิชาการ ไปแล้วนะครับ
เข้าสู่ขั้นทดลอง ใช้งานแล้ว ครับ
-------
ด้านบน อยู่ขั้น ทษฤี หลักการ วิชาการ เชิงเปรียบเทียบ (ได้ข้อสรุปแล้วไม่แตกต่าง)
ด้านล่าง ขั้นตอนใช้งานจริง ของผู้บริโภค เน้นตรงนี้มากกว่าครับ ที่ยังไม่ได้สรุป
ถ้าเป็น หูฟังรุ่นไกล้เคียง แล้วถามว่าเสียงต่างมั๊ยOriginally posted by tiger X-fi View Post
คำตอบก็คือ
ผมฟังไม่ต่างกัน ...ลองหลายรอบแล้ว (อะไรก็ว่ากันไป)
หรือ
เสียงต่างกัน เบสดีกว่า แหลมดีกว่า (อะไรก็ว่ากันไป)
อยากได้อะไรประมาณนี้มากกว่าครับ
พอเป็น ดิจิตอลมีปัญหาทุกที
ระดับผู้บริโภค..ใครมีแบบไหนก็ใช้แบบนั้นทดสอบ
ต่างก็คือต่าง...ประสบการณ์จริง
ไม่ต่างก็คือไม่ต่าง....ประสบการณ์จริง
เรื่องผลลัพย์เดี๋ยวออกมาเองครับ...
อาจจะต้องใช้เวลาหน่อยเท่านั้น...ครับLast edited by tiger X-fi; 7 Apr 2011, 22:51:59.Comment
Comment