โมให้ดีกันเยอะแล้ว มาม๊ะ....มาโมให้"เจ๊ง"กันดีกว่า

[tiger X-fi]

ขอบคุณสำหรับคำแนะนำครับทุกท่าน ผมดูพวกวงจรกับอุปกรณ์ไม่ค่อยเป็นล่ะครับ 555+
กะว่าจะฟังให้ชินหูซักพักก่อนแล้วจะทำอะไรต่อก็ค่อยว่ากัน

เพิ่มรูป op-amp กับ แผงที่อยู่ระหว่างภาคขยาย น่าจะเป็นวงจรป้องกันลำโพง
ผมพยายามดึง op-amp แต่ดูเหมือนจะดึงไม่ออกล่ะครับ 555+


ถ้าอยากลองฟังก็มาฟังที่บ้านได้ครับ หรือถ้าอยากให้ยกไปลองก็บอกได้ครับ
เดี๋ยวผมต้องบวชสิบวัน สะดวกหลังวันที่ 8 เดือนมีนาครับ

ขอบคุณครับ

ถ้าจะโม...มันก็มีเรื่องเรื่องให้ทำไปเรื่อยน่ะครับ
ประหยัดสุด...ทำง่ายสุด ...มีผลต่อเสียงชัดเจน
เปลี่ยนสายอินพุท-เอ้าพุท ในเครื่องครับ
(เปลี่ยนสายอินพุท....ไปติดตรงโวลุ่มอีก)

[ManiacMaew]

lf 356 ผมมีตัวถังเหล็กขาทองอ่ะ เกรด BH (รับไฟได้เยอะกว่า)

ไม่แน่ใจเบิร์นไปกี่ชมแล้ว คิดว่ายังไม่เต็มที่ แต่ไม่ค่อยชอบเลย อาจจะเพราะผมชอบเบสกระชับๆ แข็งๆหน่อย

[nattapong29]

ไม่มีอะไรจะเล่นเลยช่วงนี้พักก่อนครับผมเดี๋ยวปริ้นท์ล่อนหมด ^_^

[firsthand]

ขอบคุณท่าน LoveHifi ครับ ตอนแรกที่ดึง opamp ก็เสียวๆมันจะออกมาไม่ครบทุกขา 55+

ถ้าจะโม...มันก็มีเรื่องเรื่องให้ทำไปเรื่อยน่ะครับ
ประหยัดสุด...ทำง่ายสุด ...มีผลต่อเสียงชัดเจน
เปลี่ยนสายอินพุท-เอ้าพุท ในเครื่องครับ
(เปลี่ยนสายอินพุท....ไปติดตรงโวลุ่มอีก)

โวลุ่มมันเป็นยังไงหรอครับท่านเสือ ควรเปลี่ยนรึเปล่าครับ

[tiger X-fi]

โวลุ่มมันเป็นยังไงหรอครับท่านเสือ ควรเปลี่ยนรึเปล่าครับ

สายตรงดูโวลุ่มมันไม่น่าใช้ ใไส้ในเส้นเล็กนิดเดียว ถ้าเปลี่ยนได้ก็ดีครับ
(โวลุ่มเหมือนจะเปลี่ยนมาใหม่แล้ว)
in-out put ใช้สายอะไรก็ได้ครับ สายลำโพงก็ได้
ไม่มีปัญหาเรื่องความร้อนอยู่แล้วครับ
(ชอบใจเสียงสายตัวไหน...จับมาใส่ได้เลย)
ที่น่าจับเปลี่ยนก่อนเลย...ก็ out put ครับ
ค่อยทำทีละจุดครับ

[z007]

บางส่วนที่เอามาเล่น

[LoveHifi]

ได้เห็นรูปนี้ทำให้นึกขึ้นได้ กราวด์ของวอลลุ่มนี่ก็ทำให้เกิดเสียงจี่ได้ ในรูปเป็นตัวอย่างที่ดีเลยเห็นชัดมากเขาบัคกรีตัวถังวอลลุ่มลงกราวด์แต่ไม่ใช่กราวด์ ที่ภาคจ่ายไฟ แต่เป็นด้าน Input ใครที่มีเสียงจี่ลองต่อตัวถังวอลลุ่มลงกราวด์ Input ดูว่าเงียบลงไหมครับ อย่างพี่ Cleaning เห็นบ่นประจำเรื่องเสียงจี่
1fw07.jpg

[omegathai]

ขอนั่งไล่หลัง อ่านก่อนครับ ช่วนนี้ไม่ได้เล่นเน็ตเลย อิิอิ

ความรู้แน่นจริงๆ กระทู้นี้

[keang]

> D.I.Y.ตอน ต่อแอมป์ 40+40 w. ราคาไม่ถึงพัน หน้า176-180

อันนี้เรื่องมั่วเรื่องไสยศาสตร์อีกแล้ว
( ขอย้ำว่าไสยศาสตร์จริงๆน่ะ ไม่ได้โม้ )


ให้ลองสังเกตุ "ลักษณะแสงไฟของไส้หลอด" ว่าแสงมันเป็นยังงัย แบบไหน

เวลาแก้ไขอะไรในวงจร เวลาเปลี่ยนอะหลั่ยในวงจร ให้ลองสังเกตุ"ลักษณะแสงไฟของไส้หลอด"ควบคู่ไปด้วย
มันสมารถบอกอะไรบางอย่าง เกี่ยวกับลักษณะเสียงได้เหมือนกันน่ะ

คุณjinnไปบ้านเพ่เสือมา แสงไฟของไส้หลอด เครื่องของใครแสงนวลกว่ากัน
ผมดูจากรูปที่โพส ของคุณเสือน่าจะนวลกว่า แต่ไม่ค่อยแน่ใจเท่าไหร่เพราะรูปถ่ายมันหลอกตาง่าย

อันนี้แสงไส้หลอดของคุณjinn


อันนี้แสงไส้หลอดของคุณเสือ

รูปนี้ แสงไฟของไส้หลอดมันนวลถูกใจดี << บอกแล้วพูดจริง ไม่ได้พูดเล่น

เอามาจาก > หน้า176 #3507


อันนี้เป็นประสบการณ์จากเพื่อนสู่เพื่อน
เพื่อนผมพอเค้าเห็นผมเริ่มใช้เครื่องหลอด เค้าก็พูดให้ฟัง พอมีโอกาสผมก็ลองสังเกตุบ้าง มันก็จริงของเค้าน่ะ
หลอดแพงๆ ลักษณะของแสงมันไม่เหมือน หลอดราคาถูก

หม้อแปลงลูกเดียว แยกขดจ่ายไฟทั้งเครื่อง
เวลาที่เปลี่ยนอะหลั่ยในเครื่อง ลักษณะของแสงไส้หลอด มันก็มีเปลี่ยนแปลงตามไปด้วย
แล้วมันให้ผลไปในทิศทางเดียวกัน คือ "แสงที่มีลักษณะนวล" จะให้แนวเสียงต่างจาก "แสงที่มีลักษณะไบร์ท"

พอดีเห็นที่คุณเสือโพสว่าคุณjinnเอาหลอดมาให้ลอง เบอร์เดียวกันด้วย คิดว่าน่าจะเป็นหลอดเดียวกัน
แล้วรูปที่โพส ก็ออกแนวแสงไส้หลอดต่างกันนิดหน่อยด้วย ก็เลยทัก เผื่อจะลองสังเกตุกัน

เรื่องนี้ ผิดถูกผมไม่รู้หรอก เพียงแต่เห็นแล้วอดเล่าเรื่องราวที่เคยทดลองให้ฟังไม่ได้

จะเป็นแบบ "มีหลอดLED" หรือ "ไม่มีหลอดLED"
การต่อทั้ง2แบบนั้น ถ้าเราเอามิเตอร์ ไปวัด"V","A"ที่ขาไส้หลอด
เราจะไม่เห็น"V"กับ"A"ต่างกัน เป็นเพราะ ภาคจ่ายไฟสามารถจ่ายไฟเลี้ยงไส้หลอดได้เกินพออยู่แล้ว

ไสยศาสตร์จริงๆน่ะ ไม่ได้โม้ ....

เห็นพี่โก้ทัก...เลย ลองเอา ไฟส่องใต้หลอด + r1 k ออก

แสงหลอด เปลี่ยนไป เสียงดีขึ้น.....มีรายละเอียด

จากข้อมูลข้างบนนั้น "V"กับ"A"ไม่ต่างกัน แล้วอะไรคือสาเหตุที่ให้เกิดผลต่าง "ลักษณะของแสงไฟ" หรือ "ลักษณะของเสียง"

ผมวาดรูปไม่เก่ง อธิบายเป็นตัวอักษรแทนละกัน คนอ่านก็พยายามแปลงกลับให้เป็นรูปจะได้เข้าใจง่ายขึ้น


คำตอบ แบบ วิทยาศาสตร์เบื้องต้น
เราลองมาทำความเข้าใจของวงจรทั้ง2แบบ ว่ามีอะไรต่างกันบ้าง
1. ปรกติไฟไส้หลอดแบบAC = หม้อแปลง 6.3v > ไส้หลอด
ค่าอิมพิแดนซ์(ค่าความต้านทาน)ของภาคจ่ายไฟทั้งหมด = [ค่าความต้านทานของหม้อแปลง] + [ค่าความต้านทานของไส้หลอด]

2. คุณjinn ต่อไฟLEDส่องใต้หลอดเพิ่ม(เพื่อความสวยงาม) โดยใช้วิธีต่อขนานกับไฟชุดไส้หลอด
ค่าอิมพิแดนซ์(ค่าความต้านทาน)รวมของชุดไฟหลอดLED = [ค่าความต้านทานของR 1K + ค่าความต้านทานของLED]

เมื่อนำทั้ง2ส่วนมาคิดค่าอิมพิแดนซ์ของทั้งระบบไฟไส้หลอด
ค่าอิมพิแดนซ์(ค่าความต้านทาน)ของภาคจ่ายไฟทั้งหมด = [ค่าความต้านทานของหม้อแปลง] + [ค่าความต้านทานของไส้หลอด] + [ค่าความต้านทานของR 1K + ค่าความต้านทานของLED]

เมื่อนำข้อมูลข้างบนมาหาผลลัพท์ จึงได้ข้อสรุปเบื้องต้น ... ค่าความต้านทานของแบบ1.+2. ย่อมต่างกับ แบบ1.อย่างเดียว แน่นอน

ฉะนั้นจึงไม่น่าแปลกใจ ที่คุณjinnบอกว่าปลดไฟLEDออกแล้วมีผล
- ลักษณะของแสงไฟของไส้หลอดเปลี่ยนแปลง
- ลักษณะของเสียงเปลี่ยนแปลง


คำตอบ แบบ ไสยศาสตร์
ผลลัพท์ทาง"V"กับ"A"ไม่ต่างกัน แต่มีผลลัพท์ในทางการตอบสนองต่อความถี่ได้ต่างกัน


หลักการเดียวกันนี้ คำตอบแบบไสยศาสตร์สามารถเอาไปขยายความได้อีกมากมาย เช่น
- ทำไม "หม้อแปลงตัวเดียว มีขดไฟสูงกับขดไส้หลอด" เทียบกับ "หม้อแปลง2ตัว ไฟสูงตัวนึง ไส้หลอดตัวนึง" มีผลต่างทางเสียง
- ทำไม "เปลี่ยนสายไฟACของตัวเครื่อง" มีผลต่างทางเสียง
- ทำไม "จำนวนเครื่องใช้ไฟฟ้าในบ้าน" มีผลต่างทางเสียง
- ทำไม "เครื่องใช้ไฟฟ้าแต่ละประเภทในบ้าน" มีผลต่างทางเสียง

[ManiacMaew]

เราลองมาทำความเข้าใจของวงจรทั้ง2แบบ ว่ามีอะไรต่างกันบ้าง
1. ปรกติไฟไส้หลอดแบบAC = หม้อแปลง 6.3v > ไส้หลอด
ค่าอิมพิแดนซ์(ค่าความต้านทาน)ของภาคจ่ายไฟทั้งหมด = [ค่าความต้านทานของหม้อแปลง] + [ค่าความต้านทานของไส้หลอด]

2. คุณjinn ต่อไฟLEDส่องใต้หลอดเพิ่ม(เพื่อความสวยงาม) โดยใช้วิธีต่อขนานกับไฟชุดไส้หลอด
ค่าอิมพิแดนซ์(ค่าความต้านทาน)รวมของชุดไฟหลอดLED = [ค่าความต้านทานของR 1K + ค่าความต้านทานของLED]

คิดเล่นๆ ถ้าเป็นr ค่าเท่ากันแต่ต่างยี่ห้อล่ะ หรือต่างชนิดล่ะ

[cleaning]

ได้เห็นรูปนี้ทำให้นึกขึ้นได้ กราวด์ของวอลลุ่มนี่ก็ทำให้เกิดเสียงจี่ได้ ในรูปเป็นตัวอย่างที่ดีเลยเห็นชัดมากเขาบัคกรีตัวถังวอลลุ่มลงกราวด์แต่ไม่ใช่กราวด์ ที่ภาคจ่ายไฟ แต่เป็นด้าน Input ใครที่มีเสียงจี่ลองต่อตัวถังวอลลุ่มลงกราวด์ Input ดูว่าเงียบลงไหมครับ อย่างพี่ Cleaning เห็นบ่นประจำเรื่องเสียงจี่
[ATTACH=CONFIG]1606993[/ATTACH]

ของผมมันจี่จริงๆครับมีปัญหาทุกทีครับ โวลุ่มผมก็เคยขูดๆแล้วก็บัดกรีลากสายมาลงที่กล่องก็ บ่ หายจี่ครับ

[LoveHifi]

@ พี่ Jinn พี่ใช้ไฟ AC จุดไส้หลอด แล้วเคยลอง DC ไหมครับ ผมกำลังจะลองแต่ดันซื้อของมาทำไม่ครบเลยเลื่อนไปก่อน
@พี่ keang ถ้าความต้านทานรวมมันทำให้ไฟตกลงไปนิดๆทำให้เสียงต่างกันถ้าเราเอา C 0.1uf คร่อมจะช่วยได้ไหมครับ

ของผมมันจี่จริงๆครับมีปัญหาทุกทีครับ โวลุ่มผมก็เคยขูดๆแล้วก็บัดกรีลากสายมาลงที่กล่องก็ บ่ หายจี่ครับ

ลองต่อเข้า กราวด์ Input ดูยังครับไม่ใช่กราด์กล่อง

[jinn]

@ พี่ Jinn พี่ใช้ไฟ AC จุดไส้หลอด แล้วเคยลอง ทดลอง ไหมครับ

ไม่เคยครับ ...ว่าง เด๋ว...ทดลองให้ครับ แหลบไป เห็นมีไอ้นี่อยู่...

SPT3A ADAPTOR 3A SPECTRUM 6-12V.



ต่อไอ้นี่ น่าจะเล่นหลอดได้ 2 ตระกูลใหญ่ ของ TUBE BUFFER กันไปเลย....

ตระกูล 6.3

ตระกูล 12.6

[keang]

คิดเล่นๆ ถ้าเป็นr ค่าเท่ากันแต่ต่างยี่ห้อล่ะ หรือต่างชนิดล่ะ

น่าสนุก ขอเล่นด้วยคนจิ

RและLEDยังเป็นตัวเดิม
- ถ้าสลับตำแหน่งของRกับLED = ?
- ของเดิมจั๊มไฟจากขาหลอดใต้PCB แต่ถ้าเปลี่ยนไปจั๊มไฟที่ตำแหน่งใกล้ๆตัวหม้อแปลงแทน = ?

RและLEDยังเป็นตัวเดิม + จั๊มไฟที่ขาหลอดใต้PCBในตำแหน่งเดิม
- ชุดไฟไส้หลอดเป็นไฟACมีสายไฟ2เส้นจากหม้อแปลง ถ้าสลับเส้นสายไฟ = ?
- สายไฟของชุดไฟไส้หลอดจากหม้อแปลง > สายไฟเส้นใหม่ > R, LED = ?

RและLED ยังมีเหมือนเดิม แต่เปลี่ยนแปลงบางอย่าง
- ถ้าLEDของเดิมเป็นแบบใช้ไฟ5V เปลี่ยนLEDใหม่เป็นแบบใช้ไฟ1.5Vและเปลี่ยนค่าRใหม่(ให้ดรอปไฟเหลือ1.5V) = ?

ถ้าความต้านทานรวมมันทำให้ไฟตกลงไปนิดๆทำให้เสียงต่างกันถ้าเราเอา C 0.1uf คร่อมจะช่วยได้ไหมครับ

ใส่Cเพิ่มเข้าไป
- ช่วยลดการกระเพื่อมของไฟได้นิดหน่อย
- ช่วยบายพาสสัญญาณรบกวนที่ติดมากับหม้อแปลงได้นิดหน่อย
- ได้เสียงของตัวCเป็นของแถม

ที่ผมพยายามสื่อ ไม่ใช่ผลจากเรื่องเรื่องไฟตกหรือไฟต่างกันเพียงประเด็นเดียว เพราะมันมีผลอย่างอื่นร่วมด้วยช่วยกันครับ

ลองวาดรูปลงกระดาษ น่าจะช่วยให้เห็นอะไรได้ชัดเจนขึ้น
- แทนค่า "สายไฟ, ลายทองแดง, ค่าความต้านทานของหม้อแปลง, ค่าความต้านทานของไส้หลอด" เป็น R ดูครับ
- หม้อแปลง, ไส้หลอด, ลายทองแดงของPCB พวกนี้มีค่าLแฝงในตัวมันด้วย ฉะนั้นเวลาคำนวนค่าความต้านทานรวม ต้องคิดส่วนของLรวมเข้าไปด้วย




สมมุติว่า ถ้าเราลองรวมเรื่องมั่วๆที่ผมบอกไว้ข้างบน น่าจะได้คำตอบมั่วๆแนวนี้ครับ

คำตอบ แบบ ไสยศาสตร์
ผลลัพท์ทาง"V"กับ"A"ไม่ต่างกัน แต่มีผลลัพท์ในทางการตอบสนองต่อความถี่ได้ต่างกัน

หลักการเดียวกันนี้ คำตอบแบบไสยศาสตร์สามารถเอาไปขยายความได้อีกมากมาย เช่น
- ทำไม "หม้อแปลงตัวเดียว มีขดไฟสูงกับขดไส้หลอด" เทียบกับ "หม้อแปลง2ตัว ไฟสูงตัวนึง ไส้หลอดตัวนึง" มีผลต่างทางเสียง
- ทำไม "เปลี่ยนสายไฟACของตัวเครื่อง" มีผลต่างทางเสียง
- ทำไม "จำนวนเครื่องใช้ไฟฟ้าในบ้าน" มีผลต่างทางเสียง
- ทำไม "เครื่องใช้ไฟฟ้าแต่ละประเภทในบ้าน" มีผลต่างทางเสียง

[LoveHifi]

ขอบคุณครับพี่ jinn พี่ keang
ผมก็ว่าจะต่อไฟให้มันดูมีแสงสีหน่อย เลยสั่งหม้อแปลง 0-12 มาเผื่อไว้อีกขด 12 v นี่ใช้งานได้จิปาถะมากเลย