โมให้ดีกันเยอะแล้ว มาม๊ะ....มาโมให้"เจ๊ง"กันดีกว่า

[ManiacMaew]

es เป็นแบบ bp คือไม่มีขั้ว เห็นคนขายโม้ว่าจะเสียงจะใสและให้ความรู้สึกกว้างกว่า แบบมีขั้ว
จริงเท็จไม่ทราบยังไม่ได้ลอง
kz ก็ว่าจะลองแล้ว แต่ ขามันใหญ่ยัดไม่ลง เลยอด ดูรูเดิมของมันด้วยน่ะครับว่าใส่ลงหรือเปล่า

[b_amnart]

Nichicon Muse KZ
Nichicon Muse ES
ถ้าต้องการเบสเพิ่มขึ้น 2ตัวข้างบนไม่ไช่ตัวเลือกที่ดีแน่นอนครับ
ส่วนOpamp ถ้าชอบ NE5532จริงๆ หาเบอร์ NE5532DD หรือ NE5532AP มาลองครับ
แต่ถ้าต้องการอะไรที่มากกว่า NE5532 ก็ลองเบอร์ BB OPA2132P ครับ

ขอบคุณสำหรับคำแนะนำ
เบอร์ที่ท่านแนะนำผมหาแบบ soic ไม่ได้นะครับ เพราะตอนนี้ติดปัญหาว่าหาซื้อ
soic to dip8 Adapter ไม่ได้ครับ
แล้วเบอร์นี้ดีไหม opa2132ua

[Wizardmans]

ขอบคุณสำหรับคำแนะนำ
เบอร์ที่ท่านแนะนำผมหาแบบ soic ไม่ได้นะครับ เพราะตอนนี้ติดปัญหาว่าหาซื้อ
soic to dip8 Adapter ไม่ได้ครับ
แล้วเบอร์นี้ดีไหม opa2132ua

OPA2132U กับ OPA2132UA
ตัว OPA2132U จะเป็นเกรดที่สูงกว่าครับ
ตัว OPA2132UA เสียงจะขุ่นกว่า

[keang]

es เป็นแบบ bp คือไม่มีขั้ว

ขอเสริมรายละเอียดนิดนึง จะได้เข้าใจไม่คลาดเคลื่อน
NP = Non-Polar อันนี้คือ ไม่มีขั้วของจริง
BP = Bi-Polar จริงๆแล้วยังถือว่ามีชั้ว แต่สามารถใส่สลับขากันได้

Cมีขั้วหรือไม่มีขั้ว สังเกตุง่ายๆครับ สังเกตุได้ ความยาวของขาทั้ง2ขา
- แบบไม่มีขั้ว ขาทั้ง2จะ ยาวเท่ากัน
- แบบมีขั้ว ขาทั้ง2จะ ยาวไม่เท่ากัน (ขาที่ยาวกว่าจะหมายถึงขาบวก หรือ รับสัญญาณเข้า)

เห็นคนขายโม้ว่าจะเสียงจะใสและให้ความรู้สึกกว้างกว่า แบบมีขั้ว
จริงเท็จไม่ทราบยังไม่ได้ลอง

ขอไม่บอกรายละเอียดน่ะครับ อยากให้ทดลองฟังเปรียบเทียบกันดู จะได้รู้ความแตกต่างด้วยตัวเอง
ลองดูครับ ตัวนึงไม่กี่ตังค์ เงิน10บาทก็ได้ลองแล้ว
(ใครบอกก็สู้ลองด้วยตัวเองไม่ได้ครับ)


----------------------------------------------

ถามเรื่องคาปาอีกหน่อยครับเท่าที่หาดูจะมีขายอยู่ 2 รุ่นนี้ครับ
Nichicon Muse KZ
Nichicon Muse ES
ตัวไหนดีกว่ากันแนวเสียงเหมือนกันไหมครับ

แนะนำยี่ห้อROE (Roederstein) (Krellรุ่นเก่าๆ จะใช้รุ่นนี้ในส่วนของวงจรที่ไฟไม่สูง)

ตัวและขาจะใหญ่กว่าปรกติหน่อย แต่ไม่ใช่ปัญหา เพราะบัดกรีบนลายทองแดงแทนของเดิมอยู่แล้ว
(การ์ดของคุณเป็นแบบSMD ฉะนั้นไม่มีปัญหาเรื่องขนาดของรูใส่ขาอะหลั่ย)
อาจจะเปลี่ยนได้ไม่ครบทุกแชนแนล เราก็เปลี่ยนเฉพาะที่สำคัญๆ เช่น คู่หน้า

ร้านนัฐพงษ์ ที่บ้านหม้อมีขาย ทั้งแบบมีขั้วและแบบBP ราคาไม่แพงด้วย
ใครคิดจะใช้ก็ซื้อเก็บๆไว้ได้ เพราะของหมดเมื่อไหร่ ก็คือหมดเลย ไม่มีการสั่งเข้ามาอีก

เวปนัฐพงษ์
ที่ช่อง "Search" ใส่คำว่า "ROE" แล้วกดปุ่ม "Search" รอสักครู่ก็มีลิสท์รายการสินค้าที่มีขายครับ
- ถูกสุด 3.50บาท
- แพงสุด 16บาท

[b_amnart]

แนะนำยี่ห้อROE (Roederstein)[/B] (Krellรุ่นเก่าๆ จะใช้รุ่นนี้ในส่วนของวงจรที่ไฟไม่สูง)

ตัวและขาจะใหญ่กว่าปรกติหน่อย แต่ไม่ใช่ปัญหา เพราะบัดกรีบนลายทองแดงแทนของเดิมอยู่แล้ว
(การ์ดของคุณเป็นแบบSMD ฉะนั้นไม่มีปัญหาเรื่องขนาดของรูใส่ขาอะหลั่ย)
อาจจะเปลี่ยนได้ไม่ครบทุกแชนแนล เราก็เปลี่ยนเฉพาะที่สำคัญๆ เช่น คู่หน้า

ร้านนัฐพงษ์ ที่บ้านหม้อมีขาย ทั้งแบบมีขั้วและแบบBP ราคาไม่แพงด้วย
ใครคิดจะใช้ก็ซื้อเก็บๆไว้ได้ เพราะของหมดเมื่อไหร่ ก็คือหมดเลย ไม่มีการสั่งเข้ามาอีก

เวปนัฐพงษ์
ที่ช่อง "Search" ใส่คำว่า "ROE" แล้วกดปุ่ม "Search" รอสักครู่ก็มีลิสท์รายการสินค้าที่มีขายครับ
- ถูกสุด 3.50บาท
- แพงสุด 16บาท

ขอบคุณมากสำหรับคำแนะนำนะครับ

[ManiacMaew]

OPA2132U กับ OPA2132UA
ตัว OPA2132U จะเป็นเกรดที่สูงกว่าครับ
ตัว OPA2132UA เสียงจะขุ่นกว่า

opa ของ bb นี้ รุ่นที่ มีa คือตัวต่ำกว่าปกติใช่มั้ยครับ
เห็น เป็นทั้ง 627 637 827

[keang]

จะเบอร์สูงเบอร์ต่ำ แต่ละเบอร์เสียงไม่เหมือนกันครับ ต้องหาเบอร์ที่เข้ากับชุดของเราให้เสียงโดยรวมลงตัว
ของแพงใช่ว่าจะดีกว่าของถูกเสมอไป

--------------------------------------



ใครสนใจเรื่องโมดิฟาย Creative Sound Blaster X-Fi ELITE ติดตามได้ที่
Creative X-Fi ELITE ... " โมดิฟายแบบขำขำ "
>> มาเปลี่ยน opamp ให้ X-Fi Xtreme music กันเถอะ - หน้า54 โพส1073
>> โมให้ดีกันเยอะแล้ว มาม๊ะ....มาโมให้เจ๊งกันดีกว่า - หน้า20 โพส389

[ManiacMaew]

ผมหมายถึงเบอร์เดียวกัน แต่ต่อท้ายต่างกันอ่ะครับ
เห็น พวก 627 กับ 637 อ่านจาก data sheet มัน
ถ้าต่อท้ายด้วย เช่น ap au am จะเป็นอีกเกรด ค่า
bp bm ก็จะอีกเกรด sm ก็อีกเกรด(สงสัยย่อมาจากsadismมั้ง ราคามันหลุดไปไกลโขเลย)
ตัว p ด้านหลัง บอกว่าเป็น dip8 ตัว u เป็น soic8 ตัวm เป็น metal can
ไปพลิกดูdata sheet 827 ก็จะเป็น 827 กับ827a (แต่บางทีเรียกกัน827I กับ827AI)
อันที่เป็น a ก็จะเขียนไว้แค่ standard ไม่มีa เป็น high grade
เลยเดาว่า ยี่ห้อนี้มักจะlabel a เพื่อแยกเกรดเอา
เสียงที่ได้ต่างกันรึเปล่าไม่รู้ เพราะที่มีในมือตอนนี้ คนละเบอร์กันหมดเลย

ตอนนี้มีโครงการ ว่าโม dac z2 แต่คงไม่ทำเองแล้ว มือไม่นิ่ง เข็ด หาช่างให้ได้ก่อน
รูปของเดิม เอามากจากกระทู้ขายของคุณ cefinos

เนื่องจากซื้อมือ2 ก็คือเบิรน์มาแล้ว ใส่ op amp เบอร์ ปริศนาตัวเดิมจากคุณ I-sai
อันนี้ก็เคยเบิร์นมาตอนอยู่กับ 2zsแล้ว
แต่ใช้ตอนแรก แล้ว เสียง ออกมาหยาบกระด้างมาก เสียงกลางพุ่งมาก เบสเยอะเกิน
(ผิดวิสัย opampตัวนี้มาก ที่ต้องลองกับopampตัวนี้เพราะผมคุ้นเสียงแล้ว จะได้รู้ว่าที่เปลี่ยนไป
ไม่ใช่เพราะopamp)
เช็คไป เช็คมา เป็นที่สายนี้เอง ซื้อของใหม่ห่วยๆมา75 บาท
เบิร์นไปยันค่ำ เสียงออกมาโอเคขึ้น ได้แนว เดิมๆ opamp คือกว้างมาก ทั้งซ้ายขวา ด้านลึก บนสูง
แต่เสียงจะไม่สด ไม่พุ่งเท่าไร เบสบาง


เช็คกับหูฟังอีกที ลองกับ cd burn นั่งดูกราฟ เอาด้วย เวลา เสียงลงต่ำยังไปได้ไม่สุดที่ต่ำมากๆหาย
ที่สูงมากๆ ก็หาย รายละเอียด เวลากราฟ ขึ้นมานิดๆ ก็หาย

แต่บอกไว้ก่อนว่า ต่อหูฟังจากแจ็คหูฟังของลำโพงsony srs db211 ซึ่งเคยลองแล้วว่าเสียงมันจะlost เยอะมาก


เพราะผมเป็นคนที่เน้นใช้หูฟังมากกว่าลำโพง
ตอนนี้ที่ต้องแก้ก่อนเลย คือเปลี่ยนสายหูฟัง ให้มาต่อตรงกับdac ได้ก่อน
(เดาอย่างมั่วๆ ว่าน่าจะขับไว้ เพราะ 32ohmเอง ต่อกับซาวน์ออนบอร์ดยังดังเลย)
ถ้าไม่รอดออาจะอาจจะต้องหา headamp มาคั่น แต่ไม่ค่อยอยากทำ มันอาจจะเสียบุคลิกเสียของ
dac +ที่นี้จะไปงงอีกว่าจะแก้ที่ headamp หรือdacดี

2คือสายต่อลำโพง ตอนแรก ที่ใช้สาย ห่วยๆ เพื่อเอามาเช็คไปก่อนว่าdac มือ2 ที่ได้มา
เสียงมันออกมั้ย มีปัญหามั้ยแก้ขัดไปก่อน
เคยลองสาย mini 0.75m 75บาท กับ mini 1.5m 100บาทแล้ว เสียงที่ได้ยังต่างกันเลย
ขนาดตัวถูกกว่านั้นมันสั้นกว่าแล้ว ยัง lost เยอะกว่าเลย

แก้2จุดนี้ได้ค่อยเช็คเสียงอีกที

ลองเช็ควงจรดูก่อนคั่นเวลา c สามตัวทองดำสมตรงที่ติดกับแจ็คadaptorไฟเข้า คือ cก่อนเข้าic regulator
2ตัว 5v กับ 3.3v
(จริงๆ ผมแน่ใจแค่2ตัวคือ nichicon fw ค่า 220uf/25v กับ 22uf/25v ส่วนตัวใหญ่สุด220uf/50vไม่แน่ใจมันเบียดกันดูลายไม่ออก)
cถัดมาอีก2ตัวเป็น oscon sanyo เป็นขาออกของ regulator 2ตัว ค่า33/16

ส่วนตัวตอนนี้วางแผนว่าจะเปลี่ยนเป็น nippon หรือspargue อะไรเทือกนั้น เพราะ ที่เคยลองกับ2zs
ไฟขาเข้า-ออก ic regulator ทั้งหมดเป็น nippon ใส่แล้ว เบสมากขึ้น กระชับขึ้น
(เห็นอีกท่าน ที่ใช้ sb400 คล้ายๆ2zs แต่เลย์เอาท์ต่างกันนิดหน่อย ใช้fwทีregulator แล้วบอกเบสหาย)

อาจจะใช้ vต่ำกว่าเดิม เพราะเห็นเข้ามาก็แค่12v(ใช้adaptor 12v1A) ออกไปก็แต่5กับ3.3v
เพราะถ้าใช้ค่าเดิม มันอาจจะใหญ่เกินใส่ไม่ลงก็ได้ nipponมันตัวใหญ่กว่า nichichon fw อยู่แล้ว
(ถ้าไปอ่านdatasheet จะเจอว่า รุ่น fw เป็น miniature size มันเลยเล้กกว่า
และเล้กกว่ารุ่นใหญ่ของมันคือ KZด้วย)


cม่วงๆ 2ตัวที่ติดกับ opamp น่าจะเป็นขาเข้า opamp เดาอีกแล้ว
(เพราะ เช็คแล้วไม่ใช่ขาออกแน่ๆ มันเบียดกันไปหมดดูยาก ถอดเองไม่ได้ก็เป็นยังงี้แหล่ะ)
เป็น oscon sanyo 33/16 อาจจะเปลี่ยนตรงนี้เป็น nippon หรือ sprague เหมือนแบบบน
ค่า47-100 ดูก่อนไม่แน่ใจ

ส่วน c wima กล่องเหลี่ยมแดงๆ ยังไม่อยากยุ่งกับมัน ไม่ได้ทำการบ้านมา
ไม่รู้ว่า มันเป็นc ประเภทไหน บุคลิกยังไง เปลี่ยนไปแล้ว อาจจะ เสีย บุคลิกเดิมไปเยอะก็ได้

ถ้างบเหลืออีกอาจจะเปลี่ยนoutput rca เป็นหัวทอง ไม่รู้จะหาแบบที่ใส่เข้าด้วยกันได้รึเปล่า

นั่งเทียนวิเคราะห์ได้แค่นี้ ต้องลองของจริงอีกไม่รู้จะได้อย่างที่คิดหรือเปล่า
ใครมีอะไรแนะนำ ด้วยก็ดีครับ ประสบการณ์ไม่มี ไม่อยากจะแก้บ่อยๆ ด้วย
เปลืองเงินค่าช่าง

[keang]

นี่ละครับ คือสิ่งที่ผมแอบหวังไว้ สำหรับการเข้ามาพูดคุยในกระทู้ฮาดม๊อด

ส่วนใหญ่เข้ามาเพื่อหาสิ่งที่ต้องการแล้วก็จากไป เดือดร้อนหรือต้องการความช่วยเหลือก็กลับมาใหม่
บางครั้งทำเสร็จก็ลืมกลับมาเล่าหรือบรรยายความรู้สึกให้คนอื่นรับรู้ จะได้ไม่ต้องลองผิดลองถูก ไม่ต้องเสียเวลาลองกับสิ่งที่ไม่ใช่ตัวเรา

ได้ความรู้จากกระทู้ บางครั้งก็เอาไปใช้ส่วนตัว หลายคนก็เอาไปเผยแพร่ต่อ บางครั้งก็เอาไปทำมาหากิน
แต่ไม่ใช่ประเด็นสำคัญ เพราะคนเผยแพร่ทุกคนไม่ได้หวงความรู้ แต่เพราะเค้าอยากบอกอยากให้รู้ถึงมาบอกกัน

บางครั้งเอาไปทำมาหากิน เครดิตเล็กๆกลับมาหาที่กระทู้ ยังมีน้อยมากๆถึงไม่มีเลย
เครดิตที่พูดถึง หมายถึง เครดิตให้กระทู้ที่เป็นต้นแบบหรือแนวคิด

เครดิตไม่ใช่คนตั้งกระทู้หรือคนใดคนหนึ่ง เพราะ ทุกคนที่เข้ามาร่วมแลกเปลี่ยนข้อมูลกัน คือ เจ้าของกระทู้ร่วมกัน

ทั้งหมดก็เพื่อให้คนเห็นคนรู้และคนเข้าใจในฮาดแวร์มากขึ้น เพราะ เมื่อมีการแลกเปลี่ยนข้อมูลกันมากขึ้น การต่อยอดก็จะมีต่อไปเรื่อยๆไม่รู้จบ

------------------------------------------

ผมหมายถึงเบอร์เดียวกัน แต่ต่อท้ายต่างกันอ่ะครับ
เห็น พวก 627 กับ 637 อ่านจาก data sheet มัน
ถ้าต่อท้ายด้วย เช่น ap au am จะเป็นอีกเกรด ค่า
bp bm ก็จะอีกเกรด sm ก็อีกเกรด(สงสัยย่อมาจากsadismมั้ง ราคามันหลุดไปไกลโขเลย)
ตัว p ด้านหลัง บอกว่าเป็น dip8 ตัว u เป็น soic8 ตัวm เป็น metal can
ไปพลิกดูdata sheet 827 ก็จะเป็น 827 กับ827a (แต่บางทีเรียกกัน827I กับ827AI)
อันที่เป็น a ก็จะเขียนไว้แค่ standard ไม่มีa เป็น high grade
เลยเดาว่า ยี่ห้อนี้มักจะlabel a เพื่อแยกเกรดเอา
เสียงที่ได้ต่างกันรึเปล่าไม่รู้ เพราะที่มีในมือตอนนี้ คนละเบอร์กันหมดเลย

ผู้ผลิตจะมีการปรับปรุงอัพเดทสินค้าของตนอยู่ตลอด โดยสินค้าที่มีการอัพเดทใหม่จะมีการใส่รหัสต่อท้ายเพิ่มเข้าไป

ยกตัวอย่าง เบอร์ OPA827P, OPA827U (P=DIP) (U=SOIC)
ครั้งแรกที่ผลิต ก็จะมีเพียงเบอร์ล้วนๆเท่านั้น OPA827P, OPA827U
เมื่อเวลาผ่านไป มีการปรับปรุงประสิทธิภาพหรือแก้ไขข้อบกพร่องเดิม ก็จะมีการใส่รหัสต่อท้ายเบอร์ เพื่อให้ผู้ใช้เบอร์นั้นรับรู้ว่ามีการปรับปรุงใหม่

โดยรหัสต่อท้ายที่เพิ่มเข้าไป โดยปรกติจะเริ่มจากอักษรหรือเลขตัวแรก เช่น "A"หรือ"1"
จะกลายเป็น OPA827PA หรือ OPA827P1 / OPA827UA หรือ OPA827U1

ถ้าหลังจากนั้นมีการปรับปรุงอีก ก็อาจจะใส่รหัสต่อท้ายอีก เช่น "B"หรือ"2"
จะกลายเป็น OPA827PB หรือ OPA827P2 / OPA827UB หรือ OPA827U2


-----------------------------------------------


รูปแบบตัวถังของตัวอะหลั่ย
พื้นฐานของอะหลั่ยทั้งหมด จะเริ่มจากตัวพลาสติค(Plastic) สูงขึ้นมาก็จะเป็นเซรามิค(Ceramic) สูงสุดก็จะเป็นตัวเหล็ก(Metal Can)
แต่จะมีบางเบอร์เริ่มต้นด้วยตัวเหล็กเลยก็มี (ไม่ผลิตในแบบพลาสติคหรือเซรามิค)

แบบเซรามิค และ แบบตัวเหล็ก
ผู้ผลิตมักจะแนะนำให้ใช้สำหรับเครื่องมือที่ต้องการความเที่ยงตรงสูง และงานทางการทหาร
บางเบอร์อาจจะผลิตสูงสุดเพียงแบบเซรามิค บางเบอร์อาจจะผลิตสูงสุดถึงแบบตัวเหล็ก

หลักการคร่าวๆในการคัดเลือกแบ่งเกรด
--- ในขั้นตอนการผลิตไม่สามารถควบคุมทุกอย่างได้100% จึงมีโอกาสได้ ของเสีย ของดี ของดีมาก อยู่รวมกัน ---
ขั้นแรกจะผลิตลงในแผ่นเวเฟอก่อน หลังจากนั้นจะผ่านขบวนการQC เพื่อตรวจสอบประสิทธิภาพเบื้องต้น ดีหรือเสีย
ซึ่งในการตรวจสอบครั้งนี้ จะมีการแยกประสิทธิภาพของอะหลั่ยด้วย เช่น ไม่ถึงมาตราฐาน ได้มาตราฐาน สูงกว่ามาตราฐาน ปะปนกันไป
- ไม่ถึงมาตราฐาน ก็ทำลายทิ้งไป
- ได้มาตราฐาน ก็ส่งต่อเข้ากระบวนการใส่ขาอะหลั่ยเข้ากับเวเฟอ
- สูงกว่ามาตราฐาน ก็ส่งต่อเข้ากระบวนการใส่ขาอะหลั่ยเข้ากับเวเฟอ

ซึ่งในขั้นตอนการใส่ขาอะหลั่ยนี้ จะมีการเลือกว่า ประสิทธิภาพแบบไหนใส่ขาธรรมดา ประสิทธิภาพแบบไหนใส่ขาทอง
- ประสิทธิภาพมาตราฐาน ใส่ขาธรรมดา
- ประสิทธิภาพสูง ใส่ขาธรรมดา และ ใส่ขาทอง
- ประสิทธิภาพสูงสุด ใส่ขาทอง

หลังจากนั้นส่งต่อไปที่กระบวนการใส่แพคเกจ (พลาสติค, เซรามิค, ตัวเหล็ก)
- ประสิทธิภาพมาตราฐาน ใส่แพคเกจแบบ พลาสติค
- ประสิทธิภาพสูง ใส่แพคเกจแบบ พลาสติค หรือ เซรามิค หรือ ตัวเหล็ก
- ประสิทธิภาพสูงสุด ใส่แพคเกจแบบ เซรามิค หรือ ตัวเหล็ก

หลังจากนั้น จะมีการแยกไลน์เป็น2ส่วน เพื่อเข้าสู่กระบวนการพิมพ์เบอร์ที่ตัวอะหลั่ย
- ไลน์1 กลุ่มประสิทธิภาพมาตราฐาน (พลาสติค) และ ประสิทธิภาพสูง (พลาสติค หรือ เซรามิค) ใช้เลเซอร์ยิงเบอร์ หรือ พิมพ์เบอร์
- ไลน์2 ประสิทธิภาพสูงสุด (เซรามิค หรือ ตัวเหล็ก) ส่งไปคัดสเปค เพื่อพิมพ์โค๊ดรหัสเกรดพิเศษ

หลังจากนั้น อะหลั่ยในไลน์2ส่งต่อให้QCกลุ่มสุดท้ายเพื่อตรวจสอบประสิทธิภาพขั้นสุดท้ายอย่างละเอียด
ตรวจสอบเพื่อคัดเลือกและรวบรวมจำนวนอะหลั่ยสำหรับรหัสพิเศษ เมื่อรวบรวมได้จำนวนมากพอก็จะจำหน่ายออกสู่ตลาด

ยกตัวอย่าง ค่ายBurr-Brown ตัวสูงสุดจะเป็นตัวเหล็ก (Metal Can TO-39, TO-99) รหัสจะมีหลายรหัสมาก AM, AU, BM, SM
โดยทุกรหัสจะจัดเป็นกลุ่มอะหลั่ยสำหรับกิจการทหาร แต่จะมีการใส่รหัสต่อท้ายเพื่อแยกให้ผู้ใช้รู้ว่า เป็นเกรดพิเศษระดับไหน


แบบเซรามิค จะมีแบ่งออกเป็นแบบ เซรามิคขาทอง, เซรามิคตัวทองขาทอง
แบบตัวเหล็ก จะมีแบ่งออกเป็นแบบ ตัวเหล็กติ่งทอง, ตัวเหล็กขาทอง, ตัวเหล็กติ่งทอง+ขาทอง, ทองทั้งตัว = ตัวเหล็กทอง+ติ่งทอง+ขาทอง

พวกอะหลั่ยที่เห็นเป็นขาทอง ตัวทอง หรือ ตัวเซรามิค(CU) หรือ ตัวเหล็ก(TO-39, TO99) พวกนี้เค้าจะคัดจากเวเฟอของตัวอะหลั่ย
ตัวไหนทดสอบแล้วประสิทธิภาพได้สูงกว่ามาตราฐาน ก็จะคัดไปเป็นรหัสพิเศษ รุ่นพิเศษ ราคาก็อัพไปเรื่อยๆ

ถ้าเปรียบเทียบกับชิ้นส่วนของคอม จะเหมือนกับCPU RAM หรือ การ์ดจอ
CPU ตัวไหนรันได้ความเร็วสูงกว่าปรกติ ก็คัดออกมา แล้วก็รอให้จำนวนมากพอ ก็ออกเป็นตัวExtreme
RAM ตัวไหนรันได้ความเร็วสูงกว่าปรกติ ก็คัดออกมา แล้วก็รอให้จำนวนมากพอ ก็ออกเป็นตัวบัสสูงกว่าปรกติ
GPU ตัวไหนรันได้ความเร็วสูงกว่าปรกติ ก็คัดออกมา แล้วก็รอให้จำนวนมากพอ ก็ออกเป็น รุ่นUltra

[b_amnart]

มีใครพอจะทราบบ้างครับว่า solid capa ที่ใช้ใน asus xonar dx เป็นของยี่ห้ออะไรครับ
ขอบคุณครับ

[keang]

ตอนนี้มีโครงการ ว่าโม dac z2 แต่คงไม่ทำเองแล้ว มือไม่นิ่ง เข็ด หาช่างให้ได้ก่อน
รูปของเดิม เอามากจากกระทู้ขายของคุณ cefinos

ซื้อมือ2ต่อจากคนอื่นอีกที ผมเชื่อว่าถึงจะไม่ได้ซื้อจากผู้ผลิตโดยตรง แต่ถ้าหากมีปัญหาในตัวสินค้า ผมเชื่อว่าผู้ผลิตไม่ทิ้งลูกค้าแน่นอน

สินค้าแต่ละรุ่น จะมีข้อกำหนดเรื่องราคาเป็นตัวแปรใหญ่
บางครั้งผู้ผลิตอยากใส่ของดีๆในทุกจุดเลยด้วยซ้ำ แต่ติดเรื่องราคานี่แหล่ะ ทำให้ต้องเลือกเงื่อนไขที่ดีที่สุดในวงเงินที่กลุ่มลูกค้ายอมรับได้

ผมเชื่อว่าผู้ผลิตรู้ช่องทางการปรับปรุง ไม่ว่าจะเรื่องวงจร เรื่องอะหลั่ยในจุดต่างๆ ดีอยู่แล้ว
หากมีคนไปปรึกษาหรือขอคำแนะนำ ผมว่า เค้ายินดีให้คำแนะนำเต็มที่ เพราะผู้ผลิตทุกรายย่อมต้องการให้ลูกค้าพึงพอใจในสินค้าให้มากที่สุดอยู่แล้ว

ยังงัยก็อย่าลืมขอคำแนะนำจากผู้ผลิตด้วยละครับ


--------------------------------------------


- ตัวเก็บประจุ Sanyo OS-CON 2ตัวที่อยู่ข้างออปแอมป์
น่าจะเป็นCฟิลเตอร์ไฟเลี้ยงออปแอมป์
ลองเช็คอีกที ตัวนึงต่อกับขา4 อีกตัวต่ออยู่กับขา8 รึเปล่า หรือว่าต่อกับขาไร

ลอง nippon ดูก็ได้ ค่า10-47ไมโครก็พอ เพราะอยู่ติดกับตัวไอซีอยู่แล้ว

sprague
เลิกผลิตไปจะ20ปีแล้ว ถ้าหาได้ก็ดี เพราะ ในซีรี่ย์เดียวกับnippon เสียงจะมีใหญ่กว่าแบบรับรู้ได้

nichicon
เค้าไม่เน้นเบสอยู่แล้ว เสียงโดยรวมจะบาง เด่นที่กลาง แต่บางรุ่นก็เด่นมากไปหน่อย เหมาะสำหรับใส่ในส่วนของคัปปลิ้งสัญญาณมากกว่าฟิลเตอร์ไฟ
ถ้าจะใส่ที่วงจรไฟเลี้ยง ใช้รุ่นKZ จะเหมาะกว่ารุ่นอื่น

wima
เป็นCชนิดฟิลม์ที่ดียี่ห้อนึง มีใช้กันแพร่หลาย คุ้มราคาค่าตัว


----------------------------------------------------------

มีใครพอจะทราบบ้างครับว่า solid capa ที่ใช้ใน asus xonar dx เป็นของยี่ห้ออะไรครับ
ขอบคุณครับ

ตัวเก็บประจุแบบSMD ถ้าไม่มีโลโก้หรือยี่ห้อพิมพ์บอกไว้ที่ตัว จะเดายากครับ
ต้องคนที่คุ้นเคยกับSMDของยี่ห้อนั้นจริงๆ ถึงจะดูออกว่า "หมึกพิมพ์เฉดสีแบบนี้, โค๊ดรุ่นรหัสนี้, รูปแบบตัวอักษรที่ใช้พิมพ์" เป็นของยี่ห้อไร

แต่ผู้ผลิตบางยี่ห้อ ก็จะพิมพ์ยี่ห้อหรือโลก้ติดไว้ที่แผ่นพลาสติคที่อยู่ใต้ตัวC ต้องแงะออกมาดูถึงจะเห็น แต่ก็ไม่ใช่ทุกยี่ห้อที่ทำแบบนี้

คุณb_amnart ลองตรวจเช็คดู C11, C13, C10, C12 ต่อกับขาไรของไอซีออปแอมป์
- ตัวไหนที่ต่อกับขา1และขา7 เปลี่ยนเฉพาะCคู่นี้คู่เดียวก็ได้
- ตัวไหนต่อกับขา4และขา8 เปลี่ยนเพิ่มอีกคู่นึงก็ดี
ยังงัยกลับมาบอกด้วยว่า Cตัวไหนต่อกับขาไรด้วยน่ะครับ เผื่อจะให้ข้อมูลเพิ่มได้อีก

[b_amnart]

ตัวเก็บประจุแบบSMD ถ้าไม่มีโลโก้หรือยี่ห้อพิมพ์บอกไว้ที่ตัว จะเดายากครับ
ต้องคนที่คุ้นเคยกับSMDของยี่ห้อนั้นจริงๆ ถึงจะดูออกว่า "หมึกพิมพ์เฉดสีแบบนี้, โค๊ดรุ่นรหัสนี้, รูปแบบตัวอักษรที่ใช้พิมพ์" เป็นของยี่ห้อไร

แต่ผู้ผลิตบางยี่ห้อ ก็จะพิมพ์ยี่ห้อหรือโลก้ติดไว้ที่แผ่นพลาสติคที่อยู่ใต้ตัวC ต้องแงะออกมาดูถึงจะเห็น แต่ก็ไม่ใช่ทุกยี่ห้อที่ทำแบบนี้

คุณb_amnart ลองตรวจเช็คดู C11, C13, C10, C12 ต่อกับขาไรของไอซีออปแอมป์
- ตัวไหนที่ต่อกับขา1และขา7 เปลี่ยนเฉพาะCคู่นี้คู่เดียวก็ได้
- ตัวไหนต่อกับขา4และขา8 เปลี่ยนเพิ่มอีกคู่นึงก็ดี
ยังงัยกลับมาบอกด้วยว่า Cตัวไหนต่อกับขาไรด้วยน่ะครับ เผื่อจะให้ข้อมูลเพิ่มได้อีก

ขอบคุณมากครับ คุณ keang ที่ถามถึงยี่ห้อคาปาเพราะอยากทราบขนาด foot print ของคาปาครับกะว่าคาปาภาคจ่ายไฟจะใช้แบบเดิม smd แต่เพิ่มขนาดความจุนะครับ
และต้องขอโทษด้วยนะครับเรื่องการเช็ค C11, C13, C10, C12 ว่าต่อกับไอซีออปแอมป์ขาไหนพอดีว่า xonar dx ของผมอยู่ใน carpc นะครับถอดออกมายากครับ
จากที่ได้รับคำแนะนำจากคุณ keang เรื่องการโมการ์ดได้แนวทางประมาณนี้ครับ

1.Power supply ใช้ C ของอะไรดีครับ
-เปลี่ยน C ฟิลเตอร์ของชุดไอซีเรกกูเลเตอร์ 78M08, 7805 CE30,CE34
-เปลี่ยน C ฟิลเตอร์ CE32, CE33 ของชุดไฟเลี้ยง 4 พิน "J8"

2.เปลี่ยน C ตรงเอ้าพุท
-คู่หน้า CE11,CE13 -Nichicon 100uF/25V FW Audio / CE10,CE12 -Nichicon 220uF/25V FW Audio
-คู่หลัง CE15,CE16,CE17,CE18 -Nichicon 47uF/25V FW Audio
-เซนเตอร์ / ซับ CE19,CE20,CE21,CE22 -Nichicon 47uF/25V FW Audio
อาจจะเปลี่ยนไม่ได้ทั้งหมดเอาที่สามารถเปลี่ยนได้

3.เปลี่ยน Opamp เกรดดีกว่าเดิม 5532 JRC >>>> หาของอยู่
อีกทางเลือกคือทำ soic8 to dip8 adapter จะได้มีทางเลือกในการเปลี่ยน opamp
แต่ติดที่ว่าค่าตั้งเครื่องและSoldermask & Overlay ของการทำ PCB Plated Through Hole
แพงมากทำน้อยชิ้นแล้วไม่คุ้มครับ http://www.warapcb.com/howtoorder.php

[keang]

2. เปลี่ยน C ตรงเอ้าพุท
- คู่หน้า CE11,CE13 -Nichicon 100uF/25V FW Audio / CE10,CE12 -Nichicon 220uF/25V FW Audio
- คู่หลัง CE15,CE16,CE17,CE18 -Nichicon 47uF/25V FW Audio
- เซนเตอร์ / ซับ CE19,CE20,CE21,CE22 -Nichicon 47uF/25V FW Audio
อาจจะเปลี่ยนไม่ได้ทั้งหมดเอาที่สามารถเปลี่ยนได้

CE11,CE13, CE10,CE12 ทั้ง4ตัว ผมไม่แน่ใจว่าตัวไหนทำหน้าที่ไรน่ะครับ
ถ้าเป็นอินพุทเอ้าพุท ก็ไม่มีปัญหาไร
แต่ถ้าเป็นไฟเลี้ยง ไม่เหมาะกับ Nichicon FW Audio ครับ เพราะไม่งั้นมีแต่กลาง เบสจะบางมาก
ซึ่งจะกลายเป็นเพิ่มปัญหาเดิมให้มากขึ้นอีก

ติดตั้งอยู่ในรถ รื้อออกมาเช็คยาก ผมว่า 4ตัวนี้ ใช้ยี่ห้อROEดีกว่า ได้ทั้งอินพุทเอ้าพุทและไฟ
แต่ถ้าคุณเดินทางมาซื้ออะหลั่ยในกรุงเทพได้ จะมียี่ห้ออื่นให้คุณเลือกเพิ่มขึ้น

3. เปลี่ยน Opamp เกรดดีกว่าเดิม 5532 JRC >>>> หาของอยู่

ถ้าแน่ใจว่า รักชอบในแนวเสียงของ5532 แนะนำว่า หาซื้อจากในเวปต่างประเทศครับ
แต่ถ้าไม่ซีเรียสมากแบบนั้น ใช้ OPA2132Uแบบที่คุณWizardmansแนะนำก็เป็นทางเลือกที่น่าสนใจครับ

เสียดายอยู่ไกลกัน ไม่งั้นจะให้มาลองฟังเสียง SA5532 SE5532 ของยี่ห้อOn Semiconductor
เมื่อแน่ใจว่ารักชอบเบอร์นี้จริง ค่อยสั่งซื้อจากต่างประเทศอีกที

[keang]

Creative Sound Blaster X-Fi ELITE ... " โมดิฟายแบบขำขำ "

ใครจะลอกการบ้านก็เตรียมตัวไว้
ใครเอาไปโมใช้เองก็ตามสบาย ลุยเต็มที่เลยครับ
ใครเอาไปรับจ้างโม หรือ ใครเอาไปใช้เพื่อการค้า เครดิตกลับมาที่กระทู้นี้ด้วย

ORIGINAL



PARTS MODIFY

1. ไฟเลี้ยง ชิบX-Fi
- เปลี่ยน COIL เกรดสูงกว่าเดิม (ตัวใหญ่ขึ้น + ฝาครอบชีลด์ดีกว่าเดิม)
รองรับการจ่ายไฟเลี้ยงชิบX-Fiได้ดีขึ้น และ ลดปริมาณสัญญาณรบกวนที่แพร่ออกจากตัวมันเอง

- เปลี่ยน CAPACITOR
Sprague (ไม่ใช่ Nippon Chemi-Con)

- เปลี่ยน ตะกั่วเงิน ไอซี และ อะหลั่ย ของชุดไฟเลี้ยงชิบX-Fi, +3.3v, -5v ทั้งหมด
WBT Silver Solder


2. ไฟเลี้ยงชิบADC , ไอซีต่างๆในการ์ด (ยกเว้นชิบDAC)
- เปลี่ยน ไอซีเรกกูเลเตอร์ VR4 78M05 ไฟ+5โวลท์
ของเดิม ยี่ห้อST จ่ายกระแสได้ 500มิลลิแอมป์
ของใหม่ ยี่ห้อOn Semiconductor จ่ายกระแสได้ 1,000มิลลิแอมป์ (ตัวใหม่มีขนาดเท่าของเดิม)
* ถ้าหาขนาดเดิมไม่ได้ ต้องไปใช้ตัวใหญ่TO-220แทน จะมีครีบระบายความร้อนโผล่ออกมาจากตัว *
* ระวัง ... ครีบระบายความร้อน ช็อต กับอุปกรณ์รอบข้าง *
* ระวัง ... ลายทองแดงขาด เพราะมือหรืออะไรไปโดนตัวไอซีแรง จนดึงให้ลายทองแดงหลุดจากPCB *


- เปลี่ยน CAPACITOR ชุดไฟเลี้ยงADC (DIGITAL , ANALOG)
Nippon Chemi-Con

- เปลี่ยน ตะกั่วเงิน ไอซีADC และ ออปแอมป์+อะหลั่ยของชุดอินพุททั้งหมด
WBT Silver Solder


---------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
- เพื่อการทำงานที่ถูกต้องของตัวอะหลั่ยและตัววงจร จุดสำคัญจะใช้วิธีบัดกรีที่ตัวอะหลั่ย แทนการบัดกรีลงลายทองแดงของเดิม -
---------------------------------------------------------------------------------------------------------------------












3. ไฟเลี้ยง ชิบDAC
- เปลี่ยนไอซีเรกกูเลเตอร์ TO-39 ขาทอง ชุดไฟเลี้ยงDAC
เกรดสูงสุดของเบอร์นี้ ระบบไฟนิ่งกว่าเดิม สัญญาณรบกวนต่ำกว่าเดิม DACทำงานได้เต็มประสิทธิภาพมากขึ้น
( หากใครสงสัย "ตัวเหล็กTO-39ดีกว่าตัวพลาสติค(TO-252, TO-220)ยังงัย" ลองฟังเสียงออปแอมป์ "LME49720NAเทียบกับLME47920HA" )

การ์ด อัพเดทล่าสุด

ขอเซนเซอร์ในบริเวณDACไว้ก่อน เพราะกำลังโมปรุงแต่งส่วนนี้ และยังไม่ได้ข้อสรุป

สเตปต่อไป

4. ไฟเลี้ยง OP-AMP OUTPUT
- เปลี่ยนCAPACITOR ชุดไฟเลี้ยงOP-AMPเอ้าพุท
Sprague (ไม่ใช่ Nippon Chemi-Con) เสียงจะได้เนียนๆมากขึ้น

มาเปลี่ยน opamp ให้ X-Fi Xtreme music กันเถอะ - หน้า 54 โพส#1073

[b_amnart]

เสียดายอยู่ไกลกัน ไม่งั้นจะให้มาลองฟังเสียง SA5532 SE5532 ของยี่ห้อOn Semiconductor
เมื่อแน่ใจว่ารักชอบเบอร์นี้จริง ค่อยสั่งซื้อจากต่างประเทศอีกที

ขอบคุณครับแต่เสียดายที่ไม่มีโอกาสได้ลองฟังครับผมลองหาคาปาของ ROE ดูแล้วครับ
ค่า 220uF/25V ไม่มีขายครับ อย่างนี้ผมจะใช้ nichicon muse se ตัวสีเขียวแทนทั้งหมดได้ไหมเพราะมีครบตามที่ต้องการครับเหมือนกับที่แนะนำในครั้งแรกนะครับ
ส่วนภาคจ่ายไฟใช้คาปาของอะไรดีครับ
ส่วนออปแอป์มผมหาใน ebay แล้วไม่เจอเลย พอจะทราบแหล่งที่ขายไหมครับอยากลองที่แนะนำ
SA5532 SE5532 ของยี่ห้อ On Semiconductor ถ้ามีแบบ soic ด้วยยิ่งดีครับหรือเอาดีกว่าของเดิมก็ได้ครับ
ถามมากไปรู้สึกเกรงใจจังครับ
ขอบคุณครับ