โมให้ดีกันเยอะแล้ว มาม๊ะ....มาโมให้"เจ๊ง"กันดีกว่า

[milestone]

เพิ่งกลับจากบ้านหม้อ วันนี้กระทู้เงียบกริบเลยแหะ

[milestone]

Update ซ่อมเรียบร้อยแล้วครับ

เปลี่ยน R แล้วหาย + โมเพิ่มด้วยนิดหน่อย อิ อิ

[ManiacMaew]

ยินดีด้วย ว่าแต่ใช้r ยี่ห้ออะไรครับ

[milestone]

ต่างที่ ต่างยี่ห้อครับ
ตัวที่ใช้นำสัญญาณ ผมใช้ Dale
ภาคจ่ายไฟใช้ R metal ของ Royal 1% 1W
ตัวที่เป็นบัฟเฟอร์คั่นระหว่าง IC ผมใช้ R metal 1% Rayal 2W ของเดิมใช้คาร์บอน 1/2W
ตัวที่ส่งออกไปสายลำโพง ผมใช้ XICON 1/2W





Dale ตัวที่อยู่ข้างๆ Nichicon muse KZ ครับ พอเปลี่ยนก็ใช้ได้ ตอนแรกคิดว่าเป็นตรงนี้ แต่พอดึกๆอาการก็กลับมาอีก
ล่าสุดเมื่อเช้าเช็คแล้ว TR D2058 ฝั่งซ้ายเสีย พอเปลี่ยนแล้วคราวนี้หายสนิทเลยครับ ดีนะที่ซื้อมาเผื่อไว้

[keang]

เออ ยุให้เขาทำโหดไปป่าว งบแค่พันเดียวเองน่ะ ตัวถังทองก็กินไปเท่าไรแล้ว

ASUS Xonar STX อยากโมเปลี่ยนคาปารอบๆออพแอมตรงจุด Bufferกับ I/Vครับ

• รบกวนขอคำแนะนำด้วยว่าจะเปลี่ยนเป็นคาปาแบบไหน ยี่ห้อไหน ค่าเท่าไหร่ดีครับ คาปาทั้งหมดก็8ตัวใช่มั้ยครับ งบไม่เกิน1000ละกันครับ

• แนวเสียงอยากได้ บาล้านซ์ปริมานสูงกลางต่ำ รายละเอียดดีๆ ครับ

รูปต้นฉบับที่เค้าใช้อ้างอิง
คัดลอกมาจากเวป Head-Fi.org Community > Xonar Essence ST Sneak Peek - Page 111

• ผมไม่ได้บอกให้เค้าใส่ตัวไอซีเรกกูเลเตอร์ขาทองด้วยงบ1,000บาท > ไอซีเรกกูเลเตอร์ขาทองอันนั้นเป็นของAudigy2 ZS
(เจ้าของการ์ดเค้าอยากได้ตัวนี้กับซ็อคเกทเกรดทหาร เหตุผลที่เค้าบอกผมคือเปลี่ยนทั้งทีเอาของดีไปเลย)
สงสัยผมโพส2เรื่องรวมในโพสเดียว เลยทำให้สับสนได้ง่าย คราวหน้าจะพยายามแยกเป็นเรื่องละโพส
( ความรู้สึกส่วนตัว ผมไม่อยากตัวเลขจำนวนหน้ามันดูเยอะ เลยพยายามตอบ+พูดคุยในโพสเดียว เลยเห็นเวลาผมโพสจะยาวทุกที )

• เล่าย้อนอดีตให้ฟังก่อนดีกว่า
( ความรู้สึกส่วนตัวบอกผมว่า ก่อนที่เค้าจะPMมาหาผม เค้าได้PMไปปรึกษาคนอื่นที่รับโมมาก่อนแล้ว )

คุณchoochart. ช่วงต้นเดือนเค้าPMมาจะให้ผมทำให้
ผมก็บอกไปว่าให้ผมทำไม่คุ้มหรอก เพราะ ค่าแรงผมสูง+ขี้เกียจทำ
แนะนำให้เค้าทำเองดีกว่า ติดขัดปัญหาตรงไหนก็ให้โพสถาม เพราะผมก็ตอบให้อยู่แล้ว
( ใครเคยPMมาถามผมในประเด็นแบบนี้ ผมจะตอบแบบนี้ทุกครั้ง "ให้มาโพสถามในกระทู้แทนการใช้PM" )

เวลาผ่านไปสิบกว่าวันมั้ง เค้าเพิ่งมาโพสถาม

• โจทย์ของคุณchoochart. มี2ประเด็น
1. แนวเสียงอยากได้ บาล้านซ์ปริมานสูงกลางต่ำ รายละเอียดดีๆ
2. งบ1,000บาทสำหรับCจำนวน8ตัว (ที่อยู่ด้านบนของการ์ด เฉลี่ยแล้วตัวละ125บาท)
( ที่สอบถามเค้าในPM เค้ารู้สึกว่าเสียงทุ้มน้อยไป อยากเพิ่มเบส เพราะSTXมีกลางกับแหลมอยู่แล้ว )

ตอบ
ค่าความจุของCตรงจุดนี้ ด้วยงบนี้คงได้เป็นDIP MicaหรือพวกFoil บ้านหม้อขายอยู่ตัวนึง20-50บาท

แต่ไม่ว่าจะเป็นDIP MicaหรือFoil อะหลั่ยทั้ง2แบบนี้มันไม่ได้ช่วยเรื่องเบส แต่มันช่วยเรื่องเสียงกลางกับแหลม (ดีมากน้อยแค่ไหนอยู่ที่ยี่ห้อและรุ่นด้วย)


สรุป คือ
ถ้าทำเพียงเปลี่ยนCจำนวน8ตัวตามที่เค้ากำหนดไว้ ด้วยอะหลั่ยทั้ง2แบบตัวเล็กๆแบบนั้น มันยังตอบโจทย์เค้าไม่ได้ เปลี่ยนไปก็เหมือนโยนเงินทิ้งเปล่าๆ

กระทู้ตัวต้นแบบที่เค้าไปดูมา เค้าก็เปลี่ยนจุดอื่นด้วย พวกอิเลคทรอไลติคเปลี่ยนจาก nichicon Fine Gold ไปเป็น Elna SILMIC II
( บางคนดูรูปแล้วบอกว่าเป็น Elna Cerafine ไปซะงั้น สงสัยไม่ได้อ่านรายละเอียดในโพสนั้นให้ดี )

( ManiacMaewน่าจะตอบเรื่องใส่CแบบFoilเข้าไปแล้วได้ไรมาบ้าง เพราะตอนซ่อมZ2ให้ ผมก็ใส่ตัวFoilไปให้แทนDIP Mica (ของเดิมจากผู้ผลิตจะใส่เป็นฟิลม์ของWIMA) )

แต่ก็ควรทำน่ะ เพราะอย่างน้อยมันก็ยังดีกว่าที่เค้าใส่มาให้(เฉพาะตรงไอซีชุดI/V Inverter) แต่ตรงส่วนของไอซีขยายเสียงผู้ผลิตใส่เป็นCฟิลม์มาให้แล้ว

ตัวเก็บประจุที่จะมาตอบโจทย์ของเค้าในเรื่องเบสได้ น่าจะเป็นCแบบฟิลม์
แต่Cฟิลม์ค่าน้อยๆที่มีขายในบ้านเรา มันก็ตอบโจทย์ของเค้าไม่ได้อยู่ดี ประมาณว่า ได้เบสก็เสียกลางแหลม ได้กลางแหลมก็เสียเบส

ตัวที่ตอบโจทย์ได้ ได้เบสแต่ไม่เสียกลางแหลม มันก็เกินงบที่บอกมา


ตัวอย่างของอะหลั่ยที่จะช่วยเรื่องเบส โดยที่กลางกับแหลมไม่เสียไปด้วย
Siemens Styrofoam Series - KP แบบค่าน้อยเป็น pF


SiderealKaps แบบค่าน้อยเป็น pF


ERO (รุ่นนี้เก่ามาก หายากหน่อย) แบบค่าน้อยเป็น pF


WIMA รุ่นTFF, รุ่นTFM (รุ่นนี้เก่ามาก หายากหน่อย) แบบค่าน้อยเป็น pF



------------------------------------------------------------

ภาคจ่ายไฟใช้ R metal ของ Royal 1% 1W
ตัวที่เป็นบัฟเฟอร์คั่นระหว่าง IC ผมใช้ R metal 1% Rayal 2W ของเดิมใช้คาร์บอน 1/2W
ตัวที่ส่งออกไปสายลำโพง ผมใช้ XICON 1/2W

ตัวต้านทานสำหรับภาคจ่ายไฟ แนะนำให้ใช้แบบ Metal Oxide หรือ Wirewound
พวกMetal Filmจะได้เสียงเงียบกว่าจริง(แต่ถ้าวงจรออกมาแบบมาดีอยู่แล้วก็ไม่จำเป็นต้องคิดถึงจุดนี้เพราะมันต่ำมากอยู่แล้ว) แต่ตัวมันให้การสวิงของไฟสู้2แบบที่บอกไม่ได้
พอมันตอบสนองการสวิงของไฟไม่ได้ เสียงจะเกิดอาการหนืดไม่สามารถตอบสนองต่อเสียงแบบฉับพลันได้ดี ขาดรายละเอียดหางเสียง


------------------------------------------------------------


ถ้าวงจรดี อะหลั่ยดี หลายๆบริษัท ไม่ใช้วิธี BI-CAP (แต่ถ้าวงจรยังไม่ดีพอ อะหลั่ยหลักยังไม่ดีพอ ก็BI-CAPช่วยชดเชยแทน)
ภาพภายในของเพาเวอร์แอมป์ Krell รุ่นKSA100 ถ้าจำไม่ผิดรุ่นนี้ใช้ของMallory (แต่ดูจากรูป น่าจะเป็นSpragueมากกว่าMallory)
เครดิต : รูปจากเวป diyAudio > Capacitor Krell KSA 100

[milestone]

แก้ไขให้แล้วนะครับ
ความจริงผมลงรูปไปรอบแล้วนะ ไม่รู้ทำไมมันหายไปไหน
ผมเปลี่ยน R ตรงข้างๆ KZ นะครับ เพราะเป็นจุดเดียวที่ผมไปซนเมื่อไม่กี่วันก่อน
พอทำแล้วมันใช้ได้พักนึงอาการมันกลับมาอีก

สรุป เสียที่ TR D2058 ไม่ได้เสียที่ R ครับ

รูปอยู่ในข้อความด้านบนแล้วนะครับ

[Wizardmans]

Elna BP RBD Series เบสดี กลางแน่น ปลายเสียงพริ้ว เหนือกว่า Nichicon ES ทุกอย่าง

[ManiacMaew]

ขออภัยๆ ไม่นึกว่าจะกระเทือนอารมณ์ท่าน
เรื่อง c foil ผมก็อยากรีวิวครับ แต่ประเด็นคือ ตอนนั้นมันเปลี่ยนพร้อมกับsilver mica แล้วก็ไม่เคยฟังเสียง ตัวใดตัวหนึ่งมาก่อนเลย
เลยเดาทางไม่ถูก
เพราะตอนที่ใส่silver mica ไปมันก็พัง เสียงแตกๆ เดาทางไม่ได้

ส่วนตอนทำกับลำโพงไม่ได้รีวิว แล้ว เพราะคอนเซปต์ตอนทำลำโพง คือสั่วๆ เน้นหัดบัดกรีมากกว่า
ว่าทำทีเดียวจบ ค่อยรีวิวเลย

งบพันเดียว จริงผมว่าเอาบาลานซ์จริงๆยาก แต่เอาคุ้มก็แล้วแต่คนน่ะ อาจจะทำได้

-----------------------

เงินเหลือกว่าที่คิดนิดหน่อย เดี๊ยวได้ลองตัวนี้แหล่ะ

แจ่ยังไม่รู้จะเอาลงตรงไหนดี ค่านี้ลงได้หลายจุดอยู่

ลำโพงก็ซ่อมแจ็ค แล้ว หาซื้อไม่ได้เลยsacrifire แจ็คcontrollerไปให้ข้างซ้ายของแอมป์
แล้วตรงcontrollerบัดกรีตรงเอา
--------------------
Fixed resistors
Features
Chip resistor
This is a surface mounted type resistor which incorporates electrodes suitable for PCB surface mounting. Chip resistors are the most standard resistors today. A little less than 90% of fixed resistors produced are square-shaped chip resistors.
Carbon film resistor
This type of resistors incorporates a solid ceramic core coated with carbon film that has electric resistant properties. Carbon film resistors have been most popular for low-power applications from a safety point of view, considering their heat radiation and fire retardation.
Metal film resistor
Unlike carbon film resistors, this type of resistors incorporates a stable ceramic core coated with metal, such as Ni-Cr. Metal film resistors excel carbon film resistors in temperature characteristics, current-noise suppression level, linearity, and accuracy. On the other hand, however, metal film resistors are more expensive than carbon film resistors.
Metal oxide film resistor
Unlike metal film resistors, this type of resistors incorporates a stable ceramic core coated with metal oxide, such as tin oxide. The metal oxide film does not burn, thus withstanding a few watts. Although metal oxide film resistors do not burn, utmost attention is required when mounting metal oxide film resistors because they radiate heat.
Wire-wound resistor
This type of resistors incorporates a coil of thin metal wire on a ceramic bobbin. Wire-wound resistors are not so much affected by temperature. Furthermore, their noise generation is comparatively low. Their frequency characteristics are, however, poor. Therefore, they are not suitable for high-frequency circuits. Other types of resistors have been replacing wire-wound resistors applied to existing applications, due to difficulty in the production of high-quality wire-wound resistors. Wire-wound resistors for power applications and those for high-precision applications are available.
Solid resistor
This type of resistors incorporates a solid mixture of carbon powder and resin. Solid resistors are sturdy but not highly precise. Therefore carbon film resistors have been gradually replacing solid resistors applied to existing applications. High-resistance solid resistors withstanding high voltages are, however, available. They are mainly applied to power supply circuits and others where high stress is imposed.
Network resistor
A resistor network is a composite component package consisting of multiple resistors. Electronic circuits are now employing an increasing number of network resistors for the elimination the number of parts, a reduction in labor cost, and high-density mounting needs. The characteristics of the multiple resistors are the same as those of thick film resistors.

credit : http://www.rohm.com/en/r/r_what2.html


มีทางนี้อีก ภาษาไทยลองเข้าไปอ่านกันดู
http://www.nxgeneration.com/index.ph...age;topic=18.0

[aioros]

สวัสดีครับ ก่อนอื่นต้องขอแนะนำตัวก่อนผมชื่อ ตุลย์ นะครับ จากที่ผมได้นำการ์ด 2ZS ไปขอคำปรึกษาจาพี่ โก้ เรื่องการโมการ์ดเมื่ออาทิตย์ที่ผ่านมา
พี่เค้าเลยแนะนำมาให้มาโพสบอกต่อถึงวิธีการใส่อแดปเตอร์ออปแอมป์ ลงทุนน้อยและแข็งแรงถึงจะไม่สวยเท่าไรก็เหอะ^^



มาเริ่มกันเลยเลยดีกว่าจากรูปด้านบนดูแล้วยังไม่ค่อยสวยเท่าไร ถ้าใครอยากดันแปลงให้ดูสวยหน่อยก็เชิญตามสะดวก

อุปกรณ์ที่ต้องเตรียม
1.หัวแร้ง ตะกั่ว ที่ดูดตะกั่ว ฟลัก คีม ฯลฯ
2.ปืนกาวแท่ง+กาวแท่ง
3.เทปกาวสองหน้า
4.Wire-wrap wire ตามรูปด้านล่าง หาซื้อได้ตามร้านอิเล็กทรอนิกส์ทั่วไปแบ่งขายเป็นเมตรหรือจาซื้อเป็นม้วนก็ตามสะดวก

5.Socket IC 8ขา หาซื้อได้ตามร้านอิเล็กทรอนิกส์เช่นกัน ตัวประมาณ 5บาท

[keang]

aioros (ตุลย์) มาโพสบอกวิธีทำ DIP Adpter Socket แล้ว เป็นอีกแนวทางสำหรับทำใช้เอง โดยใช้ตุ้นทุนต่ำมาก
ขอขอบคุณแทนทุกคนครับ


--------------------------------------------------------


อัพเดท Sound Blaster Audigy2 ZS



ทำAudigy2 ZSตัวนี้ เจอเรื่องแปลก2เรื่อง

• ผู้ผลิตการ์ดลดต้นทุนการผลิตเพิ่มอีกจุดนึง ไม่รู้จะกั๊กไว้ทำไม แค่ใส่Rเพิ่มอีก1ตัวเนี่ย
เดี๋ยวจะลองดูการ์ดรุ่นอื่น ว่ามีการลดต้นทุนที่จุดนี้อีกหรือเปล่า
+++ เฮ้อออ ..... ลดต้นทุนตรงไหนไม่ว่า ดันมาลดในส่วนของระบบCLOCK +++

• ต้นฉบับตามเวปเมืองนอก บอกว่าCที่ตำแหน่งนึงในการ์ด เป็นCไฟเลี้ยงออปแอมป์
ช่างบ้านเราก็ทำตามกัน ไม่มีใครตรวจสอบข้อมูลสักนิด ว่า มันใช่แบบที่เค้าบอกไว้หรือเปล่า
ไม่มีการตรวจสอบ แล้วก็ใส่อะหลั่ยของดีเข้าไปที่จุดนั้น หารู้ไม่ว่า มันคือวงจร...ที่ไม่ได้เกี่ยวข้องเลย

[milestone]

C ของ Vishey ตัวสีเขียว ตั้งใจว่าจะไปซื้อมาไบแคบเหมือนกัน แต่พอเจอตัวจริงแล้ว ถอยกรูดเลย
มันตัวใหญ่กว่าที่ผมคิดไว้ เลยไม่ได้สอยมาเล่นเลย อิ อิ

ว่าแต่จะเอาไปใส่ตรงไหนเหรอครับ

[ManiacMaew]

เฮ้อๆ อ่านแล้วรีบกลับไปดู 2zs เลย รู้แล้วว่าตรงไหนไฟเลี้ยง opamp

c ไฟเลี้ยงจริงๆ คือ c ceramic c27 กับc39 รึเปล่า ตัวเลขไม่แน่ใจน่ะ อะไหล่มันเบียดกันไม่รู้เลขไหนของตัวไหน+ยังถอดออกมาดูไม่หมด

การ์ดตัวนี้ให้คนอื่นทำ
ตอนหลังก็ได้แต่โล๊ะเอาอะไหล่มาใช้

จะว่าไป ยังไม่ได้อ่านดาต้าชีทมันเลยตัวนี้


-------------------

ตอนนี้ลำโพงลองใส่
carbon film koa speer 1kohm 2watt ลงแทน r smd 1kohm
ตำแหน่ง คร่อมระหว่าง outputไปsatt กับกราวด์


ไม่มีอะไร อยากลอง ยี่ห้ออื่นบ้าง เห็นคนใช้กันแต่dale

จริงอยากได้metal glazeมากกว่าแต่ค่าที่ต้องการดันหมดไปแล้ว
ได้แบบcarbonมาก็ต้องเอาไปไว้ไกลๆ ic กับ หม้อแปลงหน่อย

พลิกไปมาหลายรอบ พึ่งสังเกต
c output ไป satt ตามดาต้าชีท ผู้ผลิตชิพให้ใส่ค่า1000 แต่sony ใส่ค่า470


ว่าจะใจเย็นลงทำทีล่ะจุด เบิร์นที่ละจุด จะได้รีวิวแนวเสียงได้
ไม่งั้นทำเอง มึนเองไม่รู้ปัญหามันเกิดจากตรงไหน

------------------------

C ของ Vishey ตัวสีเขียว ตั้งใจว่าจะไปซื้อมาไบแคบเหมือนกัน แต่พอเจอตัวจริงแล้ว ถอยกรูดเลย
มันตัวใหญ่กว่าที่ผมคิดไว้ เลยไม่ได้สอยมาเล่นเลย อิ อิ

ว่าแต่จะเอาไปใส่ตรงไหนเหรอครับ

ผมว่ามันเล็กแล้วครับ= =" ขายังยาวพอด้วย บางยี่ห้อค่าไม่ถึง1uF แต่ตัวใหญ่กว่านั้น 2เท่าแถมขาสั้นอีก ไม่รู้จะยัดลงยังไง
aerovox และอื่นๆ จำไม่ได้ ยี่ห้อแพง

ตำแหน่ง เอาไปแทน c electrolyteของเดิมค่าเท่าเดิม เว้นแต่ค่าทนvolt(เหมือนแบบfilm มันจะทนได้มากกว่าอยู่แล้วน่ะ
ยังไม่เคยเห็นแบบfilm volt ต่ำ) ครับ แต่ยังไม่รู้ ว่าจะใส่ตรงไหนดี ค่าเดียวกันมันมีหลายจุด

ลองซื้อมาตัวเดียวด้วย เพราะมันแพง ขอคิดก่อน มันต้องเอาตัวเตี้ยกว่าลงก่อนด้วย เดียวมันเบียดกันยัดไม่ลง

--------------------------------

ตย. สายดิน แบบที่คุณหรอยแรงแนะนำ ผมเลยลองทำแบบสั่วๆ
ด้านหนึ่งทำหัวบัดกรีไว้กับสาย

แต่ผมจะบัดกรีตรงเส้นทองแดงฝอยๆ ด้วยน่ะ เวลาเอาไปครองมันจะได้ไม่กระจาย ไปโดนขาอื่นขงอปลั๊ก

อีกด้าน บัดกรีติดกับใบเลื่อยหัก เอาเทปพันสายไฟมัดหน่อย


ด้านห่วงก็เอาไปครองขากราวด์ ของปลั๊กคอม อีกด้าน ก็เอาไปปักลงกระถางเติมดิน +รดน้ำเล็กน้อย

ไฟไม่ดูดแล้ว เสียงนิ่งขึ้นอีกนิด เหมาะสำหรับ คนที่เดินสายดินจริงๆไม่ได้
ไม่แนะให้เอากระถางไว้ในห้อง เดี๊ยวมันจะเป็นแหล่งเพาะพันธ์แมลง
ถ้าไว้นอกบ้านที่มีสัตว์เลี้ยงก็ระวังหน่อย

ประหยัด ไม่ต้องจ้างช่าง ไม่ต้องเดินสายดินจริง อยู่พื้นที่จำกัดก็ทำได้
--------------------------
review r koa speer

ผ่านไฟล์เบิรนน์มาเล็กน้อย +เล่นเกมฟังเพลงมาอีก ร่วม5-6ชมได้แล้ว จริงๆก็ยังเบิร์นไม่ได้ที่หรอก เขียนไว้ก่อน พอเป็นแนว
เดียวค่อยมาแก้อีกที

เคยอ่านมาว่า r wattมาก จะให้เนื้อหนังมากกว่าเลยลองดู เพราะ ที่เคยลองrn dale 65d 1kohm นี้ 0.5wattเองมั้ง แบบ metal film
koa speer ตัวนี้ 2watt 1kohm ค่าผิดพลาด5% เป็น carbon film

เข้าเรื่องๆ เทียบกับ r ตัวเก่าน่ะ ที่เป็นceramic surface mount
เสียงกลาง นิ่ง แน่น ชัดเจน ออกห้าวนิดๆ เสียงกลางเด่นขึ้นกว่าเดิม
เสียงsurrond หลบๆ ไปหน่อย เสียงแหลม ด้อยลงเล็กน้อย เบส เหมือนเดิมเลยมั้ง
มิติ อืม... จะว่าไงดีล่ะ เหมือนจะแคบกว่าเดิมนิดๆ
บุคลิก ตรงข้ามกับ c nichicon fw อันนั้นฟังดูแล้วมันจะออก Airy หน่อยๆ
อันนี้มัน เสียงมันเหมือนอยู่กับที่สุดๆ ไม่กระจายไปไหน จนบางที่รู้สึกแคบอ่ะน่ะ แต่ก็ไม่ได้ติดกังวาลๆ แบบelna crerafine-silmic
อันนั้นอัดไปเยอะๆ เหมือนอยู่ในห้องน้ำเลย

ด้านกว้างลดลงนิดๆ ด้านลึก เสียงcenter โดนผลักมาข้างหน้าขึ้นหน่อย แต่เสียงเครื่องดนตรี อะไรที่อยู่ลึกๆ ก็ยังอยู่ที่แถวๆเดิมน่ะ


เทียบกับ r dale rn 65d ที่ลองมันคนล่ะจุดกันน่ะ แถมตอนใส่r dale นี้เพิ่มจาก100ohmไป เป็น1Kohm
dale มันจะออกกว้างขวางโอ่โถ่งกว่าหน่อย เก็บรายละเอียดเสียงกลาง-แหลมได้ดีกว่า

---------
review เสร็จก็ซน ยัด panasonic fm 1000/25 เข้าไปแทน rubycon yk 1000/16

[choochart.]

ท่าน keang ครับ ที่ไอ้ตัวที่ตอบโจทย์ได้ถ้านี่มันตัวละประมานเท่าไหร่ครับ ขอชื่อรุ่นตัวที่ว่านี่หน่อยครับ

แล้วตรงจุดที่ต้องเปลี่ยนของภาคI/Vใช่ตามรูปนี้มั้ยครับ 4ตัว ที่มีจุดสีแดง
http://www.temppic.com/img.php?26-09...0.50728200.jpg

ขอบคุณครับ

[keang]

ไอ้ตัวที่ตอบโจทย์ได้ มันตัวละประมานเท่าไหร่ครับ ขอชื่อรุ่นตัวที่ว่านี่หน่อยครับ

• ผมบอกไปตั้งแต่โพสก่อนแล้ว •
หน้า50 โพส#995


ถ้าคุณยังยืนยันคอนเซปเดิม คือ
• ต้องเปลี่ยนอะหลั่ย เพียงแค่ ตัวเก็บประจุ4หรือ8ตัวนี้เท่านั้น และ ต้องได้ปริมาณเสียงเบสที่ดีขึ้นจนพึงพอใจ •

คุณต้องลงทุนค่าอะหลั่ย+ค่าขนส่งที่สูงกว่าปรกติ และ เสริชหาร้านขายอะหลั่ยในต่างประเทศ เพราะ บ้านเราไม่มีขายอะหลั่ยพวกนี้


• เรียงลำดับตามราคา • ตัวเก็บประจุพวกนี้ ไม่มีปัญหาเรื่องเสียงทุ้มและเสียงแหลม

• Audio Note • Silver Foil series มีผลิตค่าเป็น "pF" แน่นอน
ราคา 70.50 ปอนด์


• Audio Note • Copper Foil in Paper In Oil series มีผลิตค่าเป็น "pF" แน่นอน
ราคา 19.50 ปอนด์


• Audio Note • Tin Foil (Mylar Film series) series มีผลิตค่าเป็น "pF" แน่นอน
ราคา 8.75 ปอนด์


• SiderealKaps • มีผลิตค่าเป็น "pF" แน่นอน เพราะใช้อยู่
ราคา xxx บาท


• WIMA • TFF series / TFM series รุ่นนี้เก่ามาก หายากหน่อย
ราคา xxx บาท


• Siemens • Styrofoam series
ราคา xx บาท



เห็นเอาราคาหนักๆมาให้ดู ไม่มีเจตนาแกล้งคนถามน่ะ เพราะ
อะหลั่ยเกรดดีตามท้องตลาดคงช่วยได้แค่บางส่วน มันตอบโจทย์และเงื่อนไขของคนถามไม่ได้
ต้องเป็นพวกอะหลั่ยระดับนี้ ถึงจะเอาอยู่


------------------------------------------------------------


ถ้าสู้ราคาตัวข้างบนไม่ไหว ก็ต้องทำใจ ยอมรับข้อด้อยของเสียงในบางช่วงด้วย
พูดง่ายๆ...คุณภาพตามเงินที่จ่ายไปละครับ

ตัวเก็บประจุที่พอจะหาซื้อใช้กันได้ทั่วไป คงเป็นพวกPolystyreneตัวใสๆ ขนาดเล็กๆ

ที่หาง่ายหน่อยในบ้านเราจะเป็นแบบ Polystyrene แต่ต้องทำใจหน่อย เพราะพวกนี้ไม่เด่นที่เสียงทุ้ม กลางกับแหลมจะดีแค่ไหนก็อยู่ที่ยี่ห้อด้วย
สมัยก่อนยังมียี่ห้อSiemensแต่ตอนนี้ไม่มีแล้ว ที่มีขายตอนนี้ก็มีหลายยี่ห้อ ต้องซื้อมาหลายๆยี่ห้อ แล้วลองเทียบเสียงดูว่าตัวไหนให้เบสได้ดีบ้าง



ถ้าให้แนะนำ แทนที่จะทำเพียงแค่4-8ตัวแบบที่คุณบอก คุณยอมเปลี่ยนจุดอื่นหลายจุดหน่อย เพื่อให้ได้ผลโดยรวมใกล้เคียงกัน น่าจะเป็นการลงทุนที่ดูคุ้มค่ากว่า และ คุณสามารถเลือกอะหลั่ยจากที่มีขายในบ้านเราได้บางส่วน อะหลั่ยบางตัวบางค่าที่ไม่มีขาย ก็มีทางเลือก2อย่าง ใช้ค่าใกล้เคียง หรือ ต้องค่าตรงเท่านั้นก็ไปสั่งจากต่างประเทศ

เรื่องการ์ด แนะนำให้เปลี่ยนอะหลั่ยส่วนอื่นด้วย เพราะ ทางผ่านของเสียงไม่ใช่มีแค่ตัวC ยังมีR, ซ็อคเกทไอซี, รีเลย์
ทำจุดอื่นก็สามารถชดเชยเสียงโดยรวมได้เหมือนกัน


ยังมีอีกวิธีนึง แบบนี้ง่ายที่สุด
ที่ห้องซื้อขาย มีคนกำลังโม Xonar STX อยู่ แต่ไม่รู้ว่าทำได้ถึงไหนแล้ว คุณรอเค้าทำเสร็จ แล้วรอดูรูปที่เค้าโพสโชว์แล้วก็ไปหาซื้ออะหลั่ยตามที่เค้าใช้
เสียงจะเป็นงัย ผมก็ไม่รู้เหมือนกัน เพราะไม่ใช่คนทำ ต้องไปขอลองฟังจากคนทำ

ST STX ที่รื้อกองไว้ ผมคงทำเป็นคิวท้ายๆ เพราะต้องรีบเคลียการ์ดเก่าที่อาสาทำให้เพื่อนเสร็จหมดก่อน
ถ้าช้ากว่านี้ คงโดนรุมกระหน่ำอย่างหนักๆ

ส่วนอะหลั่ยที่ผมสั่งมาใช้เอง ถ้าใครจะแบ่งไปใช้ก็พอได้นิดหน่อย แต่ต้องมาเอาเองน่ะ เพราะช่วงนี้ไม่มีเวลาส่งems



--------------------------------------------------------------



wathiend.diy เวปDIY ของDIYerคนนึงในเวป ขออภัย ผมจำชื่อที่ใช้ในเวปOCZไม่ได้

• Modify PSU อย่างง่าย ก่อนมันสิ้นใจจากเราไปอย่างไม่หวนกลับ
• capacitor coupling for audio
• resistor for diy audio
• EL 86 Preamp Tube Diy
• mp3 player modify เจ็บ ๆ
• คันเล็ก ๆ น้อย ๆ กับ Diy dvd pioneer 595 k

[ManiacMaew]

ลองเอาvishay mkt 1813 (ตัวสีเขียวยัดลงไปดูแหล่ะ)
ตำแหน่ง ที่ไม่คาดคิดว่า จะเห็นผลมากเท่าไร แต่ก็เห็นผลเกินคาด
(จริงๆมีตำแหน่งที่เปลี่ยนแล้วไม่แทบไม่รู้สึกอะไรเลยอีก มันคือ
cไฟเลี้ยง opamp ตรงcontroller ตรงแถวตัวใหญ่3ตัว มีค่า 220 100 แล้วก็220 ติดกัน3ตัว
ลองทั้ง nippon เงินคาดดำ ทั้ง nichicon fw แหล่ะ
เสียงเปลี่ยนน้อยมาก)

c4 ขา6 อย่าสับสนตัวเลขบอกตำแหน่งc กับ ของจริงน่ะครับ
ตำแหน่งนี้ คือตำแหน่งตามdatasheet ให้ดูตำแหน่งจากขาเป็นหลักน่ะเวลาบัดกรีจริง

อ่านดาต้าชีทก่อนเปลี่ยน

อ่านตรงนี้จะรู้ด้วยว่าsony ลด c output (c6-7)จาก 1000>>>470
RLลำโพงมันเท่าไรไม่รู้ เปิดดอกมารู้ดูแล้วมีแต่ serial number
ถ้าเดาว่ามันเท่ากับดาต้าชีท แสดงว่าเขาลด low band cut off frequencyลง
อ่านเอง งงเอง หมายถึง ความถี่ต่ำสุดที่ทำได้ น้อยลง(คือลงได้ลึกขึ้น)รึเปล่า?


ตอนนี้มันไม่ได้เป็น แบบในภาพแล้วน่ะ
c v+ ที่เข้าtda 7490ก็ใช้ nippon kmh 3300/80
r ที่ต่อคร่อมระหว่าง out put satt เปลี่ยนไปเป็น koa speer carbon film 1kohm 2watt 5%
c ค่า 1000uF ที่เป็นVcc คือต่อ ขา7 ก็เปลี่ยนไปเป็น Panasonic fm 1000/25

ตำแหน่ง 4.7 นี้เปลี่ยน มา3ตัวแล้ว แต่เวลาเบิร์น ของ r koa กับ c pana fm
มันยังไม่ได้ที่ เลยจะขอเปรียบเทียบแบบนี้น่ะ
silmic II ดำคาดทอง เงา 4.7/50 กับ nichicon fw ทองคาดดำ 4.7/50 (used เคยใช้ตรงอื่นมาก่อนแล้ว) กับ vishay mkt 1813 4.7/250 สีเขียว
อันนี้ตามลำดับ การถอดเข้าออกน่ะ การใส่ และหลังใส่จะเทียบกันเลย
ยกเว้นตัว vishay เพราะมันยังไม่ได้เบิร์นมา อาจจะมีปัญหาเอเฟคเรื่องเบิร์น เพราะ พอเบิร์นมันแล้ว
เท่ากับr koa และc pana โดนเบิร์นไปด้วยเลยในตัว

silmic II Vs nichicon fw
silmic II
มิติด้านลึก อะไรที่อยู่ด้านหน้า พี่แกดันมาหน้า เพิ่มขึ้นอีก อะไรที่อยู่ห่.างๆ โดนดันให้ไปไกลกว่าเดิม เสียงsurround ด้านหลัง ก็เบาลง โดนเสียง ข้างหน้า +เสียงcenterกลบ
(ให้เข้าใจว่าเสียงsurrondด้านหลัง มันคนล่ะตำแหน่งกับเสียง ที่อยู่***งไปไกลๆ ด้านหน้าน่ะ)
เสียงเบส-กลาง ล้ำหน้ากว่าเพื่อนนิดหน่อย
(แต่ก่อนเปลี่ยน c และr มันไม่ลำหน้าขนาดนี้น่ะ)
แต่ไม่ใช่แหลมมันหลบหมดน่ะ
แหลมอะไรที่ด้านมิติมันอยู่ด้านหน้า มันก็โดนดันมาใกล้ตัวเหมือนกันน่ะ
แต่อันไหนมันอยู่ห่.าง หรือ อยู่ด้านหลัง นี้แทบหายไปเลย
เสียงติดก้องๆกังวาลๆ สไตล์elna อยู่นิดๆ
nichicon fw
ใส่ปั๊บ พี่แก ก็แหลม มาเลย รายละเอียดปลายเสียงกลาง-แหลมดีกว่า
มิติ เหมือนเวทีโดนดันให้ห่.างตัวมากขึ้นทั้งเวที
(ให้เข้าใจว่ามันต่างกับเมื่อกี้น่ะ อันเมื่อกี้ อันหน้าสุดกับหลังสุดมันห่.างกันมากกว่าน่ะขึ้นน่ะน่ะ
แต่อันนี้หันหน้าสุดกับหลังสุดมันห่.างกันน้อยกว่า แต่ระยะจากตัวเราไปอันหน้ามันห่.างเพิ่ม จากเรา
ไปหลังสุดก็ห่.างเพิ่มเท่ากัน )
เบสพร่องมากมาย เสียง ออกฟุ้งซ่า รายละเอียดหางเสียแหลมดีกว่านิดหน่อย

ขอบเสียงไม่ค่อยชัด


vishay mkt 1813
(+effect หลัง เบิร์น r koa speer + c panaไปด้วยน่ะ)
แหลมไม่บาดหู เท่าfw แต่ก็ไม่ได้พร่องเท่าไร
เบสไม่ล้ำหน้า เหมือน silmic II
เก็บรายละเอียดเล็กน้อยได้ดีขึ้นนิดหน่อย (แบบว่าเล่นเกมส์บางฉาก ปกติ มันจะไม่มีเสียงกองไฟ
กร๊อบแกร๊บเหมือนไฟปะทุมาด้วย แต่คราวนี้มีมา
ลองเช็ค แล้วว่าไม่ใช่noise ลองเอาตัวละครเดินวนๆ รอบกองไฟดู มันจะมีเสียงตามทิศที่กองไฟอยู่)
ลองเช็คกับเพลง เวลากราฟในฟูลบาร์ เริ่มขึ้น จะได้ยินเสียงมากกว่า 2 ตัวก่อนหน้านี้
บาลานซ์ทุ้มกลางแหลม ออกมากลางๆ ไม่มีตัวไหนเด่นเป็นพิเศษ


เรื่องมิติ-การแยกชิ้นเสียง-ขอบเสียง = =" ฝนมันตกอยู่ แยกไม่ออก รอสงบก่อน


*หมายเหตุรีวิวไม่เป็นระบบเท่าไรน่ะ เพราะขี้เกียจรอเบิร์น
-----------------------------------
ท่าน keang วันหลังสั่งอะไหล่จากนอก กระซิบมาบอกก็ได้น่ะ เพื่อหารค่าส่ง

-------------------
เรื่องกราวน์ด ยาวโคตรไปอ่านได้ที่
http://www.thaidiyaudio.net/index.php/topic,917.0.html
สมัครสามชิกก่อน แล้วถึงจะเห็นภาพ ผมยังอ่านไม่หมดเลย ปวดตับ

จริงๆ ผมว่า ถ้ากวาดๆ กราวน์ทั้งหมดไปลงดินให้หมดได้จะดีมั้ย
กราวน์แท่นก็มีปัญหาของมัน เยอะแยะ เอามาลงตัวถัง แล้วถ้า มีamp dac หรือตัวถังอื่นวางไว้ติดกัน มันจะยิ่งกวนกันรึเปล่าหว่า

แต่ตอนนี้เจอปัญหาว่ากวาดกราวน์ลงกระถางเนี้ยไม่ได้ต่อกับสายดินจริง เวลาwire สาย มันจะรกเกะกะ ถอดเข้าออกลำบาก จะลากลายทองแดงหลุดไปด้วย
คิดเล่นๆ อีกรอบ wire สายกราวน์ดใหม่ ให้ลง pcbอีกอันแล้วทำ connector pin ตามจำนวน เส้นกราวน์ที่มีแยกกันแต่ล่ะส่วน
แล้วเวลาลงก็หา จุดยึดpcb ดีๆให้ได้ เวลา ใช้ ก็ต่อconnector เข้ากับสายดินลงกระถาง
เวลาจะเอาออกมาโม ก็ถอดconnetor ออก จบ
คือเปลี่ยนจากวิธีบดกรีตรงหรือขันน็อตติดกับซิงค์มาทำหัวต่อแทน จะได้แกะมาโมง่ายกว่ามั้ยหว่า???

---------------------