Announcement

Collapse
No announcement yet.

โมให้ดีกันเยอะแล้ว มาม๊ะ....มาโมให้"เจ๊ง"กันดีกว่า

Collapse
X
 
  • Filter
  • Time
  • Show
Clear All
new posts

  • Originally posted by milestone
    ของพวกนี้โดนภาษีกี่ % เหรอครับ ?
    จริงๆมันมีเรทอ้างอิงว่าเป็นของประเภทอะไร
    แต่ในทางปฏิบัติอยู่ที่เจ้าหน้าที่ว่าวันนั้นเค้าอยากจะคิดว่าจัดอยู่ในประเภทไหน เก็บแบบไหน คิดกี่%
    ส่วนใหญ่ที่โดนกัน จะอยู่ในช่วง10-20%

    สมัยก่อนผมเคยสั่งปลั๊กไฟเกรดโรงพยาบาลเข้ามาเอง เจอเจ้าหน้าที่คิดเรทฝาปิดหน้า เป็นเรทของพลาสติคซะงั้น โดนไปบานเลย จะไม่เอาของออกก็ไม่ได้เพราะตอนนั้นบ้านเราไม่มีใครเอามาขาย ซึ่งตอนนี้ก็ยังไม่มีใครเอาฝาปิดตัวนั้นมาขายเหมือนกัน

    Originally posted by ManiacMaew
    note: wima mks เท่าที่ลองมา น่าจะให้เสียงแหลม ดีกว่า wima mkp แต่ช่วงupperbass ถึงกลางล่าง นี้จะน้อยกว่า
    *ยังไม่ได้ลองเทียบที่ค่าเดียวกันตำแหน่งเดียวกันชัวร์ๆน่ะ
    คร่าวๆน่ะ

    MKC
    โทนเสียงกระชับว่องไว เครื่องเคาะโลหะ เครื่องเป่าทองเหลือง ปลายเสียงบางช่วงของเครื่องโลหะอาจมีอาการบาดหูนิดๆตามธรรมชาติของเครื่องดนตรีขนิดนี้
    -- ระวังพวกเสียงเอสเซ่นของนักร้อง --

    MKS
    เหมาะกับพวกเพอคัสชั่น เครื่องเคาะให้จังหวะ เชลโล่ ไวโอลิน เบสไม่ตึงไม่หย่อนอยู่ในเรทกลางๆ

    MKP
    โทนเสียงค่อนมาทางทุ้มมากกว่าMKSหน่อยนึง เด่นที่โทนเสียงนุ่มนวลมีรายละเอียดหางเสียงบ้าง ฟังสบายกว่าMKSพอสมควร

    ข้อด้อยเมื่อเทียบกับยี่ห้ออื่น คือ เสียงอวบหนาเกินจริงไปหน่อย รายละเอียดหางเสียงยังถือว่ามีบ้าง ไม่ค่อยเด่นในเรื่องมิติ

    ข้อดี คือ มีของขายตลอด ไม่ต้องกลัวของหมด ราคาประหยัดคุ้มเงิน
    น่าเสียดาย รุ่นที่ให้เสียงดีๆก็หาแทบไม่เจอ กลายเป็นRARE ITEMไปซะงั้น

    Originally posted by ManiacMaew
    ช่วงนี้หมดเงินอยู่ได้แต่โล๊ะๆ ของเก่า มาใช้
    ในช่วงเก็บข้อมูล ในช่วงทดลอง ผมก็ไม่ได้ต่างกับคนอื่นหรอก หมดไปกับการทดลองซะเยอะ
    แม้กระทั่งน็อตที่ใช้ยึดpcb ยึดวอลลุ่ม เสารองPCB ยังลองเลย เพราะมันมีผลในภาพรวมด้วย
    หลายๆอย่างที่บางคนมองข้าม มันกลับให้ผลแตกต่างที่คาดไม่ถึงก็พบเจอมาตลอด

    ถ้าเล่นกับอะหลั่ยเล่นกับอุปกรณ์ไปจนถึงช่วงนึงจะพบเองว่า อะหลั่ยบางอย่างมันทำให้เราตันโดยที่เราไม่รู้ ทำให้หาทางไปต่อไม่ได้ แล้วเราจะให้บทสรุปด้วยตัวเองว่า ที่ไปต่อไม่ได้เพราะวงจรมันไม่ดีพอละมั้ง
    ซึ่งบางทีมันก็ถูกแต่ก็ไม่ถูกทั้งหมด บางทีมันก็ผิดแต่ก็ไม่ผิดทั้งหมด

    ถ้าใครสังเกตุดีๆ ผมจะเน้นให้ดูวงจรพื้นฐานของผู้ผลิตเป็นตัวอ้างอิง แล้วไปเทียบตัววงจรกับผู้ผลิตเครื่องแบรนด์หลายๆยี่ห้อ ถ้าเราพบจุดต่างให้เราสะสมจุดต่างเหล่านี้ไว้
    อนาคตเราจะรู้เองว่าจุดไหนคือทริคหรือเทคนิคของตัววงจร ทริคหรือเทคนิคของคนพัฒนาเครื่อง ซึ่งถ้าเราเข้าใจถึงที่มาที่ไปเราก็สามารถนำไปต่อยอดได้

    Originally posted by ManiacMaew
    อะไหล่เทพตามเคย
    อะหลั่ยพวกนี้ไม่ใช่อะหลั่ยเทพหรอกครับ มันคืออะหลั่ยธรรมดาที่มันให้เสียงเฉพาะตัวแบบโดยรวมดูดีกว่าพวกราคาต่ำกว่า
    มันยังไม่ใช่ตัวที่ดีที่สุด แต่มันอาจเป็นตัวที่คุ้มเงินในอีกระดับราคานึง ซึ่งของพวกนี้หายากในบ้านเราเท่านั้นเอง

    อะหลั่ยที่ผมใช้ ผมจะเน้นว่าต้องเด่นที่มิติก่อน น้ำเสียงเน้นที่โทนบาล๊านซ์ เรื่องน้ำเสียงเฉพาะบางช่วงไม่ได้สนใจเท่าไหร่เพราะเมคเองได้



    ฝากเรื่องนึง
    หลายๆคนใช้วิธีสังเกตุด้วยเรื่องน้ำเสียง ลักษณะเสียง เป็นหลัก

    ถ้าใช้วิธีนี้เป็นหลักเพียงอย่างเดียว เราอาจจะหลงได้โดยไม่รู้ตัว เพราะ เรื่องเสียงเปลี่ยนไปตามสภาวะอารมณ์นี่แหล่ะ

    แต่ถ้าหากเราเพิ่มจุดสังเกตุเรื่องมิติ เสริมเข้าไปด้วย จะช่วยเพิ่มความแม่นยำ เพิ่มจุดตรวจสอบได้มากขึ้น
    ซึ่งจะช่วยหลีกเลี่ยงไม่ให้ตกม้าตายตอนทำไบนเทสได้

    Comment


    • อยากปรึกษาทุกท่านหน่อยครับ
      ด้วยกระทู้นี้ทำให้ผมต้องไปรื้อเครื่องเสียงเก่าเอามาดูว่าจะทำอะไรเล่นได้บ้าง
      ก็สรุปว่าได้ IC เบอร์ TDA 8560Q ตาม DATA sheet นี้ครับ
      แล้วผมก็ได้ทำการ Hard Wire ตามวงจรนี้ครับผม



      โดยป้อนไฟ DC 18 V. เข้าไปครับ

      ปัญหาที่พบคือ เมื่อผมเสียบไฟใฟ้มันทำงานมันจะเงียบครับไม่มีเสียงอะไรออกมาเลย
      แต่พอถอดปลั๊กไฟแล้วประมาณ 3 วินาที จะมีเสียงออกมาแวบนึงอ่ะครับ
      โดยที่ผมก็เช็คแล้วว่าผมต่อวงจรไม่ผิดแน่ๆครับ ช่วยแนะนำหน่อยครับว่าผมต้องดูตรงไหนอีกครับ

      แล้วตรงขา 12 ตาม Datasheet บอกว่าเป็น diagnostic output มันคืออะไรเหรอครับ
      ตามวงจรที่ผมต่อนั้น เค้าไม่เห็นต่อเลยอ่ะครับ

      Comment


      • TDA8560Q
        2 x 25 W / 4 ohms stereo BTL car radio power amplifier with diagnostic facility
        2 x 40 W / 2 ohms stereo BTL car radio power amplifier with diagnostic facility
        datasheet > คลิก

        page4
        Diagnostic output (pin 12)
        DYNAMIC DISTORTION DETECTOR (DDD)
        At the onset of clipping of one or more output stages, the dynamic distortion detector becomes active and pin 12 goes low. This information can be used to drive a sound processor or DC volume control to attenuate the input signal and thus limit the distortion. The output level of pin 12 is independent of the number of channels that are clipping (see Fig.3).


        page5
        SHORT-CIRCUIT PROTECTION
        When a short-circuit occurs at one or more outputs to ground or to the supply voltage, the output stages are switched off until the short-circuit is removed and the device is switched on again, with a delay of approximately 20 ms, after removal of the short-circuit. During this short-circuit condition, pin 12 is continuously low.

        When a short-circuit across the load of one or both channels occurs the output stages are switched off during approximately 20 ms. After that time it is checked during approximately 50 ms to see whether the short-circuit is still present. Due to this duty cycle of 50 ms/20 ms the average current consumption during this short-circuit condition is very low (approximately 40 mA).

        During this short-circuit condition, pin 12 is low for 20 ms and high for 50 ms (see Fig.4).

        The power dissipation in any short-circuit condition is very low.

        TEMPERATURE DETECTION
        When the virtual junction temperature Tvj reaches 150 °C, pin 12 will become continuously low.

        OPEN COLLECTOR OUTPUT
        Pin 12 is an open collector output, which allows pin 12 of more devices being tied together.


        page11
        Diagnostic output
        Special care must be taken in the printed-circuit board layout to separate pin 12 from pin 1 and pin 13, to minimize the crosstalk between the diagnostic output and the inputs.

        Mode select switch
        To avoid switch-on plops, it is advised to keep the amplifier in the mute mode during >100 ms (charging of the input capacitors at pin 1 and pin 13).

        The circuit in Fig.7 slowly ramps up the voltage at the mode select switch pin when switching on and results in fast muting when switching off.



        ลองทีละอย่างครับ
        เริ่มจาก Mode select switch ก่อน เพราะเป็นตัวปิดเปิดวงจรMUTE ซึ่งตรงกับอาการที่คุณเจออยู่
        - Mode select switch ลองต่อขา11 ตามรูป7 หน้า11
        - Diagnostic output ลองต่อขา12 ตามรูป7 หน้า10
        Last edited by keang; 22 Sep 2010, 00:29:45.

        Comment


        • ซนรอบดึก แก้ทางrลำโพงไป+ เปลี่ยน on mc7809ไปเป็น st l7809
          ------------
          เรื่องวงจรก็พยายามดูอยู่น่ะ ดูวงจรที่ผู้ผลิตเขากำหนดมา ดูวงจรที่ผู้ผลิตเครื่องเสียงใช้
          ดูวงจรdiy ที่เผยแพร่ตามเน็ต ฟรีๆ
          2แบบแรกเปรียบเที่ยบแล้วต้องทำการบ้านเยอะหน่อย บ้างที่ผู้ผลิตก็โม้ค่าไว้เยอะ เพราะบางส่วนของวงจรก็ไม่ได้กำหนด test circiutไว้ว่าอะร
          โดยเฉพาะภาคจ่ายไฟไม่ได้บอกว่าแบบไหน
          วงจรdiy ส่วนใหญ่ คนออกแบบมันจะอธิบายรายละเอียดมาไว้บ้างแล้วว่าทำไม ถึงวางแบบไว้ยังงั้น ถ้าจะปรับให้เข้ากับsystem เราควรปรับแบบไหน
          จะใช้กับ โหลดกี่โอห์ม เอาgainเท่าไร

          ---------------------
          อยากจะบอกว่าเรื่องลำโพง ผมแยกเรื่องมิติไม่ค่อยออกเลย รู้สึกแยกยากยังไงไม่รู้ แต่ก็พยายามบาลานซ์ตรงนี้บ้าง
          รองมาก็เรื่อง การแยกชิ้นดนตรี focus แต่ล่ะเสียงและก็แต่ล่ะตัวโน็ตในเครื่องดนตรีชิ้นเดียวกัน ที่ยากเป็นอันดับ2สำหรับผม
          รองมาอีกก็เรื่อง ลักษณะเสียง แต่บางทีกับลำโพงผมก็จะเน้นตรงนี้หน่อย เพราะ sony srs db211 เสียงมันขุ่นมั่วมาก ผมเลยพยายามแก้ก่อน
          เป็นจุดที่อยากแก้ที่สุดแล้วของลำโพง ไปต่อกับอะไร มันก็ขุ่นมัว เหมือนมีหมอก บางทีเสียงก็ฟุ้งซ่า มันเป็นลักษณะเฉพาะตัว ของnichocon vr ที่เขาอัดเข้าไปส่วนหนึ่งด้วย
          ที่โมลำโพงบางส่วนก็เพื่อเลี่ยงส่วนนี้ของnichicon

          แต่ถ้ากับหูฟังผมจะซีเรียสเรื่องมิติมากๆ มันฟังออกง่ายกว่ากันเยอะตำแหน่ง เคลื่อนนิดเดียวนี้
          ต้องย้อนกลับมาฟังใหม่แล้ว ว่าเราหลอกตัวเองหรือมันเคลื่อนจริง

          ส่วนเรื่อง blind test ผมไม่เชื่อถือมานานแล้ว หูผมไม่ทอง ขนาดโมเองยังต้องฟัง5-6รอบเลยเพื่อหาจุดต่าง
          ฟังรอบหนึ่ง อย่างมากผมก็จับได้เสียงเครื่องดนตรีหรือนักร้องชิ้นเดียว ต้องฟังซ้ำๆ หลายๆครั้ง
          เพื่อจำตำแหน่งให้ได้หมด แล้วจินตนาการระยะห่.างระหว่างแต่ล่ะเสียง
          แล้วเสียงเครื่องดนตรีเดียวกัน ก็ต้องฟัง จับว่า โน็ตแต่ล่ะตัวมันห่.างกันแค่ไหน
          แบบเพลงขิม ฟังแล้วต้องแยกให้ได้ว่า เขาตีเส้นไหน ระยะต่างกันน่ะ ตีคนละเส้น นอกจากโน็ตคนละตัวแล้วตำแหน่งมันคนล่ะทีด้วย
          กล่องชุดไม่ต้องพูดเลย บาลานซมิติไม่ดี เหมือนพี่แก เอากลองทุกตัวมาวางไว้ใกล้ๆกันหมด
          อาการหนักนี้กล่องคนละตัวกันแต่เสียงมันจะออกมาจากจุดเดียวกันเลย
          เสียงนักร้อง ตอนนี้เริ่ม จับเสียงก้องตามมุมห้องได้แล้ว
          ทั้งหมดนี้ถือเป็นเรื่องปวดตับมาก

          เพิ่มอีกนิด blind test ท่านอยู่กับมันแปปเดียว หูไม่ทองพอแยกไม่ออก
          แต่ถ้าซื้อกลับมา อยู่กับมันนานๆ ฟังไปเรื่อย ท่านจจะรู้จุดดีจุดด้อยของมันแน่นอน
          Last edited by ManiacMaew; 22 Sep 2010, 01:07:13.

          Comment


          • blind test ต้องมีเพลงที่ฟังประจำและเราจำได้ว่าโฟกัสของดนตรีแต่ละชิ้นอยู่ตรงไหน พอทดสอบจะหาจุดต่างได้ง่ายขึ้นครับ เพราะมันจะมีอะไรที่ผิดหูอยู่

            ปล. ช่วงนี้ไม่ค่อยอยากโพสอะไร เหมือนตัวเองจะไปเหยียบขาคนอื่นหลายทีละ รู้สึกแปลกๆชอบกล

            Comment


            • Originally posted by ManiacMaew
              ไอ้ic หน้าตาแบบนี้มันเกรดไหนเนี้ย to 220 fp ใหญ่กว่า to220นิด แต่ขาเท่ากัน
              ตัวถังแบบTO-220 มีหลายอย่าง ทรานซิสเตอร์ ไอซี ไดแอค ไตรแอค ไดโอด วาริสเตอร์ ฯลฯ


              Originally posted by milestone
              blind test ต้องมีเพลงที่ฟังประจำและเราจำได้ว่าโฟกัสของดนตรีแต่ละชิ้นอยู่ตรงไหน พอทดสอบจะหาจุดต่างได้ง่ายขึ้นครับ เพราะมันจะมีอะไรที่ผิดหูอยู่
              ใช่แล้วครับ ใช้การจำตำแหน่งของชิ้นดนตรีว่าง วางตำแหน่งอยู่ตรงไหนของเวทีเสียงบ้าง
              ที่ยากก็จะเป็นพวกยี่ห้อเดียวกัน ราคาพอๆกัน เพราะมันจะใกล้เคียงกันมาก
              พวกต่างยี่ห้อ พวกราคาต่างกันมาก จะสังเกตุได้ง่าย เพราะมันจะไปคนละแนวกัน

              Originally posted by milestone
              ปล. ช่วงนี้ไม่ค่อยอยากโพสอะไร เหมือนตัวเองจะไปเหยียบขาคนอื่นหลายทีละ รู้สึกแปลกๆชอบกล
              มีแบบนี้ด้วยเหรอ หรือว่า ผมไม่เคยไปสนใจเลยไม่รู้ ??

              แต่หวังว่า คุณmilestoneไม่น่าจะไปสนใจเรื่องแบบนั้น เราแสดงความเห็นของเรา ในมุมมองของเรา
              เห็นโพสปรกติ สุภาพตลอดนี่นา

              Comment


              • แค่รู้สึกเล็กๆนะครับ

                กลับมาโมต่อดีกว่า ตัว DS ที่ผมโมเพิ่มเสียงมันแน่นแค่ตอนแรกพอเบิร์นไปเรื่อยๆเสียงมันดันใสปิ๊งเลย
                เสียงสะอาดแต่เนื้อของเครื่องดนตรีหายเรียบ แถมประกายเสียงมันปิ๊งเกิน ฟังไปนานๆแล้วล้าหู
                ผมควรไปแก้ตรงไหนดีครับ

                Last edited by milestone; 22 Sep 2010, 15:15:21.

                Comment


                • อีกเรื่อง Datasheet ของ opamp มันเป็นที่มองจากด้านบนหรือด้านล่างครับ กลัวจะจัมป์ขาผิดด้าน
                  ผมว่าจะถอดรีเรย์ออก แล้วจัมป์ขาด้วย R 47.5 โอห์มจากใต้ opamp ไปลงใต้แจ็คเลย ยังลังเล ว่าจะใส่ขาไหนครับ

                  Comment


                  • มี2วิธี นำเสนอ

                    1. ปลดประจำการ "ตัวเขียวด้านขวา" ครับ
                    nichiconเขียว ปรกติเน้นแต่กลางโปร่งๆบางๆ เอามาใส่ที่ภาคจ่ายไฟยิ่งโปร่งบางมากขึ้นไปอีก

                    2. ข้างๆออปแอมป์ ขา4กับขา8 จะมีCฟิลเตอร์ไฟเลี้ยงออปแอมป์อยู่ขาละ1ตัว
                    ( จำไม่ได้ว่ารูปอยู่หน้าไหน จะมีเขียนขั้ว+-ของตัวCกำกับไว้ที่รูปให้แล้ว )
                    ของเดิมเค้าใส่เป็นแบบCeramic SMDมา ถอดออกแล้วใส่แบบอิเลคทรอไลติคแทน
                    ชอบเสียงของnichiconเขียว ก็ใส่ได้เพราะยังงัยก็เบสมากกว่าCeramic SMDอยู่แล้ว

                    DSสภาพเดิมๆเองมีกลางเยอะอยู่แล้ว เบสมีให้สัมผัสบ้างแต่เป็นแบบบางๆไม่มีน้ำหนัก
                    -- ถ้าใส่nichiconเขียว จะช่วยเรื่องโทนเสียงทุ้มได้น้อยหน่อย --





                    ------------------------------------------------

                    - pin layout ที่รูปเค้าจะมีบอกว่า เป็นมุมมองแบบไหน TOP หรือ BOTTOM ครับ
                    - R ใช้ได้ตั้งแต่ 50-220โอห์ม แนวเสียงก็จะเปลี่ยนตามค่าไปบ้าง
                    Last edited by keang; 22 Sep 2010, 15:38:42.

                    Comment


                    • Simic จะเต็มแผงอยู่แล้วเสียงยังบางใสอยู่อีก เศร้านะเนี่ย
                      ควรเปลี่ยนเป็นของอะไรดีครับ ช่วยเสนอแนะหน่อยครับ

                      Comment


                      • อ๋อ to-220fp ตัวในรูป เป็นรูปแทนของ
                        พวก78xx อ่ะ ที่ farnelเขาลงไว้ (ปัจจุบันเปลี่ยนชื่อไปเป็นelemant14)

                        เปิดดาต้าชีทดูแล้ว ตัวมันจะใหญ่กว่า to-220 นิดหน่อย
                        แต่ขนาดและระยะระหว่างขามันเท่ากัน คือใส่แทนของเดิมได้ ถ้าด้านบนไม่ไปเบียดอะไหล่ตัวอื่นอ่ะน่ะ

                        ---------------
                        กลับมาโมต่อดีกว่า ตัว DS ที่ผมโมเพิ่มเสียงมันแน่นแค่ตอนแรกพอเบิร์นไปเรื่อยๆเสียงมันดันใสปิ๊งเลย
                        เสียงสะอาดแต่เนื้อของเครื่องดนตรีหายเรียบ แถมประกายเสียงมันปิ๊งเกิน ฟังไปนานๆแล้วล้าหู
                        ผมควรไปแก้ตรงไหนดีครับ
                        เปลี่ยน nichicon es ไปเป็น kz หรือ vr หรือยี่ห้อ nippon ไปเลย
                        อีกทีก็ใส่bicap (แค่จุดเดียวก็พอแล้วมั้ง)กลับในจุดที่เอาออกด้วย wima mkp (ไม่เอาmksเดียวอาการหนัก) หรือ evox mmk หรือ cdet แบบในกระทู้โมลำโพงผม(แต่ตัวนี้ไม่ชัวร์แต่คิดว่าเสียงแน่นกว่า mks)
                        ถ้าใส่กลับจุดเดียวเปิดดาต้าชีทดูก่อนว่าไม่ใช่จุดที่แบ่ง ชาแนลซ้ายขวาไปแล้ว

                        elna เสียงมันก็ไม่ได้แน่นมากหรอกครับ ผมว่าน่ะ ถ้าใช้ elna+ nichiconแล้วต้องหายี่ห้ออื่นมาบาลาซ์ด้วยอีก
                        โดยเฉพาะnichon es หรือ fw นี้จะอัดค่า ไปมากเท่าไรก็ไม่ค่อยช่วยอะไรเลย

                        แถว ce5 ลองเปลี่ยนดูครับ เห็นไม่ชัด แต่น่าจะเป็นภาคจ่ายไฟอนาล็อคdac
                        ตรงนั้นรู้สึกเปลี่ยนไปแล้ว ยี่ห้ออะไรผมดูไม่ออก ลองหายี่ห้ออื่นมาแทนดู น่าจะเห็นผลหนักอยู่จุดนั้น
                        ลองพวกยี่ห้อยุโรปหรือเมกา แบบที่คุณkeang เคยบอกดูก็ได้

                        -----------

                        วิธีดูopamp ขาหนึ่ง บนตัวบอร์ดจะมารค์ลายทองแดงเป็นสี่เหลี่ยม
                        บนตัวopamp ขา1 จะปั้มรูวงไว้

                        ขา8อยู่ด้านตรงข้าม แค่นั้นล่ะครับ
                        ---------
                        เดี๊ยวจะจั้มจากขาopamp ไป แจ็คอยู่แล้ว ลองทำก่อน แล้วค่อยกลับมาดูว่าเสียงยังบาดหูอยู่มั้ยด้วย
                        ค่อยแก้cอีกที เพราะตรงนั้น r อาจจะช่วยได้บ้าง อาจจะไม่ต้องเปลี่ยนc

                        ----------------
                        edited เห็นวิธีแก้อีกจุด โดยไม่ต้องไปยุ่งกับที่จุดที่โมไปแล้ว

                        ที่วงแดงไว้ในรูปน่าจะเป็น c ไฟเลี้ยง opamp เช้คให้แน่ใจว่าเปมันต่อกับ ขา4 อีกส่วนต่อกับขา8รึเปล่าอีกด้วย
                        ลองถอดออกแล้วเปลี่ยน แล้วเป็นค่า33-47 ลองไม่เอา elna หรือ nichiconน่ะ
                        ( พวกยี่้หอ luxon หรือ jmicron ที่ ติดมากับพวก การ์ดcreative ผมว่า เสียงมันก็แน่นกว่า nichocon faน่ะ)
                        แล้วก็ถอดไบแคปออก

                        หรือจะลอง nichicon vr ก็ได้น่ะ เอาจากผมได้ เหลือบาน เพราะเอา nippon กับ evox ไปบาลานซ์ กับ fwแทนแล้ว
                        Last edited by ManiacMaew; 22 Sep 2010, 16:30:54.

                        Comment


                        • เสียงของSilmic เบสไม่เยอะน่ะครับ เบสจะมีบ้างแต่ไม่ใช่แบบสไตล์เมกาที่ใหญ่และมีพลัง
                          คนใช้Silmicจะชอบที่เสียงกลางกับแหลมที่ดูนุ่มนวลไม่กัดหู

                          ภาคจ่ายไฟ
                          โดยส่วนตัว ผมจะเน้นอะหลั่ยที่มีคุณสมบัติจ่ายแบบHigh Current, High Ripple
                          ถ้าให้แนะนำก็คงไม่พ้น Sprague, Mallory (บ้านเราหาแบบตัวตั้งใส่ในPCBยากมาก), ROE, Nippon Chemi-Con สีน้ำเงิน

                          ยี่ห้อSprague Mallory ROE พวกนี้ราคามันก็ประมาณนี้ละครับ ตัวละ30-80บาท(ส่วนใหญ่จะไม่เกิน50บาท) ราคาสูงกว่าของญี่ปุ่นหน่อย
                          ของพวกนี้จริงๆถ้าเทียบกับต่างประเทศก็ถือว่ายังถูก เพราะของที่ขายๆกันเป็นของที่ได้มาแบบOFFER ไม่ใช่ตั้งใจสั่งมาโดยตรง
                          เคยให้เพื่อนไปหิ้วที่เมกา 100ไมโคร 100โวลท์ รุ่น80D ตัวนึง300+ ต้องใช้4ตัวก็หน้ามืดไปแปปนึง

                          ล่าสุดก็เพิ่งสั่งซื้อผ่านเนท Sprague รุ่น80D 15,000uF 16v ขายเป็นแพค4ตัว$16.99 + ค่าส่งอีก$14 คิดแล้วตัวละ255บาท
                          บ้านเราไม่มีขาย+จำเป็นต้องใช้ ก็ไม่มีทางเลือกที่ดีกว่านี้แล้วละ
                          วันไหนไม่มีไรทำ เบื่อๆชีวิต จะได้เอามาเล่นสนุกเป็นเพื่อนคุณmachine_A
                          Last edited by keang; 22 Sep 2010, 16:21:01.

                          Comment


                          • ค่า15000uF ถ้าบ้านเรามีผมว่าราคาต่อตัวมันน่าจะ200+น่ะ
                            ขนาดค่า nippon สีส้ม ของเมกา3300uf ร้านชายยัง280เลย
                            (ไม่เอา พวก lxz kmhน่ะ พวกนั้นคู่ ล่ะไม่ถึงร้อยเลยมั้ง)
                            nicchon he หมื่นไมโครร้านmaster componentก็ยัง 100กว่าบาทเลย T_T

                            -----------
                            ภาคจ่ายไฟ dac wm8776 จริงๆ ผู้ผลิต(WM) แนะนำให้ใช้แบบlow esrน่ะ

                            -----------------
                            การ์ดตัวนี้ มีdts connect แต่ดันไม่มีdolby headphone เซงขาหูฟังอย่างผมมาก คงไม่ได้ซื้อมาลองโม

                            Comment


                            • Sprague 80D Electrolytic Snap-In




                              Polystyrene and Foil Hermetically Sealed Round Tubular




                              -----------------------------------------------------


                              ทริคเล็กๆสำหรับตัวเก็บประจุแบบฟิลม์

                              หลายๆบริษัที่ทำตลาดตัวเก็บประจุ โดยไม่มีโรงงานผลิตของตัวเอง

                              พูดง่ายๆ คือ จ้างโรงงานอื่นผลิตแล้วแปะยี่ห้อของตัวเองเข้าไป
                              - สั่งสเปคแบบพิเศษตามที่ตัวเองต้องการ เช่น จากของเดิมขาลวดทองแดงก็เปลี่ยนเป็นสายไฟ
                              - ตามสเปคเดิมที่โรงงานนั้นผลิตอยู่แล้ว

                              พวกนี้จะมีวิธีดูคร่าวๆว่า ยี่ห้อไหนให้โรงงานไหนผลิต หรือ ยี่ห้อไหนผลิตจากโรงงานเดียวกันบ้าง
                              - ดูรูปพรรณสัณฐานภายนอก รูปร่างหน้าตา สีสัน
                              - ดูจากเนื้อวัสดุที่ใช้
                              - ดูลักษณะโค๊ดต่างๆที่พิมพ์บนตัวเก็บประจุ
                              - ฟังเสียง โดยสังเกตุได้จากโครงสร้างฐานเสียง ลักษณะเสียง

                              คราวหน้าเดินดูอะหลั่ย ลองสังเกตุเรื่องพวกนี้เพิ่มสักนิด อาจจะได้ของติดมือในราคาไม่สูงเว่อก็ได้
                              Last edited by keang; 23 Sep 2010, 11:32:15.

                              Comment


                              • ราคาก็เป็นปัญหาส่วนหนึ่ง

                                แต่ปัญหาที่ใหญ่กว่าคือ ไม่มีปัญญาหา ของหายากหาจากไหนกันครับเนี่ย -*-

                                พยายามทำให้มันดีที่สุดครับเพราะได้มาถูกมาก เลยไม่ค่อยเสียดายค่าโม

                                Asus Xonar DS + 2107AP 1000 บาทถ้วนแถมส่งถึงที่ทำงานเลยครับ ^^

                                Comment

                                Working...
                                X