เอาใจช่วยคับ
Announcement
Collapse
No announcement yet.
เมื่อผมริจะเป็นพวกแมวน้ำ...
Collapse
This is a sticky topic.
X
X
-
หุหุ ไตรภาคที่ ๒ รอชมครับ
แมวน้ำน้องใหม่รายงานตัว
เพิ่งไปถอยมาวันนี้ กิ๊บ ๆ เลย Bigwater 745Last edited by illusion_tx; 16 May 2010, 16:04:51.
Comment
-
กลับมาต่อแล้วครับ ขอบคุณสำหรับท่านที่ติดตามให้กำลังใจด้วยครับ
หลังจากผมทะลวงรูของฮี๊ตซิ้งค์มาตรฐาน ซึ่งมีรูเป็นกรวยให้บานแหกออกเป็นเบ้าได้อย่างทุลักทุเล ในการนี้ได้เลือดมาหลายหยด เนื่องจากดอกสว่านที่ควานและทะลวงมันด้วยความเมามัน สะบัดมาโดนเท้าที่เหยีบมันเอาไว้ และผมใส่รองเท้าแตะในขณะนั้น ชุ่ยมากเลยครับ เพียงแต่หยิบรองเท้าผ้าใบคู่เก่าๆมาสวม มันก็จะช่วยป้องกันไม่ให้บาดเจ็บได้ ท่านที่ริจะทำตามจึงควรระมัดระวังการใช้เครื่องมือด้วยนะครับ
ต่อไปผมจะทำการตัดปีกมัน ผมสังเกตุว่าไอ้เจ้าฮีตซิ้งค์นี้มีปีกมากมาย มันคงจะบินเก่ง หากเราตัดปีกมันออกบ้าง มันก็จะคงบินไม่ได้ วิธีนี้ผมจำมาจากตอนเป็นเด็ก มีคนเขาตัดขนปีกของนกแก้วกันมันบินหนี มันบินไม่ได้จริงๆครับ ได้แต่เกาะไหล่เจ้าของและโผไปมาในระยะสั้นๆเท่านั้น
ปีกแรกที่ตัดออกด้วยคีม ไขควง ตะไบ สารพัดวิธีที่จะหาได้
ปีกของมันทีหลุดกระจายออกมา ยับเยินมาก เพราะวิธีการห่วยแตกสิ้นดี ใช้แต่เครื่องมือไม่ถูกต้อง และแรงปานกระบือ
Last edited by korakot; 21 Feb 2012, 20:12:18.
Comment
-
ต่อไปก็เจาะรูตรงที่ลุยปีกมันออกไปแล้ว ความจริงปีกแรกที่ยับเยินนั้น ผมเจารูมันก่อนจะเอาคีมสอดเข้าไปบิดปีกมันทิ้งนะครับ ใครสังเกตุรูปการตัดปีกครั้งแรกให้ดีๆ จะเห็นรูแล้วล่ะ
รูด้านหนึ่ง เจาะให้ต่ำเข้าไว้ กะว่าทะลุไปก็ตรงกับก้นเบ้าของมันพอดี ผมเจาะด้วยสว่านดอกเล็ก ไล่ขึ้นมาจนถึงขนาดสามหุน
มองจากด้านในของมัน จะเห็นรูอยู่ชิดก้นเบ้าเลย (สังเกตุรูปดีๆนะครับ ผมสลับรูปกันเนื่องจากในตอนแรก ผมทำมันข้างเดียวก่อน ทั้งตัดปีกแล้เจาะรู เมื่อหาวิธีตัดปีกที่ดีได้ จึงนำมาคั่นไว้ให้รู้วิธีก่อน)
Last edited by korakot; 21 Feb 2012, 20:17:12.
Comment
-
ต่อไปเจาะอีกข้างหนึ่ง คราวนี้ให้รูมันอยู่เกือบถึงปากเบ้า ขณะที่เจาะทั้งสองข้างนี้ ผมตัดปีกมันออกข้างละสองปีก เท่านั้น หยดน้ำที่เกาะอยู่มากจากการเอาน้ำล้างคราบเศษสว่านออก
มองจากด้านบนของผลงานในขั้นแรก ตัดปีกข้างละสองปีกและเจาะรูสองด้านแล้ว
รูปรูอีกด้านเทียบกับรูปบน จะได้เห็นว่ามันอยู่ตำแหน่งต่างกัน
Last edited by korakot; 21 Feb 2012, 20:20:00.
Comment
-
ผมพบว่า ปีกที่ตัดออกไปข้างละสองปีกนั้น ยังไม่พอแก่ความต้องการ จึงลุยมันออกอีกข้างละสองปีก เพราะต้องการเนื้อที่มากกว่า และนำเอาหัวต่อทองเหลืองซึ่งซื้อได้ที่ร้านวัสดุก่อส้รางทั่วไป มันเป็นหัวต่อที่เอาไว้ใช้ทำอะไรก็ไม่รู้ ราคาตัวละ 30 บาท สองตัว 60 บาท ผมคิดว่าผมโดนฟันแล้วล่ะ อาเจ๊ที่ขายแกนึกราคานานทีเดียวกว่าจะบอกราคาผมมา แต่ร้านมันอยู่ใกล้ๆ คิดว่าประหยัดกว่าไปตระเวณหา เสียค่ารถเมล์อีก เอาหัวต่อนั้นลองเสียบเข้าไปในรู อ้อหัวต่อนี้มีขนาดสามหุนเท่ากับรูที่เจาะไว้นะครับ
เสียบสองข้างแล้วหน้าตาเป็นอย่างนี้
Last edited by korakot; 21 Feb 2012, 20:21:48.
Comment
-
หลายท่านคงนึกออกแล้วว่าผมจะทำอะไร ใช่แล้วครับมันคือ Water Block ที่ดัดแปลงจากฮีตซิ้งค์ดั้งเดิมของ P4 ผมคิดว่า ลำพังฮีตซิ้งค์และพัดลมเดิมของมันนั้น ก็พอจะใช้การได้ในการระบายความร้อน เพียนงแต่เสียงพัดลมมันดัง หากเราใช้มันในลักษณะ ทรีอินวัน หรือหนึ่งคนสามเพศ เอ๊ยม่ายใช่ ใช้ในลักษณะทั้ง Water Block + Heatsink + Fan สามแรงแข็งขัน มันน่าจะดีกว่า อีกทั้งพัดลมเดิมของมันก็ยังคงใส่ลงไปได้ หรือจะเปลี่ยนพัดลมเป็นแบบที่เงียบกว่า มันอาจจะใช้งานได้ดีกว่าของเดิม
Water Block ดีๆที่ผมพบภาพจากเวบต่างๆ บางอันก็ไม่ได้มีเนื้อที่ภายในที่รับน้ำ ใหญ่กว่าชุดที่ผมทดลองทำนี้มากนัก บางรายที่ประดิษฐเอง ก็พยายามหากลวิธีให้น้ำสัมผัสกับทองแดงภายใน Water Block ให้มากที่สุด เนื่องจากมันเป็นการใช้น้ำเพียงอย่างเดียว บ้างก็สร้างครีบสร้างฟินเพื่อช่วยเพิ้มพื้นที่ภายใน แต่สำหรับตัวที่ผมทำทดสอบนี้ ผิวภายในมันขรุขระจากปลายดอกสว่าน มันจะช่วยเพิ่มพื้นที่สัมผัสไหมนะ ผมก็คิดยังไม่ออก
มันหมดวันพอดีครับ ตัวที่ทดลองนี้ถือเป็นเดโม ยังไม่เสร็จครับ ผมต้องนำไปให้ร้านแอร์เขาเชื่อมท่อทองเหลืองเข้ากับตัวฮีตซิ้งค์ทองแดงภายใน ส่วนภายนอกที่เป็นอลูมิเนียม ผมกะจะใช้กาวอีป็อกซี่อุดมันกันรั่วอีกชั้น ส่วนด้านบนก็คงหนีไม่พ้นอครีลิก ตัดเป็นวงกลมแล้วยึดด้วยกาวอีป็อกซี่ หรือผมจะเชื่อมปิดมันด้วยแผ่นทองแดงกลมๆทึบๆเลย ยังนึกไม่ออกครับ ขอนั่งพิจารณามันดูอีกสักพัก ผมอาจจะขัดเบ้ามันให้เรียบสวยมากกว่านี้อีกสักหน่อย วันนี้จะไปเดินโฮมโปร หาไอเดียใหม่ๆครับ ได้การอย่างไรจะนำมาเสนอต่อไป จบภาค 2 ก่อนครับ
ใส่หัวต่อแล้วด้านหนึ่ง
อีกด้านหนึ่ง
มองจากข้างบน (ขออภัยที่หัวแม่เท้าติดเข้าไปด้วย)
Last edited by korakot; 21 Feb 2012, 20:23:40.
Comment
Comment