Announcement

Collapse
No announcement yet.

D.I.Y.ตอน เครื่องขยายเสียง

Collapse
X
 
  • Filter
  • Time
  • Show
Clear All
new posts

  • เล่าเรื่องไร้สาระ ที่ทำกับPre 6dj8ต่อ (จริงๆควรเรียกecc88มากกว่าน่ะ ยังไม่มีหลอดที่ปั้ม6dj8มาลองเลย ปั้มecc88หมด)

    -ก็ว่าทำตอนลองกับหูฟังแล้วมันแปลกๆ ทั้งแบบ preหลอด>>>buffer buf634 >> หูฟัง หรือ preหลอด>>แอมป์หูฟัง(simply)>>หูฟัง
    เสียงมันหลอนแปลกๆ จังหวะที่เสียงจางลง หางเสียงจะเลื่อนตำแหน่งมาด้านหน้า ซึ่งมันไม่ปรกติเลย ฟังกับลำโพงจะลำบากหน่อย แต่มันก็แอบกวนใจมาตลอด
    ก็รู้ว่าวงจรนี้มันinvert phase(เมื่อเทียบกับขาเข้า) แต่ดันไม่เคยลองกลับสายลำโพง พอลองกลับแล้วถึงบางอ้อเลย

    ตำแหน่งเบส-รูปวง-น้ำหนักเสียงก็ต่างกัน กลับสายแล้ว เบสก็ถอยไปด้านหลังขึ้น รูปวงshiftไปด้านหลังลำโพงมากขึ้น น้ำหนักฟังดูบางลงหน่อย
    แต่ไอ้อาการหลอนแปลกๆ ที่กวนใจมาสักพักหายแล้ว คือจังหวะเสียงจางลง มันถอยไปด้านหลัง

    ทดสอบอีกแบบคือเอานิ้วแตะขอบหรือconeตอนเบสมา แล้วสังเกตว่ามัน ชักเข้าหรือออกแรงกว่ากัน

    อาจจะต้องเช็คด้วยheadphoneย้ำอีกรอบ

    เล่าเรื่องธรรมดาต่อ
    -เทียบ จุดไส้หลอด ac6.4volt ac(เกินมานิดไฟบ้านแรง)กับdc -6.00(ic kia7906, dio mur xxx ,c filter ขาเข้า rubycon yk ขาออกnichicon pw)
    มันไม่ใช้แค่ต่างแนว แต่ต่างคุณภาพกันเลย ในเรื่องdynamic มิติ ตำแหน่ง image เสียง จุด แบบacดีกว่าหมด อาจจะด้อยเสียงแหลมกว่าหน่อย
    แบบdcเสียงฟังดูเรียบๆไปเลย แต่แบบdc ฮัมยากกว่านิด

    คงใช้แบบacแน่ๆแล้วล่ะครับ ที่เหลือไม่ต้องเทียบแหล่ะ ประหยัดอะไหล่กว่าด้วย แบบdcจะทำให้ดีเท่านี้ น่าจะลำบากเพราะอะไหล่หลายตัว ใช้ของดีจะหมดหลายตังค์

    -เทียบ bias แบบRตัวเดียวกับ CCS(่fet j112+lm334+r+ยังมีปัจจัยเรื่องสายwireอะไรอีก)
    คร่าวๆ
    แบบRได้หางเสียงแหลมกว่าหน่อย ฟังดูอุ่น มีamibientกว่านิด
    แบบccs back groundสะงัดกว่า ตำแหน่งเสียงแม่นยำกว่า imageชัดกว่า
    ต่างแนวกันนิดหน่อย เดี๊ยวลองเบิร์นต่อสักพัก แล้วจะเปลี่ยนแบบccsกลับไปเทียบให้ชัวร์ขึ้น กันเมา

    Comment


    • ^^ สำหรับไฟheater ถ้ามี 317 หรือ 337 เหลือๆอยู่ ลอง regulate DC volt ให้ได้ตามสเป็คหลอด 6.3V หรือจะให้เท่าๆกับ AC 6.4V ก็ยังได้
      แล้วลองดูครับ

      Comment


      • - เรื่องตำแหน่งเสียงที่บอกว่า "เสียงจางลง มีเดินหน้า/ถอยหลัง"
        จริงๆแล้ว จะดังมากดังน้อย ตำแหน่งของชิ้นดนตรีนั้นมันต้องอยู่ที่เดิม ไม่ใช่เปลี่ยนไปตามระดับความดังของเสียงครับ

        ถ้ามันเลื่อนไปมาแบบที่บอก แสดงว่า เราไปจับน้ำเสียงแล้วมีจินตนาการตามเสียงดนตรีแทรกปนเข้ามาด้วย (ประมาณว่าเสียงเบาก็คิดว่ามันอยู่ไกล เสียงดังกว่าก็คิดว่ามันอยู่ใกล้)
        หรือ เครื่อง/ชุดที่ใช้ให้โฟกัสชิ้นดนตรีไม่นิ่ง

        - ไส้หลอด แบบDC
        ใช้Cฟิลเตอร์หน้าหลังค่าเท่าไหร่ ตัวหลังลองใช้Cฟิลม์ ค่า1uF : น่าลองเทียบทั้งแบบไฟบวก/ไฟลบ
        ลองแบบที่คุณdracoVบอกไว้ด้วยก็ดีครับ จะได้ตัดเรื่องได้เปรียบไฟมากน้อยกว่ากัน
        ไฟบ้านสูงเกิน ใช้จุดไส้หลอดด้วยAC เดิมๆก็6.4Vละ ระวังเรื่องไฟกระชากด้วย : ไม่รู้เหมือนกัน ไส้หลอดมันได้ไม่เกินกี่โวลท์

        - Rเพลท
        ใช้Rยี่ห้อไร ชนิดไร กี่วัตต์

        ผมถามเรื่องรายละเอียดมากหน่อย เพราะ จะได้คาดเดาเรื่องเสียง อันไหนมาจากเอกลักษณ์เสียงของยี่ห้ออะหลั่ย อันไหนมาจากค่าของตัวอะหลั่ย อันไหนมาจากรูปแบบวงจร
        Last edited by keang; 24 May 2014, 10:05:47.

        Comment


        • -ไม่แน่ใจครับ วิธีสังเกตของผมอาจจะมีปัญหา เดี๊ยวรอเช็คอีกที แต่พอต่อลำโพงแบบไม่กลับเฟสผมรู้สึกมันแปลกๆจริงน่ะๆ อาจจะอธิบายไม่ค่อยเป็นหน่อย

          -ครับ ตัวก่อนเข้า7906 2200uf/25 rubycon yk ตัวหลัง nichicon pw 470/16
          337นี้มีnationขาทองเลยล่ะ :P หรือmotoตัวพลาสติคธรรมดา ไม่รู้มีค่าRพอดีป่าว ถ้าไม่มีนี้ต้องรอไปบ้านหม้ออีกรอบก่อน
          แต่ถ้าจะเทียบ + กับ- คงต้องหา317 337ของยี่ห้อที่มันหาง่ายกว่านั้นหน่อยมาลอง

          -R plate ใช้ 5k royal ohm 1% 1/4watt ตัวสีฟ้าๆ คนขาย(eps)บอกเป็นcarbon film แต่ผมว่ามันmetal filmน่ะ :/
          หรือว่าroyal ohmสีฟ้ามีเป็รcarbon film

          edit:อ้อ Rในชุด ccs fet+lm334 ตัวที่เซ็ทค่าccsของlmm334ก็ใช้แบบเดียวกันน่ะ ค่าเท่าที่คุณdracovว่ามา (ลืมแล้ว) 1% 1/4watt จากร้านepsเหมือนเดิม ตัว 5k ที่เอาไปช่วยดึงให้B+มันลดลงก็ 5K ที่ซื้อมาพร้อมกันกับตัวที่ไว้ทำR plateแบบเดียวๆ

          Rทุกตัวหันทางเดียวกันหมด ขีดน้ำตาลที่บอกว่าเป็น1%หันไปทางศักย์ต่ำกว่า (แต่ผมไม่เช็คทางสาย-ลวดwireเลย)

          จริงๆก็ R royal 1% 1/4wattหมดทุกตัวแหล่ะ (เว้นแต่บอร์ดbuffer แต่บอร์ดนั้นก็ไม่ได้ใช้ในการทดลองรอบหลังแล้ว ถอดเก็บไป
          แล้วเอาR outputมาต่อลงบนตัวบอร์ดหลอดเลย) จะว่าไปผมลืมถ่ายรูปด้านล่างมาให้ดู อยู่นี้น่า....
          Last edited by ManiacMaew; 24 May 2014, 16:21:26.

          Comment


          • Originally posted by dracoV View Post
            --------------------------

            ว่ากันตามทฎษฎี Non-invert signal กับ Invert signal (จริงๆก็มีผลกับลักษณะเสียงนะ)
            ... ตามหลักการ เสียงจะไม่ได้มาแค่คลื่นลูกเดียวแล้วหายไป
            แต่จะมาเป็นคลื่นต่อเนื่อง แสดงด้วยกราฟได้แบบนี้



            สีเขียว - Non-invert
            สีส้ม - Invert

            กราฟรูปบนแสดงที่ ณ เวลาเดียวกัน (t)
            แต่ถ้าดูรูปล่าง แยกเอา Invert signal มาดู ที่เวลา +(t/2)
            เมื่อเทียบกับแบบ Non-invert รูปบน ก็จะเห็นว่าเหมือนกัน
            หรือง่ายๆ ก็คือ Invert signal จะเท่ากับ Non-invert signal ที่ delay ไป t/2

            ตามทฤษฎี ก็จะไม่แตกต่าง เพราะถือว่าเวลา t/2 มันสั้นมาก หูคนจับความแตกต่างไม่ได้
            แต่ทางปฏิบัติก็อาจจะต่างหรือไม่ต่างก็แล้วแต่ เพราะนอกจากความถี่แล้ว เสียงก็ยังมีส่วนประกอบอื่นๆอีก
            และเสียงมันเป็น 3มิติน่ะ



            ---------------
            317, 337 ลองดูที่ NPE หรือ สหพิพัฒน์ ดูครับ

            อ้อ อีกอย่างถ้าจะลองเทียบ CCS กับ R คงต้องทำส่วนปรับไบแอส cathode ให้ปรับค่าได้ เวลาทดลองก็ต้องปรับ Vplate ให้เท่ากันในการทดลองต่างๆ
            ถึงจะได้ผลแน่ชัดขึ้นครับ
            เพราะตอนนี้คุณแมวใช้ CCS+R 5k กับ ลอง Rเปล่าๆใช่ไหม
            Last edited by dracoV; 24 May 2014, 12:14:50.

            Comment


            • กำ คนเรา เปลี่ยนavatarไว เหมือนเปลี่ยนใจ เมะssนี้ผมไล่ดูไป2เรื่องเอง

              ----------

              ใช้แบบที่ว่าแหล่ะครับ ไม่มีR1kปรับค่าได้สต็อคไว้ครับ เลยยังไม่ได้แก้ ตรง r cathode
              จริงๆ จะทดลองให้เป็นระบบต้องมีอะไหล่พร้อมกว่านี้ บางที่ผมขี้เกียจไปบ้านหม้อ+ประหยัดงบ ก็กวาดของเหลือให้มันพอทดลองได้
              ขาไปบ้านหม้อนี้ก็ไม่ได้ลำบากหรอก แต่ถ้าเดินเพลิน กลับหลัง4โมง รถติดอิบอายเลย ทั้งทีไม่ได้ห่.างจากบ้านผมเท่าไรเลยน่ะนั้น

              Comment


              • Originally posted by ManiacMaew View Post
                เล่าเรื่องไร้สาระ ที่ทำกับPre 6dj8ต่อ (จริงๆควรเรียกecc88มากกว่าน่ะ ยังไม่มีหลอดที่ปั้ม6dj8มาลองเลย ปั้มecc88หมด)
                เบอร์เดียวกันครับ...โค็ตเบอร์เมกากับยุโรบครับ

                Comment


                • R Royal สีฟ้า 1% สีน้ำตาล 5% ครับ ไม่แน่ใจดูแถบสีเอาครับ

                  Comment




                  • ขยายความเพิ่มเติม ที่เอาเรื่องสัญญาณ Invert / non-invert ที่เคยอธิบายไว้คร่าวๆมาลงอีกที
                    ก็เพราะจะให้ดูว่าสัญญาณ Invert และNon-invert ถ้าเป็นเฟสเดียวกันทั้งสัญญาณ(ทุกความถี่ในสัญญาณ) และเหมือนกันทั้งซ้ายและขวา
                    จะไม่มีผลต่อลักษณะของเสียงที่เราได้ยินจากลำโพง
                    คือไม่ใช่ว่า สัญญาณ Invert แล้วคนร้องจะวิ่งมาหน้าเวที ส่วน Non-invert คนร้องวิ่งกลับไปอยู่ข้างหลัง คนร้องก็ยืนอยู่ที่เดิมนั่นแหล่ะ

                    กรณีที่จะมีผลก็คือ วางลำโพง/ต่อลำโพงสลับข้างซ้ายกับขวา
                    เฟสจะมีผสก็เมื่อ ยกตัวอย่าง เช่น
                    - ซ้ายขวาเฟสไม่ตรงกัน
                    - ในสัญญาณเดียวกันออกมาพร้อมๆกัน แต่ถูกแยกช่วงความถี่ออกเป็นส่วนๆเช่นผ่านcross-over network
                    แล้วเฟสในแต่ละช่วงความถี่ที่แยกออกมาจากสัญญาณเดียวกัน ไม่ตรงกัน
                    - ...
                    - เป็นต้น

                    ให้ทำความเข้าใจก่อนนิดนึง ถึงการรับเสียงของคน ลักษณะพื้นฐานของเสียง

                    - เสียงที่คนได้ยินจะเดินทางผ่านตัวกลาง ในที่นี้คืออากาศ ในสูญญากาศก็ไม่ได้ยินเสียง
                    - เสียงเดินทางผ่านอากาศในรูป Transverse Wave ไม่ได้หน้าตาเป็นลูกคลื่นขึ้นลงแบบกราฟ
                    - สัญญาณเสียงทางไฟฟ้าจะถูกเปลี่ยนเป็นสัญญาณทางกลโดยลำโพง
                    - หูคนเรารับเสียงในรูปของแรงสั่นสะเทือน ไม่ได้รับในแบบคลื่นโดยตรง (คน ม่าใช่วิทยุ FM เน้อ 555+)
                    - สัญญาณเสียงทางกลที่คนได้ยิน จะถูกเปลี่ยนกลับเป็นสัญญาณทางไฟฟ้าโดยแก้วหูกับกระดูก3ชิ้นและกระบวนการในหู
                    เปลี่ยนเป็นสัญญาณส่งให้สมองไปแปลความอีกที
                    - การแปลความเช่นการระบุตำแหน่งของเสียง จะแปรในรูปกลุ่มของความถี่ บน Time domain

                    ให้ลองหาข้อมูลเพิ่มเติม เพื่อความเข้าใจ ถามอากู่ก็ได้
                    - Human sound perception
                    - การแปรความ/การระบุตำแหน่ง/... ของเสียงในคน อาจหาความรู้/พื้นฐานได้จาก stereophonic และ binaural

                    ไม่ต้องเข้าใจทั้งหมดก็ได้ แต่อ่านเอาหลักการมาใช้เป็นพื้่นความรู้/ความเข้าใจ จะได้กำหนดจุด/วิธีการ/แปรความ ในการทดลองได้

                    Comment


                    • ^
                      ขอบคุณมากครับพี

                      Comment


                      • ขอบคุณครับ ผมหาอ่านเพิ่มไม่ค่อยจะไหวแหล่ะ ตอนนี้ information overload หัวจะระเบิดเป็นโกโก้ครั้นเอา

                        ปวดกะบาลกับccsอีก เดี๊ยวต้องไปแก้มันใหม่ ว่าจะทำขาต่อขาเลย หรือลดช่วงลวดทองแดงลง
                        เพราะจากบอร์ดfet+lm334 ccsไปบอร์ดหลอด มันใช้ทองแดงแกนเดี่ยวhitachiเชื่อมกัน
                        มันเป็นปัจจัยแปรผันเพิ่มเวลาเทียบกับแบบRตัวเดียว

                        - สัญญาณเสียงทางไฟฟ้าจะถูกเปลี่ยนเป็นสัญญาณทางกลโดยลำโพง
                        ตรงนี้คาใจอยู่น่ะ ไม่ต้องใช้หูก็ได้เนื่องจากพวกนี้มันเป็นเรื่องการสั่น ถ้าเอามือจับที่โคนหรือขอบดอกจะรู้สึกได้ว่าต่างกันระหว่างต่อกลับเฟสทั้ง2ข้าง กับ ตรงเฟสทั้ง2ข้าง
                        คือตอนเบสมามันจะรู้สึกได้ว่า แบบไหน ชักออกแรงกว่า แบบไหนชักเข้าแรงกว่า
                        คือตอนแปลงจากคลื่นไฟฟ้าเป็นคลื่นเสียงตัวดอกลำโพงมันทำงานได้ตามอุดมคติรึเปล่า? (ในที่นี้หมายถึงในเชิงเฟสอย่างเดียวน่ะ)

                        ถามมมากเอง งงมากเอง ตัวเองก็ต้องอ่านมากตาม ปวดกะบาลแล้วฮ๊าฟ ขอพักดูการ์ตูนก่อน
                        ทำเครื่องเสียงกันแบบขำๆ ค่อยๆทำความเข้าใจไป ช้าหน่อย DIY ไม่อยากให้มันเครียดเกิน

                        Comment


                        • ท่าน ManiacMaew ผมขอ copy ไปลองกัดแผ่น PCB มาลองต่อเล่นดูหน่อยนะครับ

                          กำลังหาแอมป์หูฟังมาใช้พก สักตัวอยู่พอดี

                          001.jpg

                          Comment


                          • จะก็อปไปก็ได้น่ะ pcbเปล่า ผมก็มีเหลืออยู่ แต่ตัวนั้นไม่รู้ลงกล่องไซส์ไหนได้น่ะ +ออกแบบไว้สำหรับทดลองแบบเปลือยๆ มันจะมีส่วนสัมเพเหระ ที่ไม่ต้องลงหรือให้ช็อตข้ามไป +ไม่มีภาคจ่ายไฟบนบอร์ด้วย(ถ้าจะใช้แค่r splitter ทำvirtual ground ก็ดัดแปลงลงบอร์ดไม่อยากที่มีเหลือ มีอธิบายอยู่หน้าแรก)

                            ถ้าจะเอาใช้ก็ต้องเข้าใจพื้นฐานหน่อย

                            ---------

                            พวกของสำเร็จอย่างfiio ผมว่าเขาก็ทำได้เล็กดีน่ะ เสียงจะโอเครึเปล่าก็ไม่เคยลอง เห็นบางท่านบ่นบางท่านชมเป็นรุ่นๆไป
                            แต่ข้อดีแน่นอนของพวกนี้เหมือนเทียบกับdiy ผมเขาทำmass productionแล้ว เขาทำกล่อง-ใหขึ้นรูปกล่องได้ตามใจ มันจะเลยได้ไซส์ไดหน้าตาน่ารัก
                            (แต่แน่ละแลกมาด้วย ว่าพื้นที่จำกัดจำเขี่ย ก็เป็นปัญหาเรื่องการออกแบบ-จำกัดวงอะไหล่ที่ใช้ได้ไป)
                            Last edited by ManiacMaew; 26 May 2014, 12:25:17.

                            Comment


                            • ลองสังเกตเวลาต่อกลับเฟสอีกที
                              1source>>>Pre6Dj8>>PowerAmp Lm1875>>ลำโพง ต่อปรกติ
                              2source>>>Pre6Dj8>>PowerAmp Lm1875>>ลำโพง ต่อกลับสายลำโพงทั้ง2ข้าง
                              3source>>>PowerAmp Lm1875>>ลำโพง ต่อปรกติ
                              ละเรื่องหางเสียงไว้ก่อนน่ะวิธีสังเกตผมอาจจะยังไม่ดี

                              คือรูปวงของแบบที่1 มันแปลกกว่าชาวบ้านน่ะ เบสoffsideนำหน้านักร้องแบบรู้สึกได้เลย กลองเหมือนขยับเอามาไว้ใกล้ตัวขึ้นเยอะ

                              แบบที่2-3จะให้รูปวงที่ใกล้เคียงกันกว่า

                              Comment


                              • DUAL OPERATIONAL AMPLIFIERS


                                กันหลง...ไดไล่วงจรง่ายขึ้น

                                Comment

                                Working...
                                X