Announcement

Collapse
No announcement yet.

D.I.Y.ตอน เครื่องขยายเสียง

Collapse
X
 
  • Filter
  • Time
  • Show
Clear All
new posts

  • สวยดี

    Comment


    • พี่บิ๊ก

      http://www.homebuilthifi.com/project/244

      Comment


      • ตอนนี้ไม่มีอะไรทำเท่าไร รอเบิร์นอะไหล่ - -. มีc3-4ตัวจะเทียบเสียง
        -เบิร์น7806 7906แก้เป็นstเหมือนกันทั้ง2ตัวแหล่ะ ที่ไว้จุดไส้หลอดอีก
        (คงเทียบแค่นี้ล่ะครับ เพราะลองดูตอนไฟบ้านตก ไฟจุดไส้หลอดเหลือ 5.98-6.00Vacแนวเสียงก็ยังเหมือนเดิม ต่างกับแบบdcเยอะอยู่ดี)
        -เบิร์นหลอดอีก ด้วยความคันอยากลองหลอดรัสเซียขาทอง หารีวิวอ่านไม่ค่อยจะได้ เลยสั่งgenalexมาลอง(EHมีคนรีวิวก็ข้ามไป)
        ซนลองเอาหลอด12au7(5814A)มาเสียบ (จุดไส้หลอดแบบขนานแทน ไฟ6vเข้าขา4+5 ขา9นั้นลงกราวน์ไว้อยู่แล้ว) ดันทำงานได้อีก
        gainน่าจะต่ำกว่าหน่อย

        Comment


        • ^^ คุณแมว ลองเล่นได้สักพักแล้ว พอจับแนวได้ยังว่าชอบฟังแก้ว หรือฟังทราย
          เผื่ออยากขยับขยายไปเป็น 8 หลอด 555+ ขยับขยายไปเล่นวงจรซับซ้อนๆขึ้น

          ที่ลองหลอด 12au7 แล้วทำงานได้ ก็อย่างที่บอกน่ะครับ วงจรหลอดมันง่าย เอาR เอาไฟมาต่อไม่กี่ตัวมันก็ทำงานได้ เสีงออก(ดีด้วยนะ 555+)
          แต่ถ้าต้องการให้มันทำงานได้ดี รีดประสิทธิภาพคุณภาพ ก็ต้องมีการคำนวณเลือก curve เลือกvolt เลือกกระแส เลือกวงจรที่เหมาะสม และอื่นๆ
          ประกอบให้ได้การทำงานที่สมบูรณ์(เสียงดี ) น่ะ

          Comment


          • แต่แก้วมันก็ทำมาจากทรายน่ะ 55+
            หลอดเทพเดียวก็ปาไปเป็นพันแล้ว telefun amperexแบบดีๆ 2500-4000ได้(ราคาตามร้าน ไม่ใช่user to user) ถ้าเอาแค่รัสเซียขาทองก็พันกว่า
            มูลค่า8หลอดนี้ซือปรีสำเร็จแบรนด์ดีๆได้เลยน่ะเออ

            อยากหาพวกวงจรjfetหรือbipolar ที่ใช้ไฟเลี้ยงพอๆกัน จะได้ใช้ภาคไฟเดิมมาเทียบได้น่ะครับ มีคำแนะนำมั้ย
            ถึงจะเคยลองfetกับbipolarกับอย่างอื่นแล้วก็เหอะน่ะ แต่อยากเทียบอีกรอบ

            Comment


            • ^^
              Jfet, BJT อยากได้แบบไหน ง่ายๆหรือยากๆล่ะ
              ง่ายๆก็แบบนี้ไง อิอิ
              Originally posted by dracoV View Post
              อ่ะ พอดีขยัน
              ไม่ใช่ไรหรอก โพสต์วงจร LM1875 FuWa edition JFET Input มีวงจรอยู่แล้ว ก็จับมาตัดต่อ โมฯใหม่ กันสดๆ
              อยากเป็นหนูทดลองป่ะครับ 555+
              วงจร Preliminary design ง่ายๆคือไม่ได้เทสน่ะแหล่ะ แต่(น่าจะ) ทำงานได้นะ เอิ๊กๆ


              อ้อหรือง่ายกว่านั้น ถ้าอยากลองก่อน ประมาณเริ่มต้น
              ก็วงจรหลอด 6dj8 อันนี้ละ ถ้ามี JFET N-channel เช่น 2SK117 ก็ลองเอามาเสียบแทนหลอด (ตัวละซีก)
              Drain=plate, Gate=grid, Soure=cathode
              ลองเล่นๆก่อนได้(ไม่น่าบึ้ม 555+)
              Last edited by dracoV; 7 Jun 2014, 18:29:59.

              Comment


              • ููู^^^^
                ใช้j112ได้มั้ย 2sk117 รู้สึกเหลือตัวเดียวไม่พอทำ2ข้าง
                ดูVdg Vgs น่าจะยังอยู่ในrangeอยู่น่ะ

                Comment


                • J112 ไม่ได้ครับ ช่วงการทำงานไม่ได้ เพราะไม่ได้ไว้ใช้งานลักษณะนี้(Audio amplifier)และ ใช้กับช่วงการทำงาน Vds ต่ำๆ
                  คือจะลองเอามาเสียบเล่นขำๆ ดูก็ได้ แต่คงไม่ได้ประโยชน์อะไร เพราะยังไงก็ไม่ได้ใช้งานJ112 ในการทำงานแบบนี้อยู่ดี
                  สุ้มเสียง(ถ้าออกน่ะนะ)ก็คงไม่ได้บ่งบอกอะไร +อาจมีบึ้มแถม 555+

                  จริงๆถึงใช้ตัว 2sk117 เองในวงจรนี้ก็ไม่ได้ทำงานสมบูรณ์อะไร แค่ทำงานได้ลองเล่นได้ แต่ก็ยังไม่ได้แสดงคุณภาพ/การทำงาน/สุ้มเสียงที่แท้จริงของตัวมัน เท่าไหร่
                  ก็ถ้าจะให้ทำงานได้ดีขึ้นนิด ตรงcurve การทำงานขึ้นหน่อย ก็ต้องปรับลด R cathode ในวงจรเดิมมาเหลือ ~180-200โอห์ม เป็นต้น

                  Comment


                  • หลอด ลองไฟสูงๆเทียบด้วยสิ 150-200vก็ได้ จะได้เห็นจุดเด่นของหลอดมากขึ้น

                    Comment


                    • Report on Pre. 6dj8 ต่อ

                      เล่าเรื่องกันต่อ
                      เทียบจุดไส้หลอดDC+ ,DC - ,AC
                      DC นี้ใช้ 7806 7906 ของST ใส่ซิ้งค์ แต่ไมก้ารองดันหมดเลยไม่ได้รองไมก้า
                      ซิ้งค์ อาจจะมีผลกับ7806มาก เพราะมันต่อกับกราวน์ แล้วกราวน์ข้างหนึ่งมันก็ต่อกับไส้หลอดโดยตรง ส่วน7906คงมีside effectนิดหน่อย เพราะต่อกับขาin
                      Cfilter input Rubycon yk 2200uf output bemeal 678D 220uf bicapด้วยwimaบัดกรีขาต่อขา เหมือนกันทั้ง7806 7906
                      กราวน์ไส้หลอดdc ไม่ได้ต่อลงกราวน์ระบบ

                      เบิร์นกันอย่างละประมาณ3+คืน เปิดทิ้งเกือบทั้งวันทั้งคืน มีปิดพักบ้าง อย่างต่ำก็น่าจะ 50+ ช.ม.

                      จุดไส้หลอดdc ผมจะต่อให้มันไปทางเดียวกันน่ะ คร่าวๆประมาณนี้
                      ขาหลอด 4 5
                      DC+ + 0
                      DC- 0 -
                      (เอาจริงก็ยังไม่ได้หาทางไส้หลอดหรอก)

                      ตอนเทสไฟDCวัดได้ประมาณ5.98
                      ไฟAC 6.02 ไฟบ้านไม่ค่อยจะเกินวันนี้

                      DC+ กับ DC- เสียงไปคนละทางเลยครับ

                      ------
                      DC+
                      เสียงออกไปทางสด แหลมเยอะแบบว่าอีกนิดเดียวก็จะกัดหูกัดแล้ว เบสมีimpactดี ได้ปริมาณ
                      speedเสียงฟังดูเร็ว หางเสียงสั้น
                      เรื่องรูปวง เวที นี้ปวดกระบาล เนื่องจากเสียงมันพุ่งออกมาหมด
                      ตำแหน่งเสียงส่วนมากอยู่หน้าลำโพง ด้านลึกนี้เบียดกันหาระยะห่.างลำบากเอาการ เบสนี้ประชัดหลังนักร้องมากๆ
                      -----
                      DC-
                      เสียงออกไปทางอุ่น เหมือนจะมีambientฟุ้งออกไปทั่วๆ speedเสียงช้า หางเสียงยาวและหางมีรายละเอียดกว่า (เดี๊ยวจะไปพูดเทียบกับแบบACอีกที)
                      เวทีเลื่อนไปหลังระนาบลำโพง ระยะด้านลึกช่วงห่.างระหว่างชิ้นดนตรีนี้หาง่ายกว่าน่ะ ด้านลึกเหมือนจะดีกว่า
                      เบสก็ถอยๆไปตามวง ระยะห่.างจากนักร้อง นี้มากกว่าแบบDC+
                      พวกกีตาร์นี้ก็แยกเส้นสายมันง่ายกว่าแบบDC+
                      ปริมาณเบสน้อยกว่าDC+
                      -----
                      AC
                      ไม่จัดไม่อุ่น ก็ไม่เชิงกลางน่ะๆ คือหัวเสียงหางเสียงมีความไหลลื่นดี หัวเสียงชัดเจน แต่impactไม่ได้พุ่งมาปะทะขนาดแบบdc+
                      หางเสียงยาวนิด แต่รายละเอียดหางเสียงจะไม่มีแบบDC- และเสียงจะไม่อุ่นๆ-มีambientแบบdc-น่ะ

                      คือมันมีเพลงหนึ่งที่ขึ้นด้วยกีตาร์เบส ตอนเสียงกีตาร์เบสลง บางระบบมันจะมีเสียงเปร๊าะแปร๊ะตอนท้ายเสียง DC-มันมี แต่ACมันไม่มี
                      (อาการจะคล้ายๆ ตอนที่คุณkeangซ่อมdacให้ผมแล้วใส่c polystyreneมาน่ะ ตอนนั้นก็งงๆว่าทำไมบางเสียงหางเสียงเหมือนแตกๆ)

                      imageเสียงเคลียร์กว่ามากๆ นักร้องที่ร้องประสานเสียงกัน3คนตรงกลาง(ตำแหน่งจะต่างนิดหนึ่ง กลาง เยื่องซ้ายนิด เยื้องขวานิด) แยกได้ชัดเจนกว่าจุดไส้หลอดDCทั้ง2แบบ

                      ด้านลึกก็ค่อนข้างดีน่ะ หาระยะห่.างระหว่างชิ้นง่ายกว่า
                      แถมพวกเสียงโอบล้อมมันจะออกมาด้านหน้าลำโพงรอบตัวเรากว่าแบบDC-
                      แบบDC-พวกเสียงโอบล้อม มันจะถอยไปด้านหลังลำโพงไกลๆซะมากกว่า
                      แต่เสียงร้องแบบAC ก็ยังอยู่หลังระนาบลำโพงน่ะ


                      เรื่องมิติด้านกว้าง-สูงข้ามไปน่ะ ฟังแล้วก็แยกไม่ออก คือๆกันหมด แต่พอด้านลึกมันต่างกันแล้ว
                      รูปวงของDC+ มันจะดูแย่สุด เพราะเป็นแบนๆ อยู่หน้าลำโพง

                      -------

                      โดยรร่วมชอบจุดไส้หลอดแบบACสุดน่ะ เอกลักษณ์ค่อนข้างชัดเจน +ประหยัดอะไหล่
                      แบบDCถ้าจะทำบางเรื่องให้ดีได้แบบAC ได้นี้อาจจะต้องใช้อะไหล่ดีๆ หลายตัวเลย จะเปลืองงบเอา

                      การทดสอบนี้ก็ไม่ได้ละเอียดมากน่ะ ไม่ได้หาทางสายไม่ได้วางเลย์เอาท์ให้สมดุลเหมือนกันแด๊ะๆ ระหว่างDC+ DC- แถมซิงค์ไม่ได้รองไมก้า อาจจะคลาดเคลื่อนไปบ้าง

                      Comment


                      • ได้ข้อมูลการทดสอบเพิ่มขึ้น ชอบแบบไหนจัดแบบนั้นได้เลย นี่ละข้อดีอย่างนึงของการ DIY จัดได้ตามชอบ
                        ไม่ต้องติดอยู่กับที่ผู้ผลิตจัดมาให้

                        ---------------------------
                        แนะนำ CD ใช้ทดสอบ ทดลอง เผื่อไปลองหามาไว้เล่นกัน

                        ฟังให้ชิน จับใจความ และจุดสังเกต ไว้ใช้ในการทดลองฟังต่างๆ
                        หรือถ้ามีโอกาศก็เอาไปลองฟังกับชุดใหญ่ ห้องจัดฟังจัดไว้ดีๆ เพื่อเรียนรู้ลักษณะเสียงอย่างที่ควรจะเป็นของเพลงๆนั้นๆ ไว้มาทดสอบกับระบบของเราได้

                        Chesky Records - The Ultimate Demonstration Disk

                        ตัวอย่าง
                        https://www.youtube.com/watch?v=Q3_tWiMldMs
                        BORKED

                        IASCA Official Sound Quality Competition CD 2001-2002

                        ตัวอย่าง (เฉพาะการทดสอบ Left Right, Phase ส่วนเพลงหลังไป ไม่ใช่ในชุด CD นี้น่ะ)
                        https://www.youtube.com/watch?v=okrMBbNYxEg
                        BORKED
                        Last edited by dracoV; 8 Jun 2014, 21:36:11.

                        Comment


                        • ยัง ยังไม่จบ หาเรื่องให้คุณแมวปวดหัวต่อ

                          1. ไฟเลี้ยงแบบ DC+ ต่อกราวน์แบบไหน แยกกราวน์เหมือน DC-, AC หรือเปล่า ??
                          ถ้าไม่ได้แยกกราวน์แบบAC ส่วนต่างที่บอกมา อาจเป็นผลจากระบบกราวน์ด้วยก็ได้

                          2. ขาไฟเอ้าท์พุท แบบDC+กับDC- ลองใช้Wimaตัวเดียว ค่า1uF
                          Last edited by keang; 8 Jun 2014, 22:17:42.

                          Comment


                          • @dracov อย่างถ้าเอามาหัดฟังพอว่า แต่ถ้าไม่ชอบฟังขึ้นมา แล้วจะเอามาใช้ทดสอบทุกรอบเลยนี้ได้หลับคาลำโพงทุกรอบแน่ ไอ้ที่อัดแบบโคตรดีbinural ไว้เทสหูฟังผมหามาได้ยังๆไม่ค่อยฟังมันเลยน่ะ
                            @keang 1ชุดไส้หลอดทุกอันแยกกับระบบที่เหลือหมดเลยครับ DC+ นี้ควรจะหาไมก้ามารองน่ะแต่มันหมดแนวเสียงที่ได้ผมก็งงๆหน่อยเพราะปรกติซิงอะลูมัหจะทำใหเสียงบางลงนำ้หนักเสียงหัวเสียงลดลง
                            2 ขี้ยุจังเย้ย อีกวีธีที่ฒอยากลองคือเอาc filter ไปติดขาหลอดเลยไม่ค่แยเห็นทำกันจะเอาตัวicจ่ายไฟไปไว้ใหล้จุดๆส้หลอดมากก็ลำบากน่ะไส้หลอดมันกินไฟเยอะ ic มันจะยิ่งไปช่วยให้หลอดมันร้อน

                            เดี๊ยวมีเทียบc cde spargue730p redbeauty nccอีกแล้วก็หลอดgenelexของใหม่ made in russia ฐานที่ไว้เทียบคงrsdเพราะช่วงนี้หาง่ายมีเป็นลังๆกันเลยคนอื่นจะได้เอาไปอ้างอิงง่าย อา... หนทางช่าฃยาวไกล
                            Last edited by ManiacMaew; 9 Jun 2014, 00:28:57.

                            Comment


                            • - ติดหรือไม่ติดซิ้งค์ มีผลช่วยเรื่องระบายความร้อน ถ้าตัวมันจ่ายพอ+ไม่ร้อนเกิน ไม่ต้องมีซิ้งค์ก็ได้ / ลดผลกระทบเรื่องเสียงของซิ้งค์ ลองหาน๊อตพลาสติคมาใช้ดูครับ

                              - C-filterยังงัยก็ต้องมีที่ขาเอ้าท์พุทและควรอยู่ใกล้มากที่สุดด้วยครับ ถ้าห่.างมากเกินไป-ประสิทธิภาพตกวูบเลย

                              - พฤติกรรมการใช้ไฟของไส้หลอด เปิดครั้งแรกจะดึงไฟเยอะหน่อยแต่แค่วูบเดียว หลังจากนั้นจะนิ่งไม่มีวูบวาบอีก
                              ถ้าดูจากสโคปจะเห็นเกือบเป็นเส้นตรง มีrippleน้อยมากๆๆๆ(เหมือนผิวถนนขรุขระ) / Cค่าสูงจะไม่ได้ช่วยชดเชยในจุดนี้ Cค่าน้อยๆจะตรงประเด็นกว่า


                              เดี๋ยววันไหนผมไปบ้านจรัญ จะนัดเจอ เอาบริดจ์ไดโอดของโรมาเนียไปลองเล่นดู
                              ตัวเป็นแบคกาไลท์ 50V 3A ใช้กับชุดไส้หลอดได้
                              ขาเป็นลวดใหญ่แบบบริดจ์ไดโอดทั่วไป ลวดใหญ่แต่อ่อนนิ่มมากๆๆๆๆๆๆๆๆๆ แนวเดียวกับขาDale RLRแบบแถบสี-คาดขาวที่เคยให้ไป
                              Last edited by keang; 9 Jun 2014, 10:53:27.

                              Comment


                              • Active Band Pass Filter

                                http://www.electronics-tutorials.ws/.../filter_7.html

                                Comment

                                Working...
                                X