Announcement

Collapse
No announcement yet.

D.I.Y.ตอน เครื่องขยายเสียง

Collapse
X
 
  • Filter
  • Time
  • Show
Clear All
new posts

  • แอมป์ Impedance 47kohm ผมต้องใช้โวลุ่ม 50K ใช่ไหมครับ
    ปรี Impedance 100kohm ผมต้องใช้โวลุ่ม 100K ใช่ไหมครับ

    Comment


    • R Impedance input -output

      ถ้าตามภาพ
      R Impedance input =RG
      R Impedance output = RL
      ช่วยในเรืองคุมโหลด

      Originally posted by carbon_za View Post
      แอมป์ Impedance 47kohm ผมต้องใช้โวลุ่ม 50K ใช่ไหมครับ
      ปรี Impedance 100kohm ผมต้องใช้โวลุ่ม 100K ใช่ไหมครับ
      ใช่ครับ
      แอมป์ Impedance input 47kohm ควรใช้โวลุ่ม 50K
      ปรี Impedance input 100kohm ควรใช้โวลุ่ม 100K
      Last edited by tiger X-fi; 16 Oct 2014, 23:22:55.

      Comment


      • ผมเคยลองนะ ค่ามากเสียงจะใสโล่ง แต่ก็น่ารำคาญเหมือนกัน เหมือนรายละเอียดออกมาเยอะจนตีกันมั่ว และเสียงเบสบางลงด้วย

        Comment


        • ความต้านทาน (Resistance)
          Impedance เป็นชือเรียกความต้านทาน ของไฟ AC
          Resistance เป็นชือเรียกความต้านทาน ของไฟ DC
          แตความต้านทานของไฟ AC(Impedance) เปลียนไปตามความถี่
          เลยใช้ คา Resistance เป็นตัวกำหนด แตก็ยังคงเรียก ว่า R Impedance
          เหมือนดอกลำโพงคับ 4/ 8 โอมห์ ใช้ค่าResistance เป็นตัวกำหนด

          Comment


          • เทสเล่น

            Comment



            • งง กับ Tr
              ถ้าใช้ IC amplifiers แล้วใช้ Tr ขยายกระแส
              ต้อง bias DC ขา ฺB เพื่อให้ Ic (กระแสขา C ) ทำงานหรือป่าว
              หรือไม่ต้อง กระแส Ac ที่ IC amplifiers จายออกมาเข้า ขา ฺB
              ก็ทำให้ Ic (กระแสขา C ) ทำงานได้แล้ว

              Comment


              • tr มันจะนำกระแส(ทำงาน)มากน้อย ตามแรงดันที่ be

                1. ถ้าไม่ bias เลย ในภาวะสงบมันก็จะ off ก็คือ tr ทำงานแบบ class B
                ข้อดีคือ กำลังงานสูญเสียน้อย แต่เสียงอาจไม่ดีเท่าไหร่

                2. ถ้า bias เยอะๆจนมัน on ตลอดเวลา ก็คือ tr ทำงานแบบ class A
                ข้อเสียคือ กำลังงานสูญเสียมากมาย แต่เสียงเค้าว่าเทพ

                3. ปกติ เรานิยมเดินสายกลาง คือ bias นิดเดียว แค่พอให้ภาวะสงบมัน on ก็พอ
                คือ tr ทำงานแบบ class AB กำลังงานสูญเสียไม่มากเหมือน A และเสียงดีกว่า B

                อันนี้ก็สำหรับ tr 4 ตัวในรูปนะ
                ในทางปฎิบัติ ก็แล้วแต่คนฟังว่าแยกความแตกต่างของ A ,B ,AB แบบนี้ออกรึเปล่า
                ซึ่งคนทั่วไปจะแยกไม่ออกครับ

                Comment


                • ขอบคุณมากครับ
                  ----------
                  ตามความเข้าใจ คือ ถ้าbias DC ขา ฺB ก็คือ Tr ทำงานรอไว้ก่อน
                  เลยทำให้เปลืองไฟ
                  ถ้าไม่bias DC ขา ฺB Tr ยังไม่ทำงาน จะไม่ทำงาน เริ่มทำงานก็เมื่อ
                  มีกระแสจากไฟ AC เข้ามา
                  เมือมีการ เปิด-ปิด คุณภาพ ของ เสียง จะสู้ Tr เปิดทำงานรอไว้ก่อนไม่ได้
                  แตแลกกับพลังงานสูญเปล่า

                  Comment


                  • แม่นแล่ว

                    Comment



                    • แบบนี้ ทีเข้าใจ Class A ดีทีสุด เพราะ+- อยู่ในไลน์เดียว
                      (ออกมาทั้ง +และ-)
                      ส่วน Class อืน จะแยก +- แล้วมาต่อให้อยู่ในไลน์เดียวกัน
                      (แยกออก+ แยกออก- คนละซีก)
                      -----------
                      สวนประสิทธิภาพ
                      Class A ประมาณ 20%
                      Class AB ประมาณ 60%
                      Class D ประมาณ 80%
                      เป็นเรืองของการเปลืองไฟล้วนๆ
                      เช่น ไฟเลี้ยง +50/0/-50 2A(ขดละ1A) (VDC) = 100x1=100W
                      Class A ประมาณ 20% ประมาณ 20W
                      Class AB ประมาณ 60% ประมาณ 60W
                      Class D ประมาณ 80% ประมาณ 80W
                      สวนที่หายไป เป็นกำลังงานสูญเปล่า
                      แบบนี้เข้าใจถูกมั๊ยคับ

                      Comment


                      • Originally posted by tiger X-fi View Post

                        แบบนี้ ทีเข้าใจ Class A ดีทีสุด เพราะ+- อยู่ในไลน์เดียว
                        (ออกมาทั้ง +และ-)
                        ส่วน Class อืน จะแยก +- แล้วมาต่อให้อยู่ในไลน์เดียวกัน
                        (แยกออก+ แยกออก- คนละซีก)
                        -----------
                        สวนประสิทธิภาพ
                        Class A ประมาณ 20%
                        Class AB ประมาณ 60%
                        Class D ประมาณ 80%
                        เป็นเรืองของการเปลืองไฟล้วนๆ
                        เช่น ไฟเลี้ยง +50/0/-50 2A(ขดละ1A) (VDC) = 100x1=100W
                        Class A ประมาณ 20% ประมาณ 20W
                        Class AB ประมาณ 60% ประมาณ 60W
                        Class D ประมาณ 80% ประมาณ 80W
                        สวนที่หายไป เป็นกำลังงานสูญเปล่า
                        แบบนี้เข้าใจถูกมั๊ยคับ
                        ถูกต้องครับ

                        แต่อย่างที่บอกนะ ความพอใจของคนฟัง จะเป็นตัวตัดสินว่าอะไรดีที่สุด
                        สมมุติ ฟังแล้วแยกความแตกต่าง A ,AB ,D ไม่ออกเลย
                        แบบนี้ D จะดีสุด

                        ลำโพงที่ผมใช้(ประกอบเอง) หน้ากากห่วยมากมั้ง
                        ปิดลงไปแล้ว เสียงจะอับขึ้นมาก
                        เวลาใครมาฟัง ผมจะแกล้งถอดหน้ากากออก(ตอนที่กำลังฟัง)
                        แล้วเค้าจะบอกว่า โอ้โห! เสียงดีขึ้นเยอะเลย ทำไมไม่เอาออกละ
                        ผมบอกฟังดีเกินไป เดี๋ยวไปฟังอย่างอื่นแล้วไม่เพราะ อิ อิ

                        อันนี้จริงนะ
                        เพราะเมื่อก่อนเคยฟังพวกสารพัดไฮเอนด์ แล้วมันจะติดเสียงแบบนั้น
                        ฟังตัวอื่นแล้วไม่เพราะ เป็นงี้ผมว่ามันก็ไม่ดีนะ
                        ตอนหลังคิดว่าเอาแบบกลางๆดีกว่า
                        ทุกวันนี้ ใช้วินแอมป์+ทีแอมป์ ก็พอใจมากครับ

                        Comment


                        • ขอบคุณมากครับ

                          Comment


                          • เทสเล่น เลย สงสัย ปกติ สัญญาณ input อยูที่ประมาณเท่าไห่ร
                            ผานพวกปรี อยู่ที่ปะมาณเท่าไหร่
                            วงจรที่ผมลอง เกิน2V เริ่มรูปสัญญาณเพี้ยน
                            ลองที่ 1Hz
                            Last edited by tiger X-fi; 18 Oct 2014, 22:51:26.

                            Comment


                            • เทสดูใหม่ อยู่ที่เกรนชยายของแอมป์ด้วย
                              ลดเกรน ขยายจะรับ สัญญาณ input ได้โวลล์สูงขึ้น
                              ตอนแรก เกรนขยาย 100 รับสัญญาณไม่เกิน 2V
                              ลดมาเกรนขยาย 10 รับสัญญาณ15V สบายเลย

                              Comment


                              • HDCD CD Player
                                Output Voltage 2V single ended RCA
                                4V balanced XLR
                                --------------
                                Xonar Essence STX
                                Output/Input Full-Scale Voltage
                                2 Vrms (5.65 Vp-p)
                                -------------
                                CD /sound card ทั่วไป น่าจะอยู่ที่ประมาณ 2V
                                Last edited by tiger X-fi; 18 Oct 2014, 22:10:14.

                                Comment

                                Working...
                                X