Announcement

Collapse
No announcement yet.

ไฟล์ lossless ถ้าไรท์ไปแล้ว แผ่นที่ได้จะได้คุณภาพระดับไหนครับ

Collapse
X
 
  • Filter
  • Time
  • Show
Clear All
new posts

  • #46
    Originally posted by TroRuwA View Post
    งั้นก็แปลว่า Apple Lossoess สู้ FLAC ไม่ได้ ถูกต้องไหม
    ว่าด้วยเรื่องคุณภาพไฟล์ ใช่ครับ

    เเต่ถ้าว่าด้วยความสะดวก Apple Lossless ชนะขาดลอย (เพราะมันก็เเทบฟังไม่ออกหรอกครับ ความต่างของ Flac กับ Apple Lossless น่ะ อย่าฃลืมว่า Apple Lossless มันไม่ได้ห่วยนะครับ)

    เครื่องเล่นต่างๆ ก็สามารถเล่น Apple Lossless ได้มากกว่า Flac ครับ

    Comment


    • #47
      มีหมดครับ อย่าลืมในเครื่องเล่น CD เป็น CD ของคอมผิวเตอร์ทั้งนั้นครับ ไม่ไช่ผลิตมาเพื่อฟังเพลงอย่างเดียว
      Originally posted by sierra View Post
      หูเป็นประสาทสัมผัสที่เชื่อถือไม่ได้คับ

      เครื่องไรท์ก็ไม่มีผล ไม่ยังงั้น HDD ก็ต้องมีผล, Flashdrive ก็ต้องมีผล, สาย Sata ก็ต้องมีผล เพราะเป็นตัวบันทึก รับ-ส่งข้อมูลดิจิตอลด้วยกันทั้งนั้น

      แต่ที่เห็นมีการโมเครื่องเล่น CD มันมีผลคับ คือเครื่องเล่น CD มันมี DAC ที่โมกันคือโม DAC เครื่องเล่น CD คับ

      ส่วนคนที่เอา CD-ROM, DVD-ROM คอมพิวเตอร์มาโมแล้วบอกเสียงเปลี่ยนเนี่ย หูคงเกินระดับดิจิตอลไปแล้วเหมือนกัน

      Comment


      • #48
        เรื่องนี้เหมือนเรื่องปลั๊กไฟวัตต์เกตทอง ที่มีคนเคยเอาไปให้กลุ่มหว้ากอพิสูจน์
        ผมบอกได้เลยครับ ไม่มีฟอแมทอะไรยั่งยืนตลอดกาล

        ลองคิดดีๆ ก่อนที่จะมีเครื่องเสียง เครื่องวัด และอื่นๆ
        เราใช้อะไรวัดว่าไพเราะหรือไม่ครับ
        มันก็หูนี่แหละครับ
        ถ้าท่านมีเครื่องเสียงหรือ CD ชุดละล้าน ให้ค่าดิจิตอลเที่ยงตรงสุดๆ แต่ว่า ท่านฟังไม่เพราะเลย ท่านจะฟังหรือไม่ครับ
        จริงที่ออกแบบมาเอาใจหู แต่ก็หูนี่แหละที่ทำให้มีการฟัฒนาต่อเนื่อง
        อะไรทีถูกลดแล้วจะเพิ่มให้เท่าเดิมในส่วนของเสียง ทำได้แต่ไม่ได้หมด แม้แต่ส่วน 1 - 2% ที่สูญเสียไป ก็ทำให้เรารับรู้ได้
        ไม่ไช่รับรู้แบบท่านที่ฟังเลยแล้วจะรู้
        ผมฟังเพลงแผ่นนึงประมาณ 1-2 เดือนครับ ไม่ไช่จะฟังไม่ออก เราฟังมันทุกวัน ก็จะรุ้แหละครับว่าสัมผัสที่เราเคยรับเป็นอย่างไร
        ไม่ได้ว่าตัวเองเป็นหูเทพหูทองที่ไหน เพียงแต่อยากให้สัมผัสด้วยตัวเองจริงๆเสียก่อนค่อยฟันธงลงไป
        ดีก็ว่าดี ไม่ดีก็ว่าไม่ดี จริงก็ว่าจริง ไม่จริงก็ว่าไม่จริง ผมเป็นคนเช่นนี้แหละครับพี่น้อง
        Originally posted by ssk View Post
        เรื่องเสียงสั้นง่ายได้ใจความ เชื่อหูและความชอบของเรา อย่าไปเชื่อหูและขี้ปากคนอื่น
        พอใจแล้วมีความสุขแล้วก็จบซะอย่าไปดิ้นรนมากมันจะเดือดร้อนกระเป๋า
        การวัดผลเอาเครื่องมือเป็นที่ตั้ง หูเอาไว้ทำการตลาด อันนี้มันเป็ยสัจธรรมของผู้ผลิต
        ผมบอกตรงๆนะ เครื่องเสียงราคาเป็นล้านๆยังสู้หูฟังอันละ 50000 กับเครื่องเปรียบเทียบเสียงตัวละล้านกว่าๆ ที่ใช้ในเรือดำน้ำยังไม่ได้เลย
        เพราะมันไม่เที่ยงตรงน่ะ ลักษณะเสียงเป็นการจูนให้เพี้ยนเพื่อเอาใจตลาดอย่าไปคิดมาก
        สิ่งทีเป็น DIGITAL เกิดมาเพื่อคงความเที่ยงตรงท้ากาลเวลา เขาบอกว่า LOSSLESS ก็คือเหมือนต้นฉบับ จะ FORMAT ใหนมันก็เหมือนกันแหละต่างกันเหมือนเลือกเลี้ยวซ้ายขวา
        ของเขาทดลองในห้องทดลองที่มีแต่เครื่องมือวัด ไม่ใช่หู

        Comment


        • #49
          แวะเอาตาราง Comparison of audio formats และ Lossess & Lossy มาให้ดูกันคับ

          http://en.wikipedia.org/wiki/Comparison_of_audio_codecs

          http://forum.munkonggadget.com/detail.php?id=9725



          Originally posted by HiddenDragon View Post
          มีหมดครับ อย่าลืมในเครื่องเล่น CD เป็น CD ของคอมผิวเตอร์ทั้งนั้นครับ ไม่ไช่ผลิตมาเพื่อฟังเพลงอย่างเดียว
          ก็แล้วแต่จะเข้าใจละกันคับ ผมอาจจะเข้าใจผิดก็ได้

          อนาคตอาจจะมี HDD QED , สาย SATA VAN DEN HUL ออกมาก็เป็นได้คับ

          Comment


          • #50
            ลองดูตัวนี้ครับ
            wireworld uitraviolet usb*2700.-/ cable
            just not only zero and one
            http://www.wireworldcable.co.uk/products/57.html
            Originally posted by sierra View Post
            แวะเอาตาราง Comparison of audio formats และ Lossess & Lossy มาให้ดูกันคับ

            http://en.wikipedia.org/wiki/Comparison_of_audio_codecs

            http://forum.munkonggadget.com/detail.php?id=9725





            ก็แล้วแต่จะเข้าใจละกันคับ ผมอาจจะเข้าใจผิดก็ได้

            อนาคตอาจจะมี HDD QED , สาย SATA VAN DEN HUL ออกมาก็เป็นได้คับ

            Comment


            • #51
              Originally posted by HiddenDragon View Post
              ลองดูตัวนี้ครับ
              wireworld uitraviolet usb*2700.-/ cable
              just not only zero and one
              http://www.wireworldcable.co.uk/products/57.html
              สาย USB ถือว่าจัดอยู่ในกลุ่มเดียวกับสาย Coax, Optic ถ้าอามาใช้ทางด้านเสียง

              แต่ผมก็ขอผ่านเช่นกัน เพราะก็ยังเป็นประเด็นกันอยู่ เถียงกันก็ไม่จบคับ

              Comment


              • #52
                พวกสาย USB นี่ไม่อยากจะพูด ขอแค่ใช้ที่มีมาตรฐานก็พอแล้ว

                ถ้ามันเป็นแบบที่อ้างๆ กันจริงพวก Gamers ทั่วโลก และห้องเกมใน OCZ ต้องมาโมกันมันแล้ว และพวก Fayal1ty ต้องออกแบรนด์มาแล้ว

                บริษัท Network ทั้งหลายแหล่ที่เน้นความเร็ว การให้บริการเครื่องเข้า 40-50 ล้านยังใช้สายจีนเลย ทั้งที่ๆ ความผิดพลาดคือโดนทั้งขึ้นทั้งล่อง สาย USB Kimบ๊ง Kimber อะไรไม่รู้จัก

                แต่เอาเหอะ เชื่อหูตัวเองละกัน

                Comment


                • #53
                  http://www.bobulous.org.uk/misc/audioFormats.html

                  เว้บนี้พยายามทำการพิสูจน์การสูยเสียที่เกิดจากการบีบอัด ซึ่ง ถ้าให้ wave เป็น 100 flac จะได้ที่ 60% ซึ่งเป็นที่แน่ชัดว่า ต้นฉบับที่ได้มาจะหายไป 40% แน่นอนครับ
                  ลองอ่านดูได้ครับ

                  Comment


                  • #54
                    up system ดีดีเอา หาไฟล์เพลงดีดีเอา ฟังไป ดีไม่ดี ก็ต้องทำใจฟังเอา หุหุ เด๋วก็ปลงเอง

                    Comment


                    • #55
                      ไม่ได้พยายามจะเถียงแต่อย่างใดครับ เพียงแต่วันนี้ DAC เริมเกิด ไฟลล์ lessles เริมมี usb ก็ตามมา เป้นของใหม่ครับ ต่อไปคงมีคนเริ่มใช้
                      ตอนนี้เทคโนโลยีเริมไปที่ lessles แต่เสียงนี่ผมไม่ยอมรับครับ เพราะว่า มันต่างจากCD
                      ซึ่งแม้ CD ผมยังไม่ยอมรับเลยครับ
                      ชอบแผ่นเสียงมากกว่า
                      ทุกวันนี้ เรามีแต่จ่่ยเงินมากขึ้นแต่ฟังเสียงที่แย่ลง โลกนี้เป็นอะไรไปแล้ว

                      เพิ่มเติม USB นี้ไม่ได้ใช้ในการให้ข้อมูลเดิมเร็วขึ้น เขาใช้ทำให้เสียงดีขึ้น Review จาก What Hifi
                      The gains in low-end body and punch, midrange spaciousness and detail, and high-end smoothness alone are significant.

                      And, when you take into account the additional scale, superior timing and altogether more vivid presentation, the Ultraviolet 5/2 becomes a compulsory audition, if not an automatic purchase.

                      Originally posted by Avant View Post
                      พวกสาย USB นี่ไม่อยากจะพูด ขอแค่ใช้ที่มีมาตรฐานก็พอแล้ว

                      ถ้ามันเป็นแบบที่อ้างๆ กันจริงพวก Gamers ทั่วโลก และห้องเกมใน OCZ ต้องมาโมกันมันแล้ว และพวก Fayal1ty ต้องออกแบรนด์มาแล้ว

                      บริษัท Network ทั้งหลายแหล่ที่เน้นความเร็ว การให้บริการเครื่องเข้า 40-50 ล้านยังใช้สายจีนเลย ทั้งที่ๆ ความผิดพลาดคือโดนทั้งขึ้นทั้งล่อง สาย USB Kimบ๊ง Kimber อะไรไม่รู้จัก

                      แต่เอาเหอะ เชื่อหูตัวเองละกัน
                      Last edited by HiddenDragon; 24 Jun 2010, 22:35:32.

                      Comment


                      • #56
                        Originally posted by HiddenDragon View Post
                        http://www.bobulous.org.uk/misc/audioFormats.html

                        เว้บนี้พยายามทำการพิสูจน์การสูยเสียที่เกิดจากการบีบอัด ซึ่ง ถ้าให้ wave เป็น 100 flac จะได้ที่ 60% ซึ่งเป็นที่แน่ชัดว่า ต้นฉบับที่ได้มาจะหายไป 40% แน่นอนครับ
                        ลองอ่านดูได้ครับ
                        เดี๋ยวๆ เข้าใจผิดแล้วคับท่าน

                        อันนี้มันเป็นอัตราการบีบอัดข้อมูลนะคับ

                        Wave 100% > คือไม่ได้บีบอัด
                        FLAC 66.57%
                        Monkey's Audio 63.86%
                        MP3 18.20%
                        Ogg Vorbis 17.60% > คือ Format ทั้งหมดที่อ้างมา Ogg มีการบีบอัดที่มากที่สุด นั่นก็คือมีขนาดไฟล์เล็กที่สุดคับ

                        ไม่เกี่ยวกับการสูญเสียข้อมูลนะท่าน

                        Comment


                        • #57
                          ขอสรุปเป็นข้อๆ เผื่อบางท่านงงประเด็น
                          1. File แบบ lossless คือการบีบอัดข้อมูล PCM โดยที่ไม่สูญเสียรายละเอียด โดยถ้ายึดถือที่มาตรฐาน Audio Red book (CD-DA) หรือ CD เพลงformatปกติแล้ว จะมีการเก็บข้อมูลที่ 44.1kHz 16bits ซึ่ง file lossless ทุกเจ้ารองรับมาตรฐานนี้อยู่แล้ว ซึ่งการบีบอัดที่ไม่สูญเสียรายละเอียด ก็เปรียบเสมือนการบีบอัด file ที่เราคุ้นเคยกันดีอยู่แล้ว เช่น file .zip .rar คือเข้าไปอย่างไร ถอดกลับมาก็ได้เหมือนเดิมไม่มีทางผิดเพี้ยน นอกจากจะเกิดความเสียหายที่ตัว file โดยตรง ก็จะรู้ว่ามันเิกิดความผิดพลาด ไม่มีทางที่จะผิดพลาดโดยที่เราไม่รู้ตัวครับ ส่วนข้อมูล PCM ที่เกิดมาตรฐานปกติ ก็ต้องใช้file lossless ชนิดที่ครอบคลุมความถี่หรืออัตราสุ่มนั้นๆด้วย ไม่งั้่นจะสูญเสียรายละเอียดครับ

                          2. มาตรฐานการอ่านแผ่น CD ของ drive CD-DA แบบเก่า (Red book) จะไม่มีการแก้ไขความผิดพลาดระดับบน เมื่ออ่านเจอข้อผิดพลาด(ที่อาจเกิดจากทางกายภาพ เช่นแผ่นเป็นรอย ฝุ่นเกาะฯลฯ)ก็จะข้ามไป ทำให้อาจเกิดเสียงที่เพี้ยนขึ้นมาได้ ตรงนี้ยืนยันว่าจริง โดยเฉพาะ consumer CD drive ที่ขายในอดีต(รวมถึงระดับเทพในปัจจุบัน)

                          3. แต่ มาตรฐาน CD-ROM หรือ drive CD ที่ใช้ใน computer นั้น จะมีเรื่องของการตรวจสอบความผิดพลาด การแก้ไขค่าผิดพลาด การ sync clock ทำให้ปัญหาที่เกิดความเพี้ยนโดยไม่รู้ตัวนั้นหมดไป รวมไปถึงเรื่องของ jitter ที่เกิดการเลื่อนของ phase เพียงเล็กน้อยก็ไม่มีทางเกิดขึ้่นได้ครับ การอ่านผ่านมาตรฐาน CD-ROM จะพยายามแก้ไขข้อผิดพลาดเสมอ หากแก้ไขไม่ได้ ก็จะฟ้องขึ้นมาทันที ไม่แอบส่งผ่านโดยที่เราไม่รู้ตัวแบบมาตรฐาน CD-DA(red book) ยุคเก่า

                          4. จากเรื่องมาตรฐาน CD-ROM ที่ว่ามา มีการตรวจสองความผิดพลาด และแก้ไขข้อผิดพลาด จึุงทำให้เรามั่นใจได้ว่า ข้อมูลที่เราได้รับ เมื่อผ่านการตรวจสอบแล้ว(ไม่เกิด error) จึงถูกต้องตามต้นฉบับทุกประการ ไม่มีทางที่จะผิดเพี้ยนได้ อุปมาดัง สมการ 1+1=2 ไม่ว่าเราจะย้ายข้างกันอย่างไร หากอยู่บนพื้นฐานของนิยามทางคณิตศาสตร์มันก็ย่อมได้เท่าเดิมครับ

                          5. สิ่งที่ทำให้เกิดความแตกต่างในการฟังเพลง จึงมีอยู่สองจุด
                          5.1 ช่วงอ่านข้อมูลจากสื่อบันทึก ขึ้นกับมาตรฐานของเครื่องเล่น CD นั้นๆ ว่าใช้มาตรฐานดั้งเดิมยุคเก่า หรือปรับเปลี่ยนเพิ่มเทคโนโลยียุคใหม่เข้าไปแล้ว นั่นคือ หากเป็นเครื่องเล่นยุคเก่า ก็อาจมีข้อมูลที่อ่่านได้ผิดพลาดโดยที่เราไม่รู้ตัว จนเกิดความแตกต่างเล็กๆน้อย ที่นักฟังที่มีทักษะในการแยกแยะความถี่สามารถแยกแยะได้ทันที แต่กลับกัน หากเครื่องเล่นใช้มาตรฐานตาม CD-ROM แล้ว จะไม่มีทางเกิดการเพี้ยนของข้อมูลได้เลย ถ้าแผ่นเสียหาย จะมีก็แค่อ่านไม่ได้เลย(และฟ้อง error) หรือเกิดเสียงสะดุดขึ้นมาทันที ไม่มีเีสียงอิ่มมากอิ่มน้อย ไม่จัดจ้านแตกต่างกันครับ
                          5.2 ช่วงแปลงจาก digital -> Analog หรือส่วนที่เรียกว่า DAC เนื่องจากมีความแตกต่างในเรื่องของ algorithm ในแต่ละ hardware เสียงที่ได้จึงแตกต่างกัน แม้ input จะเหมือนกันก็ตาม นั่นทำให้ DAC บางอย่างที่ทำออกมาเสียงถูกใจนักฟัง สามารถทำราคาได้แพงกว่า ทั้งๆที่ตอนผลิตชิปICก็มีต้นทุนวัตถุดิบแทบไม่ต่างกันแืท้ๆ

                          จาก 5 ข้อที่ผมยกมาคร่าวๆ ใครจะแย้งประเด็นไหนก็พูดคุยกันได้ครับ แต่ต้องแยกประเด็น โดยเฉพาะเรื่องความเพี้ยนของสื่อดิจิตอล ที่จริงๆมันไม่มีทางเพี้ยน ไม่ว่าจะทำซ้ำกี่แสนรอบครับ เนื่องจากข้อมูลดิจิตอลมีการตรวจสอบคุณภาพเสมอ จึงทำให้เรารู้ว่าข้อมูลที่เราส่งไปหรือรับมานั้นถูกต้องหรือเปล่า แต่ที่ทำให้เสียงออกมาแตกต่างกัน จริงๆแล้วมันไปอยู่ที่จุดอื่นตะหาก

                          Comment


                          • #58
                            โอ้วสาระและความรู้ ไอเรานั่งดูปริบๆ
                            ว่าแต่ สาย Coax ให้ความต่างของเสียงได้ Optic ก็ให้ได้
                            แต่ USB ให้ได้ไหมง่ะ ถ้าใช่ DAC มีใครเคยลองมั่ง งิงิ

                            Comment


                            • #59
                              #53 รูปที่ท่านยกมา เขาพูดถึงขนาดของ file ครับ เช่นเพลง 1 นาที file wav มีขนาด 10MB แต่พอแปลงเป็น FLAC แล้วเหลือขนาด 6MB (~60% ของ wav) ไม่เกี่ยวกับการสูญเสียข้อมูลใดๆทั้งสิ้นครับ

                              แถมในบทความใน link นั้นยังสรุปเรื่องการแปลงจาก wav ไป FLAC แล้วแปลงกลับเป็น wav อีกที ว่าได้ข้อมูลที่เท่ากันทุกประการ(ใช้ MD5 checksum ตรวจสอบ)

                              อ่านบทความละเอียดๆก่อนอีกทีนะครับ ขอบคุณที่ช่วยยกบทความมายืนยันความถูกต้อง ของ lossless format ว่าไม่มีการสูญเสียจากต้นฉบับจริงๆครับ ^^

                              http://www.bobulous.org.uk/misc/audioFormats.html
                              "For each track, the MD5 checksum of the Wave file converted from FLAC matches exactly the MD5 checksum of the original Wave file. The file sizes match exactly, too. This is very strong evidence that FLAC really is lossless. You can convert from Wave to FLAC, and from FLAC to Wave, with no loss of digital fidelity."
                              Last edited by Fourpoint; 24 Jun 2010, 22:49:45. Reason: เพิ่ม quote

                              Comment


                              • #60
                                ไม่เชี่ยวชาญเรื่องนี้นัก ขอทำความเข้าใจสักครู่

                                Originally posted by Fourpoint View Post
                                #53 รูปที่ท่านยกมา เขาพูดถึงขนาดของ file ครับ เช่นเพลง 1 นาที file wav มีขนาด 10MB แต่พอแปลงเป็น FLAC แล้วเหลือขนาด 6MB (~60% ของ wav) ไม่เกี่ยวกับการสูญเสียข้อมูลใดๆทั้งสิ้นครับ

                                แถมในบทความใน link นั้นยังสรุปเรื่องการแปลงจาก wav ไป FLAC แล้วแปลงกลับเป็น wav อีกที ว่าได้ข้อมูลที่เท่ากันทุกประการ(ใช้ MD5 checksum ตรวจสอบ)

                                อ่านบทความละเอียดๆก่อนอีกทีนะครับ ขอบคุณที่ช่วยยกบทความมายืนยันความถูกต้อง ของ lossless format ว่าไม่มีการสูญเสียจากต้นฉบับจริงๆครับ ^^

                                Comment

                                Working...
                                X