โมให้ดีกันเยอะแล้ว มาม๊ะ....มาโมให้"เจ๊ง"กันดีกว่า

[mujaarm]

ผมฟัง X-Fi extreme mo opamp ก็พอใจครับ

Xonar DS ตัวนี้ ASUS AV 200 ตัวเดียวกับ Essense Dac wofson เป็น bit perfect

เลยอยากลองกับหุูตัวเองครับ แต่ฟังแล้วก็มีความแตกต่าง กันจริง กำลังหาความแตกต่างอยู่

เพราะใช้ลงในเครื่องเดียวกัน 2 การ์ด เพลงเดียวกัน ฟังกันชัดๆไปเลยครับ

[mean]

มารอฟังความเปลี่ยนแปลง

[mujaarm]

Xonar DS เปลี่ยน opamp

CAPACITOR เปลี่ยนค่าเท่าเดิม หรือเพื่มนิดหน่อย แต่ใช้ของ Spargue คุณภาพสูงกว่าของเดิม

[mujaarm]

X-Fi เสียงแหลมจะใส ระดับความดังใน volume เท่ากันจะดังกว่า เบสนีหนักจริงๆ บางเพลงขึ้นต้นด้วย

electonesหรือ guitar เร่งvolune อยู่ตรงกลาง ฟังใสๆ พอ เบส กลอง มา ขวบลำโพงจะไปไม่ไหว กลัวจะไปก่อน

กำหนด แต่ผมคงชอบสไตร์อเมริกา ชอบเบส จึงชอบ GMX 2.1 เพราะเบสหนักดี

Xonar DS เสียงก็ใช้ได้ เสียงออกธรรมชาติดี แต่ต้องลอง burn ซักระยะหนึ่งครับ

[mujaarm]

SONAR DS ราคาประหยัด ใช้ชิบDSPของC-Media
เน้นเสียงช่วงกลางไปถึงแหลม เบส(พอมีบ้าง)เป็นแบบให้จังหวะแต่ไม่เน้นปริมาณ กลางถึงแหลมเน้นที่ให้รายละเอียด จุดเด่นอีกอันคือเป็นการ์ดที่ฮาดแวร์ซัพพอร์ท192KHz

X-Fi ราคาปานกลาง ใช้ชิบDSPของตัวเอง
เน้นเสียงช่วงเบสไปถึงกลาง เบสเป็นแบบเน้นปริมาณและเก็บตัวเร็ว ตั้งแต่กลางไปถึงแหลมมีอาการคมนิดหน่อย (ฟังนานๆอาจจะรู้สึกล้าหูได้)

AUZEN X-Fi Prelude ราคาสูง เอาชิบX-Fiมาใช้ในสไตล์ของAUZENเอง
ไม่เน้นปริมาณเบสกลางหรือแหลม เป็นแบบฟังเรื่อยๆสบายๆมากกว่า ฟังได้ทุกแนวเพียงแต่จะไม่เด่นที่แนวไหนเป็นพิเศษ

---------------------------------


ASUS SONAR DS กับ Creative Sound Blaster X-Fi ให้เสียงคนละแนวกันครับ เอามาเปรียบเทียบแบบนั้นไม่ได้

คุณชอบชีวิตที่ตื่นเต้น..คุณต้องใช้รถสปอร์ต
คุณชอบชีวิตที่ภูมิฐานและดูหรู..คุณต้องใช้รถลีมูซีน

ที่คุณถาม ถ้าเปลี่ยนคำถามใหม่ เป็น
ใช้ลีมูซีนอยู่แต่อยากให้มันออกตัวเร็วดีขึ้น อุปกรณ์ตามนั้นจะช่วยให้ออกตัวดีขึ้นไม๊

ตอบง่ายๆก็คือ
ทำได้ครับ ออกตัวดีขึ้น แต่อย่าลืมว่ารถที่คุณใช้มันคือลีมูซีน สไตล์ในการขับยังงัยมันก็ยังเป็นแบบลีมูซีนเหมือนเดิมน่ะครับ


ถ้าคุณ mujaarm เปลี่ยนคำถามเป็นแบบนี้
"ตอนนี้เบิร์นDSเสร็จแล้ว ฟังแล้วชอบสียงตรงไหนบ้าง ไม่ชอบตรงไหนบ้าง อยากจะเปลี่ยนตรงที่ไม่ชอบให้เป็นแบบไหน"

แบบนี้ผมก็ยังพอจะแสดงความเห็นได้ง่ายกว่า
เพราะอย่าลืมว่า ที่ผมชอบ คุณอาจจะไม่ชอบก็ได้ ฉะนั้นการใช้อุปกรณ์ตามทั้งหมดอาจจะไม่ใช่สิ่งที่คุณต้องการก็ได้น่ะครับ

แต่ถ้าหวังเพียงแค่ อุปกรณ์เกรดที่ดีขึ้น จะช่วยให้อายุการใช้งานของการ์ดนานขึ้น ก็ตอบได้ว่า อุปกรณ์ทุกยี่ห้อทุกรุ่นที่เกรดสูงกว่าที่เค้าใส่มา จะช่วยคุณได้แน่

ผมฟังเพลงทุกๆแนว อย่างที่ยกตัวอย่างชอบชีวิตตื่นเต้นใช้รถสปอร์ต ชอบชีวิตหรูหราใช้รถลิมูซีน

แต่ถ้าผมชอบทั้ง 2 แบบละครับ อย่างลำโพง ผมชอบ C3 ผมก็ชอบ Klipsch GMX 2.1
รัก Boston 635 อย่างซาวน์การ์ด ผมก็ชอบทั้งตัว คนละแนว เพลงที่ลงใน Library ก็เอามาที่ละ

2000 เพลง ฟังไปเรื่อยๆ

[keang]

ดูรูปในเคสแล้ว เพิ่งเห็นว่า การ์ดX-Fiคุณต่อสายจากfront panelไปเข้าRCA jackด้วย
สายที่คุณใช้เชื่อมต่อระหว่างการ์ดกับRCA jack ดูแล้วเหมือนสายที่แถมมากับพวกDVD drive

ปรกติคุณต่อลำโพงจาก ช่องหูฟังหรือRCA ???

--------------------------------------

รูปเป็นมุมกว้างจึงไม่เห็นรายละเอียดเฉพาะจุดมากนัก
คุณเปลี่ยนตัวเก็บประจุไปแล้ว มีบางจุดที่ของเดิมเค้าใช้ตัวเก็บประจุค่าน้อย(0.1ไมโคร)ต่อBi-Cap(ต่อขนาน)ด้วย

คุณถอดตัวเก็บประจุที่เค้าB-Capออกด้วย หรือว่า ยังมีBi-Capไว้เหมือนเดิม ???
--------------------------------------


ตัวเก็บประจุอิเลคทรอไลติค(ตัวสีฟ้าเข้ม)ที่คุณใส่เข้าไปใหม่ ไม่ใช่Spragueน่ะครับ แต่เป็น Nippon-Chemical ที่ซื้อเทคโนโลยี่การผลิตจาก Sprague

(Spragueได้ปิดตัวเองไปเกิน10ปีแล้ว และได้ขายเทคโนโลยี่การผลิตตัวเก็บประจุให้กับผู้ผลิตรายใหม่ ชื่อ Nippon-Chemical)

--------------------------------------


ตัวเก็บประจุยี่ห้อ Sprague, Malloly, Nippon-chemical(เฉพาะรุ่นที่ซื้อไลเซ่นจากSprague) ทั้งหมดเป็นแบรนด์USAเหมือนกัน จะให้มิติเวทีเสียงกว้างลึกที่พอๆกัน จะให้แนวเสียงฐานเสียงที่ใกล้เคียงกัน แตกต่างกันที่รายละเอียดว่าของใครจะเก็บช่วงไหน
เสียงเบสจะมีลักษณะใหญ่ไม่เก็บตัวเร็วจนเป็นลูกเหมือนๆกัน(เสียงเบสสไตล์อมเริกัน) แตกต่างกันตรงที่ใครเน้นต้นเสียงเบสกับใครเน้นที่รายละเอียดหางเสียงเบสมากกว่ากัน

ยกตัวอย่างเสียงยิงปืน "ปัง" (ขอให้สังเกตุจำนวน "." กับ "ง")
Mallory
จะดัง "ปังงงงง" ปังแรกจะให้ไดนามิคที่สดเหมือนจริงมาก(แต่เสียงไม่แข็งน่ะ) แล้วหางเสียงปังจางหายเร็วกว่านิด
Sprague
จะดัง "ปัง..งงงงงงงงง" ปังแรกจะไม่สดเท่าMallory แต่จะให้รายละเอียดของเสียงที่ค่อยๆจางหายไป

พอเปลี่ยนจากแบรด์Spragueมาเป็นNippon-Chemical
Nippon จะดัง "ปัง....งงงง" ปังแรกจะสดน้อยกว่าSprague และรายละเอียดของหางเสียงก็จะสั้นกว่าSpragueนิดหน่อย

รายละเอียดของหางเสียงของทั้ง3แยรนด์นี้ ต่างจากแบรนด์อื่นตรงที่ "..งงงง"
แบนรด์อื่น จะมีเสียงให้ได้ยินว่ามีหางเสียงต่อท้าย แต่เหมือนลดวอลลุ่มลงอย่างเร็ว
3แบรนด์นั้น นอกจากจะมีหางเสียงต่อท้ายให้ได้ยินแล้ว ยังไล่ระดับความหนักเบาของหางเสียงได้ด้วย เหมือนค่อยๆลงวอลลุ่มลงอย่างช้าๆ

แต่ก็มีหลายๆคนติงว่า เสียงเหมือนเบสไม่กระชับ เบสบวม เบสยาน แต่ถ้าสังเกตุดีๆคุณจะรู้ว่ามันต่างจากอาการเบสบวมแน่นอน

[keang]

ถ้าใครอ่านที่ผมแสดงความคิดเห็นในหลายๆโพสที่ผ่านมา หากสังเกตุดีๆ ผมจะพยายามสื่อถึงลักษณะของ วงจรแต่ละแบบ การทำงานในส่วนต่างๆของวงจร เสียงต่างๆที่ได้จากอุปกรณ์แต่ละยี่ห้อ แต่ละชนิด แต่ละรุ่น

เหตุผลว่าทำไมถึงต้องทำแบบนี้ ก็เพราะว่า มันมีจุดต่างของคำว่า "คนโม" กับ "คนเปลี่ยนอุปกรณ์ คนเปลี่ยนอะหลั่ย"
ผมอยากให้ทุกคนที่อยากสนุกกับเรื่องโมเรื่องDIY เป็น นักพัฒนา มากกว่าเป็น คนเปลี่ยนอะหลั่ย

จะเป็นการโมหรือDIYก็แล้วแต่ จุดมุ่งหมายที่ควรเป็นคือ วิจัยและแก้ไขตัววงจร+เปลี่ยนอุปกรณ์ให้ทำงานได้สมบูรณ์มากขึ้น



- หากเราเพียงแค่หยิบฮาดแวร์ชิ้นนั้นขึ้นมาดู แล้วก็คิดเพียงแค่ ไหนดูสิมีอะไรที่เปลี่ยนได้บ้าง พอเปลี่ยนครบก็ไม่มีอะไรให้เปลี่ยน ความสนุกก็หมดไป หันไปหาของเล่นชิ้นใหม่ต่อ

- หากเราทำความเข้าใจกับวงจรที่อยู่ตรงหน้า หากเราทำความเข้าใจกับเสียงที่เราได้ยินจากฮาดแวร์ชิ้นนั้นๆ เราสมารถสนุกกับการเลือกใช้วงจร การเลือกใช้อุปกรณ์ให้เหมาะสม การเลือกอุปกรณ์ต่างๆให้เหมาะกับสไตล์การฟังของเรา เราสมารถเพิ่มพูนประสบการณ์ เราสามารถเพิ่มพูนความชำนาญ เราจะสามารถสนุกได้ไม่รู้จบ และเมื่อมีฮาดแวร์แวร์ชิ้นใหม่เข้ามาอยู่ตรงหน้า เราก็สามารถใช้ประสบการณ์ที่ผ่านมา มาต่อยอดองค์ความรู้ของเราได้อีก พัฒนาได้ไม่มีขีดจำกัด


..... คุณอยากเป็นแบบไหนครับ .....

[E6420]

ถ้าใครอ่านที่ผมแสดงความคิดเห็นในหลายๆโพสที่ผ่านมา หากสังเกตุดีๆ ผมจะพยายามสื่อถึงลักษณะของ วงจรแต่ละแบบ การทำงานในส่วนต่างๆของวงจร เสียงต่างๆที่ได้จากอุปกรณ์แต่ละยี่ห้อ แต่ละชนิด แต่ละรุ่น

เหตุผลว่าทำไมถึงต้องทำแบบนี้ ก็เพราะว่า มันมีจุดต่างของคำว่า "คนโม" กับ "คนเปลี่ยนอุปกรณ์ คนเปลี่ยนอะหลั่ย"
ผมอยากให้ทุกคนที่อยากสนุกกับเรื่องโมเรื่องDIY เป็น นักพัฒนา มากกว่าเป็น คนเปลี่ยนอะหลั่ย

จะเป็นการโมหรือDIYก็แล้วแต่ จุดมุ่งหมายที่ควรเป็นคือ วิจัยและแก้ไขตัววงจร+เปลี่ยนอุปกรณ์ให้ทำงานได้สมบูรณ์มากขึ้น



- หากเราเพียงแค่หยิบฮาดแวร์ชิ้นนั้นขึ้นมาดู แล้วก็คิดเพียงแค่ ไหนดูสิมีอะไรที่เปลี่ยนได้บ้าง พอเปลี่ยนครบก็ไม่มีอะไรให้เปลี่ยน ความสนุกก็หมดไป หันไปหาของเล่นชิ้นใหม่ต่อ

- หากเราทำความเข้าใจกับวงจรที่อยู่ตรงหน้า หากเราทำความเข้าใจกับเสียงที่เราได้ยินจากฮาดแวร์ชิ้นนั้นๆ เราสมารถสนุกกับการเลือกใช้วงจร การเลือกใช้อุปกรณ์ให้เหมาะสม การเลือกอุปกรณ์ต่างๆให้เหมาะกับสไตล์การฟังของเรา เราสมารถเพิ่มพูนประสบการณ์ เราสามารถเพิ่มพูนความชำนาญ เราจะสามารถสนุกได้ไม่รู้จบ และเมื่อมีฮาดแวร์แวร์ชิ้นใหม่เข้ามาอยู่ตรงหน้า เราก็สามารถใช้ประสบการณ์ที่ผ่านมา มาต่อยอดองค์ความรู้ของเราได้อีก พัฒนาได้ไม่มีขีดจำกัด


..... คุณอยากเป็นแบบไหนครับ .....

[mujaarm]

^
ตัวเชื่อมการ์ดกับ RCA ซื้อมาในเว็ปนานแล้ว ต้องเปลี่ยนสายเป็นสายอะไรดีครับ 8tc คงไม่มีตังค์ซื้อ เวลาต่อ บางครั้งออก RCA บางครั้งต่อจากการ์ด หูผมฟังไม่แตกต่างครับ

รูปเป็นมุมกว้างจึงไม่เห็นรายละเอียดเฉพาะจุดมากนัก
คุณเปลี่ยนตัวเก็บประจุไปแล้ว มีบางจุดที่ของเดิมเค้าใช้ตัวเก็บประจุค่าน้อย(0.1ไมโคร)ต่อBi-Cap(ต่อขนาน)ด้วย

คุณถอดตัวเก็บประจุที่เค้าB-Capออกด้วย หรือว่า ยังมีBi-Capไว้เหมือนเดิม ???


ไม่รู้อยู่ตรงไหนบอกตำแหน่งหน่อยครับ


Capacitors ที่ผมเปลี่ยยนเป็น Nippon ท่านแม่นจริงๆครับ


ตอนเปลี่ยนCap แล้วเอาไปใส่อีกเครื่อง พอลง driver เสร็จ restart บู๊ทแล้วดัง PEEP PEEP แล้วจอมืด
คิดว่างานเข้า เพราะตอนเอาลมร้อนเป่า ร้อนมาก เอามาลงอีกเครื่องปกติ การ์ดประกัน 2 ปี ทำแล้วหมดประกัน
ถ้าเสียก็ Game over

[keang]

ตัวเชื่อมการ์ดกับ RCA ซื้อมาในเว็ปนานแล้ว ต้องเปลี่ยนสายเป็นสายอะไรดีครับ 8tc คงไม่มีตังค์ซื้อ เวลาต่อ บางครั้งออก RCA บางครั้งต่อจากการ์ด หูผมฟังไม่แตกต่างครับ

ใช้Belden RG179ก็ได้ ราคาไม่แพงด้วย
(ที่เค้าเอามาทำสายmini to mini กันนั่นแหล่ะ)

ข้อเสียของสายเส้นนี้ คือ จะไปไม่ถึงโลว์เบส และ ไปไม่ถึงปลายเสียงสูง
แต่ระหว่างช่วงเสียงที่มันให้ได้ ก็ถือว่าคุ้มเกินราคา

ความเห็นส่วนตัว
อย่าพยายามไปใส่พวกสายหุ้มภายนอกเพิ่มละ เพราะมันจะไปลดพวกรายละเอียดแบคกราวน์ พวกหางเสียง แล้วก็ไปเน้นเสียงช่วงกลางสูงขึ้นมาอีกหน่อย
ถ้าไม่ใส่ก็ไม่เสียเงินเพิ่ม แถมได้คุณสมบัติของสายไปเต็มๆ ผมว่าน่าจะเป็นทางเลือกที่ดีกว่า

แล้วก็ไม่จำเป็นต้องไปเบิ้ลสายให้มากเส้น เส้นเดียวแบบเดิมๆนี่แหล่ะ สำแดงพลังได้ดีที่สุด
เบิ้ลหลายเส้น ได้เสียงใหญ่ขึ้น แต่รายละเอียดและมิติเวลทีเสียงด้อยลงไปอีก

ตัวเก็บประจุBi-Cap ???

ไม่รู้อยู่ตรงไหนบอกตำแหน่งหน่อยครับ

เดี๋ยวทำรูปเสร็จ จะมาอัพเดทให้อีกที

[keang]

ใกล้ปิดงานละ โดยรวมคิดว่าได้95%แล้วละ




PCB ด้านบน
ส่วนนี้ สำเร็จได้สัก98%
2%ที่เหลือ คือ รอเปลี่ยนตัวเก็บประจุฟิลเตอร์ให้ไอซี ASUS AV200


ตัวต้านทานต่อตรงเข้าขาแจ็คหูฟัง
ข้อดี คือ สัญญาณเสียงที่ได้จากออปแอมป์ต่อตรงเข้าขาของแจ็คหูฟัง โดยไม่ใช้ลายทองแดงของการ์ด
ทำให้ไม่มีการสูญเสียของสัญญาณเสียง และ ไม่มีเอฟเฟคจากคุณภาพของเนื้อทองแดงที่ใช้


Motorola MC78M05 TO-39 Gold
ไอซีเรกกูเลเตอร์ ทำหน้าที่ควมคุมไฟ+5โวลท์ให้คงที่ ทำหน้าที่จ่ายไฟเลี้ยงตัวไอซี ASUS AV200 , WM8776S , WM8766G

[E6420]

จบบริบูรณ์ครับ

[mujaarm]

จะจบแล้ว แต่เราจะทำตามได้หรือเปล่าก็ไม่รู้

[keang]

จะจบแล้ว แต่เราจะทำตามได้หรือเปล่าก็ไม่รู้

ได้สิครับ
พอเต็ม100% ผมจะกลับไปอธิบายการทำงานของไอซีแต่ละเบอร์
เพื่อให้เข้าใจ การทำงานในแต่ละจุดแต่ละวงจร เพื่อจะได้รู้ว่าจุดไหนสำคัญมากน้อยแค่ไหน
หลังจากนั้น จะมีภาพประกอบแบบแสดงให้เห็นแบบละเอียดทุกขั้นตอนทุกจุดให้ดูอีกครั้ง
คราวนี้ก็ทำตามได้แน่นอน เพื่อให้คนที่มีการ์ดตัวนี้สามารถเรียนรู้และทำตามได้ไม่ยากนัก

เพียงแต่ใจเย็นๆ ทำความเข้าใจทีละขั้นทีละจุด
สุดท้ายหลักการต่างๆที่ผมใช้กับDS พอคุณเข้าใจ คุณก็สามารถนำไปใช้ได้กับทุกยี่ห้อทุกรุ่น
เพราะหลักการทำงานมันแทบจะเหมือนๆกัน

แต่ถ้าทำแค่ เห็นตัวอย่างเปลี่ยนอะไร ก็คอยเปลี่ยนตาม คุณจะไม่ได้อะไรติดตัวไปเลย


ปล.
ที่บอกว่าจะเต็ม100% อันนี้คือเวอชั่น1
ตั้งใจทำในรูปแบบที่สามารถหาซื้ออุปกรณ์ส่วนใหญ่ได้ทั่วไปตามแหล่งขาย ยกเว้นบางตัวที่หาไม่ได้ก็สามารถใช้ที่คุณสมบัติใกล้เคียงกันได้
พยายามไม่ทำอะไรที่ยุ่งยากซับซ้อน

ในเวอชั่น2
ผมจะทำในแบบที่ผมอยากทำ อยากลอง ซึ่งไม่รับประกันว่าจะทำตามกันได้ทุกคน
ซึ่งไม่มีกำหนดระยะเวลาจบโปรเจค อยากเอามาบอกต่อตอนไหน ก็จะมาโพสให้ดูเป็นระยะ
ถ้าการ์ดไม่เจ๊งคามือไปอีกอัน ก็คงต่อไปเรื่อยๆ เพราะสามารถเอาไปประยุกต์ได้อีกหลากหลายรูปแบบ

เกริ่น ไม่แน่ใจว่าจะเป็นเวอชั่น1.5หรือเวอชั่น2 ในช่วงเริ่มต้นคร่าวๆ คงพยายามดัดแปลงวงจรออปแอมป์
โดยตั้งใจว่า จะพยายามทำในการ์ดเดิมให้ได้ แต่ถ้าที่สุดแล้วไม่ได้จริงๆ คงต้องเพิ่มการ์ดเสริมอีกใบ

[wUcGhE]

วะว๊าวสุดยอดเลยครับ

ส่วนที่คุณบอกว่า "คนโม" กับ "คนเปลี่ยนอุปกรณ์ คนเปลี่ยนอะหลั่ย"
ผมว่าบางคนเค้าก็ไม่ได้เรียนมาทางนี้ครับ ไม่มีพื้นเลยก็ยากที่จะศึกษาครับ

อย่างเช่นผม ถ้าเทอมที่แล้วผมไม่ได้ลงเรียนวิชาที่ต้องใช้การบัดกรี วันนี้ผมก็คงไม่กล้าลองอะไรเลยครับ