Announcement

Collapse
No announcement yet.

โมให้ดีกันเยอะแล้ว มาม๊ะ....มาโมให้"เจ๊ง"กันดีกว่า

Collapse
X
 
  • Filter
  • Time
  • Show
Clear All
new posts

  • #16
    Originally posted by mujaarm View Post
    ^
    โมต่างจากท่านนะครับ
    Originally posted by E6420 View Post
    ของผมเค้าไม่เรียกว่าโมครับ เรียกว่าแค่เปลี่ยน Op-Amp ถ้าโมก็ต้อง X-Fi กับ 2ZS เมื่อเกือบ 2 ปีก่อนครับ
    จริงๆก็เป็นการโมดิฟายเหมือนกันครับ ทำงัยก็ได้ให้เสียงมันดีขึ้นกว่าเดิม
    แบบของคุณE6420ก็ดีครับ ไม่มีปัญหาเรื่องประกันด้วย

    Comment


    • #17
      Sound X-Fi กับ 2ZS ที่โมเมื่อเกือบ ๆ 2 ปี ( X-Fi เสียไป 1 ตัว ) ปัจจุบันยังใช้งานได้ดี เปลี่ยน Op-Amp หลักเป็นของ Moto ทั้ง 2 ตัว พอใช้ไปนาน ๆ กับคิดว่าน่าจะหา Sound ที่ทำสำเร็จรูปมาจากโรงงานก็เปลี่ยนมาใช้ Prelude
      ปล. อันนี้เป็นรูปของสถานที่โมครับ แนะนำท่านที่ไม่ห่วงประกันก็โมได้เลย โมแล้วทำให้เสียงดีขึ้นครับ ปัจจุบัน X-Fi สิ้นชีพไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว
      Attached Files
      Last edited by E6420; 14 Dec 2009, 20:24:18.

      Comment


      • #18
        โปรเจคต่อไป ซาวน์การ์ดราคาประหยัด

        ASUS Sonar DS



        รีวิวจากเวปOCZ : ตามไปดู


        * บางคนถาม จะโมการ์ดทั้งที ทำไมไม่เอาการ์ดดีๆที่พร้อมๆกว่านี้มาทำละ ผลที่ได้น่าจะดีกว่า ดูแล้วคุ้มกว่า
        ความคิดเห็นนี้ จริงครับ เห็นด้วยทุกประการ

        แต่ : ผมมีจุดประสงค์มากกว่าแค่โมการ์ดตัวนี้ให้จบ แล้วก็ไปหาตัวใหม่มาลองเล่นอีก

        เพราะ : ตัวนี้อาจจะเป็นฐานให้เป็นตัวทดลองตัวอ้างอิงสำหรับการทดลองส่วนตัวในอนาคต เช่น ทดลองวงจรขยายในส่วนของออปแอมป์ ทดลองปรับแต่งค่าของอุปกรณ์ ทดลองเปรียบเทียบเสียงของออปแอมป์แต่ละเบอร์แต่ละค่าย ฯลฯ


        * ทำไมถึงเลือกการ์ดตัวนี้ มีการ์ดเสียงมากมายในโลกใบนี้ให้เลือกใช้
        การ์ดตัวนี้ เห็นตั้งแต่ช่วงแรกๆที่วางขายในบ้านเรา เคยลองขอดูการ์ดจริงจากร้านค้า แต่ก็ส่งคืนให้แต่โดยดี เพราะไม่รู้สึกว่าน่าสนใจแต่อย่างใด

        แต่หลังจากโดนบังคับให้โมการ์ดAuzenตัวนั้น ถ่านไฟเก่าก็เริ่มคุโชนขึ้นมาอีกครั้ง

        เพราะ การโมแต่ละครั้ง จะมีการไล่วงจรการทำงานของชิ้นงานไว้ด้วย แต่ละยี่ห้อก็จะมีการจัดวงจรที่แตกต่างกันไป ซึ่งมีผลให้เกิดความแตกต่างในเสียงที่ได้ ในอนาคตอาจจะได้เอาวงจรออปแอมป์ของหลายๆยี่อห้อมาลองกับการ์ดตัวนี้ได้ เช่น เอาวงจรแอมป์ของAuzen วงจรแอมป์ของCreative วงจรแอมป์หูฟัง ฯลฯ

        การ์ดตัวนี้ ที่กลับมาสนใจอีกครั้ง เพราะ ใช้ชิบของC-Mediaตัวใหม่ กับ Wolfson ถึงจะไม่ได้ดีเลิศไรมากมาย แต่มันก็มีดีพอตัวเหมือนกัน + ต้นทุนของการ์ดตัวนี้แค่พันปลายๆ ที่สำคัญทำเองยังไม่ได้ราคาแบบนี้เลย




        รูปทั้งหมดของโพสนี้ หยิบยืมจากกระทู้รีวิวของคุณ tor_Za
        Last edited by keang; 14 Dec 2009, 15:26:19.

        Comment


        • #19
          สุดยอดครับกระทู้นี้ยังไงจะติดตามตอนต่อไป

          Comment


          • #20
            Originally posted by keang View Post
            โปรเจคต่อไป ซาวน์การ์ดราคาประหยัด

            ASUS Sonar DS



            รีวิวจากเวปOCZ : ตามไปดู


            * บางคนถาม จะโมการ์ดทั้งที ทำไมไม่เอาการ์ดดีๆที่พร้อมๆกว่านี้มาทำละ ผลที่ได้น่าจะดีกว่า ดูแล้วคุ้มกว่า
            ความคิดเห็นนี้ จริงครับ เห็นด้วยทุกประการ

            แต่ : ผมมีจุดประสงค์มากกว่าแค่โมการ์ดตัวนี้ให้จบ แล้วก็ไปหาตัวใหม่มาลองเล่นอีก

            เพราะ : ตัวนี้อาจจะเป็นฐานให้เป็นตัวทดลองตัวอ้างอิงสำหรับการทดลองส่วนตัวในอนาคต เช่น ทดลองวงจรขยายในส่วนของออปแอมป์ ทดลองปรับแต่งค่าของอุปกรณ์ ทดลองเปรียบเทียบเสียงของออปแอมป์แต่ละเบอร์แต่ละค่าย ฯลฯ


            * ทำไมถึงเลือกการ์ดตัวนี้ มีการ์ดเสียงมากมายในโลกใบนี้ให้เลือกใช้
            การ์ดตัวนี้ เห็นตั้งแต่ช่วงแรกๆที่วางขายในบ้านเรา เคยลองขอดูการ์ดจริงจากร้านค้า แต่ก็ส่งคืนให้แต่โดยดี เพราะไม่รู้สึกว่าน่าสนใจแต่อย่างใด

            แต่หลังจากโดนบังคับให้โมการ์ดAuzenตัวนั้น ถ่านไฟเก่าก็เริ่มคุโชนขึ้นมาอีกครั้ง

            เพราะ การโมแต่ละครั้ง จะมีการไล่วงจรการทำงานของชิ้นงานไว้ด้วย แต่ละยี่ห้อก็จะมีการจัดวงจรที่แตกต่างกันไป ซึ่งมีผลให้เกิดความแตกต่างในเสียงที่ได้ ในอนาคตอาจจะได้เอาวงจรออปแอมป์ของหลายๆยี่อห้อมาลองกับการ์ดตัวนี้ได้ เช่น เอาวงจรแอมป์ของAuzen วงจรแอมป์ของCreative วงจรแอมป์หูฟัง ฯลฯ

            การ์ดตัวนี้ ที่กลับมาสนใจอีกครั้ง เพราะ ใช้ชิบของC-Mediaตัวใหม่ กับ Wolfson ถึงจะไม่ได้ดีเลิศไรมากมาย แต่มันก็มีดีพอตัวเหมือนกัน + ต้นทุนของการ์ดตัวนี้แค่พันปลายๆ ที่สำคัญทำเองยังไม่ได้ราคาแบบนี้เลย




            รูปทั้งหมดของโพสนี้ หยิบยืมจากกระทู้รีวิวของคุณ tor_Za
            รวดเร็วทันใจจริง ๆ ครับ

            Comment


            • #21
              ติดตามชมครับ

              Comment


              • #22
                ASUS Xonar DS Audio



                * ถอดออปแอมป์ ถอดรีเลย์ กับ อุปกรณ์ที่เกี่ยวข้อง เพื่อไล่วงจรและการทำงาน
                Last edited by keang; 12 Sep 2010, 18:03:22.

                Comment


                • #23
                  * การ์ดตัวนี้แปลก เสียงจากชุดต่อ Front Panel กับ ผ่านแจคหลังเครื่อง เสียงต่างกันมาก


                  * ใครที่เป็นเจ้าของการ์ดตัวนี้ ฟังแล้วรู้สึกว่า เสียงไม่ค่อยมีพลัง น้ำเสียงไม่อิ่มเอิบ เสียงโดยรวมมีแต่เสียงให้ได้ยิน ไม่สามารถบอกขนาดของชิ้นเครื่องดนตรีได้ ก็ไม่ต้องแปลกใจไป

                  เพราะว่า : เค้าลดต้นทุนด้วยการใช้ตัวเก็บประจุแบบเซอเฟสเม้า ที่ทำหน้าที่ฟิลเตอร์ไฟที่จ่ายให้กับตัวออปแอมป์ ทำให้ตัวออปแอมป์ขาดพลังไฟสำรองในยามที่ต้องการใช้แบบฉับพลัน

                  วิธีแก้ไข :
                  ก็เพียงแค่เปลี่ยนจากของเดิมไปใช้ตัวเก็บประจุแบบอิเลคทรอไลติค ใช้ค่าเท่าเดิมก็ดี
                  (ผู้ผลิตเค้าใช้ตัวเก็บประจุแบบเซอเฟสเม้าทั่วไป ที่ตัวมันจะไม่มีค่าพิมพ์ไว้ ตัวไม่ถึง3มิลลิเมตร ถอดออกมาวัดค่าได้10ไมโคร ส่วนอัตราการทนไฟเปลี่ยนใหม่ก็ให้ให้เกิน12โวลท์ขึ้นไป 16โวลท์กำลังดี เพราะการ์ดตัวนี้ใช้ไฟเลี้ยงออปแอมป์12โวลท์ 16-25โวลท์ถือว่าไม่มากเกินไม่น้อยเกินไป)
                  - อุปกรณ์ตัวเล็กๆก็เหมือนปั๊มน้ำที่มีถังพักน้ำใบเล็กๆ
                  - อุปกรณ์ที่ค่าเท่ากันทุกอย่างแต่มีขนาดตัวใหญ่กว่า ก็เหมือนถังพักน้ำใบใหญ่กว่า

                  * ถ้าคิดจะเปลี่ยนตัวนี้ อย่าลืมถอดตัวเก็บประจุที่เค้าBi-Capออกด้วยละ(หรือจะปล่อยไว้แบบเดิมก็ได้) แต่โดยหลักการแล้วไม่มีใครเอาCคุณภาพต่ำมาBi-Cap Cที่คุณภาพสูงกว่า เพราะมันจะพาให้อุปกรณ์ดีๆได้เสียงที่แย่ลงไปด้วย

                  Bi-Cap ก็คือ การเอาCค่าน้อยมาต่อขนานเข้ากับCค่ามาก เพื่อชดเชยการทำงานในช่วงความถี่สูง
                  เพราะ Cค่ามากก็จะทำงานที่เสียงทุ้มดีแต่ด้อยที่เสียงแหลม ในทางกลับกัน Cค่าน้อยจะทำงานดีที่เสียงแหลมแต่ด้อยที่เสียงทุ้ม
                  แต่ถ้าเราใช้Cที่ค่าไม่มากเกินไปไม่น้อยเกินไป ใช้ค่าให้เหมาะสมกับวงจรในจุดนั้นๆ และใช้Cคุณภาพดีๆ จุดด้อยตรงนี้จะลดลงมากอยู่แล้ว จนบางครั้งอาจคิดว่าไม่จำเป็นต้องBi-Capเลยก็ได้

                  - ผลที่ได้จากการBi-Capแล้ว เสียงโดยรวมจะกระชับเก็บตัวเร็วมากขึ้น หรือ ฟังง่ายๆก็คือเบสเก็บตัวเร็วขึ้น ถ้ามากไปเบสก็ออกมาเป็นลุกเหมือนฟังเพลงในเธค
                  - เมื่อเราใช้ของคุณภาพดีกว่ามาตราฐานอยู่แล้ว แต่ยังใช้Cที่คุณภาพต่ำมาBi-Cap คุณภาพของเสียงแหลมก็ได้เท่ากับCคุณภาพต่ำตัวนั้น เพราะฉะนั้นเมื่อต้องการจะใช้วิธีการBi-Cap ควรใช้Cค่าน้อยที่คุณภาพดีจริงๆเท่านั้น
                  - เมื่อเราBi-Capจะมีผลตามมาอีกอย่างนึง คือ ตำแหน่งเสียงของชิ้นดนตรีจะเตี้ยลงกว่าเดิม จากเดิมที่นักร้องยืนร้องเพลงจะกลายเป็นนักร้องคุกเข่าร้องเพลง (นึกดีๆว่า ยืนร้องกับคุกเข่าร้อง ระดับตำแหน่งเสียงมันต่างแค่ไหน)


                  การปรับปรุงให้เครื่องเสียง ให้มีมิติเวทีเสียงกว้างกับลึก ว่ายากแล้ว แต่ที่อยากที่สุดคือการทำให้เครื่องเสียงสามารถระบุตำแหน่งของเสียงในระดับแนวตั้งได้ (ลองนึกภาพกลองชุด ใบฉาบจะอยู่สูงกว่าตำแหน่งของตัวกลอง)


                  ปล.
                  จะพยายามแทรกทริกเล็กๆน้อยๆในการปรับปรุงคุณภาพให้ดีขึ้น ในเนื้อหาที่เกี่ยวข้องเป็นช่วงๆ เท่าที่จะมีโอกาสน่ะครับ


                  ----------------------------------------


                  เอารูปมาลงเพิ่ม เพื่อให้เห็นภาพชัดขึ้นว่า ตัวเก็บประจุแบบเซอเฟสเม้า ค่า10ไมโครที่บอก หน้าตาและขนาดมันเป็นแบบไหน

                  ให้สังเกตุ อุปกรณ์ตัวสี่เหลี่ยมเล็กๆสีเหลือง(หรือสีน้ำตาลอ่อน) ที่อยู่ล้อมรอบ ไอซ๊เบอร์ WM8766S ตัวมันยาวไม่เกิน3มิลลิเมตร กว้างไม่เกิน2มิลลิเมตร
                  Last edited by keang; 15 Dec 2009, 00:27:14.

                  Comment


                  • #24
                    รอดูครับ
                    ผมไม่อยากโม soundcard เพราะ เซ็ง SMD Capacitor นี่แหละ

                    Comment


                    • #25
                      ในอนาคตหนีอุปกรณ์SMDไม่พ้น เพราะจะเข้ามาแทนที่ในทุกๆส่วนของเครื่องใช้ไฟฟ้า

                      ฉะนั้นหากคิดจะซ่อมจะโม ควรเตรียมตัวเตรียมใจไว้ได้เลย เพราะยังงัยก็หนีไม่พ้นแน่ๆ

                      Comment


                      • #26
                        Originally posted by keang View Post
                        * การ์ดตัวนี้แปลก เสียงจากชุดต่อ Front Panel กับ ผ่านแจคหลังเครื่อง เสียงต่างกันมาก


                        * ใครที่เป็นเจ้าของการ์ดตัวนี้ ฟังแล้วรู้สึกว่า เสียงไม่ค่อยมีพลัง น้ำเสียงไม่อิ่มเอิบ เสียงโดยรวมมีแต่เสียงให้ได้ยิน ไม่สามารถบอกขนาดของชิ้นเครื่องดนตรีได้ ก็ไม่ต้องแปลกใจไป

                        เพราะว่า : เค้าลดต้นทุนด้วยการใช้ตัวเก็บประจุแบบเซอเฟสเม้า ที่ทำหน้าที่ฟิลเตอร์ไฟที่จ่ายให้กับตัวออปแอมป์ ทำให้ตัวออปแอมป์ขาดพลังไฟสำรองในยามที่ต้องการใช้แบบฉับพลัน

                        วิธีแก้ไข :
                        ก็เพียงแค่เปลี่ยนจากของเดิมไปใช้ตัวเก็บประจุแบบอิเลคทรอไลติค ใช้ค่าเท่าเดิมก็ดี
                        (ผู้ผลิตเค้าใช้ตัวเก็บประจุแบบเซอเฟสเม้าทั่วไป ที่ตัวมันจะไม่มีค่าพิมพ์ไว้ ตัวไม่ถึง3มิลลิเมตร ถอดออกมาวัดค่าได้10ไมโคร ส่วนอัตราการทนไฟเปลี่ยนใหม่ก็ให้ให้เกิน12โวลท์ขึ้นไป 16โวลท์กำลังดี เพราะการ์ดตัวนี้ใช้ไฟเลี้ยงออปแอมป์12โวลท์ 16-25โวลท์ถือว่าไม่มากเกินไม่น้อยเกินไป)
                        - อุปกรณ์ตัวเล็กๆก็เหมือนปั๊มน้ำที่มีถังพักน้ำใบเล็กๆ
                        - อุปกรณ์ที่ค่าเท่ากันทุกอย่างแต่มีขนาดตัวใหญ่กว่า ก็เหมือนถังพักน้ำใบใหญ่กว่า

                        * ถ้าคิดจะเปลี่ยนตัวนี้ อย่าลืมถอดตัวเก็บประจุที่เค้าBi-Capออกด้วยละ(หรือจะปล่อยไว้แบบเดิมก็ได้) แต่โดยหลักการแล้วไม่มีใครเอาCคุณภาพต่ำมาBi-Cap Cที่คุณภาพสูงกว่า เพราะมันจะพาให้อุปกรณ์ดีๆได้เสียงที่แย่ลงไปด้วย

                        Bi-Cap ก็คือ การเอาCค่าน้อยมาต่อขนานเข้ากับCค่ามาก เพื่อชดเชยการทำงานในช่วงความถี่สูง
                        เพราะ Cค่ามากก็จะทำงานที่เสียงทุ้มดีแต่ด้อยที่เสียงแหลม ในทางกลับกัน Cค่าน้อยจะทำงานดีที่เสียงแหลมแต่ด้อยที่เสียงทุ้ม
                        แต่ถ้าเราใช้Cที่ค่าไม่มากเกินไปไม่น้อยเกินไป ใช้ค่าให้เหมาะสมกับวงจรในจุดนั้นๆ และใช้C8ณภาพดีๆ จุดด้อยตรงนี้จะลดลงมากอยู่แล้ว

                        - ผลที่ได้จากการBi-Capแล้ว เสียงโดยรวมจะกระชับเก็บตัวเร็วมากขึ้น หรือ ฟังง่ายๆก็คือเบสเก็บตัวเร็วขึ้น ถ้ามากไปเบสก็ออกมาเป็นลุกเหมือนฟังเพลงในเธค
                        - เมื่อเราใช้ของคุณภาพดีกว่ามาตราฐานอยู่แล้ว แต่ยังใช้Cที่คุณภาพต่ำมาBi-Cap คุณภาพของเสียงแหลมก็ได้เท่ากับCคุณภาพต่ำตัวนั้น เพราะฉะนั้นเมื่อต้องการจะใช้วิธีการBi-Cap ควรใช้Cค่าน้อยที่คุณภาพดีจริงๆเท่านั้น
                        - เมื่อเราBi-Capจะมีผลตามมาอีกอย่างนึง คือ ตำแหน่งเสียงของชิ้นดนตรีจะเตี้ยลงกว่าเดิม จากเดิมที่นักร้องยืนร้องเพลงจะกลายเป็นนักร้องคุกเข่าร้องเพลง (นึกดีๆว่า ยืนร้องกับคุกเข่าร้อง ระดับตำแหน่งเสียงมันต่างแค่ไหน)


                        การปรับปรุงให้เครื่องเสียง ให้มีมิติเวทีเสียงกว้างกับลึก ว่ายากแล้ว แต่ที่อยากที่สุดคือการทำให้เครื่องเสียงสามารถระบุตำแหน่งของเสียงในระดับแนวตั้งได้ (ลองนึกภาพกลองชุด ใบฉาบจะอยู่สูงกว่าตำแหน่งของตัวกลอง)


                        ปล.
                        จะพยายามแทรกทริกเล็กๆน้อยๆในการปรับปรุงคุณภาพให้ดีขึ้น ในเนื้อหาที่เกี่ยวข้องเป็นช่วงๆ เท่าที่จะมีโอกาสน่ะครับ


                        ----------------------------------------


                        เอารูปมาลงเพิ่ม เพื่อให้เห็นภาพชัดขึ้นว่า ตัวเก็บประจุแบบเซอเฟสเม้า ค่า10ไมโครที่บอก หน้าตาและขนาดมันเป็นแบบไหน

                        ให้สังเกตุ อุปกรณ์ตัวสี่เหลี่ยมเล็กๆสีเหลือง(หรือสีน้ำตาลอ่อน) ที่อยู่ล้อมรอบ ไอซ๊เบอร์ WM8766S ตัวมันยาวไม่เกิน3มิลลิเมตร กว้างไม่เกิน2มิลลิเมตร
                        ถอดแล้วเอา C ยี่ห้อไหน มาใส่แทนครับ

                        Comment


                        • #27
                          อยากให้คุณ keang แนะนำการโมตัว Xonar Essence STX ด้วยครับ ^ ^

                          Comment


                          • #28
                            Originally posted by newbie66 View Post
                            อยากให้คุณ keang แนะนำการโมตัว Xonar Essence STX ด้วยครับ ^ ^
                            ผมช่วยลงรูป ให้ card ผมเอง ซื้อมา ขายไป นานแล้ว
                            Attached Files

                            Comment


                            • #29
                              Originally posted by Wizardmans View Post
                              ถอดแล้วเอา C ยี่ห้อไหน มาใส่แทนครับ
                              อันนี้ยังบอกแบบชัวร์ๆไม่ได้ เพราะ ต้องรอให้ทุกอย่างเข้าที่ แล้วฟังดูอีกทีว่า เสียงที่ได้เป็นงัยบ้าง
                              เสียงตรงไหนขาด ตรงไหนเกิน ตรงไหนพอดีแล้ว
                              แล้วค่อยมาตัดสินใจเลือกยี่ห้อ เลือกรุ่นของยี่ห้อนั้นๆ มาใช้เพื่อปรับแต่งเสียงให้โดยรวมตรงตามต้องการ

                              แต่โดยปรกติ ถ้าเลือกได้ ผมจะใช้อยู่2ยี่ห้อ sprague กับ mallory แต่ถ้า2ยี่ห้อนี้ผมไม่มีค่าตรง ก็ค่อยไปหายี่ห้ออื่นมาทดแทน

                              Originally posted by newbie66 View Post
                              อยากให้คุณ keang แนะนำการโมตัว Xonar Essence STX ด้วยครับ ^ ^
                              ก่อนอื่น ต้องบอกก่อนว่า รุ่นนี้ยังไม่เคยฟังน่ะครับ
                              คุณใช้แล้ว คุณรู้สึกว่าเป็นยังงัย เสียงอะไรขาดอะไรเกินอะไรพอดีแล้ว แล้วก็อยากเปลี่ยนแปลงอะไร
                              หลังจากได้ข้อมูลพวกนี้แล้ว ถึงจะบอกได้ว่า ทำตรงไหนได้บ้าง

                              แต่วิธีง่ายๆ ไม่หมดประกันก็เปลี่ยนออปแอมป์


                              ที่สำคัญ
                              - ต้องเห็นของจริงว่า พื้นที่ในส่วนที่จะเปลี่ยนอุปกรณ์นั้น ของเดิมเค้าใส่อะไรอยู่ พื้นที่รอบๆมีที่ว่างแค่ไหน เพราะอุปกรณ์ของใหม่นั้นจะมีขนาดใหญ่กว่าของเดิมมาก บางทีจุดนั้นเปลี่ยนไม่ได้ก็ต้องไปหาจุดอื่นแทน แล้วก็ดูระยะ***งจากพื้นPCBไปถึงฝาครอบด้วยว่า จะใส่อะไหล่สูงได้แค่ไหน
                              - ถ้ามีกล้องดิจตอล ลองถ่ายมาโครการ์ด ให้เห็นรายละเอียดของตัวอะไหล่ แยกเป็นส่วนๆ จะช่วยได้มากครับ
                              Last edited by keang; 14 Dec 2009, 23:19:58.

                              Comment


                              • #30
                                ^

                                Xonar Essence STX ผมก็สนใจตัวนี้ตัวต่อไปครับ

                                ยืมรูปท่าน Apichate โมโดยเปลี่ยน opamp 3 ต้ว
                                Last edited by mujaarm; 28 Mar 2010, 20:19:50.

                                Comment

                                Working...
                                X