โมให้ดีกันเยอะแล้ว มาม๊ะ....มาโมให้"เจ๊ง"กันดีกว่า

[keang]

ผมอยากถามว่า
Pre Processer กับ AVR และก็ Sound Card นั้นมีการใช้งานที่ต่างกันยังไงครับ

เพราะเท่าที่คนธรรมดาอย่างผมมอง ผมมองว่าเจ้า Pre กับ AVR นั้นก็มีน่าที่หลักๆเลยคือให้เสียงที่ดีขึ้น ถอดรหัสสัญญานระบบเสียงต่างๆ แยก ch เสียงให้เป็น 5.1 หรือ 7.1 ที่กล่าวมาผมคิดว่า Sound Card ก็ทำได้ แล้วมันต่างกันยังไง

- Pre Processor ตัวประมวลผลทางเสียง
คำนี้จริงๆจะหมายถึง Pre Surround หรือ Surround Decoder + DSP

- AVR (Audio/Video Receiver) เครื่องขยายเสียงแบบรวมมิตร
สมัยก่อนจะมีเพียงแค่ Receiver จะประกอบด้วย Tuner, Line Amp, Power Amp
ต่อมา เริ่มมีการผนวกเอาระบบเสียงสำหรับดูหนังเข้ากับReceiver จะประกอบด้วย Pre Surround, Tuner(ปัจจุบันผู้ผลิตหลายยี่ห้อก็เริ่มไม่ใส่มาให้แล้ว), Line Amp, Power Amp แบบMulti-Channel

- Sound Card การ์ดเสียงสำหรับคอมพิวเตอร์
เป็นการทำงานร่วมกันของHardware+Software สามารถทำงานได้ครอบจักรวาล
ถ้าฮาดแวร์ไม่ซัพพอร์ท ก็จะมีคนเขียนซอฟแวร์เพื่อให้เล่นได้ใช้งานได้
มีช่องรับสัญญาณเข้า มีภาคขยายกำลังต่ำในตัว มีตัวประมวลผลทางเสียง บางรุ่นก็สามารถถอดเซอราวน์ได้ครบทุกระบบ
ซาวน์การ์ดเปรียบเสมือนเครื่องเล่นบ้านที่ถูกย่อส่วน ให้เหลือขนาดเพียงใหญ่กว่าฝ่ามือนิดหน่อย
แต่ถึงจะเล็ก การืดบางตัวก็เล็กแบบมีกึ๋น ประสิทธิภาพไม่น้อยหน้าเครื่องบ้านเหมือนกัน



ขนาดของเครื่องแยกชิ้นกับซาวน์การ์ด
- เครื่องแบบแยกชิ้น มีขนาดใหญ่ ไม่จำกัดขนาดและรูปร่าง
ทำให้สามารถใส่วงจรต่างๆได้ครบถ้วน เช่น วงจรป้องกันต่างๆ วงจรเสริมประสิทธิภาพต่างๆ
ใช้ไฟเลี้ยงสูงต่ำแค่ไหนก็ได้ จะใช้อะหลั่ยเกรดไหนแบบไหน ก็ทำได้ตามใจผู้ผลิต เพราะมีพื้นที่เหลือเฟือ จะทำไรก็สะดวก

- ซาวน์การ์ด มีทุกสิ่งทุกอย่างรวมอยู่ในตัว แต่ถูกจำกัดด้วยเรื่องขนาด
ทำให้ผู้ผลิตเลือกใส่วงจรเฉพาะเท่าที่จำเป็นต้องมี พวกวงจรป้องกันบางอย่างก็ต้องยอมถูกตัดออกไป
ไฟเลี้ยงวงจร ก็ต้องดึงจากระบบบัสของเมนบอร์ด มีให้ใช้สูงสุดเพียงแค่ +-12โวลท์
อะหลั่ยเกือบทั้งหมดจะเป็นแบบSMD ไม่สามารถใช้อะหลั่ยที่มีขนาดใหญ่ได้ ซึ่งอะหลั่ยเกรดสูงจะมีขนาดใหญ่กว่ามากๆ
ภาคขยายที่มีกำลังต่ำมากๆ ไม่สามารถไปขับลำโพงตู้ตามบ้านได้ ทำได้เพียงขับหูฟังเท่านั้น


จากข้อจำกัดต่างๆของซาวน์การ์ด จึงทำให้ประสิทธิภาพหลายๆอย่างถูกจำกัดขอบเขตเอาไว้
ดังนั้น เมื่อนำไปเทียบกับเครื่องเล่นบ้าน ซาวน์การ์ดจึงดูแล้วอ่อนด้อยเป็นเด็กน้อยไปโดยปริยาย
เพราะไม่สามารถตอบโจทย์ได้ในทุกประเด็นแบบเครื่องเล่นบ้าน



คร่าวๆ คงมีประมาณนี้ละมั้ง
ขาดตกประเด็นไหน หรือ ใครอยากเสริมเพิ่มเติม หรือ จะเปิดมุมมองใหม่ๆ เพื่อแลกเปลี่ยนข่าวสารกัน ก็เรียนเชิญน่ะครับ

[ย่องมาซื้อ]

- Pre Processor ตัวประมวลผลทางเสียง
คำนี้จริงๆจะหมายถึง Pre Surround หรือ Surround Decoder + DSP

- AVR (Audio/Video Receiver) เครื่องขยายเสียงแบบรวมมิตร
สมัยก่อนจะมีเพียงแค่ Receiver จะประกอบด้วย Tuner, Line Amp, Power Amp
ต่อมา เริ่มมีการผนวกเอาระบบเสียงสำหรับดูหนังเข้ากับReceiver จะประกอบด้วย Pre Surround, Tuner(ปัจจุบันผู้ผลิตหลายยี่ห้อก็เริ่มไม่ใส่มาให้แล้ว), Line Amp, Power Amp แบบMulti-Channel

- Sound Card การ์ดเสียงสำหรับคอมพิวเตอร์
เป็นการทำงานร่วมกันของHardware+Software สามารถทำงานได้ครอบจักรวาล
ถ้าฮาดแวร์ไม่ซัพพอร์ท ก็จะมีคนเขียนซอฟแวร์เพื่อให้เล่นได้ใช้งานได้
มีช่องรับสัญญาณเข้า มีภาคขยายกำลังต่ำในตัว มีตัวประมวลผลทางเสียง บางรุ่นก็สามารถถอดเซอราวน์ได้ครบทุกระบบ
ซาวน์การ์ดเปรียบเสมือนเครื่องเล่นบ้านที่ถูกย่อส่วน ให้เหลือขนาดเพียงใหญ่กว่าฝ่ามือนิดหน่อย
แต่ถึงจะเล็ก การืดบางตัวก็เล็กแบบมีกึ๋น ประสิทธิภาพไม่น้อยหน้าเครื่องบ้านเหมือนกัน



ขนาดของเครื่องแยกชิ้นกับซาวน์การ์ด
- เครื่องแบบแยกชิ้น มีขนาดใหญ่ ไม่จำกัดขนาดและรูปร่าง
ทำให้สามารถใส่วงจรต่างๆได้ครบถ้วน เช่น วงจรป้องกันต่างๆ วงจรเสริมประสิทธิภาพต่างๆ
ใช้ไฟเลี้ยงสูงต่ำแค่ไหนก็ได้ จะใช้อะหลั่ยเกรดไหนแบบไหน ก็ทำได้ตามใจผู้ผลิต เพราะมีพื้นที่เหลือเฟือ จะทำไรก็สะดวก

- ซาวน์การ์ด มีทุกสิ่งทุกอย่างรวมอยู่ในตัว แต่ถูกจำกัดด้วยเรื่องขนาด
ทำให้ผู้ผลิตเลือกใส่วงจรเฉพาะเท่าที่จำเป็นต้องมี พวกวงจรป้องกันบางอย่างก็ต้องยอมถูกตัดออกไป
ไฟเลี้ยงวงจร ก็ต้องดึงจากระบบบัสของเมนบอร์ด มีให้ใช้สูงสุดเพียงแค่ +-12โวลท์
อะหลั่ยเกือบทั้งหมดจะเป็นแบบSMD ไม่สามารถใช้อะหลั่ยที่มีขนาดใหญ่ได้ ซึ่งอะหลั่ยเกรดสูงจะมีขนาดใหญ่กว่ามากๆ
ภาคขยายที่มีกำลังต่ำมากๆ ไม่สามารถไปขับลำโพงตู้ตามบ้านได้ ทำได้เพียงขับหูฟังเท่านั้น


จากข้อจำกัดต่างๆของซาวน์การ์ด จึงทำให้ประสิทธิภาพหลายๆอย่างถูกจำกัดขอบเขตเอาไว้
ดังนั้น เมื่อนำไปเทียบกับเครื่องเล่นบ้าน ซาวน์การ์ดจึงดูแล้วอ่อนด้อยเป็นเด็กน้อยไปโดยปริยาย
เพราะไม่สามารถตอบโจทย์ได้ในทุกประเด็นแบบเครื่องเล่นบ้าน



คร่าวๆ คงมีประมาณนี้ละมั้ง
ขาดตกประเด็นไหน หรือ ใครอยากเสริมเพิ่มเติม หรือ จะเปิดมุมมองใหม่ๆ เพื่อแลกเปลี่ยนข่าวสารกัน ก็เรียนเชิญน่ะครับ

ขอบคุณมากๆเลยครับผม กระจ่างแจ้งเลยครับผม

[keang]

ผมใช้การ์ดรุ่น ST ครับ

เจ้าของเก่าแถมออฟแอมมาให้เปลี่ยนเล่น มี opa2111kp,2107ap,49720ha

เปลียนออฟแอมเฉพาะ 2 ตัวหลังครับ

จากที่ลองฟังมาทั้ง 3เบอร์ ผมชอบ 2107ap มากที่สุด เสียงกลางออกหวานนิดๆ แหลมกำลังดี เบสนุ่ม ครับ

2111kp ผมว่าออฟแอมตัวนี้รายละเอียดดีครับ แต่เบสไม่ลึก เหมือนเบสมันมาไม่เต็มลูกอ่าครับ บางท่านฟังเพลง บรรเลง ผมว่า ตัวนี้ทำได้ดีเลยครับ

49720ha เห็นท่านอื่นๆว่า เบสนุ่ม ผมฟังผมว่ามันหนาๆครับ กับ กาด ST [/COLOR]

ขอบคุณครับ

ออปแอมป์2ตัวหลังทำหน้าที่ แปลง กระแสให้กลับมาเป็นโวลท์ เพื่อส่งต่อให้ออปแอมป์ตัวสุดท้าย
ออปแอมป์ตัวสุดท้ายก็ทำหน้าที่ขยายสัญญาณให้มีขนาดใหญ่ขึ้น เพื่อส่งต่อไปแจ็คเอ้าพุท

มีโอกาส ลองเปลี่ยนออปแอมป์ตัวสุดท้ายดูสิครับ ผลที่ได้ไม่ต่างจากการเปลี่ยนออปแอมป์2ตัวนั้น
จะได้ปรุงแต่งแนวเสียงได้ละเอียดขึ้น อาจจะถูกใจหรือไม่ถูกใจก็ได้

[keang]

ถ้าใครสนใจเรื่องการปรับปรุงประสิทธิภาพซาวน์การ์ด ในลักษณะของการลงมือทำ ลองเข้าไปดูกระทู้นี้

มาเปลี่ยน opamp ให้ X-Fi Xtreme music กันเถอะ

เริ่มต้นจะเน้นที่การหาอะหลั่ยสำหรับนำมาเปลี่ยน และ การเปลี่ยนอะหลั่ย, การปรับปรุงตัววงจร การเติมเต็มประสิทธิภาพ ของการ์ด ในหน้าถัดไป

ซึ่งข้อมูลที่มีการแลกเปลี่ยนในกระทู้นั้น สามารถนำไปใช้งานได้จริง จนถึงขนาด บางคน สามารถเอาไปรับโมการ์ด

[mean]

ติดตามดูผลงานท่านอีกครับ

ตอนนี้ผมกลายเป็นอยากแกะโน่นนี่มาดู เผื่อว่าจะปรับปรุงอะไรมันได้บ้าง ตอนนี้ก็มองมาที่ลำโพงก่อนเลย

[keang]

ตอนนี้ผมกลายเป็นอยากแกะโน่นนี่มาดู เผื่อว่าจะปรับปรุงอะไรมันได้บ้าง
ตอนนี้ก็มองมาที่ลำโพงก่อนเลย

แกะแล้วถ่ายรูป ภายใน กับ แผงวงจรครอสโอเวอร์ มาลงกระทู้เลยครับ
เดี๋ยวบรรดาเหล่าทวยเทพประจำเวป จะมาช่วยแนะนำแนวทางให้ครับ

แต่ทำลำโพง ถ้าจะเอาให้ดีจริงๆ ทำใจเรื่องค่าใช้จ่ายหน่อยน่ะ เพราะCชนิดฟิลม์คุณภาพดีๆ ราคาสูงเอาเรื่องเลย

แต่ถ้าเป็นลำโพงแบบใช้ต่อกับคอม ก็ไม่เท่าไหร่

[Wizardmans]

แกะแล้วถ่ายรูป ภายใน กับ แผงวงจรครอสโอเวอร์ มาลงกระทู้เลยครับ
เดี๋ยวบรรดาเหล่าทวยเทพประจำเวป จะมาช่วยแนะนำแนวทางให้ครับ

แต่ทำลำโพง ถ้าจะเอาให้ดีจริงๆ ทำใจเรื่องค่าใช้จ่ายหน่อยน่ะ เพราะCชนิดฟิลม์คุณภาพดีๆ ราคาสูงเอาเรื่องเลย

แต่ถ้าเป็นลำโพงแบบใช้ต่อกับคอม ก็ไม่เท่าไหร่

+1ครับ จะได้ช่วยกัน

[keang]

ยืมรูปเก่ามาโพสอ้างอิง

สถานะการณ์ล่าสุด
- Cทั้งการ์ด ล่องหนหายตัวไปหมดแล้ว
- ไอซีเรกกูเลเตอร์7805 ก็หายตัวไปแล้ว
- รีเลย์3ตัวของชุดคู่หน้า ก็หายตัวไปแล้ว
- R, C, IC Socket, IC OP-Amp ของชุดคู่หน้าทั้งหมด ก็หายตัวไปเช่นเดียวกัน


วันนี้เสร็จธุระก็ไปเดินเล่นบ้านหม้อ
มีเวลาเลยแวะไปดูอะหลั่ยที่ร้านตาชาย(เคี้ยงพลาซ่า)ซะหน่อย
โชคดีได้พบคุณmujaarmคนดังของเวปด้วย ไม่รู้ได้อะหลั่ยอะไรติดมือกลับไปเล่นบ้าง



-------------------------------------------------------------------
เพิ่งนึกได้ ใครชอบใช้Cยี่ห้อNichicon ตัวสีเขียว รหัสFA ให้ระวังนิดนึง
เพราะ วันนี้เพื่อนเอาCรุ่นนี้มาให้วัดค่า เพื่อจับคู่แมชชิ่งซ้าย-ขวา
ปรากฏว่า ค่าน้อยกว่าที่พิมพ์บนตัวพอสมควร
เช่น 100ไมโคร วัดได้จริง 80กว่าไมโคร ลองวัดสิบกว่าตัวก็ได้ค่าต่ำกว่าที่พิมพ์ไว้ทุกตัว

--- Cชนิดอิเลคทรอไลติค ปรกติจะมีค่าความผิดพลาดสูง ตามสเปคเค้าจะ+20% ---

ซึ่งอาการ "C ค่าต่ำกว่าที่พิมพ์ไว้" จะหมายถึง "Cเริ่มเสื่อมแล้ว"
-------------------------------------------------------------------

ความรู้เยอะดีจัง ชอบครับ

[keang]

ย้อนอดีต #2

กลับบ้านไปหาอะหลั่ย เจอเครื่องที่ปัจจุบันไม่ได้ใช้แล้ว แต่ผ่านความซุกซนส่วนตัว
เลยเปิดฝาดูรำลึกอดีตสักนิด


เครื่องเล่นเทปของAiwa
ตอนใช้งานน่าจะประมาณปี2533 เพราะหลังจากนั้นก็เริ่มใช้เครื่องเล่นCD Aiwaตัวนี้ก็เลยไม่ค่อยได้เปิดสักเท่าไหร่
ตอนเก็บเข้าห้องเก็บของ เครื่องยังใช้งานได้ปรกติ แต่ล่าสุดที่เปิดดูภายใน สายพาน+ลูกยางหมดสภาพไปแล้ว

แอบแปลกใจเล็กๆ ผ่านไป20ปี เปิดฝาดูภายใน ไม่เจอคราบฝุ่นคราบสกปรกเลยสัดนิด
ที่เห็นในรูปคือสภาพจริงที่ไม่มีการปัดฝุ่นเพื่อทำความสะอาดเลย
แสดงว่า ผู้ผลิตออกแบบตัวถังเครื่องได้ดีทีเดียว ป้องกันฝุ่นหลุดเข้าภายในได้ดีมาก



Aiwaเครื่องนี้ ถือเป็นครู เพราะเป็นชิ้นแรกที่เริ่มโมแบบเต็มตัว
- เปลี่ยนอะหลั่ยตามจินตนาการ จุดไหนควรใช้อะหลั่ยยี่ห้อไรรุ่นไร
- เปลี่ยนอะหลั่ยครั้งละ1ตัว เพื่อทดลองฟังเสียงอะหลั่ย ยี่ห้อเดียวกัน แต่คนละรุ่นหรือคนละชนิด
- ถ้าจำไม่ผิด ส่งการบ้านกับคุณครูAiwaร่วมปี จนในที่สุดกลายเป็นเปลี่ยนอะหลั่ยทั้งเครื่อง

รู้จักเวทีเสียงแบบ3มิติเป็นครั้งแรก มีด้านกว้าง มีด้านลึก เสียงเครื่องดนตรีแต่ละชนิดมีระดับความสูง-ต่ำ
สัดส่วนของเวทีแม้จะได้สัดส่วนที่ไม่สวยงามนัก แต่ก็ถือว่าเครื่องเล่นพื้นๆแบบนี้ ทำได้แค่นี้ก็เก่งเกินตัวละ

[กาต่าย]

เป็นมากน่ะ พี่

[keang]

to กาต่าย
เครื่องเล่นเทปAiwaตัวนี้ ทำเครื่องเล่นCD สะอื้นมาหลายตัวแล้วน่ะ
CDได้ไดนามิคเสียง แต่เวทีเสียงไม่ต้องมาเทียบกัน


* CD Playerในยุคแรกๆ เสียงแข็งโป๊ก ต้องให้เทคโนโลยี่ผ่านไป4ปีเสียงจากCD Playerค่อยน่าฟังหน่อย *

[IceSwen99]

ยืมรูปเก่ามาโพสอ้างอิง

สถานะการณ์ล่าสุด
- Cทั้งการ์ด ล่องหนหายตัวไปหมดแล้ว
- ไอซีเรกกูเลเตอร์7805 ก็หายตัวไปแล้ว
- รีเลย์3ตัวของชุดคู่หน้า ก็หายตัวไปแล้ว
- R, C, IC Socket, IC OP-Amp ของชุดคู่หน้าทั้งหมด ก็หายตัวไปเช่นเดียวกัน


วันนี้เสร็จธุระก็ไปเดินเล่นบ้านหม้อ
มีเวลาเลยแวะไปดูอะหลั่ยที่ร้านตาชาย(เคี้ยงพลาซ่า)ซะหน่อย
โชคดีได้พบคุณmujaarmคนดังของเวปด้วย ไม่รู้ได้อะหลั่ยอะไรติดมือกลับไปเล่นบ้าง



-------------------------------------------------------------------
เพิ่งนึกได้ ใครชอบใช้Cยี่ห้อNichicon ตัวสีเขียว รหัสFA ให้ระวังนิดนึง
เพราะ วันนี้เพื่อนเอาCรุ่นนี้มาให้วัดค่า เพื่อจับคู่แมชชิ่งซ้าย-ขวา
ปรากฏว่า ค่าน้อยกว่าที่พิมพ์บนตัวพอสมควร
เช่น 100ไมโคร วัดได้จริง 80กว่าไมโคร ลองวัดสิบกว่าตัวก็ได้ค่าต่ำกว่าที่พิมพ์ไว้ทุกตัว

--- Cชนิดอิเลคทรอไลติค ปรกติจะมีค่าความผิดพลาดสูง ตามสเปคเค้าจะ+20% ---

ซึ่งอาการ "C ค่าต่ำกว่าที่พิมพ์ไว้" จะหมายถึง "Cเริ่มเสื่อมแล้ว"
-------------------------------------------------------------------

เดินบ้านหม้อได้ อะหลั่ย อะไรมั่งหรองับ ^^

[keang]

เดินจนทั่วบ้านหม้อ แทบจะทุกร้าน บางร้านต้องวานให้เจ้าของร้านไปช่วยค้นตามลิ้นชักก็ไม่มี
สรุป ไม่ได้ของที่ต้องการจากบ้านหม้อ

โทรไปหาเพื่อนที่สะสมอะหลั่ยมาด้วยกัน ก็ไม่มีตัวที่ต้องการเหมือนกัน

สรุป วันนี้เลยต้องกลับบ้านไปค้นที่บ้านตัวเอง มีค่าที่ต้องการแต่ขนาดใหญ่เกิน...ใส่ไม่ได้อีก
สรุปก็ยังไม่ได้อยู่ดี

[Wizardmans]

ยืมรูปเก่ามาโพสอ้างอิง

สถานะการณ์ล่าสุด
- Cทั้งการ์ด ล่องหนหายตัวไปหมดแล้ว
- ไอซีเรกกูเลเตอร์7805 ก็หายตัวไปแล้ว
- รีเลย์3ตัวของชุดคู่หน้า ก็หายตัวไปแล้ว
- R, C, IC Socket, IC OP-Amp ของชุดคู่หน้าทั้งหมด ก็หายตัวไปเช่นเดียวกัน


วันนี้เสร็จธุระก็ไปเดินเล่นบ้านหม้อ
มีเวลาเลยแวะไปดูอะหลั่ยที่ร้านตาชาย(เคี้ยงพลาซ่า)ซะหน่อย
โชคดีได้พบคุณmujaarmคนดังของเวปด้วย ไม่รู้ได้อะหลั่ยอะไรติดมือกลับไปเล่นบ้าง



-------------------------------------------------------------------
เพิ่งนึกได้ ใครชอบใช้Cยี่ห้อNichicon ตัวสีเขียว รหัสFA ให้ระวังนิดนึง
เพราะ วันนี้เพื่อนเอาCรุ่นนี้มาให้วัดค่า เพื่อจับคู่แมชชิ่งซ้าย-ขวา
ปรากฏว่า ค่าน้อยกว่าที่พิมพ์บนตัวพอสมควร
เช่น 100ไมโคร วัดได้จริง 80กว่าไมโคร ลองวัดสิบกว่าตัวก็ได้ค่าต่ำกว่าที่พิมพ์ไว้ทุกตัว

--- Cชนิดอิเลคทรอไลติค ปรกติจะมีค่าความผิดพลาดสูง ตามสเปคเค้าจะ+20% ---

ซึ่งอาการ "C ค่าต่ำกว่าที่พิมพ์ไว้" จะหมายถึง "Cเริ่มเสื่อมแล้ว"
-------------------------------------------------------------------

ร้านตาชายเคี้ยงหลี ก็เห็นมี ClarityCap อย่างเดียวแหละที่น่าใช้ แต่พักหลังๆ ไม่ค่อยได้ซื้อแล้ว เพราะได้C ที่เด็ดกว่า มาโม CrossoverNetwork แล้ว