Announcement

Collapse
No announcement yet.

<<< +++ Intel Sandy Bridge i5, i7 CLUB +++ >>>

Collapse
X
 
  • Filter
  • Time
  • Show
Clear All
new posts

  • ^
    ^
    ^
    อ่อ ขอบคุณครับ งงไปหมด ที่แท้ก็ต้อง *2
    ถ้าเราใส่ 4 ตัวมันจะเป็น 400 MHz หรอครับ ?

    Comment


    • ไม่ใช่ครับ ไม่ได้คิดแบบนั้น เดวให้เทพๆ ตัวจริง เค้าตอบดีกว่า อิอิ

      Comment


      • ^
        ^
        ^

        = =" นี้ไม่เทพหรอ ^^
        เห็นผลงานมาเยอะ อยากเมพมั้ง แต่ week ไม่เมพ
        555

        Comment


        • ตอบตามความเข้าใจของผมนะ ผิดถูกประการใด
          เดี๋ยวท่านเทพ Kasin ก็มาเกาให้แล้วกันครับ

          ibcbet

          Comment


          • -ตรงข้ามกับเทพ มาตอบแทนแล้วกัน ^^
            -ตอบด้วยภาพ ^^


            -ถ้ายังไม่เข้าใจอ่านต่อด้านล่าง






            แรมวิ่งบนความถี่สัญญาณนาฬิกา (bus clock) 800 MHz
            บัสสปีด 1600 MHz ความเร็วหน่วยเป็น MT/s (megatransfers ต่อ วินาที)

            เพาะฉนั้นคนที่บอกว่า เล่นมาหมดแล้วบัส 2400 กับ บัส 1333 ไม่เห็นแตกต่างเลยเสียเงินเปล่าๆ จึงผิด (เพาะเค้าไม่ได้ใช้งานตรงจุดนั้นมากกว่า ^^)

            Comment


            • Originally posted by worametza View Post
              ^
              ^
              ^
              อ่อ ขอบคุณครับ งงไปหมด ที่แท้ก็ต้อง *2
              ถ้าเราใส่ 4 ตัวมันจะเป็น 400 MHz หรอครับ ?
              สปีดของแรมจริง ๆ คือ 800 สำหรับรุ่นบัส 1600 เพราะเป็น DDR จึงต้องคูณ 2 เข้าไปจึงจะได้ความเร็วที่รุ่นเขียนบอก

              แต่จะมีแรมบางตัว เช่น แรมของการ์ดจอ DDR 5 เป็นต้น DDR 5 มีความเร็วสูงมาก คูณ 4 เลยทีเดียว ความเร็วเดิม ๆ 1250 คูณ 4 กลายเป็น 5000 เลย อันนี้แรมการ์ดจอรุ่นใหม่ที่ใช้ DDR 5 นะ

              แต่แรมหลักของเครื่องทำไมมันยังไม่ทำ DDR 5 กันสักทีน้อ อิอิ แรงกระฉูด

              Comment


              • สำหรับเรื่องราวของเมโมรีตรงจุดนี้ กับในช่วงเวลานี้ที่ถือว่ากำลังเป็นช่วงของรอยต่ออีกครั้ง ซึ่งครั้งหนึ่งหากยังจำกันได้ ในช่วงเวลาประมาณปี พ.ศ. 2545 ในช่วงเวลานั้นก็ถือว่าเป็นช่วงรอยต่อมาครั้งหนึ่งแล้ว สำหรับการเปลี่ยนแปลงจาก DDR1 มาสู่ DDR2 มาถึงในวันนี้กับในช่วงกลางปี 2550 ก็กำลังเป็นรอยต่อจาก DDR2 มาสู่ DDR3 ซึ่งในที่สุดแล้ว วันหนึ่ง DDR3 ก็จะกลายเป็นมาตรฐานที่เข้ามาแทนที่ DDR2 ในที่สุด เฉกเช่น ณ เวลานี้ที่ DDR2 นั้นจัดเป็นเมโมรีมาตรฐานในท้องตลาด ก่อนที่จะก้าวไปสู่ยุคของ DDR3 วันนี้เรามาทำความรู้จักกันครับว่า DDR3 ที่เราจะได้สัมผัสกันนั้น มันมีอะไรเปลี่ยนแปลงไปบ้าง

                สำหรับการเปลี่ยนแปลงจากเมโมรีในประเภท DDR2 มาเป็น DDR3 นั้น หลายๆท่านอาจจะยังเข้าใจผิดกันอยู่ว่า มันก็แค่ DDR2 ที่มีลาเทนซีที่สูงขึ้น แล้วใช้พลังงานน้อยลง แต่.. ในความเป็นจริงแล้ว มันเป็นอะไรที่ All New หรือใหม่ทั้งหมด เป็นเทคโนโลยีใหม่ทั้งหมด เรามาดูความแตกต่างที่โดดเด่นและเห็นชัดที่สุดกันก่อนนะครับ เริ่มกันที่เรื่องของความเร็วการทำงาน ที่จะมีความเร็วเริ่มต้นที่สูงกว่า DDR2 เป็นอย่างมาก คือจะมีความเร็วเริ่มต้นที่ 800MHz (PC6400)สูงสุดที่ 1600MHz (PC12800) นี่คือความเร็วมาตรฐานของ DDR3 จากเดิมที่ DDR2 นั้นจะมีความเร็วเริ่มต้นจาก 400MHz (PC3200) และสูงสุดที่ 1066MHz (PC8500) ความเร็วที่ว่าเป็นมาตรฐานตรงนี้ เป็นความเร็วที่มีการผลิตตัวชิบเมโมรีจากบรรดาผู้ผลิต ไม่ใช่จากผู้จำหน่ายเมโมรี นอกจากเรื่องของความเร็วสัญญาณนาฬิกาของเมโมรีที่เพิ่มสูงขึ้นแล้วนั้น ยังมีเรื่องของโครงสร้างภายในที่แตกต่างกันอีกด้วย คือในส่วนของ Bits การรับส่งข้อมูลซึ่ง DDR3 นั้นจะมีช่องทางของการรับส่งข้อมูลที่สูงกว่า DDR2 เป็น 2 เท่า จากที่ DDR2 นั้นจะมีช่องทางเพียง 4 bits แต่สำหรับ DDR3 จะมีช่องทางการรับส่งข้อมุลเป็น 8 bits แต่ถ้าเราย้อนกลับไปมองกันที่สัญญาณนาฬิกาภายในกันจริงๆแล้วนั้น แท้จริงแล้วมันก็ยังคงทำงานด้วยความเร็วที่เท่ากับ DDR1 ซึ่งถ้าจะให้อธิบายด้วยคำพูดนั้น คงอธิบายให้เข้าใจค่อนข้างยาก ตรงนี้สามารถดูได้จากไดอะแกรมด้านล่าง ว่าความแตกต่างการเปลี่ยนแปลงระหว่าง DD1 สู่ DDR2 และ DDR3 เป็นอย่างไร ซึ่งเชื่อว่าน่าจะเข้าใจได้ง่ายกว่า



                จากไดอะแกรมข้างต้น เราจะเห็นว่าไม่ว่าจะเป็น DDR1, DDR2 หรือ DDR3 ต่างก็มีความเร็ว Core เริ่มต้นที่ 100MHz แต่จาก 100MHz ในหนึ่งคาบเวลา I/O สามารถเปิดปิดได้ 4 ครั้งในหนึ่งคาบเวลาเดียวกัน เมื่อสามารถเปิดปิดหรือประมวลผลได้ 4 ครั้งในหนึ่งคาบเวลา External Clock ที่ออกมาก็จะได้เท่ากับ 400MHz และด้วยความเป็น DDR = Double Data Rate จึงทำให้สามารถรับส่งข้อมูลไปกลับพร้อมกันได้ สุดท้ายแล้วก็เท่ากับว่า สามารถส่งข้อมุลออกไปได้ 400MHz และรับมาได้ 400MHz ในเวลาเดียวกัน จึงทำให้ในหนึ่งคาบเวลา มันสามารถรับส่งข้อมูลได้ 800MHz จากตัวอย่างตรงนี้ถือเป็นตัวอย่างของ DDR3 PC6400 หรือ DDR3-800MHz จากบทสรุปในส่วนนี้ที่เราจะได้คือ DDR3 นั้นจะสามารถรับส่งข้อมูลได้เป็น 2 เท่าของ DDR2 จากความถี่ภายในที่เท่าๆกัน ก็ลองคำนวณกันดูเล่นๆแล้วกันนะครับว่า DDR2 ที่เราใช้กันอยู่ตอนนี้ ความถี่ภายในจริงๆแล้วมันอยู่ที่เท่าไหร่กันแน่ ง่ายๆเลยก็คือเอาความเร็วที่เราใช้งานอยู่แล้วหารด้วย 4 เท่านี้เราก็จะได้ความเร็ว Internal Clock ของเมโมรีนั้นๆ แล้วถ้าเราจะเปลี่ยนมาใช้ DDR3 เราจะต้องใช้ DDR3 ที่ความเร็วเท่าไหร่ เราจึงจะได้ความเร็วในการทำงานที่เท่าๆเดิมที่สุด

                อีกหนึ่งจุดที่มีการเปลี่ยนแปลงอย่างเห็นได้ชัดเจน และส่งผลโดยตรงมาจากเรื่องของความเร็วที่เพิ่มขึ้น นั่นคือเรื่องของค่า Timing ที่เห็นแล้วแทบเข่าอ่อนไปตามๆกัน ด้วยอัตราไทมิ่งที่สูงจนน่ากลัว จนทำให้หลายๆคนกังวลกันว่า อย่างนี้แล้วมันจะดีกว่า DDR2 ได้อย่างไร สำหรับในเรื่องของไทมิ่งตรงนี้นั้น เราอย่างเพิ่งไปวิตกให้มากครับ เพราะมันคือเรื่องปรกติที่เมื่อมีความเร็วในการทำงานที่สูงขึ้น อัตราไทมิ่งก็จะต้องสูงตาม แต่สุงตามแล้วนั้น มันต้องมีสัดส่วนสุทธิที่เร็วกว่าเดิม กล่าวไปอย่างนี้อาจจะงง ว่าสัดส่วนสุทธิมันคืออะไร เพื่อให้ง่ายต่อการเข้าใจ เดี๋ยวเราจะมาอธิบายกันเป็นตัวเลข ซึ่งเชื่อว่าน่าจะเข้าใจได้ง่ายขึ้นแน่นอน

                เพื่อให้ง่ายต่อการเข้าใจในเรื่องไทมิ่งระหว่าง DDR3 กับ DDR2 เราจะยกตัวอย่างให้มามองกัน สมมิตว่าเรามี DDR3 ที่ความเร็วพื้นฐานคือ PC3-8500 ( DDR3-1066MHz ) CL 6-6-6-x และมี DDR2 ที่ความเร็วพื้นฐาน PC2-6400 ( DDR2-800MHz ) CL 5-5-5-x

                ขั้นแรกเรามาดูกันว่า DDR2-800MHz CL 5 ของเราจะใช้เวลาในการรับส่งข้อมูลนานเพียงไรในหนึ่งคาบเวลา

                1 clockcycle มีค่าเท่ากับ 1/400,000,000ครั้งใน 1 วินาที หรือ 2.5ns (nanoseconds) (* 400,000,000 ค่านี้มาจากไหนอาจจะสงสัยกัน อย่าเพิ่งลืมที่บอกไปจากด้านบน สำหรับ DDR2-800MHz จะมี Frequency Clock = 400MHz จาก 400MHz แปลงเป็น Hz ก็จะได้เท่ากับ 400,000,000Hz ) จากการคำนวณตรงนี้เราจะสรุปได้ว่า DDR2-800MHz CL5 จะใช้เวลาในการคิดในหนึ่งครั้งเท่ากับ 2.5ns ดังนั้น จากความล่าช้าในการรับส่งข้อมูลที่เท่ากับ 5 เมโมรีตัวนี้ก็จะใช้เวลาทั้งสิ้น
                A Total latency of 5 x 2.5 = 12.5ns

                มาดูกันต่อที่ DDR3-1066MHz CL 6 ว่าจะใช้เวลาในการรับส่งข้อมูลนานเพียงไรในหนึ่งคาบเวลา

                1 clockcycle มีค่าเท่ากับ 1/533,000,000ครั้งใน 1 วินาที หรือ 1.87ns (nanoseconds)
                A Total latency of 6 x 1.87 = 11.25ns

                จากการคำนวณที่เรายกมาตรงนี้ ก็คงจะเห็นแล้วว่าความล่าช้าสุทธินั้น DDR3 จะยังคงเร็วกว่า DDR2 ถึงแม้ว่าตัวเลขของไทมิ่งที่ดูว่ามีตัวเลขมากกว่าก็ตาม แต่กระนั้นจากตัวอย่างตรงนี้ เป็นการเปรียบเทียบจากเมโมรีที่ความเร็วพื้นฐาน เราอย่าเพิ่งไปมองกันที่ DDR2 High Performance อย่าง PC2-6400 CL3 เราต้องรอดูกันอีกครั้งเมื่อมี DDR3 High Performance ออกมาให้ได้เลือกใช้กันแล้ว ถึงเวลานั้นก็คงจะเห็นกันชัดเจนขึ้น ว่าแท้จริงแล้ว DDR3 ไม่ได้ช้ากว่า DDR2 หรือมันคือ DDR2 ที่ปรับให้มีไทมิ่งสูงขึ้น เพื่อให้มีความเร็วสูงขึ้น ทั้งนี้ทั้งนั้น นอกจากเรื่องของลาเทนซีแล้วนั้น ความเหนือกว่าของ DDR3 ที่มีต่อ DDR2 ก็คือเรื่องของ Memory Bandwidth กล่าวคือที่ PC3-12800 ( DDR3-1600MHz ) จะมี Mem BW = 12.8GB/s แต่สำหรับ DDR2 แล้วนั้นจะมี Mem BW สูงสุดเพียง 11.7GB/s หรือเทียบเท่า PC2-11712 ( DDR2-732MHz )
                ที่มา : http://www.overclockzone.com/zolkorn...skill_F310600/

                Comment


                • สว่างเลยเรา เทพก่อนเข้าบรรทม มาเปรยความรู้ให้อีก
                  THX.

                  Comment


                  • Originally posted by Mcrxp
                    โอ้วแรงๆๆๆ แต่แพงจัง 2GB 17000.- T^T
                    http://www.overclockzone.com/forums/...d.php?p=967714

                    4ปีที่แล้ว ราคาแรม DDR3 G.SKILL F3-10600CL8D-2GBHK บัส 1333 ราคา17000
                    ตอนนี้ 8GB บัส2000 ราคา 3000+ อิอิ

                    Comment


                    • up

                      Comment


                      • อิ่มเลยทุกท่าน
                        ขอบคุณมากครับ : )

                        Comment


                        • เข้ามาอ่านของท่านซอล์
                          เลยลงตารางไว้ด้วย จะสังเกตุว่าแรมยุคนี้ไม่แพงเพาะนำ DDR3-1333 มาอัดไฟเพิ่มทั้งนั้น (ที่เค้าเรียกชิปเทพอะนะ ^^)

                          Comment


                          • อีกตัวอย่างหนึ่ง ของการใส่แรม กับชิป intel X58 ที่ถูกแนะนำให้ให้แรม 3 แถว
                            ก็ไม่เข้าใจเหมือนกันว่าทำไมไม่ใส่เป็นคู่ๆ (4ก้าน)
                            ซึ่งเคยถูกแนะนำมาว่า แรม ควรใส่เป็นคู่ จะได้วิ่งเป็น DUAL CHANNELS
                            โดยถ้าเราใส่แรมก้านเดียว ก็จะเป็น single channels การโอนถ่ายข้อมูล
                            จะช้ากว่า เป็น 2 เท่า อันนี้พูดถึงสมัย ยุค DDR1 พึ่งเข้ามาในตลาด ประมาณ
                            10 ปีที่แล้ว

                            Originally posted by moopa View Post
                            เจิมผลคนแรก i7 WEEK 3922 @4.7G บนซิงค์ลม
                            โปรดอย่าถามถึง prime95 เพราะบนลมคงเทสม่ายผ่าน

                            i7 920 D0 week 3922
                            EX58-EXTREME Bios F9h
                            G.Skill Trident 2000
                            EVGA GTX 275
                            ThermalTake ToughPower 850W
                            WESTERN DIGITAL 640GB WD6400AAKS
                            Thermalright Ultra 120 Extreme
                            NMB-MAT*2

                            ที่มา click

                            Comment


                            • ^^

                              64 บิท <-- Single Channel
                              128 บิท <-- Dual Channel 4 ก้านน่าจะช้ากว่า 3 แถว (ให้เทียบในยุค 45nm อย่างเดียว)
                              192 บิท <-- Tripple Channel
                              256 บิท <-- Quad Channel ระบบนี้จะนำมาใช้ใน LGA 2011 เร็วๆนี้

                              Comment


                              • ท่านพงษ์ แนะนำการจัด aida 64 extreme ตามรูปมุมขวาให้ด้วยครับ



                                จัดเรียงสวยดีครับ

                                ibcbet

                                Comment

                                Working...
                                X