Announcement

Collapse
No announcement yet.

อธิบาย GSYNC / FREESYNC ด้วยวิทยาศาสตร์ จะได้เข้าใจกันมากขึ้น

Collapse
X
 
  • Filter
  • Time
  • Show
Clear All
new posts

  • สอบถามครับ ผมเห็นจอราคาแค่ 5 พันก็มี Free-Sync แล้วว ถ้าสำหรับ G-Sync ต้องจอระดับราคาเท่าไหร่เหรอครับ

    พอดีว่ามีงบแค่ 5 พัน อยากได้จอมา แต่ดูถ้าแล้ว ไม่น่าจะจับจอ G-Sync ได้ อีกอย่างใช้การ์ด Nvidia ด้วย เปิด Free-Sync ไม่ได้อยู่ดี 55555555555

    Comment


    • ถ้าอยากให้ Input lag น้อยๆ สำหรับเกมที่ต้องการ competitive advantage สูง
      ให้เราปิด G-Sync แล้วเปิด ULMB แทนครับ แต่เกมที่เราเล่นต้องเป็นเกมที่ระบบของเราเอารักษา FPS ในระดับที่เราต้องการให้มันนิ่งๆไม่แกว่งมากๆด้วย

      Comment


      • Freesync มันถูกเพราะ AMD ตั้ง spec ขึ้นมา และให้ผู้ผลิตจอไปทำตามกันเองครับ เหตว่าทำไมมันถึงฟรี ทำให้ผู้ผลิตนิยมผลิตจอ freesync

        ส่วน gsync ต้องซื้อตัวการ์ด กับทาง nvidia ไปใส่ในจอที่จะติดป้าย gsync ครับ มันถึงแพงกว่า มากด้วย



        Sent from my SM-N920C using Tapatalk

        Comment


        • Originally posted by Charng View Post
          อย่ามาแชร์ความรู้ผิดๆในนี้ครับ
          เคยบอกว่าจะเลิกป่วน
          คำพูดตัวเองยังรักษาไม่ได้เลย
          เคารพตัวเองหน่อยนะ

          ห้าหกหน้าแล้ว พอได้แล้ว
          อยากลองภูมิตัวเอง ไปลองตั้งกระทู้
          ใหม่ดูครับ

          Sent from my SM-N920C using Tapatalk
          ก็ไม่ได้ป่วน อันนี้ข้อเท็จจริงล้วนๆ

          Comment


          • เมื่อก่อนเล่นเกมส์ไหน ผมก็ต้องเปิด V-sync หมด เพราะภาพจะได้ไม่ฉีกขาด ถือว่าซีเรียสมากๆ แต่พอเวลาผ่านไปถึงได้เข้าใจว่าจริงๆแล้ว เปิด V-sync นั้นการตอบสนองของภาพช้าลงไม่ตอบสนองทันที ยิ่งถ้าเล่นเกมส์พวกแนว FPS นี่เห็นชัดเจนเวลาเลื่อนเม้าหันซ้ายหันขวาจะรู้สึกได้ทันทีว่าตอบสนองช้ากว่าการปิด V-sync หลังๆมาผมเลือกที่จะปิด V-sync ถ้าเล่นเกมส์แนว FPS แต่ถ้าเกมส์ทั่วไปก็จะ ปิดบ้าง เปิดบ้างบางเกมส์ ที่เจอมาบางเกมส์ถ้าเปิด V-sync แล้วนั่นเฟรมเรทร่วงกระจายแทบเล่นไม่ได้อย่างเช่นเกมส์ Watch Dogs อันนี้เห็นได้ชัดเจนเเมื่อ เปิด V-sync ปุ๊ปเฟรมร่วงทันทีแทบเล่นแทบไม่ได้ถ้าปรับกราฟฟิคแบบสุดนะ
            สุดท้ายผมก็ได้เข้าใจว่าจริงๆแล้ว V-sync นั้นไม่จำเป็นสำหรับทุกๆเกมส์ ภาพฉีกขาดนั้นเป็นเรื่องปกติ เกมส์ไหนเปิด V-sync แล้วเฟรมเรทร่วงไม่สมเหตุสมผล ผมก็ปิดครับ อย่างล่าสุดเกมส์ Attack On Titan ตัวเกมส์นั้นไม่มี V-sync ให้เปิด เกมส์นี้จะเกิดภาพฉีกขาดขณะเล่นหลายๆคนบ่นกันว่าจะแก้ไขอย่างไรในเมื่อภายในตัวเกมส์ไม่มีฟังชั่นของ V-sync ให้เปิด ถ้าคนที่ใช้การ์ดจอ amd หลายคนๆจะรู้ดีว่าจะวิธีเปิด V-sync ให้กับเกมส์ได้อย่างไรก็โดยการใช้โปรแกรม RadeonPro ในการเปิด V-sync นั่นเอง ซึ่งมันไม่ยุ่งยากอะไรเลย ตัวโปรแกรมนั้นใช้ได้ทั้งวินโดว์ 32bit และ 64bit

            ยกตัวอย่าง V-sync ของตัวเกมส์ที่ทำออกมาได้ห่วยแตกนั่นก็คือเกมส์ FIFA 15 และ FIFA 16 เมื่อเปิด V-sync เฟรมเรทในฉากรีเพลย์หรือฉากคัดซีนต่างๆ เฟรมเรทจะร่วงลงมาคงที่ที่ 30 เฟรม แล้วดีดขึ้นไป 60 เฟรมอีกครั้งเมื่อภาพตัดมาตอนเล่น ซึ่งทำให้เหล่าเกมส์เมอร์ทั่วโลกไม่พอใจว่าจะล๊อคเฟรมเรทในฉากตัดซีนกับฉากรีเพลย์ให้เหลือ 30 เฟรมทำไม แต่มันก็มีวิธีแก้ให้ตัวเกมส์รันที่ 60 เฟรมตลอดแม้จะเป็นฉากตัดซีนหรือฉากรีเพลย์ก็ตาม โดยการใช้โปรแกรม RadeonPro ในการเปิด V-sync แทนในตัวเกมส์นั่นเอง

            และก็มีบางเกมส์อีกที่ในเกมส์มีให้เปิด V-sync แท้ๆแต่เปิดแล้วภาพก็ยังฉีกขาดเหมือนเดิมไม่ได้แตกต่างจากปิด V-sync แต่อย่างใด อย่างเช่นเกมส์ Gears Of War วิธีแก้ทำอย่างไรก็เหมือนเดิมครับใช้โปรแกรม RadeonPro เปิด V-sync แทนในตัวเกมส์นั่นเองครับ แค่นี้เฟรมเรทก็จะถูกล๊อคที่ 60 เฟรมแล้วภาพไม่ฉีกขาดแล้ว มีภาพประกอบมาให้ดูว่าหน้าตาของตัวโปรแกรม RadeonPro เป็นอย่างไร เดี๋ยวผมจะตีกรอบสีแดงและชี้ลูกศรให้ว่าเปิดตรงไหนอะไรยังไง

            Last edited by lovelovelo; 29 Aug 2016, 16:39:29.

            Comment


            • เรื่องภาพฉีกขาดเป็นเรื่องที่พยายามแก้ไขกันมานานครับ
              พูดถึงเรื่อง Sync

              VSYNC นี่เรียกว่า Gen 1 แล้วกัน พอปรับปรุงขึ้นก็มา
              Adaptive Sync Gen 2 คือ การเปิด Sync ต่อเมื่อ FPS ได้มากกว่า refresh หน้าจอสมับนั้นที่ 60hz แล้วก็ปิดเองเมื่อ เฟรมตก
              ล่าสุด จอ freesync , Gsync Gen 3 หลุดจากการล็อก refresh ที่ 60 Hz มาได้ คือการ Sync หน้าจอ ไปได้จนต่ำสุดที่ประมาน 35-40hz

              การ sync แบบต่างๆ มันก็มี overhead ของมันครับ สำหรับคนเล่นเกมส์ที่แข่งขันกันในระดับสูงมักนิยมปิด
              แต่สำหรับบ้านๆ Freesync Gsync นี่ทำให้เล่นสนุกขึ้นเยอะครับ ภาพไม่ฉีก และ lag ก็แทบจะไม่รู้สึกด้วย






              Originally posted by lovelovelo View Post
              เมื่อก่อนเล่นเกมส์ไหน ผมก็ต้องเปิด V-sync หมด เพราะภาพจะได้ไม่ฉีกขาด ถือว่าซีเรียสมากๆ แต่พอเวลาผ่านไปถึงได้เข้าใจว่าจริงๆแล้ว เปิด V-sync นั้นการตอบสนองของภาพช้าลงไม่ตอบสนองทันที ยิ่งถ้าเล่นเกมส์พวกแนว FPS นี่เห็นชัดเจนเวลาเลื่อนเม้าหันซ้ายหันขวาจะรู้สึกได้ทันทีว่าตอบสนองช้ากว่าการปิด V-sync หลังๆมาผมเลือกที่จะปิด V-sync ถ้าเล่นเกมส์แนว FPS แต่ถ้าเกมส์ทั่วไปก็จะ ปิดบ้าง เปิดบ้างบางเกมส์ ที่เจอมาบางเกมส์ถ้าเปิด V-sync แล้วนั่นเฟรมเรทร่วงกระจายแทบเล่นไม่ได้อย่างเช่นเกมส์ Watch Dogs อันนี้เห็นได้ชัดเจนเเมื่อ เปิด V-sync ปุ๊ปเฟรมร่วงทันทีแทบเล่นแทบไม่ได้ถ้าปรับกราฟฟิคแบบสุดนะ
              สุดท้ายผมก็ได้เข้าใจว่าจริงๆแล้ว V-sync นั้นไม่จำเป็นสำหรับทุกๆเกมส์ ภาพฉีกขาดนั้นเป็นเรื่องปกติ เกมส์ไหนเปิด V-sync แล้วเฟรมเรทร่วงไม่สมเหตุสมผล ผมก็ปิดครับ อย่างล่าสุดเกมส์ Attack On Titan ตัวเกมส์นั้นไม่มี V-sync ให้เปิด เกมส์นี้จะเกิดภาพฉีกขาดขณะเล่นหลายๆคนบ่นกันว่าจะแก้ไขอย่างไรในเมื่อภายในตัวเกมส์ไม่มีฟังชั่นของ V-sync ให้เปิด ถ้าคนที่ใช้การ์ดจอ amd หลายคนๆจะรู้ดีว่าจะวิธีเปิด V-sync ให้กับเกมส์ได้อย่างไรก็โดยการใช้โปรแกรม RadeonPro ในการเปิด V-sync นั่นเอง ซึ่งมันไม่ยุ่งยากอะไรเลย ตัวโปรแกรมนั้นใช้ได้ทั้งวินโดว์ 32bit และ 64bit

              ยกตัวอย่าง V-sync ของตัวเกมส์ที่ทำออกมาได้ห่วยแตกนั่นก็คือเกมส์ FIFA 15 และ FIFA 16 เมื่อเปิด V-sync เฟรมเรทในฉากรีเพลย์หรือฉากคัดซีนต่างๆ เฟรมเรทจะร่วงลงมาคงที่ที่ 30 เฟรม แล้วดีดขึ้นไป 60 เฟรมอีกครั้งเมื่อภาพตัดมาตอนเล่น ซึ่งทำให้เหล่าเกมส์เมอร์ทั่วโลกไม่พอใจว่าจะล๊อคเฟรมเรทในฉากตัดซีนกับฉากรีเพลย์ให้เหลือ 30 เฟรมทำไม แต่มันก็มีวิธีแก้ให้ตัวเกมส์รันที่ 60 เฟรมตลอดแม้จะเป็นฉากตัดซีนหรือฉากรีเพลย์ก็ตาม โดยการใช้โปรแกรม RadeonPro ในการเปิด V-sync แทนในตัวเกมส์นั่นเอง

              และก็มีบางเกมส์อีกที่ในเกมส์มีให้เปิด V-sync แท้ๆแต่เปิดแล้วภาพก็ยังฉีกขาดเหมือนเดิมไม่ได้แตกต่างจากปิด V-sync แต่อย่างใด อย่างเช่นเกมส์ Gears Of War วิธีแก้ทำอย่างไรก็เหมือนเดิมครับใช้โปรแกรม RadeonPro เปิด V-sync แทนในตัวเกมส์นั่นเองครับ แค่นี้เฟรมเรทก็จะถูกล๊อคที่ 60 เฟรมแล้วภาพไม่ฉีกขาดแล้ว มีภาพประกอบมาให้ดูว่าหน้าตาของตัวโปรแกรม RadeonPro เป็นอย่างไร เดี๋ยวผมจะตีกรอบสีแดงและชี้ลูกศรให้ว่าเปิดตรงไหนอะไรยังไง

              Comment


              • 5555 ถ้าแน่ใจไปตั้งกระทู้ใหม่ดูสิ

                แค่กระทู้นี้มีสมาชิกหวังดีเข้ามาอธิบายตั้งหลายคนยังอ่านไทยไม่ออกเลย
                นี่่ได้ฝรั่งหัวแดงที่ไหนก็ไม่รู้เขียนสั้นๆไม่มีที่มาที่ไป ก็เอามาแปะบอกข้อเท็จจริง
                คนเรานี่ตลกจริงๆ เชิญครับ เชิญไปมโนข้างนอก


                Originally posted by drcnfre View Post
                ก็ไม่ได้ป่วน อันนี้ข้อเท็จจริงล้วนๆ

                Comment


                • Originally posted by Charng View Post
                  5555 ถ้าแน่ใจไปตั้งกระทู้ใหม่ดูสิ

                  แค่กระทู้นี้มีสมาชิกหวังดีเข้ามาอธิบายตั้งหลายคนยังอ่านไทยไม่ออกเลย
                  นี่่ได้ฝรั่งหัวแดงที่ไหนก็ไม่รู้เขียนสั้นๆไม่มีที่มาที่ไป ก็เอามาแปะบอกข้อเท็จจริง
                  คนเรานี่ตลกจริงๆ เชิญครับ เชิญไปมโนข้างนอก
                  กูเกิ้ลก็เจอ จะตั้งกระทู้ให้รกทำไม

                  Comment


                  • บลาๆ บ้ายบาย

                    Comment


                    • Originally posted by lovelovelo View Post
                      เมื่อก่อนเล่นเกมส์ไหน ผมก็ต้องเปิด V-sync หมด เพราะภาพจะได้ไม่ฉีกขาด ถือว่าซีเรียสมากๆ แต่พอเวลาผ่านไปถึงได้เข้าใจว่าจริงๆแล้ว เปิด V-sync นั้นการตอบสนองของภาพช้าลงไม่ตอบสนองทันที ยิ่งถ้าเล่นเกมส์พวกแนว FPS นี่เห็นชัดเจนเวลาเลื่อนเม้าหันซ้ายหันขวาจะรู้สึกได้ทันทีว่าตอบสนองช้ากว่าการปิด V-sync หลังๆมาผมเลือกที่จะปิด V-sync ถ้าเล่นเกมส์แนว FPS แต่ถ้าเกมส์ทั่วไปก็จะ ปิดบ้าง เปิดบ้างบางเกมส์ ที่เจอมาบางเกมส์ถ้าเปิด V-sync แล้วนั่นเฟรมเรทร่วงกระจายแทบเล่นไม่ได้อย่างเช่นเกมส์ Watch Dogs อันนี้เห็นได้ชัดเจนเเมื่อ เปิด V-sync ปุ๊ปเฟรมร่วงทันทีแทบเล่นแทบไม่ได้ถ้าปรับกราฟฟิคแบบสุดนะ
                      สุดท้ายผมก็ได้เข้าใจว่าจริงๆแล้ว V-sync นั้นไม่จำเป็นสำหรับทุกๆเกมส์ ภาพฉีกขาดนั้นเป็นเรื่องปกติ เกมส์ไหนเปิด V-sync แล้วเฟรมเรทร่วงไม่สมเหตุสมผล ผมก็ปิดครับ อย่างล่าสุดเกมส์ Attack On Titan ตัวเกมส์นั้นไม่มี V-sync ให้เปิด เกมส์นี้จะเกิดภาพฉีกขาดขณะเล่นหลายๆคนบ่นกันว่าจะแก้ไขอย่างไรในเมื่อภายในตัวเกมส์ไม่มีฟังชั่นของ V-sync ให้เปิด ถ้าคนที่ใช้การ์ดจอ amd หลายคนๆจะรู้ดีว่าจะวิธีเปิด V-sync ให้กับเกมส์ได้อย่างไรก็โดยการใช้โปรแกรม RadeonPro ในการเปิด V-sync นั่นเอง ซึ่งมันไม่ยุ่งยากอะไรเลย ตัวโปรแกรมนั้นใช้ได้ทั้งวินโดว์ 32bit และ 64bit

                      ยกตัวอย่าง V-sync ของตัวเกมส์ที่ทำออกมาได้ห่วยแตกนั่นก็คือเกมส์ FIFA 15 และ FIFA 16 เมื่อเปิด V-sync เฟรมเรทในฉากรีเพลย์หรือฉากคัดซีนต่างๆ เฟรมเรทจะร่วงลงมาคงที่ที่ 30 เฟรม แล้วดีดขึ้นไป 60 เฟรมอีกครั้งเมื่อภาพตัดมาตอนเล่น ซึ่งทำให้เหล่าเกมส์เมอร์ทั่วโลกไม่พอใจว่าจะล๊อคเฟรมเรทในฉากตัดซีนกับฉากรีเพลย์ให้เหลือ 30 เฟรมทำไม แต่มันก็มีวิธีแก้ให้ตัวเกมส์รันที่ 60 เฟรมตลอดแม้จะเป็นฉากตัดซีนหรือฉากรีเพลย์ก็ตาม โดยการใช้โปรแกรม RadeonPro ในการเปิด V-sync แทนในตัวเกมส์นั่นเอง

                      และก็มีบางเกมส์อีกที่ในเกมส์มีให้เปิด V-sync แท้ๆแต่เปิดแล้วภาพก็ยังฉีกขาดเหมือนเดิมไม่ได้แตกต่างจากปิด V-sync แต่อย่างใด อย่างเช่นเกมส์ Gears Of War วิธีแก้ทำอย่างไรก็เหมือนเดิมครับใช้โปรแกรม RadeonPro เปิด V-sync แทนในตัวเกมส์นั่นเองครับ แค่นี้เฟรมเรทก็จะถูกล๊อคที่ 60 เฟรมแล้วภาพไม่ฉีกขาดแล้ว มีภาพประกอบมาให้ดูว่าหน้าตาของตัวโปรแกรม RadeonPro เป็นอย่างไร เดี๋ยวผมจะตีกรอบสีแดงและชี้ลูกศรให้ว่าเปิดตรงไหนอะไรยังไง

                      ถามเป็นข้อมูลหน่อยครับ เพราะไม่เคยใช้ RadeonPro จะถามว่าแล้วการล็อคโปรไฟล์เกมในไดรเวอร์ Crimson ณ ปัจจุบันก็ไม่สามารถแก้ปัญหานี้ได้หรือครับ?? เพราะฟังค์ชั่นเปิดปิด V-sync และฟังค์ชั่นล็อคเฟรมเรต ทั้งแบบตั้งค่า Global(ทุกเกม) และแบบตั้งค่าเฉพาะเกม มันก็น่าจะเพียงพอแล้วด้วยไดรเวอร์คริมสัน ซึ่งถ้าดูตามที่ท่านว่ามา ท่านกำลังจะบอกเป็นนัยว่า ไดรเวอร์คริมสันมันทำไม่ได้ ต้องใช้ RadeonPro ช่วยเท่านั้น รึเปล่า??

                      RadeonPro อาจจะปรับได้เทพกว่าคริมสัน แต่ขอถามเฉพาะเรื่องล็อค V-sync กับ ล็อคเฟรมเรตครับ ว่ามันทำได้แบบเดียวกับในคริมสันใช่ไหม ถ้าใช่ก็ไม่ต้องใช้ RadeonPro ก็ได้ใช่ไหม หรือว่าในคริมสันมันกาก ล็อคไม่อยู่เลยต้องเอาเจ้านี่ช่วย??

                      Comment


                      • RadeonPro มีมานานหลายปีแล้วคับ เป็นตัวช่วยปรับ config ต่างๆได้เวลาเล่นเกมต่างๆ ครับ

                        ส่วน Crimson นี่มาทีหลัง ก็เหมือนไดวเวอร์ตัวเก่าของ amd ที่ปรับใน config ของไดวเวอร์ amd นั้นละครับ

                        เพียงแต่ว่า

                        RadeonPro นั้น จะมี ลูกเล่น และตั้งค่า ได้ดีกว่า ละเอียดกว่า Crimson เยอะมากครับ

                        RadeonPro นี่ผมใช้มาเกือบ 5 6 ปีที่แล้ว เลือกเป็นเกมๆ ได้ว่าเกมไหนจะตั้งค่าอย่างไรบ้าง

                        ส่วน Crimson นั้น พึ่งมามี ออฟชั่นเพิ่ม แยกปรับแต่ละเกมได้เหมือนกัน

                        ส่วนตัวผมนี่ ใช้แค่ Crimson ก็พอละ เพราะปัจจุบันนี้ ไม่ได้ปรับอะไรมากมาย และในตัวเกมเองก็มี config V-sync แทบจะทุกเกมให้เลือกเปิดในเกม

                        Comment


                        • Originally posted by THEFOOL View Post
                          RadeonPro มีมานานหลายปีแล้วคับ เป็นตัวช่วยปรับ config ต่างๆได้เวลาเล่นเกมต่างๆ ครับ

                          ส่วน Crimson นี่มาทีหลัง ก็เหมือนไดวเวอร์ตัวเก่าของ amd ที่ปรับใน config ของไดวเวอร์ amd นั้นละครับ

                          เพียงแต่ว่า

                          RadeonPro นั้น จะมี ลูกเล่น และตั้งค่า ได้ดีกว่า ละเอียดกว่า Crimson เยอะมากครับ

                          RadeonPro นี่ผมใช้มาเกือบ 5 6 ปีที่แล้ว เลือกเป็นเกมๆ ได้ว่าเกมไหนจะตั้งค่าอย่างไรบ้าง

                          ส่วน Crimson นั้น พึ่งมามี ออฟชั่นเพิ่ม แยกปรับแต่ละเกมได้เหมือนกัน

                          ส่วนตัวผมนี่ ใช้แค่ Crimson ก็พอละ เพราะปัจจุบันนี้ ไม่ได้ปรับอะไรมากมาย และในตัวเกมเองก็มี config V-sync แทบจะทุกเกมให้เลือกเปิดในเกม
                          แปลว่าเมื่อคริมสันมา ก็จงโยน RadeonPro ทิ้งได้เลย ว่ากันแบบนั้นเลยละกัน แบบนี้เคลียร์ครับ

                          Comment

                          Working...
                          X