No More Chassis(เคสนั่นแหละ)

[vonabe]

โอ่ช่างคิดจังเลย ดีครับ ผมชอบ

[ratth]

เรียนทุกท่านโปรดทราบ ด้วยกรรมแต่ชาติปางก่อนของผมทำให้ตลอดอาทิตย์หน้าผมไม่สามารถนำรูปถ่ายความคืบหน้าที่มีความชัดเจนมาให้ดูได้คงจะมีแต่รูปจากมือถืออันแสนธรรมดาของผม เนื่องจากลูกสาวแสนซนทำ กล้อง D70 สุดรักสุดหวง ของผมล้มฟาดก่ะพื้น จนแฟลชมีอันเป็นไปต้องส่งพบแพทย์ด่วนเพื่อชุบชีวิตกว่าจะได้คืนก็ ศุกร์หน้าโน่นเลย

จึงเรียนมาเพื่อทราบและโปรดเห็นใจ ขอตังไปซ่อมกล้องบ้างจิครับ อิอิ (แค่แฟลช popup ไม่ทำงาน ค่าซ่อมก็ปาเข้าไป 4XXX งานนนี่เลยอด Liberty 620เลยอ่ะ คงต้องเอา 500มาใช้แล้วพ่วงพาวเวอร์สำหรับ Optical Drive กับ พัดลมเอา)

ไหนๆก็มาโพสท์แระ
แจ้งความคืบหน้าซะหน่อย ขณะนี่สามารถติดตั้งรางเข้ากับตัวลิ้นชักคีย์บอร์ดได้แล้วครับ(พรุ่งนี้จะเอารูปมาให้ดู)
วันอาทิตย์นี้จะทำการแยกส่วนเคสเพื่อเอา Base สำหรับติดตั้ง Mainboard กับ เฟรมยึด HDD ส่วน CD นั้น เดี๋ยวพรุ่งนี้จะเอารูปของอุปกรณ์ที่ไปคุ้ยกองขยะเทคโนโลยีส่วนตัว

และนี่คือชุดควบคุมไฟแบบที่2ครับ

โดยมีการเปลี่ยนแปลงจากวงจรแรกบางส่วนคือ ไฟขาเข้าผมใช้ทั้ง Circuit Breaker และ Fuse เป็นตัวป้องกันชั้นแรก เพิ่มสวิทช์สำหรับชุดปั้มและพีดลม 220Vac อีก 2 ตัว ลดจำนวนสวิทช์ AC Outlet ลง 1 ตัวและ แก้ไขชุดรีเลย์ 12 V โดยเพิ่ม R เพื่อช่วยแบ่งแรงดันที่ตัวคอยล์ของรีเลย์และ Diodeเพื่อกันกระแสย้อนกลับไปที่ PSU
โดยเวลาจะใช้งานจริงนั้นต้องเปิดสวิทช์ตามลำดับ จาก Cirruit Breaker > Main Switch > Pump Switch แล้วจึงเปิดสวิทช์ตัวอื่นที่ต้องใช้ ที่ต้องเปิดปั้มด้วยนั้นก็เพื่อป้องกันความเสียหายที่จะเกิดกับ CPU และ VGA เนื่องจากผมจะใช้น้ำเป็นตัวระบายความร้อนดังนั้นเพื่อป้องกันในจุดนี้ผมเลยนำ Limit สวิทช์ไปติดตั้งไว้ใน Reservior ถ้าระดับน้ำไม่ถึง Limit จะทำให้ไม่สามารถเปิดเครื่อง PC ได้ ตามไดอะแกรมรูปนี้ครับ โดยสีฟ้าๆนั่นแทนน้ำนะครับส่วนไอ้กลมๆนั่นลูกลอย จริงๆแล้วมันก็วงจรสวิทช์อนุกรมธรรมดาๆนั่นแหละครับ ที่ใช้กับระบบของผมนี่ก็เพราะผมมี reservior 2 ชุด (ไปดูหน้า 2 เอาละกัน) Limit Switch ต้องติดไว้กับตัวในหรือที่ Buffer ก็ได้ เนื่องจากระบบระบายความร้อนที่ผมจะใช้เป็นระบบเปิดดังนั้นเมื่อเราปิดเครื่องน้ำทั้งหมดจะไหลกลับไปอยู่ใน reservior ที่ติดตั้งภายนอก ที่นั้พอเราเปิดปั้มน้ำที่ไหลเข้าไปใน reservior ตัวนอกหรือ buffer ทำให้ลูกลอยไปดันสวิทช์ให้ครบวงจรเราก็จะสามารถเปิดเครื่องได้ครับ

และถ้าต้องการให้ชุดคอนโทรลตัดไฟเองเวลาสั่งให้เครื่อง PC ดับเอง/ตั้งเวลาปิด ก็กด SW7 แล้วปิด Main Switch ได้เลยครับ ผมกำลังหาทางให้เวลา กด SW7 แล้วมันปิด Main Switch เองอยู่ซึ่งจริงๆแล้วมันก็มีแต่ว่ามันต้องใช้ relay 220V อีกตัวนึงเลยไม่ใช้อยากใช้เท่าไหร่เพราะมันกินที่พอสมควร อีกอย่างคือ ตามความเป็นจริงแล้วเราสามารถที่จะใช้ Relay 12V เพียงตัวเดียวก็ได้ถ้าหาตัวที่มีหน้าสัมผัสได้ใหญ่พอรับกระแสขนาด 10A -15A พอพิมพ์มาถึงตรงนี้เลยทำให้ผมคิดแบบที่ 3 ที่สมบูรณ์กว่าออกพอดี ถ้าเขียนเสร็จทันบ่ายๆจะเอามาให้ดูครับ

[mookdang4143]

[ratth]

เรียนทุกท่านวงจรตัวสุดท้ายผมกลัวมันไม่เวิร์คแฮะ ดูกันๆ....ใครทายถูกว่าตรงไหนที่มันอาจจะไม่เวิร์คมีรางวัลให้เป็นเบอร์กิ๊กผมที่อยู่หน้า 2 อิอิ

นี่ครับรูปวงจรที่ 3



..........................................................

















ป.ล. ผมพูดเล่นนะเรื่องเบอร์กิ๊กผมน่ะ น่ารักซ้าขนาดนั้นผมก็ต้องหวงแหละครับ อิอิอิอิอิอิอิอิ

อีกนิดๆ ก่อนจากวันนี้ ถ้าผมจะทำขายเนี่ยมันจะขายได้ไหมอ่ะครับ

[ratth]

สวัสดีตอนเช้าทุกท่าน มาอัพแต่เช้าเลยครับวันนี้

อันนี้คือที่ผมบอกว่าไปเจอมันในกองขยะเทคโนโลยี(ที่เรียกอย่างนั้นเพราะมันมีแต่อุปกรณืคอม+อิเล็กทรอนิกส์ ดีบ้างเสียบ้างรวมๆกันอยู่) ได้มานานครับสมัยนั้นเขียนแผ่นต้องใช้ CD SCSI ถ้าเครื่องไม่มี Controller ก็ต้องซื้อเพิ่มตัวนึงซื้อเครื่องถูกๆสมัยนี้ได้เลยแหละ แต่เจ้าตัวนี้ เวลาซื้อเขาจะแถมการ์ด Controller แบบ Narrow band ต่ออุปกณ์ ได้ 7 ตัว ตอนนั้นเลยซื้อไว้เป็นของ Yamaha ครับ เขียนได้ความเร็วสูงสุดที่ 600Kbps ช่างเร็วซะเต่ายังแซง เดิมๆสีครีมเหมือนเคสรุ่นเก่านั่นแหละครับ แต่สีมันเหลืองมากเพราะเก็บไว้นานกว่า 8ปี ผมก็เลยแปลงโฉมตัวดำด้านที่เหลือจากพ่นโครงขา
.............พอดำแล้วมันช่างดูดีจริงๆๆๆๆๆ อันนี้ด้านหน้ามันครับ ปุ่มสีออกเหลืองนั่นคือสวิทช์ไฟมันครับ ยังไม่ได้ทำสีพอดีหมดกระป๋องตั้งแต่พ่นฝามัน

อันนี้ด้านหลังครับ จะเห็นว่ามันไม่มีที่เสียบอแดปเตอร์แต่มีช่องเสียบไฟ 220 แทน ส่วนพอร์ตต่างเรียงจากซ้ายนะครับ AC inlet, SCSI ID, SCSI Terminator, SCSI In(Top), SCSI Out(bottom), Audio out และ FAN vent

ถ้าใครกลับไปดูหน้า 1 จะเห็นว่าเดิมผมออกแบบให้CD ติดอยู่ด้านซ้ายนะครับ แต่พอผมเจอเจ้านี่เลยก่ะกว่าจะวางไว้บนโต๊ะเลย เพราะสามารแปลงให้มันเป็นได้ทั้งแบบ ATA และ SATA โดยถ้าต้องการใช้ ATA ก็ถอดพอร์ต SCSI ออกแล้วเอาสาย 40Pin ใส่เลย ส่วนถ้าจะใช้ SATA ก็ถอด SCSI ID หรือ Audio Out ออกก็ได้ แต่ไดรว์ที่ผมใช้ตอนนี้ยังเป็น ATA อยู่ก็คงต้องใช้แบบแรกนะครับ อาทิตย์หน้าจะเอาตอนถอดมาให้ดู

[ratth]

ดูกันต่อครับ นี่เป็นภายในครับ นี่ที่ยึด Drive ขนาด 5.25" ส่วนรูปนี้ส่วนสำคัญเลยครับช่วยผมประหยัดเงินได้เลยครับ มันคือสวิทชิ่งครับ หมายความว่ากล่องนี้มีภาคจ่ายในตัวครับทำให้ เจ้า DVDRW ของผมไม่ต้องพึ่งไฟจาก PSU ตอนที่ลองผมต่อ DVD + HDD ยังทำงานได้ทั้ง 2 ตัวเลย สบายเราล่ะงานนี้เหลือแต่ติดตั้งยังไงให้ดูน่าเกลียดน้อยที่สุด จะติดตั้งยังไงดีน้า

[ratth]

สุดท้ายของวันนี้ อันนี้จะใช้เพื่อทำหน้าแผงชุดควบคุมไฟครับ เจ้าจากกองขยะเทคโนโลยีเหมือนกัน เดิมผมใช้เป็นกล่องหม้อแปลงทำจากอลูมิเนียม ชิ้นงานดีมากๆ เดี๋ยวนี้ไม่ค่อยมีขาย รอยดำๆที่เห็นคือลองเอาดินสอก่ะตำแหน่งคร่าวของพวกสวิทช์และไฟต่างๆครับ

คงคอยดูกันต่อไปนะครับท่าทางหนทางนี้ยังอีกยาวไกลเพราะเดือนนี้ทุนผมหมดแล้วตอนนี้ทำทุกอย่างที่ทำได้ไปก่อนอะไรที่ต้องซื้อนี่คงต้องรอเงินเดือนออกโน่นเลย เพราะต้องเอาเงินไปซ่อม D70 ผมก่ะ PSU ตัวใหม่ก่อนตัวสำรองที่ใช้งอแงน่าดู 8800 ร้องทุกครั้งที่เปิดเครื่อง เล่น FEAR วูฐไปก็บ่อย
เศร้าจริงๆ ไมไม่รวยๆบ้างน้าเราจะทำตู้เย็นเป็นคอมซะเลย เวลาหิวจะได้ไม่ต้องเดินแถมมีตัวทำความเย็นให้เสร็จเลย อิอิ

ยังไง ต้องขออภัยที่รูปชุดนี้ไม่ชัดเท่าที่ควรนะครับเนื่องจากเป็นกล้องมือถือ ด้วยเหตุตามที่แจ้งไปเมื่อวาน

[star2exodus]

เอามารวมเป็นสุดยอด นวัตกรรม เลย หุหุ

[panpan182]

เดียว รอ ชม คับ ชอบไอเดีย

[s4410020]

อูย.. วิศวะกระจอก 2 กว่าๆ อย่างผมเห็นแล้วงง

[ratth]

อูย.. วิศวะกระจอก 2 กว่าๆ อย่างผมเห็นแล้วงง

อูย บ่ใจ่วิดสวะล่ะเน้อ IT ที่บางมดมันแค่ วท.บ. น้อยที่ๆจะเป็น วศ. ดูต่อครับๆ เนื่องจากเงินหมดทำใครซื่อเครื่องมืออีก 2 ตัวไม่ได้ผมเลยหันไปหาอะไรบางอย่างที่ได้มาแล้วแต่ยังไม่ได้ทำไรก่ะมัน มันคือ......................................................................พี่สะใภ้ฝากไว้ทั้งเครื่อง 2 ปีตอนเอาไปคืนเขาบอกไม่เอาแล้ว ยกให้ ก้เลยเอาตับไตไส้พุงมันออก (เก็บไปขาย เครื่อง PIII ทั้งชุด จะได้ซักพันไหมเนี่ย ถ้าได้คงจะดี จะได้ซื้อ Jigsaw+ตัวยิง rivet ได้) รูปที่2 เป็นด้านหลังมันครับ ส่วนรูปที่3นี่ถอดเตรียมแยกส่วน

[ratth]

ตามรูปดูในวงรีสีแดงก่อนนะครับ นั่นคือจุดที่ผมใช้เลือกเคสที่จะเอามาใช้ เนื่องจากด้วยข้อจำกัดในการออกแบบทำให้ผมต้องใช้โครงสำหรับติดตั้ง HDD ซึ่งต้องสามารถแยกออกจาก ติดตั้ง Drive ขนาด 5.25" ได้ ซึ่งเจ้าเคสตัวนี้ก็ตรงกับความต้องการผมพอดี เสียอย่างเดียวมันติดตัง HDD ได้แค่ 5 ตัว ผมต้องการที่ 6 ตัวแต่เด๊ยวแสวงเครื่องเอาครับเพราะไงๆตอนนี้ก็ยังใช้ HDD แค่ตัวเดียวตังจะซื้อ PSU ใหม่ยังไม่พอเลย HDD อีก 5ตัวเอาไว้ที่หลัง(สงสัยอีกเป็นปี)
ข้อดีอีกอย่างของเคสตัวนี้นะครับ ดูในรูปด้วนขวาจะเห็นว่าตัวเบสที่ใช้ขึด M/B แยกเป็นคนละชิ้นกับตัวเคส(กรอบสีแดง)ทำให้ลดเวลาในการโมไปได้เยอะเลย

[UnNormalZ]

ดูต่อๆ อยากรู้เหมือนกันครับว่าจะตัดเคสยังไง ^_^

[ratth]

รูปบนคือ โครงยึด Drive ขนาด 3.5" แล 5.25" นิ้ว โดยตัว 3.5" นั้นสามารถติดตั้งได้ 5 ตัวนะครับโดยติดตั้งไว้ด้านใน 4 ตัวและห้อยไว้ตัวนึง ส่วน 5.25 นั้นติดตั้งได้ 4 ตัวเท่านั้นครับ

ผมคิดผิดไปมากครับสำหรับที่ base ติดตั้ง M/B ดูรูปล่างครับ คือตัวเบสกับ แผงยึดการ์ดมันเป็นคนละชิ้นกันด้วยแถมไม่มีที่ยึด2ชิ้นติดกันอีกต่างหาก เฮ้อเสียเวลาอีกแล้วเพราะคงต้องใช้ Epoxy มาช่วยประสานเพราะยังไม่มีตัวยิง rivet อย่างที่บอกไปข้างต้น จริงแล้ว epoxy นี่อาจจะแข็งกว่าใช้ Rivet อีกครับแต่ว่ามันเซตตัวที่ 1 ช.ม. และแข็งจนใช้งานได้ก็โน่นเลย 24 ช.ม. เลยทำไรต่อไม่ได้เลยเซ็งครับ เฮ้อๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ

[ratth]

ยังเหลือเวลาพอสมควร ก่อนจะมืดก็เลยเก็บรายละเอียดกับตัวโต๊ะซะหน่อยครับ เห็นไหมครับ(รูปบน) ลบเหลี่ยมที่มุมตั้งก่ะครั้งก่อนนะครับแล้วก็ใช้สีโป๊วอุดเสี้ยนไม้กันมันหรุ่ย + ขัดเรียนร้อยแล้วแต่มันยังดูแย่อยู่เพราะสีมันไม่สวยผมเลยให้คนที่คุณรู้ว่าใครสั่ง PVC ปิดผิวไม้มาให้ครับ (รูปที่ 2 ซ้าย) มีไว้เพื่อช่วยให้ผิวไม้ทดต่อสารเคมีครับปกติจะใช้กาวยางชนิดพิเศษที่เรียกว่า Hot Melt ครับแต่ผมไม่มีเครื่อง Melt ก็เลยใช้ผูช่วยช่างรองเท้านั่นแหละคุณสมบัติไม่ต่างกันมาก พรุ่งนี้ติเสร็จแล้วจะเอามาให้ดูครับ