Announcement

Collapse
No announcement yet.

อยากทราบเรื่อง CD ที่ 24 bit/192 khz dsp ครับ

Collapse
X
 
  • Filter
  • Time
  • Show
Clear All
new posts

  • อยากทราบเรื่อง CD ที่ 24 bit/192 khz dsp ครับ

    คือผมเล็ง CD อยู่แผ่นนึงหน่ะครับ กำลังจะซื้ออยู่แล้วเชียว แต่อัลบั้มเดียวกันนี้แหละครับ ในเว็บเค้ามีสองแบบเลย คือแบบธรรมดากับแบบ 24 bit/192 khz dsp ** ราคาก็ 500 กับ 650 เองอ่ะครับ ต่างกันนิดเดียวเอง

    คือผมสงสัยความแตกต่างของ CD สองแผ่นนี้ครับ ว่าจริงๆ แล้ว 24bit กับ 16bit นี่มันแตกต่างกันจริงรึเปล่า หรือเป็นแค่การแหกตา ตอนนี้ก็ยังลังเลไม่รู้จะซื้ออันไหนดี ขอคำปรึกษาหน่อยนะครับ
    Last edited by estrellas; 23 Feb 2008, 15:33:58. Reason: แก้พิมพ์ผิดครับ

  • #2
    Originally posted by estrellas View Post
    คือผมเล็ง CD อยู่แผ่นนึงหน่ะครับ กำลังจะซื้ออยู่แล้วเชียว แต่อัลบั้มเดียวกันนี้แหละครับ ในเว็บเค้ามีสองแบบเลย คือแบบธรรมดากับแบบ 24 bit/192 khz dsp ** ราคาก็ 500 กับ 650 เองอ่ะครับ ต่างกันนิดเดียวเอง

    คือผมสงสัยความแตกต่างของ CD สองแผ่นนี้ครับ ว่าจริงๆ แล้ว 24bit กับ 16bit นี่มันแตกต่างกันจริงรึเปล่า หรือเป็นแค่การแหกตา ตอนนี้ก็ยังลังเลไม่รู้จะซื้ออันไหนดี ขอคำปรึกษาหน่อยนะครับ
    ลองค้นหาเรื่อง HDCD / SACD ครับ (แผ่น 24bit เครื่องเล่น หรือ software ต้อง support ด้วยนะ ผมก็มีอยู่แผ่นนึงของ within temptation ครับ ปกหน้า หลัง ไม่มีเขียนบอกเอาไว้เลยครับ มารู้เอาตอนเปิดกับ AVR แล้วมันขึ้น HDCD
    Last edited by Aeromancer; 23 Feb 2008, 17:11:00.

    Comment


    • #3
      อยากได้ซักแผ่นจัง

      Comment


      • #4
        ไม่มี CD audio ชนิด ใดในโลก รวมถึง HDCD / SACD ที่ เป็น 24bit 192Khz มันเป็นแค่เรื่องโกหก



        มีเฉพาะ DVD Audio แบบ Stereo เท่าั้ันั้นที่ มี 24Bit 192 khz

        Comment


        • #5
          ไม่มี CD audio ชนิด ใดในโลก รวมถึง HDCD / SACD ที่ เป็น 24bit 192Khz มันเป็นแค่เรื่องโกหก



          มีเฉพาะ DVD Audio แบบ Stereo เท่าั้ันั้นที่ มี 24Bit 192 khz
          เฮ้อ ... ผมเคยเจอนะ ข้อความทำนองนี้ แต่...

          ลองอ่านตามนี้นะครับ
          HDCD : http://en.wikipedia.org/wiki/High_De...atible_Digital

          SACD : http://en.wikipedia.org/wiki/Sacd

          ด้วย Code ทั้ง 2 อย่างนี้ สามารถทำให้ไปถึง 24bit ได้ครับดังนั้น ตอนนี้มีการแข่งขันกันอยู่เหมือนกันระหว่าง SACD กับ DVD Audio ครับ ส่วน HDCD หายเงียบไปแล้วไม่ค่อยได้รับความนิยมเท่า SACD ครับ

          HDCD
          The HDCD (High Definition Compatible Digital&#174 technology makes it possible to get closer to the original sound. This is facilitated through a sophisticated system, where a 20 - 24 bit sound signal is encoded onto an ordinary CD’s 16 bits through dithering. Open picture.
          When played on a CD player, DVD player or amplifier with an HDCD decoder the sound signal is then decoded again to 20 -24 bits.

          The engraver has an extra 6 dB available (7 dB extra at low level), which gives noticeably reduced distortion levels and an extra enhanced resolution. All parameters of the sound image are enhanced, resulting in an all-improved sound! A dynamic range of up to 115 dB can be obtained.

          An HDCD equipped device gives even ordinary CDs a high sound quality. The already high resolution sound of DVD audio improves with the HDCD technology. The HDCD circuit is PDM100 (44.1 / 88.2 kHz) and PDM200 (48 / 96 176.4 / 192 kHz) which even can be used with DTS.

          The creators of the HDCD technology are Keith O. Johnson and Pflash Pflaumer. Together they developed the idea of HDCD between 1986 and 1991. In 1996 they started Pacific Microsonics (PMI), an audio technology company based in California. In September 2000, (PMI) was acquired by Microsoft
          SACD
          SACD audio is stored in a format called Direct Stream Digital (DSD), which differs from the conventional PCM used by the compact disc or conventional computer audio systems

          Because of the nature of sigma-delta converters, one cannot make a direct comparison between DSD and PCM. An approximation is possible, though, and would place DSD in some aspects comparable to a PCM format that has a bit depth of 20 bits and a sampling frequency of 192 kHz. PCM sampled at 24 bits provides a (theoretical) additional 24 dB of dynamic range. Due to the effects of quantization noise, the usable bandwidth of the SACD format is approximately 100 kHz, which is similar to 192 kHz PCM.
          เครื่องเล่นที่สามารถเล่น SACD ได้ มักมีเครื่องหมายนี้



          เช่น



          แต่บางครั้ง เครื่องเล่น DVD ที่สามารถ decode SACD ได้ก็มี เช่น dv600 จาก pioneer

          Last edited by Aeromancer; 23 Feb 2008, 18:49:49.

          Comment


          • #6
            ไปดูคำถามใหม่ มี cd อะไร ทีเป็น 24/192

            HDCD 16+4 [20] Bit PCM

            SACD 1 BIT DSD

            The point from this article is to clarify that there’s no such thing of 24 bit 192 kHz CD Audio.


            Comment


            • #7
              Originally posted by battlecruiser View Post
              ไปดูคำถามใหม่ มี cd อะไร ทีเป็น 24/192

              HDCD 16+4 [20] Bit PCM

              SACD 1 BIT DSD





              http://jimmyauw.com/2008/01/17/there...o-in-the-world
              เอ้า "ไปดูคำถามใหม่ มี cd อะไร ทีเป็น 24/192" ก็ HDCD และ SACD ไงครับ ยังไงๆ มันก็ยังใช้ Media Type เป็น CD แต่มี code ของ hdcd หรือ sacd ไง แล้ว ไหงคุณเรือรบอ่านแต่ paragraph แรกละเนี่ย อ่านให้ครบเลยครับ ทั้งหน้า ก็น่าจะเข้าใจนะครับ ไหนๆ ก็พูดถึง SACD แล้ว SACD มีลักษณะ มากกว่า 1 Layer คล้ายกับ DVD นี่เอง และยังมี 2 ระบบ คือระบบ multi chanel และ stereo อันนี้จะแสดงกี่ ch ขึ้นอยู่กับ เครื่องเล่นแล้ว ปัจจุบันมีแผ่น SACD บางแผ่น ที่สามารถ ใช้ได้ทั้ง 2 ระบบใน 1 เดียว เรียกว่าแผ่น Hybrid เช่น

              Last edited by Aeromancer; 23 Feb 2008, 19:02:00.

              Comment


              • #8
                Originally posted by Aeromancer View Post
                เอ้า "ไปดูคำถามใหม่ มี cd อะไร ทีเป็น 24/192" ก็ HDCD และ SACD ไงครับ ยังไงๆ มันก็ยังใช้ Media Type เป็น CD แต่มี code ของ hdcd หรือ sacd ไง แล้ว ไหงคุณเรือรบอ่านแต่ paragraph แรกละเนี่ย อ่านให้ครบเลยครับ ทั้งหน้า ก็น่าจะเข้าใจนะครับ
                ใหน อยากเห็นหน้าตา

                SACD / HDCD ที่เป็น 24Bit 192Khz

                Comment


                • #9
                  กินข้าว แพล๊บนึงนะ เดี๋ยวมาโพสต์ต่อ

                  Comment


                  • #10
                    รอดูความเคลื่อนไหว
                    Attached Files
                    Last edited by -:•:-KeeroV-:•:-; 23 Feb 2008, 19:18:46.

                    Comment


                    • #11
                      กลับมาละ

                      ตำนานศึก SACD vs DVD-Audio เวอร์ชั่น ภาษาไทย

                      DVD-Audio : (ดีวีดี-ออดิโอ) หรือที่รู้จักกันในอีกชื่อหนึ่งว่า DVD-A คือดิจิตัลฟอร์แม็ตสำหรับใช้บันทึกสัญญาณออดิโอที่มีคุณภาพความเป็นไฮ-ไฟเดลิตี้สูงลงไปบนแผ่นดีวีดี ถูกโปรโมทเข้าสู่วงการไฮไฟฯ ครั้งแรกก่อนปี 2000 ในขณะที่ตัวแผ่นจริงกับเครื่องเล่นถูกส่งเข้าสู่ตลาดตอนปี 2000

                      DVD-Audio เป็นคู่สงครามฟอร์แม็ตกับ Super Audio CD หรือเรียกย่อๆ SACD ซึ่งเป็นดิจิตัลฟอร์แม็ตแบบไฮ-เรโซลูชั่นอีกฟอร์แม็ตหนึ่งที่ต้องการเข้ามาเป็นมาตรฐานในตลาดออดิโอเช่นกัน จนเมื่อเครื่องเล่นประเภมัลติฟอร์แม็ตที่สามารถเล่นทั้งแผ่น DVD-Audio และแผ่น SACD ได้ปรากฏออกมาในตลาด สงครามฟอร์แม็ต (format war) ระหว่าง DVD-Audio กับ SACD จึงยุติลง

                      สเปคฯ ของฟอร์แม็ต DVD-Audio เปิดโอกาสให้ผู้ผลิตสามารถเลือกที่จะบันทึกสัญญาณลงไปในแผ่นได้หลากหลายรูปแบบมาก ไม่ว่าจะเป็นการเลือก ‘จำนวนแชนเนล’ ที่ยืดหยุ่นได้ตั้งแต่ 1 แชนเนล (mono) ไปจนถึง 6 แชนเนล (surround) รวมถึงสามารถเลือก ‘อัตราความละเอียด’ ของสัญญาณเสียงในแต่ละแชนเนลแยกจากกันได้ด้วย ทั้งในส่วนที่เป็น ‘จำนวนบิตข้อมูล’ ตั้งแต่ 16 – 24 บิต ไปจนถึง ‘อัตราสุ่มความถี่’ ของข้อมูลสัญญาณที่มีให้เลือกตั้งแต่ 44.1kHz, 48kHz, 88.2kHz, 176.4kHz, 96kHz และสูงสุดคือ 192kHz

                      เครื่องเล่น DVD-Audio ยุคแรกๆ จะไม่สามารถปล่อยสัญญาณดิจิตัลออกมาภายนอกได้ ต้องทำการถอดรหัสเสียงและทำการแปลงสัญญาณจากดิจิตัลเป็นอะนาลอกด้วยวงจร DAC (Digital-to-Analog Converter) ที่อยู่ภายในตัวเครื่องเอง แล้วปล่อยเป็นสัญญาณอะนาลอกออกมาภายนอก แต่ในปัจจุบัน เครื่องเล่นดีวีดีที่สามารถเล่นแผ่น DVD-Audio ที่ติดตั้งขั้วต่อสัญญาณภาพ+เสียงที่เรียกว่า HDMI (High Definition Multimedia Interface) เวอร์ชั่น 1.3 จะสามารถปล่อยสัญญาณเสียงที่อยู่ในรูปของสัญญาณดิจิตัลออกมาได้ ทั้งที่เป็นแบบ stereo และ multichannel ที่มีรายละเอียดสูง เพื่อนำไปขยายผ่านทางแอมปลิฟายต่อไป

                      SACD : (เอส-เอ-ซี-ดี) เป็นสื่อบันทึกเสียงรูปแบบใหม่ผลงานความร่วมมือของ 2 หัวเรือใหญ่ผู้ให้กำเนิดแผ่น CD คือ ฟิลิปส์ และ โซนี่ ได้ทำการพัฒนาต่อยอดจนกลายมาเป็นสื่อบันทึกระบบเสียงรายละเอียดสูง ที่ให้การความสามารถในการตอบสนองความถี่ (Frequency Response) ที่กว้างมากคือตั้งแต่ 0-100kHz และให้ค่าไดนามิกเร้นจ์ (Dynamic Range) ของเสียงได้กว้างมากด้วย คือสูงสุดถึง 120dB สนับสนุนระบบเสียงแบบ 2 แชลเนลและมัลติแชนเนล (สูงสุด 6 แชนเนล) และมีความสามารถในการแสดงภาพนิ่งได้ด้วย (ไม่มีภาพเคลื่อนไหว)

                      ความพิเศษของแผ่น เอส เอ ซี ดี ที่เหนือกว่าแผ่น ซีดี อยู่ที่ขนาดความจุที่มากกว่า, เทคโนโลยีการเข้ารหัสสัญญาณเสียงฟอร์แมตใหม่ที่ให้รายละเอียดของเสียงที่ดีกว่า, มีความสามารถในการนำไปเล่นกับเครื่องเล่นซีดีทั่วๆ ไปได้ด้วย และมาพร้อมกับเทคโนโลยี PSP (Pit Signal Processing) สำหรับป้องกันการ copy แผ่น

                      ความจุของแผ่นเอสเอซีดีซึ่งมากกว่าแผ่นซีดีนั้น เกิดจากการใช้ลำแสงเลเซอร์ความยาวคลื่น 650 นาโนเมตรในการบันทึกข้อมูลลงบนแผ่น จึงทำให้หลุมข้อมูลมีขนาดเล็กสามารถบรรจุข้อมูลได้มากขึ้น โดยแผ่นเอสเอซีดีมีขนาดความจุอยู่ที่ 4.7GB สำหรับแผ่นแบบ Single Layer (ชั้นเดียว) และ 8.5GB สำหรับแผ่นแบบ Dual Layer (สองชั้น)

                      แผ่น SACD ที่บันทึกข้อมูลแล้ว (pre-recorded SACD disc) ที่มีผลิตออกมาตอนนี้จะมีอยู่ด้วยกัน 2 ประเภท คือแผ่น Single กับแผ่น Hybrid ซึ่งทั้งสองประเภทนี้จะเป็นแผ่นแบบที่มีส่วนบันทึกข้อมูลแค่หน้าเดียว แผ่นแบบ Single นั้นจะมีเฉพาะข้อมูลเสียงสำหรับฟอร์แม็ต SACD อย่างเดียว ส่วนแผ่น Hybrid นั้นจะมีชั้นข้อมูลที่เป็นฟอร์แม็ต CD และฟอร์แม็ต SACD บรรจุอยู่ในหน้าเดียวกันแต่คนละชั้นข้อมูล โดยในชั้นข้อมูลแบบซีดีจะใช้ลำแสงเลเซอร์ความยาวคลื่นขนาด 780 นาโนเมตรในการอ่านข้อมูล ซึ่งอยู่เหนือชั้นเอสเอซีดีขึ้นไป เวลานำแผ่น Hybrid ไปเล่นกับเครื่องเล่นซีดีทั่วๆ ไป เครื่องเล่นซีดีจึงเห็นเพียงชั้นข้อมูลในส่วนของซีดีเท่านั้น เทคโนโลยีการเข้ารหัสสัญญาณเสียงฟอร์แมตใหม่ของแผ่นเอสเอซีดี ที่เรียกว่า DSD (Direct Stream Digital) แตกต่างไปจากฟอร์แมต PCM (Pulse Code Modulation) ที่ใช้ในแผ่นซีดีอยู่ที่ความเร็วในการสุ่มเลือกข้อมูล โดยฟอร์แม็ต PCM จะมีความเร็วในการประมวลผลอยู่ที่ 44,100 ครั้งต่อวินาที (44.1kHz) ส่วนฟอร์แม็ต DSD จะเร็วกว่าถึง 64 เท่า (2.8224MHz) ด้วยเหตุนี้ระบบ DSD จึงสามารถส่งสัญญาณข้อมูลได้ครั้งละ 1 หลัก(bit) เรียงต่อๆ กันไป (Direct Stream) โดยไม่สูญเสียคุณภาพ แทนที่จะส่งพร้อมๆ กันครั้งละ 16 หลัก (bit) เหมือนที่ใช้ในฟอร์แม็ต PCM ที่จำเป็นต้องนำไปแตกข้อมูลออกเป็นบิตย่อยๆ ก่อนนำไปใช้งาน แต่สำหรับฟอร์แมต DSD สามารถนำขบวนสัญญาณเสียงไปใช้งานได้ทันที

                      สำหรับซอร์ฟแวร์ในรูปแบบ SACD ในปัจจุบันมีออกมาให้เลือกแล้วมากมาย มีทั้งที่เป็นอัลบั้มใหม่และอัลบั้มเก่าที่ผ่านการนำมาปัดฝุ่นรีมาสเตอร์ใหม่ ซึ่งอัลบั้มที่บันทึกเสียงใหม่หลังปี 2000 เป็นต้นมามักจะมีเวอร์ชั่นที่มิกซ์เสียงเป็นระบบเสียงรอบทิศ (Surround) 6 Ch มาให้เลือกฟังด้วย

                      Comment


                      • #12
                        Originally posted by Aeromancer
                        ลองค้นหาเรื่อง HDCD / SACD ครับ (แผ่น 24bit เครื่องเล่น หรือ software ต้อง support ด้วยนะ ผมก็มีอยู่แผ่นนึงของ within temptation ครับ ปกหน้า หลัง ไม่มีเขียนบอกเอาไว้เลยครับ มารู้เอาตอนเปิดกับ AVR แล้วมันขึ้น HDCD

                        ต้องการ หลักฐานว่า HDCD / SACD หรือ CD audio มี samplerate = 192Khz bit depth = 24 bit

                        ไม่ใช่ copy post

                        ผมกลัวว่ามันจะเป็นแค่เรื่องโกหก ที่ใช้ในการตลาด

                        Comment


                        • #13
                          ใจเย็นๆ ครับอย่าเพิ่งรีบร้อน ลองหาแผ่นนี้มาพิสูจน์ด้วยตัวเองก็ได้นะ อันนี้เป็น HDCD ที่ผมมีอยู่ เดี๋ยวจะค่อยๆ ส่งข้อมูล

                          "HDCD 16+4 [20] Bit PCM"
                          When played on a CD player, DVD player or amplifier with an HDCD decoder the sound signal is then decoded again to 20 -24 bits.

                          "SACD 1 BIT DSD"
                          DSD เป็นชื่อเรียกการ Stream ข้อมูล

                          ปัจจุบันนี้ยังสามารถสามารถพัฒนาให้กลายเป็น 192 Khz ได้แล้ว ซึ่ง จะเป็น 24/96 หรือ 24/192 ขึ้นอยู่กับแผ่น

                          บังเอิญเจอ ระหว่าง Search ครับของฝากของคุณ VR


                          ลองดูที่นี่นะครับ

                          จะเห็นว่า แผ่น HDCD มีทั้ง 20bit และ 24 bit มีทั้ง96khz และ 192khz แต่เค้าคงขายหมดละ นานมาก
                          Attached Files
                          Last edited by Aeromancer; 23 Feb 2008, 21:17:25.

                          Comment


                          • #14
                            รอชมเหมือนเดิม

                            Comment


                            • #15
                              ข้อมูลเยอะแยะเลย ขอบคุณมากนะครับ
                              ทานกาแฟเย็นก่อนนะ

                              หลังจากฟัง mp3 ไปหลายสิบจบแล้ว ผมคงไม่ซื้อซีดีของเธอไม่ได้แล้วหล่ะครับ
                              อัลบั้ม Camomile ของคุณ Emi Fujita ครับ เพราะมากมาย
                              ..คือดูราคาแผ่นมาทั้ง 3 แบบอ่ะครับ ทั้ง 3 แผ่น เป็นอัลบัมเดียวกัน เพลงเหมือนกันทุกเพลง ราคาก็จากเว็บเดียวกันครับ

                              1. CD ธรรมดา 500 บาท
                              2. CD แต่เขียนว่า 24 bit/192 khz dsp mastering ราคา 600 บาท
                              3. เป็น SACD ครับ ราคา 1500 บาท
                              ไม่มี DVD Audio ขายอ่าาครับ เศร้า ๆๆ

                              ผมเองก็ไม่เก่งเรื่องเครื่องเสียงเลยหนะครับ หูก็ไม่ทองเอาซะเลย
                              ได้อ่านตามข้อมูลที่ให้ก็เพิ่งรู้ว่า SACD นี่ไม่ใช่ CD ธรรมดา (ดูจากราคาก็คงไม่ธรรมดาจริง ๆ อ่ะแหล่ะ) ยังตัดสินใจอยู่หน่ะครับ สมมุติว่าซื้อแผ่นเดียว จะซื้ออันไหนดี

                              คือแผ่นที่ 3 คงเทพอย่างไม่ต้องสงสัยใช่มั้ยครับ รึเปล่า ? หรือว่า ขายแพงๆไปอย่างงั้นแหละ
                              แล้วก็ 2 นี่ ดีกว่า 1 รึเปล่าครับ ผมก็กลัวเรื่องการตลาดเหมือนกัน
                              Last edited by estrellas; 23 Feb 2008, 21:09:44.

                              Comment

                              Working...
                              X