D.I.Y.ตอน เครื่องขยายเสียง

[carbon_za]

ผมพึ่งรู้นะเนี้ยว่าปรีมีความสำคัญเหมือนกัน มันช่วยให้เสียงมีน้ำหนัก พลัง และความชัดเจนของดนตรี (ปกติฟังเบาๆเหมือนเสียงยังออกไม่หมด มีปรีฟังเบาๆก็ออกมาครบได้)

DAC สัญญาณผมเบามาก เบากว่า onboard เยอะ

ผมใช้วงจรนี้


เหมือนกับว่า สัญญาณเป็นขั้นบรรได มากขึ้น (DAC,ต้นทางแหล่งกำเนิดเสียง)สัญญาณอ่อน > (ปรีแอมป์)สัญญาณปานกลาง > (แอมป์)สัญญาณใหญ่

[ManiacMaew]

-เทียบ bias แบบRตัวเดียวกับ CCS(่fet j112+lm334+r+ยังมีปัจจัยเรื่องสายwireอะไรอีก)
คร่าวๆ
แบบRได้หางเสียงแหลมกว่าหน่อย ฟังดูอุ่น มีamibientกว่านิด
แบบccs back groundสะงัดกว่า ตำแหน่งเสียงแม่นยำกว่า imageชัดกว่า
ต่างแนวกันนิดหน่อย เดี๊ยวลองเบิร์นต่อสักพัก แล้วจะเปลี่ยนแบบccsกลับไปเทียบให้ชัวร์ขึ้น กันเมา

ปวดกะบาลกับccsอีก เดี๊ยวต้องไปแก้มันใหม่ ว่าจะทำขาต่อขาเลย หรือลดช่วงลวดทองแดงลง
เพราะจากบอร์ดfet+lm334 ccsไปบอร์ดหลอด มันใช้ทองแดงแกนเดี่ยวhitachiเชื่อมกัน
มันเป็นปัจจัยแปรผันเพิ่มเวลาเทียบกับแบบRตัวเดียว

อันนี้ลองกลับไปใช้fet+lm334แหล่ะ ต่อตรงR fet lm334 พลิกๆหาทางขาต่อขากันให้ได้(ที่ทำไม่ทำแบบนี้แต่แรกเพราะขาต่อขาทำแล้วรื้อยาก+แทบจะเสียอะไหล่ไปเลย)
คนละอารมณ์กับคราวที่แล้วที่ทดลองเลย สงสัยได้effetจากลวดทองแดง+ลายทองแดงบอร์ดไข่ปลาเยอะ

ตำแหน่ง-imageเสียงไม่ได้ดีกว่าแบบrเลยเท่าไรเลย (สังเกตความต่างไม่ค่อยได้) ขีดฆ่าผลการทดลองแล้วทิ้งไปเลย

impactเสียงแบบrตัวเดียวจะดีกว่า แต่Rตัวเดียวเสียงออกจะกร้านกว่า (ใส่rผิดทางรึเปล่าหว่า??? แต่Rในที่เป็นตัวกำหนดกระแสในccsก็หันทางเดียวกันน่ะ)
ccs เสียงจะบางกว่าหน่อย ออกทางเสียงแหลมมากว่า เสียงออกอุ่นๆ

-----

edit : เผลอ ถอด-เสียบ หลอดตอนยังไม่ได้ปิดสวิทช์ - -. ดีหลอดยังใช้ได้

[omegathai]

ขอบคุณมากครับ มีแถมบอกข้อมูลครับเลย

[keang]

แบบRตัวดียว ยังมีอาการตำแหน่งเสียงเลื่อนไปมาอีกหรือเปล่า

[ManiacMaew]

แบบRตัวดียว ยังมีอาการตำแหน่งเสียงเลื่อนไปมาอีกหรือเปล่า

คนละกรณีกันครับ ลำดับการเล่าของผมอาจจะงงๆหน่อย
เรื่องที่มีปัญหาตำแหน่งหางเสียง คือการต่อไม่กลับเฟส2ข้างเมือเทียบกับต่อกลับเฟส2ข้าง
ที่ผมทดลองเทียบแบบนั้น เพราะตัววงจรจริงๆมันแบบกลับเฟสเมือเทียบกับinput พอต่อแบบปรกติแล้วมีปัญหาข้างต้น

[keang]

รับทราบครับ

[tiger X-fi]

ดูดีขึ้นมาหน่อยแระ

[ManiacMaew]

ููู^^^^
โหดขิงๆอีกแล้วพี่เสือ
--------

ปวดกะบาลกับปรีหลอด ท่าทางผมจะมีปัญหากับเรื่องเฟสมันมา เอาไปใช้กับลำโพงยังกลับสายได้
แต่ถ้าเอาไปใช้กับหูฟังนี้คิดยาวเลย เพราะปลั๊ค-แจ็คเป็นunbalanceกลับขั้วไม่ได้ นอกจากจะทำbufferให้ จะใช้ต้องหาทางกลับเฟสอีกรอบอีก
ผมก็วิตกจริตกับหูฟังด้วยสิ สำหรับผมมันsensitiveกว่ากันมากๆน่ะ

[tiger X-fi]

ถ้าจะกลับเฟส ใช้หม้อแปลง กลับเฟสเอาก็ได้ครับ
เดียวกระซิบไป
---------
buffer ไมทำให้กลับเฟสนะครับ
Non-Invert >buffer >Non-Invert
Invert >buffer >Invert
-----

[ManiacMaew]

ไม่ได้หมายถึงbuffer เอามาทำให้กลับเฟสครับ คือปัญหามันซ้อนกัน2อย่างถ้าอยากจะใช้กับหูฟัง

-วงจรนี้ ต่อตรงหูฟังเลยจะไม่ไว้ ต้องทำbufferไว้ช่วยจ่ายกระแส
-ต้องหาทางกลับเฟสอีกรอบ ไม่สามารถกลับที่ขั้วสายได้เพราะปลั๊กหูฟังมันใช้grondร่วมกัน
ก็ต้องไปโมหูฟัง หูฟังมันก็จะเอาไปต่อกับdeviceอื่นยากอีก
แต่จะใช้วิธีอื่นมันก็จะได้side effectในทางเสียง อื่นๆแถมมา

-------

หม้อแปลง เอามากลับเฟส คือยังไงหว่า??

[tiger X-fi]

อืมจริงด้วยลืมนึก..แจ๊ค 3.5 ใช้กราวน์ร่วม
ต้องดึง +ชน+ มันจะใช้ได้มั๊ยนี่

-------------
ขยายกลับเฟสคืน

--------------------
คงต้องใช้ วิธีขยายกลับเฟส คืนอีกรอบ
(Tr /Fet /opamp/Tube)

[keang]

- ที่เอ้าท์พุทของไลน์แอมป์ ก็ต่อสลับบวกลบที่ขั้วRCA
- ที่เอ้าท์พุทของแอมป์หูฟัง ก็ต่อแจ็คหูฟังแยกออกมาอีกชุด ต่อสลับบวกลบที่สายของแจ็คหูฟังแทน

[dracoV]

ดูดีขึ้นมาหน่อยแระ

ทำเขียง!!

---------------------------------

@คุณแมว
ถ้าว่ากลับสาย/กลับเฟสแล้วใช่จุดนั้น
(หูฟังปกติดจะใช้กราวด์ร่วม ก็คงกลับสายธรรมดาคงไม่ได้ ยกเว้นจะโมฯแยกสายแยกแจ๊คเป็นโมโน 2 ตัว)
ก็ลองทำส่วน Invert buffer สำหรับหูฟังดูได้ ใช้ Op-amp คงง่ายสุดละ
ประมาณนี้


ใช้ R1 = R2


เพิ่มเติม
อีกวิธีที่จะกลับเฟส (จริงๆไม่ใช่กลับเฟสน่ะนะ คือเลื่อนเฟสไป 180องศา ก็คล้ายๆกลับเฟสน่ะแหล่ะ )
ใส่ RC LPF แบบ 2nd order (12dB/oct) ก็พอได้อยู่ เลือกจุดตัดความถี่ให้เหมาะๆละกัน

[tiger X-fi]

ทำเขียง!!

---------------------------------

กำ...เดียวหาหมูมาสับต้มมาม่าเลยดีกวา....

[tiger X-fi]

พูดถึง แอมป์หูฟังพกพา เอาPCB PREAMP MUSICAL FIDELLITY A1
มาแปลง ขนาดก็เล็กดีครับ SIZE 62 X62 mm

-----------
ตั้งโต๊ะ ใช้กับบ้าน เอา 741 มาแปลง ก็น่าจะเวิค