ขอความคิดเห็นเรื่องหม้อแปลงแบบต่างๆด้วยครับ ทั้งในเรื่องประสิทธิภาพ/แนวเสียง/ราคา/คุณภาพ/หาซื้อง่าย/หรืออื่นๆ สำหรับผมคิดว่า หม้อแปลงแบบ EI นั้นได้เปรียบในทุกๆด้านยกเว้นเรื่องแนวเสียงที่ผมยังไม่เข้าใจสักเท่าไหร่ ท่านอื่นๆว่าอย่างไรบ้างครับ
เอาเรื่องระบายความร้อนก่อนนะครับ ตามความเห็นของคนทั่วไป ก็มีทั้งบอกว่า EI ระบายความร้อนได้ดีกว่า บางท่านก็ว่า เทอร์รอยด์ดีกว่า ถ้าวิเคราะห์แบบบ้านๆอย่างผม ผมวิเคราะห์ว่า แกน EI มันเป็นเหล็กหุ้มทองแดง ซึ่งเหล็กนี่มันก็ทำหน้าที่สเหมือนกับ ฮีทซิ้งระบายความร้อน แค่มันไม่ได้เป็นครีบเท่านั้นเอง มันน่าจะดูดความร้อนจาก ขดลวดภายในได้ดีกว่า ถ้าเทอร์รอยด์ ขดลวดหุ้มเหล็ก(โลหะ) ถ้าเกิดความร้อนที่เหล็ก ขดลวดไม่น่าจะดูดความร้อนออกมาได้ดีเท่าไหร่นัก แต่ผมก็ยังไม่ทราบว่าความร้อนเกิดขึ้นในจุดไหน แต่เดาเอาว่าน่าจะมาจากขดลวดที่สั่น 50 ครั้งต่อวินาที เลยเกิเป็นพลังงาน ทีนี้ถ้าเราดูแกนเทอร์รอยด์ โลหะภายในจะดูดความร้อนจากขดลวด ซึ่งโลหะจะนำพาความร้อนได้ดีกว่าอากาศแน่นอน เลยทำให้ดูว่าแกนเทอร์รอยด์ ไม่ร้อนแต่ความจริงแล้วมันสะสมใว้ภายใน จนเมื่อเหล็กมีอุณหภูมิเท่ากับขดลวด จะทำให้เกิดเป็นความร้อนสะสมอยู่ภายใน คราวนี้มันก็จะร้อนมากขึ้นเป็นทวีคูณ และเท่าที่เห็นลำโพงที่พังเพราะหม้อแปลงละลาย ก็เห็นมีแต่เทอร์รอยด์นี่ล่ะครับ
เรื่องต่อมาคือการแผ่คลื่นแม่เหล็กไฟฟ้า โดยธรรมชาติแล้วจะเกิดขึ้นที่ลวดทองแดง เพราะว่ากระแสไฟฟ้าวิ่งผ่าน ส่วนเหล็กนั้นเป็นตัวเหนี่ยวนำสนามแม่เหล็ก โดยธรรมชาติของโลหะจะไม่ยอมให้สนามแม่เหล็กทะลุผ่านตัวมันได้ ลักษณะทางกายภาพของ เทอร์รอยด์ คือมีขดลวดอยู่รอบๆตัว ทำให้การแผ่คลื่นแม่เหล็กนั้น เป็นไปในแบบ 360 องศารอบๆตัว หรืออาจจะรวมทั้งด้านบน-ล่าง ด้วยซ้ำไป ทำให้เมื่อนำไปติดตั้งแล้วยากนักที่จะหลีกเลี่ยงคลื่นแม่เหล็ก รอบๆตัวหม้อแปลง ซึ่งเราจะพบว่าในเครื่องเสียงแบรนด์ดังๆมักจะทำแผ่นเหล็กมากกั้นหม้อแปลงใว้ เพื่อป้องกันการแผ่คลื่นแม่เหล็กของหม้อแปลง ทีนี้มาดูแกน EI ลักษณะทางกายภาพคือ จะมีด้านที่เป็นขดลวดอยู่แค่สองด้าน ด้านอื่นๆนั้นเป็นเหล็กหมดรวมทั้งด้านบนและล่างขเงหม้อแปลง ทีนี้เวลาติดตั้งเราก็แค่หันด้านที่เป็นเหล็ก เข้าหาวงจร หรือจะใช้หม้อแปลง EI แบบสำหรับ Audio ซึ่งจะมีเหล็กปิดด้านที่เป็นทองแดง เท่านี้ก็หมดปัญหาเพราะหม้อแปลงจะถูกหุ้มใว้ด้วยเหล็กที่ไม่ยอมให้คลื่นแม่เหล็กทะลุผ่านไปได้ ถ้านึกภาพไม่ออกให้นึกถึง เวลาที่เราโทรศัพท์ในลิฟท์ ซึ่งเป็นเหล็กรอบด้านและหนามากๆ ทำให้คลื่นโทรศัพท์ไม่สามารถทะลุผ่านไปได้เราจึงไม่สามารถใช้โทรศัพท์ในลิฟท์ได้
เรื่องต่อมาคือคุณภาพ เนื่องมาจากแกน EI นั้นมีมานาน หาได้ง่าย ต้นทุนต่ำกว่า ทำให้เราสามรถที่จะเลือกหม้อแปลงแหน EI ได้มากกว่า แกนเทอร์รอยด์ ที่ต้นทุนสูงกว่า ถ้าเทียบในราคาที่เท่าๆกันผมเชื่อว่าเราจะได้ แกนเทอร์รอยด์ ที่มีคุณภาพต่ำกว่าแบบ EI แน่นอน แต่หลายๆท่านคงสงสัยนะครับว่าทำไมแบรนด์ดังๆจึงใช้แกนเทอร์รอยด์ คำตอบง่ายๆครับ การทำเครื่องเสียงขายนั้น ดีไซด์สำคัญมากๆ บางเจ้าเน้นจุดนี้มากกว่าเสียงอีก เพราะเค้ามีแนวคิดที่ว่า เสียงดีๆรับรู้ได้ไม่ถึง 5% ของคนทั่วๆไป แต่ดีไซด์สวย รับรู้ได้ 100% แน่นอนเค้าย่อมมองตัวเลขที่ต่างกันนี้ และในทางการตลาดจริงก็เช่นกัน เครื่องเสียงดีไซด์สวยๆมักจะขายดีกว่า หม้อแปลงแกน EI นั้น ใหญ่กว่า หนักกว่า รูปทรงทำให้เป็นปัญหาในการดีไซด์ตัวเครื่องเอามากๆ ส่วนแกนเทอร์รอยด์นั้น เราสามารถ ออกแบบให้มีขนาดความสูงได้ เตี้ยเอามากๆ ทำให้การออกแบบ ตัวเครื่องทำได้ดีกว่า


การกระจายตัวของแกนเทอร์รอยด์

ปล.เอามาจาก Facebook กลุ่ม diy audio ที่ผมลงความเห็นใว้ เอามาให้พี่ๆน้องที่นี่
ร่วมกันออกความคิดเห็นอีกที ผิดพลาดประการใด ยินดีรับฟังทุกความเห็น ขอบคุณครับ ^^
เอาเรื่องระบายความร้อนก่อนนะครับ ตามความเห็นของคนทั่วไป ก็มีทั้งบอกว่า EI ระบายความร้อนได้ดีกว่า บางท่านก็ว่า เทอร์รอยด์ดีกว่า ถ้าวิเคราะห์แบบบ้านๆอย่างผม ผมวิเคราะห์ว่า แกน EI มันเป็นเหล็กหุ้มทองแดง ซึ่งเหล็กนี่มันก็ทำหน้าที่สเหมือนกับ ฮีทซิ้งระบายความร้อน แค่มันไม่ได้เป็นครีบเท่านั้นเอง มันน่าจะดูดความร้อนจาก ขดลวดภายในได้ดีกว่า ถ้าเทอร์รอยด์ ขดลวดหุ้มเหล็ก(โลหะ) ถ้าเกิดความร้อนที่เหล็ก ขดลวดไม่น่าจะดูดความร้อนออกมาได้ดีเท่าไหร่นัก แต่ผมก็ยังไม่ทราบว่าความร้อนเกิดขึ้นในจุดไหน แต่เดาเอาว่าน่าจะมาจากขดลวดที่สั่น 50 ครั้งต่อวินาที เลยเกิเป็นพลังงาน ทีนี้ถ้าเราดูแกนเทอร์รอยด์ โลหะภายในจะดูดความร้อนจากขดลวด ซึ่งโลหะจะนำพาความร้อนได้ดีกว่าอากาศแน่นอน เลยทำให้ดูว่าแกนเทอร์รอยด์ ไม่ร้อนแต่ความจริงแล้วมันสะสมใว้ภายใน จนเมื่อเหล็กมีอุณหภูมิเท่ากับขดลวด จะทำให้เกิดเป็นความร้อนสะสมอยู่ภายใน คราวนี้มันก็จะร้อนมากขึ้นเป็นทวีคูณ และเท่าที่เห็นลำโพงที่พังเพราะหม้อแปลงละลาย ก็เห็นมีแต่เทอร์รอยด์นี่ล่ะครับ
เรื่องต่อมาคือการแผ่คลื่นแม่เหล็กไฟฟ้า โดยธรรมชาติแล้วจะเกิดขึ้นที่ลวดทองแดง เพราะว่ากระแสไฟฟ้าวิ่งผ่าน ส่วนเหล็กนั้นเป็นตัวเหนี่ยวนำสนามแม่เหล็ก โดยธรรมชาติของโลหะจะไม่ยอมให้สนามแม่เหล็กทะลุผ่านตัวมันได้ ลักษณะทางกายภาพของ เทอร์รอยด์ คือมีขดลวดอยู่รอบๆตัว ทำให้การแผ่คลื่นแม่เหล็กนั้น เป็นไปในแบบ 360 องศารอบๆตัว หรืออาจจะรวมทั้งด้านบน-ล่าง ด้วยซ้ำไป ทำให้เมื่อนำไปติดตั้งแล้วยากนักที่จะหลีกเลี่ยงคลื่นแม่เหล็ก รอบๆตัวหม้อแปลง ซึ่งเราจะพบว่าในเครื่องเสียงแบรนด์ดังๆมักจะทำแผ่นเหล็กมากกั้นหม้อแปลงใว้ เพื่อป้องกันการแผ่คลื่นแม่เหล็กของหม้อแปลง ทีนี้มาดูแกน EI ลักษณะทางกายภาพคือ จะมีด้านที่เป็นขดลวดอยู่แค่สองด้าน ด้านอื่นๆนั้นเป็นเหล็กหมดรวมทั้งด้านบนและล่างขเงหม้อแปลง ทีนี้เวลาติดตั้งเราก็แค่หันด้านที่เป็นเหล็ก เข้าหาวงจร หรือจะใช้หม้อแปลง EI แบบสำหรับ Audio ซึ่งจะมีเหล็กปิดด้านที่เป็นทองแดง เท่านี้ก็หมดปัญหาเพราะหม้อแปลงจะถูกหุ้มใว้ด้วยเหล็กที่ไม่ยอมให้คลื่นแม่เหล็กทะลุผ่านไปได้ ถ้านึกภาพไม่ออกให้นึกถึง เวลาที่เราโทรศัพท์ในลิฟท์ ซึ่งเป็นเหล็กรอบด้านและหนามากๆ ทำให้คลื่นโทรศัพท์ไม่สามารถทะลุผ่านไปได้เราจึงไม่สามารถใช้โทรศัพท์ในลิฟท์ได้
เรื่องต่อมาคือคุณภาพ เนื่องมาจากแกน EI นั้นมีมานาน หาได้ง่าย ต้นทุนต่ำกว่า ทำให้เราสามรถที่จะเลือกหม้อแปลงแหน EI ได้มากกว่า แกนเทอร์รอยด์ ที่ต้นทุนสูงกว่า ถ้าเทียบในราคาที่เท่าๆกันผมเชื่อว่าเราจะได้ แกนเทอร์รอยด์ ที่มีคุณภาพต่ำกว่าแบบ EI แน่นอน แต่หลายๆท่านคงสงสัยนะครับว่าทำไมแบรนด์ดังๆจึงใช้แกนเทอร์รอยด์ คำตอบง่ายๆครับ การทำเครื่องเสียงขายนั้น ดีไซด์สำคัญมากๆ บางเจ้าเน้นจุดนี้มากกว่าเสียงอีก เพราะเค้ามีแนวคิดที่ว่า เสียงดีๆรับรู้ได้ไม่ถึง 5% ของคนทั่วๆไป แต่ดีไซด์สวย รับรู้ได้ 100% แน่นอนเค้าย่อมมองตัวเลขที่ต่างกันนี้ และในทางการตลาดจริงก็เช่นกัน เครื่องเสียงดีไซด์สวยๆมักจะขายดีกว่า หม้อแปลงแกน EI นั้น ใหญ่กว่า หนักกว่า รูปทรงทำให้เป็นปัญหาในการดีไซด์ตัวเครื่องเอามากๆ ส่วนแกนเทอร์รอยด์นั้น เราสามารถ ออกแบบให้มีขนาดความสูงได้ เตี้ยเอามากๆ ทำให้การออกแบบ ตัวเครื่องทำได้ดีกว่า


การกระจายตัวของแกนเทอร์รอยด์

ปล.เอามาจาก Facebook กลุ่ม diy audio ที่ผมลงความเห็นใว้ เอามาให้พี่ๆน้องที่นี่
ร่วมกันออกความคิดเห็นอีกที ผิดพลาดประการใด ยินดีรับฟังทุกความเห็น ขอบคุณครับ ^^
Comment