วอลลุ่มจะเสมือนมีR จำนวน3ตัว
- Rตัวที่1 (เป็นแบบค่าคงที่ตามค่าความต้านทานของตัววอลลุ่ม) ต่อกับขา1-ขา3 (อินพุท-กราวน์)
- Rตัวที่2 (เป็นตัวต้านทานปรับค่าได้ โดยอ้างอิงกันของR2,R3) ต่อกับขา1-ขา2 (อินพุท-เอ้าท์พุท)
- Rตัวที่3 (เป็นตัวต้านทานปรับค่าได้ โดยอ้างอิงกันของR2,R3) ต่อกับขา2-ขา3 (เอ้าท์พุท-กราวน์)
ซึ่งRตัวที่1 จะมีผลเรื่อง ค่าอิมพิแดนซ์ของวงจรอินพุทแอมป์ที่ต่ออยู่ถัดไป กับ ระดับความดังสูงสุดด้วย
และค่าความต้านทานนั้นยังส่งผลให้แนวเสียงเปลี่ยนตามไปด้วย
- Rตัวที่1 (เป็นแบบค่าคงที่ตามค่าความต้านทานของตัววอลลุ่ม) ต่อกับขา1-ขา3 (อินพุท-กราวน์)
- Rตัวที่2 (เป็นตัวต้านทานปรับค่าได้ โดยอ้างอิงกันของR2,R3) ต่อกับขา1-ขา2 (อินพุท-เอ้าท์พุท)
- Rตัวที่3 (เป็นตัวต้านทานปรับค่าได้ โดยอ้างอิงกันของR2,R3) ต่อกับขา2-ขา3 (เอ้าท์พุท-กราวน์)
ซึ่งRตัวที่1 จะมีผลเรื่อง ค่าอิมพิแดนซ์ของวงจรอินพุทแอมป์ที่ต่ออยู่ถัดไป กับ ระดับความดังสูงสุดด้วย
และค่าความต้านทานนั้นยังส่งผลให้แนวเสียงเปลี่ยนตามไปด้วย
Comment