Announcement

Collapse
No announcement yet.

ไฟล์ lossless ถ้าไรท์ไปแล้ว แผ่นที่ได้จะได้คุณภาพระดับไหนครับ

Collapse
X
 
  • Filter
  • Time
  • Show
Clear All
new posts

  • เห็นด้วยครับไม่ควรไปปรามาสหรือดูถููกใครไม่งั้นโดนเขายันกลับจะมาเคืองเขาก็ไม่ถูก

    เขาฟังออกเเขาก็โชคดี(+โชคร้ายไปต้องจ่ายเพิ่มแพงๆ)
    ฟังไม่ออกก็โชคดีไป(ไม่ต้องไปจ่ายเพิ่มหลายๆอย่าง)
    แต่ทั้งคู่ก็ฟังเพลงได้เพราะได้อรรสรถพอๆกันจริงไหมครับคงไม่มีใครบอกว่าเขาฟังออกแล้วบอกว่าฟังได้เพราะกว่า

    อย่างผมถ้าพูดเรื่องศิลปะ ถ้าเอารูปโมนาลิซ่ามาให้ผมครอบครองโดยมีข้อแม้ไม่ให้ใครรู้หรือมาดูด้วยได้และห้ามซื้อขายคือให้ดููให้รู้คนเดียวเท่านั้น ผมไม่เอาครับผมขอแลกกะรูปอั้มหรือสาวอื่นๆโชว์นู๊ดนิดๆดีกว่า ผมว่าผมดูแล้วมีความสุขมีอารมณ์สุนทรีย์กว่าแน่ๆอิอิ...

    Comment


    • ้ถ้ามองในแง่ของสุนทรียภาพก็เรื่องนึง ที่คงชี้วัดกันยาก เถียงไปก็ไม่จบ ใจมันปักใจไปแล้ว มันไม่มีเหตุผลแล้วล่ะ

      แต่ถ้าจะคุยบนพื้นฐาน ของหลักการที่ใช้ในการสร้างเครื่องเสียงให้เรามาฟังๆกัีน เราคงปฎิเสธไม่ได้ว่า วิศวกรผู้ผลิต เขาไม่ได้ใช้ไสยศาสตร์มาผลิต(ที่ทำให้แต่ละคนฟังได้ถึงไม่เหมือนกัน) แต่เขาใช้วิทยาศาสตร์ หลักฟิสิกส์ และไฟฟ้า ที่วัดค่าได้ พิสูจน์ได้ ทำซ้ำได้ นี่แหละครับ ยิ่งกับเรื่อง digital ที่มีการคิดค้นและพิสูจน์ความถูกต้องกันมา จนเป็นแกนหลักของการสื่อสารในโลกปัจจุบัน มันไม่ใช่เรื่องที่จะคิดเองโดยปราศจากการพิสูจน์ได้ครับ ถ้าเราจะถกเถียงตรงจุดนั้น ก็ต้องยอมรับที่จะพูดคุยบนพื้นฐานหลักการเดียวกันเสียก่อน ไม่งั้นก็จะไม่ได้ข้อสรุปอะไรนอกจากจะเคืองใจไปกันเปล่าๆ

      แต่จริงๆเรื่องฟังออกไม่ออกนี่ ผมว่ามันก็ต้องพิสูจน์นะ เพราะเคยเจอคนบลัฟว่าฟังเก่ง แต่จริงๆหูแยกแยะความถี่เสียงแย่กว่าคนปกติเสียอีก เพียงแต่จินตนาการสูงเล่าออกมาเป็นตุเป็นตะ แบบนี้เราจะต้องยอมรับหรือ ว่าเขาหูดีฟังถึงจริงๆ?(อันนี้จริงๆถ้าเขาไม่มาป่าวประกาศ เราก็คงไม่เข้าไปยุ่งหรอกจริงไหม?) เีิรื่องฟังออกนี่วัดกันไม่ยากครับ ลองไปหาเวบทดสอบการฟัง ที่เขาให้คลิปเสียงย่านความถี่ต่างๆกันให้ลองฟังดู ว่าแยกแยะได้ไหม ลองแล้วก็จะรู้เอง ว่าหูเราเป็นยังไง ไม่ต้องให้คนขายหรือซื้อเครือ่งเสียงราคาแพง มาสร้างภาพการันตีหูเราครับ

      ยิ่งกัีบการพูดว่า หูไม่ถึงน่ะโชคดีแล้วจะได้ไม่เปลือง อันนี้ผมว่าเป็นวาทกรรมที่แฝงการข่มกันไม่น้อยเลยนะ ที่น่าแปลกก็คือ ผมไม่เคยเห็นนักดนตรีคนไหน เขาลงทุนกับเครื่องเสียงราคาแพงเว่อๆเลย ทั้งๆที่เขาหูดีมากพอที่จะแยกแยะ keynote ได้ด้วยการฟังล้วนๆนี่แหละ เครื่องเสียงทีมีมาตรฐานความเพี้ยนต่ำแบบที่ใช้ใน studioน่ะแพงจริงตามคุณภาพอุปกรณ์(ที่พิสูจน์ัวัดค่าได้) แต่ก็ไม่แพงเท่าเครื่องเสียงของชาวหูเทพ ที่อ้างว่าต้องใช้ความรู้สึกฟังครับ!

      Comment


      • Originally posted by newbie66 View Post
        เห็นด้วยครับ นี่เราพูดกันแค่เรื่องเสียงอย่างเดียว ถ้าลองคุยกับกลุ่มคนที่ฟังเพลงโดยมีการตีความและวิเคราะห์บทเพลงอย่างจริงจัง จะได้ถกกันสนุกกว่านี้อีกครับ ยิ่งถ้าเป็นนักดนตรี จะวิเคราะห์ไปถึงโครงสร้างเพลงกันเลยทีเดียว และก็อาจจะมีคำถามในทำนองเดียวกันอีกว่า ฟังเพื่อความสุขก็เพียงพอ จะไปวิเคราะห์อะไรให้มันมากมาย ตรงนี้ก็คงต้องตอบว่ามันก็ต้องแล้วแต่บุคคลครับ ว่าจะต้องการลงลึกในสิ่งที่ตนเองสนใจไปมากน้อยขนาดไหน ซึ่งก็ไม่ผิดแต่ประการใด
        ครับอยากวิเคราะห์หรือถกกันไปเพื่อไรก็แล้วแต่เช่นรู้มากอาจเพิ่มอรรถรสในการฟังได้ในคนบางกลุ่มเช่นนักดนตรีนักแต่งเพลง

        แต่คนพื้นๆธรรมดาธรรมชาติก็ชดเชยให้เขาเหมือนกันนั่นคือจินตนาการ
        คืออาจจะไม่ถูกผูกมัดกะว่าโอ!เทคนิคการเล่นสุดยอด ถ้านักดนตรีคงจับทุกเม็ดและคงขนลุกไป
        และอินไปกะเรื่องแบบนี้

        ส่วนคนธรรมดาอาจจินตนาการไปถึงภูเขา สายลมที่แผ่วพริ้ว ความทุกข์ความสุขแล้วแต่ท่วงทำนองของบทเพลงก็ว่ากันไป ไม่ได้ไปมัวพะวงกะว่าบทเพลงนี้แต่งยังไงใช้เทคนิคการเล่นยากเย็นเพียงไหน

        สรุปก็คือสัมผัสได้ในแง่มุมที่ต่างกันไปแต่ก็มีความสุขเหมิอนกัน

        Comment


        • ฮามาก...อิอิ เปนผมก็เอาอั้ม

          ครับพวกฟังเพลงอย่างละเอียดนี่ก็มีเยอะเหมือนกัน
          อย่างเพลงภาษาต่างชาติเขาต้องแปลความหมายออกมาและต้องรู้ให้ได้ว่าเพลงนั้นพูดถึงอะไร เนื้อหาเพลงดีไหม
          อย่างเราแค่อาศัยฟังเยอะ แต่ถ้าใครมาถามว่าเนื้อหาเพลงสื่อถึงอะไรก็เรียบร้อย อิ
          อีกทั้งเครื่องดนตรีอีกอย่างที่ว่า บางทีเราฟังไม่รู้ด้วยซ้ำว่าเสียงมาจากเครื่องดนตรีตัวไหน
          อย่างที่ว่าแหละครับนักดนตรีจะรู้เลยว่า เพลงนี้คล้ายเหมือนเอาเพลงนั้นมาเลย หรือไม่ก็เล่นง่ายเกินไป
          เคยดูทีวีรายการ 108music อ.แกสะสมกีตาร์ค่อดเยอะสุดยอด ตัวนึงนี้หลักหลายหมื่นมีเปนร้อยๆตัวเลย

          เรื่องเสียงนี่ผมว่ามันมีทางไปต่อเสมอ พัฒนาไปเรื่อย จากลำโพงคอม ไปอินทิเกรต ไปปรี+เพาเวอร์ และยังโมโนบลอคอีก
          คิดดูลำโพงบุคเชลล์ดัวเล็กๆ ดอกก็ใช้ยี่ห้อทั่วไป ที่เราหาซื้อกันได้ แต่ขายกันเปนแสนๆ มันต้องมีดีแน่

          อืมๆเรื่องสายดิจิตอลก็ต้องเพลากันไว้หน่อยเล่นพอประมาณ เพราะผมเห็นอย่า Dac ของ Ayre เขาเสียบได้แต่ usb เลย ไม่ต้อง coax optic อะไรเลย
          Last edited by naraklive; 29 Jun 2010, 20:10:51.

          Comment


          • Originally posted by Fourpoint View Post
            ้ถ้ามองในแง่ของสุนทรียภาพก็เรื่องนึง ที่คงชี้วัดกันยาก เถียงไปก็ไม่จบ ใจมันปักใจไปแล้ว มันไม่มีเหตุผลแล้วล่ะ

            แต่ถ้าจะคุยบนพื้นฐาน ของหลักการที่ใช้ในการสร้างเครื่องเสียงให้เรามาฟังๆกัีน เราคงปฎิเสธไม่ได้ว่า วิศวกรผู้ผลิต เขาไม่ได้ใช้ไสยศาสตร์มาผลิต(ที่ทำให้แต่ละคนฟังได้ถึงไม่เหมือนกัน) แต่เขาใช้วิทยาศาสตร์ หลักฟิสิกส์ และไฟฟ้า ที่วัดค่าได้ พิสูจน์ได้ ทำซ้ำได้ นี่แหละครับ ยิ่งกับเรื่อง digital ที่มีการคิดค้นและพิสูจน์ความถูกต้องกันมา จนเป็นแกนหลักของการสื่อสารในโลกปัจจุบัน มันไม่ใช่เรื่องที่จะคิดเองโดยปราศจากการพิสูจน์ได้ครับ ถ้าเราจะถกเถียงตรงจุดนั้น ก็ต้องยอมรับที่จะพูดคุยบนพื้นฐานหลักการเดียวกันเสียก่อน ไม่งั้นก็จะไม่ได้ข้อสรุปอะไรนอกจากจะเคืองใจไปกันเปล่าๆ

            แต่จริงๆเรื่องฟังออกไม่ออกนี่ ผมว่ามันก็ต้องพิสูจน์นะ เพราะเคยเจอคนบลัฟว่าฟังเก่ง แต่จริงๆหูแยกแยะความถี่เสียงแย่กว่าคนปกติเสียอีก เพียงแต่จินตนาการสูงเล่าออกมาเป็นตุเป็นตะ แบบนี้เราจะต้องยอมรับหรือ ว่าเขาหูดีฟังถึงจริงๆ?(อันนี้จริงๆถ้าเขาไม่มาป่าวประกาศ เราก็คงไม่เข้าไปยุ่งหรอกจริงไหม?) เีิรื่องฟังออกนี่วัดกันไม่ยากครับ ลองไปหาเวบทดสอบการฟัง ที่เขาให้คลิปเสียงย่านความถี่ต่างๆกันให้ลองฟังดู ว่าแยกแยะได้ไหม ลองแล้วก็จะรู้เอง ว่าหูเราเป็นยังไง ไม่ต้องให้คนขายหรือซื้อเครือ่งเสียงราคาแพง มาสร้างภาพการันตีหูเราครับ

            ยิ่งกัีบการพูดว่า หูไม่ถึงน่ะโชคดีแล้วจะได้ไม่เปลือง อันนี้ผมว่าเป็นวาทกรรมที่แฝงการข่มกันไม่น้อยเลยนะ ที่น่าแปลกก็คือ ผมไม่เคยเห็นนักดนตรีคนไหน เขาลงทุนกับเครื่องเสียงราคาแพงเว่อๆเลย ทั้งๆที่เขาหูดีมากพอที่จะแยกแยะ keynote ได้ด้วยการฟังล้วนๆนี่แหละ เครื่องเสียงทีมีมาตรฐานความเพี้ยนต่ำแบบที่ใช้ใน studioน่ะแพงจริงตามคุณภาพอุปกรณ์(ที่พิสูจน์ัวัดค่าได้) แต่ก็ไม่แพงเท่าเครื่องเสียงของชาวหูเทพ ที่อ้างว่าต้องใช้ความรู้สึกฟังครับ!
            เท่าที่ผมรู้จักนักดนตรีหลายคน ก็เห็นด้วยนะครับว่าหลายคนใช้ลำโพงที่ไม่ได้แพงอะไรมาก ส่วนมากจะไปลงทุนกับอุปกรณ์ดนตรีเสียมากกว่า และอีกอย่างคือ เวลาพวกเค้าเล่น จะได้ยินเสียงเล่นสดๆเลย แม้จะไม่ได้ถูกปรับแต่ง แต่มันก็ชัดเจนเพียงพออีกด้วย ส่วนที่ว่านักดนตรีประสาทสัมผัสทางหูโดยรวม จะดีกว่านักฟังเพลงปกติ อันนี้ก็เห็นด้วยครับ แต่ก็มีนักฟังบางคนที่ประสาทสัมผัสทางหูดีกว่า เพียงแต่ชั่งน้ำหนักแล้วอาจจะน้อยกว่านักดนตรี ทั้งนี้ นักดนตรีผู้นั้นต้องมีประสบการณ์ในการฟังเพลงค่อนข้างเยอะด้วยครับ ยิ่งนักดนตรีสมัยก่อน แกะเพลงจากเทปเสียส่วนใหญ่ ทำให้มีการพัฒนาทักษะในด้านนี้ค่อนข้างดีถึงดีมาก

            Comment


            • Originally posted by naraklive View Post
              ฮามาก...อิอิ เปนผมก็เอาอั้ม

              ครับพวกฟังเพลงอย่างละเอียดนี่ก็มีเยอะเหมือนกัน
              อย่างเพลงภาษาต่างชาติเขาต้องแปลความหมายออกมาและต้องรู้ให้ได้ว่าเพลงนั้นพูดถึงอะไร เนื้อหาเพลงดีไหม
              อย่างเราแค่อาศัยฟังเยอะ แต่ถ้าใครมาถามว่าเนื้อหาเพลงสื่อถึงอะไรก็เรียบร้อย อิ
              อีกทั้งเครื่องดนตรีอีกอย่างที่ว่า บางทีเราฟังไม่รู้ด้วยซ้ำว่าเสียงมาจากเครื่องดนตรีตัวไหน
              อย่างที่ว่าแหละครับนักดนตรีจะรู้เลยว่า เพลงนี้คล้ายเหมือนเอาเพลงนั้นมาเลย หรือไม่ก็เล่นง่ายเกินไป
              เคยดูทีวีรายการ 108music อ.แกสะสมกีตาร์ค่อดเยอะสุดยอด ตัวนึงนี้หลักหลายหมื่นมีเปนร้อยๆตัวเลย

              เรื่องเสียงนี่ผมว่ามันมีทางไปต่อเสมอ พัฒนาไปเรื่อย จากลำโพงคอม ไปอินทิเกรต ไปปรี+เพาเวอร์ และยังโมโนบลอคอีก
              คิดดูลำโพงบุคเชลล์ดัวเล็กๆ ดอกก็ใช้ยี่ห้อทั่วไป ที่เราหาซื้อกันได้ แต่ขายกันเปนแสนๆ มันต้องมีดีแน่
              อั้ม อภิชาติ หรือเปล่าครับ (แซวเล่นครับ อย่าซีเรียส ^ ^)

              Comment


              • อืมเปลี่ยนแนวมั่งก็ดี จึ๋ย

                Comment


                • Originally posted by Fourpoint View Post
                  ้ถ้ามองในแง่ของสุนทรียภาพก็เรื่องนึง ที่คงชี้วัดกันยาก เถียงไปก็ไม่จบ ใจมันปักใจไปแล้ว มันไม่มีเหตุผลแล้วล่ะ

                  แต่ถ้าจะคุยบนพื้นฐาน ของหลักการที่ใช้ในการสร้างเครื่องเสียงให้เรามาฟังๆกัีน เราคงปฎิเสธไม่ได้ว่า วิศวกรผู้ผลิต เขาไม่ได้ใช้ไสยศาสตร์มาผลิต(ที่ทำให้แต่ละคนฟังได้ถึงไม่เหมือนกัน) แต่เขาใช้วิทยาศาสตร์ หลักฟิสิกส์ และไฟฟ้า ที่วัดค่าได้ พิสูจน์ได้ ทำซ้ำได้ นี่แหละครับ ยิ่งกับเรื่อง digital ที่มีการคิดค้นและพิสูจน์ความถูกต้องกันมา จนเป็นแกนหลักของการสื่อสารในโลกปัจจุบัน มันไม่ใช่เรื่องที่จะคิดเองโดยปราศจากการพิสูจน์ได้ครับ ถ้าเราจะถกเถียงตรงจุดนั้น ก็ต้องยอมรับที่จะพูดคุยบนพื้นฐานหลักการเดียวกันเสียก่อน ไม่งั้นก็จะไม่ได้ข้อสรุปอะไรนอกจากจะเคืองใจไปกันเปล่าๆ

                  แต่จริงๆเรื่องฟังออกไม่ออกนี่ ผมว่ามันก็ต้องพิสูจน์นะ เพราะเคยเจอคนบลัฟว่าฟังเก่ง แต่จริงๆหูแยกแยะความถี่เสียงแย่กว่าคนปกติเสียอีก เพียงแต่จินตนาการสูงเล่าออกมาเป็นตุเป็นตะ แบบนี้เราจะต้องยอมรับหรือ ว่าเขาหูดีฟังถึงจริงๆ?(อันนี้จริงๆถ้าเขาไม่มาป่าวประกาศ เราก็คงไม่เข้าไปยุ่งหรอกจริงไหม?) เีิรื่องฟังออกนี่วัดกันไม่ยากครับ ลองไปหาเวบทดสอบการฟัง ที่เขาให้คลิปเสียงย่านความถี่ต่างๆกันให้ลองฟังดู ว่าแยกแยะได้ไหม ลองแล้วก็จะรู้เอง ว่าหูเราเป็นยังไง ไม่ต้องให้คนขายหรือซื้อเครือ่งเสียงราคาแพง มาสร้างภาพการันตีหูเราครับ

                  ยิ่งกัีบการพูดว่า หูไม่ถึงน่ะโชคดีแล้วจะได้ไม่เปลือง อันนี้ผมว่าเป็นวาทกรรมที่แฝงการข่มกันไม่น้อยเลยนะ ที่น่าแปลกก็คือ ผมไม่เคยเห็นนักดนตรีคนไหน เขาลงทุนกับเครื่องเสียงราคาแพงเว่อๆเลย ทั้งๆที่เขาหูดีมากพอที่จะแยกแยะ keynote ได้ด้วยการฟังล้วนๆนี่แหละ เครื่องเสียงทีมีมาตรฐานความเพี้ยนต่ำแบบที่ใช้ใน studioน่ะแพงจริงตามคุณภาพอุปกรณ์(ที่พิสูจน์ัวัดค่าได้) แต่ก็ไม่แพงเท่าเครื่องเสียงของชาวหูเทพ ที่อ้างว่าต้องใช้ความรู้สึกฟังครับ!
                  อันนี้ไม่ยากครับ ปิดตาเทสกันไปแต่ผมก็คงว่าหาเทพมาเทสยากเหมือนกัน
                  คือใจความที่ผมอยากบอกคือไม่ก้าวก่ายซึ่งกันและกัน

                  คือท่านใดมีระบบดีๆหรือท่านหูดี ก็ไม่ไปดูถูกคนอื่น ที่เขาฟังระบบที่ไม่ดีเท่าหรือแยกฟอแมท
                  ต่างๆไม่ออกเช่น mp3ดีๆ/lossless/cd คือคนที่แยกออกก็มี คนแยกไม่ออกก็มีเรื่องนี้ไม่แปลก
                  แต่อย่างใดคงไม่มีใครกล้าเดิมพันว่าคนนั้นแยกออกคนนี้แยกไม่ออก

                  ส่วนเรื่องเทคนิค/วิทยาศาสน์บางอย่างมันก็พิสูจน์ได้บางอย่างมันก็พิสูจน์ไม่ได้มันมีแทบทุกอย่างแหละครับรอบๆตัวเราไม่ใช่แค่เรื่องที่เราคุยกันอยู่ และบางเรื่องมันก็สามารถตอบได้เมื่อเรารู้มากขึ้น
                  ว่าจริงหรือเท็จ ซึ่งอาจจริงก็มีเท็จก็มี เหมือนที่เชื่อว่าโลกแบนมาก่อนแหละครับ

                  แต่การตลาดมันก็เยอะจริงๆครับออกแนวชวนเชื่อหวังขายซะมากกว่า

                  ส่วนเรื่อง lossless ตัวคนพัฒนาโปรแกรมค่ายต่างๆเขายอมรับเองนะครับว่าของเขาไม่เต็มร้อย
                  ถ้าได้เต็มจริงๆเขาคงไม่บอกหรอกว่าของเขาไม่ถึง

                  ผมเองอยู่ในฝ่ายที่เชื่อน้อยนะไม่ตามกระแสผมตามเรื่องนี้มาพอสมควรแต่ไม่มีโอกาสสัมผัสระบบดีๆมากเท่าไหร่ และไม่ก้าวก่ายเพราะประสบการณ์ไม่ถึง

                  อย่างอ.ไมตรีผมก็ว่าแกติดเวอร์มากไป อ.วิจิตรนี่ค่อนข้าระวังตัวในการวิจารณ์ต่างๆมากกว่า


                  ส่วนที่ว่าหูดีจ่ายเพิ่มมากกว่าอันนี้ผมพูดมาจากฐานคนส่วนใหญ่ครับ เช่นเคยฟังลำโพงแถม
                  และซาวด์ออนพอมีโอกาสได้ฟังการ์ดแยกหรือลำโพงเกรดดีกว่าหน่อยผมก็เห็นซื้อแทบทุกรายอ่ะครับ

                  ส่วนคนฟังmp3ไม่ได้สนใจlossless อันนี้ก็ธรรมดาครับไม่ได้ไปดูถูกแต่อย่างใดเพราะผมยังแยกแทบไม่ออก แต่ผมrip>losslessเพราะเดี๋ยวนี้hd.ถูกมีไม่กี่อัลบั้มที่ทำเป็นimage

                  edit+++
                  และมีหลายคนที่แยกออนบอร์ดกะการ์ดแยกไม่ออกและใช้ออนฯหรือใช้ระบบพื้นๆทั่วๆไปก็พอใจแระต่อ
                  ผมพูดถึงประมาณนี้ครับไม่เจตนาออกแนวข่มแต่อย่างใด เราก็ไม่ได้ว่าเขาหูดีหรือไม่ดีเขาอาจพอใจแค่นี้ก็ได้ คนที่เขาฟังการ์ดแยกออกว่าฟังแล้วเพราะกว่าเขาก็ซื้อเพิ่ม+ก็แค่นี้ครับ ส่วนhi-end สุดๆ ผมไม่ยุ่งอยู่แล้วเพราะประสบการณ์น้อย

                  edit เยอะหน่อยครับกำลังกรึ๊บอยู่
                  Last edited by namek; 29 Jun 2010, 22:05:50.

                  Comment


                  • ประเด็นของเรื่องนี้คือ source 2ตัว ที่ได้รับการยืนยันทางดิจิตอลแล้วว่าเหมือนกัน ผ่าน process(ชุดเครื่องเสียง) ชุดเดียวกัน แล้ว output(เสียง) ที่ได้ต่างกัน โดยการยืนยันทาง monitor(หู) ของเขาน่ะครับ

                    Comment


                    • Originally posted by takub View Post
                      ประเด็นของเรื่องนี้คือ source 2ตัว ที่ได้รับการยืนยันทางดิจิตอลแล้วว่าเหมือนกัน ผ่าน process(ชุดเครื่องเสียง) ชุดเดียวกัน แล้ว output(เสียง) ที่ได้ต่างกัน โดยการยืนยันทาง monitor(หู) ของเขาน่ะครับ
                      เข้าใจครับออกนอกเรื่องกันไปเรื่อยเปื่อย

                      คือเอาง่ายๆเลยเอาแค่ mp3กะ lossless
                      หรือ losslessกะ cd
                      หรือmp3กะ cd

                      เอาคนทั่วๆไปมาเทสร้อยคนผมว่าค่าเฉลี่ยคงเกินครึ่งแยกไรแทบไม่ออกซักฟอแมทว่าต่างกันยังไง คือส่วนมากคงบอกเหมือนๆกัน คำตอบนี้เป็นวิทยาศาสน์แน่ๆแต่ท่านจะบอกว่าmp3คุณภาพเทียบเท่าcd เพราะผลการทดลองนี้ไม่ได้แน่ๆ

                      Comment


                      • ประเด็นเริ่มเปลี่ยน แฮะเริ่มต้นกระทู้ด้วยเรื่องความถูกต้องประมาณว่า if A = B then B = C thus A= C หลังๆเริ่ม if A= B then B = C thus B = D??? ไปดีก่าฟิ้วววว..

                        Comment


                        • Originally posted by XsoeIIsJ View Post
                          การแสดงความคิดเห็นเรื่องเครื่องเสียง ถ้ายึดตัวเองเป็นหลักแล้ว ผมว่าอย่าวิจารณ์ดีกว่า

                          เพราะหูคนเรามันไม่เท่ากันจริงๆ บางสิ่งที่เราเห็นว่าบ้าบอ เค้าอาจจะฟังออกจริงๆ ก็ใด้ แล้วทำไมเราต้องไปว่าเค้าด้วย

                          เค้าอาจจะมีสมาธิดีกว่าเรา ประสาทสัมผัสใวกว่า ความเชี่ยวชาญ , คุ้นเคย สูงกว่าเรา เราลองฟังเค้าพูดก็ไม่เห็นเสียหายนี่

                          จะเชื่อหรือไม่มันก็เรื่องของเรา ไม่ไช่ว่า " ตูคิดว่ามันเหลวใหลว่ะ ไม่ถูกใจตู ต้องด่าเสียสักน้อย " ยังไม่ทันใด้คิดให้ถี่ถ้วน

                          คำสบประมาททั้งหลายก็พรั่งพรูออกมาเป็นการใหญ่ มันดีแล้วเหรอครับ ? โตๆ กันแล้วมิไช่รึ ทำไมถึงใด้เอาแต่ใจเหมือนเด็กนัก

                          คนไช้สายเทพๆ มีแค่ 2 ประการ คือ 1 เค้าฟังออกจริงๆ และ 2 คือเค้าฟังไม่ออก แต่อุปาทานในจิตใจ(เสียดายเงิน)มันทำให้เสียงดีขึ้น

                          ทำไมเราต้องยกตัวข่มท่านด้วยล่ะครับ สติปัญญาของเราเอง หูเราเอง กระเป๋าตังค์เราเอง เรามีสิทธิ์ที่จะเชื่อ หรือไม่เชื่อ ซื้อ หรือไม่ซื้อก็ใด้

                          ถือว่าแลกเปลี่ยนความคิดเห็นกัน

                          สำหรับพวกนิตย์สาร , พ่อค้าแม่ขาย อย่าไปเชื่อให้มันมากนัก เมื่อวานซืนผมไปฟังชุด Magnet เทพๆ

                          ไม่เห็นจะชอบ เสียงมันหวานๆ ราบๆ กลมกล่อมจนออกจืดชืดไปด้วยซ้ำ ชอบ Solo6 โมของตัวเองมากกว่าอีก
                          เห็นด้วยกับท่านเป็นอย่างยิ่งครับ
                          เพราะสุดท้ายแล้วสิ่งที่จะบอกตัวเราได้ดีที่สุดก็คือ หู เรานี่เองแหละครับ เชื่อหูเราดีกว่าครับ
                          อย่างไฟล์ Flac บางเพลงที่ผมชอบๆแปลงจากต้นฉบับแผ่นละพันกว่าบาทของ ออดีโอไพน์
                          เอามาไรท์ลงซีดีแผ่นละไม่กี่ตังค์ผมว่ามันก็ยังให้เสียงที่ไพเราะ น่าฟังอยู่ดี

                          Comment


                          • ตาม #114 ครัีบ

                            กระทู้นี้ยืนยันว่า การแปลงทาง digital ที่ไม่มีการสูญเสีย นั้นผลลัพธ์ที่ได้เทียบเท่ากับต้นฉบับทุกประการ (จากการ verify bit และ MD5 check sum)

                            และผมก็ยังยืนยันในหลักการพื้นๆว่า input เท่ากันทุกประการ out put ออกมาก็ต้องเท่ากันทุกประการเช่นกัน ยกเว้นว่าเป็นเครื่องเล่นที่ีขาดความน่าเชื่อถือ เล่นแผ่นเดียวกัน คนละรอบดันให้เสียงไม่เหมือนกัน ซึ่งผมว่าคงนอกประเด็นไป(น่า่กลัวนะ เครื่องเล่นที่โดน noise จากภายนอกได้ง่ายขนาดนั้น)

                            ส่วนประเด็นฟังsource Aแล้ว"คิดว่า"เพราะกว่า source B(ทั้งๆที่แปลงแล้วเท่ากัน) ฟังแล้วชอบกว่า สุนทรีย์ำกว่า ผมว่านอกประเด็นกระทู้นี้ และจะเป็นการหลงประเด็นครับ!

                            ส่วนใครจะบอกว่าการแปลงแบบ lossless มีข้อผิดพลาด หรือมีข้อแตกต่าง ก็ช่วยยกคำอธิบายมาด้วยครับ พูดบลัฟกันลอยๆ ไม่เกิดประโยชน์อะไร

                            #115 ช่วยอ่านเนื้อหากระทู้อีกรอบนะครับ ย้ำว่ากระทู้นี้พูดถึงการแปลงแบบ lossless เช่นจาก raw PCM >FLAC แล้วแปลงกลับเป็น PCM อีกที ว่าได้ข้อมูลเท่ากันหรือไม่ ไม่ได้พูดถึง lossy format แบบ MP3 เลย

                            Comment


                            • ผมสนใจตรงมัน ฟรี นี่แหละ อิอิอิ อย่างอื่นช่างมาน
                              เหมือนคนใช้วินโด บอกว่าไม่ดีเลยโปรแกรมนี้ ด่าต่างๆนาๆ สาปส่ง - -" เอ่อแต่พี่แกใช้ของฟรี

                              Comment


                              • กระทู้แนวนี้มาอีกแล้วครับท่าน นึกถึงกระทู้คุณjoeจัง ถกกันมันส์มาก

                                ...........
                                แก้ไข พิมจนขี้เกียจแระ ไม่ตอบเพิ่มดีกว่า นานาจิตตังครับ

                                Comment

                                Working...
                                X