โมให้ดีกันเยอะแล้ว มาม๊ะ....มาโมให้"เจ๊ง"กันดีกว่า

[E6420]

คนที่ชอบทำกัน ส่วนใหญ่ไม่ใช่ความกล้า แต่ใช้ความบ้าเข้าครอบงำตัวเอง ครับ

ทำนองนั้นครับ

[keang]

คุณ Keang รับโมมั้ยครับ

เรียนให้ทราบ

ที่ผ่านมา ผมทำการ์ด"เจ๊ง" นับไม่ถ้วน แต่การ์ดที่รอดมาได้เนี่ย นับนิ้วมือข้างเดียวยังมีเหลือเลยครับ

ทำเองเลยครับ ความสนุกอยู่ที่ เราได้ทำ เราได้ลอง ครับ

ติดขัดหรือมีข้อสงสัยตรงไหน โพสถามได้เลยครับ เดี๋ยวพวกเซียนๆเทพๆเค้าก็มาช่วยท่านแน่นอน

ส่วนผมขอทำการ์ดดีๆให้เจ๊งต่อไปครับ

[keang]

ก่อนจะโมเราควรเรียนรู้การทำงานของวงจรเสียก่อน จะได้ปรับปรุงได้ถูกจุด

ตำแหน่งขา ของ ไอซีเรกกูเลเตอร์
ไอซีเรกกูเลเตอร์จะมี2แบบ จ่ายไฟบวก กับ จ่ายไฟลบ ตำแหน่งจะสลับกัน

V_IN = ไฟเข้า
V_OUT = ไฟออก
GND = กราวน์
NC = ขานั้นไม่มีการใช้งานต่อกับอะไร

ไอซีเรกกูเลเตอร์ จะแยกรหัสตาม ชนิดของไฟที่จ่ายออก และ กระแสที่จ่ายออก
78XX , 79XX = 1,000 mA (1.0 Amp)
78MXX , 79MXX = 500 mA (0.5 Amp)
78LXX , 79LXX = 100 mA (0.1 Amp)

78 = ไฟบวก
79 = ไฟลบ
XX = 05 , 06 , 08 , 09 , 12 , 15 , 18 , 24 โวลท์ (ไฟที่ไอซีเรกกูเลเตอร์จ่ายออก)


แพคเกจของไอซี >> TO-3 , TO-220 , TO-252 , TO-39 (Metal Can) , TO-92

แพคเกจห่อหุ้มตัวไอซี >> พลาสติค (เกรดธรรมดาทั่วไป) , เซรามิค (ทนความร้อนสูงกว่าปรกติ) , โลหะ

ขาของตัวไอซี และ ส่วนระบายความร้อนของตัวไอซี >> ชุบดีบุก , ชุบทอง
- ถ้าขาชุบทอง เรียก ขาทอง
- ถ้าชุบทองทั้งตัว เรียก ตัวทอง (เป็นเกรดสูงสุด เสียงอิ่มหวานขึ้นมาก)

* แบบขาทอง เท่าที่เคยเห็นจะเป็น ตัวถัง TO-39 (Metal Can) กับ TO-220
** แบบตัวทอง เท่าที่เคยเห็นจะเป็น ตัวถัง TO-3 กับ TO-220

ไอซีเรกกูเลเตอร์ ตัวถังTO-39 แบบขาทอง UA723 , MC78M05 (แพคกิ้งของTO-93จากโรงงาน จะต้องมีตัวรองแบบในรูป)


เวปebay มีคนประกาศขาย MC78M05 ใครสนใจก็ลองสั่งครับ

[keang]

ก่อนจะโม สิ่งแรกที่ควรทำ คือ หาข้อมูลและเรียนรู้การทำงานของวงจรเสียก่อน

ก่อนที่จะลงมือทำอะไร เราควรศึกษาข้อมูลให้พร้อมก่อน เพื่อให้การปรับปรุงของเรานั้น ตรงจุด ตรงประเด็น มากที่สุด
เรามาเรียนรู้และหาข้อมูลไปด้วยกันครับ


ASUS SONAR DS
มีไอซีที่น่าสนใจอยู่3ตัว คือ ASUS AV200 (C-Media CMI8788) , Wolfson WM8776S , Wolfson WM8766G


ASUS AV200 (C-Media CMI8788) High Performance PCI Audio Processor


ดาวน์โหลด datasheet ตัวเต็ม

Hardware Features
• PCI 2.2 interface with bus mastering and burst modes
• Only one 24.576MHz oscillator is needed
• 4 synchronous I2S output data stream pairs within 1 flexible output DMA
• Programmable channel routing mechanism among the 4 I2S output pairs
• 4 synchronous I2S input data stream pairs spread in 3 input DMA’s (for Dolby pro-audio applications)
• Optionally, a multi-channel AC-link can support 2 AC97 codecs
• Programmable HW monitoring routing from I2S inputs to outputs
• All I2S I/O pairs support 32-bit PCM data transfer and adjustable sample rate (up to 192KHz)
• Integrated 192k/24-bit S/PDIF transmitter with 1 dedicated S/PDIF OUT DMA
• Integrated 192k/24-bit S/PDIF receiver in recording DMA
• S/PDIF IN supports digital loopback path for switching between optical and RCA connections
• 48k/16-bit front panel DMA for AC97 codec
• 2-wire master serial bus or 4-wire SPI (Serial Peripheral Interface) bus to control I2S codecs
• 2-wire slave serial bus to communicate with microcontroller unit (MCU)
• Interrupt pin to inform external MCU to retrieve the data from the system driver
• One MPU-401 MIDI UART port
• EEPROM control interface
• 6 GPI phone jack detection pins
• Advanced device-sensing technology indicates whether a speaker or a headphone is plugged in the jack
• 9 direct-access GPIO pins
• 3 bonding-option bits for 8 identification possibilites
• 128-pin LQFP thin high-quality package





ไอซีตัวนี้จะทำหน้าที่บริหารจัดการช่องทางการรับเข้าและจ่ายออกของสัญญาณทั้งหมด ให้เอ้าพุทได้ทั้งหมด8แชนแนล ผ่านทางขา85-88 ขาละ2แชนแนล รวมทั้งหมดเป็น8แชนแนล
• 2แชนแนล ส่งต่อไปให้ Wolfson WM8776S เพื่อใช้เป็นแชนแนล คู่หน้าซ้าย-ขวา
• 6แชนแนล ส่วต่อไปให้ Wolfson WM8766G เพื่อใช้เป็นแนลที่เหลือ ซับวูฟเฟอร์ , เซนเตอร์ , คู่ด้านข้างซ้าย-ขวา , คู่หลังซ้าย-ขวา

-------------------------------------------------------


จุดที่ควรปรับแต่ง เพื่อให้ได้คุณภาพที่ดีขึ้น
จุดเริ่มต้นของการปรับปรุงคุณภาพที่ควรให้ความสนใจ คือ ชุดไฟเลี้ยงตัวไอซี กับ ทางผ่านของสัญญาณเสียง เพราะจะช่วยให้วงจรทำงานได้เสถียรมากขึ้น และได้แนวเสียงอย่างที่เราต้อง

• เปิดดาต้าชีท เพื่อดูรายละเอียดว่า ขาแต่ละขาทำหน้าที่อะไรบ้าง
หน้า13 สัญญาณเอ้าพุท ที่เกี่ยวข้องกับระบบเสียง
- ขา85 = XDAC_SDOUT0 I2S DAC channel 0,channel 1 serial data output
- ขา86 = XDAC_SDOUT0 I2S DAC channel 2,channel 3 serial data output
- ขา87 = XDAC_SDOUT0 I2S DAC channel 4,channel 5 serial data output
- ขา88 = XDAC_SDOUT0 I2S DAC channel 6,channel 7 serial data output
เอาแบบง่ายๆไม่ต้องใช้เครื่องมือไรมาก (ถ้ามีมิเตอร์สักตัว จะช่วยตรวจสอบความถูกต้องได้มาก)
เราก็ไล่ลายทองแดงPCBที่ตัวการ์ด ว่า ขา 85 , 86 , 87 , 88 ไปต่อกับอุปกรณ์ตัวไหนบ้าง
เจออุปกรณ์ตัวไหน ก็เปลี่ยนใช้ของเกรดดีขึ้น การทำงานของวงจรจะได้ดีขึ้น เสถียรขึ้นกว่าเดิม และที่สำคัญเมื่อเราเปลี่ยนอุปกรณ์เป็นของยี่ห้อไรรุ่นไร เสียงก็จะเปลี่ยนแปลงไปตามของที่เราเลือกใช้

หน้า16 ไฟเลี้ยงไอซี
- ASUS AV200 ใช้ไฟเลี้ยง 3.3โวลท์ (ทำงานได้ตั้งแต่ 3.0-3.6โวลท์)
- ไฟเลี้ยงไอซี 3.3โวลท์ = DVDD คือ ขา 6, 19, 32, 45, 56, 76, 89, 117
- กราวน์ของชุดไฟเลี้ยง = GND คือ ขา 12, 26, 39, 48, 70, 81, 102, 114
เอาแบบง่ายๆไม่ต้องใช้เครื่องมือไรมาก (ถ้ามีมิเตอร์สักตัว จะช่วยตรวจสอบความถูกต้องได้มาก)
เราก็ไล่ลายทองแดงPCBที่ตัวการ์ด ว่า ขา6, 19, 32, 45, 56, 76, 89, 117 ไปต่อกับอุปกรณ์ตัวไหนบ้าง (ไล่จากขาเดียวก็พอ เพราะส่วนที่เหลือจะโยงไปถึงกันหมด)
เจออุปกรณ์ตัวไหน ก็เปลี่ยนใช้ของเกรดดีขึ้น การทำงานของวงจรจะได้ดีขึ้น เสถียรขึ้นกว่าเดิม และที่สำคัญเมื่อเราเปลี่ยนอุปกรณ์เป็นของยี่ห้อไรรุ่นไร เสียงก็จะเปลี่ยนแปลงไปตามของที่เราเลือกใช้

[keang]

ก่อนจะโม สิ่งแรกที่ควรทำ คือ หาข้อมูลและเรียนรู้การทำงานของวงจรเสียก่อน

ก่อนที่จะลงมือทำอะไร เราควรศึกษาข้อมูลให้พร้อมก่อน เพื่อให้การปรับปรุงของเรานั้น ตรงจุด ตรงประเด็น มากที่สุด
เรามาเรียนรู้และหาข้อมูลไปด้วยกันครับ



Wolfson WM8776S 24-bit, 192kHz Stereo Codec with 5 Channel I/P Multiplexer


ดาวน์โหลด datasheet ตัวเต็ม

Hardware Features
• Audio Performance
- 108dB SNR (‘A’ weighted @ 48kHz) DAC
- 102dB SNR (‘A’ weighted @ 48kHz) ADC
• DAC Sampling Frequency: 32kHz – 192kHz
• ADC Sampling Frequency: 32kHz – 96kHz
• Five stereo ADC inputs with analogue gain adjust from +24dB to –21dB in 0.5dB steps
• Programmable Limiter or Automatic Level Control (ALC)
• Stereo DAC with independent analogue and digital volume controls
• Stereo Headphone and Line Output
• 3-Wire SPI Compatible or 2-Wire Software Serial Control Interface
• Master or Slave Clocking Mode
• Programmable Audio Data Interface Modes
- I2S, Left, Right Justified or DSP
- 16/20/24/32 bit Word Lengths
• Analogue Bypass Path Feature
• Selectable AUX input to the volume controls
• 2.7V to 5.5V Analogue, 2.7V to 3.6V Digital supply Operation

• สัญญาณของลำโพงคู่หน้า สัญญาณชุดนี้ ถูกส่งออกทางขา 26 กับ 27 ไปให้ออปแอมป์ขยายสัญญาณให้สูงขึ้น แล้วส่งต่อไปที่แจ็คหูฟังที่ด้านหลังการ์ด
• สำหรับคนใช้หูฟัง ไอซีตัวนี้มีวงจรขยายหูฟังอยู่ภายในตัวด้วย โดยซัพพอร์ทหูฟังที่มีอิมพีแดนซ์ 16โอห์ม และ 32โอห์ม สัญญาณชุดนี้ถูกส่งออกขา 20 กับ 23 แล้วส่งต่อไปที่จุดต่อ Front Panel ของตัวการ์ด





WM8776ตัวนี้พิเศษกว่าชิบDACทั่วไป คือ ในตัวชิบDACตัวนี้ มีภาคขยายหูฟังมาให้ด้วย
(ปรกติชิบDACทั่วไป จะไม่มีภาคขยายหูฟังมาให้ในตัวชิบDAC จะมีเพียงAnalog Outputเท่านั้น)
โดยส่งผ่านคอนเนคเตอร์ "HD Front Panel" J2 ที่ใช้สำหรับต่อเข้ากับFront Panelของตัวเคสคอม

สรุป WM8776 มีเอ้าท์พุทให้2แบบ คือ ต่อตรงกับหูฟัง และ Analog Output

Analog output ชุดนี้เป็นของ คู่หน้าซ้ายขวา ส่งไปให้OP-Ampเบอร์5532บนการ์ดขยายเสียงอีกทีนึง
- PIN 26 : VOUTL : Analogue output : DAC channel left output
- PIN 27 : VOUTR : Analogue output : DAC channel right output

Headphone output ชุดนี้เป็นของหูฟัง
- PIN 20 : HPOUTL : Analogue Output : Headphone left channel output
- PIN 23 : HPOUTR : Analogue Output : Headphone right channel output

รายะเอียดเฉพาะในส่วนของHeadphone Amp
- Headphone Buffer : Maximum Output voltage 0.9 Vrms
- Max Output Power : 16 ohm @ 50 mW
- Max Output Power : 32 ohm @ 25 mW


--------------------------------------------


จุดที่ควรปรับแต่ง เพื่อให้ได้คุณภาพที่ดีขึ้น
ขอยกรายละเอียดไปไว้ที่ หน้า6 โพส #102 โพส #103

[keang]

ก่อนที่จะลงมือทำอะไร เราควรศึกษาข้อมูลให้พร้อมก่อน เพื่อให้การปรับปรุงของเรานั้น ตรงจุด ตรงประเด็น มากที่สุด
เรามาเรียนรู้และหาข้อมูลไปด้วยกันครับ



Wolfson WM8766G 24-bit, 192kHz 6-Channel DAC


ดาวน์โหลด datasheet ตัวเต็ม

Hardware Features
• 6-Channel DAC
• Audio Performance
• 103dB SNR (’A’ weighted @ 48kHz) DAC
• DAC Sampling Frequency: 8kHz - 192kHz
• 3-Wire SPI Serial or Hardware Control Interface
• Programmable Audio Data Interface Modes
• I2S, Left, Right Justified or DSP
• 16/20/24/32 bit Word Lengths
Three Independent stereo DAC outputs with independent digital volume controls
• Master or Slave Audio Data Interface
• 2.7V to 5.5V Analogue, 2.7V to 3.6V Digital Supply Operation





จุดที่ควรปรับแต่ง เพื่อให้ได้คุณภาพที่ดีขึ้น
ขอยกรายละเอียดไปไว้ที่ หน้า6 โพส #102 โพส #103

[E6420]

เช้า ๆ ครับ

[mujaarm]

wait

[keang]

ช่วงนี้คงอัพเดทในโพสของไอซี3ตัวนั้นอย่างเดียว จะพยายามอัพเดทส่วนสำคัญไว้ให้ได้มากที่สุด

ฉะนั้นกระทู้นี้จะตกลงไปเรื่อยๆน่ะครับ เพราะแค่3โพสนั้นผมก็ต่อยอดหากินได้เป็นเดือน




ระหว่างนี้ถ้ามีเวลา

- ผมพยายามหาแนวทางที่จะทำงัยให้โมดูลออปแอมป์ใหม่ใส่แทนที่ตำแหน่งเดิมได้สะดวกและง่าย

- พยายามดูอะไหล่ที่สามารถหาซื้อได้ในบ้านเราเป็นหลัก พูดง่ายๆ...พยายามเลี่ยงการใช้อุปกรณ์ที่ผมเก็บสะสมไว้ (เพราะหลายอย่างก็หาไม่ได้แล้ว)

เผื่อใครอยากทำตาม จะได้หาของไม่ยาก จะได้รู้สึกอยากสนุกไปด้วยกัน

[banditez]

- ผมพยายามหาแนวทางที่จะทำงัยให้โมดูลออปแอมป์ใหม่ใส่แทนที่ตำแหน่งเดิมได้สะดวกและง่าย

ผมว่าถอดอุปกรณ์รอบตัวออปแอมป์เดิมออก แล้วตัดลายปริ้นท์ ให้เหลือเฉพาะตำแหน่งขาออปแอมป์
ต่อตรงๆ น่าจะเป็นทางออกที่ง่านที่สุดนะท่าน ระวังเรื่องกราวด์ และสัญญาณรบกวน แค่นั้น

ต้องลองดูถึงจะรู้ อยากมีเวลากับเครื่องมือเหมือนเมื่อก่อน จริงๆ
จะได้มามันส์ กับท่านด้วย


BR
Band|tZ

[keang]

ผมว่าถอดอุปกรณ์รอบตัวออปแอมป์เดิมออก แล้วตัดลายปริ้นท์ ให้เหลือเฉพาะตำแหน่งขาออปแอมป์
ต่อตรงๆ น่าจะเป็นทางออกที่ง่านที่สุดนะท่าน ระวังเรื่องกราวด์ และสัญญาณรบกวน แค่นั้น

ต้องลองดูถึงจะรู้ อยากมีเวลากับเครื่องมือเหมือนเมื่อก่อน จริงๆ
จะได้มามันส์ กับท่านด้วย


BR
Band|tZ

ขอบคุณสำหรับแนวทางครับ

คนดีไซน์วงจรของDS เค้าจัดวงจรมาแก้ไขยากพอควรครับ
เพราะ เค้าจัดรูปแบบวงจรขยาย โดยเอาขา Non-Inverting Input (ขา3กับขา5) ลงกราวน์
ซึ่งทั่วไป วงจรลักษณะนี้ ส่วนใหญ่จะมีตัวต้านทานคั่นไว้1ตัว ก่อนต่อลงกราวน์
เจอแบบนี้เข้า จะตัดต่อลายปริ๊นก็หมดสิทธิ์เลย ดัดแปลงยากเอาการ

ที่คิดไว้ คือ
- ทำคอนเนคเตอร์ใส่แทนซ็อคเก็ทไอซี โดยไม่ต่อขา3กับขา5ลงPCB เพื่อยกเลิกขากราวนด์ของเดิม
- ตัดต่อซ็อคเก็ทไอซี โดยตัดขา3กับขา5ของซ็อทเกทออก เพื่อยกเลิกขากราวนด์ของเดิม (วิธีนี้คนทำตามคงยากแน่)
- แก้ไขวงจรออปแอมป์ของเดิม ไม่ต้องไปดัดแปลงหาอะไรมาใส่เพิ่มอีก จะได้ไม่ยุ่งยากมาก


ใครมีคำแนะนำเพิ่มเติมก็เต็มที่เลย จะทำง่ายทำยากบอกได้เต็มที่ครับ
ยินดีรับฟังทุกความคิดเห็น

----------------------------------


อัพเดทความคืบหน้า

หลังจากรื้ออุปกรณ์บนการ์ดออก (จนเป็นการ์ดโล่งๆ เหลืออุปกรณ์บนการ์ดไม่กี่ตัว) เพื่อ
- ไล่วงจร
- ตรวจเช็คเส้นทางของลายทองแดง
- ตรวจเช็คเส้นทางของตัวอุปกรณ์ต่างๆที่เป็นทางผ่านของ สัญญาณเสียง(Analog, Digital), ไฟเลี้ยง
- วงจรส่วนไหนควรตัดออก วงจรส่วนไหนควรปรับปรุงแก้ไข (เปลี่ยนวงจรใหม่ หรือ แค่เปลี่ยนค่าของอุปกรณ์บางตัว)
- อุปกรณ์ที่สำคัญแต่ละจุด จุดไหนตัวไหนที่มีโอกาสจะเปลี่ยนไปใส่อุปกรณ์คุณภาพดีได้บ้าง (อย่าลืมว่าอุปกรณ์เกรดดีจะมีขนาดใหญ่กว่าของเดิมมาก)

-----------------------------------------


รายงานความคืบหน้านิดหน่อย

สภาพดั้งเดิม สวยงาม


สภาพปัจจุบัน ซากอุปกรณ์อิเลคทรอนิคชัดๆ


หลังจากตรวจเช็คข้อมูล ของตัวไอซี ของตัววงจร เสร็จแล้ว ก็ใส่อุปกรณ์กลับคืน (เฉพาะในส่วนที่เกี่ยวข้องกับคู่หน้าเท่านั้น)

วงจรในส่วนออปแอมป์ยังใช้ของเดิมไม่มีการแก้ไข แต่ตัดบางส่วนที่ลดทอนคุณภาพออกไป
- ตัดรีเลย์ออก
- ดัดแปลงวงจรหลังออปแอมป์ไปแจ็คหูฟังหลังการ์ด
- ใช้งานเฉพาะคู่หน้า แชนแนลอื่นที่เหลือก็ยกเลิกการทำงานไป(ถอดCหลังWolfson WM8766Gออก) เพื่อต้องการฟังเสียงจากคู่หน้าแบบเต็มๆ (ไม่ให้วงจรส่วนอื่นมีผลกระทบมาถึงคู่หน้า)

ตอนเสียบการ์ดเข้าคอมก็มีแอบลุ้นระทึกนิดหน่อย จะมีเอฟเฟคแสงสีเสียงตะการตาให้ใจสั่นไม๊น้อ
เปิดคอมได้ปรกติ ไม่มีเอฟเฟคเกิดขึ้น ก็รอดตัวไปอีกการ์ด (นึกว่าได้โยนเงินพันกว่าบาททิ้งอีกแล้ว)

เปิดเพลงเปิดหนัง ลองฟังเสียงเทียบกับการ์ดเดิมๆในสภาวะการใช้งานตามปรกติ
- วงจรออปแอมป์เค้าออกแบบเน้นให้มีเกนการขยายสูง เสียงดังมากผมต้องลดวอลลุ่มลงเกือบสุด
- DACของค่ายWolfson ให้ช่วงเสียงกีตาร์โปร่งได้ดี เบสก็พอมี

คุณสามารถฟังเสียงเปรียบเทียบระหว่าง ฟังจากตัวDAC หรือ ฟังผ่านวงจรขยายออปแอมป์
- ฟังเสียงของตัวDAC โดยต่อที่ช่อง Front Panel เสียงที่คุณได้ยินจะมาจากตัว Wolfson WM8776S
- ฟังเสียงDAC+ออปแอมป์ โดยต่อที่ช่องแจ็คหูฟัง(คู่หน้า)ที่เพลทหลังการ์ด

น้ำเสียงโดยรวมก็นุ่มนวลลงจากเดิมมากพอควร แต่โทนบาล๊านซ์ของเสียงยังไม่ถูกใจเท่าไหร่ ใสๆแต่สด บางช่วงเสียงก็ยังมีอาการคมบาดหูอยู่บ้าง

* การ์ดDSในตอนนี้ แนวเสียงจะเหมือนตัวเก็บประจุอิเลคทรอไลติค ยี่ห้อElna รุ่นDuorex II (ยุคสมัยนึง คนสิงคโปร์หลงไหลในรุ่นนี้มาก จนราคาซื้อขายแพงกว่า ยี่ห้อRubycon รุ่นBlack Gate)

ตัวเก็บประจุยี่ห้อElnaรุ่นDuorex II ช่วงเสียงกลางไปถึงแหลมจะอิ่มกังวาล แต่เสียงไม่สดไม่คม ส่วนการ์ดDSก็ให้แนวเสียงแนวนี้ แต่ไม่อิ่มหนาเท่า+มีความสดความคมเยอะพอตัว *

ลองเบิร์นอีกสักพักนึง ให้เสียงเข้าที่ก่อน ถึงจะทำการ์ดตัวนี้ต่อ

ผมเบิร์นด้วยแผ่น System Enhancement Disc ของค่ายAyre Acoustics เปิดต่อเนื่อง(ไม่ปิด) ประมาณ2-4วัน

แผ่นนี้เวลาเบิร์นจะใช้แค่แทร็ค7 เวลาเบิร์นก็ให้เปิดวน และห้ามลดวอลลุ่มให้เงียบสุดด้วย คุณฟังเพลงที่ระดับความดังแค่ไหนก็ให้เปิดแบบนั้น (ให้ทุกอย่างเหมือนตอนคุณฟังเพลงตามปรกติ)

แผ่นนี้ไม่ได้มีประโยชน์แค่เบิร์นเสียง แต่ถ้าคุณตั้งใจฟังและช่างสังเกตุ คุณจะรู้ว่าซิสเต็มของคุณสามารถตอบสนองต่อความถี่ได้ดีแค่ไหน ความถี่ช่วงไหนขาด ความถี่ช่วงไหนเกิน

ง่ายๆเลยก็ พอเปิดแผ่นนี้ คุณจับเวลาเป็นวินาทีเลยว่า คุณเริ่มได้ยินเสียงที่เวลาผ่านไปเท่าไหร่ (ช่วงต้นแทร็คจะเป็นความถี่ต่ำมาก (low bass) อีกช่วงนึงก็ท้ายๆแทร็ค วิธีทดสอบก็แบบเดียวกัน ขอบอกว่าใช้เวลายิ่งน้อยยิ่งดี

[Pink CPU]

ขอถามครับ ว่า..SE-90PCI เปลี่ยนเฉพาะออปแอมป์ 3 ตัวจะมีผลมากแค่ไหน
และคุ้มค่าหรือเปล่า (ประมาณ OPA 2107 ,2132)

[keang]

ขอถามครับ ว่า..SE-90PCI
เปลี่ยนเฉพาะออปแอมป์ 3 ตัวจะมีผลมากแค่ไหน และคุ้มค่าหรือเปล่า (ประมาณ OPA 2107 ,2132)

Onkyoตัวนั้น ในเรื่องฟังเพลงก็ถือว่าคุณภาพพอตัวอยู่แล้ว ถ้าเปลี่ยนอุปกรณ์ให้ดีขึ้นในงบประมาณที่เหมาะสม ก็จะช่วยให้น่าฟังมากขึ้นไปอีก


เปลี่ยนออปแอมป์ ให้ผลแตกต่างได้อยู่แล้วครับ
เปลี่ยนแล้วต่างจากเดิมแค่ไหน ตัวแปรอยู่ที่ ซอร์สที่คุณใช้ฟังเปรียบเทียบ / ชุดที่คุณใช้ฟัง / คนฟัง
- ซอร์สที่คุณใช้เปิด แผ่นCD, MP3, Lossless ถ้าจะให้ฟังความแตกต่างง่ายๆก็หาแผ่นCD
ถ้าจะให้ฟังความแตกต่างได้ง่ายหน่อย ก็หาแผ่นซีดีที่เค้าบันทึกระบบเสียงมาดีๆ หรือ แผ่นที่ใช้ทดสอบระบบ
ว่า ซิสเต็มให้ได้แค่ไหน และ คนฟังช่างสังเกตุมากน้อยแค่ไหน
- ชุดที่ใช้ฟัง ขอให้ไม่เลวร้ายเกินไป ยังงัยคุณก็สามารถรับรู้ถึงความแตกต่างได้ เพราะเปลี่ยนออปแอมป์จะให้แนวเสียงโทนเสียงที่แตกต่างกันตามยี่ห้อและเบอร์
- คนฟัง ถ้าเป็นคนช่างสังเกตุหน่อย เชื่อว่ารับรู้ความแตกต่างได้ เพียงแต่คอยสังเกตุและจดจำ ลักษณะของเสียง โทนของเสียง ตำแหน่งของชิ้นดนตรีที่ได้ยิน


คุ้มค่าแค่ไหน ขึ้นอยู่กับว่า คุณคาดหวังไว้มากแค่ไหน คุณคาดหวังกับอะไรไว้บ้าง ออปแอมป์แต่ละยี่ห้อก็จะมีสไตล์มีแนวเสียงประจำยี่ห้อนั้นๆ ในยี่ห้อเดียวกันแต่คนละเบอร์บางครั้งก็ให้แนวเสียงที่แตกต่างกันไปบ้าง

และที่สำคัญต่อให้คุณได้ออปแอมป์ที่ดีที่สุดมาฟรี เสียแต่ค่าส่งของ
แต่คุณไม่มีเวลาฟังเลย อาจจะมองได้ว่า ไม่คุ้ม(เสียเงินค่าส่งของ) เพราะเสียเงินแต่ไม่ได้ใช้งาน


ถ้าคุณทำการบ้านก่อนเลือกซื้อออปแอมป์ ตรวจเช็คว่า ยี่ห้อไร เบอร์ไร ที่ให้เสียงได้ตรงแนวที่คุณชื่นชอบ ก็จะประหยัดงบประมาณในการลองเปลี่ยนเบอร์ไปเรื่อยๆ

[Pink CPU]

ส่วนมากฟังเพลงลูกทุ่งช้า..ท่วงทำนองเย็นๆ ปล่อยอารมณ์ตามเพลง (เพราะฟังแค่3-4 เพลงเท่านั้น)
เพลงเป็น Wave และ Mini MD ครับ แต่เสียงเบส ,กระเดื่อง มันบางๆ ยังไงไม่รู้ครับ

แต่ขอขอบคุณ.สำหรับคำแนะนำครับ (เห็นทีต้องปล่อยเดิมๆ ดีกว่าจ้า)

[mean]

ได้ความรู้มาก อ่านแล้วน่าติดตามดีครับ