โมให้ดีกันเยอะแล้ว มาม๊ะ....มาโมให้"เจ๊ง"กันดีกว่า

[machine_A]

ขอบคุณมากๆครับ ที่ช่วยให้คำแนะนำ

คือผมได้ทำการแยก psu แล้วครับ 850w ที่เมนบอร์ด P24, 500w ที่ cpu P4+HDD, แล้วก็ psu ถูกๆที่ซื้อจากอมรเอามาต่อพัดลมทุกตัวรวมถึงพัดลมของ psu สองตัวหลักด้วย ทำถึงตรงนี้ผลที่ได้ดีขึ้นมามากๆเลยครับ

แล้วผมก็ได้ใส่ C ที่ P4+P24 จากตรงนี้รู้สึกว่าเสียงจะเปลี่ยนไป ผมว่าน่าจะขึ้นอยู่กับแนวเสียงของ c ด้วย ตรงนี้ตามความคิดของผม ผมว่าบางคนอาจจะชอบหรือไม่ชอบก็ได้



แล้ววันนี้ด้วยความไม่แน่ใจที่จะคิดจะทำ Linear 12v PSU ก็เลยไปยืม psu ตัวนี้จากเพื่อนมา http://us.100y.com.tw/pdf_file/GPS-3...030D,1830D.pdf เอามาต่อ 12v ให้ cpu ที่ขั้ว P4


ผลออกมาผมคงต้องหา Linear PSU มาใช้แล้วละครับ ดีขึ้นมาอย่างมากมายครับ

แต่มีคำถามขอความคิดเห็นครับ ถ้าผมทำ Linear 12v PSU โดยจะทำตามประมาณเวป Computer Audio Asylum โดยสั่ง IC LT1083 cp-12 มาทำเอง กับ PSU ของ GW instek ที่เอามาลอง อันไหนมันดีกว่ากันครับ... ขอความคิดเห็นด้วยครับ.

คือผมก็เริ่มเล่นเครื่องเสียงจากลำโพงคอมมาก่อนโดยเริ่มจากทีนี้แหละครับ... แล้วหลุดไปเครื่องเสียงบ้าน เหนื่อยน่าดูเลยอ่ะ...

แต่ชอบที่จะเล่น source จากคอมมากกว่าจาก cd transport ครับ.

[keang]

กำลังทำความเข้าใจกับจุดประสงค์ ปรับปรุงซัพพลายเพื่อ
1. OCได้สูงขึ้น
2. ให้คอมทำงานเสถียรขึ้น
3. เพื่อให้เสียงดีขึ้น
4. เพื่อให้ภาพดีขึ้น

เพราะ โดยรวมใช้ซัพพลาย3ตัวแยกจ่ายไฟ ที่ใช้อยู่ก็เพียงพอสำหรับใช้งานแบบ24/7แล้ว
- ตัว1 850w ต่อเฉพาะ เมนบอร์ด24pin
- ตัว2 500w ต่อเฉพาะ ซีพียู4,8pin + hdd
- ตัว3 อมร ต่อกับอุปกรณ์ที่เหลือทั้งหมด

แต่ถ้าหวังผลเรื่อง "คุณภาพของภาพ+เสียง" จากการทำตรงนี้ ผมว่ายังไม่ถูกจุดเท่าไหร่
(คล้ายสำนวนไทย"ขี่ช้างจับตั๊กแตน")
เพราะ ถึงจะแยกซัพพลายเพื่อแยกจ่ายไฟให้อุปกรณ์ต่างๆแล้ว แต่ระบบกราวน์มันยังถึงกันหมด มีสัญญาณรบกวนจากอุปกรณ์ตัวใดๆตัวหนึ่งก็จะผ่านมาทางกราวน์อยู่ดี

ไม่ใช่ว่าที่ทำมาจะไม่มีผล มันมีผลแน่นอน
เพียงแต่ว่า ถ้าหวังผลในเรื่องภาพ+เสียงด้วย จุดที่ทำนั้นมันอยู่ห่.างจากจุดรับไฟเลี้ยงการ์ดจอการ์ดเสียงมาก
การ์ดจอ+การ์ดเสียง ยังต้องดึงไฟเลี้ยงจากเมนบอร์ดผ่านบัสอยู่ดี ซึ่งมันก็รับไฟมาพร้อมกับสัญญาณรบกวนต่างๆด้วย

การ์ดจอการ์ดเสียงรุ่นใหม่ๆ มีขั้วMolex 4pin สำหรับรับไฟเลี้ยงจากภายนอกเข้ามาเสริม
ซึ่งถ้าทำไฟเลี้ยงมาจ่ายให้ที่จุดนี้ จะเห็นผลโดยตรงมากกว่า

ใช้ซัพพลายแบบลิเนียร์ทำเอง หรือ จะใช้ซัพพลายแบบสำเร็จรูปก็ได้
แต่ถ้าจะเอาโหดหน่อย ก็ทำลิเนียร์ด้วยพวกไอซีเรกกูเลเตอร์3ขา 7812 7805 ตัวถังTO-3แบบแยกชุดไปเลย เช่น



- ไฟเลี้ยงCPU 4หรือ8pin
ใช้IC Regulator 7812 แบบTO-3 จำนวน4-8ตัว(ตามจำนวนpin) แยกเป็น1ตัวต่อpin หรือ จะ1ตัวต่อ2pinก็ได้
รับรองไม่มีการกวนกันเองแน่ ไฟไม่ตก ไฟไม่วูบ แน่นอน

- ไฟเลี้ยงการ์ดจอ 1หรือ2ชุด
ใช้IC Regulator 7812 TO-3 จำนวน3-6ตัว(ตามจำนวนชุด) แยกเป็น1ตัวต่อชุด หรือ 1ตัวต่อ
รับรองไม่มีการกวนกันเองแน่ ไฟไม่ตก ไฟไม่วูบ แน่นอน

- ไฟเลี้ยงการ์ดเสียง +12v1ชุด +5v1ชุด
ใช้IC Regulator 7812 TO-3 จำนวน1ตัว
ใช้IC Regulator 7805 TO-3 จำนวน1ตัว
รับรองไม่มีการกวนกันเองแน่ ไฟไม่ตก ไฟไม่วูบ แน่นอน

สายที่ใช้ต่อจากลิเนียร์ซัพพลายก็เลือกที่สายคุณภาพดีๆ ฉนวนเทฟลอน
เข้าหัวคอนเนคเตอร์เองเลย จะใช้คีมเข้าหัว หรือ จะใช้ตะกั่วบัดกรีก็ได้ทั้งนั้น

วิธีโหดๆที่บอกนี้ ดีกว่าใช้Cไปต่อคร่อมตามสายไฟเยอะครับ

ซัพพลายคอมก็ลดเหลือ2ตัวก็พอ หรือ จะใช้แค่ตัว850wตัวเดียวก็ได้
- ตัว1 850w ต่อเฉพาะ เมนบอร์ด24pin + ซีพียู4,8pin
- ตัว2 500w ต่อกับอุปกรณ์ที่เหลือทั้งหมด

[machine_A]

ผมทำไปเรื่อยๆครับตอนท้ายจะใช้เอาไว้ฟังเพลงอย่างเดียวครับ ทำตามแนว cMP อยู่ครับ http://www.audioasylum.com/forums/pc...s/2/27041.html
http://www.cicsmemoryplayer.com/inde...P.05Components

แนวทางเขาประมาณว่าปรับ bios Underclock,Disable service,device ที่ไม่ได้ใช้เท่าที่จะทำได้ เสียดีขึ้นเยอะมากเลยครับ http://www.cicsmemoryplayer.com/inde...7Optimisations

ผมใช้ sound card rme hdsp9632 อย่างเดียวครับ ปล่อย dig xlr เข้า Dac ภายนอกอยู่ครับ ภาค analog ของ sound card ไม่ได้ใช้เลยครับ


การ์ดจอใช้ออนบอร์ดอยู่ครับ disanable driver การ์ดจอ และปรับความละเอียดของสีเป็น 8 bit ตามที่เขาแนะนำ มันก็ช่วยให้เสียงดีขึ้นครับ

ทำตาม cMP จะใช้ทำอย่างอื่นแทบไม่ได้เลยครับ ไว้ฟังเพลงอย่างเดียวต่อเล่นกับชุดเครื่องเสียงบ้านถึงจะคุ้มกับการทำ

ขอบคุณ คุณ keang มากครับที่ให้คำแนะนำ... เป็นประโยชน์กับผมมากเลยครับ

[keang]

ซาวน์การ์ด
ดูที่ด้านมุมขวาล่าง เป็นส่วนของระบบภาคจ่ายไฟเลี้ยงชิบDSPกับDAC
ถึงจะต่อDigital Out เส้นทางของสัญญาณเสียงก็ยังผ่านชิบDSP

ถ้าจะปรับปรุงซาวน์การ์ดก็ดูที่2ส่วนนี้
- ภาคจ่ายไฟที่มุมขวาล่าง
- ไล่ย้อนกลับสายเส้นที่ปล่อยDigital Out ที่การ์ดจะมี R,C impedance + digital filter

หากหวังผลมากกว่า ทำสายต่อเฉพาะเส้นDigital Outใหม่ครับ เลือกแนวเสียงเอาเลยว่าชอบของยี่ห้อไร ก็เอามาทำสายเส้นนี้
หัวแจ็คเป็นของneutrikอยู่แล้ว ไม่ต้องเปลี่ยนก็ได้

พูดง่ายๆ ทำชุดหัวคอนเนคเตอร์I/Oที่ต่อกับซาวน์การ์ดขึ้นมาใหม่ชุดนึง มีแต่เฉพาะ Digital Out เส้นเดียว เพื่อที่จะใช้สายขนาดใหญ่ได้
ไม่รู้จะใช้สายไรก็เอาสายแบบเดียวกับที่ใช้ต่อเข้าชุดเครื่องบ้านนั่นละครับ ไวร์สายดีๆ รับรองแจ่มครับ


เอามาฝาก
Pic guide to RME HDSP 9632 mod cap



กลับมาดูอีกรอบ เห็นรูปนี้แล้ว นึกไรได้บางอย่าง
เห็นลงทุนกับระบบไปไม่น้อย เลยขอนำเสนอทริคเล็กน้อย



ไม่จำเป็นต้องต้องใช้Cค่าสูง ค่า1,000-3,000uF 16-25v ใช้2-3ตัวก็พอ หรือจะใช้ตัวเดียวค่า4,700-10,000uF 16-25vก็ได้
เลือกยี่ห้อทางอเมริกา เป็นแบบScrew terminal + ใช้Cฟิลม์ต่อขนานเพิ่มไปอีก3ตัว(TRI-CAP) ใช้3ค่า
( Cฟิลม์เลือกแบบที่ขนาดตัวใหญ่กว่าปรกติหน่อย จะได้รับและจ่ายไฟได้ดี ส่วนแนวเสียงของตัวCก็เลือกยี่ห้อที่ชอบเสียงของมัน )
- 4.7-10uF 1ตัว ชนิด โพลี่โพรไพลีน
- 1uF 1ตัว ชนิด โพลี่โพรไพลีน
- 0.1 1ตัว ชนิด เปเปอร์อินออย หรือ โพลี่สไตลีน หรือ เอาแบบหาง่ายราคาไม่สูงก็ใช้Sprague รุ่นOrange Drop
เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการจ่ายไฟแบบดึงหนักก็ได้ดึงเบาแต่รัวถี่ๆก็ได้ และยังได้เรื่องการกรองสัญญาณรบกวน(1uF, 0.1uF)ออกไปด้วย

ถ้าเป็นไปได้ ทำสตาร์กราวน์ของCทุกชุดที่ใส่เข้าไปด้วย จะได้ลดปัญหากราวน์ลูปในระบบไฟ

ที่ให้เลือกใช้CแบบScrew Terminal เพราะเวลาเราต่อTRI-CAPเราสามารถเอาCต่อตรงที่หัวCตัวหลักได้เลย
Cทั้งหมดจะทำงานใกล้เคียงความเป็นCตัวเดียวมากกว่าการต่อแบบปรกติ จะช่วยลดเอฟเฟคกระทบเรื่องมิติด้านสูง


--- ถ้าอยากได้ โหดกว่านี้ เต็มประสิทธิภาพกว่านี้ ก็บอกครับ เดี๋ยวช่วย ---
--- แต่ยังงัยถ่ายรูปเคสให้ผมดูประกอบด้วย จะได้รู้ว่า ในเคสมีพื้นที่ว่างตรงไหนบ้าง ---


-------------------------------------------------------------------


เอาของแปลกมาฝากเช่นเคย
ใครที่คิดว่า OPA637SM คือ เทพที่สุดแล้ว อยากให้ชำเลืองมองดูตัวข้างล่างสักนิด

CLC420 High-Speed, Voltage Feedback Op Amp ( SINGLE CHANNEL ) Price: $350.00
ผลิตโดย Comlinear Corp (ปัจจุบันอยู่ในมือ National Semiconductor) datasheet



General Description
The CLC420 is an operational amplifier designed for applications requiring matched inputs, integration or transimpedance amplification. Utilizing voltage feedback architecture, the CLC420 offers a 300MHz bandwidth, a 1100V/μs slew rate and a 4mA supply current (power consumption of 40mW,+-5V supplies).

Applications such as differential amplifiers will benefit from 70dB common mode rejection ratio and an input offset current of 0.2μA. With its unity-gain stability, 2pA/ current noise and 3μA of input bias current, the CLC420 is designed to meet the needs of filter applications and log amplifiers. The low input offset current and current noise, combined with a settling time of 18ns to 0.01% make the CLC420 ideal for D/A converters, pin diode receivers and photo multipliers amplifiers. All applications will find 70dB power supply rejection ratio attractive.

Features :
n 300MHz small signal bandwidth
n 1100V/μs slew rate
n Unity-gain stability
n Low distortion, -60dBc at 20MHz
n 0.01% settling in 18ns
n 0.2μA input offset current
n 2pA current noise

Applications :
n Active filters/integrators
n Differential amplifiers
n Pin diode receivers
n Log amplifiers
n D/A converters
n Photo multiplier amplifiers

[ManiacMaew]

เอาของเทพมาให้ดูอีกแล้ว
slew rate เยอะมาก

แต่ราคา ผมขายทั้งsystem ผมก็ยังอาจจะซื้อไม่ได้เลย = ="
-----------
ท่านMachine A ทำขนาดนั้นแล้ว ไม่ไปพวกเครื่องเล่นcd-dvd เลยอ่ะครับ แล้วหาแต่แผ่นแท้มาใช้ เล่นกับคอมผมว่าอะไร มันมากวนเยอะแยะไปหมด
ถ้าเน้นฟังเพลง จริงๆ ก็เครื่องเล่นเลยดีกว่าแล้วใช้แผ่นแท้ ยังไงก็เสียงดีกว่าพวกripมาแบบ lossless อยู่แล้ว

ถ้ายังไม่อยากไป ก็ลอง ดูพวกรางปลั๊กไฟ เต้าเสียบ ฟิวส์ในราง สายไฟที่ต่อเข้าห้อง
ก็ระบบไฟ ทั้งบ้านนั้นแหล่ะด้วยเลย
ไม่ต้องทำแบบแพงมากก็ได้ ทำแบบในเว็บของมั่นคงก็พอ
http://www.forum.munkonggadget.com/detail.php?id=36061

เสริม รางปลั๊กไฟ ถ้าใช้อยู่ไม่อยากเปลี่ยน ก็เปลี่ยนแค่ฟิวส์ หรือจะต่อตรงเข้าเต้าเสียบที่ผนังกำแพงเลยก็ดี (ส่วนตัวผมว่าแบบนี้ดีกว่าแถมประหยัดเงินอีกด้วย
แต่ในระบบลำโพงต้องมีฟิวส์อยู่แล้วน่ะหรือระบบกันไฟเกินอยู่แล้ว ถ้าใช้แบบจัมป์ไปเลย ไฟเกินเดี๊ยวลำโพงเน่า คอมหรือเครื่องอื่นๆก็ด้วย)

[ไร้วรยุทธ]

ubuntu studio ลองดู

[keang]

ManiacMaew ตกลงZ2ของเรา ตอนนี้ยังใช้งานได้ หรือ เดี้ยงไปแล้ว

[machine_A]

ท่านMachine A ทำขนาดนั้นแล้ว ไม่ไปพวกเครื่องเล่นcd-dvd เลยอ่ะครับ แล้วหาแต่แผ่นแท้มาใช้ เล่นกับคอมผมว่าอะไร มันมากวนเยอะแยะไปหมด
ถ้าเน้นฟังเพลง จริงๆ ก็เครื่องเล่นเลยดีกว่าแล้วใช้แผ่นแท้ ยังไงก็เสียงดีกว่าพวกripมาแบบ lossless อยู่แล้ว

ถ้ายังไม่อยากไป ก็ลอง ดูพวกรางปลั๊กไฟ เต้าเสียบ ฟิวส์ในราง สายไฟที่ต่อเข้าห้อง
ก็ระบบไฟ ทั้งบ้านนั้นแหล่ะด้วยเลย
ไม่ต้องทำแบบแพงมากก็ได้ ทำแบบในเว็บของมั่นคงก็พอ
http://www.forum.munkonggadget.com/detail.php?id=36061

เสริม รางปลั๊กไฟ ถ้าใช้อยู่ไม่อยากเปลี่ยน ก็เปลี่ยนแค่ฟิวส์ หรือจะต่อตรงเข้าเต้าเสียบที่ผนังกำแพงเลยก็ดี (ส่วนตัวผมว่าแบบนี้ดีกว่าแถมประหยัดเงินอีกด้วย
แต่ในระบบลำโพงต้องมีฟิวส์อยู่แล้วน่ะหรือระบบกันไฟเกินอยู่แล้ว ถ้าใช้แบบจัมป์ไปเลย ไฟเกินเดี๊ยวลำโพงเน่า คอมหรือเครื่องอื่นๆก็ด้วย)

ผมเล่น source สองหัวอยู่ครับจากคอมและ cd transport

cd transport เป็น cec tl51x ก็ได้ทำการโมไปเท่าที่ผมทำได้ เปลี่ยนท้าย iec เปลี่ยนฟิวส์ท้ายและภายในเครื่อง เปลี่ยนสายไฟภายในเครื่องก่อนเข้าบอร์ดภาค psu และใส่ bybee ลงไป

เสียงที่ได้จาก cd transport ดีกว่าคอมอยู่แล้วครับ แต่ผมชอบเล่นจากคอมมากกว่า มีเพลงมากมายหลากหลายแนวและดีๆทั้งนั้นที่ยังไม่เคยฟังจากเน็ต และสามารถจัดเพลงได้ตามใจชอบ

คือผมอยากทำคอมให้ได้เสียงใก้ลเคียงกับ cd transport เท่าที่จะทำได้ แล้วมีแนวโน้มว่าพอจะทำได้ตามความรู้สึกของผมถ้าใช้ Linear PSU และเซ็ตตามแนว cMP

ส่วนระบบไฟผมได้เดินเมนจากมิตเตอร์การไฟฟ้าแยกมาต่างหากใช้สาย 10 sqmm ตั้งตู้ใช้เบรคเกอร์ 30A ตอกกราวด์ลอตเรียบร้อย เดินสายไฟไปยังปลั๊กผนังของแต่ละตัว wattgate 381, oyaide r1, furutech FP-15A (cu)

[machine_A]

ซาวน์การ์ด
ดูที่ด้านมุมขวาล่าง เป็นส่วนของระบบภาคจ่ายไฟเลี้ยงชิบDSPกับDAC
ถึงจะต่อDigital Out เส้นทางของสัญญาณเสียงก็ยังผ่านชิบDSP

ถ้าจะปรับปรุงซาวน์การ์ดก็ดูที่2ส่วนนี้
- ภาคจ่ายไฟที่มุมขวาล่าง
- ไล่ย้อนกลับสายเส้นที่ปล่อยDigital Out ที่การ์ดจะมี R,C impedance + digital filter

หากหวังผลมากกว่า ทำสายต่อเฉพาะเส้นDigital Outใหม่ครับ เลือกแนวเสียงเอาเลยว่าชอบของยี่ห้อไร ก็เอามาทำสายเส้นนี้
หัวแจ็คเป็นของneutrikอยู่แล้ว ไม่ต้องเปลี่ยนก็ได้

พูดง่ายๆ ทำชุดหัวคอนเนคเตอร์I/Oที่ต่อกับซาวน์การ์ดขึ้นมาใหม่ชุดนึง มีแต่เฉพาะ Digital Out เส้นเดียว เพื่อที่จะใช้สายขนาดใหญ่ได้
ไม่รู้จะใช้สายไรก็เอาสายแบบเดียวกับที่ใช้ต่อเข้าชุดเครื่องบ้านนั่นละครับ ไวร์สายดีๆ รับรองแจ่มครับ


เอามาฝาก
Pic guide to RME HDSP 9632 mod cap



กลับมาดูอีกรอบ เห็นรูปนี้แล้ว นึกไรได้บางอย่าง
เห็นลงทุนกับระบบไปไม่น้อย เลยขอนำเสนอทริคเล็กน้อย



ไม่จำเป็นต้องต้องใช้Cค่าสูง ค่า1,000-3,000uF 16-25v ใช้2-3ตัวก็พอ หรือจะใช้ตัวเดียวค่า4,700-10,000uF 16-25vก็ได้
เลือกยี่ห้อทางอเมริกา เป็นแบบScrew terminal + ใช้Cฟิลม์ต่อขนานเพิ่มไปอีก3ตัว(TRI-CAP) ใช้3ค่า
( Cฟิลม์เลือกแบบที่ขนาดตัวใหญ่กว่าปรกติหน่อย จะได้รับและจ่ายไฟได้ดี ส่วนแนวเสียงของตัวCก็เลือกยี่ห้อที่ชอบเสียงของมัน )
- 4.7-10uF 1ตัว ชนิด โพลี่โพรไพลีน
- 1uF 1ตัว ชนิด โพลี่โพรไพลีน
- 0.1 1ตัว ชนิด เปเปอร์อินออย หรือ โพลี่สไตลีน หรือ เอาแบบหาง่ายราคาไม่สูงก็ใช้Sprague รุ่นOrange Drop
เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการจ่ายไฟแบบดึงหนักก็ได้ดึงเบาแต่รัวถี่ๆก็ได้ และยังได้เรื่องการกรองสัญญาณรบกวน(1uF, 0.1uF)ออกไปด้วย

ถ้าเป็นไปได้ ทำสตาร์กราวน์ของCทุกชุดที่ใส่เข้าไปด้วย จะได้ลดปัญหากราวน์ลูปในระบบไฟ

ที่ให้เลือกใช้CแบบScrew Terminal เพราะเวลาเราต่อTRI-CAPเราสามารถเอาCต่อตรงที่หัวCตัวหลักได้เลย
Cทั้งหมดจะทำงานใกล้เคียงความเป็นCตัวเดียวมากกว่าการต่อแบบปรกติ จะช่วยลดเอฟเฟคกระทบเรื่องมิติด้านสูง


--- ถ้าอยากได้ โหดกว่านี้ เต็มประสิทธิภาพกว่านี้ ก็บอกครับ เดี๋ยวช่วย ---
--- แต่ยังงัยถ่ายรูปเคสให้ผมดูประกอบด้วย จะได้รู้ว่า ในเคสมีพื้นที่ว่างตรงไหนบ้าง ---


-------------------------------------------------------------------

ชุดหัวคอนเนคเตอร์I/Oที่ต่อกับซาวน์การ์ด ผมทำขึ้นมาเองแล้วครับ ใช้หัวคอนเนคเตอร์ที่ขา pin เคือบทอง แล้วตัดสาย cardas dig 110ohm ที่ใช้อยู่มาประมาณ 20cm บัคกรีด้วยตะกั่ว mundorf

ที่เห็นตอบยังนี้จริงๆผมไม่ค่อยรู้เรื่องหลอกครับ หาอ่านเอาไปทั่วอันไหนหาซื้อได้ผมก็เอามาทำ..
จะว่าออกสไตล์มั่วๆก็ถูกครับ...

ส่วนเปลี่ยน c ที่ซาวน์การ์ดน่าสนใจเลยครับ.. แต่ตอนนี้ว่าจะลองทำ Linear 12v PSU ดูก่อน.. ว่าจะไปทางไหนดี

ส่วนเคสคอมก็เป็น ATX ก็อยู่ในช่วงทดลองไปเรื่อย.. ตอนนี้เริ่มเป็นกระสือแล้ว รอให้นิ่งก่อนค่อยหาเคสดีๆมาใส่

... คงจะรบกวนเข้ามาถามเรื่อยๆครับ ขอบคุณมากครับ

[ManiacMaew]

ManiacMaew ตกลงZ2ของเรา ตอนนี้ยังใช้งานได้ หรือ เดี้ยงไปแล้ว

พักโปรแจ็คชั่วคราวครับ

ยังไม่รู้ทำไงต่อ เพราะจุดนั้นมัน2หน้าด้วย ลายทองแดงส่วนอื่นก็โดนบังอยู่
ต้องเอาไดโอด กับ c บางตัวออกมาดูทาง ยังไม่แน่ใจในฝีมือ เดี๊ยวจะขาดเพิ่ม
(เลยไปฝึกฝีมือกับลำโพงก่อน รูมันใหญ่กำลังดี(เว้นแต่ cตัวใหญ่3ตัว) บัดกรีง่าย)
+เซงนิดๆ กับลายทองแดงที่ขาดง่าย กำลังคิดว่า จะเก็บตังค์ถอยพี่จีนมาแทนอยู่ดีมั้ย
จะได้เล่น สาย coax ด้วยเลย เมนบอร์ดมีช่องต่ออยู่แล้ว
r ตรงภาคขยายก็ไม่ใช่smd จะได้เล่นr ด้วย แต่ก็ไม่แน่ใจ ดูภาคจ่ายไฟไม่เข้าใจอยู่
สั่งของจากอีเบย์ก็ไม่เคย

แต่หลังๆ นี้ไม่ได้ทำเอาคุ้มแหล่ะ ทำเอามันส์มากกว่า55+ แบบว่าชอบลองของ
ก็ได้ความรู้+ฝีมือมาแทนบ้าง

ผมเล่น source สองหัวอยู่ครับจากคอมและ cd transport

system ดีอยู่แล้ว ที่แท้จะเอามาฟังเพลงโหลดนี้เอง
คอมมันอ่านไฟล์ได้ครอบจักรวาลกว่านี้น่ะ

----------------------------------

ซนอีกรอบเอาสาย lan cat5 utp (ที่แถมมาตอนสมัครเน็ต เพราะเราใช้wireless)
มาลองทำสายmini ต่อเข้าออนบอร์ดดู
สายมันมี4คู่ แต่หัวมันมี3ชั้น ไม่รู้จะแบ่งกันไง ไอ้คู่ทีตีเกลียวกันอยู่แล้วก็ไม่อยากแยก
เลยจับไป อยู่ขั้วกราวน์มั้ง ชั้นนอกสุด ซะ2คู่ บัดกรีด้วยตะกั่วเงิน

หน้าตาอุบาทว์มากๆ แต่ก็เสียบแล้วใช้ได้ไม่พังแหะ สายทำเองเส้นแรกในชีวิต
เสียง ยังไม่แน่ใจ รอเบิร์น จริงๆ มันเคยผ่านการใช้งานเป็นแลนแล้ว แต่รวมแล้วยังไม่ถึงชั่วโมงเลย
เช็คทางแล้วด้วย

อยากจะบอกว่าแยกไม่ออก ชั้นไหนของขั้วมันซ้ายขวา

note : สายแลน cat 5 utp ไม่e ไม่shield ขนาดประมาณ24AWG ได้มั้ง(เล็กไปนิด อยากได้22AWGลงไป) ไส้ในเป็นสายเส้นเล็ก4คู่ แต่ล่ะคู่ตีเกลียวกันเอง
ภายในแต่ล่ะเส้นเล็กเป็นสายฝอยทองแดงตีเกลียว
ไม่แน่ใจว่าชนวนเทฟลอนรึเปล่า
เพื่อใครอยากลอง ได้พอเดาแนวได้

[OV_Events]

ในที่สุดมันก็เสร็จสักที

X-Audio Mo >>อาจจะดูรกๆไปบ้าง เพราะอย่างที่รู้มันตัวเล็กมาก ต้องจัดอยู่นานกว่าจะเอาลงไปครบ 16 ตัว
ปล.ตอนเปิดเครื่องผมอุดหูรอไว้แล้ว แต่สุดท้ายก็บูตผ่าน นี่เป็น FirstTime ที่โมเลย

เรื่องความร้อนผมไม่ค่อยห่วงครับ ในเคสมีพัดลมเคส 2 ตัว แล้วก็พัดลมรอบจัดจากซีพียูอีก จัดทางลมเรียบร้อย


ต่อไปคือ ลำโพง (กำลังโมอยู่)


อันนี้โมเสร็จแล้ว (เปลือยไปก่อน)

สงสัยนิดหน่อยครับ

ถ้าเราเปลี่ยน OPAMP + CAP หรือ อะไหล่อื่นเนี่ย มันต้องใช้เวลานานมากมั้ยครับกว่าจะเข้าที่เข้าทาง

[keang]

note : สายแลน cat 5 utp ไม่e ไม่shield ขนาดประมาณ24AWG ได้มั้ง(เล็กไปนิด อยากได้22AWGลงไป) ไส้ในเป็นสายเส้นเล็ก4คู่ แต่ล่ะคู่ตีเกลียวกันเอง
ภายในแต่ล่ะเส้นเล็กเป็นสายฝอยทองแดงตีเกลียว
ไม่แน่ใจว่าชนวนเทฟลอนรึเปล่า

- CAT5ใช้ลวดแกนเดี่ยวเบอร์28AWG CAT6ใช้ลวดแกนเดี่ยวเบอร์24AWG
- วิธีเช็คว่าฉนวนเป็นเทฟลอนหรือเปล่าแบบง่ายๆ เอาไฟเผาดูครับ

เท่าที่เคยสำรวจเคยเช็คข้อมูล ยังไม่เจอผู้ผลิตสายCATทำสายเทฟลอนวางขายตลาดทั่วไป ทั้งโลคอลหรือแบรนด์เนม

ผู้ผลิตสายอย่างBeldenและแบรนด์อื่นๆ ก็ผลิตสายCAT สาย40PIN, 80PIN แบบฉนวนเทฟลอน
สามารถสั่งซื้อ-ให้ส่งไทยได้ แต่ต้องซื้อยกม้วน ม้วนเล็กสุดก็300เมตร
ผมรอคนมาช่วยหารค่าสายด้วยกัน เป็น10ปีละ ยังหาเหยื่อไม่ได้สักที

ช่วงปลายปี92ทนไม่ไหว นั่งทำสายแพ40PINแบบสายเงินฉนวนเทฟลอนใช้เอง
ต่อมากลางปี93 คันสุดๆ ไวร์สายเองทั้งเคส สายพัดลม สายสวิทช์หน้าเคส สายซัพพลาย ทั้งหมดเป็นสายเงินฉนวนเทฟลอน
เพื่อนมาเห็น ขอยกคอมตัวนั้นไปทั้งชุด เลยต้องมานั่งทำใหม่ คราวนี้สบายหน่อยเพราะรู้แนวจากตัวแรกแล้ว
ปัจจุบันยังเก็บเคสตัวที่2ไว้เป็นที่ระลึก ฝุ่นจับเขอะเลย

ฉนวนเทฟลอนเองก็มีหลายเกรด พยายามหาที่เนื้อนิ่ม เสียงจะได้ไม่สดมากเกินไป
จับและลองสายที่เป็นเทฟลอนบ่อยๆจะรู้เองครับว่า แบบไหนให้เสียงเป็นงัย

ในที่สุดมันก็เสร็จสักที

ดีใจด้วยครับ ความภูมิใจสำหรับคนทำด้วยตัวเอง
DIY มีผิดบ้างถูกบ้าง ทุกอย่างต้องมีเริ่มต้น ค่อยๆเรียนรู้เพิ่มพูนประสบการณ์ไปเรื่อยๆ ต่อไปก็ชำนาญครับ

เปลี่ยนอะหลั่ยไปแล้ว จับให้ได้ว่า ได้อะไรมาบ้าง เสียอะไรไปบ้าง
ถ้าเราหาข้อสรุปเรื่องความแตกต่างได้ จะมีประโยชน์ในการเลือกใช้อะหลั่ยในการทำครั้งต่อไป

ถ้าเราเปลี่ยน OPAMP + CAP หรือ อะไหล่อื่นเนี่ย มันต้องใช้เวลานานมากมั้ยครับกว่าจะเข้าที่เข้าทาง

เอาแน่นอนไม่ได้ครับ ส่วนใหญ่ใช้วิธีฟังเอา ถ้ามันไม่มีไรเปลี่ยนแปลงแล้วก็ถือว่ามันผ่านแล้ว หลังจากนั้นก็เบิร์นบ้างเป็นช่วงๆ เดือนละครั้ง
แนะนำให้ใช้แผ่นหรือไฟล์เบิร์นโดยตรง เพราะ จะได้เบิร์นได้ครบทุกความถี่ในเวลาเดียวกัน



BI-CAP , Capacitor Farm
เวลาขนานCหลายตัว พยายามจับขาของแต่ละตัวให้เชื่อมถึงกัน เพื่อที่เวลาทำงานจะได้เสมือนหนึ่งว่าเป็นCตัวเดียวครับ
ไม่งั้นเจอเอฟเฟคเรื่องมิติ เรื่องเสียงของCแต่ละตัวไม่กลมกลืนกัน

ลองดูแนวทางจากรูปนี้ครับ ตัวอะหลั่ยสีน้ำตาลบนC ขาของอะหลั่ยตัวนี้ต่อตรงกับขาCเลย

[ManiacMaew]

ในที่สุดมันก็เสร็จสักที

X-Audio Mo >>อาจจะดูรกๆไปบ้าง เพราะอย่างที่รู้มันตัวเล็กมาก ต้องจัดอยู่นานกว่าจะเอาลงไปครบ 16 ตัว
ปล.ตอนเปิดเครื่องผมอุดหูรอไว้แล้ว แต่สุดท้ายก็บูตผ่าน นี่เป็น FirstTime ที่โมเลย


ต่อไปคือ ลำโพง (กำลังโมอยู่)


สงสัยนิดหน่อยครับ

ถ้าเราเปลี่ยน OPAMP + CAP หรือ อะไหล่อื่นเนี่ย มันต้องใช้เวลานานมากมั้ยครับกว่าจะเข้าที่เข้าทาง

-ใส่อัดๆ เข้า ไป ขามันยาว หาท่อเทฟลอนมาใส่ตรงขาก็ดีน่ะครับ
กันสัญญาณรบกวนได้ระดับหนึ่ง
nichocon es ป่ะครับ ตัวมันจะใหญ่กว่าพวกมีขั้วหน่อยด้วย
ไม่อยากให้สูงก็ใช้วิธีเลื้อยเอาแบบท่านMujarm แต่อะไหล่ขาต้องยาวหน่อย
+ตอนถอดออก นี้ลำบากมีสิทธิ์หลายทองแดงขาด มากกว่าแบบปักตรง

-ตัวสีฟ้านี้ยี่ห้ออะไรรุ่นไหนครับ แนวเสียงเป็นไงเอย

-กว่าจะเข้าทางนี้นานมั้ย นี้แปลว่าอะไรครับ

หมายถึงเบิร์น หรือเปล่าครับ งง?

[OV_Events]

-ใส่อัดๆ เข้า ไป ขามันยาว หาท่อเทฟลอนมาใส่ตรงขาก็ดีน่ะครับ
กันสัญญาณรบกวนได้ระดับหนึ่ง
nichocon es ป่ะครับ ตัวมันจะใหญ่กว่าพวกมีขั้วหน่อยด้วย
ไม่อยากให้สูงก็ใช้วิธีเลื้อยเอาแบบท่านMujarm แต่อะไหล่ขาต้องยาวหน่อย
+ตอนถอดออก นี้ลำบากมีสิทธิ์หลายทองแดงขาด มากกว่าแบบปักตรง

-ตัวสีฟ้านี้ยี่ห้ออะไรรุ่นไหนครับ แนวเสียงเป็นไงเอย

-กว่าจะเข้าทางนี้นานมั้ย นี้แปลว่าอะไรครับ

หมายถึงเบิร์น หรือเปล่าครับ งง?

-ครับ ES ครับค่า 47/25

-วิธีเลื้อยนี่ไม่ไหวเลยครับ ขาไม่ได้ยาว+พื้นที่มันน้อยจริงๆ

-เป็น Elne (รุ่นไม่แน่ใจครับ) ในการ์ดเป็น 100/35 9 ตัว ในลำโพงเป็น 3300/25 5ตัว แนวเสียงขอก่อนครับ เปิดไปได้20 นาทีเอง

-ครับ หมายถึงเบิร์นนั่นแหละครับ

[ManiacMaew]

เปิดทิ้ง ถึง4-5ทุ่ม ก็เดาแนวเสียงได้แล้ว
ให้นิ่งจริงๆ เห็นว่าอะไหล่บางตัวนี้ต้อง200ชมเลย แต่ทั่วไปคิดว่า 50-100ก็พอมั้ง เดาเอา
ส่วนตัวผมสัก30ชมพอ หมดความอดทน จับมาโมใหม่แล้ว
แต่กับหูฟังin ear นี้เห็นเขาบอกนานโคตร ซื้อมาดองไว้ เบิร์นได้ไม่ถึงไหนเลย)