เพิ่งว่างมาตอบ
optane จริงๆมันมาตอบโจทย์pain point ของ SSD ยุคแรกนะครับ(ความจุ /การเขียนทับ)มันพัฒนาตั้งกะปี 2012 แต่ออกขายตลาด enterpriseตอนปี 2014-2015 ของintel ใส่มาในตลาดบ้านช้าไปตอนปี2017 เจอSSD สวนราคาไปกลายเป็นไม่คุ้มเลย มันเป็นเทคโนโลยีที่ออกมาช้าเกินไป
แต่ผมว่าตอนที่มีข่าวจะออก optane ssd ก็ยังไม่ถูกเท่าไรนะครับ(ช่วงgen7ได้มั๊ง) ช่วงนั้นจำได้ 128GB SATA ง่อยๆยังตัวละ3-4พันอยู่เลยตอนนั้นในขณะที่ HDD 1TB มัน 1790 บาท แต่ในระดับบ้านๆ มันใช้SSD ลงOS +HDDลงเกมได้ แต่สำหรับ laptop ยุคนั้นใส่SSD 120GBมันไม่พอไง(ไม่งั้นต้องถอดDVDROM tray) พวก flash cache หรือ hybrid HDD(ของseagate)ก็เป็นการพยายามแก้ปัญหา แต่พอ SSD 512GB ราคาถูกออกมาแค่สองพัน(จำได้ตัวแรกๆก็พวกยี่ห้อจีนๆ กับDEVAนี่แหละมั๊ง ผมซื้อปี2018 เลยจำได้ดี) ก็จบเลย laptop ลง SSD อย่างเดียวก็พอ
แต่ช่างมันเถอะ ผมก็ไม่ได้ใช้ optane แต่จะบอกว่า เทคโนโลยีที่คล้ายกันแบบ flash cache ยังใช้กันเยอะ ในกลุ่ม SAN นะครับ ไม่ใช่งานทุกอย่างจะลงflash storage ได้หมด(ง่ายๆก็งานพวกDB)
ส่วนเรื่อง Nintendo switch อย่างอ้างเลยครับ เขาทำhardware เฉพาะ และมีแนวทางไม่แบ่งปันให้เครื่องอื่นแน่นอน เขาเน้นเรื่อง exclusive อยู่แล้ว แนวทางเขาชัดเจนไม่ได้เน้นกราฟฟิกด้วย แต่ก็ไม่ใช่ว่าทุกคนในโลกจะชอบเล่นเกมแบบนี้ไปหมด มันขึ้นกับlifestyle ด้วย
ส่วนrecode ผมก็บอกไปแล้วว่ารอชมผลงานครับ ไม่เอาtech demo
ก็เห็นพูดกันเยอะตั้งแต่ M1 ออกเมื่อปีที่แล้ว จนบัดนี้ก็ยังไม่เห็นภาพอะไรเท่าไร (แต่ก็นะแม้แต่Mac pro ตัวล่าสุด M1 Max เองก็ดูไม่เหมาะกับการเล่นเกมเลยแถมราคาก็ไปไกลมาก)
ถ้ามันง่าย ทำไมไม่มีใครทำเกม AAA ออกมาแล้ว? มันไม่น่าเกี่ยวเรื่อง Apple กั๊กอย่างเดียวหรอกครับ สมัย Mac-x86 ก็มีเกมที่เล่นได้เยอะเกลื่อนเลย แม้ตัวเครื่องมันจะไม่ค่อยเหมาะก็ตาม(ร้อนจัดเพราะพัดลมเริ่มหมุนช้า เล่นนานๆแบตบวม)
หรือแม้แต่เกมmulti-platformเอง พวกที่ไปลงเครื่องconsole หรือhandheld ส่วนใหญ่ลดคุณภาพลงเกือบทั้งนั้น
ถ้าบอกรอARM ใส่GPU แรงๆก็ได้เกมภาพสวยๆระดับAAAใน pc x86ได้แล้วมันเมื่อไร?
อีกห้าปีแรงหรือมีเกมภาพสวยๆออกมาเยอะๆแล้ว ก็ค่อยซื้อตอนห้าปีข้างหน้าครับ มาป่าวประกาศไม่ให้ซื้อ x86 ตอนนี้ ก็ต้องถามกลับว่า แล้วไม่ทำงาน ไม่เล่นเกมกันเลยเหรอ? หรือต้องทนใช้เครื่องเก่าๆไปก่อนห้าปี?(สำหรับคนที่คิดจะupgradeช่วงนี้นะครับ ใครมีแรงมากอยู่แล้วก็คงไม่จำเป็น)
เทคโนโลยีเปลี่ยนไปตลอดครับ ผมไม่เถียงว่าสิ่งที่ผมคิดอาจจะถูกหรือผิด ตลาดเปลี่ยนแปลงได้เสมอ แต่ที่ผมมั่นใจ คือซื้อมาเพื่อใช้งานวันนี้ ไม่ต้องเผื่ออนาคต คุ้มที่สุดครับ
เรื่องนี้โยงไปเรื่องsingle tread vs multi ผมจำได้ บางกระทู้ เขามาถามซื้อcpuงบกลางๆเพื่อเล่นเกม AAA หลายท่านก็มาแนะนำ ตัวหลายๆคอร์/thread ที่clockต่ำๆ ซึ่งมันเล่นเกมได้FPS ต่ำกว่าคู่แข่งราคาใกล้ๆกัน ที่ได้ coreน้อยกว่า (เช่น i5 gen8-9 6core นี่เคยเป็น best value for gamingในไทยเลย) แล้วไปยกเรื่อง encode เร็วกว่า หรือเปิดบอทเกมออนไลน์ได้หลายหน้าจอกว่า(โดยที่เจ้าตัวเขา บอกว่าจะไปเล่นเกมAAAนะ) ผมก็เลยแปลกใจไงครับ ทำไมไม่ให้คุณค่ากับงานที่ใช้เป็นหลัก แต่เผื่องานที่ตัวเองแทบไม่ได้ใช้ แล้วภูมิใจว่า"คุ้ม"กว่า แต่ต้องทนเล่นเกมFPS ต่ำกว่าคู่แข่งในราคาพอๆกันไปหลายปี กว่าจะมีเกม AAA ที่รองรับเต็มที่เกิน 6 core ออกมา? บางทีการซื้ออนาคตที่ไม่ได้ใช้ ก็เหมือนการปลอบใจตัวเองหรือเปล่า?
ส่วนพวกตัวแรงๆtopๆ coreเยอะๆทั้งสองค่าย อันนี้ความแตกต่างในเรื่องเกมมันน้อยลงแล้ว เพราะเกมมันใช้งานได้ไม่ครบนั่นแหละนะ
อ้อไม่ต้องบอกว่าปัจจุบันมีเกมที่รองรับออกมาแล้วครับ มันผ่านมา 3ปีแล้ว คนที่ซื้อตอนgen8 ออก ประกันหมดไปหมดกันแล้วมั๊ง
ป.ล. เพิ่งนึกออกอีกอย่าง ใครใช้laptopทำงาน แล้วนึกไม่ออกว่าต้องการความแรงไปทำไม ลองดู ms team นะครับ กินทั้งcpu/gpu เลย ตัวที่ลงในos อื่นก็feature น้อยกว่า(เจอแค่ตัดbackgroud แบบ realtime และตัดเสียงรบกวนก็ต่างกันเยอะแล้ว) เจอประชุมพร้อมกันเยอะๆ นี่พวกใช้ผ่าน mobile ไม่รอดครับต้องเปิดแค่เสียงถึงพอไหว(แต่อันนี้ หลายคนคงโทษMS ที่ไม่optimized OS อื่นเอง?)
optane จริงๆมันมาตอบโจทย์pain point ของ SSD ยุคแรกนะครับ(ความจุ /การเขียนทับ)มันพัฒนาตั้งกะปี 2012 แต่ออกขายตลาด enterpriseตอนปี 2014-2015 ของintel ใส่มาในตลาดบ้านช้าไปตอนปี2017 เจอSSD สวนราคาไปกลายเป็นไม่คุ้มเลย มันเป็นเทคโนโลยีที่ออกมาช้าเกินไป
แต่ผมว่าตอนที่มีข่าวจะออก optane ssd ก็ยังไม่ถูกเท่าไรนะครับ(ช่วงgen7ได้มั๊ง) ช่วงนั้นจำได้ 128GB SATA ง่อยๆยังตัวละ3-4พันอยู่เลยตอนนั้นในขณะที่ HDD 1TB มัน 1790 บาท แต่ในระดับบ้านๆ มันใช้SSD ลงOS +HDDลงเกมได้ แต่สำหรับ laptop ยุคนั้นใส่SSD 120GBมันไม่พอไง(ไม่งั้นต้องถอดDVDROM tray) พวก flash cache หรือ hybrid HDD(ของseagate)ก็เป็นการพยายามแก้ปัญหา แต่พอ SSD 512GB ราคาถูกออกมาแค่สองพัน(จำได้ตัวแรกๆก็พวกยี่ห้อจีนๆ กับDEVAนี่แหละมั๊ง ผมซื้อปี2018 เลยจำได้ดี) ก็จบเลย laptop ลง SSD อย่างเดียวก็พอ
แต่ช่างมันเถอะ ผมก็ไม่ได้ใช้ optane แต่จะบอกว่า เทคโนโลยีที่คล้ายกันแบบ flash cache ยังใช้กันเยอะ ในกลุ่ม SAN นะครับ ไม่ใช่งานทุกอย่างจะลงflash storage ได้หมด(ง่ายๆก็งานพวกDB)
ส่วนเรื่อง Nintendo switch อย่างอ้างเลยครับ เขาทำhardware เฉพาะ และมีแนวทางไม่แบ่งปันให้เครื่องอื่นแน่นอน เขาเน้นเรื่อง exclusive อยู่แล้ว แนวทางเขาชัดเจนไม่ได้เน้นกราฟฟิกด้วย แต่ก็ไม่ใช่ว่าทุกคนในโลกจะชอบเล่นเกมแบบนี้ไปหมด มันขึ้นกับlifestyle ด้วย
ส่วนrecode ผมก็บอกไปแล้วว่ารอชมผลงานครับ ไม่เอาtech demo
ก็เห็นพูดกันเยอะตั้งแต่ M1 ออกเมื่อปีที่แล้ว จนบัดนี้ก็ยังไม่เห็นภาพอะไรเท่าไร (แต่ก็นะแม้แต่Mac pro ตัวล่าสุด M1 Max เองก็ดูไม่เหมาะกับการเล่นเกมเลยแถมราคาก็ไปไกลมาก)
ถ้ามันง่าย ทำไมไม่มีใครทำเกม AAA ออกมาแล้ว? มันไม่น่าเกี่ยวเรื่อง Apple กั๊กอย่างเดียวหรอกครับ สมัย Mac-x86 ก็มีเกมที่เล่นได้เยอะเกลื่อนเลย แม้ตัวเครื่องมันจะไม่ค่อยเหมาะก็ตาม(ร้อนจัดเพราะพัดลมเริ่มหมุนช้า เล่นนานๆแบตบวม)
หรือแม้แต่เกมmulti-platformเอง พวกที่ไปลงเครื่องconsole หรือhandheld ส่วนใหญ่ลดคุณภาพลงเกือบทั้งนั้น
ถ้าบอกรอARM ใส่GPU แรงๆก็ได้เกมภาพสวยๆระดับAAAใน pc x86ได้แล้วมันเมื่อไร?
อีกห้าปีแรงหรือมีเกมภาพสวยๆออกมาเยอะๆแล้ว ก็ค่อยซื้อตอนห้าปีข้างหน้าครับ มาป่าวประกาศไม่ให้ซื้อ x86 ตอนนี้ ก็ต้องถามกลับว่า แล้วไม่ทำงาน ไม่เล่นเกมกันเลยเหรอ? หรือต้องทนใช้เครื่องเก่าๆไปก่อนห้าปี?(สำหรับคนที่คิดจะupgradeช่วงนี้นะครับ ใครมีแรงมากอยู่แล้วก็คงไม่จำเป็น)
เทคโนโลยีเปลี่ยนไปตลอดครับ ผมไม่เถียงว่าสิ่งที่ผมคิดอาจจะถูกหรือผิด ตลาดเปลี่ยนแปลงได้เสมอ แต่ที่ผมมั่นใจ คือซื้อมาเพื่อใช้งานวันนี้ ไม่ต้องเผื่ออนาคต คุ้มที่สุดครับ
เรื่องนี้โยงไปเรื่องsingle tread vs multi ผมจำได้ บางกระทู้ เขามาถามซื้อcpuงบกลางๆเพื่อเล่นเกม AAA หลายท่านก็มาแนะนำ ตัวหลายๆคอร์/thread ที่clockต่ำๆ ซึ่งมันเล่นเกมได้FPS ต่ำกว่าคู่แข่งราคาใกล้ๆกัน ที่ได้ coreน้อยกว่า (เช่น i5 gen8-9 6core นี่เคยเป็น best value for gamingในไทยเลย) แล้วไปยกเรื่อง encode เร็วกว่า หรือเปิดบอทเกมออนไลน์ได้หลายหน้าจอกว่า(โดยที่เจ้าตัวเขา บอกว่าจะไปเล่นเกมAAAนะ) ผมก็เลยแปลกใจไงครับ ทำไมไม่ให้คุณค่ากับงานที่ใช้เป็นหลัก แต่เผื่องานที่ตัวเองแทบไม่ได้ใช้ แล้วภูมิใจว่า"คุ้ม"กว่า แต่ต้องทนเล่นเกมFPS ต่ำกว่าคู่แข่งในราคาพอๆกันไปหลายปี กว่าจะมีเกม AAA ที่รองรับเต็มที่เกิน 6 core ออกมา? บางทีการซื้ออนาคตที่ไม่ได้ใช้ ก็เหมือนการปลอบใจตัวเองหรือเปล่า?
ส่วนพวกตัวแรงๆtopๆ coreเยอะๆทั้งสองค่าย อันนี้ความแตกต่างในเรื่องเกมมันน้อยลงแล้ว เพราะเกมมันใช้งานได้ไม่ครบนั่นแหละนะ
อ้อไม่ต้องบอกว่าปัจจุบันมีเกมที่รองรับออกมาแล้วครับ มันผ่านมา 3ปีแล้ว คนที่ซื้อตอนgen8 ออก ประกันหมดไปหมดกันแล้วมั๊ง
ป.ล. เพิ่งนึกออกอีกอย่าง ใครใช้laptopทำงาน แล้วนึกไม่ออกว่าต้องการความแรงไปทำไม ลองดู ms team นะครับ กินทั้งcpu/gpu เลย ตัวที่ลงในos อื่นก็feature น้อยกว่า(เจอแค่ตัดbackgroud แบบ realtime และตัดเสียงรบกวนก็ต่างกันเยอะแล้ว) เจอประชุมพร้อมกันเยอะๆ นี่พวกใช้ผ่าน mobile ไม่รอดครับต้องเปิดแค่เสียงถึงพอไหว(แต่อันนี้ หลายคนคงโทษMS ที่ไม่optimized OS อื่นเอง?)
Comment