Announcement

Collapse
No announcement yet.

!! ขอบ่น เรื่อง PSU 80+ ในที่นี้หน่อยนะครับ !!

Collapse
X
 
  • Filter
  • Time
  • Show
Clear All
new posts

  • Originally posted by Wingman183 View Post
    ขอตรบมือให้คุณ Indy Shopz ที่มาสร้างความกระจ่างในเรื่องนี้ สรุปคือถ้า psu ตัวหนึ่งบอกไว้ 600W มันคือจ่ายกระแสไฟได้ 600W แล้ว (เพราะคิด loss ไปแล้ว)
    แต่เรื่อง "วัตต์แท้" กับ "80 plus" มันมีความสัมพันธ์กันโดยตรงน่ะครับ กล่าวคือ เป็นการการันตีว่าทุกโหลด 10% 20% 50% 100% สูญเสียพลังงานใกล้เคียงกัน คือไม่มากกว่า 20% นัยยะหนึ่ง ถ้า "วัตต์เทียม 600W" คือ โหลด 10% 20% ยังให้ไฟ 600W แต่พอโหลดเกินนั้น จะสูญเสียพลังงานมากกว่า 20% ทำให้วัตต์จริงๆที่ได้ต่ำกว่า 600W เราก็เรียกวัตต์ไม่เต็มบ้าง วัตต์เทียมบ้าง
    ^__^

    ตัวแดงนั่น ทแม่งๆ นะครับ __^ ผมว่า ไม่ถูกซักเท่าไรเลย น้าาา

    Comment


    • Originally posted by m shifu View Post
      งั้นอาจจะเก็บเรื่องอุณหภูมิ vs eff ที่ 50% ไว้ทดสอบอีกเรื่องครับ
      ส่วนตัวผมว่า เรื่อง "คัดนักกีฬาไปแข่ง" มีผล มาก ในเรื่องนี้นะ

      Comment


      • Originally posted by m shifu View Post
        งั้นอาจจะเก็บเรื่องอุณหภูมิ vs eff ที่ 50% ไว้ทดสอบอีกเรื่องครับ
        เอาไปเทสในห้องเย็นปลาทูเลยครับ ท่าจะให้ถึงใจเทสแบบเปลืยด้วย เอาพัดจ่อเพิ่มอีก

        Comment


        • คิดว่าจะเอาไดร์เป่าผมเป่าอ่ะครับ ทดสอบหยาบๆ
          เอาให้เห็นแค่ว่า ร้อนขึ้น eff มันดีขึ้น หรือ แย่ลง

          Originally posted by Indy Shopz View Post
          ส่วนตัวผมว่า เรื่อง "คัดนักกีฬาไปแข่ง" มีผล มาก ในเรื่องนี้นะ
          ครับ ประเด็นของท่านเนโร ผมว่าน่าสนใจดีเหมือนกันนะ

          Comment


          • วันนี้ ลองเอา PSU Server 850W X2

            เอามาลอง ทำ Loadcenter +12 +5 V ดู เล่นๆ

            สงสัยจังเลย ทำไม พัดลมมันเล็กนิดเดียว มันไม่ร้อน ??

            Comment


            • Originally posted by mewzira View Post
              นอกเรื่องนิดครับ แบบคิดขำๆ

              โลกพัฒนา คิดค้น นวัตกรรมใหม่ๆ CPU ร้อนน้อยลง กินไฟน้อยลง อะไรๆ ก็กินไฟน้อยลง (ยกเว้น VGA Card)

              แต่พวกเรากลับต้องใช้ PSU ที่วัตต์สูงกว่าแต่ก่อนมาก ดูๆแล้วไม่ใช่เพื่อเครื่องซักเท่าไหร่ แต่พลังงานที่เสียไป

              กลับหมดไปกับ พัดลม มันสวนทางแบบขำๆ จริงๆ ไหนมันว่า ร้อนน้อยลง กินไฟน้อบลง แต่ PSU 280W สมัยก่อน

              ก็กลับใช้ไม่ได้ มันประหยัดอะไรของมันนะนี่ 555+

              ขำๆ นะครับ เพราะจริงๆ การกินไป เท่าไหร่ ต่อ เครื่องๆ หนึ่ง นั้น ตอบยาก เพราะ ภายในมีอุปกรณ์ ที่ต่างกันออกไป
              ผมก็คิดแบบท่านเหมือนกันเลย

              Comment


              • Originally posted by mewzira View Post
                นอกเรื่องนิดครับ แบบคิดขำๆ

                โลกพัฒนา คิดค้น นวัตกรรมใหม่ๆ CPU ร้อนน้อยลง กินไฟน้อยลง อะไรๆ ก็กินไฟน้อยลง (ยกเว้น VGA Card)

                แต่พวกเรากลับต้องใช้ PSU ที่วัตต์สูงกว่าแต่ก่อนมาก ดูๆแล้วไม่ใช่เพื่อเครื่องซักเท่าไหร่ แต่พลังงานที่เสียไป

                กลับหมดไปกับ พัดลม มันสวนทางแบบขำๆ จริงๆ ไหนมันว่า ร้อนน้อยลง กินไฟน้อบลง แต่ PSU 280W สมัยก่อน

                ก็กลับใช้ไม่ได้ มันประหยัดอะไรของมันนะนี่ 555+

                ขำๆ นะครับ เพราะจริงๆ การกินไป เท่าไหร่ ต่อ เครื่องๆ หนึ่ง นั้น ตอบยาก เพราะ ภายในมีอุปกรณ์ ที่ต่างกันออกไป
                Originally posted by Farrell View Post
                ผมก็คิดแบบท่านเหมือนกันเลย

                คิดแบบนี้ก็ไม่ถูกนักครับ
                ลองเทียบกับรถยนต์สมัยก่อน รถอเมริกัน Dodge Challenger R/T ปี1970
                ใช้เครื่อง 383CID Magnum V8 6,280cc. กินน้ำมัน 4กิโลเมตร/ลิตร ให้กำลัง335แรงม้า

                เทียบกับ Dodge Viper SRT10 ปี2008
                ใช้เครื่อง 510cu.in V10 8,400cc. กินน้ำมัน 4กิโลเมตร/ลิตร แต่ให้กำลัง600แรงม้า

                ถ้ามองเรื่องความสินเปลืองมันก็กินน้ำมันเท่ากันนั่นแหละ แต่ถ้าเทียบกำลังงานที่ได้ออกมาสูงกว่ากันเท่าตัว
                แบบนี้จะเรียกว่าประสิทธิภาพเท่ากันก็คงไม่ได้

                มองกลับมาที่เรื่องคอมก็คล้ายๆกันปัจจุบันมันอาจจะต้องการ PSU ที่วัตต์สูงกว่าคอมเมือ10ปีก่อน2-3เท่าตัว
                แต่ประสิทธิภาพของคอมปัจจุบันนำหน้าคอม10ปีก่อนไปกี่เท่าตัวแล้วครับ

                Comment


                • สำหรับคนที่งง ผมจะช่วยอธิบายสั้นๆเพื่อความชัดเจนอีกครั้ง ดังนี้

                  1) PSU 600 W หมายความว่า "จ่ายจริงๆต้องจ่ายได้ 600W" เพราะเป็น Output แล้ว! ซึ่ง input จริงๆ อาจจะรับมา 700W >> ประสิทธิภาพ Full Load จึงเท่ากับ 600/700*100 = 85 %
                  2) มาตรฐาน 80 Plus (80+) คือประสิทธิภาพของ PSU ก็มาจากข้อหนึ่งนี่แหล่ะ คือสูญเสียไฟไปกับพลังงานความร้อน ฯ ไม่เกิน 20 %

                  ส่วนวัตต์เต็ม คือฉลากติดไว้ 600 W แล้วจริงๆจ่ายได้ 600W จริงหรือไม่ ก็ต้องไปทดสอบกัน ทั้งนี้มาตรฐาน 80+ จะทดสอบโหลดให้ที่ 20% , 50% ,100% ซึ่งถือว่า PSU ที่ผ่านมาตรฐานนี้ได้ ย่อมมีคุณภาพที่ดีระดับหนึ่ง คือมีประสิทธิภาพสูง มีความนิ่งและจ่ายไฟได้เสถียร สรุป ถ้ามี 80+ ติดอยู่บนฉลาก (ถ้าไม่ใช่ติดหลอกๆน่ะ) มั่นใจได้ 80 % ขึ้นไปว่า PSU นั้นเป็น"ของดี"

                  ตัวอย่าง
                  ลองดูผลทดสอบ PSU สองตัวนี้จากเว็บ 80+
                  (1) Seasonic SS-300ES http://www.plugloadsolutions.com/psu...00W_Report.pdf
                  จะเห็นว่าที่ Full 100% input = 361 W , output = 301 W ผ่านมาตรฐาน 80+ และจ่ายเต็ม 300 วัตต์ ตามฉลากของรุ่นนี้
                  (2) Seasonic SS-350ET http://www.plugloadsolutions.com/psu...50W_Report.pdf
                  รุ่นนี้ก็เช่นเดียวกัน ที่ Full Load 100% input = 419 W , Output ได้ 350 วัตต์ ผ่าน80+ และจ่ายเต็มเช่นเดียวกัน
                  Last edited by Wingman183; 17 Jul 2012, 17:40:34.

                  Comment


                  • เพิ่มเติมจากท่านบน (ขอบคุณครับ)
                    ส่วน PSU หลายรุ่นที่ไม่ผ่าน 80+
                    โดยเฉพาะที่่ส่งประกวดแล้วไม่ผ่าน

                    ข้อสังเกตุ

                    - ที่ โหลด ต่ำกว่า 20% Eff จะ ห่วยขั้นเทพ จึงไม่นำมาคิด
                    - psu จะมีค่า Eff ดีี่สุด ที่ Load ประมาณ 50%
                    - Psu ที่ตกรอบ มักจะ ตก ที่ Load 100% แทบทั้งสิ้น

                    เคยสงสัยมั๊ยว่า ทำไม วัด 50% แ้ล้ว โดด ไป 100% เลย???

                    ความเห็นส่วนตัว

                    เพราะเค้าไ่ม่อยากให้คุณรู้หรอกว่า Psu ที่ไม่ผ่าน 80+ นั้น
                    มีค่า Eff ผ่าน 80%+ ที่ 90% เพราะพวก เทพ 100% จะขายไม่ออก
                    เหตุผลทางการตลาดครับ

                    แปลว่า..
                    ถ้าคุณใช้ Psu แบบมียี่ห้อหน่อย (หรือที่มันส่งเทสแล้วตกรอบยิ่งดี)
                    แล้วคุณใช้มัน อยู่ที่ 40% - 90% ของพิกัด Full Load
                    คุณจะได้ คุณสมบัติ 80+ โดยที่คุณไท่ต้องจ่าย ค่าการตลาดในส่วนนี้ !!

                    Comment


                    • เอาสั้นๆนะ80+หรือจะอะไรพลัสก็แล้วแต่ มันก็แค่ค่าDuty Cycle
                      หรือEfficiency เอาแบบ ชอ. ก็แปลว่าค่าประสิทธิภาพของวงจรที่กินเข้าไปแล้วจ่ายออกมาได้กี่เปอร์ นั่นคื่อความคุ้มค่าของพลังงาน
                      วัตต์เต็มไม่เต็มอยู่ที่เบอร์ Power mosFETหรือiGBTที่เอามาขับกำลังมันอ่ะนะครับ น่าจะทำความเข้าใจหน่อยนะครับ รู้ไม่จริงทึกทักกันไป อายเค้านาาาา
                      เห็นด้วยกับเจ้าของกระทู้ครับ

                      Comment


                      • Originally posted by Indy Shopz View Post
                        เพิ่มเติมจากท่านบน (ขอบคุณครับ)
                        ส่วน PSU หลายรุ่นที่ไม่ผ่าน 80+
                        โดยเฉพาะที่่ส่งประกวดแล้วไม่ผ่าน

                        ข้อสังเกตุ

                        - ที่ โหลด ต่ำกว่า 20% Eff จะ ห่วยขั้นเทพ จึงไม่นำมาคิด
                        - psu จะมีค่า Eff ดีี่สุด ที่ Load ประมาณ 50%
                        - Psu ที่ตกรอบ มักจะ ตก ที่ Load 100% แทบทั้งสิ้น

                        เคยสงสัยมั๊ยว่า ทำไม วัด 50% แ้ล้ว โดด ไป 100% เลย???

                        ความเห็นส่วนตัว

                        เพราะเค้าไ่ม่อยากให้คุณรู้หรอกว่า Psu ที่ไม่ผ่าน 80+ นั้น
                        มีค่า Eff ผ่าน 80%+ ที่ 90% เพราะพวก เทพ 100% จะขายไม่ออก
                        เหตุผลทางการตลาดครับ

                        แปลว่า..
                        ถ้าคุณใช้ Psu แบบมียี่ห้อหน่อย (หรือที่มันส่งเทสแล้วตกรอบยิ่งดี)
                        แล้วคุณใช้มัน อยู่ที่ 40% - 90% ของพิกัด Full Load
                        คุณจะได้ คุณสมบัติ 80+ โดยที่คุณไท่ต้องจ่าย ค่าการตลาดในส่วนนี้ !!
                        ตรงสีแดงนี่น่าคิดแฮะ

                        Comment


                        • Originally posted by Indy Shopz View Post
                          เพิ่มเติมจากท่านบน (ขอบคุณครับ)
                          ส่วน PSU หลายรุ่นที่ไม่ผ่าน 80+
                          โดยเฉพาะที่่ส่งประกวดแล้วไม่ผ่าน

                          ข้อสังเกตุ

                          - ที่ โหลด ต่ำกว่า 20% Eff จะ ห่วยขั้นเทพ จึงไม่นำมาคิด
                          - psu จะมีค่า Eff ดีี่สุด ที่ Load ประมาณ 50%
                          - Psu ที่ตกรอบ มักจะ ตก ที่ Load 100% แทบทั้งสิ้น

                          เคยสงสัยมั๊ยว่า ทำไม วัด 50% แ้ล้ว โดด ไป 100% เลย???

                          ความเห็นส่วนตัว

                          เพราะเค้าไ่ม่อยากให้คุณรู้หรอกว่า Psu ที่ไม่ผ่าน 80+ นั้น
                          มีค่า Eff ผ่าน 80%+ ที่ 90% เพราะพวก เทพ 100% จะขายไม่ออก
                          เหตุผลทางการตลาดครับ

                          แปลว่า..
                          ถ้าคุณใช้ Psu แบบมียี่ห้อหน่อย (หรือที่มันส่งเทสแล้วตกรอบยิ่งดี)
                          แล้วคุณใช้มัน อยู่ที่ 40% - 90% ของพิกัด Full Load
                          คุณจะได้ คุณสมบัติ 80+ โดยที่คุณไท่ต้องจ่าย ค่าการตลาดในส่วนนี้ !!
                          ตรงสีแดง ผมว่าไม่น่าใช่นะครับ เพราะถ้าเป็นแบบนั้นแบรนด์ที่ไม่ผ่าน ต้องเอามาเล่นทางการตลาดเองแน่ เพราะการใช้งานจริงก็ไม่มีใครโหลดที่100%กัน

                          อีกอย่างคือ ปกติพวกดังๆก็ทำมาเผื่อกัน10-20%กันอยู่แล้ว เพราะฉะนั้นตอนเทส เรท100%(ของฉลาก)ซึ่งก็คือราวๆ80%ของที่จ่ายได้จริง มันควรจะได้effสูงจนน่าตกใจเหมือนๆกันครับ

                          แต่ทั้งหมดนี้ผมก็เดาเอานะ

                          Comment


                          • ผม ก็หมายถึง Max(ต่อเนื่อง)นั่นแหละครับ นะครับ ไม่ใช่ peak

                            แต่เป็น ความเห็นส่วนตัวเช่นกัน โปรดใช้วิจารณญาณ ในการชม 55+ ^^

                            Comment


                            • ดู Eff แล้วอย่าลืมดูประสิทธิภาพของ DC output ด้วย Ripple Ripple Ripple

                              Comment


                              • *0*

                                Comment

                                Working...
                                X