Announcement

Collapse
No announcement yet.

ใครอยากมีเส้นมีสาย......เชิญทางนี้ครับ

Collapse
X
 
  • Filter
  • Time
  • Show
Clear All
new posts

  • #31
    วิธีที่สาม จะแตกต่างจากสองแบบแรกที่ใช้วิธีเปิด - ปิด PSU แยกกัน

    วิธีที่สามนี้จะอาศัยการสั่งงานของ MB เหมือนกับการใช้งาน PSU ตัวเดียวครับ

    หลักการเปิดของ PSU คือสั่งการผ่านขั้วสายสีเขียว ( ลายละเอียดผมขอข้ามไปครับ )

    ดังนั้นถ้าเราต้องการเปิด PSU หลายตัวก็ต้องต่อสายนี้จาก MB ไปยัง PSU แต่ละตัวครับ

    วิธีที่นิยมทำกันก็คือการพ่วงสาย

    Comment


    • #32
      การใช้งาน

      Comment


      • #33
        คำถามที่หลายคนอยากรู้ . . . . . ? ? ? ? ?

        1.การต่อ PSU หลายตัวมีผลเสียหรือทำให้เครื่องเสียหายหรือไม่

        ตอบ - ตั้งแต่ที่ผมเริ่มใช้งานมายังไม่มีคอมฯหรือ PSU เครื่องใดชำรุดเสียหายจากการใช้งานโดยการต่อตามวิธีเหล่านี้

        2.การต่อ PSU หลายตัวทำให้สิ้นเปลืองค่าไฟสูงกว่าการต่อ PSU ตัวเดียว

        ตอบ - ไม่ทราบครับเท่าที่สังเกตุและเปรียบเทียบมีความแตกต่างกันอยู่บ้าง

        แต่ไม่สามารถชี้ชัดได้ว่ามีการกินไฟมากกว่า

        โดยส่วนตัวมีความเห็นว่าการสิ้นเปลืองนั้นจะขึ้นอยู่กับประสิทธิภาพของ PSU แต่ละตัวมากกว่าครับ

        หมายเหตุ.เคยทำการทดสอบแบบง่ายๆกับเครื่อง PII 400 MHz

        โดยบันทึกการใช้ไฟจากมิเตอร์ของการไฟฟ้าที่อ่านได้ในเวลาหนึ่งชั่วโมง

        ผลที่ได้ไม่แตกต่างกันมากนักระหว่างการต่อ Delta 300 W ตัวเดียวกับการต่อพ่วงกันสองตัว

        3.การต่อ PSU หลายตัวจำเป็นต้องใช้รุ่นเดียวกันหรือไม่

        ตอบ - ไม่จำเป็นครับ สามารถใช้ PSU ต่างรุ่นได้ไม่มีปัญหา

        4.การต่อ PSU พ่วงจะมีผลเสียกับการทำงานของเครื่องคอมฯหรือไม่

        ตอบ - เท่าที่ใช้งานมายังไม่พบว่ามีผลกระทบกับการทำงานของเครื่องครับ

        การต่อแบบแรกและแบบที่สองนั้น เครื่องคอมฯกับ PSU ตัวเสริมไม่ได้ต่อกันโดยตรง

        คอมฯและ PSU ตัวเสริมแต่ละส่วนแยกกันจึงไม่มีความเกี่ยวข้องกัน

        ถึงแม้ว่าการจ่ายไฟให้อุปกรณ์บางชนิดอาจมีการต่อกราวด์ลงเคส แต่ก็ไม่มีผลอะไร

        สามารถยกตัวอย่างง่ายๆมาอธิบายได้เช่น เครื่องเสียงที่มีภาคจ่ายไฟหลายชุดแล้วต้องลงกราวด์ในจุดเดียวกัน

        ส่วนการต่อแบบที่สามนั้นเป็นการใช้สายจาก MB ร่วมกัน

        ดังนั้นการทำงานของเครื่องและ PSU จึงสัมพันธ์กัน

        ในกรณีที่อุปกรณ์ชิ้นหนึ่งมีปัญหาอาจส่งผลกระทบต่ออุปกรณ์ส่วนอื่นๆด้วย

        ซึ่งปรากฏการณ์แบบนี้สามารถพบได้เสมอไม่จำเป็นว่าเกิดจากการต่อ PSU หลายตัว

        5.การต่อ PSU หลายตัวคุ้มค่าหรือไม่

        ตอบ - ต้องคำนึงถึงหลายๆด้านประกอบกัน เช่น

        - การต่อ PSU หลายตัวจะมีปัญหาในเรื่องของการจัดวาง การจัดสาย และการเชื่อมต่อสายไฟ

        - สำหรับคนที่มี PSU เดิมอยู่แล้วแต่ต้องการเพิ่มความสามารถในการจ่ายไฟ

        การหา PSU อีกตัวมาใช้งานเสริมอาจจะประหยัดกว่าการซื้อ PSU ตัวใหม่ที่มีค่าวัตต์สูงๆ

        - สำหรับคนที่ต้องการซื้อ PSU ใหม่ ปัจจุบันนี้ PSU คุณภาพดีๆกำลังวัตต์ประมาณ 500 - 700 W

        สามารถจัดหาได้ในราคาสองพันถึงสี่พันบาท ซึ่งเป็นราคาที่ไม่หนักกระเป๋าเกินไป

        ซื้อมาแล้วก็ประกอบลงเครื่องได้เลยไม่ยุ่งยากเหมาะสำหรับคนที่ไม่ชอบคิดมาก

        - การนำ PSU ราคาถูกมาต่อพ่วงกันนั้นโดยส่วนตัวมองว่าไม่คุ้มค่า

        เพราะ PSU ราคาถูกนั้นคุณภาพจะต่ำ สามารถแยกพิจารณาเป็นส่วนๆดังนี้

        วัสดุ PSU ราคาถูกมักจะใช้อุปกรณ์คุณภาพต่ำ ทำให้ไม่เหมาะกับการทำงานหนักๆเป็นระยะเวลานาน

        เมื่ออุปกรณ์ภายใน PSU เสื่อมสภาพก็อาจก่อให้เกิดผลเสียกับอุปกรณ์ของเครื่องคอมฯตามมา

        ประสิทธิภาพ โดยเฉพาะเรื่องความสามารถในการจ่ายไฟและการแปลงไฟ AC to DC

        ในเรื่องการจ่ายไฟนั้นอาจชดเชยโดยการต่อพ่วง PSU หลายตัวเข้าด้วยกัน

        แต่ปัญหาที่ตามมาคือ ค่าใช้จ่าย การประกอบเครื่อง การจัดสาย ฯลฯ

        PSU ราคาถูกจะมีประสิทธิภาพความสามารถในการแปลงไฟกระแสสลับให้เป็นไฟกระแสตรงต่ำ ( ค่า 80 + )

        ดังนั้นการลงทุนซื้อมาใช้ในระยะยาวอาจไม่คุ้มค่า เพราะมีการสูญเสียกำลังไฟไปโดยเปล่าประโยชน์

        6. ประสิทธิภาพในการจ่ายไฟ

        ตอบ - การต่อแบบที่หนึ่งและสองนั้นเหมาะกับการใช้ PSU ตัวที่สองเพื่อช่วยเสริมการทำงานของ PSU ตัวหลัก

        หากต้องการให้ PSU ทุกตัวช่วยกันทำงานแล้ว การต่อตามวิธีที่สามจะมีประสิทธิภาพสามารถจ่ายไฟได้ดีกว่าครับ
        Last edited by hangover; 27 Apr 2010, 23:25:58.

        Comment


        • #34
          แฟนคลับ ( ใครจะออกเสียงให้น่ารักน่าชังประมาณว่า " แฟนฮับ " ก็ได้ครับไม่ผิดกติกา )



          บอกไว้เลยครับนวัตกรรมชิ้นนี้เหมาะอย่างยิ่งสำหรับคนหลายใจ

          ประเภทรักพี่เสียดายน้อง,จับปลาสองมือ หรือ . . . . .

          สรุปง่ายๆว่าพวกแฟนเยอะนำเอาไปใช้ได้เลยครับเหมาะมาก

          มาเริ่มปฏิบัติการแฟนคลับกันดีกว่า

          สิ่งของที่ต้องเตรียมนอกเหนือจากอุปกรณ์หัวแร้ง-ตะกั่ว มัลติมิเตอร์ ( VOM )

          - หัว Molex ตัวผู้หรือตัวเมีย หรือจะใช้ทั้งสองแบบก็ได้ครับ

          http://www.es.co.th/detail.asp?Prod=111404ST%2FRH

          http://www.es.co.th/detail.asp?Prod=28010805B29

          - ขาเสียบ ( Pin Header )

          http://www.es.co.th/detail.asp?Prod=PHSS40G10%2FRH

          - Jumper

          http://www.es.co.th/detail.asp?Prod=MJ2UH%2FRH

          - แผ่น PCB แบบเอนกประสงค์

          เมื่อหาของได้ครบแล้วก็ลงมือกันเลยครับ

          เบื้องต้นต้องพิจารณาก่อนว่าแฟนที่เราจะนำมาเข้าคลับตะกละมูมมามกินจุมากน้อยแค่ไหน

          ถ้ากินไฟเยอะเช่นมากกว่าหนึ่งแอมป์ไม่ควรนำมาต่อกันหลายตัว

          ควรต่อแบบหนึ่งต่อหนึ่งจะปลอดภัยกว่า

          แต่ถ้ากินไฟไม่มากเราสามารถนำแฟนมาต่อเข้ากับแผ่น PCB ได้หลายตัวครับ

          นอกจากนั้นก็ต้องคำนึงว่าหัวต่อที่จะใช้นั้นเป็นแบบใด

          จะใช้หัว Molex แบบตัวผู้หรือตัวเมีย หรือว่าจะใช้หัว 3 พิน , 4 พิน

          การเลือกใช้จะเป็นแบบผสมกันหลายแบบก็ได้ แต่การออกแบบทางเดินไฟอาจยุ่งยากกว่า

          ตัวอย่างที่ผมจะทำนั้นจะใช้หัว 4 พินทั้งหมดซึ่งจะใช้ได้กับพัดลมทั้งแบบ 2 , 3 และ 4 พินครับ
          Last edited by hangover; 13 May 2010, 03:27:15.

          Comment


          • #35
            เมื่อได้แบบที่ต้องการแล้วก็ลงมือทำกันเลยครับ
            แบบทางขวามือจะเป็นแบบอย่างง่ายที่ผมจะทำ
            ส่วนด้านซ้ายจะเป็นแบบสำหรับคนที่ต้องการต่อสวิทช์เปิด-ปิดครับ



            เริ่มจากการขยายรูบนแผ่นบอร์ดเพื่อใส่หัว Molex



            ทำเครื่องหมายบอกตำแหน่งขาป้องกันการเสียบผิดขาโดยการนำสีดำมาพ่นลงบนบอร์ดครับ



            เมื่อพ่นเสร็จก็จะได้แถบสีดำซึ่งจะใช้บอกตำแหน่งว่าเป็นขากราวด์



            วางตำแหน่งขาต่างๆตามแบบครับแลัวก็บัดกรีไป
            ที่ผมไม่ใช้หัวเสียบแบบ4พินทั่วๆไปเพราะมันจะมีแผ่นบังคับป้องกันการเสียบผิดด้านอยู่
            ถ้าต้องการเสียบได้ทั้งแบบ3และ4พินต้องตัดแต่งเจ้าแผ่นดังกล่าวครับ
            เลยเล่นแบบง่ายๆสามารถใช้ได้ทั้ง2/3/4พิน แถมถูกสตางค์กว่าด้วยครับ



            เสร็จแล้วรูปร่างหน้าตาก็จะออกมาแบบนี้ครับ
            ตัวจัมเปอร์ใช้เสียบต่อเชื่อมขากราวด์ ใครจะใช้วิธีบัดกรีติดกันไปเลยก็ได้ครับ





            เหล่าพลพรรคขาโหดรุ่นเยาวชนกระแสไ่ม่เกิน 1 A ที่ใช้ทดสอบ




            นิ่งสนิทครับ . . . . จริงๆแล้วพัดลมหมุนกันเสียงดังสนั่นแต่ความเร็วชัตเตอร์ทำให้ได้ภาพออกมาแบบนี้ครับ

            ส่วนคนที่ต้องการทำสวิทช์เปิด-ปิดนั้น
            แนะนำให้ใช้หัว Molex เฉพาะขา12 V และขากราวด์เพียงสองขาครับ
            และต้องตัดลายทองแดงบนบอร์ดให้ขาดตรงจุด A,B และ C
            ระมัดระวังอย่าไปตัดลายทองแดงของขากราวด์เข้านะครับ
            Last edited by hangover; 6 Jun 2010, 03:37:24.

            Comment


            • #36
              ติดตามแบบกระชั้นชิดครับท่าน

              Comment


              • #37
                ออกแล้วครับ ผมถอด 24 พิน ออกแล้วครับ ขอบคุณมากๆ จุ๊บๆ

                Comment


                • #38
                  กระทู้ดีดี มีประโยชน์ แต่ไม่เห็นรูป ขอแก้ url รูปให้นะครับ

                  Originally posted by hangover View Post
                  ปัญหาที่พบบ่อยอีกเรื่องคือการหาสายไฟ
                  ทั้งสายไฟ Power MB ยาวไม่พอ ไม่มีสายไฟ VGA และอื่นๆ
                  ผมเลยขอนำเสนอทางออก โดยการทำสายไฟใช้เองครับ
                  วิธีการทำนั้นไม่ยุ่งยากอะไรเลย เพียงขอให้ท่านมีความปราณีตและรอบคอบตามสมควรก็พอครับ
                  ส่วนผลงานจะออกมาดีแค่ไหนก็สุดแล้วแต่ความสามารถของตัวท่านเองครับ
                  เริ่มงานกันเลยนะครับ.............! ! !

                  1.สายไฟ MB แบบ 24 พิน
                  หลายท่านที่วาง PSU ไว้ด้านล่างของเคส มักมีปัญหาในการจัดสายโดยเฉพาะสายPowerยาวไม่พอ
                  ทางออกง่ายๆก็คือไปซื้อสายแปลง 20 - 24 พินมาใช้ก็จบกันครับ
                  แต่บางท่านก็ยังเกี่ยงตรงที่มีการใช้สายไฟ12v / 5v / 3.3v และสายกราวด์ร่วมกัน
                  อยากจะได้ที่เป็น 24 - 24 จริงๆ ซึ่งสายไฟแบบนี้หายากครับ
                  ดังนั้นถ้าอยากได้จริงๆก็ต้องทำเองครับ

                  1 / 1.แบบง่าย
                  เตรียมอุปกรณ์ให้พร้อมครับ 1.สายไฟแบบ 20 - 24 2.ไส้ขั้วต่อแบบตัวผู้ 4 ตัว 3.ท่อหด



                  ขั้นแรกทำการถอดและตัดสาย 12v / 5v / 3.3v และสายกราวด์ออกครับ ตัดออกแค่เส้นเดียวนะครับ



                  จากนั้นก็นำสายไฟไปเข้าหัวเสียบไส้ตัวผู้ แล้วใช้ท่อหดช่วยหุ้มเพื่อช่วยยึดให้มั่นคงแข็งแรงขึ้น


                  นำสายไฟที่เข้าหัวแล้วไปเสียบเข้ากับหัว 4 พินของ PSU แล้วใช้ท่อหดหุ้มเพื่อช่วยให้สายไฟและหัว 4 พินยึดติดกันไม่หลุด



                  เท่านี้ก็เรียบร้อยครับง่ายและเสียวดีป่าว...........! ! !



                  1 / 2.แบบเรียบร้อย
                  อุปกรณ์ 1.สายไฟแบบ 20 - 24 พิน 2. หัวต่อแบบ 4 พินตัวผู้ - ตัวเมีย พร้อมไส้ใน



                  ขั้นแรกทำการถอดและตัดสาย 12v / 5v / 3.3v และสายกราวด์ออกครับ ตัดออกแค่เส้นเดียวเหมือนเดิมครับ



                  เนื่องจากหัว 4 พินของ PSU นั้นจะแตกต่างจากหัว 4 พินทั่วไป จำเป็นต้องถอดตัวหัวพลาสติกออกครับ
                  แล้วนำหัวตัวผู้แบบที่ใช้ทั่วไปมาใส่แทนครับ



                  ทำการเข้าหัวสายไฟที่ตัดทั้งสี่เส้นโดยใช้ไส้ตัวผู้ครับ จากนั้นก็เอาไปใส่เข้ากับหัวต่อตัวเมียครับ



                  เป็นอันว่าสายไฟ 20 - 24 ก็จะกลายเป็น (20+4) - 24 ไปแล้ว



                  1 / 3.แบบมืออาชีพ
                  อุปกรณ์ 1.สายไฟแบบ 20 - 24 พิน 2.หัวต่อตัวเมียแบบ 24 พินพร้อมไส้



                  พวกมืออาชีพครับต้องทำอะไรๆให้มันยากเข้าไว้ จัดการถอดสายไฟที่หัวต่อตัวเมีย 20 พินออกให้หมดครับ



                  คราวนี้ก็จัดการเข้าหัวสายไฟทั้ง 24 เส้นด้วยไส้แบบตัวผู้ครับ แล้วนำไปใส่กับหัวต่อตัวเมียแบบ 24 พินครับ
                  (เวลาถอดไส้ตัวผู้ถ้าท่านทำอย่างระมัดระวัง ไส้เดิมยังมีสภาพดีก็สามารถใช้ตัวเดิมไปเลยครับ)



                  ตรวจสอบสายไฟว่าถูกขั้ว เสร็จแล้วครับสายไฟแบบ 24 - 24 อย่างที่ท่านต้องการ





                  ปล.ใครจะหุ้มสายไฟก็จัดการทำเสียก่อนที่จะนำสายไฟไปใส่กับหัวต่อตัวเมีย 24 พินนะครับ

                  2.สายไฟ MB ขนาด 12v
                  สายไฟเลี้ยง CPU ชุดนี้มีทั้งแบบ 4 และ 8 พินทำง่ายมากครับ ไม่ต้องเสียเวลาลงมือกันเลยครับ

                  2 / 1.สายไฟแบบ 4 พิน
                  อุปกรณ์ 1.สายไฟ 4 เส้น 2.หัวต่อแบบ 4 พินตัวผู้ - ตัวเมียพร้อมไส้



                  ขั้นแรกก็จัดการเข้าหัวสายทั้งสองข้าง ไส้ตัวผู้เสียบเข้ากับหัวต่อตัวเมีย ส่วนไส้ตัวเมียก็เสียบเข้ากับหัวต่อตัวผู้ครับ



                  แค่นี้เองครับเสียเวลาไม่กี่นาทีก็เรียบร้อยแล้วครับ หัวต่อตัวเมียก็เสียบกับสายไฟ PSU ส่วนหัวต่อตัวผู้ก็เสียบที่ MB ครับ





                  ปล.ถ้ามี PSU เก่าที่เสียๆจะนำสายไฟ 12v มาใช้ก็ยิ่งง่ายและประหยัดเข้าไปอีกครับ

                  2 / 2.สายไฟแบบ 8 พิน ( 4พิน - 8พิน )
                  อุปกรณ์ 1.สายไฟ 8 เส้น 2.หัวต่อแบบ 8 พินตัวผู้ พร้อมไส้ 3. หัวต่อแบบ 4 พินตัวเมียพร้อมไส้สองชุด



                  เริ่มจากการเข้าหัวสายไฟโดยใช้ไส้ตัวเมียกับหัวต่อแบบ 8 พิน และไส้ตัวผู้ใส่กับหัวต่อแบบ 4 พินครับ
                  ตรวจสอบการเรียงสายไฟให้ถูกขั้วด้วยนะครับ



                  ทำไปเปิดเพลงฟังไปด้วยสำเร็จเสร็จแบบไม่รู้ตัว
                  ( คำเตือน : ไม่แนะนำให้เปิดหนังสีชมพูดูขณะทำงานเดี๋ยวจะไม่มีสมาธิ)



                  ปล.หัวต่อ 12v แบบ 8 พินบน MB สามารถใช้หัวต่อแบบที่มีขายทั่วๆไปได้
                  ซึ่งจะแตกต่างจากหัวต่อไฟแบบ 8 พินของการ์ดจอครับ

                  2 / 3.สายไฟแบบ 8 พิน ( molex - 8พิน )
                  อุปกรณ์ 1.สายไฟ 8 เส้น 2.หัวต่อแบบ 8 พินตัวผู้ พร้อมไส้ 3. หัวต่อแบบ molex ตัวเมียพร้อมไส้สองชุด



                  เหมือนเดิมครับเริ่มจากเข้าหัวสายไฟกับไส้ แล้วก็เสียบเข้ากับหัวต่อ
                  แต่คราวนี้จะแตกต่างจากแบบก่อนนิดนึงตรงขั้ว molex สายไฟสีเหลืองจะต่อแบบสองเส้นร่วมกันครับ



                  เรียบร้อยแล้วครับก็จะได้แบบนี้ครับ



                  ปล.สายไฟแบบนี้ทำขึ้นสำหรับคนที่มีหัวต่อ MB แบบ 4 พินเพียงชุดเดียวครับ

                  2 / 4.สายไฟแบบ 8 พิน แบบผสม
                  อุปกรณ์ 1.สายไฟ 8 เส้น 2.หัวต่อแบบ 8 พินตัวผู้ พร้อมไส้ 3. หัวต่อแบบ molex ตัวเมียพร้อมไส้สองชุด 4.หัวต่อแบบ 4 พินตัวเมียพร้อมไส้



                  การต่อแบบนี้จะเป็นการผสมกันระหว่างแบบแรกกับแบบที่สองครับ
                  โดยจะต่อสายไฟสีเหลืองสองเส้นและสีดำสองเส้นเข้ากับหัวต่อแบบ 4 พิน
                  และที่เหลือก็จะใช้ต่อเข้ากับหัว molex ตัวละสองเส้นครับ(เหลือง / ดำ)



                  ก็จะได้ลูกผสมหน้าตาประหลาดแบบนี้ครับ(ไม่ทราบเหมือนกันครับว่าเป็นลูกครึ่งสัญชาติอะไรกันแน่)





                  ปล.สายไฟแบบนี้ทำขึ้นสำหรับคนที่มีขั้วต่อ MB แบบ 4 พินเพียงชุดเดียวครับ
                  และไม่อยากใช้แบบที่ 2 เพราะกลัวว่าไฟจะไม่พอหรือสายไฟจะมีปัญหาครับ

                  ของฝากเล็กๆน้อยๆ
                  1.อุปกรณ์ถอดหัว



                  ชิ้นแรกจะเป็นตัวที่ใช้ถอดหัว molex โดยอันเล็กใช้ถอดไส้ตัวผู้ อันใหญ่ใช้ถอดไส้ตัวเมีย
                  วิธีใช้ก็ง่ายๆครับสอดท่อลงไปในหัวกดให้สุด แล้วกดที่แกนเบาๆไส้ก็จะหลุดออกมาอย่างง่ายดาย



                  ชิ้นต่อมา " น้องเข็ม " ครับ นึกอะไรไม่ออกก็สะกิดขอใช้บริการของน้องเค้า เรื่องแหย่ แยง แทง เสียบพึ่งน้องเค้าได้งานถนัดครับ



                  " น้องหมุด " ญาติลูกพี่ลูกน้องของ " น้องเข็ม " ฝีมือก็ไม่เบา โดยเฉพาะการถอดไส้ตัวผู้ที่แสนยากเย็นก็ไม่พ้นความสามารถของ " น้องหมุด "
                  ลูกเล่นของ " น้องหมุด " คือแยงเข้าไปที่ด้านข้างทั้งสองด้านจนสุด แล้วใช้ฆ้อนหรือคีมเคาะที่แกนเบาๆครับ



                  ปล.การถอดต้องเบามือหน่อยนะครับเพราะถอดยากมาก ถ้าเคาะแล้วยังไม่หลุดควรเริ่มทำใหม่อย่าดันทุรังครับ
                  เมื่อถอดเสร็จแล้วก็ควรตรวจดูด้วยว่าหัวต่อพลาสติกชำรุดเสียหายหรือไม่ ถ้ามีความเสียหายแนะนำให้เปลี่ยนหัวใหม่ดีกว่าครับ

                  ลวดเย็บกระดาษ เป็นอุปกรณ์ที่ใช้ได้ดีที่สุดสำหรับการถอดไส้ตัวเมีย(หัวต่อตัวผู้) โดยที่ไม่ทำให้หัวต่อเสียหายครับ



                  2.อุปกรณ์
                  พวกสายไฟ หัวต่อก็หาได้แถวบ้านหม้อ ส่วนร้านณัฐพงษ์ที่เซียร์ รังสิตจะมีของหรือเปล่าไม่แน่ใจครับ
                  เคยดูในร้านที่บ้านหม้อของที่จะใช้ไม่มีครับ
                  พวกหัวต่อต่างๆผมซื้อจากร้าน " จินดา " บ้านหม้อพลาซ่าครับ
                  อย่างหัวต่อ 4 พินชุดละ 16 บาท (หัวตัวผู้ - ตัวเมียพร้อมไส้) หรือหัวต่อตัวเมีย 24 พินพร้อมไส้ ประมาณ 50 บาทครับ
                  ร้านอื่นๆแถวนั้นก็ยังมีราคาถูกแพงก็พิจารณากันเอาเองครับ
                  พันธ์ทิพย์ - เซียร์ รังสิต แหล่งที่ผมมักจะไปเดินดูของหาของถูกไว้ใช้งาน
                  อย่าง PSU เก่าๆที่เสียแล้ว บางคนอาจไม่เห็นคุณค่า แต่ลองคิดดูครับพวกสายไฟและหัวต่อต่างๆยังสามารถตัดนำมาใช้งานได้ครับ

                  พอแค่นี้ก่อนนะครับยาวเกินไปแล้ว...................
                  ใครที่มีความต้องการใช้สายไฟและยังไม่เคยทำก็ลองทำดู ขอเน้นย้ำที่ความปราณีตและระมัดระวังครับ
                  สำหรับคนที่เป็นมืออาชีพอยู่แล้วเรื่องเหล่านี้มันธรรมดามากครับ ก็คิดเสียว่าอ่านกันเพลินๆครับ

                  ขอบคุณครับ

                  Comment


                  • #39
                    กระทู้ดี มีประโยชน์ เข้ามาจดยิกๆ

                    Comment


                    • #40
                      Originally posted by วิหค View Post
                      กระทู้ดีดี มีประโยชน์ แต่ไม่เห็นรูป ขอแก้ url รูปให้นะครับ
                      ขอบคุณครับ

                      Originally posted by aekshow View Post
                      กระทู้ดี มีประโยชน์ เข้ามาจดยิกๆ
                      ไม่ต้องรีบครับทั่นประธานฯ อยู่เป็นเพื่อนกันก่อนครับ . . . . . ยังอีกนานครับกว่าจะจบ

                      ช่วงปีใหม่ไทยถ้าไม่มีงานเข้า คาดว่าจะนำผลงานที่กำลังทำอยู่มาลงเพิ่มครับ

                      Comment

                      Working...
                      X