Announcement

Collapse
No announcement yet.

ใครอยากมีเส้นมีสาย......เชิญทางนี้ครับ

Collapse
X
 
  • Filter
  • Time
  • Show
Clear All
new posts

  • #16
    เอ้า จดๆๆ ขอบคุณครับ

    Comment


    • #17
      ขอบคุณครับ

      เฮ้อ........จะยาวไปถึงไหน

      โปรดติดตามตอนต่อไป

      Comment


      • #18
        ไม่กล้าทำเอง กลัวเจ๊ง..กะโบ๊ง

        Comment


        • #19
          เฮอะๆ มาเจอกระทู้นี้ช้าไปหน่อย ส่งสาย 6 pin ให้ลูกค้า ไปแล้ว ลูกค้า PM กลับมาบอกใส่ไม่ได้ เลยโมหัวแล้วส่งตามไปให้ กันไม่ทันเลย

          Comment


          • #20
            หัว 6 และ 8 พินการ์ดจอผมพยายามหาแล้วยังหาไม่ได้ครับ
            ถ้ามีปัญหาหรือจะปรึกษาอะไรก็ยินดีครับ
            เขียนทิ้งเอาไว้ในกระทู้นี้ดีกว่า PM ครับ
            เพราะบางทีผมเข้ามาแต่ไม่ได้ลงชื่อเข้าใช้ เนตเต่าครับ

            ขอบคุณที่ใช้บริการครับ...............

            Comment


            • #21
              ใช้วิธีค่อยๆใสออกไปแล้วครับ ใช้ไขควง แบนไปลับกับหินลับมีด ให้คมๆ แล้วค่อยๆแต่งไป

              Comment


              • #22
                ท่าน bankcom ขอมาเลยขออนุญาตท่าน Merfo ลัดคิวตอบก่อนครับ

                มาทำความรู้จักกับขาด้านในของหัวต่อกันก่อนครับ

                ตัวขาด้านในนั้นจะมีจุดยึดทั้งหมดสามจุดครับ

                คือส่วนที่เป็นปีกด้านข้าง และปุ่มนูนด้านหลัง

                ตัวปีกทั้งสองด้านนั้นเราสามารถกดให้ยุบตัวลงไปได้ครับ

                ส่วนปุ่มนูนด้านหลังนั้นต้องออกแรงกันหน่อย

                เจ้าปุ่มนูนนี้จะมีอยู่สองแบบครับคือ ขนาดเล็ก และ ขนาดใหญ่

                ความแตกต่างระหว่างแบบเล็กกับใหญ่ก็คือ แบบปุ่มใหญ่จะแข็งแรงมั่นคงไม่หลวมคลอน

                เวลาเสียบหัวต่อจะสัมผัสกันได้ดีครับ แต่เวลาจะถอดขาในออกก็จะยากลำบากครับ

                แบบปุ่มเล็กนั้นพบเห็นกันได้ทั่วๆไป เพียงออกแรงดึงเล็กน้อยก็หลุดแล้ว

                ส่วนแบบปุ่มใหญ่นั้นจะพบเจอกับพวกมียี่ห้อครับ การจะเอาออกต้องมีวิธีการนิดหน่อยครับ

                Last edited by hangover; 26 Apr 2010, 20:40:11.

                Comment


                • #23
                  หลังจากรู้จักรูปร่างหน้าตากันแล้วก็ลงมือกันเลยครับ

                  เริ่มจากอุปกรณ์ที่ใช้ถอด มี เข็มหมุด ลวดเย็บกระดาษ และแกนกด

                  ตัวแกนกดนั้นผมใช้เสาอากาศวิทยุส่วนปลายสุดแบบที่เป็นแกนตัน

                  หรือใครจะใช้ตะปูขนาดพอเหมาะตัดปลายแหลมออกแล้วขัดหน้าตัดให้เรียบก็ได้ครับ



                  ปะเดิมกันด้วยตัวเมียก่อนครับ " Lady First "



                  1.นำลวดเย็บกระดาษมาดัดเป็นรูปตัว " L " แนะนำให้ใช้สองตัวติดกันจะดีที่สุดครับ
                  นำกระดาษกาวมาปิดที่ด้านปลายเพื่อช่วยในการจับให้ถนัดและป้องกันถูกจิ้มได้เลือด



                  2.สอดปลายลวดลงไปที่ด้านข้างกดลงไปให้สุดทั้งสองด้าน



                  3.ถ้าเป็นแบบปุ่มนูนเล็กออกแรงดึงสายไฟนิดหน่อยก็ออกครับ ถ้าไม่แน่ใจต้องใช้แกนกดครับ
                  โดยสอดปลายแกนลงไปตรงๆให้วางอยู่บนขาในแบบเต็ม อย่าเอียงหรือวางที่ขอบของขา
                  ใช้คีมหรือฆ้อนอันเล็กเคาะลงไป วิธีเคาะที่ดีคือใช้กำลังข้อมือตวัดอย่างเร็วกระแทกลงไปตรงๆ



                  4.อย่าลืมตรวจสภาพของขาในและหัวต่อหลังจากถอดออกมาแล้วด้วยนะครับ

                  Last edited by hangover; 26 Apr 2010, 20:23:55.

                  Comment


                  • #24
                    ต่อมาก็ถึงคิวตัวผู้ครับ วิธีการก็เหมือนเดิมเพียงแต่เปลี่ยนเป็นเข็มหมุดแทนลวดเย็บกระดาษครับ



                    1.นำปลายเข็มหมุดสอดลงไปที่ด้านข้างของขาทั้งสองด้านกดลงไปให้สุด



                    2.เอาแกนกดสอดลงไปเหมือนเดิม แล้วก็ทำแบบเดิมๆ เพราะฉะนั้นจึงได้ผลเหมือนเดิมแน่นอนครับ



                    3.อีกครั้งครับตรวจสภาพขาและหัวต่อเหมือนเดิมเพราะการถอดอาจทำให้ขาและหัวต่อไม่เหมือนเดิม
                    อาจชำรุดเสียหายได้ครับ เล่นกับไฟฟ้าต้องรอบคอบระมัดระวังครับ



                    จบแล้วครับผมตกหล่นอะไรไปบ้างก็บอกกันด้วยนะครับ

                    กล้องผมมันไม่ค่อยดีหรือว่าคนถ่ายมันห่วยก็ไม่ทราบ ถ่ายใกล้มากไม่ได้เลยไม่มีภาพขาในตัวเป็นๆมาให้ชม

                    หวังว่าทุกท่านคงทำได้ เอาน่าลูกผู้ชายเรื่องถอดเรื่องแยงของถนัดอยู่แล้วใจเย็นๆเดี๋ยวก็สำเร็จ

                    สิ่งสำคัญครับ จะถอดอะไรก็ถอดไป แต่อย่า " ถอดใจ " ครับ
                    Last edited by hangover; 26 Apr 2010, 20:30:43.

                    Comment


                    • #25
                      โห 2 มาตรฐาน

                      Comment


                      • #26
                        ทู้นี้แจ่มมากเลยครับ กำลังติดปัญหา8พินสั้นอยู่เลย สวรรค์โปรดจริงๆ
                        ขอบคุณมากคร๊าบบ

                        Comment


                        • #27
                          Originally posted by Merfo View Post
                          โห 2 มาตรฐาน
                          จุ๊ . . . จุ๊ . . . อย่าดังไปครับ . . . เดี๋ยวผมงานเข้า

                          เกือบสองเดือนแล้วครับไม่ต้องทำอะไรกันเลย . . . . . . .


                          ตอนแรกว่าจะส่งทั้งต้นและดอกพร้อมกันทีเดียว

                          เปลี่ยนใจแล้วครับเอาแบบผ่อนส่งไปก็แล้วกันครับ

                          ทยอยจ่ายวันละนิดละหน่อยไปเรื่อยๆครบเมื่อไหร่ไม่ทราบเหมือนกันครับ

                          ติดตามอ่านกันไปเพลินๆสบายๆครับ

                          นอกจากนี้มีของแถมเป็นค่าเสียเวลาด้วยครับ . . . . . . .

                          Comment


                          • #28
                            PSU ฉบับประสบการณ์

                            ปฐมบท

                            ก่อนอื่นขอทำความเข้าใจกันก่อนนะครับ

                            เนื้อหาที่จะนำเสนอต่อไปนี้เป็นเพียงการถ่ายทอดประสบการณ์การใช้งานและปัญหาที่เกิดขึ้นกับตัวผมเอง

                            ไม่ใช่การทดลองหรือทดสอบที่ต้องทำอย่างมีแบบแผนและได้มาตรฐานโดยอุปกรณ์และเครื่องมือที่เหมาะสม

                            อีกทั้งตัวผมเองก็ไม่ได้มีความรู้อะไรมากมาย เรื่องที่ผมรู้ก็แค่พื้นฐานทั่วๆไปไม่ได้รู้ลึก รู้จริง ไม่ใช่ผู้เชี่ยวชาญครับ

                            ดังนั้นสิ่งที่ผมจะนำเสนอต่อไปก็จะเป็นเพียงการบอกเล่าเรื่องราวที่ผมได้พบเจอจากการใช้งานครับ

                            เนื้อหาทั้งหมดท่านผู้อ่านจะเห็นด้วยหรือเห็นขัดแย้งอย่างไรก็เป็นเรื่องปกติครับ

                            สามารถแนะนำ ให้ความรู้เพิ่มเติม หรือทักท้วงได้ครับ ผมยินดีรับฟังทุกความคิดเห็นและพร้อมปรับปรุงแก้ไข

                            ถือว่าเป็นการแบ่งปันประสบการณ์ ความรู้เกี่ยวกับการใช้งาน PSU ก็แล้วกันครับ


                            ทำความรู้จักกับ PSU

                            http://www.star-circuit.com/article/POWER_SUPPLY01.html

                            http://www.star-circuit.com/article/POWER_SUPPLY02.html

                            http://www.star-circuit.com/article/POWER_SUPPLY03.html

                            http://www.star-circuit.com/article/POWER_SUPPLY04.html

                            http://pinouts.ru/Power/atx_v2_pinout.shtml



                            PSU แบบ AT



                            PSU แบบ ATX

                            ภาพด้านซ้ายคือหัวต่อไฟ MB แบบ AT ส่วนด้านขวาคือ ATX



                            http://reprap.org/wiki/PCPowerSupply?sortcol=1
                            Last edited by hangover; 13 May 2010, 03:49:31.

                            Comment


                            • #29
                              วัตถุประสงค์ของการต่อพ่วง PSU

                              การต่อ PSU มากกว่าหนึ่งตัวนั้น เท่าที่ทราบสามารถแบ่งออกได้สองแบบครับ

                              แบบแรก เป็นการต่อที่เน้นเสถียรภาพของการจ่ายไฟ กล่าวคือการต่อแบบนี้จะเน้นที่ความต่อเนื่องของการจ่ายไฟ

                              ในกรณีที่ PSU ตัวหลักไม่สามารถจ่ายไฟให้ระบบได้ PSU ตัวสำรองก็จะทำการจ่ายไฟแทนในทันที

                              โดยที่ PSU แต่ละตัวต้องสามารถจ่ายไฟได้ตามที่ระบบต้องการ

                              เช่นระบบใช้ไฟ 1000 W PSU ที่นำมาต่อแต่ละตัวก็จะต้องสามารถจ่ายไฟได้ 1000 W หรือมากกว่านั้น

                              ดังนั้นการต่อแบบนี้จะไม่ช่วยในเรื่องการเพิ่มกำลังไฟ จะพบเห็นการต่อลักษณะนี้กับเครื่องเมนเฟรมและเซิร์ฟเวอร์ครับ

                              แบบที่สอง เป็นการต่อที่เน้นกำลังไฟ โดยการนำ PSU มาต่อเพื่อเพิ่มกำลังไฟที่จ่ายให้กับระบบ

                              กำลังไฟที่จ่ายได้(โดยประมาณ)จะเท่ากับผลรวมของกำลังไฟที่ PSU แต่ละตัวสามารถจ่ายได้

                              เช่น 300 W+450 W+200 W = 950 W (โดยประมาณ) แต่ในทางปฏิบัติแล้วค่ากำลังไฟรวมจะต่ำกว่านั้น

                              (จุดนี้ผมไม่แน่ใจครับว่าจะได้ผลตามนั้นจริงๆ ใครที่พอจะมีความรู้ถ้าจะช่วยเพิ่มเติมแนะนำก็จะเป็นประโยชน์มากครับ)

                              การต่อรูปแบบนี้จะเป็นหัวข้อหลักที่ผมจะนำมาบอกเล่าสู่กันฟังครับ


                              วิธีการต่อพ่วง PSU

                              การนำ PSU หลายๆตัวมาต่อพ่วงกันเพื่อเพิ่มกำลังไฟนั้นเท่าที่ทราบสามารถทำได้สามแบบครับ

                              ซึ่งทั้งหมดก็เป็นวิธีที่ทราบๆกันดีอยู่แล้ว แต่ผมจะขอนำเสนอในแบบที่ผมทำเอาไว้ใช้งานนะครับ

                              วิธีที่หนึ่ง เป็นวิธีการต่อแบบง่ายๆไม่ยุ่งยากซับซ้อนอะไร จะเป็นการนำ PSU ตัวที่สอง-สาม-สี่ ...... มาต่อเสริมเข้าไป

                              จะทำเป็น External PSU หรือจะนำไปติดตั้งภายในเคสก็ได้แล้วแต่สะดวกครับ

                              วิธีการทำก็โดยนำ PSU แบบ ATX มาต่อสายไฟเข้ากับขาที่เป็นสายสีเขียว และขากราวด์สายสีดำขาใดก็ได้

                              จะใช้วิธีเสียบสายไฟลงไปโดยตรงแล้วใช้ท่อหดช่วยยึดสายไฟกับขั้วต่อก็ได้ครับ

                              หรือใครชอบแบบเรียบร้อยก็ไปหาขั้วต่อตัวเมียมาเข้าสายแล้วนำมาเสียบก็ดีครับ

                              ปลายสายไฟอีกด้านก็ต่อเข้ากับสวิทช์ เปิด-ปิด เวลาใช้งานเพียงกดสวิทช์ PSU ก็จะทำงานจ่ายไฟให้โหลดครับ



                              ส่วน PSU แบบ AT นั้นไม่ต้องทำอะไรเพิ่มเติมเลยครับสามารถนำมาใช้งานได้ทันที

                              ทั้งนี้เป็นเพราะมีสวิทช์ เปิด-ปิด โดยตรงอยู่แล้วครับ

                              การต่อแบบนี้ผมใช้งานมาอย่างต่อเนื่องเพราะเป็นเรื่องสะดวกง่ายและปลอดภัย

                              ข้อดี สามารถช่วยจ่ายไฟให้กับอุปกรณ์เสริมเช่น พัดลม ไฟแต่งเคส ฯลฯ

                              เป็นการลดภาระให้กับ PSU ตัวหลักไม่ต้องทำงานหนักเกินไป

                              ข้อเสีย ประสิทธิภาพการจ่ายไฟจะทำได้ไม่เต็มที่ ช่วยแบ่งเบาภาระของ PSU ตัวหลักได้ในระดับนึงเท่านั้น

                              การติดตั้งภายในเคสอาจต้องมีการดัดแปลงสภาพ ส่วนการติดตั้งภายนอกจำเป็นต้องทำพอร์ตหรือช่องสำหรับเชื่อมต่อสายไฟ

                              การใช้สวิทช์ เปิด-ปิด ผู้ใช้ต้องทำการกดด้วยตัวเอง
                              Last edited by hangover; 6 Jun 2010, 03:10:41.

                              Comment


                              • #30
                                วิธีที่สอง เป็นการปรับปรุงการต่อแบบแรกให้ใช้งานได้สะดวกยิ่งขึ้นครับ

                                การต่อเชื่อมอุปกรณ์ก็จะทำคล้ายๆกันกับแบบแรกเพียงแต่ปรับปรุงวิธีการเปิด PSU ตัวที่สอง-สาม-สี่ .........

                                วิธีแบบแรกนั้นเราต้องเปิด - ปิด PSU ด้วยตัวเอง แต่วิธีที่สองนี้การเปิด - ปิด จะกระทำพร้อมไปกับการเปิด - ปิดเครื่องคอม ฯ

                                โดยอาศัยอุปกรณ์ช่วยทำหน้าที่เป็นสวิทช์อัตโนมัติ อุปกรณ์ที่นำมาใช้ได้แก่ รีเลย์ อุปกรณ์พวกโฟโต้อิเลกทริค ฯลฯ

                                หลักการทำงานก็คือ เมื่อเราเปิดเครื่องคอมฯกระแสไฟจาก PSU ตัวหลัก

                                จะไปกระตุ้นให้อุปกรณ์ที่ทำหน้าที่เป็นสวิทช์อัตโนมัติทำงานคือการเชื่อมวงจร

                                เป็นผลให้มีกระแสไฟไหลระหว่างขา Power Supply On ( สายสีเขียว )

                                กับขากราวด์ ( สายสีดำ ) ของ PSU ตัวที่สอง ซึ่งก็คือการเปิด PSU ตัวที่สองนั่นเอง

                                เมื่อเราปิดเครื่องคอมฯ PSU ตัวหลักหยุดทำงาน

                                ก็จะไม่มีกระแสไฟไหลผ่านอุปกรณ์ที่ทำหน้าที่สวิทช์อัตโนมัติ

                                ซึ่งจะเป็นการตัดการเชื่อมต่อระหว่างขา Power Supply On กับขากราวด์ของ PSU ตัวที่สอง

                                PSU ตัวที่สองก็จะหยุดการทำงานตามไปด้วยครับ



                                รูปวงจรแบบที่ใช้รีเลย์



                                รูปวงจรแบบที่ใช้ตัว Optoisolators เบอร์ MOC8050



                                รูปตำแหน่งการวางอุปกรณ์บนแผ่น PCB ด้านซ้ายเป็นรีเลย์ ด้านขวาก็จะเป็นตัว Opto

                                หลักการทำงานของวงจรคือเมื่อเปิดเครื่องกระแสไฟจาก PSU ตัวที่หนึ่งจะถูกส่งผ่านไปยังวงจรควบคุมแรงเคลื่อน

                                เพื่อให้มีค่าแรงดันคงที่เท่ากับ 5 V ก่อนที่จะส่งต่อไปยังรีเลย์ หรือตัว Opto

                                เมื่อมีกระแสไหลในขดลวดรีเลย์ ก็จะทำให้สวิทช์สัมผัสทำงานเชื่อมต่อขา Com กับขา No

                                ส่วนวงจรที่ใช้ตัว Opto ก็มีลักษณะคล้ายกันคือ

                                เมื่อมีการป้อนกระแสให้ตัวโฟโต้ไดโอด ( input ) ทำงาน

                                จะไปกระตุ้นให้ทรานซิสเตอร์ ( output ) ที่ต่อกันแบบดาร์ลิงตัน ( ขยายกระแส ) ทำงาน

                                เป็นการเชื่อมต่อกระแสระหว่างขา Power Supply On ( สายสีเขียว )

                                กับขากราวด์ ( สายสีดำ ) ของ PSU ตัวที่สอง ซึ่งก็คือการเปิด PSU ตัวที่สองนั่นเอง

                                ที่ใช้วงจรควบคุมแรงเคลื่อนเพื่อให้รีเลย์ทำงานแบบเสถียรครับ

                                โดยทั่วไปถ้าแรงเคลื่อนของ PSU ตัวแรกตก อาจส่งผลให้รีเลย์ไม่ทำงานครับ

                                นั้นก็คือ PSU ตัวที่สองจะหยุดทำงาน อุปกรณ์ที่รับไฟจาก PSU ตัวนี้ก็จะหยุดทำงาน

                                การต่อวงจรควบคุมแรงเคลื่อนจะช่วยรักษาระดับแรงเคลื่อนที่ 5 V อย่างสม่ำเสมอ

                                ไม่ว่า PSU ตัวแรกไฟจะตกมากน้อยแค่ไหนครับ

                                อุปกรณ์

                                1. Regulator IC เบอร์ 7805 ( 5 v )

                                2. C ค่า 0.1 uF หรือมากกว่า ( ใช้สำหรับดักสัญญาณที่จะมารบกวน IC )

                                3. R ใช้ค่า 200 - 330 โอห์ม 1/2 W ( ใช้สำหรับจำกัดกระแสที่ป้อนให้ LED และ Tr )

                                4. D ใช้เบอร์ 1N4001 - 1N4007 ตัวใดก็ได้หรือเบอร์อื่นๆก็ได้เหมือนกันครับ ( ป้องกันกระแสรีเลย์ย้อนกลับ )

                                5. รีเลย์ 5 v

                                6. Opto เบอร์ MOC8050





                                รูปตัวจริงจะไม่เหมือนกับวงจรที่แสดงไว้ด้านบนนะครับ

                                เพราะรูปด้านบนจะเป็นการแก้ไขจัดอุปกรณ์ใหม่จากของเดิม ( ตัวจริง )





                                นำปลายสายสีเขียวและสีดำไปเข้าหัว 20 พินตัวเมียเพื่อใช้ต่อกับหัว 20 พินตัวผู้ของ PSU ตัวที่สอง


                                ข้อดี - ข้อเสีย จะเหมือนกับแบบแรกครับ แตกต่างกันตรงที่มีข้อดีคือไม่ต้องเปิด - ปิดเอง

                                สามารถเปิด - ปิด การทำงานของ PSU ตัวที่สองพร้อมกับ PSU ตัวหลักครับ
                                Last edited by hangover; 6 Jun 2010, 05:06:12.

                                Comment

                                Working...
                                X