Announcement

Collapse
No announcement yet.

ความรู้เรื่องฉ้อโกงสำหรับชาวOCZครับ

Collapse
X
 
  • Filter
  • Time
  • Show
Clear All
new posts

  • #31
    จะเป็นไปได้ไหม ถ้าทำสัญญาการซื้อขายกันก่อน - -*

    แบบทำในเว็บไรงี้อะครับ

    Comment


    • #32
      กระทู้ดีมีประโยชน์ยิ่ง...

      Comment


      • #33
        Originally posted by hidetotasu View Post
        จะเป็นไปได้ไหม ถ้าทำสัญญาการซื้อขายกันก่อน - -*

        แบบทำในเว็บไรงี้อะครับ
        กำลังจะพูดถึงเลยครับ
        ตกลงกันก่อนว่า จะมีเงื่อนไข-เงื่อนเวลา อะไรบ้าง
        จ่ายเงินอย่างไร แล้วทำสัญญาซื้อขายแบบง่ายๆขึ้นมาฉบับหนึ่งเป็นไฟล์ word หรือ pdf ส่งให้อีกฝ่ายดู
        มีให้ลงลายเซ็นต์ผู้ซื้อ ผู้ขาย พยาน2คน(พยานห้ามลงไว้ก่อนล่วงหน้านะ ลงขณะทำนิติกรรมกัน)
        เวลานัดดูของก็Print สัญญาไปให้เซ็นต์ให้เรียบร้อย
        ถ้าส่งEMS อันนี้ผมขออภัยที่ไม่แน่ใจในทางปฏิบัตินะครับว่าจะทำกันอย่างไรถึงจะเป็นที่ยอมรับในวงกว้าง
        แต่แนวทางที่จะเสนออย่างง่ายคือ ใช้ลงลายเซ็นต์อิเลกทรอนิคส์ใน pdf แ้ล้ว screenshot มาแปะที่กระทู้ ครับ
        [ลองศึกษา "พระราชบัญญัติว่าด้วยธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ พ.ศ. ๒๕๔๔" เพิ่มเติมแล้วหาแนวทางดูครับ]
        หรือ Verified member ครับ

        อันนนี้มีบัญญัติไว้ในประมวลกฎหมายแพ่ง-พาณิชย์
        มาตรา 456 การซื้อขายอสังหาริมทรัพย์ ถ้ามิได้ทำเป็นหนังสือและจดทะเบียนต่อพนักงานเจ้าหน้าที่เป็นโมฆะ วิธีนี้ให้ใช้ถึงซื้อขายเรือมีระวางตั้งแต่ห้าตันขึ้นไป ทั้งซื้อขายแพและสัตว์พาหนะด้วย
        สัญญาจะขายหรือจะซื้อ หรือคำมั่นในการซื้อขายทรัพย์สินตามที่ระบุไว้ในวรรคหนึ่ง ถ้ามิได้มีหลักฐานเป็นหนังสืออย่างหนึ่งอย่างใดลงลายมือชื่อฝ่ายผู้ต้องรับ ผิดเป็นสำคัญ หรือได้วางประจำไว้ หรือได้ชำระหนี้บางส่วนแล้ว จะฟ้องร้องให้บังคับคดีหาได้ไม่
        บทบัญญัติที่กล่าวมาในวรรคก่อนนี้ ให้ใช้บังคับถึงสัญญาซื้อขายสังหาริมทรัพย์ ซึ่งตกลงกันเป็นราคาสองหมื่นบาท หรือกว่านั้นขึ้นไปด้วย

        ทั้งนี้ทั้งนั้น สินค้าที่ราคาต่ำกว่านี้ ไม่ได้บังคับให้ต้องทำเป็นหนังสือ จดทะเบียนตามแบบฯ เราสามารถทำขึ้นมาเพื่อกันตัวเราออกจากข้อพิพาทได้ครับ



        ด้วยความเคารพในความคิดเห็น ท่านใดมีความรู้แลกเปลี่ยน ทักท้วงได้ครับ
        Last edited by izank; 20 Mar 2010, 15:22:21.

        Comment


        • #34
          เอ่ออย่าไปไกลถึงอสังหาฯเลยท่าน เพราะที่รามกฎหมาย เกี่ยวกับการซื้อ-ขาย ทรัพย์สิน นี่เรียนกันเป็นเทอมๆเลยนะกว่าจะเข้าใจ ผมว่าเอาแค่ scope ไว้แค่การฉ้อโกงก็พอครับเดี๋ยวไปไกลยิ่งไกลยิ่งลึกคนยิ่งงง

          Comment


          • #35
            แล้วถ้าเป็นประมาณในกระทู้นี้ล่ะครับ สามารถดำเนินการใด ๆ ได้หรือไม่

            http://forums.overclockzone.com/foru...d.php?t=779425

            ถ้าขี้เกียจอ่านผมมีสรุปไว้ดังด้านล่างนี้

            ข้อความที่ quote มา มีการแก้ไขบางช่วงออก

            Originally posted by graphizx
            สรุปให้โดยคร่าว ๆ ครับ ตรงไหนถูกไม่ถูกช่วยบอกด้วยนะครับ

            เรื่องทั้งหมดมันมีอยู่ว่า น้อง จขกท. เนี่ย ลงขาย บีบีปลอม ซึ่ง โดยที่สเปคที่ลงนั้นเป็นสเปคของเครื่องแท้
            และรูปถ่ายต่าง ๆ ที่เค้าเอามาลงเนี่ย มันก็ไม่ใช่รูปที่เค้าถ่ายเอง
            บางรูปก็ไปก๊อปจากที่โพสต์ขายใน ocz เนี่ยล่ะครับ

            แล้วก็มีคนมาเห็นกระทู้นี้เข้า
            น้องเค้าก็เลยลบรายละเอียดกระทู้ทิ้ง (แต่โชคดีที่ยังมีบางท่านกดก๊อปข้อความพวกนั้นไว้ทัน)
            มันก็เลยเป็นต้นเหตุของเรื่องทั้งหมด

            และพอมีคนเริ่มตั้งข้อสงสัยต่าง ๆ นานา ๆ
            จขกท. ก็ออกมาบอกว่า "ที่เค้าโพสต์เนี่ย มีคนฝากเค้าโพสต์ เค้าไม่เกี่ยวอะไรเลย ไม่รู้อะไรเลย"
            หลังจากนั้น ก็เป็นการตั้งข้อสงสัยกันต่าง ๆ นานา ตามประเด็นที่ จขกท. หลุดมาเอง
            และ จขกท. ก็เปลี่ยนคอมเม้สต์หน้าหน้าแรกของเค้า เป็น "ผมถูกหลอก บลา บลา ๆ"

            และต่อมาผมก็เอาประเด็น "เลขบัญชีและเบอร์ติดต่อที่ลงไว้ในกระทู้ต้นเหตุนี้เป็นของจขกท. เอง "
            ซึ่งทำให้เห็นว่า จขกท. ต้องได้ผลประโยชน์จากการตั้งกระทู้ และถ้ามีการซื้อ-ขายนั้น เงินจะไปที่ จขกท.ก่อน
            แต่ในตอนแรก จขกท. บอกว่า เค้าไม่เกี่ยวกัน เค้าเอามาลงโพสต์ให้เฉย ๆ

            (ประเด็นที่คุณเกดโทรไป ผมตัดออกก่อนนะครับ เพราะถ้าเอามาสรุปมันจะพาลให้คนอ่านงง)

            หลังจากนั้น จขกท. ไปแจ้งความลงบันทึกประจำวัน
            จับใจความในใบแจ้งได้ว่า "มีคนแอบอ้างเป็นเค้ามาลงกระทู้ใน ocz"
            ซึ่งมันไม่ใช่ และไม่รู้ไปเอามาจากไหน ว่ามีคนแอบอ้างเป็นเค้า
            และ จขกท. กระทู้ชวนพิสูจน์ว่า ใบแจ้งความปลอมหรือไม่
            (... ซึ่งตรงนี้ไม่มีใครจุดประเด็นขึ้นมาเลย เค้าชงของเค้าเอง ...)


            ต่อมา จขกท. ก็บอกว่า เงินที่ซื้อขายกันต้องโอนมาที่เค้าก่อน
            และเค้าถึงจะโทรไปสั่งของและโอนเงินไปให้คนที่ฝากขาย
            ซึ่ง จขกท. บอกว่าไม่รู้จริง ๆ นะ ว่าเค้าเป็นใคร ไม่มีข้อมูล
            แต่ถ้าเกิดซื้อขายกันเนี่ย สามารถโอนเงินไปยังคนฝากขายได้ (แล้วไหนว่าไม่รู้จัก)

            ต่อจากนั้น ก็ดริฟ ไปดริฟมา สมัครใหม่บ้าง เอาใครก็ไม่รู้มาเบรคบ้างล่ะ
            โดยที่ยังไม่ยอมบอกถึงคนที่ฝากมาโพสต์เลยแม้แต่น้อย

            ต่อมา ผมว่าง ๆ ก็เลยโทรไปอำคนที่ จขกท. อ้างอิงว่าฝากขาย
            ก็พอสรุปได้ว่า เค้าหลอกขายของจริง ๆ ล่ะ
            โดยตอนนี้ ผมได้ ชื่อ / เลขบัญชี / ที่อยู่ / ที่อาศัยปัจจุบัน

            เค้าอ้างอิงว่าถูกหลอก ถึงกับไปแจ้งความ
            แต่ในเนื้อหาการแจ้งความไม่มีข้อมูลเกี่ยวกับคนที่เค้าอ้างอิงเลย
            จขกท. รับฝากโพสต์ รับเป็นคนกลางขายของ แต่ไม่รู้อะไรเกี่ยวกับคนฝากขายเลย

            Comment


            • #36
              Originally posted by Khow View Post
              เอ่ออย่าไปไกลถึงอสังหาฯเลยท่าน เพราะที่รามกฎหมาย เกี่ยวกับการซื้อ-ขาย ทรัพย์สิน นี่เรียนกันเป็นเทอมๆเลยนะกว่าจะเข้าใจ ผมว่าเอาแค่ scope ไว้แค่การฉ้อโกงก็พอครับเดี๋ยวไปไกลยิ่งไกลยิ่งลึกคนยิ่งงง
              ขอโทษด้วยครับ เผอิญพิมพ์ตกข้อความสำคัญไป
              ตอนนี้แก้ไขแล้วครับ

              เอาเป็๋นว่า เรามาเข้าประเด็นเฉพาะเรื่องๆ เป็นประเด็นไปดีกว่า


              ด้วยความเคารพในความคิดเห็น ท่านใดมีความรู้แลกเปลี่ยน ทักท้วงได้ครับ

              Comment


              • #37
                Originally posted by graphizx View Post
                แล้วถ้าเป็นประมาณในกระทู้นี้ล่ะครับ สามารถดำเนินการใด ๆ ได้หรือไม่

                http://forums.overclockzone.com/foru...d.php?t=779425

                ถ้าขี้เกียจอ่านผมมีสรุปไว้ดังด้านล่างนี้

                ข้อความที่ quote มา มีการแก้ไขบางช่วงออก

                เรื่องนี้ ก่อนอื่นต้องยกนิ้วให้กับ comment ก่อนหน้าๆ นี้ครับที่ยกองค์ประกอบสำคัญออกมา ให้ทราบกันที่ผมไม่ได้กล่าวถึงไว้ นั่นคือ ก่อนอื่นต้องดูที่ เจตนา ครับ อันนี้สำคัญอันดับ1
                และต้องเป็น เจตนาทุจริต ด้วยครับ
                ขอแยกเป็นประเด็นๆไปครับ
                ประเด็นแรก หากพิจารณาจากพฤติการณ์โดยย่อแล้ว ยังไม่มีผู้ใดเป็นผู้เสียหาย เพราะจับไต๋ได้ก่อน จึงเป็น "พยายาม" ครับ [ข้อเท็จจริง เป็นอย่างไรผมไม่ทราบครับ โดยวิสัยแล้ว ตำรวจจะไม่เดาเหตุการณ์เองครับ ต้องพิจารณาจากหลักฐานที่แต่ละฝ่ายได้ยกขึ้นมา ตามจรรยาบรรณของพนักงานสอบสวน]
                ซึ่งทางปฏิบัติแล้ว ถ้ายังไม่ปรากฎว่ามีผู้เสียหาย ก็จะเรียกมาเคลียร์-ขอโทษ-ลงประจำวัน ต่อหน้าพยานในเหตุการณ์ ยกเว้นมันเป็นเรื่องฉ้อโกงประชาชน เป็นอาญาแผ่นดิน ยอมความไม่ได้

                ประเด็นที่สอง ยังไม่มีการแจ้งความเท็จครับ เพราะ การลงประจำวันไว้เป็นหลักฐานนั้น ยังไม่มีการรับเลขคดี หรือยังไม่ปรากฎเหตุและพฤติการณ์ที่บ่งชี้ได้ว่ามีการกล่าวหาบุคคลที่สาม.....(มันยาว เอาเป็นว่า ยังไม่ผิดอะไรครับ)
                ประเด็นที่สาม ลองตั้งประเด็นทีละอย่างครับ
                3.1 มีการแอบอ้างอย่างไร เมื่อใด
                3.2 ใครแอบอ้าง
                3.3 เลขที่บัญชีดังกล่าวที่ปรากฎเป็นของใคร
                3.4 บุคคลที่ไปลงบันทึกประจำวันไว้นั้น กับผู้ที่นำมาโพสให้ดู เป็นคนเดียวกันหรือไม่ อย่างไร
                3.5 หากได้รับเงินโอนเข้าบัญชี จะทำอย่างไรกับเงินที่รับโอนเข้ามา หรือ โอนต่อไปที่ไหน ถ้าโอนต่อ บุคคลผู้รับโอนอีกทอดหนึ่ง เกี่ยวข้องอย่างไรกับท่าน รู้จักกันได้อย่างไร ตั้งแต่เมื่อไหร่ พร้อมเบอร์โทรศัพท์ติดต่อ

                นี่เป็นประเด็นคำถามคร่าวๆที่พนักงานสอบสวนจะ้ใช้ถามนะครับ

                อันนี้ผมไม่ขอชี้โพรงและไม่มีเจตนาให้นำไปเป็นการข่มขู่ใครในทางกฎหมายนะครับ
                แต่อยากให้ คุย และชี้แจง เป้นกรณีๆมากกว่า ถ้าผิดจริงและยังไม่มีผู้เสียหาย ก็ให้ขอโทษ ด้วยวิธีการใดก็แล้วแต่สมควร พร้อมกับ บทกำหนดโทษจากสังคมเช่นการตราหน้า ฯลฯ ที่ควรจะให้เป็นไป ตามสมควรแก่เหตุครับ
                เพราะบางที บางคน กระทำไปโดยรู้เท่าไม่ถึงการณ์ อยากลอง แต่ไม่คิดให้รอบคอบซะก่อน
                หรือ คิดเห็นอย่างไร ควรระดมสมองกันครับ ช่วยกันหาทางออก


                ด้วยความเคารพในความคิดเห็น ท่านใดมีความรู้แลกเปลี่ยน ทักท้วงได้ครับ

                Comment


                • #38
                  อธิบายกันงงกับมาตรา 456
                  ปพพ. มาตรา ๔๕๖
                  การซื้อขายอสังหาริมทรัพย์
                  ถ้ามิได้ทำเป็นหนังสือ และจดทะเบียนต่อพนักงานเจ้าหน้าที่เป็นโมฆะ วิธีนี้ ให้ใช้ถึงซื้อขาย เรือ มีระวางตั้งแต่ห้าตันขึ้นไป ทั้งซื้อขาย แพ และสัตว์พาหนะด้วย
                  สัญญาจะขายหรือจะซื้อหรือคำมั่นในการซื้อขายทรัพย์สิน ตามที่ระบุไว้ในวรรคหนึ่ง ถ้ามิได้มีหลักฐานเป็นหนังสือ อย่างหนึ่งอย่างใดลงลายมือชื่อ ฝ่ายผู้ต้องรับผิดเป็นสำคัญหรือได้วางประจำไว้หรือได้ชำระหนี้บางส่วนแล้วจะฟ้องร้องให้บังคับคดีหาได้ไม่
                  บทบัญญัติ ที่กล่าวมาในวรรคก่อนนี้ให้ใช้บังคับถึงสัญญาซื้อขาย สังหาริมทรัพย์ ซึ่ง ตกลงกันเป็นราคาสองหมื่นบาทหรือกว่านั้นขึ้นไปด้วย


                  มาตรานี้ วรรค 1 วางหลักเรื่องการซื้อขาย อสังหาริมทรัพย์และสังหาริมทรัพย์พิเศษจะต้อง ทำ เป็นหนังสือ และ จดทะเบียน ต่อ พนักงานเจ้าหน้าที่


                  ส่วนวรรค 2 พูดถึงเรื่องสัญญาจะซื้อจะขาย / คำมั่น ต้องมีหลักฐานเป็นหนังสือ ลงลายมือชื่อ ฝ่ายผู้ต้องรับผิด เป็นสำคัญ มิฉะนั้นจะฟ้องร้อง (ทางแพ่ง) ไม่ได้
                  ไม่ใช่ไปบังคับให้ทำสัญญาเป็นหนังสือนะครับแค่มีหลักฐานเป็นหนังสือ เช่น ใบเสร็จรับเงิน


                  ส่วนวรรค 3 กล่าวเพิ่มเติมให้เอาวรรค 2 มาใช้กับสัญญาซื้อขาย สังหาริมทรัพย์ ซึ่ง ตกลงกัน เป็นราคา สองหมื่นบาท หรือ กว่านั้นขึ้นไปด้วย คือต้องมีหลักฐานเป็นหนังสือ ลงลายมือชื่อ ฝ่ายผู้ต้องรับผิด เป็นสำคัญ

                  ตรงนี้เป็นกฎหมายแพ่งล้วนๆครับผมเพิ่มเติมให้นะครับใน rep ที่ถัดขึ้นไป 3 rep

                  Comment


                  • #39
                    Originally posted by Khow View Post
                    อธิบายกันงงกับมาตรา 456
                    ปพพ. มาตรา ๔๕๖
                    การซื้อขายอสังหาริมทรัพย์
                    ถ้ามิได้ทำเป็นหนังสือ และจดทะเบียนต่อพนักงานเจ้าหน้าที่เป็นโมฆะ วิธีนี้ ให้ใช้ถึงซื้อขาย เรือ มีระวางตั้งแต่ห้าตันขึ้นไป ทั้งซื้อขาย แพ และสัตว์พาหนะด้วย
                    สัญญาจะขายหรือจะซื้อหรือคำมั่นในการซื้อขายทรัพย์สิน ตามที่ระบุไว้ในวรรคหนึ่ง ถ้ามิได้มีหลักฐานเป็นหนังสือ อย่างหนึ่งอย่างใดลงลายมือชื่อ ฝ่ายผู้ต้องรับผิดเป็นสำคัญหรือได้วางประจำไว้หรือได้ชำระหนี้บางส่วนแล้วจะฟ้องร้องให้บังคับคดีหาได้ไม่
                    บทบัญญัติ ที่กล่าวมาในวรรคก่อนนี้ให้ใช้บังคับถึงสัญญาซื้อขาย สังหาริมทรัพย์ ซึ่ง ตกลงกันเป็นราคาสองหมื่นบาทหรือกว่านั้นขึ้นไปด้วย


                    มาตรานี้ วรรค 1 วางหลักเรื่องการซื้อขาย อสังหาริมทรัพย์และสังหาริมทรัพย์พิเศษจะต้อง ทำ เป็นหนังสือ และ จดทะเบียน ต่อ พนักงานเจ้าหน้าที่


                    ส่วนวรรค 2 พูดถึงเรื่องสัญญาจะซื้อจะขาย / คำมั่น ต้องมีหลักฐานเป็นหนังสือ ลงลายมือชื่อ ฝ่ายผู้ต้องรับผิด เป็นสำคัญ มิฉะนั้นจะฟ้องร้อง (ทางแพ่ง) ไม่ได้
                    ไม่ใช่ไปบังคับให้ทำสัญญาเป็นหนังสือนะครับแค่มีหลักฐานเป็นหนังสือ เช่น ใบเสร็จรับเงิน


                    ส่วนวรรค 3 กล่าวเพิ่มเติมให้เอาวรรค 2 มาใช้กับสัญญาซื้อขาย สังหาริมทรัพย์ ซึ่ง ตกลงกัน เป็นราคา สองหมื่นบาท หรือ กว่านั้นขึ้นไปด้วย คือต้องมีหลักฐานเป็นหนังสือ ลงลายมือชื่อ ฝ่ายผู้ต้องรับผิด เป็นสำคัญ

                    ตรงนี้เป็นกฎหมายแพ่งล้วนๆครับผมเพิ่มเติมให้นะครับใน rep ที่ถัดขึ้นไป 3 rep
                    ดีมากเลยครับ เป็นประโยชน์อย่างยิ่ง^^

                    Comment


                    • #40
                      ผมก็เคยเรียนนะ แต่อ่านกี่ทีๆ ผมก็งงอยู่ดี - -*


                      ถ้าทำสัญญากันในเว็บได้ ผมคิดว่าอาจจะช่วยลดปัญหาลงได้บ้างละนะ

                      ไงก็ขอบคุณเจ้าของกะทู้มากครับ

                      Comment


                      • #41
                        Originally posted by hidetotasu View Post
                        ผมก็เคยเรียนนะ แต่อ่านกี่ทีๆ ผมก็งงอยู่ดี - -*


                        ถ้าทำสัญญากันในเว็บได้ ผมคิดว่าอาจจะช่วยลดปัญหาลงได้บ้างละนะ

                        ไงก็ขอบคุณเจ้าของกะทู้มากครับ

                        ขอบคุณครับ ยังไงก็ช่วยๆกันสร้างสรรสังคมที่ดีครับ

                        ถ้าผมจะส่งหนังสือคำอธิบาย พรบ.ว่าด้วยการกระทำผิดทางคอมพิวเตอร์ พ.ศ.2550
                        ของ อาจารย์พ่อ พวกผม "พ.ต.อ.พงศ์พิษณุ ภักดีณรงค์"
                        ไปให้ทีมงาน ocz นี่จะรับไว้ ศึกษาแล้วให้คำแนะนำผู้ใช้ชาวocz ทุกท่านได้รึเปล่าครับเนี่ย
                        พรบ.ฉบับนี้คอนข้างแรงเอาการเลยสำหรับชาวเน็ต
                        อ่านเข้าใจง่ายเพราะเป็นนิยายสั้นๆ อธิบายทุกมาตรา

                        Comment


                        • #42
                          Originally posted by izank View Post
                          เรื่องนี้ ก่อนอื่นต้องยกนิ้วให้กับ comment ก่อนหน้าๆ นี้ครับที่ยกองค์ประกอบสำคัญออกมา ให้ทราบกันที่ผมไม่ได้กล่าวถึงไว้ นั่นคือ ก่อนอื่นต้องดูที่ เจตนา ครับ อันนี้สำคัญอันดับ1
                          และต้องเป็น เจตนาทุจริต ด้วยครับ
                          ขอแยกเป็นประเด็นๆไปครับ
                          ประเด็นแรก หากพิจารณาจากพฤติการณ์โดยย่อแล้ว ยังไม่มีผู้ใดเป็นผู้เสียหาย เพราะจับไต๋ได้ก่อน จึงเป็น "พยายาม" ครับ [ข้อเท็จจริง เป็นอย่างไรผมไม่ทราบครับ โดยวิสัยแล้ว ตำรวจจะไม่เดาเหตุการณ์เองครับ ต้องพิจารณาจากหลักฐานที่แต่ละฝ่ายได้ยกขึ้นมา ตามจรรยาบรรณของพนักงานสอบสวน]
                          ซึ่งทางปฏิบัติแล้ว ถ้ายังไม่ปรากฎว่ามีผู้เสียหาย ก็จะเรียกมาเคลียร์-ขอโทษ-ลงประจำวัน ต่อหน้าพยานในเหตุการณ์ ยกเว้นมันเป็นเรื่องฉ้อโกงประชาชน เป็นอาญาแผ่นดิน ยอมความไม่ได้

                          ประเด็นที่สอง ยังไม่มีการแจ้งความเท็จครับ เพราะ การลงประจำวันไว้เป็นหลักฐานนั้น ยังไม่มีการรับเลขคดี หรือยังไม่ปรากฎเหตุและพฤติการณ์ที่บ่งชี้ได้ว่ามีการกล่าวหาบุคคลที่สาม.....(มันยาว เอาเป็นว่า ยังไม่ผิดอะไรครับ)
                          ประเด็นที่สาม ลองตั้งประเด็นทีละอย่างครับ
                          3.1 มีการแอบอ้างอย่างไร เมื่อใด
                          3.2 ใครแอบอ้าง
                          3.3 เลขที่บัญชีดังกล่าวที่ปรากฎเป็นของใคร
                          3.4 บุคคลที่ไปลงบันทึกประจำวันไว้นั้น กับผู้ที่นำมาโพสให้ดู เป็นคนเดียวกันหรือไม่ อย่างไร
                          3.5 หากได้รับเงินโอนเข้าบัญชี จะทำอย่างไรกับเงินที่รับโอนเข้ามา หรือ โอนต่อไปที่ไหน ถ้าโอนต่อ บุคคลผู้รับโอนอีกทอดหนึ่ง เกี่ยวข้องอย่างไรกับท่าน รู้จักกันได้อย่างไร ตั้งแต่เมื่อไหร่ พร้อมเบอร์โทรศัพท์ติดต่อ

                          นี่เป็นประเด็นคำถามคร่าวๆที่พนักงานสอบสวนจะ้ใช้ถามนะครับ

                          อันนี้ผมไม่ขอชี้โพรงและไม่มีเจตนาให้นำไปเป็นการข่มขู่ใครในทางกฎหมายนะครับ
                          แต่อยากให้ คุย และชี้แจง เป้นกรณีๆมากกว่า ถ้าผิดจริงและยังไม่มีผู้เสียหาย ก็ให้ขอโทษ ด้วยวิธีการใดก็แล้วแต่สมควร พร้อมกับ บทกำหนดโทษจากสังคมเช่นการตราหน้า ฯลฯ ที่ควรจะให้เป็นไป ตามสมควรแก่เหตุครับ
                          เพราะบางที บางคน กระทำไปโดยรู้เท่าไม่ถึงการณ์ อยากลอง แต่ไม่คิดให้รอบคอบซะก่อน
                          หรือ คิดเห็นอย่างไร ควรระดมสมองกันครับ ช่วยกันหาทางออก


                          ด้วยความเคารพในความคิดเห็น ท่านใดมีความรู้แลกเปลี่ยน ทักท้วงได้ครับ
                          ขอบคุณครับ ที่สอบถามเพราะต้องการแนวทางในการดำเนินการต่อไปครับ

                          Comment


                          • #43
                            Originally posted by graphizx View Post
                            ขอบคุณครับ ที่สอบถามเพราะต้องการแนวทางในการดำเนินการต่อไปครับ
                            ยินดีครับ ก็ต้องติดตามกันต่อไป
                            ลองเรียงเหตุการณ์ดูครับ แยกแต่ละช่วงเวลา แล้วถามเจ้าตัวทีละประเด็น
                            รายละเอียดตามสภาพความเป้นจริง Who What Where When Why
                            ถ้ามีเจตนาทุจริต จะเริ่มตอบไม่สอดคล้องกับ Record ประเด็นที่เคยถามก่อนหน้านั้น

                            บางครั้งเรื่องราวที่ใหญ่โต อาจเกิดจากการ
                            เข้าใจผิดและใจร้อนไปหน่อยครับ

                            ด้วยความเคารพในความเห็น สามารถท้วงติงแลกเปลี่ยนความรู้ได้ครับ

                            Comment


                            • #44
                              ตำรวจดีมีอยู่ที่นี่แล้ว


                              อย่าว่าผมเลยนะ พึ่งเคยเห็นจริงๆ

                              ขอไปขูดแถวๆแขนได้ไหมครับเผื่อได้เลขเด็ด ^^

                              Comment


                              • #45
                                Originally posted by hidetotasu View Post
                                ตำรวจดีมีอยู่ที่นี่แล้ว


                                อย่าว่าผมเลยนะ พึ่งเคยเห็นจริงๆ

                                ขอไปขูดแถวๆแขนได้ไหมครับเผื่อได้เลขเด็ด ^^
                                ขอบคุณมากครับสำหรับกำลังใจ^^

                                อยากให้ลองอ่านดูครับ เป็นทัศนะเรื่องตำรวจของผมต่อสังคมไทย
                                ขอกล่าวในฐานะที่ผมก็เป็นข้าราชการตำรวจคนนึงนะครับ
                                จริงๆแล้วตำรวจเกือบทุกคนอยากทำหน้าที่ บำบัดทุกข์บำรุงสุขให้แก่ประชาชนทั้งนั้นครับ^^
                                เพียงแต่ว่า(ความเห็นส่วนตัวนะครับ) ตำรวจมีหน้าที่ในการบังคับใช้กฎหมาย
                                และในการปฏิบัติหน้าที่นั้น จะกระทบสิทธิ์พื้นฐานของประชาชน แทบจะทุกครั้ง
                                ไม่ว่าจะเป็นการกระทำทั้งตามกฎหมาย หรือการวางตัวตามกฎระเบียบ
                                บางครั้งสิ่งที่ปรากฎตามสื่อต่างๆ ซึ่งเป็นภาพลบของวงการสีกากี
                                ถูกเสริมเติมแต่งจากคนผู้ถูกกระทบสิทธิ์เหล่านั้น (ผิดจริง ถูกจับได้ แต่โวยวาย พยายามอยู่เหนือกฎหมาย)
                                ไม่มีใครดีใจหลั่นล้าหรอกครับที่ถูกจับ หรือต้องเดินขึ้นโรงพัก
                                บางคนถูกปลูกฝังหรือฝังใจมาตลอดว่า ตำรวจ=ไม่ดี ตัวอย่างง่ายๆที่เห็นคือ
                                เวลาลูกหลานไม่ยอมกินข้าวหรือทำอะไรให้ไม่พอใจก็จะขู่ว่า "เดี๋ยวตำรวจมาจับนะ!!"(ข้อหาอะไีีรครับ??)
                                และอีกหลายๆปัจจัยที่เกิดขึ้นในสังคมไทย ทำให้ต้นทุนทางสังคมของตำรวจต่ำมากเมื่อ
                                เปรียบเทียบกับอาชีพอื่นๆเช่นแพทย์ ทหาร ฯลฯ(อย่าให้พูดต่อเลยครับ เดี๋ยวเรื่องใหญ่^^)

                                ตำรวจก็คนธรรมดาครับ รับความทุกข์มาจากคนอื่นๆ มันก็เครียดเป็นธรรมดา
                                (อัตรส่วนตำรวจต่อประชาชนทั้งประเทศประมาณ 1:400 ซึ่งยังไม่รวมประชากรแฝงอีกหลายล้าน)
                                อยู่โรงพักชาวบ้านด่า กลับบ้านมาเมียด่าซ้ำ 555+ ^^''
                                สวัสดิการยังไม่ดีเท่าข้าราชการหลายๆกลุ่มเลยครับ
                                ร้อยตำรวจตรี เรียน ฝึก ร่วม7ปีจบมาเงินเดือนสตาร์ท7พันกว่าบาท ขึ้นได้ปีละสองสามร้อย
                                ทำให้บางครั้งก็แสดงออกถึงความแข็งกร้าวออกมาบ้าง
                                การบริการอาจไม่ทั่วถึงไม่ทันใจ หรือทำไม่ถูกใจ ขอให้ใจเย็นๆไว้ก่อนครับ^^

                                แต่ผมก็ไม่ชอบใจตรงที่ คนบางคนอยากเข้ามาเป็นตำรวจ
                                เพื่อหวังใช้สิทธิ์ของผู้บังคับใช้กฎหมาย แสวงหาผลประโยชน์โดยมิชอบ
                                หรือคนบางกลุ่มก็ใช้ตำรวจเป็นเครื่องมือเพื่อประโยชน์ส่วนตนโดยมิชอบ
                                ทุกวันนี้ผมก็ยังไม่เข้าใจที่ทำไมคนเลวๆ มักจะอยู่หนักแผ่นดิน
                                ลอยหน้าลอยตาในสังคมอย่างสบายใจ คนดีๆโดนเหยียบย่ำหมด


                                ขอบคุณที่เสียเวลาอ่านครับ ด้วยความเคารพในความคิดเห็นครับ
                                ผิดถูกดีไม่ดียังไงทักท้วงกันได้ แลกเปลี่ยนความรู้ครับ

                                Comment

                                Working...
                                X