Announcement

Collapse
No announcement yet.

ความรู้เรื่องฉ้อโกงสำหรับชาวOCZครับ

Collapse
X
 
  • Filter
  • Time
  • Show
Clear All
new posts

  • #17
    Originally posted by mercadix View Post
    อ๋อครับ ผมหมายถึงหากมีการหลอกลวงสำเร็จไปแล้ว เอาเป็นว่า สมมติว่ามีผู้เสียหายซัก 5 ราย ... แบบนี้เข้าข่ายฉ้อโกงประชาชนได้มั้ยครับ
    ความเห็นผมกรณีนี้เป็นความผืดที่เรียกว่า "ต่างกรรม ต่างวาระ"ครับ
    ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 91 วางหลักว่า
    เมื่อปรากฏว่าผู้ใดได้กระทำการอันเป็นความผิดหลายกรรมต่างกัน ให้ศาลลงโทษ ผู้นั้นทุกกรรมเป็นกระทงความผิดไป แต่ไม่ว่าจะมีการเพิ่มโทษ ลดโทษ หรือ ลดมาตราส่วนโทษด้วยหรือไม่ก็ตาม เมื่อรวมโทษทุกกระทงแล้ว โทษจำคุกทั้ง สิ้นต้องไม่เกินกำหนด.....

    ซึ่งต้องดูจากพฤติการณ์ประกอบครับมันไม่เหมือนกันทุกกรณี ไม่ทราบว่าผมจะเข้าใจคำถามท่านถูกหรือไม่นะครับ
    5ราย โดนฉ้อโกงเหมือนกัน แต่ความผิดมันขาดช่วงกันครับเลยกลายเป็น ต่างวาระไป ซึ่งโดยมากแล้ว การซื้อขายในเว็บ โกงทีละคน อาจหลายๆครั้ง เว้นแต่จะมีำพฤติการณ์อื่นๆที่สามารถทำให้โกงได้หลายๆคนพร้อมกัน
    ถ้าจะแจกแจง อธิบายแยกองค์ประกอบ ก็จะทำให้เวียนหัวกันไปก่อน

    เอาเป็นว่าตัวอย่างที่ล่อแหลม อาจจะเจอกันง่ายๆนะครับ
    -ปั่นประมูล(เสียหายถ้วนหน้า) ฉ้อโกงประชาชน อธิบายยาวครับ
    ผมขอยกบทความที่คิดว่าอ่านแล้วจะเข้าใจกันง่ายๆมานะครับเพื่อความสะดวก
    ขออภัยที่ไม่ได้เอาความรู้ในหัวมาอธิบายเองหมด

    เพราะความผิดสำเร็จจาก มาตรา 341
    ลองมาดูเนื้อความของมาตรานี้แบบกระชับนะครับ
    กฎหมายอาญา มาตรา 341
    ผู้ใดโดยทุจริต หลอกลวงผู้อื่นด้วยการแสดงข้อความอันเป็นเท็จ
    หรือปกปิดข้อความจริงซึ่งควรบอกให้แจ้ง
    และโดยการหลอกลวงดังว่านั้นได้ไปซึ่งทรัพย์สินจากผู้ถูกหลอกลวงหรือบุคคลที่สาม
    การปั่นราคาในสินค้าของตนเองจัดได้ว่าเป็นการหลอกลวงผู้อื่น
    เพราะเป็นการแสดงข้อความอันเป็นเท็จ นั่นก็คือตัว login อีกอัน
    ที่นำมาใช้ในการประมูลเพื่อแข่งราคาหลอกให้ผู้อื่นเสนอราคาให้
    สูงขึ้นอีก
    และเป็นการปกปิดความจริงซึ่งควรบอกให้แจ้ง
    นี่ก็คือ ไม่ได้บอกว่า ผมมาประมูลแข่งด้วยนะครับ ผมจะได้ราคาปิดประมูลสูง ๆ ไง
    คุณจะมาแข่งก็มาแข่งกับผมผู้เปิดประมูลนะ
    เมื่อปิดประมูล ผู้ที่ถูกหลอกก็จะโอนเงินให้ ทำให้ได้ไปซึ่งทรัพย์สิน
    และการทำเช่นนี้เป็นการแสดงข้อความอันเป็นเท็จต่อประชาชน
    หรือด้วยการปกปิดความจริง ซึ่งควรบอกให้แจ้งแก่ประชาชน
    ดังนั้นการปั่นราคาตัวเองก็เข้าข่ายความผิดตามมาตรา 343 นี้เช่นกันครับ
    ที่มา คุณ watanyoo จาก http://bbs.pramool.com/webboard/view.php3?katoo=Z05943


    -Pre-order ผู้เสียหายเพียบเลย ของไม่ได้ เงินหาย คนขายกินฟรี อันนี้น่าจะชัดเจน ผู้ร่วมทุกข์ร่วมสุขบานเลย
    -เคสอื่นยังนึกไม่ออกครับ พิมพ์มากเดี๋ยวเป็นการชี้โพรงให้กระรอก เอาเป็นว่าขอตอบตามประเด็นที่สอบถามละกันครับ



    ด้วยความเคารพในความเห็นนะครับ ท่้านใดมีข้อคิดเห็นอย่างไรมาแลกเปลี่ยนความรู้ได้ครับ

    Comment


    • #18
      เอาเป็นว่าตัวอย่างที่ล่อแหลม อาจจะเจอกันง่ายๆนะครับ
      -ปั่นประมูล(เสียหายถ้วนหน้า) ฉ้อโกงประชาชน อธิบายยาวครับ
      ผมขอยกบทความที่คิดว่าอ่านแล้วจะเข้าใจกันง่ายๆมานะครับเพื่อความสะดวก
      ขออภัยที่ไม่ได้เอาความรู้ในหัวมาอธิบายเองหมด

      เพราะความผิดสำเร็จจาก มาตรา 341
      ลองมาดูเนื้อความของมาตรานี้แบบกระชับนะครับ
      กฎหมายอาญา มาตรา 341
      ผู้ใดโดยทุจริต หลอกลวงผู้อื่นด้วยการแสดงข้อความอันเป็นเท็จ
      หรือปกปิดข้อความจริงซึ่งควรบอกให้แจ้ง
      และโดยการหลอกลวงดังว่านั้นได้ไปซึ่งทรัพย์สินจากผู้ถูกหลอกลวงหรือบุคคลที่สาม
      การปั่นราคาในสินค้าของตนเองจัดได้ว่าเป็นการหลอกลวงผู้อื่น
      เพราะเป็นการแสดงข้อความอันเป็นเท็จ นั่นก็คือตัว login อีกอัน
      ที่นำมาใช้ในการประมูลเพื่อแข่งราคาหลอกให้ผู้อื่นเสนอราคาให้
      สูงขึ้นอีก
      และเป็นการปกปิดความจริงซึ่งควรบอกให้แจ้ง
      นี่ก็คือ ไม่ได้บอกว่า ผมมาประมูลแข่งด้วยนะครับ ผมจะได้ราคาปิดประมูลสูง ๆ ไง
      คุณจะมาแข่งก็มาแข่งกับผมผู้เปิดประมูลนะ
      เมื่อปิดประมูล ผู้ที่ถูกหลอกก็จะโอนเงินให้ ทำให้ได้ไปซึ่งทรัพย์สิน
      และการทำเช่นนี้เป็นการแสดงข้อความอันเป็นเท็จต่อประชาชน
      หรือด้วยการปกปิดความจริง ซึ่งควรบอกให้แจ้งแก่ประชาชน
      ดังนั้นการปั่นราคาตัวเองก็เข้าข่ายความผิดตามมาตรา 343 นี้เช่นกันครับ
      เป็นประเด็นทันยุคสมัยดีแท้ ... ปั่นประมูลโดยมีผู้สมรู้ร่วมคิดปลอมตัวเข้ามาเป็น Bidders ... ช่างคุ้นๆ ยิ่งกระไร เพราะมีคนเปิดประเด็นอยู่แถวๆ นี้ครับ

      ส่วนเรื่อง "ฉ้อโกงประชาชน" - ... เรื่องต่างกรรม ต่างวาระ ผมไม่แน่ใจว่าจะเป็นไปตามนั้นมั้ย แต่ "แชร์ก๋วยเตี๋่ยว" เมื่อเดือนก่อน เจอ "ฉ้อโกงประชาชน" ไป 1 พันกว่ากระทง (โกงประชาชนทั่วไป 1 พันกว่าราย / 1 พันกว่าวาระการจ่ายเงินค่าแชร์) ศาลตัดสินติดคุก 5 พันกว่าปี ติดจริง 20 ปี ... ถ้าหลอกขายอุปกรณ์คอมพิวเตอร์โดยผู้หลอกลวงคยเดียวกันกับสมาชิกที่เป็นประชาชนทั่วไป 5 ราย (5 วาระ) ผมไม่แน่ใจว่าน่าจะเข้าข่ายหรือเปล่านะครับ แล้วยิ่งเวบบอร์ดมันเป็นกระดานสาธารณะเสมือนหนึ่งเป็นแผงหนังสือพิมพ์ที่ประชาชนทั่วไปสามารถเข้ามาหยิบอ่านดูได้ด้วย ... แต่ฝากถามว่าคำว่า "ทั่วไป" มันจะหมายความว่าต้องเป็นประชาชนทั่วไป ตาสี ตาสา ยายมา ยายมี หลากหลายกลุ่มคละกันไปเท่านั้นหรือไม่ คือ ต้องไม่เป็นประชาชนที่มีสังกัดกลุ่มใดๆ หรือมีฐานะเป็นสมาชิกองค์กรใดองค์กรหนึ่งหรือไม่


      sigpic

      Comment


      • #19
        Originally posted by mercadix View Post
        เป็นประเด็นทันยุคสมัยดีแท้ ... ปั่นประมูลโดยมีผู้สมรู้ร่วมคิดปลอมตัวเข้ามาเป็น Bidders ... ช่างคุ้นๆ ยิ่งกระไร เพราะมีคนเปิดประเด็นอยู่แถวๆ นี้ครับ

        ส่วนเรื่อง "ฉ้อโกงประชาชน" - ... เรื่องต่างกรรม ต่างวาระ ผมไม่แน่ใจว่าจะเป็นไปตามนั้นมั้ย แต่ "แชร์ก๋วยเตี๋่ยว" เมื่อเดือนก่อน เจอ "ฉ้อโกงประชาชน" ไป 1 พันกว่ากระทง (โกงประชาชนทั่วไป 1 พันกว่าราย / 1 พันกว่าวาระการจ่ายเงินค่าแชร์) ศาลตัดสินติดคุก 5 พันกว่าปี ติดจริง 20 ปี ... ถ้าหลอกขายอุปกรณ์คอมพิวเตอร์โดยผู้หลอกลวงคยเดียวกันกับสมาชิกที่เป็นประชาชนทั่วไป 5 ราย (5 วาระ) ผมไม่แน่ใจว่าน่าจะเข้าข่ายหรือเปล่านะครับ แล้วยิ่งเวบบอร์ดมันเป็นกระดานสาธารณะเสมือนหนึ่งเป็นแผงหนังสือพิมพ์ที่ประชาชนทั่วไปสามารถเข้ามาหยิบอ่านดูได้ด้วย ... แต่ฝากถามว่าคำว่า "ทั่วไป" มันจะหมายความว่าต้องเป็นประชาชนทั่วไป ตาสี ตาสา ยายมา ยายมี หลากหลายกลุ่มคละกันไปเท่านั้นหรือไม่ คือ ต้องไม่เป็นประชาชนที่มีสังกัดกลุ่มใดๆ หรือมีฐานะเป็นสมาชิกองค์กรใดองค์กรหนึ่งหรือไม่
        พอจะเข้าใจแล้วครับ^^
        ทีละประเด็นครับ
        -เรื่องประมูล ผมไม่ขอยุ่งเรื่องชาวบ้านครับ มันวุ่นวายพอสมควรเดี๋ยวงานเข้าเรื่องมันจะยาว อิอิ
        -เรื่องการเล่นแชร์นั้น ไม่ขอพูดถึงครับ มันมีพระราชบัญญัติ การเล่นแชร์ พ.ศ. 2534 ออกมารองรับโดยเฉพาะครับ ลองอ่านตัวบทเพิ่มเติมได้ครับ ^^ http://www.dechaspy.com/reading/chair.html
        ถ้าผิดมา มัีนแทบจะพ่วงฉ้อโกงประชาชนตั้งแต่ตั้งวงกันเลยทีเดียวครับ
        -จากพฤติการณ์คร่าวๆข้างบนพอจะเริ่มมีเค้าได้บ้างแล้วว่าScopeไว้อย่างไร แต่ต้องดูรายละเอียดเฉพาะกรณีเพิ่มเติมอีกนิดครับ อันนี้ต้องขออภัยจริงๆ ไม่ได้มีเจตนากวน...นะครับ^^" มีเหตุผลชี้แจงครับว่า การจะบอกว่าใคร ผิดอะไรได้ ต้องมีมูลชี้ความผิด พฤติการณ์ที่แน่ชัดว่าผู้นั้นได้กระทำผิดตามที่กล่าวหาจริง และมีผู้ร้องทุกข์-กล่าวโทษ เพราะการดำเนินการของจนท.ตำรวจจะอาศัยอำนาจทางปกครอง ซึ่งจะทำให้เกิดการกระทบสิทธิ์ของผู้ถูกกล่าวหาครับ(ถ้าอยุ่ดีๆมีหมายเรียกผู้ต้องหามาส่งที่บ้านคงไม่มีใครดีใจใช่มั๊ยครับ ตกใจไว้ก่อน"กูทำอะไรผิดวะ??")
        -คำว่า "ประชาชน" + "ทั่วไป" คำนี้ก็คือใครก็ได้ครับที่ทราบและเข้าใจถึงรายละเอียดที่มี ผ่านทุกช่องสื่อ ไม่จำเป็นต้องสังกัดองค์กรณ์ไหนครับ เดินเข้าไปในบริษัทๆหนึ่งเพื่อประกาศขายสินค้าแก่พนักงาน และลูกค้าที่มาติดต่อบริษัทคนอื่น โดยมีเจตนาทุจริต ทุกคนทราบ เข้าใจ จ่ายตังค์ไป...พ่อค้าหายไปเลย อันนี้ ชัด ครับ
        -สื่อที่เป็น Webboard นั้นมี พระราชบัญญัติว่าด้วยการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ.2550 กำหนดบทลงโทษอีกเรื่องครับ มันดูเหมือนสาธารณะครับ แต่ค่อนข้างจำกัดด้วยการเข้าถึง ต้องดูเป็นกรณีๆไปนะครับ ^^
        ถ้าผมยังตอบไม่ตรง-ไม่ครบ รบกวนแจ้งด้วยนะครับ จะได้เข้าใจกันมากขึ้น ช่วยกันสร้างสรรสังคม


        ด้วยความเคารพในความคิดเห็น ผิดถูกอย่างไรมาแลกเปลี่ยนความรู้กันได้ครับ

        Comment


        • #20
          เสริมนิดครับ
          ต้องแยก ประเด็นออกจากกันนะครับ อย่าจับรวมกัน

          การจะดูว่าเป็น "ประชาชนคนทั่วไป ที่ถูกฉ้อโกงโดยทั่วหน้า" รึเปล่านั้น ดูความสัมพันธ์ของผู้เสียหายครับ ว่า
          มันโยงไปถึงกันหมดหรือไม่? อุปมาง่ายๆอย่างการ "หว่านแห" ครับ อ่านเรื่องที่ผมตุ๊กตาขึ้นมา ดูนะครับ
          คนหาปลา : หว่านเหยื่อล่อ(ความหมายแทนคำพูด เชื้อเชิญ-โฆษณา-ตกเบ็ด ซึ่งเป็นเจตนาทุจริตของคนหาปลา)
          ปลา : มาชุมนุมที่เหยื่อ โดยปลาไม่รู้เจตนาทุจริตของคนหาปลา (ปลา มันมีไม่รู้กี่ชนิดกี่ตัว มันhybridรึเปล่า? แต่หนองน้ำนั้น อุปมาว่าเป็น เมืองๆหนึ่ง ที่ๆหนึ่ง มันก็มาอยู่ร่วมกัน)
          คนหาปลา : หว่านแห! ...ได้ปลาละ(คราวนี้ อุปมาปลาเป็น ทรัพย์สินของเีราครับ)
          ปลา : มันก็ไม่รู้หรอกว่าจะไปไหน แต่มันเป็นผู้เสียหายแล้ว(คนก็ไม่รู้ว่าโดนหลอกหรือยัง แต่ตังค์ไปแล้ว)
          คนหาปลา : เอาปลากลับบ้าน(จะอยู่ให้จับเหรอ??)

          ถ้าจับปลาไม่ได้ซักตัว คนหาปลาก็ผิด "พยายาม"(จับปลา) ครับ

          ถ้าข้อเท็จจริงเปลี่ยนไป "คนหาปลา ใช้เบ็ดตกปลา 120 ครั้ง ได้ปลา 100 ตัว อันนี้ มัน ฉ้อโกงคนจำนวนมาก ครับ"
          งงมั๊ยครับ ^^


          ด้วยความเคารพในความคิดเห็น ผิดถูกอย่างไรมาแลกเปลี่ยนความรู้กันได้ครับ

          Comment


          • #21
            ความรู้ เหมื่อนที่กำลังเรียนเลย

            Comment


            • #22
              Originally posted by izank View Post
              เสริมนิดครับ
              ต้องแยก ประเด็นออกจากกันนะครับ อย่าจับรวมกัน

              การจะดูว่าเป็น "ประชาชนคนทั่วไป ที่ถูกฉ้อโกงโดยทั่วหน้า" รึเปล่านั้น ดูความสัมพันธ์ของผู้เสียหายครับ ว่า
              มันโยงไปถึงกันหมดหรือไม่? อุปมาง่ายๆอย่างการ "หว่านแห" ครับ อ่านเรื่องที่ผมตุ๊กตาขึ้นมา ดูนะครับ
              คนหาปลา : หว่านเหยื่อล่อ(ความหมายแทนคำพูด เชื้อเชิญ-โฆษณา-ตกเบ็ด ซึ่งเป็นเจตนาทุจริตของคนหาปลา)
              ปลา : มาชุมนุมที่เหยื่อ โดยปลาไม่รู้เจตนาทุจริตของคนหาปลา (ปลา มันมีไม่รู้กี่ชนิดกี่ตัว มันhybridรึเปล่า? แต่หนองน้ำนั้น อุปมาว่าเป็น เมืองๆหนึ่ง ที่ๆหนึ่ง มันก็มาอยู่ร่วมกัน)
              คนหาปลา : หว่านแห! ...ได้ปลาละ(คราวนี้ อุปมาปลาเป็น ทรัพย์สินของเีราครับ)
              ปลา : มันก็ไม่รู้หรอกว่าจะไปไหน แต่มันเป็นผู้เสียหายแล้ว(คนก็ไม่รู้ว่าโดนหลอกหรือยัง แต่ตังค์ไปแล้ว)
              คนหาปลา : เอาปลากลับบ้าน(จะอยู่ให้จับเหรอ??)

              ถ้าจับปลาไม่ได้ซักตัว คนหาปลาก็ผิด "พยายาม"(จับปลา) ครับ

              ถ้าข้อเท็จจริงเปลี่ยนไป "คนหาปลา ใช้เบ็ดตกปลา 120 ครั้ง ได้ปลา 100 ตัว อันนี้ มัน ฉ้อโกงคนจำนวนมาก ครับ"
              งงมั๊ยครับ ^^


              ด้วยความเคารพในความคิดเห็น ผิดถูกอย่างไรมาแลกเปลี่ยนความรู้กันได้ครับ
              - ฉ้อโกงถ้าไม่มีผู้เสียหายที่เกิดจากการหลอกลวงนั้น ก็ไม่ครบองค์ประกอบความผิดใช่มั้ยครับ ... ถึงแม้เราอ่านกระทู้ขายของแล้วพิจารณาแล้ว ตรวจสอบข้อมูลเบื้องต้นแล้ว รู้ๆ อยู่ว่า "มันกำลังหลอกลวง" แต่สมาชิกคนอื่นเขารู้เท่าไม่ถึงการณ์หลงเชื่อ แต่เราก็ไปเอาผิดมันยังไม่ได้ เพราะถ้าไปกล่าวหาลอยๆ ไม่มีหลักฐานชัดๆ เดี๋ยวโดนมันสวนกลับ หรือไม่เพื่อนสมาชิกคนอื่นก็จะหวนมาด่าเราซะงั้น เพราะยังไม่มีผู้เสียหายเกิดขึ้น ... แต่ผมเคยเห็นตำรวจจับคนใน ข้อหา "ร่วมกันพยายามฉ้อโกง" นะครับ ... มันเอาผิดได้อย่างไรครับ ไอ้่ "พยายามฉ้อโกง" นี่ หรือแค่ลงบันทึกฯ แล้วปล่อยตัว


              sigpic

              Comment


              • #23
                ความรู้เยอะมาก

                ขอบคุณครับ ^^

                Comment


                • #24
                  Originally posted by mercadix View Post
                  อ๋อครับ ผมหมายถึงหากมีการหลอกลวงสำเร็จไปแล้ว เอาเป็นว่า สมมติว่ามีผู้เสียหายซัก 5 ราย ... แบบนี้เข้าข่ายฉ้อโกงประชาชนได้มั้ยครับ
                  ไม่เกี่ยวกับจำนวนคนครับ
                  คำพิพากษาฎีกาที่ 5292/2540
                  การแสดงข้อความอันเป็นเท็จต่อประชาชนในความผิดฐานฉ้อโกงประชาชนตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 343ไม่ได้ถือเอาจำนวนผู้เสียหายที่ถูกหลอกลวงว่ามากหรือน้อยแต่ถือเอาเจตนาแสดงข้อความอันเป็นเท็จต่อประชาชนเป็นสำคัญและไม่จำเป็นที่จำเลยจะต้องกระทำการดังกล่าวด้วยต้นเองมาตั้งแต่ต้นทุกครั้งเพียงแต่จำเลยแสดงข้อความอันเป็นเท็จแก่ผู้เสียหายบางคนแล้วมีการบอกต่อกันไปเป็นทอด ๆเมื่อผู้เสียหายคนหลังทราบข่าวและมาสอบถามจำเลยจำเลยได้ยืนยันแสดงข้อความอันเป็นเท็จนั้นและให้ผู้เสียหายไปติดต่อที่แฟลตทุกครั้ง อันถือได้ว่าเป็นสำนักงานของจำเลยกับพวก แม้จะไม่มีการประกาศรับสมัครงานปิดไว้ก็ตาม การกระทำของจำเลยก็เป็นการฉ้อโกง ประชาชน ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 343 แล้ว จำเลยกับพวกมิได้เป็นผู้รับอนุญาตให้จัดหางานมิได้เป็นกรรมการหุ้นส่วนหรือผู้จัดการของผู้ได้รับอนุญาตให้จัดหางานซึ่งเป็นนิติบุคคล ประกอบกับฟ้องโจทก์ที่บรรยายไว้ชัดแจ้งว่าจำเลยกับพวกรู้อยู่แล้วว่ายังไม่มีตำแหน่งงานหรืออัตรางานในประเทศบาร์เรนตามที่โฆษณาชักชวนแสดงให้เห็นว่าจำเลยไม่มีเจตนาที่จะจัดหางานให้แก่ผู้เสียหายอย่างจริงจังเป็นเพียงอุบายหลอกลวงอ้างเรื่องการจัดหางานเพื่อให้ผู้เสียหายหลงเชื่อมอบค่าบริการให้จำเลยเท่านั้นไม่ต่างกับการหลอกลวงโดยอ้างเหตุอื่น ๆ การกระทำของจำเลยจึงไม่เป็นความผิดฐานจัดหางานให้คนหางานเพื่อไปทำงานในต่างประเทศโดยไม่ได้รับอนุญาต
                  ปัญหาคือต้องพิสูจน์เจตนาเสียก่อน

                  Comment


                  • #25
                    Originally posted by mercadix View Post
                    - ฉ้อโกงถ้าไม่มีผู้เสียหายที่เกิดจากการหลอกลวงนั้น ก็ไม่ครบองค์ประกอบความผิดใช่มั้ยครับ ... ถึงแม้เราอ่านกระทู้ขายของแล้วพิจารณาแล้ว ตรวจสอบข้อมูลเบื้องต้นแล้ว รู้ๆ อยู่ว่า "มันกำลังหลอกลวง" แต่สมาชิกคนอื่นเขารู้เท่าไม่ถึงการณ์หลงเชื่อ แต่เราก็ไปเอาผิดมันยังไม่ได้ เพราะถ้าไปกล่าวหาลอยๆ ไม่มีหลักฐานชัดๆ เดี๋ยวโดนมันสวนกลับ หรือไม่เพื่อนสมาชิกคนอื่นก็จะหวนมาด่าเราซะงั้น เพราะยังไม่มีผู้เสียหายเกิดขึ้น ... แต่ผมเคยเห็นตำรวจจับคนใน ข้อหา "ร่วมกันพยายามฉ้อโกง" นะครับ ... มันเอาผิดได้อย่างไรครับ ไอ้่ "พยายามฉ้อโกง" นี่ หรือแค่ลงบันทึกฯ แล้วปล่อยตัว
                    ไม่รู้ว่าเข้าใจคำถามคลาดเคลื่อนหรือเปล่านะครับ แต่พยามฉ้อโกงมีครับ

                    Comment


                    • #26
                      ได้มารับของไปโดยวันรับของแจ้งว่า ตอนนี้ยังไม่มีเงิน แต่ถ้ามีแล้วจะจ่ายส่วนที่เหลือให้ ส่วนของยังไม่ต้องให้ก็ได้ ด้วยความที่ผู้เสียหายไว้ใจจึงให้ไปทั้งหมด3ลูก
                      กรณีดังกล่าวที่เกิดขึ้น มีความก้ำกึ่งระหว่างคดีอาญา และคดีแพ่ง คือ หากเป็นอาญาจะต้องด้วยฉ้อโกงหรือยักยอก ต้องว่ากัีนในพฤติการณ์อย่างละเอียดและชั่งน้ำหนักจากคำให้การของทั้งสอง ฝ่ายอีกครั้ง แต่ก็อาจเป็นเพียงผิดสัญญาทางแพ่งก็ได้ขึ้นกับวิสัยและพฤติการณ์
                      เขาไม่ไ่ด้ตกลงว่าจะให้เงินวันไหน แบบเป็นลายลักษณ์อักษร
                      เขาไม่มีใบเสร็จ ไม่มีสัญญาจะซื้อจะขายไม่มีหลักฐานในการซื้อขาย มีแต่พยานบุคคล
                      สรุปตบท้ายด้วยข้อแก้ตัวที่ว่า ผมพยายามติดต่อเพื่อที่จะโอนเงินแล้วแต่ โทรศัพท์ผมหาย เอกสารเลขบัญชีผมหาย จึงไม่สามารถกระทำการชำระหนี้ได้
                      ตามที่ผมสงสัยนี้ มีสิทธิ์จะหลุดจาก อาญาและแพ่งไม๊ครับ

                      Comment


                      • #27
                        Originally posted by maxcma View Post
                        ความรู้ เหมื่อนที่กำลังเรียนเลย
                        ความจริงที่เกิดขึ้นแต่ละเคสๆ ผมว่ามันก็เหมือนกับตำราเรียนที่มีชีวิตครับ
                        ยิ่งเราศึกษา ยิ่งค้นคว้า เรายิ่งรู้ ในความแตกต่างของแต่ละพฤติการณ์

                        สามารถนำความรู้ไปเผยแผ่ให้้คนอื่นได้มีภูมิคุ้มกัน และรู้จัก "สิทธิ-หน้าที่" กันมากขึ้น
                        ปัญหาทุกวันนี้มันเกิดขึ้นเพราะคนเราๆ เห็นแก่ตัว ไม่เข้าใจและไม่สนใจคำว่า "สิทธิ-หน้าที่" นี่แหละครับ
                        จะเอาแต่ สิทธิ์ แต่ไม่ทำ หน้าที่ เลย

                        ร่วมกันสร้างสรรสังคมที่ดีกันครับ

                        Comment


                        • #28
                          Originally posted by Khow View Post
                          ไม่เกี่ยวกับจำนวนคนครับ

                          ปัญหาคือต้องพิสูจน์เจตนาเสียก่อน


                          ใช่ครับ

                          Comment


                          • #29
                            สำหรับคำว่า พยายาม ครับ
                            ป.อาญา มาตรา 80 ผู้ใดลงมือกระทำความผิดแต่กระทำไปไม่ตลอด หรือ กระทำไปตลอดแล้วแต่การกระทำนั้นไม่บรรลุผล ผู้นั้นพยายามกระทำความผิด
                            ผู้ใดพยายามกระทำความผิด ผู้นั้นต้องระวางโทษสองในสามส่วน ของโทษที่กฎหมายกำหนดไว้สำหรับความผิดนั้น

                            กรณีนี้ดำเนินคดีตามปกติ ถ้ามีพยานหลักฐานพอฟ้อง พนักงานสอบสวนมีความเห็น "สั่งฟ้อง" ส่งสำนวนไปที่อัยการ
                            จากนั้นก็เป็นเรื่องของศาลครับ สุดท้ายจะลงโทษสถานใด
                            การพิจารณาโทษของตำรวจกับศาลจะต่างกันครับ
                            อธิบายง่ายๆว่า ตำรวจจะพยายามตั้งข้อหาหนักสุดไว้ก่อน(รายละเอียดมีอีกเยอะแยะครับ) เพราะดุลยพินิจศาล จะพยายามลงโทษเอาพอสมควร หรือ อาจยกฟ้องหาก พยานหลักฐานน้ำหนักน้อย(อย่างเช่น ...มีเหตุควรสงสัย ให้ยกประโยชน์ให้จำเลย)

                            Comment


                            • #30
                              Originally posted by khin7710 View Post
                              เขาไม่ไ่ด้ตกลงว่าจะให้เงินวันไหน แบบเป็นลายลักษณ์อักษร
                              เขาไม่มีใบเสร็จ ไม่มีสัญญาจะซื้อจะขายไม่มีหลักฐานในการซื้อขาย มีแต่พยานบุคคล
                              สรุปตบท้ายด้วยข้อแก้ตัวที่ว่า ผมพยายามติดต่อเพื่อที่จะโอนเงินแล้วแต่ โทรศัพท์ผมหาย เอกสารเลขบัญชีผมหาย จึงไม่สามารถกระทำการชำระหนี้ได้
                              ตามที่ผมสงสัยนี้ มีสิทธิ์จะหลุดจาก อาญาและแพ่งไม๊ครับ


                              ความเห็นผมนะครับ
                              พยานบุคคล ถ้าเป็นประจักษ์พยาน=น้ำหนักมาก(ขึ้นกับคำให้การของผู้ต้องหา-ผู้เสียหาย และพยานหลักฐานที่ปรากฎครับ)
                              ข้อแก้ตัวดังกล่าวที่ผู้ต้องหาอ้าง=ฟังไม่ขึ้นครับ เพราะ เป็นสิ่งที่วิญญูชนพึงกระทำในทางที่ไม่ขัดต่อคำมั่น หรือสัญญา ครับ



                              ด้วยความเคารพในความคิดเห็น ท่านใดมีความรู้แลกเปลี่ยน ทักท้วงได้ครับ

                              Comment

                              Working...
                              X