Announcement

Collapse
No announcement yet.

D + D + D + LCD Monitor Repair รับซ่อม และปรึกษาอาการเสีย จอ LCD TV , LCD FREE

Collapse
X
 
  • Filter
  • Time
  • Show
Clear All
new posts

  • www 203.172.180.165/lptc/sub-web/web_dvt/sub-dvt/dvt01/index-cor.htm

    ยินดีต้อนรับทุกท่านเข้าสู่เว็บไซด์

    งานสีรถยนต์

    -----------------------

    หน่วยที่ 1
    เคร



    งม

    ออป

    กรณ

    งานสี
    แนวคิด
    การใชเ้ครื่องมืออุปกรณ์งานสีเป็นสิ่งจา เป็นพ้ืนฐานสา หรับการพน่ สีใหไ้ดผ้ลงานที่ดี
    โดยเฉพาะอยา่ งยงิ่ อุปกรณ์ชิ้นส่วนของรถยนตท์ ี่ชา รุดเสียหายใหส้ีที่พน่ ไวถู้กทา ลายจา เป็นตอ้ง
    เคาะให้ได้รูปทรงเหมือนเดิม เครื่องมือและอุปกรณ์ที่ใชจ้ึงเป็นองคป์ ระกอบที่สา คญั อยา่ งหน่ึที่จะ
    ท าให้งานสีมีความสมบูรณ์สวยงาม จ าเป็ นที่ผู้ใช้จะต้องเลือกใช้เครื่องมือและอุปกรณ์ให้ถูกต้อง
    เหมาะสมกบั ชนิดของงานสี
    สาระการเรียนรู้
    1. เครื่องมือเคาะข้ึนรูป 5. การปรับความดันอากาศเพื่อน าไปใช้งาน
    2. วิธีการเคาะข้ึนรูป 6. สายยาง
    3. เครื่องอัดอากาศ 7. เครื่องขัดสี
    4. เครื่องควบคุมความดันอากาศอัด
    ผลการเรียนรู้ที่คาดหวัง
    1. อธิบายเครื่องมือเคาะข้ึนรูปได้
    2. อธิบายวธิีการเคาะข้ึนรูปได้
    3. อธิบายการท างานเครื่องอัดอากาศได้
    4. อธิบายการทางานเครื่องควบคุมความดันอากาศได้
    5. อธิบายการเลือกใช้สายยางน าไปใช้งานได้
    6. อธิบายเครื่องมือเครื่องขัดสีได้
    7. วเิคราะห์เลือกใชเ้ครื่องมือเคาะข้ึนรูปได้
    8. ปฏิบตัิการเคาะข้ึนรูปได้
    9. ปฏิบัติการการใช้เครื่องขัดสีได้
    เคร่อ

    งม

    อเคาะข้ึ
    นรูป
    เครื่องมือที่ใชใ้นการเคาะข้ึนรูปโลหะแผน่ เป็นเครื่องมือเฉพาะงาน เป็นเครื่องมือพ้ืนฐานที่
    ใชใ้นการเคาะข้ึนรูปที่ช่างสีรถยนตจ์ะตอ้งมีความรู้และมีทกัษะในการใช้เครื่องมือเคาะข้ึนรูปจะมี
    ลกัษณะแตกต่างจากเครื่องมืออื่น ๆ จึงไม่ควรนา เครื่องมือเคาะข้ึนรูปไปใชใ้นงานทวั่ ไป เช่น คอ้น
    เคาะข้ึนรูปไม่ควรนา ไปใชเ้คาะตีหรือดดัเหล็กเส้นทวั่ ไป เป็นตน้ เครื่องมือเคาะข้ึนรูปมีลักษณะการ
    ใชง้านดงัน้ี
    1.ค้อนเคาะขึน้ รูป ใชส้ า หรับเคาะข้ึนรูปแผน่ โลหะ มีดงัน้ี
    1.1คอ้นปลายขวางคอ้นชนิดน้ีหัวของค้อนมีลักษณะกลม ปลายของค้อนมี
    ลกัษณะแบนขวางกบัดา้มคอ้น ใชเ้คาะแต่งผวิเรียบและใชเ้คาะข้ึนสันแนวขวาง
    1.2คอ้นปลายตรงคอ้นชนิดน้ีหวัของคอ้นมีลกัษณะกลม ปลายของคอ้นมีลกัษณะ
    แบนอยใู่ นแนวตรงกบัดา้ม ใชเ้คาะแต่งผวิเรียบและข้ึนสันแนวตรง
    1.3คอ้นปลายแหลม คอ้นชนิดน้ีหวัของคอ้นมีลกัษณะกลม ปลายของค้อนมี
    ลกัษณะแหลม ใชเ้คาะแต่งผวิเรียบและใชเ้คาะรอยนูนเล็ก ๆ
    1.4คอ้นไม้หวัคอ้นท้งัสองดา้นมีลกัษณะกลม ทา จากไมเ้น้ือแขง็ ใชเ้คาะเบา ๆ
    เพื่อไม่ใหแ้ผน่ โลหะยดืตวั
    รูปท1ี่ .1แสดงลกัษณะของคอ้นข้ึนรูปชนิดต่าง ๆ
    2. ค้อนตู๊เป็นคอ้นที่ไม่ใชต้ีแต่ใชร้องรับชิ้นงานขณะทา การตีดว้ยคอ้น ค้อนตู๊มีขนาดและ
    รูปร่างที่แตกต่างดงัน้นั ผปู ฏิบตัิงานตอ้งเลือกใชใ้หเ้หมาะสมกบัขนาดและรูปร่างของชิ้นส่วน
    3. ช้อนรองการเคาะข้ึนรูปพ้ืนที่บางแห่งที่แคบ ๆ เช่น ในซอกหลืบของรถยนต์บางคร้ังไม่
    สามารถที่จะใชม้ือสอดเขา้ไปดา้นใน จึงจา เป็นตอ้งใชเ้ครื่องมืออื่นนอกจากคอ้นตู๊นนั่ ก็คือชอ้ นรอง
    ซึ่งใช้ส าหรับสอดเข้าไปในซอกหลืบเพื่อรองรับชิ้นงานขณะทา การเคาะดว้ยคอ้น
    4. ค้อนกระตุก มีลกัษณะเป็นกา้นเหล็กสอดอยใู่ นแท่งเหล็กที่เจาะรูไว้ส่วนปลายงอไว้
    สา หรับเกี่ยวเมื่อกระตุกแท่งเหล็กมาดา้นหลงัจะเกิดแรงดึงถอยหลงั ใชส้ า หรับกระตุกดึงชิ้นงานที่
    บุบ โดยที่ไม่สามารถใชค้อ้นเคาะออกมาจากด้านในได้
    ลกัษณะของคอ้นตูแ๊บบต่าง ๆ ลักษณะของช้อนรอง
    รูปท1ี่ .2แสดงลักษณะของค้อนตู๊และช้อนรอง
    รูปท1ี่ .3แสดงลักษณะของค้อนกระตุก
    วธิีการใชเ้ครื่องมือเคาะข้ึนรูปมีหลกัการใชด้งัน้ี
    1. การจับค้อน
    ? ควรจับให้ด้ามคอ้นเอียงทา มุมกบัแขนประมาณ 120องศา
    ? ควรจบัให้***งจากส่วนปลายของดา้มคอ้นประมาณ 10-20 มม.
    ? ใชน้ ิ้วมือกา ดา้มคอ้นโดยใหเ้หลือช่องวา่ งระหวา่ งดา้มคอ้ นกบัอุง้มือไว้
    2.การจับค้อนตู๊ควรวางคอ้นตูไ๊วใ้นอุง้มือและประคองไม่ใหค้อ้นตู๊ขยบั ตวัดว้ยนิ้วท้งัหา้
    และงอขอ้มือใหค้อ้นตูท๊า มุมกบัขอ้มือประมาณ 15องศา
    3. การใช้แรงในการเคาะการเคาะข้ึนรูปน้นั ใหใ้ชแ้รงเคาะมาจากขอ้ศอกไม่ควรใชแ้รงเคาะ
    ที่มาจากข้อมือและจากไหล่การเคาะต้องควบคุมให้ค้อนสัมผัสผิวงานเต็มหน้าการเอียงหัวค้อน
    ขณะเคาะจะทา ใหไ้ดร้อยเคาะที่ไม่สม่า เสมอ
    รูปท1ี่ .4แสดงวิธีการจับค้อนเคาะข้ึนรูป
    รูปท1ี่ .5แสดงวิธีการจับค้อนตู๊
    วธ
    ิี
    การเคาะข


    นร


    การเคาะข้ึนรูปที่จะกล่าวต่อไปน้ีไม่ใช่การเคาะข้ึนรูปชิ้นงานข้ึนมาใหม่แต่เป็นการเคาะข้ึนรูปเพื่อ
    ซ่อมชิ้นงาน หรือชิ้นส่วนของรถยนตท์ ี่เกิดรอยบ้ีหรือบุบใหค้ืนสู่สภาพดงัเดิม
    1.การเคาะบนค้อนตู๊กรณีเกิดรอยบุบขนาดเล็กเขา้ไปดา้นในหรือเกิดรอยนูนออกมาด้าน
    นอก สามารถใช้ค้อนตู๊รองรับ และเคาะให้คืนสภาพดังเดิมด้วยค้อน
    รูปท1ี่ .6แสดงวิธีการเคาะและการสัมผัสของหน้าค้อน
    รูปท1ี่ .7แสดงวธิีการเคาะข้ึนรูปรอยบุบและรอยนูน
    2.การเคาะนอกค้อนตู๊กรณีเกิดรอยยบุ ตวัเป็นพ้ืนที่กวา้ง ๆ สามารถใชค้อ้นตูร๊องรับรอย
    บุบดา้นในและใชค้อ้นเคาะรอยนูนดา้นนอกโดยที่คอ้นและคอ้นตูอ๊ยคู่ นละตา แหน่งกนั รอยบุบจะ
    ถูกกระแทกจากค้อน และถูกดันจากค้อนตู๊กลับคืนรูปเดิม
    การเคาะพ้ืนที่ที่เสียรูปสามารถทา ใหค้ืนรูปดังเดิมได้โดยการเคาะส่วนที่นูนสูงกวา่ เดิมน้นั
    จะตอ้งเคาะลง ในขณะเดียวกนั ส่วนที่ต่า น้นัจะตอ้งกนัออกมา พ้ืนที่ที่เสียรูปน้นัจะคืนรูปดงัเดิม
    การซ่อมตวัถงัรถยนต์บางคร้ังไม่สามารถใชค้อนดันด้านในได้ขณะท าการเคาะคืนรูป กรณี ้
    น้ีสามารถแกไ้ขไดโ้ดยการเชื่อมแหวนใหต้ิดที่ผวิดา้นนอกจากน้นัจึงใชข้อเกี่ยวดึงขณะท าการเคาะ
    รูปท1ี่ .8แสดงวิธีการใช้ค้อนเคาะนอกค้อนตู๊ รูปท1ี่ .9แสดงวิธีการเคาะรอยบุบที่มีขนาดใหญ่
    รูปท1ี่ .10 แสดงวิธีการเคาะคืนรูปพ้ืนที่ที่เสียรูปมาก
    เครื่องอัดอากาศ
    เครื่องอัดอากาศ (Air Compressor) หรือเรียกกนั ทวั่ ไปวา่ ปั๊มลม เป็นอุปกรณ์ที่สา คญั ใน
    งานพน่ สีเพราะความเร็วสูงของอากาศที่ถูกปล่อยมาจากเครื่องอดัอากาศจะช่วยดนั หรือดึงใหส้ีพน่
    ออกมาจากกระป๋องสีเป็นสเปรย์เครื่องอดัอากาศน้ีจะทา หนา้ที่อดัอากาศจากอากาศที่มีความดนั
    อากาศปกติ ที่ 14.7 ปอนด/์ ตารางนิ้วโดยการดูดเขา้ไปทางท่ออากาศที่ถูกดูดเขา้และถูกอดัแน่นอยู่
    ในถงัซ่ึงมีพ้ืนที่จา กดั อากาศที่ถูกอดัจะมีปริมาตรเล็กลง เมื่ออากาศถูกอดัเขา้ไปในถงัเพิ่มมากข้ึน
    ความดนั ในถงัก็จะสูงข้ึนตามปริมาตรของอากาศเมื่อได้ระดับความดันของอากาศตามต้องการแล้ว
    สวติซ์ก็จะถูกตดัใหเ้ครื่องอดัอากาศหยดุ ทา งาน อากาศอดัจะถูกปล่อยเพื่อนา ไปใชง้านสีโดยจะ
    ไหลไปตามท่อ นิยมนา ไปใชง้านอยา่ งกวา้งขวาง สรุปขอ้ดีของเครื่องอดัอากาศไดด้งัน้ี
    1. ประหยัดแรงงานและมีความทนทานสูง
    2. มีความปลอดภยัสูง มีตวัควบคุมความดนั ภายในถงัเพื่อป้องกนัการใชง้านเกินกา ลงั
    3. ใช้งานได้สะดวก เพราะสามารถควบคุมอัตราความเร็วของลมและความดนัไดง้่าย
    4. เก็บอากาศไวใ้ชง้านไดง้่ายโดยเก็บอากาศไวใ้นถงัเก็บอากาศได้
    5. ไม่มีมลพิษกบัอากาศที่จดัเก็บ อากาศที่ใชแ้ลว้สามารถปล่อยออกสู่บรรยากาศไดเ้ลย
    เครื่องอดัอากาศมีหลายชนิดแต่ละชนิดไดถู้กแบ่งแยกตามลกัษณะการปั๊มอากาศเขา้ไปอดัเก็บไว้
    ภายในถัง
    รูปท1ี่ .11 แสดงวิธีการเชื่อมแหวนและดึงแหวนขณะเคาะให้คืนรูป
    จะเห็นไดว้า่ เครื่องอดัอากาศสามารถออกแบบลกัษณะของการดูดอดัเพื่อเก็บอากาศเขา้ไว้
    ในถงั โดยทวั่ ไปมี2 ชนิดคือ
    1.เครื่องอดัอากาศแบบลูกสูบ (Piston Type Air Compressor) เครื่องอดัอากาศชนิดน้ีนิยม
    ใชก้ นัอยา่ งแพร่หลายในปัจจุบนั สามารถอดัอากาศไดท้ ้งัความดนั ต่า ความดนั ปานกลางจนกระทงั่
    ถึงความดันสูง เครื่องอดัอากาศแบบลูกสูบน้ีแบ่งออกเป็น 2 ชนิดดงัน้ี
    1.1เครื่องอดัอากาศแบบข้นั ตอนเดียว หรือลูกสูบเดียวเป็ นเครื่องอัดอากาศชนิด
    ความดนั ต่า มีลูกสูบเพียงลูกเดียว สามารถอดัอากาศไดเ้ป็นอยา่ งดีที่ความดนั 100 ปอนด/์ ตารางนิ้ว
    รูปท1ี่ .12แสดงลกัษณะของการดูดอดัอากาศเขา้เก็บไวใ้นถงัของเครื่องอดัอากาศ
    (PSI) โดยเพลาขอ้เหวยี่ งน้ีทา ใหลู้กสูบข้ึนลงได้ขณะที่เพลาหมุน 1รอบ จะทา ใหลู้กสูบถูกดนัข้ึน
    และดึงลง 1คร้ังจะทา ใหเ้กิดจงัหวะดูดและอดัของลิ้นปิด-เปิดเพียง 1คร้ังเช่นเดียวกนั แต่ถา้ความ
    ดนั เกินกวา่ 100 ปอนด์/ ตารางนิ้วเครื่องอดัอากาศจะไม่สามารุทา การอดัได้
    1.2 เครื่องอดัอากาศแบบสองข้นั ตอน หรือเครื่องอดัอากาศชนิด2ลูกสูบ เป็ น
    เครื่องอดัอากาศที่มีแรงดนั สูง เครื่องอดัอากาศแบบน้ีจะมีลูกสูบ 2ลูกเมื่อเพลาขอ้เหวี่ยงหมุน 1
    รอบ ลูกสูบท้งัสองจะทา หนา้ที่อดัอากาศเขา้เก็บไวภ้ายในถงั สามารถอดัอากาศเมื่อมีความตอ้งการ
    แรงดนั ที่สูงกวา่ 100 ปอนด์/ ตารางนิ้วเหมาะสา หรับงานพน่ สีขนาดใหญ่งานนิวเมติก และงาน
    หนกัทวั่ ๆ ไป
    2. เครื่องอัดอากาศแบบแผ่นไดอะแฟรม (Diaphragm Type Compressor) เครื่องอัด
    อากาศแบบน้ีจดัอยใู่ นประเภทเครื่องอดัอากาศแบบลูกสูบชนิดหน่ึง เพียงแต่ห้องอดัอากาศกบั
    ลูกสูบจะถูกคนั่ ไวด้ว้ยแผน่ ไดอะแฟรม ใช้พลังงานจากมอเตอร์ไฟฟ้า เมื่อแผน่ ไดอะแฟรมที่ติดกบั
    ลูกสูบเคลื่อนลงอากาศจะถูกดูดเขา้มาจนเตม็ หอ้งอดั และเมื่อแผน่ ไดอะแฟรมเลื่อนข้ึน อากาศก็จะ
    ถูกอดัผา่ นวาลว์ เขา้ไปยงัถงัเก็บลม อากาศที่ไดจ้ากเครื่องอดัอากาศประเภทน้ีจะสะอาดปราศจาก
    น้า มนัและสิ่งสกปรกต่าง ๆ
    เครื่องอดัอากาศแบ่งตามลกัษณะของการใชพ้ลงังานขบั เคลื่อน แบ่งออกไดเ้ป็น เครื่องอดั
    อากาศที่ใช้พลังงานขับเคลื่อนลูกสูบด้วยมอเตอร์ไฟฟ้ า และเครื่องอัดอากาศที่ใช้พลังงานขับเคลื่อน
    ลูกสูบด้วยเครื่องยนต์ซ่ึงมีท้งัชนิดเครื่องยนตเ์บนซินและเครื่องยนตด์ีเซลเครื่องอดัอากาศชนิดน้ีได้
    ออกแบบใหม้ีการติดต้งัลอ้ไวเ้หมาะสา หรับเคลื่อนยา้ยใชง้านนอกสถานที่หรือสถานที่ที่ไม่มีไฟฟ้า
    ใช้ส่วนเครื่องอดัอากาศแบบใชพ้ลงังานในการส่งกา ลงัจากมอเตอร์ไฟฟ้า เครื่องอดัอากาศชนิดน้ีใช้
    งานไดเ้ร็ว สะดวกเหมาะสา หรับติดต้งัในอาคารและโรงงานอุตสาหกรรมทวั่ ไป
    รูปท1ี่ .15แสดงลักษณะการท างานของแผน่ ไดอะแฟรมของเครื่องอัดอากาศ
    อากาศเมื่อถูกอดัแน่นอยใู่ นถงั โมเลกุลจะถูกบีบใหเ้ล็กลงจะเกิดความเยน็และ
    กลนั่ ตวัเป็นหยดน้า อยภู่ ายในถงัและจะไหลอออกมาตามท่อดงัน้นัควรปล่อย
    วาลว์ ปิด/เปิด บริเวณกน้ถงั เพื่อปล่อยน้า ออกทิ้งทุกคร้ังก่อนมีการพน่ สี
    เคร่อ

    งควบคุมความดันอากาศอัด
    เครื่องควบคุมความดันอากาศอดั (Air Regulator) จะท าหน้าที่ควบคุมความดันอากาศที่จะ
    ออกมาจากเครื่องอัดอากาศให้มีความดันใช้งานคงที่ตลอดเวลาขณะเดียวกนัก่อนที่อากาศอดัจะ
    ผา่ นตวัควบคุมความดนั น้นั ตอ้งผา่ นตวักรองอากาศเพื่อทา ความสะอาดอากาศที่ผา่ นมาเสียก่อน
    รูปท1ี่ .16แสดงส่วนประกอบต่าง ๆ ของปั๊มลม
    หมายเหตุ:
    รูปท1ี่ .17 แสดงให้เห็นวาล์วส าหรับปล่อยน้า ทิ้ง ซ่ึงอยบู่ ริเวณกนัถงัของเครื่องอดัอากาศ
    โดยมีน้า จากในถงัที่ไหลมาตามท่อถูกดกัอยใู่ นตวักรองอากาศน้ีดว้ยเครื่องควบคุมความดนั น้ีจะมี
    เกจวดัเพื่อใชใ้นการกา หนดและตรวจสอบความดนัขณะนา อากาศไปใชง้าน
    แอร์ทรานส์ฟอร์เมอร์ (Air Transformer) เป็ นชุดที่มีการน าเอาตัวกรองอากาศ และตัว
    ควบคุมความดนัอากาศเขา้ไวด้ว้ยกนั ทา ใหป้ ระหยดัเน้ือที่สะดวกในการติดต้งัและง่ายต่อการใช้
    งาน สรุปหนา้ที่ของชุดแอร์ทรานส์ฟอร์เมอร์ไดด้งัน้ี
    1. ท าความสะอาดอากาศอดั เช่น กรองฝุ่นละออง น้า น้า มนั และสิ่งสกปรกที่มาจาก
    เครื่องอัดอากาศ ฯลฯ
    2. ควบคุมความดันอากาศใหม้ีความกนัออกไปใชง้านอยา่ งสม่า เสมอ
    รูปท1ี่ .18 แสดงภาพของเครื่องกรองอากาศและเครื่องควบคุมความดัน
    แสดงให้เห็นเส้นทางการไหลของอากาศอัด
    รูปท1ี่ .19 แสดงเครื่องควบคุมความดนัและเครื่องกรองอากาศและน้า ที่ติดต้งัไว้
    ก่อนเขา้เครื่องควบคุมความดัน และหลังจากออกจากเครื่องควบคุมความดัน
    3. สะดวกในการจ่ายอากาศอดัออกไปใชง้าน สามารถต่อท่อออกไปใชง้านไดห้ลายท่อ
    4. สามารถระบายน้า น้า มนั และสิ่งสกปรกออกจากวาลว์ ซ่ึงอยบู่ ริเวณดา้นใตข้องเครื่อง
    รูปท1ี่ .20แสดงลักษณะของชุดแอร์ทรานส์ฟอร์เมอร์
    รูปท1ี่ .21แสดงการต่อระบบทางเดินของอากาศอดัอยา่ งง่าย
    การปรับความดน

    อากาศเพอ่ื


    าไปใช้งาน
    การปรับความดันของอากาศอัดจะข้ึนอยกู่ บัลกัษณะของงานที่ใช้ซึ่งจะใช้ความดันของ
    อากาศอดัที่แตกต่างกนั งานพน่ สีจะมีการปรับความดนั ใชง้านที่เหมาะสมดงัน้ี
    ? งานซ่อมสีแล็กเกอร์จะใช้ความดัน 30-35 ปอนด์/ ตารางนิ้ว
    ? งานพน่ สีแล็กเกอร์ทบักนัจา นวนหลายช้นัก่อนพน่ สีช้นั สุดทา้ยจะใชค้วามดนั 10-
    45 ปอนด์/ ตารางนิ้ว
    ? งานพน่ สีแล็กเกอร์คร้ังสุดทา้ยจะใช้ความดันต ่าประมาณ 20-25 ปอนด/์ ตารางนิ้ว
    ? สีอะคริลิกอีนาเมล ช่วงที่ตอ้งพน่ ทบักนั หลายช้นั เพื่อเพิ่มความหนาใหก้ บั สีก่อนก
    สนพน่ สีคร้ังสุดทา้ยจะใชค้วามดนัอากาศในการพ่นสีประมาณ 45-65 ปอนด์/
    ตารางนิ้ว
    ? สีอลัไคดอ์ีนาเมลเมื่อนา ไปใชพ้ น่ ชิ้นงานก่อนทา การพน่ สีสา เร็จคร้ังสุดทา้ยจะใช้
    ความดันอากาศประมาณ 45-55 ปอนด์/ ตารางนิ้ว
    การเลือกใชท้ ่อลมใหเ้หมาะสมกบัขนาดแรงมา้ของมอเตอร์และความสามารถในการบรรจุ
    อากาศของเครื่องอัดอากาศ ผู้ปฏิบัติงานต้องพิจารณาเลือกใชท้ ่อใหถู้กตอ้งและมีขนาดที่เหมาะสม
    กบัแรงมา้ของเครื่องอดัอากาศและปริมาตรของอากาศที่สามารถบรรจุไดใ้นถงัตามตารางดงัต่อไปน้ี
    ตารางที่1.1แสดงขนาดของท่อลมต่า สุดที่เหมาะสมกบัขนาดของเครื่องอดัอากาศ
    ความสามารถของเครื่องอัดอากาศ ระยะการเดินทางของอากาศ
    ขนาด
    (แรงม้า)
    ความสามารถปล่อยอากาศ
    (ลูกบาศก์เมตร)
    ความยาว
    (ฟุต)
    ขนาด
    (นิ้ว)
    1 ? 6-9 มากกวา่ 50 3/4
    รูปท1ี่ .22แสดงการติดต้งัเครื่องอดัอากาศ ท่อทางเดินของอากาศดนั
    และตัวแอร์ทรานส์ฟอร์เมอร์ใช้งานหลายจด
    3 และ 5 12-20 จนกระทงั่ ถึง200
    มากกวา่ 200
    3/4
    1
    5-10 20-40 จนกระทงั่ ถึง100
    มากกวา่ 100 ? 200
    มากกวา่ 200
    3/4
    1
    1 1/4
    10-15 40-60 จนกระทงั่ ถึง100
    มากกวา่ 100 ? 200
    มากกวา่ 200
    1
    1 1/4
    1 1/2
    ที่มา : ข้อมูลของบริษัท De Vibiss, Clive H. Hare. Paintingof Steel Bridges and Other Structures. New
    York, Van Nostrand Reinhold International Company Limited: 1990. p. 118
    จากตารางที่ 1.1 จะเห็นวา่ ถา้เครื่องอดัอากาศมีขนาด1 เศษ 1 ส่วน 2และ2แรงมา้
    สามารถปล่อยอากาศอดัไดป้ ริมาตร6-9 คิวบิกฟุต/ นาที (CFM)แลว้ ถา้ความยาวของท่อหลกัที่ใชมี้
    ความยาวท้งัหมดเกินกวา่ 50 ฟุตแลว้ ควรเลือกใชท้ ่อหลกัในการเดินมีขนาดเส้นผา่ ศูนยก์ลาง 3
    ส่วน 4 นิ้ว(19 มม.)
    ความดันของอากาศอัดที่หายไป ความดันของอากาศอัดจะขาดหายไประชุดทรานส์ฟอร์
    เมอร์กบักาพน่ สีความดนัอากาศอดัจะขาดหายไป 6 ปอนดต์ ่อทุก ๆ ความยาวของสายยาง 25 ฟุต
    เช่น ความดนั ที่46 ปอนด/์ตารางนิ้วเมื่อวัดความดันที่บริเวณกาพน่ สีจะเหลือเพียง 40 ปอนด์/
    ตารางนิ้วเท่าน้นั ดงัน้นั การปรับความดนั ที่แอร็ทรานส์ฟอร์เมอร์ตอ้งปรับเผอื่ ไวใ้หม้ ากกวา่
    เพื่อใหไ้ดร้ะดบัความดนั ที่ถูกตอ้ง เหมาะสมตรงบริเวณกาพน่ สีตามตารางที่1.2ดงัน้ี
    ตารางที่1.2แสดงความดนัอากาศอดัที่กาพน่ สี
    ความโตของรูสายยาง
    (ส้นผ่าศูนย์กลาง)
    ความดันอ่านได้ที่
    ทรานส์ฟอร์เมอร์
    ความดันที่กาพ่นสีซึ่งจะเปลี่ยนตาม
    ความยาวของสายยาง (ฟุต)
    ปอนด์ 5 10 15 20 25 50
    5/16 นิ้ว 30 29 28/12 28 27/12 27 23
    40 38 37 37 37 36 32
    50 47 48 46 46 45 40
    60 57 56 55 55 54 49
    70 66 65 64 63 63 57
    80 75 74 73 72 71 66
    90 84 83 82 81 80 57
    1/4 นิ้ว 30 26 24 23 22 21 9
    40 34 32 31 29 27 16
    50 43 40 38 36 34 22
    60 51 48 46 43 41 29
    70 59 56 53 51 48 36
    80 68 64 61 58 55 43
    90 76 71 68 65 61 51
    ที่มา : ข้อมูลของบริษัทดูปองต์ (Du Pont Company) Clive H. Hare. Painting of Steel Bridges and other
    Structures. . New York, Van Nostrand Reinhold International Company Limited: 1990. p. 121
    จากตารางที่1.2จะเห็นวา่ ถา้ใชส้ ายยางที่มีขนาดเส้นผา่ ศูนยก์ลางของรูเศษ 1 ส่วน 4 นิ้ว(6
    มม.)อ่านความดันที่แอร์ทรานส์ฟอร์เมอร์ได้60 ปอนด/์ตารางนิ้ว สายยางยาว15 ฟุต จะเหลือความ
    ดนั ที่กาพน่ สีเพียง 46 ปอนด/์ตารางนิ้วเท่าน้นั
    สายยาง
    สายยาง (Hose) เป็นท่อที่ใชใ้นการลา เลียงอากาศอดัหรือสีออกไปยงักาพน่ สีโดยทวั่ ไป
    สายยางที่ใชใ้นการพน่ สีจะมี2 ชนิดคือ สายยางที่ใชเ้ป็นทางเดินของอากาศอดั และสายยางที่ใช้
    เป็ นทางเดินของสีหรือของเหลวการออกแบบโครงสร้างใหม้ีท้งัชนิดใยเชือก1 ช้นั สา หรับความดนั
    ใชง้านที่ไม่สูงมากนกั หรือชนิดใยเชือก2 ช้นั สา หรับสายยางที่ตอ้งการแรงดนั สูง ท่อยางที่จะ
    นา มาใชใ้นงานพน่ สีน้ีจะตอ้งผา่ นกรรมวธิีทางเคมีโดยการนา น้า ยางไปผสมกบักา มะถนัและนา ไป
    เคี่ยวหรืออบ เพื่อใหม้ีคุณสมบตัิทางกลและทางเคมีดีข้ึน
    โครงสร้างของสายยางควรมีคุณสมบตัิดงัน้ี
    1. ท่อภายใน (Inner Tube) โครงสร้างส่วนน้ีตอ้งตา้นทานต่อสารทา ละลายได้ทนต่อ
    แรงดันและอุณหภูมิสูงได้
    2. ชั้นสอดใยเชือก (Braid Insert) ช้นั น้ีจะมีการสานใยเชือกฝังตวัอยใู่ นยางโดยรอบเป็น
    ช้นั ที่แขง็แรงทนทานต่อแรงดึงสูง เพื่อใช้ในการต้านทานแรงดันของอากาศอัดภายใน
    ท่อและยดืหยนุ่ ตวัไดด้ี
    3. ชั้นเปลือกนอก (Outside Cover) เป็นช้นั ที่ห่อหุม้ ท่อภายในและช้นั ใยเชือกผวิจะ
    สัมผสักบัอากาศภายนอกและวตัถุต่าง ๆ ดงัน้นั ช้นเปลือกนอกจึง ั เป็ นยางที่สามารถ
    ตา้นทานต่อการถูกขีดข่วน ทนต่อน้า น้า มนั และสารเคมีต่างๆ ไดด้ี
    สายยางที่ใชใ้นงานพน่ สีสามารถแบ่งออกไดเ้ป็น 2 ประเภท คือ
    1. สายยางที่ใชก้ บัอากาศอดั ควรมีส่วนผสมของโครงสร้างดงัน้ี
    ? ท่อภายใน ควรทา จากยางไนไตร หรือเรียกวา่ ยางบูนา
    ? ช้นั สอดใยเชือกควรใชแ้พรเทียมสานอยภู่ ายในยางเพื่อเป็ นการเสริมแรง
    เพิ่มกา ลงัและทา ใหผ้ นงัของท่อทนต่อแรงดึงสูงได้
    ? ช้นั เปลือกนอกควรใชย้างชนิดนีโอพรีน หรือยางธรรมชาติมีผวิเรียบ
    และมีสีแดง
    ? ขอ้ ต่อเขา้กบักาพน่ สีควรใชข้อ้ ต่อที่ทา จากทองเหลือง
    สายยางสา หรับอากาศอดัน้ีสามารถนา ไปใชพ้ น่ สีไดก้ บักาพน่ สีแบบซกั ชนั ฟีด(Suction
    Feed) และแบบเพรสเชอร์ฟี ด (Pressure Feed) โดยไม่เกิดการบวมหรือเปื่อย นิยมน าไปใช้ในการ
    พน่ สีโดยต่อเขา้กบักาพน่ สีมีขนาดของรูภายในโตประมาณเศษ 5 ส่วน 10 นิ้ว(8 มม.) ความยาวที่
    นิยมนา ไปใชก้ นั มากที่สุด มีความยาวระหวา่ ง 25-50 ฟุต แต่ถา้เป็นการพน่ สีงานชิ้นเล็ก ๆ หรือใช้
    กบัการพน่ สีขนาดเล็กก็ควรใชส้ ายยางที่มีรูภายในขนาดเศษ 1 ส่วน 4 นิ้ว(6มม.)และใชค้วามยาม
    ไม่เกิน 12 ฟุต
    รูปที่1.23แสดงลักษณะโครงสร้างภายในของสายยาง
    2. สายยางที่ใช้เป็ นทางเดินของสีหรือของเหลวยางที่ใชท้ า ผนงัของท่อ ตอ้งตา้นทานต่อ
    สารทา ละลาย ต่าง ๆ ไดด้ีเช่น สีอะคริลิกแล็กเกอร์สีอีนาเมลและสารเคมีต่าง ๆ ที่เป็นของเหลว
    ท่อยางชนิดน้ีนา ไปใชเ้ป็นทางเดินของสีกาพน่ สีแบบเพรสเชอร์ฟีดการใชง้านของสายยางชนิดน้ี
    จะใช้สายยางที่ยาว เนื่องจากบริเวณพ่นสีกบัถงับรรจุสีอยหู่ ่างกนั
    โดยทวั่ ไปความยาวที่นิยมใชก้ ็คือความยาวระหวา่ ง 25-50 ฟุต เหมาะสา หรับการพน่ สีใน
    โรงงานขนาดใหญ่ที่มีการพ่นสีจา นวนมากความโตของท่อภายในที่นิยมใชค้ือเศษ 3 ส่วน 8 (10
    มม.)และเศษ 5 ส่วน 16 นิ้ว(8 มม.)
    ท่อที่ใชเ้ป็นทางเดินของลม ใชส้ ัญลกัษณ์สีแดง ส่วนที่ใชเ้ป็นทางเดินของสีใช้
    สัญลักษณ์สีด าอยา่ นา ท่อทางเดินของลมมาใชเ้ป็นทางเดินของสีแต่สามารถใชท้ ่อ
    ทางเดินของสีไปใช้เป็ นทางเดินของลมได้ การใชท้ ่อยางควรคลายออกมาใชง้าน
    และเก็บในลกัษณะมว้นไว้เมื่อทา งานพน่ สีเสร็จเรียบร้อยแลว้
    เคร่อ

    งขด

    สี
    เครื่องขัดสี เป็นเครื่องมือที่ช่วยในการผอ่ นแรงแก่ผปู้ ฏิบตัิงาน มี2 ประเภท คือ
    1. เครื่องขัดกระดาษทราย เป็ นการขัดหยาบใช้ส าหรับขัดผิวโลหะ หรือขัดสีโป๊ วให้เรียบ
    สามารถถอดเปลี่ยนกระดาษทรายไดท้ ้งักระดาษทรายหยาบและกระดาษทรายละเอียด มีท้งัแบบใช้
    กระแสไฟฟ้ าเป็ นพลังงานในการหมุนและแบบใช้ลมความดันสูงดังแสดงในรูปขา้งล่างน้ี
    รูปท1ี่ .24ขอ้ ต่อและเหลก็รัดท่อลม รูปท1ี่ .25 ขอ้ ต่อแบบปลดได้
    หมายเหตุ:
    2. เครื่องขดัผา้ใชข้ดัสีที่พน่ สา เร็จแลว้ เพื่อขจดัละอองสีที่แหง้กลางเกาะติดอยบู่ นผิวงาน
    ใหเ้กิดความเงางาม โดยใชร้่วมกบัครีมขดั ซ่ึงในข้นั ตอนแรกเมื่อสีแหง้ใหม่ๆ ควรขดัหยาบก่อน
    จากน้นัจึงตามดว้ยการขดัละเอียด
    นอกจากน้ีเครื่องมืออุปกรณ์งานสียงัมีหลายชนิดเช่น กาพน่ สีหินขดัและผา้สักหลาดฯลฯ
    ซ่ึงรายละเอียดจะไดก้ล่าวถึงในบทต่อไป
    แบบประเมินผลการเรียนรู้
    หน่วยที่ 1
    ตอนที่1จงตอบคา ถามต่อไปนีใ้ห

    ถูกต

    อง
    1.คอ้นข้ึนรูปที่ใชอ้ยโู่ ดยทวั่ ไปมีอะไรบา้งและมีวธิีการทา งานอยา่ งไร
    ???????????????????????????????????????
    ???????????????????????????????????????
    (ก) เครื่องขัดแบบไฟฟ้ า
    รูปท1ี่ .26 แสดงลักษณะของเครื่องขัดกระดาษทราย
    (ข) เครื่องขัดแบบใช้ลม
    รูปท1ี่ .27 แสดงลักษณะการใช้เครื่องขัดผ้า
    ???????????????????????????????????????
    ???????????????????????????????????????
    2. การใชค้อ้นที่ถูกตอ้งมีวธิีการอยา่ งไร
    ???????????????????????????????????????.
    ???????????????????????????????????????.
    ???????????????????????????????????????.
    ???????????????????????????????????????
    3. การทา งานของเครื่องอดัอากาศแบบข้นั ตอนเดียวมีวธิีการทา งาน คือ
    ???????????????????????????????????????
    ???????????????????????????????????????
    ???????????????????????????????????????
    ???????????????????????????????????????
    4. หน้าที่ของชุดแอร์ทรานส์ฟอร์เมอร์ คือ
    ???????????????????????????????????????
    ???????????????????????????????????????
    ???????????????????????????????????????
    ???????????????????????????????????????
    5. เครื่องขดักระดาษทรายกบั เครื่องขดัผา้มีความแตกต่างอยา่ งไร
    ???????????????????????????????????????
    ???????????????????????????????????????
    ???????????????????????????????????????
    ???????????????????????????????????????
    ตอนที่2 จงเลือกค าตอบที่ถูกต้องที่สุดเพียงข้อเดียว
    1.ขอ้ใดไม่จดัอยใู่ นกลุ่มของคอ้นเคาะข้ึนรูป
    ก. ค้อนปลายขวาง ข. ค้อนปลายตรง
    ค. ค้อนตู๊ ง. ค้อนปลายแหลม
    2.คอ้นที่ใชเ้คาะแต่งผวิเรียบใชข้้ึนสันแนวตรงคือ
    ก. ค้อนปลายขวาง ข. ค้อนปลายตรง
    ค. ค้อนตู๊ ง. ค้อนปลายแหลม
    3. ค้อนชนิดใดใชเ้คาะไม่ให้โลหะแผน่ ยดืตวั
    ก. ค้อนปลายขวาง ข. ค้อนปลายตรง
    ค. ค้อนตู๊ ง. ค้อนไม้
    4..คอ้นชนิดใดใชร้องรับชิ้นงานขณะตีดว้ยคอ้น
    ก. ค้อนปลายขวาง ข. ค้อนปลายตรง
    ค. ค้อนตู๊ ง. ค้อนไม้
    5. จุดประสงคข์องการเคาะข้ึนรูป คือ
    ก. เคาะโลหะใหไ้ดรู้ปร่างใหม่ ข. เคาะโลหะใหไ้ดช้ิ้นงานเพิ่มข้ึน
    ค.เคาะรอยบุบให้คืนสภาพเดิม ง. เคาะโลหะเป็ นแบบของงาน
    6.คอ้นที่มีลกัษณะเป็นกา้นเหล็กสอดอยใู่ นแท่งเหล็กที่เจาะรูไว้ส่วนปลายงอคือ
    ก. ค้อนปลายขวาง ข. ค้อยปลายแหลม
    ค. ค้อนตู๊ ง. ค้อนกระตุก
    7. การจับค้อนที่ถูกต้องดา้มคอ้นควรเอียงทา มุมกบั แขนประมาณ
    ก. 60 องศา ข. 90 องศา
    ค. 120 องศา ง. 135 องศา
    8. การเคาะข้ึนรูปใหใ้ชแ้รงเคาะมาจากส่วนใด
    ก. ข้อศอก ข. ข้อมือ
    ค. แขน ง.ไหล่
    9. ขอ้ใดไม่จดัอยใู่ นหนา้ที่ของชุดแอร์ทรานส์ฟอร์เมอร์
    ก. ท าความสะอาดอากาศ ข. น้า ไหลตามท่อดกักรอง
    ค. ควบคุมความดันอากาศ ง.ระบายน้า น้า มนั จากวาลว์
    10. งานซ่อมสีแล็กเกอร์จะใชค้วามดนั ที่ขอ้ใด
    ก. 15-35 ปอนด์/ตารางนิ้ว ข. 20-25 ปอนด/์ตารางนิ้ว
    ค. 40-45 ปอนด/์ตารางนิ้ว ง. 45-55 ปอนด/์ตารางนิ้ว
    11. สีอัลไคดอ์ีนาเมลพน่ สีคร้ังสุดทายจะใช้ความดันอากาศประมาณ ้
    ก. 15-35 ปอนด์/ตารางนิ้ว
    ข. 20-25 ปอนด/์ตารางนิ้ว
    ค. 40-45 ปอนด/์ตารางนิ้ว
    ง. 45-55 ปอนด/์ตารางนิ้ว
    12. สายยางอากาศที่ใชง้านกนั มากจะมีความยาวประมาณ
    ก. 20-50 ฟุต ข. 25-50 ฟุต
    ค. 30-50 ฟุต ง. 35-50 ฟุต
    13. ท่อที่ใช้เป็ นทางเดินของสีใช้สัญลักษณ์ คือ
    ก. สีแดง ข. สีเหลือง
    ค. สีน้า เงิน ง. สีด า
    14. เครื่องมือขดัสีที่นิยมใชม้ีกี่ประเภท
    ก. 2 ประเภท ข. 3 ประเภท
    ค. 4 ประเภท ง. 5 ประเภท
    15. Air Regulator มีหน้าที่ส าคัญ คือ
    ก. ส่งถ่ายอากาศไปยงัหวัฉีด ข. ควบคุมความดันอากาศ
    ค.กกัเก็บอากาศ ง.ผสมสีกบัอากาศ

    ---------------------------

    www 203.172.180.165/lptc/sub-web/web_dvt/sub-dvt/dvt01/data/cor02.pdf

    หน่วยที่ 2
    กาพ่นส

    ----------------------------

    www 203.172.180.165/lptc/sub-web/web_dvt/sub-dvt/dvt01/data/cor03.pdf

    หน่วยที่ 3
    ชนิดของสีและการเลือกใช้งาน

    -----------------------------

    www 203.172.180.165/lptc/sub-web/web_dvt/sub-dvt/dvt01/data/cor04.pdf

    หน่วยที่ 4
    การลอกสีและการขัดเตรียมผิวงาน

    -----------------------------

    www 203.172.180.165/lptc/sub-web/web_dvt/sub-dvt/dvt01/data/cor05.pdf

    หน่วยที่ 5
    การโป๊ วสีและการขัดสีโป๊ ว

    -----------------------------

    www 203.172.180.165/lptc/sub-web/web_dvt/sub-dvt/dvt01/data/cor06.pdf

    หน่วยที่ 6
    การผสมสี

    -----------------------------

    www 203.172.180.165/lptc/sub-web/web_dvt/sub-dvt/dvt01/data/cor07.pdf

    หน่วยที่ 7
    การพน่ สีกนั ชนและการปิดกระดาษคลุม

    -----------------------------

    www 203.172.180.165/lptc/sub-web/web_dvt/sub-dvt/dvt01/data/cor07.pdf

    หน่วยที่ 8
    การขดัสีรถยนตห์ ลงัการพน่ สี

    -----------------------------

    ผู้สอนรายวิชางานสีรถยนต์
    นายนิคม ประทุมมาศ

    ครูพิเศษสอนแผนกวิชาช่างยนต์

    วิทยาลัยเทคนิคลำปาง

    ################

    www share.psu.ac.th/blog/sothorn-general/27906

    งานซ่อม ปะผุและทำสีใหม่รถบัส ตอนที่ 1
    ความรู้ไม่มีที่สิ้นสุด หากเราเป็นน้ำไม่เต็มแก้ว
    ตามที่คณะทรัพยากรธรรมชาติ ได้ทำการซ่อมรถบัสคณะฯ 40 ที่นั่ง ทะเบียน 40-0331 จากเงินรายได้คณะฯ 2556 ผมซึ่งเป็นหนึ่งในผู้ควบคุมงาน ซึ่งต้องควบคุมงานให้เป็นไปตามข้อกำหนดที่ได้ตกลงกันไว้ ดังนั้นในการทำงานผมจึงมีคำถามเกิดขึ้นในใจตลอดเวลาว่า ทำอะไรครับ ทำยังไงครับ ทำทำไม ทำนานมั้ย แล้วไม่ทำได้มั้ย และเมื่อผมได้รับคำตอบ ผมก็จะนำคำตอบนั้นมาหาข้อมูลเพิ่มเติมว่าจริงหรือไม่ ซึ่งทำให้ผมมีความรู้มากขึ้นโดยไม่รู้ตัว

    โดยขั้นตอนการซ่อมรถบัสคณะฯ จะประกอบไปด้วยขั้นตอนต่างๆ ดังนี้

    1. ขั้นตอนการลอกสีเก่าออก

    1111

    จากภาพที่ 1 จะเห็นว่า รถมีรอยสีดำๆ เนื่องจากการลอกสีเก่าออก โดยช่างจะความร้อนในการทำให้สีของตัวรถอ่อนตัว หลังจากนั้นก็จะทำการใช้เครื่องมือขูดสีรถออก เมื่อสีเก่าออกหมดแล้ว ก็จะเห็นส่วนที่ผุของรถ

    2. ซ่อมแซมในส่วนที่ผุ

    2222

    จากภาพที่ 2 จะเห็นว่าช่างได้ทำการซ่อมแซมตัวถังรถในส่วนที่ผุ หลังจากซ่อมแซมตัวถังแล้วช่างจะทำการขัดจนเหล็กเกิดความมันวาว ดังภาพที่ 3

    3333

    จากภาพที่ 3 จะเห็นว่าเหล็กที่ขัดเกิดความมันวาว เพื่อที่จะช่วยให้งานในขั้นตอนต่อไปคือ การพ่นสีรองพื้นสามารถยึดเกาะกับตัวถังรถได้ดี

    จากการแสดงขั้นตอนต่างๆ ของการซ่อมรถบัสคณะฯ ผมคิดว่าทุกท่านที่ได้เข้ามาอ่านคงจะเข้าใจว่าการซ่อมมีขั้นตอนอย่างไร และผมจะนำความรู้ที่ได้จากการควบคุมงานในครั้งนี้มาเล่าให้ฟังในตอนต่อไปครับ

    --------------------------------


    www thaiautovintage.com/web/classiccars_detail.php?id=285&type=Services

    ด้วยประสบการณ์ในการบรูณะรถคลาสสิก เราจึงสามารถบริการได้ทุกอย่างที่นักสะสมต้องการ ตั่งแต่จัดจำหน่ายอะไหล่สำหรับรถคลาสิก สั่งตรงจากต่างประเทศ ซ่อมบำรุงประจำระยะทางสำหรับรถคลาสิก บูรณะรถคลาสิก

    In accordance with our experience, we offer a full range services that collectors need for their classic cars such as new and used spare parts, routine maintenance and restoration service.


    Mercedes Benz W111 280SE 3.5 Before
    เตรียมพบกับNew Project
    รถMercedes Benz W111 280SE 3.5 ของคุณเคน ธีรเดช เร็วๆนี้

    ------------------------------

    www fordclub.net/2011/module_view.php?mod=webboard&fn=view&cid=98139


    แนะนำอู่ทำสีระบบแห้งช้า2k เคาะ ปะ ผุ เจาะแก้ม ติดตั้งหลังคาซันรูฟ มีรถให้เช่าวันละ350บาท พ่นสีในห้องพ่นมาตรฐานระบบดูดอัด ฝุ่นจึงไม่เกาะผลงานเนียนรับประกันความพอใจ ขายชุดแต่งรอบคันทุกรุ่นพร้อมทำสีขอดูรูปชุด

    แนะนำอู่ทำสีระบบแห้งช้า2k เคาะ ปะ ผุ เจาะแก้ม ติดตั้งหลังคาซันรูฟ มีรถให้เช่าวันละ350บาท พ่นสีในห้องพ่นมาตรฐานระบบดูดอัด ฝุ่นจึงไม่เกาะผลงานเนียนรับประกันความพอใจ ขายชุดแต่งรอบคันทุกรุ่นพร้อมทำสีขอดูรูปชุดแต่งได้

    ผลงานเทียน่า เปลี่ยนสีจากขาวมุกเดิมของเทียน่า ให้เป็นขาวมุกนิวแคมรี่ ผลงานออกมาสีสว่างสวย (ขาวมุกนิวแคมรี่จะออกสว่างกว่า มุกเยอะกว่า ส่วนขาวมุกเทียน่าจะอมเหลืองๆมุกน้อย)
    รูปผลงาน ขั้นตอนหลังจากรื้ออะไหล่โป้วเก็บรอยรอบคันเสร็จ ต่อมารองพื้น แปะกระดาษป้องกันสีเลอะชิ้นส่วนตามขอบ เข้าห้องพ่นเตรียมพ่น



    รูปจากห้องพ่น หลังพ่นเสร็จใหม่ๆ



    ขั้นตอนประกอบรถ




    จากรูปบนก่อนขัดยา

    ประกอบเสร็จ


    อีกรูป ขาวเดิมเทียน่าด้านขาว เปรียบเทียบกับรูปที่เหลือซึ่งพ่นขาวมุกนิวแคมรี่


    การเปลี่ยนหลังคา วิธีการติดตั้งและวัสดุอุปกรณ์ที่ใช้ในการเชื่อมนั้นสำคัญ! อู่เราใช้วิธีการเลาะตามตะเข็บหลังคาและเชื่อมโดยเครื่องเชื่อมco2ในการเชื่อมตัวถังซึ่งเครื่องตัวนี้ช่วยถนอมเหล็กรถ จะไม่ทำให้เหล็กตัวถังที่เชื่อมบาง และจะไม่เกิดสนิมในระยะยาว รอยที่เชื่อมจะเป็นรูปสวย ทำได้ทั้งหลังคาตรงรุ่น หรือแปรงสำหรับหลังคามาไม่ตรงรุ่น (โดยเจาะ)



    ตัวอย่างเจาะแก้ม



    อู่ เคาะพ่นสี A.P. Garage ทำสีระบบแห้งช้าซึ่งสีที่ออกมาจะเงาสวยเหมือนรถใหม่ป้ายแดง และทนทานอยู่ได้นาน ทีมงานของเราเป็นช่างพ่นสีและช่างผสมสี ที่มีประสบการณ์ยาวนานฝีมือดี สีที่ใช้เป็นสี ดูป๊อง ( dupont) หรือ นกแก้ว แล้วแต่ลูกค้าจะระบุ ราคาตามคุณภาพสีและsizeรถ ซึ่งราคาเริ่มต้นที่15000 รอบคัน

    ผลงานแจ๊สเปลี่ยนสีเทาเป็นชมพู เจาะแก้ม ใส่ซันรูฟ






    Benz เปลี่ยนหลังคาซันรูฟ ทำสี





    รูปผลงาน เบ็นซตากลม เปลี่ยนหลังคาซันรูฟ ทำสี

    รื้อเบาะถอดกระจกหน้าหลัง ติดตั้งหลังคา



    ลอกหลังคาถึงเหล็ก (กรณีที่พิ้นหลังคามาไม่ดี)ลงด้วยน้ำยาเกาะเหล็กอย่างดียี่ห้อซิกเก้น



    ต่อมาโป้ว รองพื้น



    พ่นสีจริง


    ผลงานซูบูรุ เปลี่ยนสีจากเทาเป็นเหลือง ใส่ซันรูฟ ปะผุรอบคัน

    เริ่มจาก เลาะหลังคาเดิมออก ทำการใส่หลังคาซันรูฟ และปะผุรอบคัน



    โป้ว รองพื้น



    หลังพ่น


    รูปผลงาน honda เปลี่ยนหลังคาซันรูฟโดยวิธีแปรงใส่ เนื่องจากหลังคามาไม่ตรงรุ่น และปลี่ยนสีรถจากเทาเป็นแดง ใช้สีแห้งช้าแลคเกอร์ดูป๊อง

    รูปติดตั้ง



    ผลงานSuburu เปลี่ยนสีจากเดิมขาว เป็นสี ส้มแดง


    แจ๊ส เปลี่ยนหลังคาเป็นซันรูฟเริ่มจาก ถอดกระจกหน้าหลัง เลาะตะเข็บหลังคาเกาออก งานเชื่อมด้วยเครื่องco2ป้องกันการเกิดสนิม

    เริ่มโป้ว

    พื้น

    พ่นให้ห้องมตราฐาน ระบบดูดอัด ป้องกันฝุ่นเกาะสี


    Toyota wish เปลี่ยนสีจากเทาเป็น ขาวมุก



    Toyota wish เปลี่ยนสีจากดำเทามีมุก เป็นสีดำสนิทเบอร0ไม่มีมุก



    ยังมี บริการซ่อมเครื่อง ช่วงล่าง
    สำหรับรถที่มีประกันภัยชั้น 1 สามารถเครมทำสีได้รอบคัน และ รับซ่อมสีรถประกันตามใบเครม รับงานประกันทุกประกันภัย ค่าเอ็กเซฟเจรจากันได้ ถ้าทางบริษัทประกันของคุณเรียกเยอะ ทางอู่อาจช่วยออกให้ครึ่งนึงของราคาเรียก หรืออาจไม่เก็บ ไม่ดองงาน เน้นคุณภาพ ยินดีรับบัตรเครดิต ลอง โทรปรึกษาได้ tel: 084-452-2489, 081-7213-377,02 892 3944

    ห้องพ่น

    หรือเมลมาถามรายละเอียดหรือขอดูรูปผลงานที่ suwanu16@hotmail.com
    หรือ lineที่ cheez78
    สถานที่ตั้ง อยู่ บางบอน 5 ซอยเพชรเกษม 81 หนองแขม กทม
    Last edited by PERAWAT153; 25 May 2016, 18:53:47.

    Comment


    • www teentoa.com/board/?action=view&rid=26&id=0007658



      -------------------------------

      www directasia.co.th/blog/car/retro-skyline-c10/

      พาไปชม Nissan Skyline C10 สวยๆ จากคนชอบรถเก่า
      รถเก่าเป็นอีกมุมหนึ่งเรื่องรถยนต์ที่ผมชอบ ค่อนข้างชอบพอสมควร ผมว่ารถเก่ามีเสน่ห์และมนต์ขลัง ถ้าใครชอบรถเก่าเหมือนกันก็คงจะเข้าใจถึงความรู้สึกของผม เพราะเราคงมีความรู้สึกเดียวกัน

      สัปดาห์ที่แล้วช่วงกลางเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา ผมมีโอกาสได้ไปเยือนบ้านของพี่คนหนึ่งที่ต้องบอกว่าเป็นคนรักรถเก่ามากๆ คนหนึ่ง เล่นรถเก่ามาแล้วนักต่อนัก และต้องบอกว่าเล่นถึงเสียด้วย ถ้าลองได้รถรุ่นไหนมา ต้องจัดการฟื้นฟูสภาพให้กลับมามีชีวิตชีวาได้อย่างน่าตื่นตาตื่นใจ

      พี่คนที่ว่านี้ก็คือ พี่วสันต์ เหล่าเหลืองธนา คนที่เล่นรถเก่าหลายๆ คนน่าจะรู้จัก เพราะพี่วสันต์เล่นรถเก่ามานาน และมีรถเก่าอยู่หลายรุ่น ผมมีโอกาสได้เจอพี่วสันต์ตอนที่ไปมีตติ้งกับกลุ่ม Datsun Thailand วันนั้นพี่วสันต์ขับ Nissan Skyline C10 คันงาม สีเทาไปแจมกับกลุ่ม

      เมื่อได้เจอรถสวยๆ แบบนั้น ผมก็ไม่พลาดที่จะติดต่อทาบทามไปลงบทความในคอลัมน์เกี่ยวกับรถยนต์ที่เขียนอยู่ประจำ รวมถึงที่ Blog DirectAsia.com นี่ด้วย น่าเสียดายวันที่ผมเข้าไปหาพี่วสันต์ Skyline C10 คันงาม สีเทาที่หมายตาไม่อยู่ แต่ผมก็ไม่เสียเที่ยวหรอก เพราะในลานจอดรถของพี่วสันต์มีรถเก่า รถคลาสสิคสวยๆ ให้ผมได้สัมผัสอยู่ตั้ง 6-7 คัน และมี Skyline C10 อีกหนึ่งคันที่สวยไม่แพ้คันที่ผมเคยเจอรวมอยู่ในนั้นด้วย



      ว่ากันถึง Skyline C10 เป็นเรโทรคาร์พิมพ์นิยมที่คนเล่นรถเก่าต้องรู้จัก รถรุ่นนี้มีชื่อเสียงมาก คันที่ผมเขียนถึงครั้งนี้เป็นรุ่น 4 ประตูหน้าสั้น ปี 1969 พี่วสันต์ได้รถคันนี้มาหลายปีแล้ว เป็น C10 จำนวน 1 ใน 4 คันที่พี่เขามีอยู่ (ขอผมสักคันได้ไหม)

      คันนี้ใช้เวลาทำสีและตัวถังอยู่ปีกว่าๆ ลองไปถามใครก็ได้ที่เล่นรถเก่า ที่มีอายุรถประมาณนี้ แต่ละคนเฝ้ารอการทำสีและตัวถังกันเป็นปีๆ แทบทั้งนั้น ใจไม่รัก รอไม่ได้นะเนี่ย คอนเซ็ปต์ในการทำ C10 คันนี้พี่วสันต์บอกว่าต้องการให้ออกมาในลักษณะกึ่งสแตนดาร์ด ภายนอกแต่งให้ดูเหมือนรุ่น GTR ส่วนภายในทำแบบเดิมๆ



      ในส่วนของเครื่องยนต์เปลี่ยนจากเครื่อง G15 เป็นเครื่อง L16 ไม่ได้ทำอะไรนอกจากเปลี่ยนคาร์บูฯ เป็น Weber 45 ชิ้นส่วนตัวถังมีครบทุกชิ้น ไม่ว่าจะเป็นป้ายหรือโลโก้ต่างๆ แต่ที่ไม่ได้ติด เพราะต้องการให้ภายนอกดูเรียบๆ โล่งๆ อะไหล่ต่างๆ พี่วสันต์บอกว่ายังหาได้ไม่ยาก เพราะเป็นรถที่ได้รับความนิยม มีคนเล่นเยอะ เล่นกันทั่วโลก ถ้าในเมืองไทยไม่มีของ ที่ญี่ปุ่นก็ยังมี



      ผมคุยเท่าไรก็ไม่เท่าดูด้วยตา พยายามจะลงรูปให้เยอะๆ ใครที่ชอบรถเก่าและชื่นชอบ Skyline เชิญทัศนาได้เลยครับ ดูแล้วพยายามสะกดกิเลสด้วย เกิดอยากได้ขึ้นมาเดี๋ยวจะเดือนร้อน ขอบคุณพี่วสันต์ครับที่เอื้อเฟื้อข้อมูล

      ชมรถเสร็จแล้ว ถ้าต้องการตรวจสอบเบี้ยประกันภัยรถยนต์เข้าไปที่เว็บไซต์ของ DirectAsia.com ประเทศไทยได้นะครับ เพราะรับประกันภัยชั้น 1 แม้รถจะมีอายุมากถึง 10 ปีก็เลือกซ่อมห้างได้ สำหรับรถยนต์เก่าที่มีอายุมากกว่านี้ก็โทรสอบถามรายละเอียดที่ 0-2627-7777 เพื่อซื้อประกันภัยชั้นอื่นๆได้ราคาดีเช่นกัน
      Last edited by PERAWAT153; 26 May 2016, 06:20:41.

      Comment


      • www corollaclubrace.com/forum/index.php?PHPSESSID=57143f7ba2d366dc7aa00c5d47f186bf&topic=17748.msg364548#msg364548

        รับพ่นสีรถยนต์ ราคาถูก เริ่มต้น 9500 บาท/คัน .....รับประกันสี 1ปี
        เมื่อ: มิถุนายน 18, 2011, 23.32.40

        a32

        ทำสีนกแก้วขั้นตอนเดียว (ไม่ใช้แลคเกอร์) + ปะผุหลังคา ขัดเงาด้วยฟองน้ำ เคลือบเงาด้วยครีมขัด แมกไกว์


        ระยะเวลา 20 วัน
        ราคา 35000 บาท


        ที่สุดของสีดำตั้งแต่เคยทำมา


























        สาเหตุของรถเซฟิโร่ที่หลังคาผุเป็นจุดๆอย่างเป็นระเบียบนั้น เกิดจากกาวที่เชื่อมติดระหว่างโครงเหล็กกับหลังคานั้นกัดเนื้อเหล็กจนผุ เมื่อเราปะผุหลังคาแล้วจึงแซะเหล็กที่ติดกับหลังคาออกทั้งหมดแล้วจึงยิงจารบีเข้าไปเพื่อกันสนิม

        รูปที่ 1 สภาพหลังคาเมื่อถอดผ้าออก
        รูปที่ 2 เมื่อแซะโครงเหล็กออกจากหลังคาจะพบสาเหตุของการผุของรถเซฟิโร่


        คลิปการพ่นจารบีในจุดที่มีสนิมเพื่อป้องกันไม่ให้สนิมลามและกัดเนื้อเหล็กจนผุ

        Comment


        • www sites.google.com/site/modifyenginestandard/kar-tha-si/kar-khe-lux-b-laekhkexr-hi-ngea-ngam

          การเคลื่อบแลคเกอร์ให้เงางาม
          การใช้กระดาษทรายขัดงานทำสี
          Monday, 04 March 2013 12:06 | Written by Administrator
          เอาเป็นข้อสรุปเรื่องการทำสีแล้วกันนะครับ

          1. ถ้าเป็นมือใหม่แล้วอยากลองของ แนะนำให้ใช้กระดาษทรายขัดที่รถเลยครับ ไม่ต้องถึงกับลอกสีอย่างน้องไม้หรอกครับ เพราะน้อมไม้เขาเป็นระดับโปรแล้ว อิอิ ที่พูดอย่างนั้นเพราะว่าป้องกันการกระเทาะของสีที่พ่นไม่ดี ทั้งสาเหตุจาก ความชื้นหรือว่าตัวทำละลายที่ไม่มีความเหมาะสม (เหมือนกับตอนที่ทำสีรถพี่เอก เจ้า 934RSR เนี่ยล่ะครับ) จากนั้นทำการพ่นรองพื้น ซึ่งรองพื้นก้อจะแบ่งออก
          1.1 รองพื้นขาว เหมาะกับสีที่มีความสวยสดใส เช่นสีแม่สีทั้งหลาย หรือว่าสีที่มีความอ่อน เพื่อความที่สีขาวจะช่วยดึงให้มีความสวยงามมากขึ้นครับ

          1.2 รองพื้นเทา อันนี้สามารถใช้กับสีที่มีความเข้มได้เลย รวมไปถึงสีที่เป็นเกล็ดด้วย

          หมายเหตุ ก่อนทำสีนั้นควรล้างทำความสะอาดด้วยน้ำยาล้างจานแลวเช็ดให้แห้ง เนื่องจากการล้างจะทำให้ลดแรงตึงผิวของน้ำ อีกทั้งยังทำให้สีที่พ่นมีความยึดเกาะได้ดีอีกด้วย

          ส่วนชิ้นที่เป็น พลาสติกนั้นแนะนำให้ใช้รองพื้นพ่นในลักษณะที่เป็นไอลงบนที่ตัวชิ้นงาน อย่าพ่นลงไปตรงๆเนื่องจากอาจจะมีปัญหา เรื่องของการเยิ้มที่ตัวผิวชิ้นงานได้ ส่วนการล้างทำความสะอาดสีเก่านั้น ห้ามใฃ้น้ำยาลอกสีเป็นอันขาดเลยนะครับ สามารถใช้ได้แค่น้ำมันเบรกได้อย่างเดียวครับ รอประมาณ 15 นาทีก้อเริ่มเห็นผลแล้วครับ (แบบไม่ต้องไปคนหรือว่าเร่งนะครับ)

          2. ถ้าเป็นมือโปรแล้วก็สามารถใช้วิธีแบบน้องไม้ได้เลยครับ ซึ่งข้อดีคือ ความหนาของเนื้อสีลดลง ทำให้เห็นความละเอียดของชิ้นงานที่มากขึ้นครับ เริ่มได้จากการใช้น้ำยาลอกสี เดี๋ยวนี้ก้อมีให้เลือกกันหลายยี่ห้อ แล้วแต่ความชอบนะครับ การใช้งานโปรดระวังกันหน่อยนะครับ เนื่องจากเป็นอันตรายเป็นอย่างมาก ห้ามโดนผิวหนังหรือว่าดวงตานะครับ (ผมเคยโดนมาแล้ว อย่างคันเลย วึ่งถ้าโดนก้อแก้โดยให้น้ำไหลผ่านแล้วล้างให้หมดตัวสารเคมีครับ) สำหรับระยะเวลาในการลอกสีนั้นอยู่ที่ไม่เกิน 5 นาทีครับ เสียงที่ได้ยินจะเหมือนกับเอาไข่ตอกใส่กระทะที่น้ำมันร้อนๆเลย (พิมพ์แล้วหิวตามเลย 555+)

          หลังจากสีออกหมดแล้ว ทำความสะอาดด้วยผงซักฟอกหรือว่าน้ำยาล้างจานเหมือนเดิม เช็ดทำความสะอาดให้แห้ง ทิ้งไว้ หรือว่าใช้ความร้อนเป่าให้แห้งก็ได้ครับ

          เมื่อ ทุกอย่างเรียบร้อยก็ทำการพ่นรองพื้นครับ ถามว่าพ่นทำไม นอกจากเพื่อการยึดเกาะแล้ว อีกจุดคือ เพื่อตรวจสอบรอยที่หลงเหลือเพื่อจะได้สามารถเก็บงานให้มีความละเอียดมากขึ้น ครับ (แต่สำหรับงานที่ลอกสีไปแล้วต้องพ่นรองพื้นสำหรับงานเหล็กไปก่อนด้วยนะครับ ไม่งั้นหลุดร่อนเป็นแผ่นในภายหลังแน่นอนครับ) พอพ่นรองพื้นเสร็จแล้ว บางคนจะใช้ความร้อนเป็นตัวช่วย โดยใช้ลมร้อนเป่าให้ทั่วบริเวณที่พ่นรองพื้นหมดแล้ว

          ต่อไปเป็นการพ่น สีจริง ถ้าอยากให้สีที่ออกมีความสวยสด (กรณีสีแม่สี หรือว่าสีอ่อน) ควรพ่นขาวไปรอบนึงด้วยนะครับ แล้วจึงพ่นสีจริงต่ออีกที

          การ พ่นสีจริงนั้นพ่น***งจากชิ้นงานประมาณฟุตนึง แต่รุ่นน้องผมเขาพ่น***งแค่ 10cm เท่านั้นครับ ผมเรียกว่า "ทฤษฎีสีเยิ้ม" ซึ่งเสี่ยงมากครับ แต่งานที่ออกมาเรียกว่าเนียนครับ ไม่ต้องพ่นหลายรอบเลย ส่วนการกดที่หัวเสปรย์นั้นกดทีเดียวนะครับ ห้ามกด...ปล่อย กด...ปล่อยเลยนะครับ จะทำให้เม็ดสีออกไปเกาะที่ผิวงานด้วย

          ถ้าเอาชัวร์ค่อยๆพ่นทีละชั้นครับ จนกว่าสีจะเท่ากันหมด

          เพื่อความง่ายต่อการพ่น ผมมีคำแนะนำนิดนึงนะครับ ว่าจะพ่นได้เนียนถ้า...
          -พ่นตอนที่แดดลงจัดๆ เพราะว่าสีจะแห้งได้ไว และเร็วมาก ส่วนเรื่องเคลียร์อีกส่วนนึงครับ
          -หา วัสดุที่กระจายความร้อนได้จะดีมากครับ ผมใช้ถาดรองที่เห็นเหล็กมาล้องไว้รอบรถเลย พอเอามืออังๆดูด้านในร้อนสะใจมากเลยครับ (เนื่องจากทำเลียนแบบห้องอบสีรถเลย)

          ระยะเวลาในการพ่นแต่ละชั้นอยู่ ที่ประมาณ 10-15 นาทีครับ ต่างจากรองพื้นเอาการเลยครับ เพราะแค่ 5-10 นาทีเองครับ อยู่ที่แสง ลม ความชื้นครับ

          เมื่อสีจริงแห้งได้ที่แล้ว ขั้นตอนต่อมาคือขัดด้วยกระดาษทรายครับ เพื่อให้ผิวสีมีความเรียบเสมอกันนะครับ (ถ้าจะขัดเอาชัวร์และอยากได้งานเนียนๆทิ้งไว้วันนึงจะดีมาก อีกทั้งเก็บในที่ปลอดฝุ่นด้วยนะครับ)
          ใช้กระดาษทรายสักเบอรื 800-1000 ครับ เป็นกระดาษทรายน้ำนะครับ ขัดลูบแค่เบาๆนะครับ ทำให้แห้ง แล้วขัดด้วยน้ำยาขัดสีเลยครับ ขัดแรงๆก้อได้แต่อย่าหนักเกินไปนะครับ จะทำให้ชิ้นงานเสียหายได้ แล้วล้างน้ำยาล้างจานเช็ดให้แห้งครับ

          คราว นี้เป็นขั้นตนสุดท้ายคือการพ่นเคลียร์แล้วครับ วิธีพ่นคือทำเหมือนกับการพ่นสีจริงเลยครับ แต่เน้นว่าพ่นมากหน่อยเพื่อที่จะได้เงามากๆครับ ระยะเวลาชั้นเคลียร์อยู่ที่ 30 นาทีต่อเที่ยวครับ เมื่อพอใจแล้ว (ขอให้หนานะครับ) เก็บไว้ในที่ปลอดฝุ่นอย่างดีนะครับ ทิ้งไว้สัก 2-3วัน แล้วค่อยเอาออกมาเชยชมครับว่างานที่ออกมาเป็นไงบ้าง แล้วก็ทำขั้นตอนเดิมครับ คือขัดด้วยกระดาษทรายน้ำเบอร์ละเอียด 1200-มากกว่านั้นที่หาได้ ขัดให้เห็นว่ามันมัวๆเท่ากันหมดทั้งชิ้นงานครับ (เพื่อความง่ายควรจะขัดในถังน้ำก้อได้) แล้วล้างทำความสะอาดครับ

          จาก นั้นทำการขัดสีอีกรอบนึงครับ (ตอนนี้ต้องใช้แรงเยอะนึดนึงนะครับ ประมาณว่าขัดแรง ขัดไว สีสวยนะครับ) ขัดเอาประมาณอุ่นๆมืออ่ะครับ เมื่อขัดไปเรื่อยๆจะเห็นว่ามีความเงาเริ่มเกิดขึ้นแล้ว ก็ทำการขัดต่อไปครับจนกว่าจะทั่วทั้งชิ้นงานครับ

          แต่ต่อจากขั้นตอนนี้จะเป็นพวกเทคนิคๆซึ่งเช่น การติดสติ๊กเกอร์ การบังพ่น อะไรทำนองนั้นอ่ะครับ

          ---------------------------------

          www car.boxzaracing.com/diy/134

          วันนี้ทางทีมงาน Boxzaracing.com ได้นำวิธีการหุ้มเคฟล่ามาฝากให้เพื่อนๆได้ลองทำกันดูกับการหุ้มเคฟล่า วิธีการทำฝากระโปรงเคฟล่าก็ไม่ได้ยาก และราคาเคฟล่าก็ไม่ได้แพงอย่างที่คิดไว้เลย เพียงเราไปหาซื้ออุปกรณ์ในการทำมาเตรียมไว้ให้เรียบร้อยก่อน

          อุปกรณ์ที่ต้องใช้

          ผ้าคาร์บอนไฟเบอร์
          น้ำยาเรซิ่น
          กระดาษทรายน้ำเบอร์ 100, 300, 600, 1,000 และเบอร์ 1,500
          เทปกาว 1 ม้วน
          แล็คเกอร์เคลือบเงา
          เตรียมอุปกรณ์ในการทำฝากระโปรงเคฟล่าเสร็จแล้วก็มาเตรียม ฝากระโปรงที่เราจะนำมาหุ้มผ้าคาร์บอนให้พร้อมทำตามขั้นตอนต่อไป




          1. นำฝากระโปรงหน้ามาขัด ปรับผิวหน้าชิ้นงาน ด้วยกระดาษทราย เบอร์ 800 - 1000 เพื่อให้ผิวหน้า มีความหยาบเล็กน้อยเพื่อให้น้ำยายึดติดกับผ้าคาร์บอนเคฟล่าได้ดีขึ้น




          2. ต้องพ่นสีรองพื้นด้วยสีดำด้านก่อน(ถ้าชิ้นงานมีสีดำอยู่แล้วไม่ต้องพ่นก็ได้)




          3. จัดเตรียมชิ้นงานเตรียมการหุ้มผ้าคาร์บอนไฟเบอร์



          4. ตัดผ้าคาร์บอนไฟเบอร์(ในตัวอย่างใช้ผ้าประมาณ 1.5 ตารางเมตร)


          5. นำผ้าคาร์บอนไฟเบอร์มาคลุมลงบนชิ้นงาน เพื่อวัดขนาด และจัดเรียงลายผ้าคาร์บอน ไฟเบอร์ให้สวยงาม


          6. ทำการพ่นอีพ็อกซี่(Epoxy) เรซิ่น(Resin) ลงบนชิ้นงานด้านซ้าย(ในการทำงานที่ชิ้นใหญ่ ให้แบ่งทำทีละครึ่ง)




          7. พ่น อีพ็อกซี่ เรซิ่น ลงบนชิ้นงาน ด้านขวา




          8. เริ่มทำการเก็บขอบผ้าคาร์บอนไฟเบอร์โดยตวัดเก็บไว้ใต้ฝากระโปรง




          9. การเก็บขอบผ้าคาร์บอนไฟเบอร์ต้องเก็บให้เนี๊ยบแบบนี้ครับ




          10. วิธีการเก็บขอบผ้าคาร์บอน ไฟเบอร์ ให้ตัดผ้าคาร์บอนเป็นซี่ๆ แล้วแปะด้วยเทปกาวจากนั้นตวัดผ้าคาร์บอนไฟเบอร์เก็บไว้ที่ใต้ฝากระโปรงครับ




          11. เก็บขอบผ้าคาร์บอนเสร็จแล้วเตรียมการเคลือบเรซิ่น




          12. เรซิ่นที่ใช้เป็นอีพ็อกซี่ เรซิ่น แบบชนิดระยะเริ่มแข็งตัวที่ 30 นาที เรซิ่นตัวนี้สามารถทนความร้อนได้สูงถึง 100 องศาเซลเซียส ซึ่งข้อดีคือเมื่อใช้ไปนานๆ จะไม่ปูดบวม และที่สำคัญ ไม่มีกลิ่นเหม็น




          13. ทำการผสมเรซิ่นโดยใช้อัตราส่วน 100:35




          14. ลงเรซิ่นชั้นที่ 1 ด้วยความใสของอีพ็อกซี่เรซิ่นจะซึมลงไปตามเส้นใยผ้าคาร์บอนไฟเบอร์ ลงไปยึดติดกับชิ้นงานด้านล่าง เพื่อเพิ่มการยึดเกาะกับชิ้นงาน




          15. ตรงนี้เป็นเทคนิคสำคัญนะครับ ชั้นแรกให้ลงเรซิ่นแล้วปาดให้เหลือน้อยที่สุด เพื่อไม่ให้มีอากาศค้างอยู่ระหว่างผ้าคาร์บอนกับชิ้นงาน




          16. ชั้นที่ 1 พอแห้งแล้วจะเป็นแบบนี้ครับ




          17. ลงเรซิ่นชั้นที่ 2




          18. หลังจากเรซิ่นชั้นที่ 2 แห้งแล้วจะได้งานแบบนี้ครับ จากนั้นเตรียมการลงชั้นที่ 3 ต่อไป




          19. ก่อนลงเรซิ่นชั้นที่ 3 (ในกรณีที่มีฝุ่นผง หรือแมลง บินมาเกาะให้ใช้กระดาษทรายเบอร์ 1,000 และ 1,500 ขัดแต่งก่อนนะครับ)




          20. ลงเรซิ่น ชั้นที่ 3




          21. นี่คือความเงาใสของอีพ็อกซี่เรซิ่นที่มีความใสใกล้เคียงกับแก้ว




          22. เตรียมการสู่ขั้นตอนต่อไปคือตัดขอบ และขัดผิวหน้าด้วยกระดาษทราย




          23. อันนี้เป็นเทคนิคพิเศษนะครับ ในกรณีที่ชิ้นงานของเรามีรูฟองอากาศ หรือหลุมใหญ่ที่คาดว่ากระดาษทรายจะขัดได้ไม่หมด ให้ผสมเรซิ่นแล้วใช้ไม้จิ้มฟันจิ้มหยอดลงไปในรูก็จะช่วยได้ครับ




          24. ต่อไปเตรียมเข้าสู่ขั้นตอนการตัดขอบครับ เริ่มด้วยการพลิกฝากระโปรงเสร็จแล้วใช้ เครื่องเจียรอเนกประสงค์เจียรตัดขอบครับ




          25. เจียรตัดขอบแบบนี้ ครับ




          26. สู่ขั้นตอนสุดคลาสสิคของงานหุ้มนั่นก็คือ การขัดแต่งผิวหน้าด้วยกระดาษทราย โดยใช้ กระดาษทรายไล่เบอร์ ซึ่งจะเริ่มที่เบอร์ 100/300/600/1,000/1,500 ขัดจนผิวหน้าเรียบเนียน และไม่ให้เห็นรอยกระดาษทรายกับรอยขนแมวแม้แต่นิดเดียว




          27. หลังจากขัดแต่งผิวหน้าด้วยกระดาษทรายเสร็จแล้ว ก็เตรียมเข้าสู่ขั้นตอนการพ่นแล็คเกอร์ครับ



          28. แล็คเกอร์ที่ผมเลือกใช้ ในการทำงานครั้งนี้คือ ตัวนี้ครับมี UV Protection ช่วยป้องกันแสงแดด ทำให้เรซิ่นเหลืองช้าลงได้ครับ ในกรณีที่เพื่อนๆ ไม่มีกาพ่น กับ ปั๊มลม สามารถใช้แล็คเกอร์แบบกระป๋องสเปรย์พ่นแทนได้




          29. เริ่มพ่นแล็คเกอร์รอบแรกเงาวิ้งๆ




          30. ขัดขอบชิ้นงาน




          31. ทำการขัดสี(ขัดละอองแล็คเกอร์ออก)




          32. ลงน้ำยาขัด




          33. ใช้เครื่องขัดเพื่อประหยัดแรง และเวลา




          34. ขัดเสร็จแล้วจะเงาแบบนี้ครับกับฝากระโปรงหุ้มเคฟล่า



          ตัวอย่างชิ้นงานที่ผ่านการหุ้มเคฟล่า




          ฝากระโปรงหน้า Fortuner


          ฝาท้าย Triton

          หวังว่าเพื่อนๆ คงได้ความรู้การหุ้มงานเคฟล่าไปไม่มาก ก็น้อยนะครับ แต่ถ้าหากเพื่อนๆ คนไหนที่คิดว่า มันยากเกินไป ไม่กล้าทำ กลัวว่างานจะเสีย ก็ส่งไปให้ทางช่างที่มีความถนัดทางด้านนี้ไปทำดีกว่าครับ เพราะว่าราคาหุ้มเคฟล่านั้นไม่ได้แพงอย่างที่คิด เพียงแต่เพื่อนๆ จะต้องดูดีๆ ว่าร้านไหน ทำดีเก็บงานเนียนมากน้อยแค่ไหน สุดท้ายนี้ก็ต้องขอขอบคุณภาพประกอบจาก BRP CARBON FABRIC และถ้าหากเพื่อนๆ คนไหนสนใจในเรื่องราวของ รถซิ่ง รถแต่ง หรือรถแข่งแล้วล่ะก็สามารถเข้ามาชมในเว็ปไซต์ Boxzaracing.com ของเราได้เลยครับ รับรองว่ามีสาระดีๆ ให้ได้ชมอย่างแน่นอน
          Last edited by PERAWAT153; 26 May 2016, 17:51:56.

          Comment


          • www youtube.com/watch?v=OnJXMAoCua8

            จากไอเดีย D.I.Y.ไม้พาเลท สู่เฟอร์นิเจอร์สวยวินเทจขึ้นห้างหรู

            Comment


            • www thaiscooter.com/forums/showthread.php?t=703241#.V0eqhPmLSUl

              หา Ford Anglia ถูกๆซักคันครับชอบรถรุ่นนี้มาครับ ช่วยชี้เป้าหน่อยครับ

              -----------------------------------

              ราคาต่ำๆมันก็มักจะได้พวก"แปลง" มาซะจน"กลับไม่ถูก"แล้วละ
              แองเกียร์นะ ที่เขาจำเป็นต้องแปลงคือ มีตังค์แต่หาของไม่ได้เช่นเครื่อง แน่นอนว่าหาไม่ได้แล้ว เฟืองท้าย จำเป็นต้องหาของญี่ปุ่นพวก ke 20-30 ซึ่งกว้างกว่าเดิม ต้องตีซุ้มล้ออกมากันครูด แถมล้อหน้ากับล้อหลัง รูน๊อตคนไซต์กันอีก
              ขอบไฟหน้า หาของไม่ได้ก็เอาของดัทสันไฟกลม (320) มาใส่ มือเปิดประตูด้านนอก แปลงเอาของญี่ปุ่นใส่ หน้าปัทม์ คอพวงมาลัย ที่ต้องแปลงเพราะสมัยนั้นใครขับรถไม่มีวัดรอบนี้ถือว ่า เชย มาก
              เบาะ สมัยนั้นใครขับรถเบาะไม่มีหมอนรองหัว ปรับเอนนอนไม่ได้ เพื่อนไม่คบ

              พอมาสมัยนี้ พวกเราก็ดิ้นรนหา รถที่มันเดิมๆ ถึงจะมีคุณค่า ของมันก็เลยจำเป็นต้องแพง

              เอาละ กลับมาอยู่ในโลกความเป็นจริง สมมุติคุณไปได้มาสักคันนึง ราคา 40,000 แบบของครบนะ สภาพรถสี่หมื่นเป็นอย่างไร คุณลองนึกภาพว่า มอเตอร์ไซค์จ่ายกับข้าวคันนึงก็50,000 แล้ว แล้ว 40,000 ของคุณมันจะได้สภาพไหน กลับกัน ถ้าคุณมีรถแองเกียร์ สภาพดีๆ เดิมๆ ครบๆ แล้วเป็นที่ต้องการของตลาด คุณจะขายไหมล่ะคันละ 40,000 ไปซื้อมอไซยังไม่ได้เลย

              เอารถส่งเข้าอู่ทำสีปะผุ รถเก่าน่ะ ใช้เวลาทำนานกว่ารถรุ่นใหม่ๆ ทำรุ่นใหม่เสร็จไป สองสามคันแล้ว ไอ้คันนี้ยังไปไม่ถึงไหนเลย เอาแบบเบาๆนะซัก 40,000 ตัดผุทำสีแบบขัดจนเห็นเนื้อเหล็กขาวๆเลย








              สมมุตว่าทำสีเสร็จแล้วนะตอนนี้ คุณกับช่างจะซี้ปึ้กกันแล้วเพราะเทียวไปเทียวมา ไปดูรถซะจนไม่เกรงใจกันแล้ว รถออกมาสวยเช้งเลย ตอนนีแหละสนุกละ ช่างจะประกอบรถแล้ว คุณก็ต้องเอาบรรดาคิ้วกันชนทั้งหลายไปส่งโรงชุบ ขัดได้ขัด ชุบได้ชุบ ขั้นต่ำก็ 5,000 บาทละ บรรดาไฟหรี่ ไฟเลี้ยวไฟท้าย แตก บิ่น เอาไงดี มีตังค์หาซื้อไม่ได้ รถสวยแล้วจะใช้เฟอร์นิเจอร์เก่ามันก็ยังไงอยู่นา หาในเน็ตเขาบอก สามพันก็ต้องสามพัน เขาบอก ห้าพันก็ต้องห้าพัน ทำไงได้มาถึงขั้นนี้แล้ว ยังพวกยางขอบกระจกขอบประตู ที่แข็งหมดสภาพตามอายุหรือจำเป็นต้องขาดจากการถอด นรกมาเยือนละ เพราะผมเองเล่นรถมาเป้นสิบๆปี ยังไม่รู้จะไปหาที่ไหนเลย แบบที่มันตรงรุ่นนะ หาไม่ได้ต้องจำใจใช้ยางทั่วไปมาดัดแปลงใส่ ใส่ได้ไหม ใส่ได้แต่ใส่คิ้วสแตนเลสของเดิมเข้าไปไม่ได้ แถมอายุยางก็ไมายาวอีก ก็ของแปลงนี่นา

              -------------------------------------

              ตอนนี้รถเราเริ่มจะ "ดูดี"แล้วนะ เปิดประตูเข้าไป โห เบาะขาด ผ้าเพดานราขึ้นแล้ว ก็จอดทำสีตั้งหลายเดือนนี่นา เอ้าเอามา 15,000 ทำเบาะ ผ้าหลังคา แผงประตู ปูพรม เฮ้อ สวยว่ะ เอ้าเอารถไปล้าง เฮ้ย!!!น้ำเข้ารถ พรมเปียก เหม็นเปรี้ยว ราขึ้น ไอ้ยางขอบกระจกที่เสียตังค์แปลงมา มันไม่เวอร์ค ทำไงล่ะทีนี้ ตังค์มีนะ แต่หาของไม่ได้

              นี่ยังไม่รวมเครื่องยนต์ ช่วงล่าง สายไฟ เงินแสนนึงที่มีอยู่ มันหมดไปตอนไหน(วะ)



              ---------------------------------
              Last edited by PERAWAT153; 27 May 2016, 09:16:43.

              Comment


              • เรียนท่านเพื่อนสมาชิก OCZ


                ถ้าท่านเพื่อนสมาชิก สนใจหัวข้อใด ก็สามารถ COPY ภาพ เพื่อเก็บไว้เป็นแหล่งข้อมูล ไว้เพื่อศึกษาไว้ดูเองได้ เพราะผมไม่แน่ใจว่า แต่ละเว็บอาจจะลบข้อมูลออก เพื่อ UPDATE เมื่อใด และรูปที่ผมฝากรูปเอาไว้ อาจจะลบรูปออกเมื่อใด ท่านเพื่อนสมาชิกก็อาจจะเก็บภาพไว้ เพื่อเป็นประโยชน์ในแนวทางซ่อมเอง และ DIY ต่าง ๆ ไม่สงวนสิทธิ์ครับ ทำได้เต็มที่ครับ เพราะต่างประเทศเค้าไม่โง่พอที่จะทำให้ประชาชนตัวเองด้อยพัฒนา ด้วยการใช้กฏหมายลิขสิทธิ์ที่ทรงกฏหมายอาญาสิทธิ์ เพียงเพื่อให้ถูกต้องตามกฏหมาย ไม่ได้ทำให้สมองของประชาชนฉลาดมากขึ้น ขอแนะนำท่านเพื่อนสมาชิก ช่วยเหลือตัวเองครับ


                ##### แนะนำท่านเพื่อนสมาชิก ทำการ Print Screen หรือจะ COPY ภาพ และข้อมูลเก็บไว้ ทางผมก็จะ Print Screen หรือจะ COPY ภาพ เก็บไว้เป็นต้นแบบ หรือ BACKUP กันภาพหาย สำหรับภาพที่ฝากไว้กับเว็บฝากรูปต่าง ๆ เพื่อวันข้างหน้าจะมีประโยชน์ หรือเป็นข้อมูลที่อาจจะไม่มีเวลาหาอีก เพราะต้องไปทำงานอย่างอื่น อาจจะไม่มีเวลา UP กระทู้ ทำให้กระทู้หายไปครับ #####

                Comment


                • www forum.samsamut.com/index.php?topic=311.0

                  ลอกสีรถยนต์ ลอกสีโป้วเก่า เตรียมผิวก่อนติดสติ๊กเกอร์ทั้งคัน (wrap car) ( มีรูปทุกขั้นตอนครับ )
                  เมื่อ กรกฎาคม 20, 2014, 10.18.03


                  เมื่อ 2 ปีก่อน ไปทำสีรถใหม่ ทำเสร็จ เอารถออกมาใช้ไม่ทันไร สีก็เริ่มพองแล้ว มันเริ่มพองตั้งแต่เดือนแรก ที่ทำสีรถเสร็จแล้ว มันเริ่มพองที่หลังคา จากนั้น มันก็ออกอาการที่ฝากระโปรงรถ กันชนรถ ประตูรถ สีมันพองออกมาตลอด ผ่านมาปีกว่าสีเริ่มล่อน ลอกออกมา แต่ก็ทนขับ จนถึงปัจจุบันนี้ สภาพไม่ไหวแล้ว ก็เลยให้ช่างทำสีรถยนต์แถวบ้าน ลอกสีรถยนต์ เอาสีโป้วเก่าออกให้หมด แล้วโป้ว ขัด ทำใหม่หมด เตรียมพื้นผิวใหม่ เพื่อที่จะติดสติ๊กเกอร์ทั้งคัน (wrap car)

                  รูปภาพฝากระโปรงท้ายรถ

                  Comment


                  • www thaicarpenter.com/index.php?lay=boardshow&ac=webboard_show&No=1441158

                    รวมเทคนิคการใช้กาพ่นสี


                    ส่วนใหญ่แล้วมือสมัครเล่นอย่างผมมือทำชิ้นงานเสร็จแล้วก็มักจะใช้วิธีการทำสีด้วยแปรงเพราะจำนวนงานมันน้อย แค่ชิ้นสองชิ้น จะใช้วิธีการพ่นก็เปลือง และต้องใช้อุปกรณ์หลายอย่าง แต่ที่สำคัญคือไอ้ตอนล้างอุปกรณ์การพ่นสีนี่ละครับยุ่งยากไปซักนิด ยิ่งถ้าใช้สีน้ำมัน หรือสีแห้งช้าละก็เหนื่อยหน่อยกับชิ้นงานแค่ชิ้นเดียว

                    แต่ถ้าเราจับงานไม้และชอบมันเข้าแล้ว การพ่นสีจึงเป็นเรื่องจำเป็นเสียแล้ว ประมาณว่าไม่รู้ไม่ได้แล้ว หรือจะรู้แบบงูงูปลาปลา ก็คงไม่ดีนัก งานนี้ผมจึงต้องทำการศึกษาหาความรู้มันสักหน่อย จำได้ว่าเมื่อก่อนเคยลองพ่นสีฝากระโปรงรถเอง และเคยเรียนรู้ด้วยตัวเองบ้างนิดหน่อย และคิดว่าหลักการน่าจะเหมือนกัน จึงกลับไปเอาตำราเก่า และรวบรวมจากเรื่องราวต่างๆและตำราต่างๆที่พอมี รวมถึงเรื่องราวที่พวกพี่ๆมืออาชีพทั้งหลายพูดคุย แชร์กันในเวปนี้มาประติดประต่อกัน ตามแต่จะพอเข้าใจได้ ซึ่งอาจมีข้อผิดพลาดหรือการเข้าใจผิดเกิดขึ้นได้ ก็ขอให้พี่ๆมืออาชีพ หรือมือสมัครเล่น ที่มีความรู้ทั้งหลายคอยมาชี้แนะ และติเตียนได้น่ะครับ

                    พอดีว่าจะต้องพ่นสีบานประตูและหน้าต่าง และคิดว่าจะเอาสีพ่นอุตสาหกรรมมาพ่นซะกะหน่อย เนื่องจากมันแห้งเร็วและน่าจะทำงานสีได้เร็วกว่าเลยจำเป็นต้องศึกษาหลักการและวิธีการพ่นกันซักหน่อย ตามประสามือสมัครเล่น ก่อนลงมือจริง

                    และอีกอย่างนึง ผมก็ลองดูกระทู้เก่าๆ กับข้อมูลที่พอจะหาได้มารวบรวมไว้ตรงกระทู้นี้จะได้หาง่ายนิดนึง และเพื่อว่ามือสมัครเล่นท่านใดจะได้ความรู้ไปด้วยและที่สำคัญเผื่อว่ามืออาชีพในที่นี้หลายๆท่านจะได้เพิ่มเติมเสริมความรู้ให้อีกครับ

                    ข้อมูลอ้างอิงและความรู้หลายอย่างได้จาก หนังสือเคาะพ่นสีรถยนต์ของอาจารย์พงษ์ศักดิ์ บุญธรรมกุล, คู่มือช่างไม้ในบ้าน(ทำสีให้เครื่องเรือน)ของอาจารย์ศิระ จันทร์สวาสดิ์และพวก, คุณเอ๋เพาะช่าง คุณเดชา คุณดมแต่ฝุ่น คุณ Jack และอีกหลายๆท่านที่แลกเปลียนความคิดเห็นเท่าที่ผมรวบรวมได้ครับ

                    ค่อยๆมาเรียนรู้พร้อมๆกันไปกับผมเลยนะครับ

                    ผู้ตั้งกระทู้ sornid (sorsarid-at-hotmail-dot-com) วันที่ลงประกาศ 2013-07-04 09.27.05

                    ---------------------------------



                    เริ่มเรื่องกันด้วย

                    เครื่องมือที่ไช้ในการพ่นสี

                    1.ปั้มลม(ขนาด50 ลิตรขึ้นไป) Air Compressor

                    2.ตัวปรับแรงดันลมและดักน้ำ Air Control Unit

                    3.ปินพ่นสี Spay Gun

                    1. ปั้มลม มีคนถามกันมากว่า ควรใช้ปั้มลมแบบไหนในการพ่นสีถึงจะพอ เท่าที่ทราบคือ มันอยู่ที่การใช้งานของแต่ละท่าน

                    -ถ้าทำงาน DIY แบบผม เรื่อยๆ ไม่รีบร้อนและงบประมาณพอดีพอดี ก็ต้อง ปั้มลมโรตารี่ ขนาด 50 ลิตร ซึ่งเพียงพอต่องานน้อยชิ้น เพราะมันปั้มลมได้เร็ว เช่น ตู้ หรือชั้นวางของ หรือถ้ามากชิ้นหน่อยก็ยังไหว แต่เราต้องพักเครื่องให้มัน มิเช่นนั้นเครื่องทำงานหนัก (ก็บอกแล้วว่าเหมาะสำหรับงานเรื่อยๆใช้งานไม่หนักมาก) สำหรับปั้มลมแบบสายพาน อาจจะปั้มลมได้ช้ากว่า แต่ก็พอไหวราคาแพงกว่าหน่อยขอแนะนำว่าควรเป็น 90 ลิตร จะเหมาะกว่า ต่อด้วยปั้มลม oil free ของ puma ยังไงเสียก็ต้อง ใช้อย่างน้อยเป็น รุ่น os 50 ถึงพอจะพ่นสีได้แต่ผมใช้แล้วไม่ค่อยปลื้มเท่าไหร่เพราะปั้มลมช้า แม้มันจะเงียบดีแต่เวลามันตัดลมมีเสียงดังฟี้ ซึ่งจริงๆก็ดังทุกรุ่นเวลามันตัด แต่เพราะตอนมันปั้มลมมันเงียบไงพอมันตัดแล้วตกใจประจำเลยกว่าจะชินกับมัน

                    สรุปครับ งานDIY, งานอดิเรก,งานพ่นเล็กน้อย ราคาประหยัด ปั้มโรตารี่ ถ้าชอบเงียบมีตังค์หน่อย ก็ puma os 50 ชอบทนมีตังค์หน่อยใจเย็นก็ ปั้มสายพาน 50 หรือ 60 ลิตร

                    -ถ้าเริ่มจะงานเยอะแล้ว ทำทีละมากๆ งานพ่นสีต้องใช้ปั้มขนาด 90 หรือ 160 ลิตร แล้วครับ จะชอบ oil free เสียงเงียบหรือสายพายจอมทนก็ตามชอบ หรือไม่ก็ มีถังพ่นสีโดยเฉพาะไปเลย งานนี้มืออาชีพรู้ดีอยู่แล้วมิกล้าแนะนำ

                    2.ตัวดักน้ำมีที่ปรับแรงดันลม อันนี้สำคัญมากต้องมีเพราะมิเช่นนั้นงานของท่านอาจเป็นฝ้าได้ ต้องหาครีมมาทามาขัดกันมันละท่าน ส่วนใหญ่ที่ตั้งแรงดันลมกันก็ประมาณ 4 บาร์ (60 psi) หรือ ปืนพ่นสีบางตัวดีมากใช้ลมน้อยแค่ 2 บาร์(25-30 psi) ก็ใช้ได้แล้ว และเรื่องสายลมที่ต่อออกจากตัวดักน้ำนั้นไม่ควรยาวมากเพราะอาจเกิดละอองน้ำในสายลมได้ถ้าสายลมยาวมากเนื่องจากอุณหภูมิภายนอกไม่แน่นอนอาจมีความชื้นในอากาศสุงหรืออากาศเย็นเกิดควบแน่นในสายลมก็เป็นได้ขอให้ท่านๆพิจารณาเรื่องนี้ด้วย และอีกอย่างคือสายยาวมากๆระวังสะดุดล้ม สายพันไม่รู้ด้วย

                    3.ปืนพ่นสี เป็นหนังเรื่องยาวขอกล่าวตอนต่อไป

                    ผู้แสดงความคิดเห็น sornid (sorsarid-at-hotmail-dot-com )

                    ------------------------------

                    ความคิดเห็นที่ 2 (2972517)



                    3. ปืนพ่นสี ที่นิยมใช้กันมีห้าแบบ

                    3.1แบบไหลลง(Gravity Feed Type)

                    3.2แบบดูด(Suction Feed Type)

                    3.3แบบอัด(Air Compression Type)

                    3.4แบบลมไหลผ่านตลอด/ไม่ไหลผ่านตลอด (Bleeder and Non-Bleeder Type)

                    3.5แบบพ่นสีล้วน(Airless Spray Type)

                    เห็นแล้วอึ้งเยอะนะนี่ เอาแบบที่ผมคนเดินดินกินข้าวแกงมีปัญญาใช้ดีกว่าครับ คือ แบบไหลลงกับแบบดูด เห็นไม๊เหลือสองแบบแล้ว คราวนี้เลือกใหม่ งานผมมันงานน้อยแน้นประหยัดขอแบบไหลลง เพราะ

                    -มันสามารถพ่นได้หลายท่า มุมเงยมุมตะแคงได้หมดโดยปรับกาตามองศาที่เราจะพ่น

                    -มันประหยัดสี เพราะ สีไหลลงโดยอาศัยแรงโน้มถ่วงของโลกทำให้ใช้สีได้หมดจนหยดสุดท้าย ไม่เหมือนแบบดูดมันจะเหลือสีอยู่ก้นกา ซึ่งการทำงานของปืนพ่นสีแบบดูดและแบบไหลลงจะเหมือนกันมาก จะต่างกันตรงกาใส่สีที่แบบดูดจะใส่สีได้เยอะกว่าตามขนาดกาที่ใหญ่

                    เมื่อเลือกชนิดกาแล้ว ต่อมาก็ต้องเลือกขนาดของรูพ่นกัน

                    -ขนาดของเส้นผ่าศูนย์กลางของรูพ่นสีที่มีส่วนใหญ่จะมีขนาด 0.8-3.0 มม.แน่นอนการใช้งานย่อมแตกต่างกัน งานละเอียดจุดเล็กๆก็มักจะใช้กันที่ 0.8-1.3 มม. งานที่ ใช้ละเอียดปานกลางหรืองานทั่วๆไป จะใช้กันที่ 1.3-1.8 มม. และงานพ่นสีที่มีความเข้มข้นสูงก็จะใช้กันที่ประมาณ 2-2.5 มม. แล้วเราจะใช้ขนาดไหนดีละ อันนี้อยู่ที่งานของท่านล่ะ งานของผมขอเน้นว่าเป็นงานDIY ชนิดทำคนเดียว ผมเลือกขนาดรูพ่นที่ 1.5 มม.เพราะคิดว่ามันกลางๆที่สุดแล้ว พ่นจุดแคบก็พอได้ พ่นพื้นที่กว้างก็ใช้ได้อยู่ แต่ตอนนี้กำลังจะซื้ออีกขนาดคือ 1.8 มม.เิพิ่มอีก ว่าจะเอาไว้พ่นสีรองพื้น หรือสีพื้นบริเวณกว้างหน่อย และด้วยเหตุผลของการใช้งานเฉพาะอย่างรวมถึงการล้างและการดูแลด้วยเพราะ ตัวรูพ่น 1.5 มม.จะเป็นตัวราคาแพง และตัว 1.8 มม.จะเป็นตัวราคาถูกครับ

                    หมายเหตุ****** ห้ามทำปืนพ่นสีตกเด็ดขาด เพราะมันจะมีอะไรชำรุดอย่างนึงแน่นอน ของผมตกครั้งนีงได้ซ่อมทุกที แบบว่าซวยอ่ะ





                    ผู้แสดงความคิดเห็น sornid (sorsarid-at-hotmail-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2013-07-04 11.09.19


                    ---------------------------------

                    ความคิดเห็นที่ 3 (2972546)




                    ว่าต่อด้วยเรื่อง หัวลม (Air Cap)

                    หัวลม เป็นตัวจ่ายแรงดันอากาศซึ่งผสมกับสีออกมาเป็นละอองละเอียดเป็นรูปร่างตามที่เราปรับ ซึ่งประกอบด้วย รูตรงกลาง, รูอากาศช่วย และรูด้านข้าง ตามรูปผมถอดออกมาเฉพาะฝาครอบหัวลมมาครับ ส่วนการเลือกหัวลมนั้น แล้วแต่งานและความชอบของท่านครับ ส่วนผมเลือกแบบในรูปครับ คิดว่าทุกอย่างลงตัวสำหรับผม คือ มีรูช่วย 4 รูกำลังดีครับ แต่อันที่จะซื้อที่เป็นขนาด 1.8 นี่ว่าจะหาที่มีรูช่วย 2 รู สำหรับท่านที่อยากได้ละอองออกมาฝอยมากๆควรเลือกที่มีรูช่วยเยอะๆครับ



                    ผู้แสดงความคิดเห็น sornid (sorsarid-at-hotmail-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2013-07-04 16.38.43

                    -----------------------------

                    ความคิดเห็นที่ 5 (2972560)



                    มาต่อด้วยวิธีการพ่นสีกัน

                    ระยะ***งของการพ่นสีมีความสำคัญ โดยทั่วไป ปืนพ่นสีขนาดเล็ก เช่น w-88, w-71 ระยะ***งการพ่นสีประมาณ 15-25 ซม. ส่วนปืนพ่นสีขนาดใหญ่เช่น w-87, w-77, w-89, w-70 หรือ w-90 จะมีระยะพ่นสีประมาณ 20-30 ซม. ซึ่งเมือเราปรับการพ่นของการฟุ้งกระจายของสีได้ตามต้องการแล้วการรักษาระยะพ่นจึงจำเป็นมากหากฝึกฝนบ่อยๆก็จะชำนาญเองครับ

                    ผู้แสดงความคิดเห็น sornid (sorsarid-at-hotmail-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2013-07-04 17.54.23

                    --------------------------------

                    ความคิดเห็นที่ 11 (2972608)




                    คุณนัทคุง, คุณประภาส, คุณจักรยุทธ, คุณdeojohe, คุณjk_007 ครับผม เรียนรู้กันครับแบ่งปันกัน แนะนำกันบ้างได้ครับ

                    ครับผม คุณเอ๋ เพาะช่าง จะฝึกให้ชำนาญเลยครับ


                    ต่ออีกนิดครับ การพ่นชิ้นงานเป็นแผ่น เช่นประตู ควรพ่นขอบตามแนวตั้งก่อน(เช่นขอบประตู) เพื่อป้องกันละอองสีจับเป็นเม็ดหรือเป็นฝุ่นผงหากเราพ่นในแนวนอน(เช่นหน้าบานประตู) และการพ่นขอบควรจะหันหัวลมให้ตั้งฉากกับพื้นเพื่อให้รูปแบบการพ่นเป็นแนวนอนหรือแนวยาวก็จะทำให้ขอบชิ้นงานสีเต็มง่ายและละอองไม่ฟุ้งกระจายมากเกินไป

                    การพ่นชิ้นงาน ควรเริ่มกดไกปืนพ่นสีก่อนถึงขอบชิ้นงานประมาณ 4 นิ้ว และเดินปืนให้ขนานและตั้งฉากกับชิ้นงานจนเลยขอบชิ้นงานไปประมาณ 4นิ้วจึงจะปล่อยไกปืนพ่นสี จากนั้นเคลื่อนลงต่ำระยะประมาณ 1/3-1/2 ของความกว้างรูปร่างสี และกดไกปืนให้สุด เดินปืนให้ตั้งฉากกับชิ้นงานแล้วย้อนกลับกลับทางแรกจากขวามือไปซ้ายมือ และให้ความกว้างของรูปร่างสีซ้อนทับกัน 50% ของแต่ละเที่ยว (ปืนพ่นสีต้องตั้งฉากกับชิ้นงานเสมอ) ตำราว่าไว้ มาตรฐานความเร็วในการเคลื่อนที่ปืนพ่นสี คือ 600 มม./วินาที (11.81-23.62 นิ้ว/วินาที)

                    *** เดินปืนพ่นสีช้า สีจะย้อย ***

                    *** เดินปืนพ่นสีเร็ว สีจะบาง ***

                    ผู้แสดงความคิดเห็น sornid (sorsarid-at-hotmail-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2013-07-04 23.52.14

                    -------------------------------

                    ความคิดเห็นที่ 12 (2972611)





                    ปกติก่อนจะพ่นชิ้นงานเราจะต้องปรับลมปืนพ่นสีและทดลองพ่นสี เพื่อดูฝอยสีก่อนที่จะพ่นสีลงบนชิ้นงาน เราจึงต้องตรวจสอบฝอยสีเพื่อแก้ไขต่อไป ดูได้จากรูปภาพ หากลักษณะฝอยสีเป็นรูปพระจันทร์เสียวเราจำเป็นต้องล้างและแปรงตรงบริเวณปลายหัวลม บ้างครั้งอาจต้องเอาเข็มเขี่ยรอบๆรูกลาง พร้อมทั้งล้างด้วยทินเนอร์ หากหัวลมตันเราอาจต้องเอาเข็มเขี่ยรูทุกรู้พร้อมทั้งล้างด้วยทินเนอร์

                    ผู้แสดงความคิดเห็น sornid (sorsarid-at-hotmail-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2013-07-05 00.18.38

                    ----------------------------

                    ความคิดเห็นที่ 17 (2972759)



                    รับทราบครับคุณเอ๋ จะเปลี่ยนชื่อกระทู้ใหม่ครับ ตอนแรกกะว่าจะลองรวมเรื่องการทำสีอุตสาหกรรมดู แต่ลองค้นกระทู้เก่าแล้วเหมือนรายละเอียดตั้งแต่เริ่มยังไม่ค่อยมี เลยลองอ่านและค้นคว้าดู เผื่อไม่เข้าใจตรงไหนจะได้ถามได้ เหมือนทำรายงานเล็กๆ โดยมีครูมืออาชีพคอยดูอยู่ใกล้ๆ ทำให้รู้สึกปลอดภัยหน่อยนึงครับ

                    คุณเบิร์ดครับ คงไม่กล้าหรอกครับ ผมเพิ่งเรียนรู้เองครับ ยังขั้นปฐมอยู่เลย (ดีกว่าอนุบาลนิดนึง)

                    ครับผม คุณยุ่น ผมเองก็เอาไว้ทบทวนหน่อยนึงครับ

                    แถมนิดนึงเอารูปล้างกาพ่นสี คร่าวๆมาดูกันก่อนครับ

                    ผู้แสดงความคิดเห็น sornid (sorsarid-at-hotmail-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2013-07-05 18.41.23

                    -------------------------------

                    Comment


                    • ความคิดเห็นที่ 19 (2972878)




                      วันนี้ซื้อรองพื้นมาใหม่เราใช้เพียงนิดหน่อยก็ต้องเก็บไว้ก่อน ยังไงกระป๋องนี้คงไม่หมดเร็วแน่ๆ ผมใช้วิธีนี้เมื่อซื้อสีหรือรองพื้นทุกครั้งเลย ไม่เคยเจอกรณีสีแห้ง หรือปัญหาสีหกย้อยตอนปิดกระป๋องลงมาเลอะเทอะเลย หรือถ้าเจอก็น้อยมากๆ

                      ผู้แสดงความคิดเห็น sornid (sorsarid-at-hotmail-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2013-07-07 00.40.58

                      ----------------------------

                      ความคิดเห็นที่ 23 (2972976)



                      ครับผม คุณmangapoon, คุณSale Dreams..

                      คุณหมูครับ ผมเองก็แค่มือสมัครเล่นยังมีความรู้ไม่มากนักหรอกครับ แต่ขอตอบเท่าที่รู้น่ะครับ

                      เรื่องตัวตักน้ำนี่ผมว่ามันเยอะอยู่เหมือนกันน่ะ แต่เอาที่ผมพอรู้นิดหน่อยน่ะครับ ส่วนใหญ่ตัวที่เป็นที่นิยมและมีชื่อเสียง จะเป็นยี่ห้อ SMC ซึ่งมี Regulator ที่นิ่งและ ตัวกรองของเค้าละเอียด อย่างตัวกรองลมปกติของเค้าละเอียดที่ประมาณ 5 ไมครอน (ไม่รู้เหมือนกันว่าเล็กแค่ไหน) ส่วนตัวละเอียดมากๆของเค้าน่าจะประมาณ 0.01 ไมครอน ซึ่งเอาไว้ใช้ในงานที่สะอาดมากๆๆๆ แต่ในท้องตลาดมักจะเป็นตัวเลียนแบบ เป็นของจีนบ้าง ของใต้หวันบ้าง ถ้าเป็นของใต้หวันจะมีคุณภาพมากกว่าของจีนหน่อย ก็ุคุณภาพตามราคาครับ

                      แต่ละรุ่นจะต่างกันตรงรายละเอียด ตามภาพครับ และให้เราดูว่า ขนาดเกลียวที่จะต่อข้อต่อสายลมขนาดเท่าไหร่ เช่น รุ่นAWM 40(ที่เก็บน้ำทิ้งประมาณ45 cc.) ข้อต่อ 1/4,3/8 หรือ 1/2 นิ้ว ถ้าของเลียนแบบก็จะประมาณ BFR 2000 (ที่เก็บน้ำทิ้งประมาณ60cc.)ขนาดรูต่อ 1/4 นิ้ว หรือ 2 หุน, หรือ BFR 3000 มีขนาดรูต่อ 3/8 นิ้ว หรือ 3 หุน ก็ให้เราดูรายละเอียดนะครับว่า ปั้มลมเรา รูเกลียวขนาดเท่าไหร่ ซึ่งปกติจะขนาด 1/4 นิ้ว เวลาซื้อ ข้อต่อก็เลือกขนาด 1/4 ให้หมด สายลมก็ด้วยครับ เวลาซื้อก็ดูว่าขนาดเท่าไหร่เช่น สายลมขนาด 5x8 มม. ข้อต่อก็ต้องสวมได้กับสายลม 5x8 มม.ด้วย และบางรุ่นก็มีที่ทิ้งน้ำอัตโนมัติ อันนี้ต้องดูที่ข้างกล่องครับหลายยี่ห้อก็เรียกรหัสไม่เหมือนกันแค่คล้ายๆ ผมว่าดูที่ข้างกล่องดีกว่าครับหรือ รายละเอียดของอันที่จะซื้อครับ

                      ตัวที่ผมอยากได้น่ะครับ หาซื้อที่สุราษฎร์ไม่ได้เลย ไม่รู้ซื้อที่ไหน คือ ตัวกรองลมดักน้ำ ของ SMC รุ่น AWM 40 ครับ เพราะ มันดักไอน้ำได้แน่นอนครับ และเก็บน้ำทิ้งได้เยอะหน่อย(ที่บ้านความชื้นสูง) แต่เอาเข้าจริงๆ ใช้ของเลียนแบบรุ่นธรรมดาทั่วไป BFR 2000 ตัวละ 850 บาทก็เอาแล้ว ใช้งานทั่วไป

                      ส่วนเรื่องสายลม ผมคิืดว่าน่าจะเป็นขนาด 5X8 (ขนาดรูใน 5 มม. ขนาดสายลม 8 มม.) กับ 8x12 มม.ที่คุณหมูถาม เรื่องนี้ผมก็ไม่แน่ใจมากหรอกครับ แต่คิดว่่าสายเล็กน่าจะเหมาะกับเครื่องมือที่ใช้ลมไม่มาก เช่น ปืนพ่นสี และพวกปืนยิงตะปู เครื่องขัดอะไรพวกนี้น่ะครับ ส่วนขนาด 8x12 มม.น่าจะใช้กับพวก บล๊อคลม ตัวกระแทก อะไรพวกนี้น่ะครับ และอีกอย่างนึง สาย 8x12 มม.ก็หนาน่าจะทนกว่าและให้ทางเดินลมเยอะด้วย ผมว่าถ้าใช้กับปืนยิงตะปู หรือเครื่องขัดน่าจะดี แต่ถ้าใช้กับที่เป่าลม ลมน่าจะหมดเร็วน่าดู ยิ่งถ้าปัิมลมเล็กแล้วคงแป๊ปเดียวหมด สรุปว่าสำหรับผมคงยังใช้สายลมแค่ขนาด 5x8 อยู่นะครับเพราะปั้มลมผมเล็กครับ และไม่ค่อยชอบสายอันใหญ่ไปทำให้เทอะทะเวลาพ่นสีครับ และเวลาต่อที่เป่าลมผมว่าปั้มทำงานไม่ทันแน่ๆ ลมน่าจะออกเยอะ



                      ผู้แสดงความคิดเห็น sornid (sorsarid-at-hotmail-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2013-07-07 20.34.19

                      ----------------------------

                      ความคิดเห็นที่ 28 (2975780)




                      พักงานพ่นสีต้องล้างกาพ่นสีเก็บก่อนนะครับ อันนี้ล้างจริงๆครับ

                      1.เมื่อพ่นสีเสร็จแล้วให้กดไกปืนพ่นสีที่ค้างในกาออกให้หมดและนำทินเนอร์ใส่ในกา แล้วกดไกปืนพ่นสีเพื่อล้างสีออก(ผมจะใส่ทินเนอร์นิดหน่อย ในครั้งแรก เพื่อพ่นล้างและนำผ้าชุบทินเนร์ล้างและเช็ดจนภายในกาสะอาด แล้วจึงนำทินเนอร์ใส่ในกาเพื่อพ่นล้างอีก ครึ่งกา
                      - พ่นสีใส่ผ้าโดยมีระยะ***งพอประมาณ โดยให้ลมดันทินเนอร์ในกาพ่นสีใหลกลับไปกลับมาในปืนพ่นสี(หากเปิดฝาไว้ระวังทินเนอร์กระเด็นใส่)
                      - ล้างกาและฝาให้สะอาด(ผมใช้ผ้าเช็ดเพื่อทำความสะอาดด้วย)

                      2.ถอดฝาครอบหัวพ่นสี

                      3.ถอดหัวพ่นสี(ใช้ประแจที่แถมมากับปืนพ่นสีให้หลวมก่อน) แล้วใช้มือกดไกปืนขณะหมุนถอดหัวพ่นสี(ทำเหมือนกันตอนใส่กลับ)

                      4.ถอดสกรูปรับเข็มจ่ายสี

                      5.ถอดสปริง และถอดเข็มจ่ายสี

                      6.ชิ้นส่วนที่ถอด

                      ผู้แสดงความคิดเห็น sornid(บ้าน บ้าน DIY) (sorsarid-at-hotmail-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2013-08-04 07.50.59

                      ----------------------------

                      ความคิดเห็นที่ 29 (2975781)



                      ถอดแล้วก็ล้างซะหน่อย



                      ผู้แสดงความคิดเห็น sornid(บ้าน บ้าน DIY) (sorsarid-at-hotmail-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2013-08-04 07.56.24

                      ------------------------------

                      ความคิดเห็นที่ 31 (2982571)




                      รบกวนนิดนึงครับ มีคำถามเรื่องปั๊มลม
                      ผมไปซื้อ ของ Puma 1 แรงสายพาน 64 ลิตร จากบางโพมา ราคา 10,900 บาท

                      ตอนนี้ลมมันตั้งไว้ที่ 100 (ความเข้าใจผมคือ 10 psi) ผมก็เลยถามเค้าว่ามันปรับได้มั้ย เพราะผมเห็นกาพ่นสีผมมันเขียนว่าให้ใช้ลม 6-8 psi
                      ทางร้านเค้าบอก เค้าปรับมาดีแล้วใช้งานได้เลยไม่ต้องปรับอะไรอีก แต่ถ้าจะปรับก็ทำได้ แต่ไม่สมควร

                      ผมเลย งงๆน่ะครับ ว่าสรุปผมควรปรับมันดีมั้ย

                      http://aacthaishop.tarad.com/product...962_th_3206216



                      รุ่นนี้เลยคับที่ผมซื้อมา

                      ผู้แสดงความคิดเห็น ถาปัตหัดไม้ (toad_planet-at-hotmail-dot-com)วันที่ตอบ 2013-10-02 11.55.26

                      -------------------------------

                      ความคิดเห็นที่ 32 (2982625)



                      ขอตอบแบบพอรู้บางนิดหน่อยนะครับ ถ้าผิดแย้งมาเลยนะครับ ต้องออกตัวก่อนว่าผมแค่มือสมัครเล่นน่ะครับ

                      - ตอนนี้ลมมันตั้งไว้ที่ 100 (ความเข้าใจผมคือ 10 psi) ผมก็เลยถามเค้าว่ามันปรับได้มั้ย เพราะผมเห็นกาพ่นสีผมมันเขียนว่าให้ใช้ลม 6-8 psi
                      ทางร้านเค้าบอก เค้าปรับมาดีแล้วใช้งานได้เลยไม่ต้องปรับอะไรอีก แต่ถ้าจะปรับก็ทำได้ แต่ไม่สมควร

                      ผมเลย งงๆน่ะครับ ว่าสรุปผมควรปรับมันดีมั้ย

                      ตอบ.......

                      -ลม ที่ตั้งไว้ 100 น่าจะเป็น 100 psi หรือ ประมาณ 7 บาร์ ซึ่งปกติโรงงานจะตั้งมาให้ คือเมื่อปั้มลมทำงานจนความดันลมถึง 100 psi มันจะตัดการทำงาน และเมื่อเราใช้งานจนลมในถังเหลือประมาณ 60 psi หรือ 4 บาร์ ปั้มลมจะทำงานอีกครั้ง (คุ้นๆว่าประมาณนี้) ซึ่งเราสามารถตั้งให้มันทำงานที่ 6บาร์(90 psi) และตัดที่ 8 บาร์ (120 psi) ก็ได้(ใช้กับปืนลม) ในกรณีที่ถังเราทนแรงดันได้ 10 บาร์(145 psi) แนะนำให้ดูคู่มือในการตั้งครับ

                      สรุปนะครับ ปรับได้ครับ แต่ถ้าพ่นสีบ่อยกว่าใช้ปืนลมไม่ต้องปรับก็ได้ครับ ส่วนของผมปรับครับเพราะผมมีสองตัว ตัวนึงพ่นสี ตัวนึงยิงปืนลมครับ(ตัวนี้ที่ผมปรับครับ)

                      ผู้แสดงความคิดเห็น sornid(บ้าน บ้าน DIY) (sorsarid-at-hotmail-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2013-10-02 23.51.40

                      -----------------------------

                      ความคิดเห็นที่ 38 (2985483)




                      ผมเดาว่า อาจมีคนสับสนเรื่องแรงดันลมกับการใช้งาน เช่น แรงดันลมในถัง กับ ตัวปรับแรงดันลม ซึ่งถ้ามีผู้รู้หรือผู้เชี่ยวชาญมาช่วยตอบเพิ่มเติมน่าจะดีน่ะครับ

                      อันนี้ขอเพิ่มเติมเรื่องนี้จากผู้พอจะรู้บ้างนะครับ (ออกตัวอีกแล้วครับท่านตามประสามือสมัครเล่น)

                      เริ่มจากแรงดันลมในถังก่อนนะครับ ปกติ ทางโรงงานจะตั้งการทำงานไว้ให้เริ่มเดินเครื่องเมื่อแรงดันลมต่ำที่ประมาณ 4 บาร์ และตัดการทำงานที่ประมาณ 7 บาร์ ซึ่งผู้ใช้งานสามารถปรับตั้งได้ตามความเหมาะสม (ตามความเข้าใจผมนะครับ) ยกตัวอย่างเลยนะครับ

                      - เช่น ปืนลม ซึ่งมีหลายขนาด ตามแต่ขนาดลูกแม๊กใช้ยิง ตัวที่กินลมและต้องการแรงดันมากสุดจะเป็นตัวที่ยิงคอนกรีตได้ แต่โดยส่วนใหญ่แล้ว ปืนยิงตะปูต้องการแรงดันลมที่ 6 บาร์โดยประมาณ ถึงจะยิงตะปูจม และทนแรงดันลมได้ไม่เกิน 8 บาร์ (ถ้าใช้กับแรงดันเกินนานๆอาจทำให้ชิ้นส่วนกลไกภายในเสียหายได้ครับ) บางคนอาจเคยสังเกตว่าเมื่อใช้ปินยิงตะปูสักพัก ทำไมยิงตะปุไม่จม เพราะแรงดันลมในถังเหลือต่ำกว่า 6 บาร์มากจนปืนลมไม่มีแรงอัดพอจะยิงตะปูได้ เหตุนี้จึงต้องมีการปรับตั้งการตัดและเปิดการทำงานของปั้มลมครับ

                      - ปืนพ่นสี ส่วนใหญ่ต้องการแรงดันลมต่ำกว่า 4 บาร์ การตั้งจากโรงงานจึงไม่ค่อยมีผลมากนัก

                      ต่อมาเรื่อง ตัวปรังแรงดันลม(regulator) ตัวนี้ก็เอาไว้ปรับแรงดันลมไม่ได้เกินกว่าที่เรากำหนด เช่นเราตั้งไว้เมื่อต่อกับปืนพ่นสีที่ 4 บาร์ ถ้าลมในถังเราเพื่งปั้มและตัดที่ 7 บาร์ ตัวปรับแรงดันก็จะรักษาระดับแรงดันลมที่ 4 บาร์ตลอด มันก็จะใช้ได้พอดี แต่ถ้ากรณีเราใช้ตัวปรับแรงดันลมกับปืนลมซึ่งเราตั้งไว้ที่ 6 บาร์ แต่เมื่อเราใช้ลมในถังเหลือมาไม่ถึง 5 บาร์ ตัวปรับแรงดันลมก็ไม่สามารถจะรักษาระดับแรงดันที่ 6 บาร์ได้หรอกครับ ลมก็จะออกมาน้อยยิงตะปูไม่ได้จมไม้แน่นอน



                      สรุป ในความคิดของผมนะครับ ถังลมสามารถทนแรงดันได้ประมาณ 10 บาร์ (น่าจะเกินกว่านี้ครับ) ถ้าเราจะตั้งให้มันตัดการทำงานปั้มลมที่ 9 บาร์กว่าๆ และเริ่มให้ปั้มทำงานที่ 6 บาร์ น่าจะดีที่สุด แล้วเราใช้ ตัวปรับแรงดันช่วยในการต่อกับอุปกรณ์ที่เราจะใช้งานครับ ซึ่งเราควรจะมีตัวปรับแรงดันลมสองชุดน่ะครับ เพื่อความสะดวก คือ

                      1.ตัวดักน้ำและปรับแรงดันลม เพื่อใช้กับกาพ่นสี (ตั้งแรงดันลมที่ 3-4 บาร์)

                      2.ตัวจ่ายน้ำมันหล่อลื่นและตัวดักน้ำและปรับแรงดันลม เพื่อใช้กับปืนยิงตะปู และอุปกรณ์อื่นๆ เช่น ตัวขัดกระดาษทราย ไขควงลม ฯลฯ (ตั้งแรงดันลมที่ 6 บาร์)

                      **************เป็นความเห็นส่วนตัวครับ จากข้อมูลที่รู้มาครับ ผิดถูกแนะนำด้วยครับ****************



                      หมายเหตู***

                      ที่ตัวปรับแรงดันลมส่วนใหญ่จะมีสองค่าให้อ่านนะครับ จะมีตัวเลขสีดำ กับ สีแดง (หรือสีอื่นแล้วแต่ละยี่ห้อ) ซึ่งจะบอกค่า ปอนด์ต่อตารางนิ้ว(PSI) และ บาร์(ฺBar) หรือ กิโลกรัมต่อตารางเซนติเมตร(Kg/cm2) อาจมีคนสงสัยนิดหน่อยเพราะบางตัวมี PSI และ Bar บอกแต่บางอัน มี PSI และ Kg/cm2 บอก พอดีว่า ตัวค่าวัดของ Bar และ Kg/cm2 จะใกล้เคียงกันมากจึงสามารถเทียบเคียงกันได้ครับ เช่น 4 Bar เกือบเท่าหรือเท่ากับ 4 Kg/cm2 ครับ

                      1 bar = 1.02 kg/cm2

                      1 bar = 14.50377 psi

                      เอาแค่นี้ก่อนนะครับเผื่อบางคนสับสน



                      ผู้แสดงความคิดเห็น sornid(บ้าน บ้าน DIY) (sorsarid-at-hotmail-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2013-10-31 15.58.02

                      -------------------------------

                      ความคิดเห็นที่ 51 (3015185)



                      ครับ ปกติกาพ่นสีรถยนต์จะใช้กันอยู่ที่ ขนาดนมหนู 1.3 มม.นี่หละครับ เท่าที่พอรู้ w101-134G เหมาะสำหรับพ่นสีรถยนต์อยู่แล้ว โดยเฉพาะพวกสีเมลเทลลิก และพวกสีมุก และถ้าเป็น รุ่น w77-12G จะใช้กับงานไม้ เฟอร์นิเจอร์ไม้-เหล็ก ประมาณนั้น ผิดพลาดยังไงผู้เชี่ยวชาญแนะนำด้วยครับ
                      ผู้แสดงความคิดเห็น นิด sornid วันที่ตอบ 2015-02-02 01.19.20

                      -------------------------------

                      Comment


                      • # 381 PEGE 18

                        20 Apr 2015 07.36.59


                        ###### แถมกระทู้ ซ่อม POWER SUPPLY COMPUTER #######

                        คุณ chen2522

                        กระทู้นี้เอาไว้ถามตอบปัญหาที่เกี่ยวกับอาการเสียของเพาเวอร์ซัพพลายครับ

                        www overclockzone.com/forums/showthread.php/2386263-เรามาซ่อมสวิทชิ่งกันเถอะ(สำหรับท่านที่จับหัวบัดกรีและมิเตอร์เป็น)

                        ตอบ = คุณ flinxxx

                        อาการที่เกิดตอนฝนตก เกิดจาก ไฟฟ้าเกิดลี๊คจากฟ้าลงครับ ของเพื่อนเคยเป็นครับ ส่งซ่อมบริษัท คงจะเปลี่ยนบอร์ดครับ

                        แนะนำให้ใช้ปลั๊กไฟ ยี่ห้อ TOSHINO รุ่นที่มีประกันการเสียหายจากฟ้าลงครับ สามารถส่งซ่อมแล้วเบิกค่าซ่อมได้ครับ

                        ไม่ได้รับค่าสปอนเซอร์นะครับ แนะนำเพราะมีอยู่ยี่ห้อเดียวครับ ที่มีประกัน DAMAGE 50000 บาท


                        #### แนะนำสำหรับผู้ที่จะลองซ่อมเองครับ เป็นไกด์ไลน์ให้ครับ ไม่ได้รับซ่อมเป็นงานหลักครับ ไม่มีหน้าร้านครับ แนะนำให้ลองซ่อมเองครับ #####

                        สามารถส่งรูปจอ LCD TV & LCD Monitor ชื่อยี่ห้อ ชื่อรุ่น ที่เสีย จะได้แนะนำที่ซื้ออะไหล่ แนะนำการซ่อมให้ครับ เพื่อเป็นกรณีศึกษา

                        บางอย่างก็อาจจะซ่อมได้ครับ บางรุ่นก็ซ่อมไม่คุ้มครับ เพราะอะไหล่พวกจอ อะไหล่มันมีมากมาย และไม่ค่อยจะใช้แทนกันได้

                        ทำได้ก็ต้องดัดแปลงมาก ไม่เหมือนเดิม



                        LCD Monitor Repair รับซ่อม และปรึกษาอาการเสีย จอ LCD TV , LCD ทางเว็บเท่านั้น สอบถามทางหน้าเว็บเท่านั้น ทาง PM ไม่ค่อยได้ดูครับ

                        ดูอาการไล่ดูตั้งแต่หน้าที่ 1 - 17 ทุกหน้า ถ้าท่านได้เข้าไปดูให้ละเอียด จะรู้ว่าแต่ละหน้ามีประโยชน์ สามารถเทียบเคียงทุกอาการได้เลยครับ แทบจะครบถ้วนทุกอาการ

                        โดย ถ้าท่านดูของเว็บต่างประเทศ เช่นเว็บซ่อมของไตหวัน เกาหลี แนะนำให้ดูให้ละเอียด มีมากมายครับ

                        บางท่านดูไม่เป็นครับ ดูผ่าน ๆ ที่สำคัญคือท่านต้อง COPY ไปที่ ADDRESS แล้ว ENTER ครับ




                        ***** ตอบเป็นภาพไม่ได้ พื้นที่เก็บรูปเต็ม ไม่ลบครับ ปรึกษาได้ เดี๋ยวแนะนำให้ดูที่ PAGE ? # ? *****

                        แล้วเข้าไปดูวิธีแก้ไขที่อยู่ของเว็บนั้น ๆ ครับ




                        PAGE 14

                        # 261 ( 1 ) แนะนำการโมดิฟาย เครืองจ่ายไฟเอนกประสงค์ สามารถดัดแปลงจ่ายไฟให้กับเครื่องใช้ไฟฟ้าต่าง ๆ โดยการใช้เคสคอมที่ไม่ได้ใช้แล้วให้เกิดประโยชน์

                        www monitor.net.ru/forum/topic378180-32.html

                        # 261 ( 2 ) แนะนำเว็บซ่อมของโปแลนด์ครับ

                        www elektroda.pl/rtvforum/topic1903645.html

                        # 261 ( 3 ) แนะนำเว็บซ่อมของรัสเซียครับ

                        # 261 ( 4 ) www asorti.meximas.com/index.php?route=information/information&information_id=7

                        # 261 ( 5 ) www galaxybrain.ru/??????-??-????????-samsung-syncmaster-920nw/

                        # 261 ( 6 ) WWW galaxybrain.ru/%D1%80%D0%B5%D0%BC%D0%BE%D0%BD%D1%82-%D0%B6%D0%BA-%D0%BC%D0%BE%D0%BD%D0%B8%D1%82%D0%BE%D1%80%D0%B0-samsung-syncmaster-710v/

                        # 261 ( 7 ) www monitorremont.blogspot.com/2010_06_01_archive.html


                        # 262 DIY ที่ชาร์ตแบตสํารองใช้ได้กับหลายแหล่งจ่ายด้วยวงจรลดแรงดัน LM2596S

                        www thaiconverter.com/article/diy-ที่ชาร์ตแบตสํารองใช้ได้กับหลายแหล่งจ่ายด้วยวงจรลดแรงดัน-lm2596s

                        # 261 ( 2 ) DIY Mobile Iphone charger มาชาร์ท Iphoneด้วยแบตเตอรี่ AA 4ก้อนกันเถอะ

                        www w2.pdamobiz.com/forum/printer_friendly_posts.asp?TID=194632

                        www aekgadget.com/product/155/วงจร-ไฟจาก-12v-เป็น-5v-3a-พร้อม-usb-1-portDIY ที่ชาร์ตแบตสํารองใช้ได้กับหลายแหล่งจ่ายด้วยวงจรลดแรงดัน LM2596S


                        www thaiconverter.com/article/diy-ที่ชาร์ตแบตสํารองใช้ได้กับหลายแหล่งจ่ายด้วยวงจรลดแรงดัน-lm2596s

                        # 261 ( 3 ) DIY Mobile Iphone charger มาชาร์ท Iphoneด้วยแบตเตอรี่ AA 4ก้อนกันเถอะ

                        www w2.pdamobiz.com/forum/printer_friendly_posts.asp?TID=194632

                        www aekgadget.com/product/155/วงจร-ไฟจาก-12v-เป็น-5v-3a-พร้อม-usb-1-port

                        www monitor.net.ru/forum/monitors-samsung-940-tms91429ct-info-254275.html

                        www osta.ee/19-lcd-monitor-samsung-syncmaster-930bf-32884424.html

                        www sun-store.ru/category_418.html



                        # 263 ( 1 ) แนะนำการ DIY จอ LCD Monitor * 3 จอ ด้วยท่อแป๊ปประปาเหล็กครับ การ DIY ที่สวยงามครับ

                        www hardforum.com/showthread.php?t=1602409

                        www overclockers.com/forums/showthread.php/324442-DIY-LCD-MkIII-IMOG-edition

                        # 263 ( 2 ) ทำขาแขวนจอ LCD TV จากเหล็กฉากรูครับ ใช้งบน้อย แต่ใช้งานได้ดีครับ ขอบคุณการ DIY ที่ดีและประหยัดครับ

                        www topicstock.pantip.com/home/topicstock/2009/08/R8183422/R8183422.html

                        # 264 ความจริงเรื่องมิเตอร์ของการไฟฟ้าที่ติดอยู่ตามบ้านของเราในแง่มุมต่างๆ เห็นว่ามีประโยชน์ครับ ไม่มากก็น้อย

                        www pui108diy.com/wp/?p=154

                        # 265 แนะนำที่เรียนต่อ ปวช ฟรีครับ เหมาะสำหรับน้อง ๆ ที่กำลังหาที่เรียนต่อ

                        www bpc.ac.th

                        # 266 แนะนำเว็บซ่อมจอ LCD Monitor ของคนเขียนหนังสือ LCD Monitor Repaiir

                        How To Repair Dell E153Fpc LCD Monitor With Display Shutdown Problem

                        www electronicrepairguide.com/dell-e153fpc-lcd-monitor-repair.html

                        # 267 ( 1 ) แนะนำเว็บซ่อมจอ LCD Monitor ของคนเขียนหนังสือ LCD Monitor Repaiir

                        How To Repair ACER AL712 LCD Monitor With Display Shutdown Problem

                        www electronicrepairguide.com/acer-al712-lcd-monitor-repair.html

                        ####################

                        # 267 ( 1 )

                        ***** แนะนำเว็บซ่อมจอ LCD Monitor ของ ญี่ปุ่นครับ หายากด้วยนะครับ *****

                        www irohani.chakin.com/Repair_records/LCD_monitor_2.htm

                        # 268 ขาย ชุดซ่อม จอ LCD power supply + inverter

                        www irohani.chakin.com/Repair_records/LCD_monitor_2.htm

                        คุณ WICHIAN001

                        # 270 ขาย ชุดซ่อม จอ LCD power supply + inverter

                        www udon108.com/thai/showthread.php?t=164389

                        # 275 สายแพรปุ่มกดเครื่องจีนขาด หาใหม่ไม่ได้ ทำยังไงถ้าไม่อยากต่อลาย (แชร์)

                        www wintesla2003.com/topic/135617

                        # 275 ( 2 ) รหัสสินค้า : 1325
                        สายแพ จอ lcd 30pin ยาว13cm.


                        www rrshop2home.com/--lcd-ultra-g8-common-line-p-1325.html

                        # 276 www electronicrepairguide.com/sharp-lcd-monitor-repair.html

                        # 277 เรียบร้อยซะที MY EEEPC WITH TOUCHSCREEN! (โมใส่ทัชสกรีน)

                        www trendypda.com/modules/newbb/viewtopic.php?topic_id=1851

                        #####################

                        # 277 ( 2 ) ซ่อม VCD จีนแดง ถาดไม่ออก

                        www ps-thai.com/learnCD/chineseCD.shtml

                        **********************

                        # 277 ( 3 ) สายแพร SW Aspire 4920g แก้ขัด

                        www 9notebook.com/read/3069

                        @@@@@@@@@@@@@@@@

                        # 277 ( 4 ) อาการของจอ LCD TV ที่เกิดจากสายแพรจอ

                        www youtube.com/watch?v=98a8iMokMcY

                        GOOGLE serch Lcd screen Flex Repair


                        # 278 การซ่อม LCD Panel ครับ ดูเป็นความรู้ครับ

                        ***** อย่าทำเองครับ ยากครับ ต้องมีเครื่องมือช่วยเยอะครับ เดี๋ยวของจะเสียหายเยอะ ต้องมีเวลขั้นเทพครับ *****

                        Lifetime Service Center LCD Panel Repair

                        www youtube.com/watch?v=OCiTKtRBtlk

                        **********************

                        # 278 ( 2 )การซ่อม LCD Panel Repair ด้วยเครื่องมือราคาแพงครับ

                        Ito Brand FRS-60P Flex Repair System

                        www youtube.com/watch?v=_D9UCaXBhN4

                        # 279 Tektronix TDS Front Panel High Voltage package can not remove after CRT pull out

                        www hitechfacility.co.jp/repair1.html

                        # 279 ( 2 ) LCD panel repair service and panel repairing machine sales Polarizer remover and laminator,

                        www youtube.com/watch?v=iqVU0YggPEs

                        # 280 REPAIR A MALFUNCTIONING LCD

                        www hackaday.com/2009/06/20/repair-a-malfunctioning-lcd/

                        Comment


                        • www car.boxzaracing.com/diy/3288

                          D.I.Y. ? ซ่อมสีตัวถังรถด้วยตัวเองง่ายๆ สาวๆก็ทำได้เอง


                          ###############

                          สาว
                          ซ่อมสีตัวถังรถด้วยตัวเอง่ายๆ ใครๆก็ทำได้เองที่บ้าน


                          รอยถลอกเล็กๆที่เกิดจากการใช้งาน ที่สามารถซ่อมสีได้ด้วยตัวเอง

                          สวัสดีแฟน BoxzaRacing วันนี้เราจพาเพื่อนๆไปชมการ DIY เกี่ยวกับรถยนต์เรื่องกาซ่อมสีตัวถังรถยนต์ด้วยตัวเอง ที่เพื่อนๆสามารถทำได้เองที่บ้านง่าย ซึ่งหลายท่านอาจจะคิดว่าการซ่อมสีตัวถังรถยนต์ นั้นไม่สามารถทำได้ด้วยตัวเอง วันนี้ทางทีมงานเลยนำวิธีการซ่อมสีมาให้ดูกัน เดี๋ยวเราไปชมกันเลยครับกับ Diy ซ่อมสีตัวถังรถยนต์ด้วยตัวเอง


                          การซ่อมสีตัวถังอาจจะใช้เวลานานทำให้บางท่านมีปัญหาเรื่งการใช้รถ

                          หลังจากที่เพื่อนๆได้มีการใช้รถ มาสักพัก อาจจะเจอปัญหาลอยขีดข่วนที่เกิดขึ้นกับตัวถังรถของเรา แล้วเกิดความไม่สบายใจ อยากซ่อมสีตัวถังแต่จุดที่จะซ่อมนั้นเป็นจุดเล็กๆ แต่ก็กลัวเสียเวลา เดี๋ยวลองทำตามวิธีที่ทางทีมงานนำมาให้ชมกันครับ

                          อุปกรณ์ที่ต้องใช้
                          กระดาษทรายน้ำ เบอร์ 1000 และ เบอร์ 2000
                          ยาขัดสีแบบที่ใช้ขัดหลังจากที่ทำสีรถใหม่ๆ
                          ยาขัดเงา เคลือบเวา ที่ใช้เคลือบสีรถ
                          สีที่ติดมากับรถหรือใกล้เคียงกับสีรถเรามากที่สุด
                          พู่กัน
                          ไดร์เป่าผม
                          ผ้าแห้ง นุ่มๆ สะอาดๆ
                          เมื่ออุปกรณ์พร้อมแล้วเรามาเริ่มกันเลยครับ


                          1.เริ่มแรกเรามาดูรอยที่เราจะทำการซ่อมสีตัวถังด้วยตัวเองก่อนว่า เป็นรอยขูดขีดหรือถลอก ไม่ได้บุบปี้ ถ้าเป็นแค่รอยถลอกเรามาเริ่มกันเลย


                          นำกระดาษทรายน้ำเบอร์ 1000 ขัดบริเวณรอยแแผลถลอก เบาๆ แล้วลองสังเกตุดูว่ารอยนั้นกลมกลืนกลับสีรถของเราหรือยัง


                          3.หลังจากที่เราขัดจนรู้สึกว่าลอยนั้นกลมกลืนกับสีรถแล้ว ให้ทำการเช็ดบริเวณรอยแผลให้แห้งสนิทจากคราบน้ำที่เราขัด เมื่อแห้งสนิทแล้วก็ทำการเอาพู่กัน แต้มสีแล้วทาตรงบริเวณรอยที่เราทำการขัดบางๆแล้วนำไดร์เป่าผมเป่าให้แห้งทำแบบนี้สลับกันไปมา 3-4 ครั้งจนสีเริ่มนูนขึ้นมา หลังจากนั้นรอให้สีแห้งสนิท


                          4.หลังจากที่สีแห้งสนิทแล้ว ก็มาถึงขัดตอนการขัดสีที่เราทำการแต้มให้เนียน โดยเริ่มจาก ใช้กระดาษทรายเบอร์ 1000 สลับกับเบอร์ 2000 ขัดสีตกแต่งบริเวณ บริเวณรอยที่เราซ่อมสีแล้วลองดูว่าจุดที่ทำการขัดสี ตัวสีเริ่มเป็นระดับเดียวกับสีเดิมแล้วหรือยัง ถ้าใกล้เคียงแล้วก็เก็บงานด้วยกระดาษทรายเบอร์ 2000 อีกที


                          5.ขั้นตอนสุดท้ายก็คือ ใช้ผ้านิ่มๆป้ายน้ำยาขัดสีแบบที่ใช้กับรถที่พึ่งทำสีเสร็จหรือน้ำยาสีหยาบ แล้วขัดตรงรอยที่เราซ่อมให้รอยกระดาษทรายที่เกิดจากการขัดนั้นหายไป จนหมด ขั้นตอนนี้ต้องใช้เวลานานนิดนึงไม่ต้องรีปใจเย็น ๆ หลังจากที่เราขัดจนรอยหายหมดแล้ว คราวนี้ก็น้ำยาเคลือบสีขัดจนเงา ตามที่ต้องการแค่นี้ ก็เป็นอันเสร็จเรียบร้อย


                          บริเวณกันชนก็เป็นอีกจุดนึงที่มักจะเกิดรอยบ่อยๆ ที่เราสามารถซ่อมสีเองได้

                          เป็นอย่างไรกันบ้างครับ กับDIY การซ่อมสีตัวถังรถยนต์ด้วยตัวเองที่ทางทีมงานเอามาให้เพื่อนๆ ได้ชมกันในครั้งนี้ ว่าสามารถทำเองได้ง่ายๆ ด้วยตัวเองที่บ้าน กับรอยเล็กๆ ที่เกิดขึ้นกับรถเราซึ่งบ้างครั้งเพื่อนๆอาจจะไม่อยากนำเข้าไปส่งซ่อมทำสีที่อู่ เนื่องจากใช้เวลานานเพื่อนๆก็ลองทำวิธีนี้ไปใช้กันครับ และเพื่อนๆสามารถ ติดตามการDiy เกี่ยวกับรถยนต์ ได้ที่ BoxzaRacing.com กันได้ตลอดครับครั้งหน้าจะเป็นการ Diyเกี่ยวกับอะไรรอชมกันได้เลย

                          Comment


                          • เรียนท่านเพื่อนสมาชิก OCZ


                            ถ้าท่านเพื่อนสมาชิก สนใจหัวข้อใด ก็สามารถ COPY ภาพ เพื่อเก็บไว้เป็นแหล่งข้อมูล ไว้เพื่อศึกษาไว้ดูเองได้ เพราะผมไม่แน่ใจว่า แต่ละเว็บอาจจะลบข้อมูลออก เพื่อ UPDATE เมื่อใด และรูปที่ผมฝากรูปเอาไว้ อาจจะลบรูปออกเมื่อใด ท่านเพื่อนสมาชิกก็อาจจะเก็บภาพไว้ เพื่อเป็นประโยชน์ในแนวทางซ่อมเอง และ DIY ต่าง ๆ ไม่สงวนสิทธิ์ครับ ทำได้เต็มที่ครับ เพราะต่างประเทศเค้าไม่โง่พอที่จะทำให้ประชาชนตัวเองด้อยพัฒนา ด้วยการใช้กฏหมายลิขสิทธิ์ที่ทรงกฏหมายอาญาสิทธิ์ เพียงเพื่อให้ถูกต้องตามกฏหมาย ไม่ได้ทำให้สมองของประชาชนฉลาดมากขึ้น ขอแนะนำท่านเพื่อนสมาชิก ช่วยเหลือตัวเองครับ


                            ##### แนะนำท่านเพื่อนสมาชิก ทำการ Print Screen หรือจะ COPY ภาพ และข้อมูลเก็บไว้ ทางผมก็จะ Print Screen หรือจะ COPY ภาพ เก็บไว้เป็นต้นแบบ หรือ BACKUP กันภาพหาย สำหรับภาพที่ฝากไว้กับเว็บฝากรูปต่าง ๆ เพื่อวันข้างหน้าจะมีประโยชน์ หรือเป็นข้อมูลที่อาจจะไม่มีเวลาหาอีก เพราะต้องไปทำงานอย่างอื่น อาจจะไม่มีเวลา UP กระทู้ ทำให้กระทู้หายไปครับ #####

                            Comment


                            • www spkpoly.ac.th/course.php

                              การจัดหลักสูตรการเรียนการสอน


                              ***** หลักสูตร ปวช. เรียนฟรี *****


                              หลักสูตรประกาศนียบัตรวิชาชีพ (ปวช.)

                              จัดการเรียนการสอนตามโครงสร้างหลักสูตรประกาศนีบัตรวิชาชีพ พ.ศ.2545 (ฉบับปรับปรุง พ.ศ. 2546)
                              ใน 2 ประเภทวิชา รวม 5 สาขาวิชา (6 สาขางาน) ทั้งระบบปกติและระบบทวิภาคี ดังนี้

                              1) ประเภทวิชาอุตสาหกรรม เปิดสอน 4 สาขาวิชา รวม 5 สาขางาน
                              1.1) สาขาวิชาเครื่องกล - สาขางานยานยนต์ (ทวิภาคี)
                              - สาขางานซ่อมตัวถังและสีรถยนต์ (ทวิภาคี)
                              1.2) สาขาวิชาเครื่องมือกลและซ่อมบำรุง - สาขางานเครื่องมือกล (ทวิภาคี)
                              1.3) สาขาวิชาโลหะการ - สาขางานเชื่อมโลหะ (ทวิภาคี)
                              1.4) สาขาวิชาไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์ - สาขางานไฟฟ้ากำลัง (ปกติ)
                              2) ประเภทวิชาพาณิชยกรรม เปิดสอน 1 สาขาวิชา รวม 1 สาขางาน
                              2.1) สาขาวิชาพณิชยการ - สาขางานคอมพิวเตอร์ธุรกิจ (ปกติ)

                              หลักสูตรประกาศนียบัตรวิชาชีพชั้นสูง (ปวส.)


                              จัดการเรียนการสอนตามโครงสร้างหลักสูตรประกาศนีบัตรวิชาชีพชั้นสูง พ.ศ.2546 ใน 2 ประเภทวิชา
                              รวม 6 สาขาวิชา ทั้งภาคสมทบ และ ระบบเทียบโอนความรู้และประสบการณ์วิชาชีพ ดังนี้

                              1) ประเภทวิชาอุตสาหกรรม เปิดสอน 3 สาขาวิชา
                              1.1) สาขาวิชาเทคนิคยานยนต์ (เทียบโอนฯ)
                              1.2) สาขาวิชาอุตสาหกรรมการผลิต (เทียบโอนฯ)
                              1.3) สาขาวิชาเครื่องกลไฟฟ้า (เทียบโอนฯ)
                              2) ประเภทวิชาบริหารธุรกิจ เปิดสอน 3 สาขาวิชา
                              2.1) สาขาวิชาเทคโนโลยีสำนักงาน (เทียบโอนฯ)
                              2.2) สาขาวิชาการจัดการทรัพยากรมนุษย์ (เทียบโอนฯ)
                              2.3) สาขาวิชาการตลาด (ภาคสมทบ)

                              หลักสูตรวิชาชีพระยะสั้นและหลากหลาย


                              จัดการเรียนการสอนหลักสูตรวิชาชีพระยะสั้นและหลากหลาย ตั้งแต่ 30-150 ชั่วโมง เปิดสอนภาคเรียนละ
                              2 รุ่น (4 รุ่น/ปีการศึกษา) ใช้เวลาเรียนรุ่นละประมาณ 50 วันทำการ โดยเปิดสอน 4 ประเภทวิชา รวม 14 แผนกวิชา
                              ดังนี้
                              1) ประเภทวิชาอุตสาหกรรม เปิดสอน 7 แผนกวิชา
                              1.1) แผนกวิชาช่างยนต์
                              1.2) แผนกวิชาช่างกลโรงงาน
                              1.3) แผนกวิชาช่างเชื่อมโลหะ
                              1.4) แผนกวิชาช่างไฟฟ้า
                              1.5) แผนกวิชาช่างอิเล็กทรอนิกส์
                              1.6) แผนกวิชาช่างเครื่องทำความเย็นและปรับอากาศ
                              1.7) แผนกวิชาช่างเขียนแบบก่อสร้าง
                              2) ประเภทวิชาพาณิชยกรรม เปิดสอน 2 แผนกวิชา
                              2.1) แผนกวิชาภาษาอังกฤษ
                              2.2) แผนกวิชาคอมพิวเตอร์ธุรกิจ
                              3) ประเภทวิชาคหกรรม เปิดสอน 4 แผนกวิชา
                              3.1) แผนกวิชาอาหาร-ขนม
                              3.2) แผนกวิชาช่างเสื้อสตรี
                              3.3) แผนกวิชาช่างเสื้อผ้าอุตสาหกรรม
                              3.4) แผนกวิชาช่างเสริมสวยและตัดผม
                              4) ประเภทวิชาศิลปกรรม เปิดสอน 1 แผนกวิชา
                              4.1) แผนกวิชาศิลปประดิษฐ์

                              ****************************************










                              [url=http://www.mx7.com/view2/yPCshLgdR6Hkr1UM]

                              วิทยาลัยสารพัดช่างสมุทรปราการ สาขาชุมชนเมืองใหม่ บางพลี
                              โดย อาชีวะ ทูเดอะ ฟิวเจอร์ ? อัพเดตเมื่อ มากกว่าหนึ่งปี
                              ท่านใดที่สนใจ ต้องการเรียนหลักสูตรระยะสั้น จบแล้วสามารถไปประกอบอาชีพได้เลย ตรงตามความต้องการของตลาดสามารถติดต่อได้ที่ วิทยาลัยสารพัดช่างสมุทรปราการ สาขาชุมชนเมืองใหม่ บางพลี กับอีกหนึ่งสถาบันที่เราภมิใจนำเสนอ

                              ศูนย์ฝึกอาชีพ ใน จังหวัดสมุทรปราการ
                              ขอแนะนำแหล่งอบรมฝึกอาชีพในจังหวัดสมุทรปราการ วันนี้Educate Careerขอแนะนำ 3 ที่ก่อนนะครับ ถ้ามีข้อมูลศูนย์ฝึกอาชีพในจังหวัดสมุทรปราการเพิ่มเติม จะนำมาแชร์ข้อมูลให้กับเพื่อนๆอีกครับ


                              1.โครงการลูกพระดาบส สมุทรปราการตามพระราชดำริ
                              สำหรับ โครงการลูกพระดาบส เป็นโครงการพระราชดริซึ่งพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ซึ่งได้ดำเนินกิจกรรมการเกษตรแบบผสมผสานในลักษณะพึ่งพาตนเองตามแนวพระราชดำริ เพื่อพัฒนาให้เป็นศูนย์กลางการเรียนรู้ และถ่ายทอดเทคโนโลยีด้านการเกษตร การเพิ่มมูลค่าสินค้าเกษตร สมุนไพร การใช้พลังงานทดแทน และอื่นๆ เพื่อสนับสนุนการเรียนการสอนของศิษย์พระดาบสหลักสูตรการเกษตรพอเพียง และช่างไม้เครื่องเรือนของโรงเรียนพระดาบส การศึกษา ค้นคว้าวิจัย และพัฒนาการถ่ายทอดเทคโนโลยีสู่ชุมชน การท่องเที่ยวเชิงเกษตร ตลอดจนใช้เป็นสถานที่ฝึกอบรม ฝึกปฏิบัติงาน และศึกษาดูงานของนักเรียน นิสิต นักศึกษา เกษตรกร และประชาชนทั่วไป
                              สำหรับผู้ที่สนใจฝึกอาชีพกับโครงการลูกพระดาบส สมุทรปราการตามพระราชดำริ สามารถติดต่อได้ที่ เลขที่ 89 ม.14 ซ.เทศบาลบางปู 119 ถ.สุขุมวิท
                              ตำบลบางปลา อำเภอบางพลี จังหวัดสมุทรปราการ 10540
                              โทรศัพท์ : 0-2174-4111
                              โทรสาร : 0-2174-4115
                              เว็บไซต์ติดต่อ www lukphradabos.org/



                              2.สถาบันพัฒนาฝีมือแรงงาน ภาค1 จังหวัดสมุทรปราการ
                              สถาบันพัฒนาฝีมือแรงงาน ภาค 1 สมุทรปราการ สังกัดกรมพัฒนาฝีมือแรงงาน กระทรวงแรงงานและสวัสดิการสังคม เป็นหน่วยงานที่ดำเนินการฝึกอาชีพ ตลอดจนพัฒนาฝีมือแรงงานแก่เยาวชนและผู้ด้อยโอกาส สำหรับผู้ที่สนใจฝึกอบรมอาชีพก็สามารถติดต่อสอบถามข้อมูลได้ตาม
                              ที่อยู่ 1039 หมู่15 ตำบลบางเสาธง จังหวัดสมุทรปราการ 10540
                              โทรศัพท์ 02-3153780-809
                              โทรสาร 02-3153808
                              เว็บไซต์ติดต่อ www home.dsd.go.th/central/


                              3.วิทยาลัยสารพัดช่างสมุทรปราการ
                              สำหรับวิทยาลัยสารพัดช่างสมุทรปราการ ได้มีโครงการศูนย์ฝึกอบรมอาชีพในสถานศึกษา ซึ่งเป็นโครงการฝึกอบรมอาชีพระยะสั้นให้กับประชาชนทั่วไปที่มีความสนใจมาฝึกอาชีพหรือหาความรู้เพิ่มเติมเพื่อสร้างอาชีพเสริมและต่อยอดให้เป็นอาชีพหลัก
                              หลักสูตรที่เปิดสอน ได้แก่ เรียนทำอาหาร เรียนทำเบเกอรี่ เรียนทำเครื่องดื่มต่างๆ อื่นๆ
                              สำหรับผู้ที่สนใจเข้ารับการเรียนฝึกอาชีพในโครงการศูนย์ฝึกอบรมอาชีพกับวิทยาลัยสารพัดช่างสมุทรปราการ สามารถติดต่อสอบถามเพิ่มเติมได้ที่
                              งานทะเบียน วิทยาลัยสารพัดช่างสมุทรปราการ โทรศัพท์ 02 395 3935 ต่อ 131
                              274 ถนนสุขุมวิท ต.ปากน้ำ อ.เมือง จ.สมุทรปราการ 10270
                              เว็บไซต์ติดต่อ www spkpoly.ac.th/
                              - See more at www educate-career.blogspot.com/2013/11/samutprakarn-training.html#sthash.75mdbzbi.dpuf

                              Comment


                              • วันนี้ ( วันอังคารที่ 26 เมษายน 2559 ) เวลา 8.30 น.





                                เดินทางไปธุระที่แถว ๆ วงเวียนใหญ่เจอร้านอาหาร ราคาถูก ขายเพียง 10 บาท ซึ่งเป็นราคาที่หาไม่ได้ในกรุงเทพ

                                เมื่อได้สั่งมาทานดู ปริมาณไม่แตกต่างกับตามร้านทั่วไป เครื่องเคียงอาจจะน้อย แต่ความอร่อยสูสีกับที่ตามร้านทั่ว ๆ ไป ขายอยู่ 30 - 35 - 40 บาท

                                ร้านอยู่ที่ตรงข้ามห้างโรบินสันลาดหญ้าเดิม อยู่หน้าร้านลุงโปร่ง แว่นตาคนจน ขายทุกวันเช้า 8 โมงเช้า ถึง 3 โมงเย็น เวันวันหวยออก เค้าแจกแว่นใส่ให้คนจนฟรีครับ



                                ##### คนดี ๆ ในสังคม ย่อมมีอยู่เสมอ แม้จะไม่มากนัก ก็ทำให้สังคมน่าอยู่มากขึ้นครับ #####




                                Comment

                                Working...
                                X