mac เสียงดีกว่า windows หรือครับ ใครเล่นComputer Audio หรือมีประสบการณ์ช่วยชี้แนะที

[animeangel]

สำหรับคนที่อาจจะงง ผมขออนุญาตชี้แจงเพิ่มเติมครับ

มู้นี้ กำลังพูดถึงคุณภาพเสียงเทียบกันระหว่าง 2 ระบบปฏิบัติการที่เรารู้จักกันดี ก็คือ window กับ os X (หรือก็คือ mac ที่พูดๆกัน)

ไม่ใช่ในแง่ของ hardware หรือตัวเครื่องนะครับ เพราะเคยมีคนทดสอบโดยการ เอา window ไปลงในเครื่อง mac (virtual machine) ปรากฏว่าเสียงห่วยลงครับ

ฝั่ง mac (os X) ใช้เดิมๆ ให้เสียงที่ดีกว่า window ใช้เดิมๆ อยู่ในระดับนึงเลยครับ (จากที่เขาพูดๆกัน)

แต่พอนำ window มาปรับแต่ง ปรากฏว่าสามารถให้เสียงดีขึ้นได้อย่างน่าทึ่ง (ผมพิสูจน์แล้ว) จนถึงดีกว่า os X (ตามที่คุณ windowX ได้กล่าวไว้) โดยแลกกับความยุ่งยาก (มาก - น้อย แล้วแต่มุมมอง) และการลดทอนประสิทธิภาพของ window ลงในระดับนึง

ถ้าถามว่า งั้น os X เอามาโม ก็น่าจะดีกว่างั้นสิ คงตอบว่า os X โมไม่ได้ครับ เพราะพี่แกล็อคสเปคทุกอย่างหมด

[Antfield]

Fidelizer น่าสนใจครับ เดี๋ยวลองตัวฟรีดูก่อนถูกใจจะช่วยอุดหนุน

คอมเม้นนิดนึงนะครับ หน้าเวปเวลาเลือกภาษาไทยอยากให้เป็นภาษาไทยแบบอ่านรู้เรื่องไม่ใช่ใช้ Google แปลแล้วอ่านไม่รู้เรื่องนะครับ ไหน ๆ ก็เป็นโปรแกรมที่พัฒนาโดยคนไทยแล้วด้วย
เอาตรงอธิบายพวกฟีเจอร์ของโปรแกรมก็พอ ส่วนตรงคอมเม้นไม่ต้องแปลก็ได้

[ting1820]

Fidelizer น่าสนใจครับ เดี๋ยวลองตัวฟรีดูก่อนถูกใจจะช่วยอุดหนุน

คอมเม้นนิดนึงนะครับ หน้าเวปเวลาเลือกภาษาไทยอยากให้เป็นภาษาไทยแบบอ่านรู้เรื่องไม่ใช่ใช้ Google แปลแล้วอ่านไม่รู้เรื่องนะครับ ไหน ๆ ก็เป็นโปรแกรมที่พัฒนาโดยคนไทยแล้วด้วย
เอาตรงอธิบายพวกฟีเจอร์ของโปรแกรมก็พอ ส่วนตรงคอมเม้นไม่ต้องแปลก็ได้

[kijabusu]

ผมก็ไม่รู้เหมือนกันครับว่าคุณเอาประเด็นเรื่องเครื่อง Mac ไปปนกับ OS Windows ทำไม ที่ผมลงมาโพสเองก็เพื่อจะเคลียร์ประเด็นนี้ พอเรื่องจะชัดเจนคุณก็จะพาคนมาดำน้ำต่ออีกละ คุณจะเอา Macbook Pro ไปเปรียบเทียบกับเครี่องคอมที่ทำงานกับที่บ้านลง Windows ไปทำไมครับ ใช้ Windows เหมือนกันเหรอ ถ้าไม่ดีจะบอกว่า Macbook Pro ดีกว่าคอมที่ทำงานงั้นเหรอ หรือยังไงครับ งงอะไรรึเปล่า

ถ้าเครื่อง Macbook คุณลง Windows แล้วมาบอกว่าเสียงใน Windows ดีไม่สู้ใน OS X บน Macbook คุณ ผมจะไม่ว่าอะไรเลยจริงๆนะครับ ก็ความเห็นของคุณเองจากประสบการณ์ของคุณเองมาลองได้แค่นี้ ถ้าว่างๆก็เอา Windows มาลงใน Macbook Pro แล้วหาพวกโปรแกรมดีๆใน Windows อย่าง J River/JPLAY/Fidelizer ลองดูบ้างนะครับ เผื่อจะได้เปิดโลกทัศน์บ้างอะไรบ้าง



ด้วยความยินดีครับ หลายคนก็ชอบเข้าใจผิดเอาเครื่อง Mac ไปเทียบกับระบบปฏิบัติการ Windows เหมือนคนเอา iPhone ไปเทียบกับ Android จนผมอดที่จะออกมาอธิบายไม่ได้ว่ามันเป็นคนละเรื่องกันครับ

ผมก็ไม่รู้เหมือนกันครับว่าคุณเอาประเด็นเรื่องเครื่อง Mac ไปปนกับ OS Windows ทำไม ที่ผมลงมาโพสเองก็เพื่อจะเคลียร์ประเด็นนี้ พอเรื่องจะชัดเจนคุณก็จะพาคนมาดำน้ำต่ออีกละ คุณจะเอา Macbook Pro ไปเปรียบเทียบกับเครี่องคอมที่ทำงานกับที่บ้านลง Windows ไปทำไมครับ ใช้ Windows เหมือนกันเหรอ ถ้าไม่ดีจะบอกว่า Macbook Pro ดีกว่าคอมที่ทำงานงั้นเหรอ หรือยังไงครับ งงอะไรรึเปล่า

ถ้าเครื่อง Macbook คุณลง Windows แล้วมาบอกว่าเสียงใน Windows ดีไม่สู้ใน OS X บน Macbook คุณ (ยังไม่ได้พูดสักคำว่า windows ลงเครื่อง mac แล้วเสียงไม่ได้เท่า )ผมจะไม่ว่าอะไรเลยจริงๆนะครับ ก็ความเห็นของคุณเองจากประสบการณ์ของคุณเองมาลองได้แค่นี้ ถ้าว่างๆก็เอา Windows มาลงใน Macbook Pro แล้วหาพวกโปรแกรมดีๆใน Windows อย่าง J River/JPLAY/Fidelizer ลองดูบ้างนะครับ เผื่อจะได้เปิดโลกทัศน์บ้างอะไรบ้าง

โทษที นะครับ ผมไม่ได้มีเจตนาจะว่าmac มันดีกว่า
[macbook pro osx10+bootcamp เสียงดีเหมือนกัน] เน้นว่าเสียงมันดีเหมือนกัน
ครื่องที่ทำงาน ฝั่ง windows ทั้งหมด เสียงไม่ดีเท่า macbook
(ที่ทำงานเสียงไม่ดีเท่า mac โน้ตบุคฝั่ง windows มันใช้ชิบเสียงไม่ดีเท่าของ mac (ไม่ได้ว่า ตัว os มันไม่ดี)) อันนี้ต้องขออภัย อธิบายไม่ละเอียดพอ ทำให้เข้าใจเป็นอีกแบบ (โน้ตบุ๊คฝั่งวินโดว์ ต้องยอมรับ ชิบเสียงที่ใส่มา มันไม่ดีเท่า ที่ใส่ไว้ใน mac เนื่องด้วยราคาหรืออะไรก็แล้วแต่)
เครื่องประกอบที่บ้าน ลงwindows ใช้ sound แยก ทำไมเสียงมันดีกว่าทั้งของแบบ เน้น sound แยก มันดีกว่า ทั้ง mac ทั้ง windows

เข้าใจประเด็นผิดรึว่า เอาเรื่องชิบเสียงไปรวมกับ os
อันนี้ ผมไม่ได้อ่าน คอมเม้นของท่านทุกอัน ผมอ่านแค่ เจ้าของกระทู้ และ คอมเม้นแรกๆ ที่บอกว่า mac ดีกว่า ผมก็เลยจะสื่อว่า เราหลงประเด็นรึป่าว ไปเอา os ไปเปรียบเทียบเรื่องเสียง ใจความสำคัญ มันไม่ได้อยู่ที่sound ที่ใช้ ลำโพง หูฟัง โปรแกรมที่ใช้ สายสัญญาณต่างๆ เหรอ

ก็ความเห็นของคุณเองจากประสบการณ์ของคุณเองมาลองได้แค่นี้ ถ้าว่างๆก็เอา Windows มาลงใน Macbook Pro แล้วหาพวกโปรแกรมดีๆใน Windows อย่าง J River/JPLAY/Fidelizer ลองดูบ้างนะครับ เผื่อจะได้เปิดโลกทัศน์บ้างอะไรบ้าง
ผมก็ยังบอกอยู่ ว่าMacbook Pro+bootcamp (หรือท่านไม่เข้าใจคำว่า bootcamp)

ผมคงไม่มีประสบการณ์ หรือ หูฟังเทพแบบท่าน แต่ผมก็เป็นคน คนหนึ่ง ที่ชื่นชอบ ในอรรถรสของเสียงเพลง เสียงดนตรี พยายามเสาะแสวงโปรแกรม หาsound card ต่างๆ มาทดลองฟัง ตามกำลังทรัพย์จะอำนวย
และก็ขออภัย ที่เม้นสั้นๆ ทำให้ผู้อ่านสื่อความหมายไปผิด
ขอบคุณครับ

[TroRuwA]

ถ้าใช้เล่นเกมดูหนังด้วยปรับเป็น Workstation ก็พอแล้วครับ ผมใช้แบบนี้อยู่นั่งเล่นเกม compile ROM ใน Virtual Machine ได้สบายๆ



ถ้าก่อนที่จะมี Fidelizer ออกมามันก็ใช่ครับ ไม่มีใครไปพัฒนา optimize core audio จริงๆ มีแต่ไปปรับ registry tweak แปลกๆออกทะเลไปเรื่อยอยู่ ผมก็เคยออกจนมาทำ Fidelizer นี่แหละ ทำเอา Marcin เลิกใช้ XXHighend ไปจับมือกับ Josef ทำ JPLAY ขายแทนเลย ทุกวันนี้ Marcin Josef AudioPhil กับผมก็เพื่อนๆกันทั้งนั้นล่ะครับ ผมยังแลกโปรแกรมกับ AudioPhil ที่ทำ Audiophile Optimizer มาพัฒนาร่วมกันอยู่เลย

ส่วนเรื่องงบประมาณนั้นแค่ซื้อเครื่อง Mac ก็หลายหมื่นแล้วนะครับ ซื้อ Fidelizer Pro แค่ 1990 บาทมในไทย เปิด foobar ฟังเพลงก็ฟังแทนเครื่อง Mac ได้สบายๆแล้วครับ หรือจะซื้อ J River JPLAY เพิ่มก็ดียิ่งขึ้นไปอีกครับ ถูกกว่า Mac เยอะด้วย



ใช่ครับผม ผมเองก็มึ project music server ทำขายเฉพาะเหมือนกัน มีสั่งทำ power supply ตัวเป็นหมื่นให้ลูกค้าไปเหมือนกันครับ

แจ่มเลยครับน้า
ผมไม่ได้ตามนานมาก ตกข่าวไปเยอะ
ตั้งแต่ระเบิดชุด ไม่ได้ฟังเลยครับ ตอนนี้อย่าว่าแต่เงลาฟังเลย
หาเวลานอนให้พออยู่ T T

ไว้มีโอกาสจะขอคำปรึกษากับน้านนท์นะครับ

[windowsx]

ไม่เป็นไรครับ เข้าใจก็ดีแล้วครับ ไม่เกี่ยวกับฟังเก่งไม่เก่งอะไรหรอกครับ แค่ไม่อยากให้หลงประเด็นระหว่าง hardware กับ software ครับ การที่ macbook pro จะฟังเพลงดีกว่าคอมที่ทำงานหรือที่บ้านก็ไม่แปลกอะไรครับ มันมีหลายปัจจัย board มั่ง ภาคจ่ายไฟบ้าง ตัวถังบ้าง รวมๆกัน ไม่ใช่แค่ sound card อย่างเดียวครับ ส่วนข้อมูลภาษาไทยแบบไม่แปลสามารถอ่านได้ในนีั้ครับ

http://forum.munkonggadget.com/detail.php?id=158349

[lekkiki]

เห็นหน้าคุณนนท์แล้วนึกว่านักดนตรีซะอีก...5 5 5

สุดยอดครับ...คงต้องยกย่องให้เป็น "พ่อมดแห่งเสียงเพลงของ windows" แล้วล่ะครับ...

[windowsx]

ขอบคุณครับ จริงๆก็มี Fidelizer สำหรับ Android ด้วยนะครับแต่ต้องโมรอมในเครื่องแทนไม่มี app ให้ลง

[windowsx]

วันนี้ก็ได้รับ feedback จากลูกค้าคนไทยแบบเป็นทางการเสียที ผมลงไว้ในนี้แล้วนะครับ

http://www.fidelizer-audio.com/added...t-jaruwanchai/

ไม่ทราบว่า feedback ของคุณ animeangel (ขอใช้ handle name ในบอร์ดละกันนะครับเพื่อความเป็นส่วนตัว) จะสามารถขออนุญาตนำไปลงในเว็บจะได้ไหมครับ เผื่อลูกค้าคนไทยที่สนใจจะได้อ่านดูได้ครับ

[PIDKAJOO]

ว้าาาาว....
แล้ว linux ให้ทำเยี่ยงไรถึงจะเสียงดีขึ้นบ้างอ่ะครับ

[Antfield]

ลอง Fidelizer แล้วครับ ดีขึ้นแบบรับรู้ได้ขนาดใช้กับหูฟังเล่นเกมส์อย่าง razer kraken + X-Fi titanium + หูกาก ๆ ของผมเอง เสียงร้องเคลียร์+ใสขึ้น เสียงเครื่องดนตรีแยกชิ้นชัดเจนขึ้น
ไม่น่าเชื่อยังกะไสยศาสตร์ มีแววได้เสียตัง

[animeangel]

เชิญเลยครับ คุณ windowX

ผมบอกได้เลยว่า pro ดีกว่า ฟรีชนิดก้าวกระโดดครับ

ตอนผมลอง plus มันดีกว่า free จริง แต่ไม่ถึงขั้นประทับใจมากเท่าไหร่ ผมเลยลังเลว่าจะอัพ pro ดีไหมอยู่นาน

แต่พอมา pro นี่ มันดันดีกว่า plus ไปอีกแบบต้องอุทานเลยครับ

[Antfield]

เชิญเลยครับ คุณ windowX

ผมบอกได้เลยว่า pro ดีกว่า ฟรีชนิดก้าวกระโดดครับ

ตอนผมลอง plus มันดีกว่า free จริง แต่ไม่ถึงขั้นประทับใจมากเท่าไหร่ ผมเลยลังเลว่าจะอัพ pro ดีไหมอยู่นาน

แต่พอมา pro นี่ มันดันดีกว่า plus ไปอีกแบบต้องอุทานเลยครับ

สอบถามหน่อยครับ ตอนนี้ผมลองตัวฟรีอยู่เสียงจะต่างแบบรู้สึกได้ก็ต้อง Extremist
ถ้าตัว pro แบบ workstation กับ audiophile หรือ Extremist เสียงต่างกันเยอะไหมครับ
ตอนนี้ถ้าใช้ Fidelizer แบบ Extremist นี่จะทำอย่างอื่นก็ต้องรีเครื่องอย่างเดียวเลย ไม่รู้ตัว pro ต้องรีเครื่องด้วยเหมือนกันหรือเปล่าครับ

[mckyparty]

ยังไงคนทำ OSX หรือ windows มันก็มาจากประเทศเดียวกัน กินเรียบ

[animeangel]

ต้อง restart เหมือนเดิมครับ และตัว pro จะต้อง install ลงในเครื่องเลยด้วยครับ

แถมในกรณีใช้โหมด extremist ข้อจำกัดยังยุ่งยากเพิ่มขึ้นนิดหน่อยด้วย คือมันจะฝังค่าที่ set ปิด service หรือ network เอาไว้ใน background เลย คือต่อให้คุณ restart เครื่อง หรือ uninstall program โดยที่ไม่คืนค่าเดิมให้มัน service ก็จะยังคงถูกปิดอยู่ครับ ค่ามันจะฝังลง window ต่อให้ restart ก็ไม่กลับมาค่าเดิมให้ จะกลับมาให้แค่การจัดการของ cpu อย่างเดียว (กลับมาแรงเหมือนเดิม) ส่วน service หากต้องการใช้ ต้องไปเลือกเปิดเอาเองใน window service หรืออาจจะแก้ด้วยวิธีเปิด fidelizer ขึ้นมาใหม่ แล้วเช็คตรงที่ปิด service ออก แล้ว restart ถึงจะกลับมาใช้ service ต่างๆได้เหมือนเดิม

ถามว่ายุ่งยากไหม ก็แล้วแต่มุมมองครับ สำหรับผม เฉยๆ แลกมากับคุณภาพเสียงที่ดีแบบคนละเรื่อง

อ้อ ข้อจำกัดนี้จะมีเฉพาะโหมด extremist เท่านั้นนะครับ ส่วน workstation กับ audiophile ที่ไม่ได้ไปยุ่งอะไรกับ service จะไม่มีปัญหาครับ