Club Sound Card ของ ASUS XONAR DS 7.1

[keang]

หาเจอละ > หน้า179 #3567
โพสข้อมูลไว้เกือบ2ปีแล้ว จนถึงตอนนี้ยังไม่มีใครทำ ลองยุอีกสักครั้งเผื่อจะมี"เหยื่อ"หลวมตัวสักราย

คัดลอกจากไฟล์ดาต้าชีทของburr-brown



RECEIVER INPUT INTERFACING
This section details the recommended interfaces line receiver inputs. Balanced and unbalanced line interfaces, in addition to optical receiver and external logic interfacing, will be discussed.



For professional digital audio interfaces, 110 ohm balanced line interfaces are either required or preferred. Transformer coupling is commonly employed to provide isolation and to improve common-mode noise rejection. Figure 83 shows the recommended transformer-coupled balanced line receiver interface. The transformer is specified for a 1:1 turn ratio, and should exhibit low inter-winding capacitance for best performance. Due to the DC bias on the line receiver inputs, 0.1uF capacitors are utilized for AC-coupling the transformer to the line receiver inputs. On the line side of the transformer, an optional 0.1uF capacitor is shown for cases where a DC bias may be applied at the transmitter side of the connection. The coupling capacitors should be surface-mount ceramic chip type with an X7R or C0G dielectric.



Unbalanced 75 ohm coaxial cable interfaces are commonly employed in consumer and broadcast audio applications. Designs with and without transformer line coupling may be utilized. Figure 84(a) shows the recommended 75 ohm transformer-coupled line interface, which shares many similarities to the balanced design shown in Figure 83. Once again, the transformer provides isolation and improved noise rejection. Figure 84(b) shows the transformer-free interface, which is commonly used for S/PDIF consumer connections.



TRANSMITTER OUTPUT INTERFACING
This section details the recommended interfaces transmitter line driver and CMOS buffered outputs. Balanced and unbalanced line interfaces, in addition to optical transmitter and external logic interfacing, will be discussed.



For professional digital audio interfaces, 110 ohm balanced line interfaces are either required or preferred. Transformer coupling is commonly employed to provide isolation and to improve common-mode noise performance. Figure 88 shows the recommended transformer-coupled balanced line driver interface. The transformer is specified for a 1:1 turn ratio, and should exhibit low inter-winding capacitance for best performance. To eliminate residual DC bias, a 0.1uF capacitor is utilized for AC-coupling the transformer to the line driver outputs. The coupling capacitor should be a surface-mount ceramic chip type with an X7R or C0G dielectric.



Unbalanced 75 ohm coaxial cable interfaces are commonly employed in consumer and broadcast audio applications. Designs with and without transformer line coupling may be utilized. Figure 89(a) illustrates the recommended 75 ohm transformer-coupled line driver interface, which shares many similarities to the balanced design shown in Figure 88. Figure 89(b) illustrates the transformer-free line driver interface, which is commonly used for S/PDIF consumer connections.


-----------------------------------------------


ซาวน์การ์ดรุ่นประหยัด ส่วนใหญ่จะไม่มีแจ็คSPD/IF Out(digital Out)มาให้ เช่น Coaxหรือmini-Jack
แต่เค้าจะใส่SPD/IF Out(digital out)แบบต่อภายในมาให้แทน
( ความแตกต่างของทั้ง2แบบ คือ ออกแบบมาสำหรับใช้สายDigital Cableได้สั้นหรือยาว -- แบบแรก=ยาว / แบบหลัง=สั้น)

ถ้าหากเราจะดัดแปลงแบบต่อภายในแล้วโยงสายไปใส่แจ็คเพิ่มเอาเอง(แบบที่หลายๆคนทำกัน)
ควรตรวจสอบวงจรภายในการ์ดเสียก่อนว่า เค้าต่อวงจรหรือใส่อะหลั่ยแบบครบๆไว้ให้หรือเปล่า
- ถ้าใส่มาให้ครบ ก็ต่อแบบที่ทำๆกันได้เลย
- ถ้าเค้าใส่มาไม่ครบ เราสามารถใส่เพิ่มเข้าไปเองได้ โดยดูจากข้อมูลข้างบน


ก็อปจากหน้า177


ถ้าใครมีไรสงสัยในรายละเอียดเพิ่มเติมก็โพสถามเพิ่มได้
แต่ห้ามถามว่า "การ์ดตัวไหนใส่มาครบหรือไม่ครบ" ผมคงตอบแบบไม่ลังเลว่า"ไม่รู้" เพราะ เดี๋ยวคนถามจะสบายเกินไป
เมื่อใครคิดจะทำควรตรวจสอบด้วยตัวเอง เพราะ เรื่องนี้เรียนรู้และทำความเข้าใจด้วยตัวเองได้ไม่ยากครับ

- ตัวต้านทานที่ใช้สำหรับคุมอิมพิแดนซ์
ตัวต้านทานที่ใช้ เบื้องต้นก็ควรใช้แบบLow-Noise และ ที่สำคัญมากคือควรเป็นแบบLow-Inductance(ค่า"L"ต่ำ)ด้วย

- ต่อตรงกับขาไอซีDSP
ถ้าจะทำแบบนี้ ควรตัดลายทองแดงของเดิมออกด้วย เพราะเป็นส่วนเกินที่ตัวมันกลายสภาพเป็นเสาอากาศรับคลื่นไฟฟ้ารอบๆตัวมัน

- กราวน์ชุดดิจิตอล
บนการ์ดจะมีกราวน์3แบบ กราวน์ไฟระบบ กราวน์อนาลอค กราวน์ดิจิตอล
เราจะเอาชุดดิจิตอลเอ้าท์พุทไปใช้งาน เราก็ต้องใช้กราวน์ของชุดดิจิตอลด้วย โดยพยายามเลือกกราวน์จุดที่มีระยะทางสั้นที่สุด




-- ยังงัยก็ยังยืนยันความเห็นเดิมน่ะครับ --
ก่อนจะทำไรกับการ์ดแบบไหนก็แล้วแต่ ลองทดสอบด้วยตัวเองก่อนแบบที่บอกไว้ข้างบน จะได้ไม่รู้สึกเสียดายเงินหรือเวลาภายหลัง
เพราะ บางคนก็บอกไม่มีไรต่างเลย บางคนก็บอกต่างน้อย บางคนก็บอกต่างมาก บางคนก็บอกนี่แหล่ะที่ตามหามานาน

[Diabloman]

ชอบเรือน 2 ครับ

แต่ส่วนตัว ผมชอบแบบบางๆ เบาๆ

ตอนนี้ใช้ Citizen eco-drive เก่าๆ อายุก็ราวๆ 16ปี แล้ว

สรุปซื้อไม่ได้ครับ INVICTA เพราะไม่มีขายในสวิส มีแต่ในอเมริกา มันขายที่ยุโรปที่เดียวคือที่เนเธอแลนด์ เลยต้องเปลี่ยนยี่ห้อ ......... (อาจจะไม่ซื้อแล้วก็ได้ เพราะยังไม่ถูกใจดีไซนด์ของยี่ห้ออื่นๆเลย)
ปล. Citizen ท่านทนมากๆเลยนะครับ 16 ปีแน่ะ (16ปี แห่งความหลังหรือป่าวครับท่าน? 5555) ผมยังไม่เคยใส่นาฬิกาเรือนไหนนานถึง 5 ปีขึ้นไปมาก่อนเลย เบื่อซะก่อนน่ะครับท่าน ;-)

[Diabloman]

ขอบคุณท่าน ManiacMeaw กัน ท่าน keang นะครับ

ตั้งแต่ท่านเข้ามา ก็ทำให้กระทู้ DS มีสาระขึ้นมากมายเลยครับ

ซึ่งผมเองก็ไม่สามารถทำได้ในส่วนนี้ ได้แต่คอย "ยุยงส่งเสริม" ให้ท่านทั้งสอง ให้ค้นคว้าหาความรู้ดีๆ มาแปะกระทู้ ต่อๆ ไปครับ ;-)

จริงมั๊ยครับท่าน osxp และท่าน conan12 555555555555555+

[osxp]

สรุปซื้อไม่ได้ครับ INVICTA เพราะไม่มีขายในสวิส มีแต่ในอเมริกา มันขายที่ยุโรปที่เดียวคือที่เนเธอแลนด์ เลยต้องเปลี่ยนยี่ห้อ ......... (อาจจะไม่ซื้อแล้วก็ได้ เพราะยังไม่ถูกใจดีไซนด์ของยี่ห้ออื่นๆเลย)
ปล. Citizen ท่านทนมากๆเลยนะครับ 16 ปีแน่ะ (16ปี แห่งความหลังหรือป่าวครับท่าน? 5555) ผมยังไม่เคยใส่นาฬิกาเรือนไหนนานถึง 5 ปีขึ้นไปมาก่อนเลย เบื่อซะก่อนน่ะครับท่าน ;-)

ที่ซื้อช่วงนั้นก็มี Seiko Kinetic อีกเรือนครับ รุ่นแรกๆ ที่มีปัญหาเก็บไฟไม่ค่อยอยู่ ถ้าจะใส่ก็ต้องเขย่าก่อน

นาฬิกาที่แพงสุดก็มี แค่ 2 เรือนนี้แหละครับ ที่เรือนละ 4-5 พัน นอกนั้นก็พันกว่าบาท แต่ก็มีไม่กี่เรือน ทุกวันนี้ก็ใส่แต่ Eco-Drive นี่แหละครับ


รุ่นนี้ทนเหลือเชื่อเลยครับ ขนาดเคยลืมทิ้งไว้หน้ารถ ตากแดดอยู่ครึ่งวัน จนหน้าปัดลาย ก็ยังไม่พังเลย แต่ตอนนี้ห้ามโดนน้ำ ไม่งั้นฝ้าขึ้น


ถ้ามันหยุดเดินเมื่อไหร่ คงจะได้ซื้อ Eco-Drive อีกซักเรือน ไม่รู้รุ่นใหม่ๆ จะทนเหมือนเดิมรึเปล่า



ป.ล. เดี๋ยวอาจจะลองโม R 75ohm แบบไม่ต้องยุ่งกับการ์ดดูก่อนครับ

[Diabloman]

ที่ซื้อช่วงนั้นก็มี Seiko Kinetic อีกเรือนครับ รุ่นแรกๆ ที่มีปัญหาเก็บไฟไม่ค่อยอยู่ ถ้าจะใส่ก็ต้องเขย่าก่อน

นาฬิกาที่แพงสุดก็มี แค่ 2 เรือนนี้แหละครับ ที่เรือนละ 4-5 พัน นอกนั้นก็พันกว่าบาท แต่ก็มีไม่กี่เรือน ทุกวันนี้ก็ใส่แต่ Eco-Drive นี่แหละครับ


รุ่นนี้ทนเหลือเชื่อเลยครับ ขนาดเคยลืมทิ้งไว้หน้ารถ ตากแดดอยู่ครึ่งวัน จนหน้าปัดลาย ก็ยังไม่พังเลย แต่ตอนนี้ห้ามโดนน้ำ ไม่งั้นฝ้าขึ้น


ถ้ามันหยุดเดินเมื่อไหร่ คงจะได้ซื้อ Eco-Drive อีกซักเรือน ไม่รู้รุ่นใหม่ๆ จะทนเหมือนเดิมรึเปล่า



ป.ล. เดี๋ยวอาจจะลองโม R 75ohm แบบไม่ต้องยุ่งกับการ์ดดูก่อนครับ

ก็ที่ผมจะเปลี่ยนก็มีนาฬิกาเรือนนึงของ alba เป็นโครกราฟน่ะครับ ใช้มาตั้งนานแล้ว(คุ้มแล้ว) แต่ช่วงหลังน้ำมันเข้า คือโดนน้ำไม่ได้เลย แม้จะล้างมือก็เหอะ พอน้ำมันเข้าไปในตัวเรือน กระจกเป็นฝ้าทีไร ก็มักจะเกเรหยุดเดิน (อาการเดียวกับท่านเลย)

เอาไปให้ช่างนาฬิกาดู ถามว่าทำไมมันหยุดเดิน?

ช่างก็ตอบว่า "ก็คุณติ๊กไปโฆษณา สีหยุดเวลามาไม่ใช่หรือครับ" ;-) 5555555 ล้อเล่นครับ ความจริง....

ช่างบอกว่า นาฬิกาเรือนนี้มันมีปุ่มฟังชั่นเยอะ (มันมีเม็ดมะยมไว้ปรับ+กด รวม 5 หมุด) เวลาที่มันเก่า ตรงลูกยางมันเสื่อมสภาพแล้ว น้ำมันเลยเข้า พอเข้าไปแล้วมันก็ไปช๊อตวงจร และไปล้างน้ำมันเครื่องลานกลไกของนาฬิกา ทำให้มันเกเร

ผมก็พยายามระวังสุดๆ แต่สุดท้ายก็โดนน้ำอีกจนได้ (ล้างมือลืมถอด) ก็เลยตั้งใจว่าจะซื้อนาฬิกาใหม่สักเรือนน่ะครับ เพราะจะเปลี่ยนลูกยางใหม่ก็แพงเหลือเกิน แถมไม่รู้ว่าจะมีอะไหล่ให้เปลี่ยนหรือป่าว?

alba.jpg
เรือนนี้แหละที่มีปัญหา alba (รุ่นสะสม)
DSC03944.jpg
ภาพนาฬิกาเก่าๆ ถ่ายไว้นานแล้ว ปัจจุบันเหลือใช้อยู่แค่ 2 เรือนนะครับและก็อายุมากแล้วทั้งคู่เลย (ใส่ทำงาน 1 เรือนกับใส่ลุยๆอีก 1 เรือน) เลยจะหาเรือนใหม่มาประจำการน่ะครับ

[osxp]

ของผมก็มีแค่นี้ครับ

ที่ยังใส่จริงๆ ก็มี 2เรือน Casio กับ Eco-drive แต่ Casio ถ่านหมด ยังไม่ได้เอาไปเปลี่ยนถ่านเลย อีก 2 เรือน Seiko กับ Swatch สายแข็งหมดแล้ว

Casio ใหม่สุด ประมาณ 6 ปี ส่วน Swatch น่าจะเกือบ 20ปี


Eco-drive ตอนที่เผลอตากแดด จะมีลายขึ้นนิดๆ ตรงช่องระหว่างแผ่น solar cell ต้องดูใกล้ๆ ถึงจะเห็น




Eco- drive รุ่น WR100 Titanium ไม่มีฝาหลัง

[Diabloman]

ของผมก็มีแค่นี้ครับ

ที่ยังใส่จริงๆ ก็มี 2เรือน Casio กับ Eco-drive แต่ Casio ถ่านหมด ยังไม่ได้เอาไปเปลี่ยนถ่านเลย อีก 2 เรือน Seiko กับ Swatch สายแข็งหมดแล้ว

Casio ใหม่สุด ประมาณ 6 ปี ส่วน Swatch น่าจะเกือบ 20ปี


Eco-drive ตอนที่เผลอตากแดด จะมีลายขึ้นนิดๆ ตรงช่องระหว่างแผ่น solar cell ต้องดูใกล้ๆ ถึงจะเห็น




Eco- drive รุ่น WR100 Titanium ไม่มีฝาหลัง

สุดยอดครับท่าน Eco- drive เรือนนี้งามจริงๆ แถมอึดเหลือเกินอีก ใช้มา 16 ปี แถมน้ำเข้าก็ไม่เกเร เรือนหน้าของท่านยังคิดว่าจะเป็น citizen Eco-drive อีกไหมครับ? ;-) (ความเที่่ยงตรงเป็นยังไงบ้าง?)

ของผมที่ขอชื่นชมก็ casio g-shock ช่วงน้ำท่วมมันจมน้ำอยู่ใต้น้ำมาได้ 1 เดือนกว่าๆ แต่น้ำไม่เข้าเลยสักนิดเดียว อันนี้จากประสบการณ์จริง
แต่ข้อเสียของมันคือความเที่ยงตรงครับ คือชอบเดินเร็ว ใช้ไป 3 อาทิตย์มันจะเร็วไป 1 นาที ซึ่งผมไม่ชอบเลย เรือนนี้ยังเหลืออยู่ครับ เอาไว้ใส่ลุยๆ ทุกสถานะการณ์ เว้นแต่ใส่ไปทำงานครับ เพราะมันเดินไม่ตรง
(ของ nike ที่เห็นก็เป็นอีกเรือนที่เป็น digital และก็เดินไม่ตรงเหมือนกัน ส่วน seiko ที่เป็น automatic อันนี้ก็ชอบเดินเร็ว ซึ่งผมถอดทิ้งไว้เลย)
ส่วนนาฬิกาที่บอกเวลาได้เที่ยงตรงจริงๆ ของผมก็มี alba + guess + P Guionnet แต่ตอนนี้เหลือแต่ P Guionnet เรือนเดียว ส่วน alba ซ่อมอยู่ แต่คงไม่หายหรอกครับ เพราะผมคงเผลอเอาไปโดนน้ำอีกแน่ๆ
สรุปตอนนี้ ยังคิดไม่ออกว่า อยากได้อะไร เพราะใจจริงอยากได้ Invicta รุ่น venom หรือรุ่น subaqau noma v ชอบดีไซนด์ของมันมากๆ แต่ที่สวิส และยุโรป ดันไม่มีขาย เลยฝากน้องซื้อไม่ได้
หากต้องเอายี่ห้ออื่นๆ ที่มีในสวิส ก็คงได้แหละ แต่มันไม่ใช่คำตอบที่ใช่...ของผมเลย หลังจากตกหลุมรักกับ Invicta รุ่นที่ว่านั้น...
นาฬิกาสวิสบางยี่ห้อก็แพ้งแพง ดีไซด์ก็เฉยๆจริงๆอ่ะ ได้ตรายี่ห้อมาแค่นั้น เสียดายเงินซื้อ เพราะมองได้ไม่เท่าไหร่ก็เบื่อมันแล้ว และนาฬิกาวันนึงผมก็ต้องมองมันวันละหลายๆรอบ
นาฬิกาสวิสที่มียี่ห้อมันจะต้องเป็นรุ่นโค่ดจะแพงถึงจะได้แบบสวยๆมีอะไรพิเศษๆจริงๆ ซึ่งเงินผมก็ไม่พอ และก็ไม่คิดว่าจะตั้งงบประมาณไว้ถึง 2ล้านล้าน เพื่อการนี้เลย 55555+

ปล.บางทีหากอเมริกาทำสงครามกับเกาหลีเหนือจริงๆ ผมอาจจะกลับไปซื้อนาฬิกายี่ห้อ Luminox ตามเดิม ไว้เป็นที่ระลึก เพราะนาฬิกายี่ห้อนี้ถูกใช้เป็นนาฬิกาที่ประจำการของกองทัพเรือของอเมริกา (NAVY SEAL)
เผื่อจะได้ feeling การขย่ำไอ้น้องผู้นำเกาหลีเหนือ จอมซ่า เวลาที่ผมมองดูเวลาจากนาฬิกา Luminox อิอิอิ ;-)

[osxp]

สุดยอดครับท่าน Eco- drive เรือนนี้งามจริงๆ แถมอึดเหลือเกินอีก ใช้มา 16 ปี แถมน้ำเข้าก็ไม่เกเร เรือนหน้าของท่านยังคิดว่าจะเป็น citizen Eco-drive อีกไหมครับ? ;-) (ความเที่่ยงตรงเป็นยังไงบ้าง?)

ของผมที่ขอชื่นชมก็ casio g-shock ช่วงน้ำท่วมมันจมน้ำอยู่ใต้น้ำมาได้ 1 เดือนกว่าๆ แต่น้ำไม่เข้าเลยสักนิดเดียว อันนี้จากประสบการณ์จริง
แต่ข้อเสียของมันคือความเที่ยงตรงครับ คือชอบเดินเร็ว ใช้ไป 3 อาทิตย์มันจะเร็วไป 1 นาที ซึ่งผมไม่ชอบเลย เรือนนี้ยังเหลืออยู่ครับ เอาไว้ใส่ลุยๆ ทุกสถานะการณ์ เว้นแต่ใส่ไปทำงานครับ เพราะมันเดินไม่ตรง
(ของ nike ที่เห็นก็เป็นอีกเรือนที่เป็น digital และก็เดินไม่ตรงเหมือนกัน ส่วน seiko ที่เป็น automatic อันนี้ก็ชอบเดินเร็ว ซึ่งผมถอดทิ้งไว้เลย)
ส่วนนาฬิกาที่บอกเวลาได้เที่ยงตรงจริงๆ ของผมก็มี alba + guess + P Guionnet แต่ตอนนี้เหลือแต่ P Guionnet เรือนเดียว ส่วน alba ซ่อมอยู่ แต่คงไม่หายหรอกครับ เพราะผมคงเผลอเอาไปโดนน้ำอีกแน่ๆ
สรุปตอนนี้ ยังคิดไม่ออกว่า อยากได้อะไร เพราะใจจริงอยากได้ Invicta รุ่น venom หรือรุ่น subaqau noma v ชอบดีไซนด์ของมันมากๆ แต่ที่สวิส และยุโรป ดันไม่มีขาย เลยฝากน้องซื้อไม่ได้
หากต้องเอายี่ห้ออื่นๆ ที่มีในสวิส ก็คงได้แหละ แต่มันไม่ใช่คำตอบที่ใช่...ของผมเลย หลังจากตกหลุมรักกับ Invicta รุ่นที่ว่านั้น...
นาฬิกาสวิสบางยี่ห้อก็แพ้งแพง ดีไซด์ก็เฉยๆจริงๆอ่ะ ได้ตรายี่ห้อมาแค่นั้น เสียดายเงินซื้อ เพราะมองได้ไม่เท่าไหร่ก็เบื่อมันแล้ว และนาฬิกาวันนึงผมก็ต้องมองมันวันละหลายๆรอบ
นาฬิกาสวิสที่มียี่ห้อมันจะต้องเป็นรุ่นโค่ดจะแพงถึงจะได้แบบสวยๆมีอะไรพิเศษๆจริงๆ ซึ่งเงินผมก็ไม่พอ และก็ไม่คิดว่าจะตั้งงบประมาณไว้ถึง 2ล้านล้าน เพื่อการนี้เลย 55555+

ปล.บางทีหากอเมริกาทำสงครามกับเกาหลีเหนือจริงๆ ผมอาจจะกลับไปซื้อนาฬิกายี่ห้อ Luminox ตามเดิม ไว้เป็นที่ระลึก เพราะนาฬิกายี่ห้อนี้ถูกใช้เป็นนาฬิกาที่ประจำการของกองทัพเรือของอเมริกา (NAVY SEAL)
เผื่อจะได้ feeling การขย่ำไอ้น้องผู้นำเกาหลีเหนือ จอมซ่า เวลาที่ผมมองดูเวลาจากนาฬิกา Luminox อิอิอิ ;-)

เดินตรงดีมากครับ

เรือนต่อไป ถ้ามีโอกาส ก็คง eco-drive รุ่นที่เป็น titanium อีกซักเรือน

ไปส่องๆ ดู รุ่นใหม่ๆ สวยๆ ราคาหมื่นขึ้นทั้งนั้น


ในความเป็นจริงถ้าเรือนนี้พัง ก็คงเอา Casio ไปใส่ถ่านใช้แทนก่อนล่ะครับ 555

[Diabloman]

เดินตรงดีมากครับ

เรือนต่อไป ถ้ามีโอกาส ก็คง eco-drive รุ่นที่เป็น titanium อีกซักเรือน

ไปส่องๆ ดู รุ่นใหม่ๆ สวยๆ ราคาหมื่นขึ้นทั้งนั้น


ในความเป็นจริงถ้าเรือนนี้พัง ก็คงเอา Casio ไปใส่ถ่านใช้แทนก่อนล่ะครับ 555

หึๆ ผมดู eco-drive มั่งดีกั่ว ;-)

[osxp]

หึๆ ผมดู eco-drive มั่งดีกั่ว ;-)

จากคลับ DS กำลังจะกลายเป็นคลับนาฬิกาอีกแล้ว 555


เดี๋ยวพรุ่งนี้ของที่สั่งไว้จะมาถึง คงได้ DIY กันอีกรอบครับ

รอบนี้ไม่มีไรมาก แค่สั่งหนังงูมาหุ้มสายไฟที่เคยทำค้างไว้แค่นั้นเอง

แล้วก็มีอุปกรณ์โมช่อง Coax บนการ์ดอีกนิดหน่อย ก็กำลังชั่งใจว่าจะโมถึงแค่ไหนดี นี่แหละครับ


ป.ล. ไปส่องดูภาค coax ของ Musiland Digital-Times เห็นมี R 2ตัว กับ C 1ตัว แล้วก็หม้อแปลงจิ๋ว เหมือนในรูปวงจร (a) เป๊ะๆ เลย

[Diabloman]

5555555555+

จากคลับ DS เป็นคลับเพลงแนะนำ MV ต่อมาเป็นคลับ AVR ต่อมาเป็นคลับเกมส์ ต่อมาเป็นคลับทดสอบสายไฟ ต่อเป็นคลับ DIY ต่อมาเป็นคลับนาฬิกา คุยกันได้ทุกเรื่องสิน่า ;-)

ปล.วันนี้ตอนกลับบ้านขับรถชน กว่าเรื่องจะจบ และกว่าจะกลับถึงบ้านเกือบเที่ยงคืน........ สงสัยเงินที่จะเอาไปซื้อนาฬิกาคงไม่ซื้อแล้ว เอาเงินมาทำสีรถก่อนดีฟ่า
สรุปงานนี้จ่ายค่าปรับทั้งคู่ ทั้งผมและคู่กรณีสาวสวย หมวย แว่น เดี๋ยวพรุ่งนี้จะมาแชร์ให้ทราบอย่างละเอียด โดยเฉพาะอย่างยิ่งเรื่องความทรามของพนักงานเคลมประกัน วันนี้ผมป่วยทานยาไปแล้วเริ่มมีอาการ Zzzz ง่วง

ภาพใบเสร็จ ระบุว่า "ขับขี่รถประมาทเป็นเหตุให้เฉี่ยวชนทรัพย์สินผู้อื่นได้รับความเสียหาย" ความจริงเป็นอย่างไร พรุ่งนี้ ผมจะมาให้การ เป็นเกร็ดความรู้เล็กๆน้อยในคลับ DS
IMG_0165.JPG

[osxp]

5555555555+

จากคลับ DS เป็นคลับเพลงแนะนำ MV ต่อมาเป็นคลับ AVR ต่อมาเป็นคลับเกมส์ ต่อมาเป็นคลับทดสอบสายไฟ ต่อเป็นคลับ DIY ต่อมาเป็นคลับนาฬิกา คุยกันได้ทุกเรื่องสิน่า ;-)

ปล.วันนี้ตอนกลับบ้านขับรถชน กว่าเรื่องจะจบ และกว่าจะกลับถึงบ้านเกือบเที่ยงคืน........ สงสัยเงินที่จะเอาไปซื้อนาฬิกาคงไม่ซื้อแล้ว เอาเงินมาทำสีรถก่อนดีฟ่า
สรุปงานนี้จ่ายค่าปรับทั้งคู่ ทั้งผมและคู่กรณีสาวสวย หมวย แว่น เดี๋ยวพรุ่งนี้จะมาแชร์ให้ทราบอย่างละเอียด โดยเฉพาะอย่างยิ่งเรื่องความทรามของพนักงานเคลมประกัน วันนี้ผมป่วยทานยาไปแล้วเริ่มมีอาการ Zzzz ง่วง

ภาพใบเสร็จ ระบุว่า "ขับขี่รถประมาทเป็นเหตุให้เฉี่ยวชนทรัพย์สินผู้อื่นได้รับความเสียหาย" ความจริงเป็นอย่างไร พรุ่งนี้ ผมจะมาให้การ เป็นเกร็ดความรู้เล็กๆน้อยในคลับ DS
[ATTACH=CONFIG]2228872[/ATTACH]

อูย เสียใจด้วยนะครับ


ตอนนี้ของมาถึงแล้ว จะเอาไปทำอะไรบ้าง จะทยอยโพสครับ





ป.ล. ตอนนี้เอาหนังงูมาหุ้มสายจอมอนิเตอร์ไป 1 เส้น กับเอาฟิวส์ไปเปลี่ยนใน UPS



อันนี้เส้นเดิมตอนยังไม่ได้หุ้มสาย พอหุ้มแล้วดูดีขึ้นเยอะ อิอิ

[Diabloman]

เมื่อวานที่ผมสัญญาที่ว่าจะมาเล่าเรื่องเหตุการณ์ให้ฟังนะครับ....

เรื่องมันยาว......จะขอเล่าเป็นตอนๆไป

เรื่องนี้จะขอตั้งชื่อเรื่องว่า "พนักงานเคลมประกันดีเด่นแห่งปี 2556"

ตอนที่ 1

เรื่องมีอยู่ว่า เมื่อวาน วันที่ 2 เม.ย. 56 ประมาณทุ่มกว่าๆ ช่วงหัวค่ำ

ผมขับรถกลับบ้านมาถึงช่วงติดไฟแดง เป็นถนน 5 เล็น ก่อนจะถึงวงเวียน

รถผมจอดอยู่คันแรกๆ อยู่เกือบๆ หัวแถว เลนเกือบนอกสุด ข้างหน้าสุดก็เป็นพวกมอเตอร์ไซด์

พอไฟเขียวปั๊บ ผมก็ขับรถเก๋งออกตัวต่อจากรถคันหน้า เป็นกลุ่มแรกๆ แล้วเข้าโค้งวงเวียน

ด้านซ๊ายวงนอกสุดมีรถเก๋งฮอนด้าแอคคอร์ดซึ่งออกตัวได้ไวพอๆ ขับกระนาบกันมา

ด้านขวารถเว้นช่วงไม่มีรถข้างๆ รถผม เหลือบมองกระจกข้างขวาแว๊บๆ เห็นไฟลอยสูงๆ ของรถกระบะในกระจก

พอถึงช่วงสุดโค้งกำลังจะออกจากวงเวียน เข้าสู่ทางตรง ผมขับรถตามตูดคันข้างหน้ามา ได้ยินเสียงป๊อก..ครืดดดดด ที่ด้านประตูซ๊ายมือฝั่งที่ผมขับ
เหลือบไปมอง เห็นกระบะปาดเข้ามาจากด้านซ๊ายในวงเวียนเข้ามาในเลนผมซึ่งอยู่ด้านขวานอกวงเวียน ผมเหยียบเบรคหยุดรถ และบีบแตร กระบะที่ปาดเข้ามาในเลนตอนนี้อยู่หน้ารถผมแล้ว
ผมดึงเบรกมือ กดปุ่มเปิดไฟผ่าหมาก และดับเครื่อง กำลังเปิดประตูจะลงจากรถ เพื่อจะคุยกับเจ้าของรถกระบะ และรอให้ตำรวจดำเนินการตามหน้าที่ ปรากฏว่า กระบะกลับออกรถไป !!!

พ่อผมพูดมาว่า "มันหนีแล้ว ตามไปเร็ว เด๊วมันก็หายไปหรอก แม่ๆเอาปากกามาจดทะเบียนไว้ เร็วๆ"
ผมก็สต๊าทรถโดยเร็ว แต่รถผมใช้แก๊ส ต้องรอสักพักเพื่อ ตัดน้ำมันเป็นแก๊สก่อน ถึงใช้ได้ ไม่อย่างนั้นรถจะดับกลางคัน
ระหว่างรอผมก็เปิดกระจก เอามือดันกระจกมองข้างที่ถูกชนจนพับเข้ามา เห็นรอยสีถลอก ส่วนกระบะคันคู่กรณีก็หนี***งออกไปริบๆ

พอรถตัดระบบเป็นแก๊สแล้ว ผมก็เหยียบคันเร่งตามไปจนทันก้น ก็บีบแตร และแซงไปประกบขวา
แม่ผมอยู่เบาะหลังด้านขวาเปิดกระจกเรียกให้เขาจอด เขาบอกว่าเดี๋ยวจะจอด แต่เขาก็ไม่จอด
ผมต้องขับไปประกบอีกรอบ แม่ผมถามเขาว่าชนแล้วหนีเหรอ? จอดข้างหน้านี่ แต่เขาก็ไม่จอดอีก
จน***งจุดที่ชนไปไกลเกือบกิโล จนรถเขาติดไฟแดง ผมเลยจอดต่อท้ายรถเขา พ่อกับแม่ผมจึงเปิดประตูรถลงเดินไปที่รถเขา บอกให้เขาจอดที่ข้างหน้านี่เลย คราวนี้ถึงจอดได้ซะที

ผมได้ลงจากรถไปสำรวจดูรอยชน ที่รถผม ผมเห็นรอยเป็นวงใหญ่ที่ประตูรถฝั่งที่ผมขับ กระจกมองข้างถลอก และสันประตูถลอกเป็นแนวยาว
ส่วนรถกระบะคู่กรณี ผมเห็นรอยถลอกที่ซุ้มล้อหน้าด้านซ๊าย และมีรอยถลอกที่กันชนหน้าด้านซ๊าย

จากนั้นผมก็เดินไปสมทบกับพ่อแม่ที่กำลังคุยกับทางฝั่งคู่กรณีอยู่ สรุปความว่าทางนั้นบอกว่า เขามีประกัน เขาโทรแจ้งประกันไปแล้ว รอประกันมาเคลมค่าซ่อมให้ บริษัทที่เขาทำประกันอยู่ใกล้ๆนี่เอง

ต่อจากนั้น ผมก็เดินไปหาคู่กรณี ซึ่งเป็นเจ้าของรถกระบะวีโก้

คู่กรณีของผม เป็นสาวน่ารัก ผิวขาว ใส่แว่นกรอบเหลี่ยมสีแดง ..........


"เดี๋ยวต่อตอน 2 พรุ่งนี้ครับ ตาลายแล้วพิมพ์ยาวเกินยังไม่จบเลย Zzzzzz" ;-)

[osxp]

โปรดติดตามตอนต่อไป....

รออ่านอยู่ครับ อิอิ

[Diabloman]

ได้เลยครับท่าน ;-)

ให้ดูรูป
นี่รูปรอยที่ถูกชน เขาปาดเข้ามาที่กลางลำตรงประตูขวาฝั่งที่ผมขับอยู่ เรียกว่าผมนั่ง***งจากล้อรถกระบะที่ปาดเข้ามา ในระยะไม่ถึง 1 ฟุต ผมเหลือบไปมองเห็นจะๆ
IMG_0168.jpg
ภาพนี้ถ่ายเมื่อเช้านี้ เห็นเป็นรูปซุ้มล้อรถกระบะ เป็นวงกลม วงใหญ่เลย

เด๊วมาเล่าต่อพรุ่งนี้.....ครับ