Announcement

Collapse
No announcement yet.

ขอทำความเข้าใจใหม่เกี่ยวกับ Integrated Amplifier VS T-amp

Collapse
X
 
  • Filter
  • Time
  • Show
Clear All
new posts

  • ขอทำความเข้าใจใหม่เกี่ยวกับ Integrated Amplifier VS T-amp

    ตามที่มีเพื่อนบอกว่าให้พิจารณา Integrated Amplifier มาเปลี่ยนกับ Pop-pulse T-Amp 2070 ทำให้ผมซึ่งไม่เคยรู้เรื่องเกี่ยวกับ int amp ผมเคยถามคนอื่นว่ามันมี dac ในตัวหรือถึงได้ทำให้มีเสียง แน่นบ้าง แหลมบ้าง แต่เขาก็บอกว่าไม่มี ตกลง amp มันมีผลต่อความไพเราะของเสียงเพลงหรือครับ ผมคิดว่า amp มันทำหน้าที่ขยายสัญญานให้ดังเท่านั้น ส่วนเรื่องคลาสของแอมป์ผมก็อ่านมาบ้าง
    ตอนที่ผมไปชื้อ T-amp 2070 เฮียกิติคนขายบอกว่ามันเป็นแอมป์รุ่นใหม่ใช้ระบบจับสัญญานไฟฟ้าแล้วแปลงออกมาเป็นเสียงเพลง ซึ่งเพลงมาอย่างไรมันก็แสดงอย่างนั้น โดยที่เราไม่ต้องไปปรับแต่งพวก bass treble เลย ผมก็เลยหาชื้อมาใช้จนได้ ผมเคยฟังเสียงของ amp โดยไม่มี dac เสียงไม่ดีเลยครับแห้งๆแหลมๆ

    Poppulse T-2070
    Class -T Amplifier 70W/Channel

    ตอกย้ำความยิ่งใหญ่อีกครั้งของ Poppulse T-2070 แอมป์เล็กระดับพระกาฬ

    แน่นอนว่าคุณต้องไม่เชื่อว่าแอมป์เล็กๆขนาดวางในฝ่ามือในภาพ ด้านบนมีกำลัง 70 วัตต์ ครับ....70 วัตต์ ไม่ใช่เรื่องโกหกพกลม ก่อนหน้านี้ Poppulse ได้สร้างชื่อเสียงและความประหลาดใจมาแล้วกับรุ่น T-2024 ซึ่งเป็น T-Amp ขนาดเท่าๆกันกับ T-2070 ซึ่งทุกคนที่ได้สัมผัสต่างมีความเห็นตรงกันว่า มีคุณภาพเสียงระ ดับเยี่ยมยอดไม่แพ้แอมป์ไฮเอ็นด์ระดับแพงลิบลิ่วนั่นทีเดียว เสียอยู่อย่างเดียว....ครับ ยังมีข้อเสียเหมือนกัน คือมีกำลังน้อยไปหน่อยแค่ 10 วัตต์/ข้าง ทำให้เวลาเจอลำโพงขับยากๆหรือเวลาเปิดดังหน่อยก็ออกอาการ ป้อแป้ให้เห็นเช่นกัน หลังจากที่ Poppulse ซุ่มเงียบอยู่ 3 ปี คราวนี้กลับมาใหม่พร้อมกับแอมป์ขีปนาวุธ เพราะแม้ตัวเล็กจิ๋ว แต่กำลังปาเข้าไป 70 วัตต์/ข้าง ไม่น่าเชื่อ..... แต่หลังจากลองทดสอบแล้วก็ต้องเชื่อครับ ว่านี่เป็นของจริง Poppulse T-2070 ไม่ได้ทิ้งสูตรแห่งความสำเร็จจากแอมป์ตัวเดิมเลยแม้แต่น้อย เพราะ T-2070 ให้น้ำเสียงในแบบไฮเอ็นด์เดิมๆที่ประสบความสำเร็จมาแล้วใน T-2024 แต่คราวนี้มีพลังมหาศาลทำให้ ขับลำโพงขนาดใหญ่ เช่น Discovery SC2.5 ได้อย่างสบายในพลังเสียงที่ดังคับห้อง แถมเสียงเบสยังกระ แทกยอดอกออกมาเป็นลูกๆแบบไร้ข้อกังขา เสียงของ T-2070 จึ่งเปี่ยมไปด้วยพลังและไดนามิก พร้อมกันนั้น ยังแถมพกด้วยความเนียนละเอียดอิ่มเอมชุ่มฉ่ำเหมือนฟังแอมป์หลอดชั้นดียังไง ยังงั้น....

    Poppulse T-2070 เป็น Integrated Amp สามารถต่อกับเครื่องเล่นซีดีหรือ DAC ได้ทันที รับช่องสัญญาณ อินพุทแบบ RCA ได้ 1 ช่อง ขั้วต่อลำโพงแบบ Binding Post มาตราฐานใช้กับสายลำโพงได้ทุกชนิดและ ใช้ไฟเลี้ยง 24V DC จากอแดปเตอร์ที่แถมมาในชุด.....
    ราคา 5900 บาท



    ส่วน integrated amp ตามที่ผมยกตัวอย่างมาเช่น

    IA-60 Integrated Amplifier

    IA-60

    อินทีเกรตแอมป์ขนาด 30x30 วัตต์ มีข่องต่อสัญญาณอินพุต 5 ช่อง พร้อมภาคปรับเสียงทุ้ม ภาคปรีแอมป์และเพาเวอร์แอมป์ออกแบบแยกจากกันโดยมี " ปรี-เอาต์ " เพื่อให้การปรับเปลี่ยนหรือยกระดับเล่นในวันข้างหน้าทำได้อย่างสะดวก ภาคแอมป์ของ IA-60 ได้รับการพัฒนาให้สามารถจ่ายกำลังขับได้มากถึง 30 วัตต์ต่อข้าง โดยตอบสนองช่วงความถี่เสียงด้วยระดับความเพี้ยนรวมทาง THD น้อยกว่า 0.02 เปอร์เซนต์
    ราคา 7580 บาท

    ท่านใดเคยฟังทั้งสองตัวบ้างครับว่า เสียงใครดีกว่ากัน และการใช้งานฯลฯ ขอคำแนะนำด้วยครับ

  • #2
    อ่านกระทู้เก่าแล้วยังไม่เข้าใจอีกหรอครับ

    กลับไปอ่านกระทู้เก่าดีๆครับ คำตอบอยู่ในนั้นหมด
    http://www.overclockzone.com/forums/...D-M2TECH/page2
    http://www.overclockzone.com/forums/...D-M2TECH/page3

    Comment


    • #3
      ถ้าเป็นผม ผมจะเปลี่ยน dac ครับ น่าจะเห็นความแตกต่างชัดเจนกว่า

      Comment


      • #4
        เอ้า ผมยังไม่เหนื่อย อธิบายอีกก็ได้
        Int Amp กับ T amp มันอันเดียวกันนนน
        T เป็นคลาส
        amp มีหลายคลาส ความแตกต่าง
        1. Class A พาวเวอร์แอมป์ชนิดนี้เน้นในเรื่องของคุณภาพเสียง ค่าความเพี้ยนตํ่า และเสียงรบกวนน้อย แต่มีข้อเสียในเรื่องของความร้อนที่ค่อนข้างจะสูงเพร าะมีการป้อนกระแสไฟให้ทรานซิสเตอร์อยู่ตลอดเวลา ถึงแม้จะไม่มีสัญญาณอินพุทเข้ามาก็ตาม และกำลังขับที่ได้นั้นก็ค่อนข้างจะน้อย แอมป์ประเภทนี้จึงเหมาะกับนักฟังที่เน้นรายละเอียดขอ งเสียงกลาง-แหลม ไม่เน้นอัดตูมตาม เป็นที่เอาเล่นแบบที่ว่าจะฟังเสียงใสๆๆๆนะครับ วัตต์จะไม่ค่อยแรงเท่าไร ราคา เอาเรื่องเหมือนกัน

        2. Class B เป็นการใช้ทรานซิสเตอร์ 2ตัว ทำงานแบบ Push-Pull หรือ ผลัก ดัน ช่วยกันทำงานคนละครึ่งทาง และจะไม่มีการป้อนกระแสไฟล่วงหน้า ซึ่งมีข้อดีคือเครื่องไม่ร้อน แต่ข้อเสียกลับมากกว่าเพราะความผิดเพี้ยนสูงมาก เสียงจึงไม่มีคุณภาพ แต่ในปัจจุบันแอมป์ คลาสนี้คงจะไม่มีแล้ว

        3. Class AB เป็นการรวมตัวกันของแอมป์ทั้ง 2คลาสที่กล่าวมา คือใช้ทรานซิสเตอร์ 2ตัว แต่จะมีการป้อนกระแสไฟปริมาณตํ่าๆเอาไว้ล่วงหน้าอยู่ ตลอดแต่จะไม่มากเท่าคลาส A และการจัดวงจรก็ใช้แบบ Push-Pull เหมือนคลาส B จึงทำให้พาวเวอร์แอมป์ประเภทนี้มีคุณภาพเสียงที่ค่อน ข้างดี ถึงแม้จะไม่เท่าคลาส A แต่ได้เปรียบในเรื่องของกำลังขับที่มากกว่า และเกิดความร้อนน้อยกว่า และคลาส AB นี้แหละเป็นแอมป์ที่นิยมมากที่สุดในปัจจุบัน และสามารถนำไปขับได้ทั้งลำโพงกลาง-แหลม หรือแม้แต่ซับวูเฟอร์ก็ได้

        4. Class D เป็นพาวเวอร์แอมป์กำลังขับสูง เน้นหนักในเรื่องพละกำลังเพียงอย่างเดียว แอมป์ชนิดนี้ถูกออกแบบมาสำหรับขับซับโดยเฉพาะ เหมาะกับพวกที่ชอบฟังเพลงหนักๆ เน้นพลังเบส กระแทกแรงๆ แบบนี้เป็นแอมป์ที่เรา นิยมมาขับซัพ กันเพราะมีวัตต์สูง แต่ก้อมีความเพี้ยนมากพอดู

        5. CLASS H คือการนำเอาข้อดีในด้านประสิทธิภาพของแอมป์คลาสดี แต่ให้คุณภาพได้ดีเหมือนแอมป์คลาสเอบี แอมป์คลาสเอซนี้มีรูปแบบวงจรที่สลับซับซ้อนพอสมควรเร ียกได้ว่าเป็น แอมป์ที่ให้วัตต์สูงในแบบคลาสดี แต่ให้เสียงเหมือนคลาสเอบีและมีราคาแพง
        CLASS H จะแสดงความสามารถได้เด่นชัด เมื่อเล่นกับโหลดต่ำๆ เช่น 2 โอห์ม หรือ 1 โอห์ม ปัจจุบันถือเป็นความก้าวหน้าที่สุดของแอมป์ประเภทกำลังขับสูง และแบบนี้ยังไม่เป็นที่นิยมเท่าไรในตอนนี้ เพราะการจัดวงจรที่ยุ่งยากซับซ้อน

        6.CLASS T คือคือการนำเอาข้อดีในด้านประสิทธิภาพของแอมป์คลาสดี กับ คลาส เอบี มารวมกันเพือให้ได้เสียงดี และมีวัตต์ที่สูงขึ้น การจัดวงจรจะใกล้เคียงกับ คลาส h มาก แต่จะมีการกินกระแสมากว่าครับ
        7.CLASS G ถูกออกแบบและนำเสนอเป็นครั้งแรกในปี 1976 โดยบริษัท HIACHI แห่งญี่ปุ่น และในปี 1977 ก็ถูกนำมาใช้กับเครื่องเสียงของฮิตาชิรุ่น Dynaharmony HMA 8300 และรุ่นอื่นๆอีกหลายรุ่น แต่ในยุคแรกๆยังมีปัญหาเรื่องความเพี้ยนสูงมาก ทำให้ไม่ค่อยได้รับความนิยม และมีการใช้งานในวงจำกัด ช่วงเวลาเพียง 2-3 ปีหลังจากนั้นก็ค่อยๆเงียบหายไปจากวงการ และไม่เป็นที่รู้จักของนักเล่นเครื่องเสียงรุ่นใหม่ๆ แต่ปัจจุบันด้วยเทคนิคการออกแบบวงจรและการพัฒนามากขึ้นของอุปกรณ์อิเลคโทรนิคสมัยใหม่ทำให้สามารถออกแบบวงจรให้มีค่าความเพี้ยนต่ำมากๆได้และยังมีประสิทธิภาพเหนือคลาส B ซึ่งเคยได้ชื่อว่าเป็นวงจรที่มีประสิทธิภาพสูงสุด ดังนั้นในปัจจุบันอาจกล่าวได้ว่า "วงจรคลาสจี เป็นจงจรขยายอนาล็อกที่ดีที่สุด" แบบหนึ่งทั้งเรื่องคุณภาพและประสิทธิภาพ ในวงการต่างกล่าวเอาใว้ว่า วงจรขยายคลาสจีคือวงจรขยายใกล้เคียงกับวงจรขยายในอุดมคติมากที่สุด

        ท่านก็ยังไม่เข้าใจอีกว่า DAC ไม่ใชอุปกรณ์เสริม ใส่ให้เสียงดี แต่มันจำเป็นต้องมี ไม่มีก็ไม่มีเสียง แอมป์มันต้องมี dac หรือยังไงถึงจะทุ้ม จะแหลม ผมละงงกับท่าน
        แอมป์ขยายเสียงอ่ะถูก แต่ขยายไม่เหมือนกัน สมมุติวงจรของแอมป์ poh1998 ขยายเสียงสูงดี สปีดเสียงดี แอมป์วงจร toruwa (นึกชื่อคนอื่นไม่ออก ขอยืมหน่อยนะครับ 555)
        ขยายเสียงทุ้มได้ดี เสียงช้า แอมป์วงจร manic meaw noise บานเลย
        อีกอย่างแอมป์ watt สูงอย่าคิดว่าเสียงต้องดี วัตตสูงอ่ะสิ เสียงไม่ดี

        เสียง บอกแล้วครับ ว่ามัน mix กันทุกอย่าง
        เสียงของไฟล์+เสียงของสาย+เสียงของ dac+เสียงของแอมป์+เสียงของลำโพง+เสียงของรางปลั้ก+เสียงของสายไฟ+เสียงของหัวปลั้ก+เสียงของท้ายปลั้ก+เสียงของน๊อต+เสียงของหม้อแปลง+เสียงของswitch+เสียงของ volume+เสียงของ r+เสียงของ c +เสียงของ L+อีกมากมาย


        เข้าใจยางครับ
        ไม่เข้าใจตรงไหนอีกถามได้ผมยังไม่เหนื่อย 5555
        ปล.อย่าฟังคนขายโม้เยอะครับ
        ปล2.ผมเคยอ่านเห็นคนบอกว่า t-amp เป็น pwer amp กึ่ง pre นิดๆ

        กลับไปอ่านกระทู้เก่าดีๆครับ คำตอบอยู่ในนั้นหมด
        http://www.overclockzone.com/forums/...D-M2TECH/page2
        http://www.overclockzone.com/forums/...D-M2TECH/page3
        Last edited by poh1998; 10 Aug 2011, 15:18:45.

        Comment


        • #5
          int-amp ส่วนใหญ่ จะปรับ balance,treble,bass ได้ คือมี pre+pow ไอ้ที่ปรับ balance,treble,bass,volume ได้นี่หละมันมี **Pre**

          T-amp ที่ปรับอะไรไม่ได้ส่วนใหญ่จะอยู่ในพวก power-amp (มั้ง)ไม่รู้มันมี pre หรือปล่าว(ไม่น่าจะมี)มันเลยปรับไรไม่ได้ลดvolumeจากต้นทางเอา จะว่าint-amp กับ T-amp ลักษณะมันต่างกันมากไหม(เดา)ส่วนตัวผมคิดว่ามันต่างกันตรงที่ปรับ treble.bass,volume ได้กับไม่ได้ ส่วนเรื่องเสียงขึ้นอยู่กับวงจร คลาส วัสดุ บลาๆ ถ้าต่อฟังแบบ

          ไม่มี dac หรือ เครื่องcd .... ก็นะ
          แต่ถ้าต่อผ่าน dac มาก่อนก็อาจจะดีทั้งคู่
          ปัจจุบัน(ผมก็ยังสงสัยเหมือนกันสมมุติเราต่อ mini จาก notebook ไปเข้า mini หลังลำโพงคอมที่ไม่มี dacในตัวแล้ว dac มันอยู่ส่วนไหน หุหุ ในส่วนของชิบเมนบอร์ดของ notebook หรือปล่าว)

          com>>>dacหรือเครื่องเล่น CD>>>T-ampหรือInt-amp>>>ลำโพง อันนี้int-amp สามารถหมุน treble,bass,balance ได้เอ่ออันนี้เสียงน่าจะดีมั้ง พิจารณาเอาครับ
          Last edited by lplline; 11 Aug 2011, 20:16:58.

          Comment


          • #6
            Originally posted by cleaning View Post
            ผมเคยฟังเสียงของ amp โดยไม่มี dac เสียงไม่ดีเลยครับแห้งๆแหลมๆ
            ที่เคยฟังโดยไม่ผ่าน dac นี่ ที่ร้านเค้าให้ลองฟังโดยต่อผ่านอะไรครับ

            Comment


            • #7
              Originally posted by cleaning View Post
              ผมเคยฟังเสียงของ amp โดยไม่มี dac เสียงไม่ดีเลยครับแห้งๆแหลมๆ
              ไม่มี dac เสียงไม่ออกแน่นอนครับ ร้านเค้าคงสื่อถึงท่านไม่ดี

              Comment


              • #8
                Originally posted by xodiax View Post
                ที่เคยฟังโดยไม่ผ่าน dac นี่ ที่ร้านเค้าให้ลองฟังโดยต่อผ่านอะไรครับ
                +1 อยากรู้มากมาย เขาต่อผ่านอะไรมามั่งก่อนถึง amp

                Comment


                • #9
                  สงสัยถ้าอธิบายยาวๆคงหลง
                  dac มีอยู่ใน player ทุกนิด ยกเว้น transpoter
                  ใน cd player ก็มี dac
                  ใน avr ก็มี dac
                  ใน ipod ก็มี dac
                  ใน sound card ก็มี dac
                  (ในที่นี้ dac ที่อยู่ในเครื่องที่กล่างมาผมขอหมาถึง วงจร d2a ชื่อเต็มว่า digital to analog นะครับ)
                  แต่ทำไมทุกวันนี้มันต้องมีออกมาอยู่ข้างนอก เพราะวันดีคืนดีก็มีนัก DIY บอกว่าภาค d2a อยู่ในกล่องรวมกับอย่างอื่นเนี่ย
                  มันไม่เทพพอ มันมีปัจจัยอื่นๆที่ทำให้เสียงไม่ค่อยดี เลยจับแยกออกมายัดอยู่ในกล่องใบใหม่ซะ
                  แล้วมันก็เริ่มเป็นที่นิยมขึ้นเรื่อยๆ ทุกวันนี้จึงมี dac ให้เลือกใช้กันตั้งแต่ราคาหลักร้อนยันหลักแสน

                  ส่วนพวก usb to coax converter มันก็มีอยู่ว่า
                  วันดีคืนดีก็มีคนคิดในแบบเดียวกัน ว่าวงจรที่ไว้จัดการภาค digital ใน dac มันไม่เทพพอ
                  ก็เลยทำแยกออกมาใส่กล่องอีกใบหนึ่งซะ มันจะได้เทพๆ และกินเงินเราได้เยอะๆ

                  สรุปถ้ามันอยู่ในกล่องแยกๆเราเรียก dac
                  ถ้ามันอยู่ในเครื่องเล่นต่างๆเราเรียกวงจร d2a
                  ถ้าไม่มีมัน ก็เรียกว่าขาดวงจรหลักไป1อัน
                  เหมือนกับขาดวงจรภาคจ่ายไฟนั้นแหละ มันก็ทำงานไม่ได้

                  Comment


                  • #10
                    "เรื่องเสียงมันเป็นรสนิยมส่วนตัวครับ" ถ้าแง่มุมมองของคุณยังเป็นแบบเดิมๆถามคำถามเดิมๆ แบบไม่เอาความรู้เอาแต่แง่มุมมอง
                    แน่นอนว่าคนเป็นพันล้านคนย่อมมีความเห็นแตกต่างกันไป กระทู้แบบนี้ผมเห็นมาเยอะละ อยากให้ใจเย็นๆ ไม่มีใครฟังธง
                    ได้ทุกเรื่องหรอก คุณจะมาบังคับให้ทุกๆคนนที่นี้เค้าคิดเหมือนกันได้ยังไง มุมมองก็คือมุมมอง ถ้าคุณไม่มีวิจารณญาณในการวิเคราะข้อมูลเบื้องต้น ก็ไม่ควรถามคำถามที่สื่อให้คนตอบแบบ "ความเห็นส่วนตัว" เพราะคำตอบมันจะไม่เหมือนกัน ในแต่ละบุคคลแล้วคุณก็จะคอยจะสื่อให้คนที่มีความเห็นแตกต่างกัน เอาเหตุผลส่วนตัวมาขัดแย้งกันเอง เพื่อให้ได้คำตอบที่ดีที่สุดสำหรับตัวคุณเอง อยากจะบอกว่ามันไม่มีหรอกครับ คุณพอใจจะซื้อจะฟังอะไรมันก็ต้องเป็นเหตุผลของตัวคุณเอง ไม่ได้เป็นเหตุผลของคนอื่น ข้อแนะนำอีกอย่างก็คือควรจะบอกไปเลยว่าอยากได้คำตอบในเชิง"เทคนิค" หรือเอาแบบ "ความเห็นส่วนตัว" แล้วถ้าเป็นความเห็นส่วนตัวคุณต้องไม่ควรเอาข้อมูลทางเทคนิค
                    หรือความเห็นของคนอื่นหรือแม้กระทั่ง ความรู้สึกของคุณเองมาแย้ง เพราะคนตอบเค้าก็ตอบไปตามที่เค้ารู้สึก ที่แห่งนี้ผ่านอะไรมาเยอะ เจอคนมาหลายประเภทสมาชิกทุกๆคนจะมีความเห็นส่วนตัวที่แตกต่างกันออกไป มีการแสดงความเห็นส่วนตัวตลอดเวลา แต่ไม่เคยมีใครเอาความเห็นส่วนตัวมาโต้เถียงกันหรอกขออภัยล่วงหน้าหากข้อความนี้สื่อไปนทางไม่ดี แต่นี่คือคำแนะนำที่ผมจะมอบให้ เพื่อคุณจะได้มีคนคอยเแนะนำเรื่องเสียงเพิ่มมาอีกหนึ่งคน แต่ถ้าไม่เห็นอะไรในข้อความของผมก็ผ่านๆไปเลยครับ ^^
                    Last edited by fenderfree; 10 Aug 2011, 15:36:20.

                    Comment


                    • #11
                      dac เห็นผลจริง แต่ถ้า dac ในเครื่องเทพๆ แล้ว dac ภายนอก ก็สู้ยาก

                      Comment


                      • #12
                        เรื่องนี้สงสัยจะยาว

                        เวลาท่าน จขกท. ซื้อของ ถามคนขาย....คนขายที่ไหนบอกว่าของตัวเองห่วย......?

                        ท่านไปเล่นเวบไหนก็ตาม คนขายของเขาก็เล่นได้เช่นกัน

                        พวกผมออกมาขัดคนขาย สาวก หรือลูกค้าที่รักของที่ซื้อยังกะผลิดเอง บางครั้งก็โดนเหมือนกัน

                        พ่อค้าเนี้ย งดเชื่อชั่วคราว บางคนพูดเก่งและมีอิทธิพลในการตัดสินใจซื้อมาก

                        เล่นเวบไหนมีแต่คนยุให้เปลี่ยนของทั้งนั้น ไม่แปลก ชุดของท่าน t-amp......ไม่รู้ดีรึเปล่า ไม่เคยฟัง แต่ผมไม่ชอบ ลำโพงน่ะมาตรฐานแล้วในราคาเท่านี้ ส่วน dac 707 ผมไม่เคยฟังตัวธรรมดา แต่ตัว upgrade ก็ฟังผ่านๆได้แต่อย่าจริงจัง

                        ในนี้มีคนอธิบายที่ดีหลายคน ทำหัวกลวงๆเข้าไว้ รับให้หมด

                        ส่วนโฆษณที่ จขกท.ลง t-amp 2024 เปิดดังไม่ได้ทำให้เวลาเจอลำโพงขับยากๆหรือเวลาเปิดดังหน่อยก็ออกอาการป้อแป้ให้เห็น ------>แต่ประสบความสำเร็จ------->เลยทำ2070 ให้เปิดดังได้---->เห็นอะไรจากโฆษณาของท่านไหม ขายของก็งี้แหละท่าน ของเก่าที่สำเร็จ มันจะมีตำหนิทันทีที่รุ่นใหม่ออกมา ก่อนหน้านั้นประสบความสำเร็จตลอด

                        Comment


                        • #13
                          ผมรบกวนวิจารณ์ให้ทีครับ ตอนนี้ผมใช้ตัวนี้อยู่

                          2gufl95.jpg
                          http://www.discoveryhifi.com/poppulse_t1.html

                          ต้องการเปลี่ยน Nad 316bee คุณภาพจะต่างจากเดิมไหมครับ ใช้ Dac superpro 707 อัพเกรด+โมแล้ว

                          nad316bee.jpg
                          http://www.conice.co.th/index.php?la...155656&Ntype=4

                          ขอบคุณทุกคำตอบครับ

                          แอบมาเนียน กับเจ้าของกระทู้ แฮะๆ

                          Comment


                          • #14
                            ^
                            ^
                            ผมเคยเล็งไว้ทั้งสองตัวเลย สุดท้าย แอมป์ตัวแรกที่เล่นในชีิวิตเป็นแอมป์หลอดสุดสวย เสียงอิ่ม

                            Comment


                            • #15
                              ^
                              ^
                              ^
                              สองตัวนี้ เสียงคนละแนวเลย
                              ชิบ T-amp2022 ได้แต่กำลังขับ เสียงงั้นๆ มีแต่แรง
                              ส่วนnadรุ่นเล็ก(เคยฟังแต่ 315) ตัวนี้เสียงน่าจะดีกว่าหน่อยมั้ง รุ่นหลังๆไม่ค่อยได้ฟังแล้ว

                              ถ้าเน้นเรื่องคุณภาพเสียงยังไง สองตัวข้างบนนี้ สู้ตัว T-amp ที่ใช้ชิบ 2024 ไม่ได้ครับ

                              Comment

                              Working...
                              X